พวกบทความนี่สุ่มเสี่ยงต่อการบิดเบือน อ่านแล้วต้องกรองยิ่งกว่าข่าวอีก เพราะเอาข่าวมาเขียนแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ บางทีก็เอาข่าวลวง โดยเฉพาะในเน็ต มาเขียนแล้วขยายผล ทีนี้ล่ะยุ่งเลย มาตรฐานสื่อบ้านเรายังต้องปรับปรุง ไอ้ที่ชาวบ้านทะเลาะกันก็เพราะสื่อนี่แหละ เขียนอะไรมาแล้วทำให้คนเข้าใจคนละอย่าง ขนาดข่าวเดียวกันแต่ต่างสำนัก ยังทำให้สื่อความหมายต่างกันได้
ต้นฉบับข่าวแจกเรื่องอียูแบนด์ไทย Council conclusions on Thailand FOREIG AFFAIRS Council meeting Luxembourg, 23 June 2014
ข่าวของปีทื่แล้ว ที่ผ่านไปเป็นปี ถ้าเจตนาเอามาเล่าเพื่อย้อนอดีตเป็นกรณีศึกษาก็ว่าไปอย่าง แต่ต้องมีคำที่แสดงถึงเจตนานั้นด้วย เช่น เมื่อปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเจตนาเขียนเพื่ออัพเดทข่าวใหม่ มันก็ไม่ใช่
ไม่เห็นจะคว่ำบาตรจีนบ้างเลยครับ ปล. คว่ำบาตรโดยการบอกว่าจะไม่ทำอะไรที่ก็ไม่ค่อยจะได้ทำอยู่แล้วนี่เรียกว่าคว่ำบาตรได้เหรอ
บทความนั้นบินหนีไปแล้วครับ พอนักข่าวโดนเล่นงาน สมาคมสื่อรีบแถลงการณ์แก้หน้า พอนักข่าวไปเล่นงานใครเสียหาย ไม่มีสมาคมสื่อไหนแสดงความรับผิดชอบสักแอะ
กต. แจ้งมาว่า ... http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/14/58279-กรณีการตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปร.html ข่าวสารนิเทศ : กรณีการตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโรป (European Union – EU) ตามที่ปรากฏบทความซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหภาพยุโรป (European Union – EU) นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนว่า ข้อมติของคณะมนตรีสหภาพยุโรป (The Council of the European Union) เมื่อปี ๒๕๕๗ เป็นเพียงการระงับการเยือนอย่างเป็นทางการในระดับการเมืองเท่านั้น มิใช่การตัดความสัมพันธ์กับไทยในทุก ๆ ด้าน รวมทั้ง มิใช่การระงับการเยือนไทยในทุก ๆ ระดับ ซึ่งในช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา ยังมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างทั้งสองฝ่ายในระดับต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ระดับรัฐมนตรีหลายคณะอย่างต่อเนื่องและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รวมทั้งความร่วมมืออื่นๆ ที่มีอยู่ยังดำเนินดังเช่นปกติ อาทิ ความร่วมมือสาขาการศึกษา และวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหภาพยุโรปอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่องและการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมติของคณะมนตรีสหภาพยุโรปข้างต้น โดยสหภาพยุโรปยังคงเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ ๔ ของไทย เมื่อปี ๒๕๕๗ ไทยส่งออกไปสหภาพยุโรป มูลค่า ๒๓,๓๔๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากสหภาพยุโรป มูลค่า ๑๙,๔๕๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านการลงทุน สหภาพยุโรปยังคงเป็นนักลงทุนโดยตรงอันดับที่ ๒ ของไทย โดยระหว่างเดือน ม.ค. – ก.ย. ๒๕๕๗ สหภาพยุโรปลงทุนสุทธิโดยตรงในไทยมูลค่า ๙๕๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยลงทุนสุทธิในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น ๖๓.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงเดือน ม.ค. – พ.ค. ๒๕๕๘ นักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางมาไทยประมาณ ๒.๕ ล้านคน อนึ่ง เมื่อวันอังคารที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้ชี้แจงในหน้าเฟซบุ๊ค “European Union in Thailand” ว่า ตามที่มีรายงานข่าวว่าสหภาพยุโรปได้คว่ำบาตรไทยนั้น คณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงและเข้าใจว่ารายงานดังกล่าวอ้างถึงผลสรุปการประชุมคณะมนตรีสหภาพยุโรปที่รับรองเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ และยังไม่มีการออกผลสรุปใหม่ใดๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 14 ก.ค. 2558 19:33:33 / อัพเดต : 15 ก.ค. 2558 6:00:31
สุดยอดแห่งความเป็นคนปลิ้นปล้อน ตลบตะแลง ตอแหล กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือชี้แจง กรณีมีข่าว อียู คว่ำบาตร หรือ บอยคอต ประเทศไทย โดยแนบสำเนา ปฏิเสธการคว่ำบาตรประเทศไทยของคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ไว้ด้วย โดยชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงเกรงว่าจะทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและตีความคลาด เคลื่อนไปว่า สหภาพยุโรปตัดความสัมพันธ์กับไทยทุกๆด้าน และระงับการเยือนไทยทุกระดับ ทั้งนี้ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้ชี้แจงในหน้าเฟซบุ๊ก Europran Union in Thailand ว่าตามที่มีรายงานข่าวว่าสหภาพยุโรปได้คว่ำบาตรประเทศไทยนั้น คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง และรายงานดังกล่าวอ้างถึงผลสรุปการประชุม คณะมนตรีสหภาพยุโรป ที่รับรองเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2557 และยังไม่มีผลสรุปใหม่ใดๆ ก่อนหน้านี้ ทาง อียู ได้แถลงการณ์เรียกร้องให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยตัวนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงว่า รัฐบาลไทยต้องทำตามกฎหมายบ้านเมือง การเฝ้าระวังจากต่างประเทศต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยต้องยอมรับความจริงว่า ทั้ง อียู หรือสหรัฐฯ ได้แสดงการกดดันในหลายรูปแบบหลายวิธี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ สำหรับรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ หรือมติของคณะมนตรีสหภาพยุโรปที่กล่าวถึงก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า จะมีความสัมพันธ์กับประเทศไทยเป็นปกติอีกครั้งหลังจากที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน หลังการยึดอำนาจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พยายามทำความเข้าใจกับต่างประเทศถึงเหตุจำเป็นที่กระทำการดังกล่าว และไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง หากไม่ดำเนินการอาจเกิดสงครามกลางเมืองและเกิดการสูญเสียขึ้น แต่โดยหลักการแล้ว ประเทศโลกเสรีประชาธิปไตย จะยอมรับรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจไม่ได้ บทบาท หน้าที่ ภาระความจำเป็น ทุกอย่างมีเหตุมีผล ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นการถูกจับตาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การปักธงแดงกรมการบินพลเรือน การชะลอการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย การงดความช่วยเหลือความร่วมมือในด้านต่างๆ แล้วแต่จะตีความว่าเป็นการบอยคอตหรือไม่ ล้วนไม่มีผลดีกับประเทศไทย การยอมรับความจริงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นบางเรื่องอาจจะสวนทางกันหรือเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ได้ แต่โดยรวมแล้ว การยึดถือผลประโยชน์ส่วนรวม ภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของประเทศ สำคัญกว่าเหตุผลอื่นใด. หมัดเหล็ก mudlek@hotmail.com ข้อเท็จจริงกับความจริง