คิดว่าคงมีหลายท่านสงสัยประเด็นนี้เลยหาข้อมูลมาฝากกันครับ รูปแสดงถึงความหมายของ IO คือการกระทำต่อความคิดของผู้มีอำนาจ เพื่อให้ตัดสินใจตามที่ฝ่ายเราต้องการ และเป้าหมายที่แท้จริงมิใช่เอาชนะกำลังทหารฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการเอาชนะความเชื่อและการตัดสินใจของผู้นำ IO หรือ Information Operation คือ ยุทธการทางข้อมูลข่าวสาร โดยการใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตและอิเล็กทรอนิกส์, จิตวิทยามวลชน และภาพมายาทางทหาร เพื่อสร้างอิทธิพลในการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้าม โดยการควบคุมข้อมูลข่าวสารที่ศัตรูได้รับ เทคนิคเหล่านี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ยุค กษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ที่รักษาการควบคุมประเทศราช โดยการให้ปัญญาชนของประเทศที่ถูกยึดครองเหล่านั้น เข้าร่วมรัฐสภาของจักรวรรดิกรีกโบราณ หรือแม้แต่กษัตริย์ เจงกิสข่าน มหาราช ที่สั่งให้ทหารไปจุดไฟ 3 กอง แทนที่จะเป็นกองเดียว เพื่อข่มขวัญศัตรู หรือแม้กระทั่งกรณีของยานอะพอลโล 11 ที่มีนักวิชาการจำนวนมาก ออกมาตั้งคำถามว่า ยานอะพอลโล 11 นั้น ได้ลงถูกพื้นผิวดวงจันทร์จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงภาพมายาที่รัฐบาลสหรัฐฯ สร้างขึ้น เพื่อข่มขวัญสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น เพราะจากภาพเคลื่อนไหวนั้น ไม่เป็นไปตามกฎฟิสิกส์ จากหลักฐานเหล่านี้จะเห็นว่า รัฐบาลทั่วโลกต่างให้ความสำคัญในการควบคุมข้อมูลข่าวสารเป็นอย่างมาก บางรายทำเกินขอบเขตที่สาธารณชนจะยอมรับได้ก็มี อย่างเช่นกรณีของ นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่ออกมาแฉข้อมูลความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการดักฟังผู้นำทั่วโลก จนทำให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์ที่ถดถอยของอินโดนีเซียกับออสเตรเลีย ที่มาจากสาเหตุการแอบดักฟังโทรศัพท์เหมือนกัน นอกจากนี้ ในเอกสารที่ นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน นำออกมาแฉนั้น ยังอธิบายถึงการที่องค์กรด้านความมั่นคงสหรัฐฯ สนับสนุนเงินทุนจำนวนมาก ให้กับบริษัทชั้นนำต่างๆ ที่ให้บริการบนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Yahoo, Microsoft และ Apple เพื่อเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้บริการทั่วโลก ซึ่งถ้ามองดูดีๆ นี่ถือเป็นภัยทางความมั่นคงของทุกประเทศทั่วโลก การลุกฮือของประชาชนจนล้มล้างรัฐบาลได้สำเร็จ ของหลายประเทศในตะวันออกกลาง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘อาหรับสปริง’ ส่วนหนึ่งมาจากอินเทอร์เน็ตที่ประชาชนใช้ในการสื่อสาร ซึ่งรัฐบาลไม่มีความสามารถ หรืออำนาจในการปิดการสื่อสารประเภทนี้ จนทำให้ถูกโค่มล้มไปในที่สุด ขณะที่ไทย เว็บไซต์ Facebook ยังทราบข้อมูลเกี่ยวกับประชาชนชาวไทยมากกว่ารัฐบาล ซึ่งทราบแม้กระทั่งใครเป็นเพื่อนกับใครและกำลังจีบใครอยู่ รัฐบาลจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ ต่างตระหนักถึงปัญหานี้ดี จึงไม่อนุญาตให้เว็บไซต์อย่าง Facebook, Twitter หรือแม้กระทั่ง Google ที่มีสัญชาติอเมริกัน ให้บริการกับประชาชนของตัวเอง แต่กลับให้บริษัทจีน ทำการเปิดเว็บไซต์ใหม่ที่ให้บริการใกล้เคียงกัน จึงทำให้รัฐบาลจีนยังสามารถควบคุมข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งก็เป็นดาบสองคม เพราะประชาชนชาวจีนอาจถูกลิดรอนสิทธิการแสดงออก เช่น กรณีของนายอ้าย เหวยเหวย ศิลปินเบอร์ 1 ของจีน ผู้ร่วมออกแบบปักกิ่งสเตเดี้ยม (Beijing National Stadium) หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า "สนามรังนก" (Bird's Nest ที่เลื่องชื่อในการแข่งขันโอลิมปิก ยังถูกจับกุม หลังทำผลงานศิลปะลงในอินเทอร์เน็ตประชดประชันรัฐบาลจีน ในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation: IO) แม้จะเป็นการปฏิบัติการที่ฝ่ายหน่วยงานความมั่นคง เช่น ทหารนำมาใช้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการข้อมูลข่าวสารทั้งของฝ่ายตนเอง และฝ่ายตรงข้าม ให้เป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบฝ่ายตัวเองในการทำศึกสงคราม หรือการต่อสู้เพื่อเอาชนะฝ่ายข้าศึกศัตรู หรือฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง แต่สิ่งที่ปรากฏท่ามกลางสงครามสื่อสารมวลชนอยู่ในขณะนี้ คือ การปล่อยข่าวลับ แพร่ข่าวลวง การบิดเบือนข่าวสารอย่างหนัก ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง ก็น่าจะทำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงและให้ความสำคัญกับการใช้ปฏิบัติการ "IO" เพื่อชิงไหวชิงพริบ ชิงความได้เปรียบกันมากยิ่งขึ้นไปอีก. http://www.thairath.co.th/content/395281:cool:
ก็ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เช่น อยู่ดีดี ก็นัดหมายกันพูดถึง ปรส ทั้งที่เป็นคดีเก่าตั้งแต่ 2540 หลายคดีตัดสินจบไปนานแล้ว อยู่ดีดีมาบอกหมดอายุความ? หรือ กรณีโฮปเวลที่เกิดสมัยชาติชายกับมาสุมใส่ ปชป แบบเดียวกับโรงพักที่ไม่ตรวจสอบคนบริหารสัญญากับคนเซ็นขออนุญาตแม้แต่น้อย........
เอาจริงๆนะ การปฏิบัติการของคนพวกพวกนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล ไม่จำเป็นต้องใช้ความจริง ข้อเพียงแค่ส่งผลกระทบในทางจิตวิทยากับเป้าหมาย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แบบที่เกาหลีเหนือ ทดลองอาวุธที ญี่ปุ่นก็หุ้นตกที ทั้งๆทีเกาหลีเหนือก็ไม่ได้ยิงอาวุธสงครามอะไรใส่ญี่ปุ่นสักลูกเลย ประมาณนั้นละ
ควายแดงถึงขั้นปลอมแถลงการณ์สำนักพระราชวังแล้วนะครับ ปล่อยข่าวปลอมที่แบบว่าสุดๆ อีกต่างหาก คงจะปรองดองอะไรกันไม่ได้อีกแล้ว
ความคิดพวกนี้ไม่ได้คิดหรอกว่าจะสร้างสรรค์เพื่ออะไร จิตใจมีแค่ว่า ถ้ากุไม่ได้ เมิงก็อย่าหวังเลยว่าจะอยู่ได้อย่างมีความสุข ง่ายสุดในการจัดการกลุ่มนี้ คือต้องรีบจัดการก่อนขี้กลากจะลาม
ป่านนี้รีบลบไปหมดแล้วมั้งครับ เหลือก็แต่ที่ทางทหารออกมาบอกว่าเป็นแถลงการณ์ปลอม ลองค้นแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 จากกู้เกิ้ลดูนะครับ
ตอนนี้คงเห็นชัดเจนกันแล้ว เบื้องหลังผู้ทำลายทั้งสามสถาบันหลักของเรา ... ชาติ - ปลุกปั่นเสื้อแดงแบ่งแยกดินแดน / สร้างความวุ่นวายในการปกครอง ... ศาสนา - สนับสนุนธรรมกาย และวัดนอกรีตต่างๆ ให้บิดเบือนคำสอน / ทำให้พุทธศาสนิกชน แตกแยก ... พระมหากษัตริย์ - สนับสนุนพวกต่อต้าน ม.112 / สนับสนุนการให้ข้อมูลปลอม ออกแถลงการณ์ปลอม พวกมัน ใช้ยุทธการทางข้อมูลข่าวสาร ในทุกๆทาง อย่างมีระบบ สนับสนุนซึ่งกันและกัน สอดคล้องและเข้าจังหวะกัน ถ้าสถาบันหลัก ล้มไปหลักใดหลักหนึ่ง ที่เหลือก็จะล้มไปได้หมด และการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นไปในแบบที่ชาติตะวันตกต้องการก็จะตามมาทันที