เอพี – หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติวานนี้ (27 ม.ค.) ระบุว่าจำเป็นต้องระงับโครงการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ที่ตกเป็นเหยื่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลออกไปก่อน เนื่องจากนานาประเทศที่ให้คำมั่นจะบริจาคเงินช่วยเหลือยังไม่ได้ส่งเงินไปให้ โรเบิร์ต เทอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์และตะวันออกใกล้แห่งสหประชาชาติ (UNRWA) กล่าวว่า เงินบริจาค 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.76 แสนล้านบาท) ที่ประชาคมนานาชาติสัญญาจะมอบให้เพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากสงครามยังมาไม่ถึงฉนวนกาซาแม้แต่เหรียญเดียว โดยเขาระบุว่า “เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ และยอมรับไม่ได้” UNRWA ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและลูกหลานจากสงครามตะวันออกกลาง ที่ปะทุขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ โดยผู้ประสบภัยสงครามกลุ่มนี้คือประชากรส่วนใหญ่ในฉนวนกาซา ดินแดนที่มีผู้อาศัยอยู่ทั้งหมด 1.8 ล้านคน หน่วยงานนี้ระบุว่า ต้องการเงิน 720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) ไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา 96,000 ครอบครัว ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย หรือถูกทำลายจากสงครามทางอากาศในช่วงปลายปี 2014 UNRWA ได้จ่ายเงินซ่อมแซมบ้าน และสงเคราะห์ค่าเช่าบ้านให้แก่ชาวกาซา 66,000 ครอบครัว ทว่า ในเวลานี้กำลังประสบปัญหาเงินไม่พอ และขาดเงินทุน 585 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 หมื่นล้านบาท) เทอร์เนอร์บอกว่า “ประชาชนพากันสิ้นหวัง และประชาคมนานาชาติก็ไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้แม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างการซ่อมแซมบ้านให้พวกเขามีที่ไว้หลบภัยหนาว คงไม่ต้องพูดถึงการยกเลิกมาตรการปิดล้อมฉนวนกาซา เปิดทางให้ชาวบ้านสามารถได้เข้าถึงตลาด หรือให้สิทธิในการเดินทางได้อย่างเสรี” ทั้งนี้ เป็นการกล่าวถึงมาตรการปิดล้อมฉนวนกาซาจากพรมแดนอิสราเอล-อียิปต์ ซึ่งถูกประกาศใช้ตั้งแต่ขบวนการอิสลามิส “ฮามาส” เข้ายึดครองกาซาเมื่อปี 2007 เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว อิสราเอลส่งเครื่องบินรบออกโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา เพื่อยับยั้งไม่ให้กลุ่มฮามาสยิงจรวดใส่รัฐยิว ในระหว่างการสู้รบ อิสราเอลได้ทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศ และยิงปืนใหญ่ถล่มกาซาหลายพันครั้ง ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสก็ตอบโต้ด้วยการระดมยิงจรวด และปืนครกหลายพันระลอก เป็นผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 2,200 คน ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในขณะที่ฝ่ายอิสราเอลมีทหารและพลเรือนเสียชีวิตรวม 72 คน ในช่วงสงครามครั้งนั้น โรงเรียนยูเอ็นในฉนวนกาซาได้กลายเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวของชาวบ้านเรือนหมื่น ปล เรื่องนี้ผมสงสารคนกาซ่ามากครับ
เวียตนามมีปัญหาทางทะเลกับจีน เมการีบฟื้นความสัมพันธ์แต่งตั้งฑูติ"เกย์"ตัดหน้าไทย พร้อมอนุมัติขายอาวุธให้ทหารเรือเวียตนามเลยครับ
เงินที่ UN ส่งลงไปเพื่อสร้างซ่อมแซม โรงเรียน โรงพยาบาล กลายเป็นปัจจัยอย่างดีสำหรับฮามาส เพราะปรากฏว่ามีการตั้งฐานยิงจรวดจากทั้งในโรงเรียนและโรงพยาบาล เลยกลายเป็นเป้าหมาย ในการโจมตีทางอากาศได้โดยไม่ผิดกฏการทำสคราม เหมือนเอารถพยาบาลไปขนระเบิด เคยสงสัยหรือไม่ว่าฮามาสเอาเงินทุนจากไหนมาขุดอุโมง เอาเงินที่ไหนมาซื้ออาวุธ ซื้อจากใคร ฯลฯ เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เราจะมุ่งเป้าด่ายิวและสหรัฐฯในทุกๆเรื่อง แต่ถ้ามองอีกด้านไปด้วยก็จะดีไม่น้อย
ก็เหมือนกับสงครามที่เวียตนามรุกเข้ายึดครองเขมรครับเมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้ว มีแต่ฝั่งโปรอเมริกาที่บอกว่าเวียตนามต้องการแผ่ขยายอิทธิพล ครอบงำยึดครองเขมร แต่ไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องเขมรแดงรุกรานเวียตนาม เขมรกล้าประกาศว่า "ตรงไหนมีต้นตโนด ตรงนั้นเป็นดินแดนเขมร" (ภาคใต้ของเวียตนามสมัยโบราณเป็นอาณาเขตเขมร มีต้นตโนดขึ้นอยู่ทั่วไป) ฆ่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ตามแนวชายแดนเวียตนาม เขมร ทุกค่ำคืน ซึ่งทุกวันนี้หลักฐานก็ยังมีอยู่ สุดท้าย เวียตนามทนไม่ไหวก็ต้องเอาคืน
อเมริโกย ก็เป็นแค่ประเทศประเทศนึงที่แสวงหาผลประโยชน์ อุดมการณ์อะไรมันก็เป็นแค่เปลือกนอกที่สุดท้ายก็ถูกทิ้งไปในชักโครกหลังจากหมดประโยชน์แล้ว ปล ในฐานะปัจเจกชนในประเทศนั้นหลายๆคนก็น่านับถือนะครับ แต่ในฐานะประเทศ ผมว่าถือเป็นประเทศที่เห็นแก่ตัวมาก (ประเทศส่วนใหญ่ในโลกก็เห็นแก่ตัวกันแหละ แต่ อเมริโกยนี่เหมือนจะไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเยอะทำกับคนอื่นไว้เยอะ เลยมีให้ตั้งข้อสังเกตเยอะหน่อย)