"31 ตุลา วันมวลมหาประชาชน" ร่วมรำลึกวันประวัติศาสตร์ ด้วยการโพสต์ภาพ และบอกเล่าถึงความประทับใจ !!!!!

ลงไว้ก่อน เด๊ยวพรุ่งนี้หนีเที่ยว หุหุหุ

"เดลินิวส์ออนไลน์" เกาะติดการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล 22 พ.ย. 2556 ม็อบคปท.สุดคึก เตรียมเคลื่อนขบวน เวทีราชดำเนินตื่นสาย!

ม็อบราชดำเนินตื่นสาย

เมื่อเวลา 09.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินยังเงียบเหงา บนเวทีไม่มีกิจกรรม ส่วนผู้ชุมนุมในพื้นที่บางตา ที่ปักหลักค้างคืนยังคงนอนพักผ่อน ด้านการจราจรบนถนนราชดำเนินค่อนข้างแออัด รถเคลื่อนตัวได้ช้า

คปท.คึกคักเตรียมเคลื่อนขบวน

ด้านเวทีชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ (คปท.) บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก ผู้ชุมนุมทยอยมารวมตัวกันเร็วกว่าทุกวัน เนื่องจากช่วงเที่ยงจะมีการเคลื่อนขบวน มีการเตรียมเวทีปราศรัยรถ 6 ล้อ 2 คัน

บุกทำเนียบจี้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของคปท. ว่า นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานคปท. นั่งรถยนต์ออกจากจุดชุมนุมมุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง จากนั้นจะเดินเท้าไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ให้ยุติการบริหารกิจการบ้านเมือง

นายกฯ-ครม.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำถวายสัตย์

11.00 น. แกนนำคปท. เดินเท้าถึงแนวกั้นใกล้ทำเนียบฯ โดยนายอุทัย กล่าวขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยประสานขอตัวแทนออกมารับหนังสือ กระทั่งเวลา 11.10 น. ยังไม่มีตัวแทนมารับหนังสือ นายอุทัยจึงยืนอ่านข้อความ ใจความว่า ขอให้นายกฯ และครม.ยุติการบริหารกิจการบ้านเมือง เนื่องจากตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา จงใจบริหารกิจการแผ่นดินก่อปัญหาหลายด้าน ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตกต่ำลง แต่กลับมีเจตนามุ่งตรากฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง คปท.เห็นว่า การมิได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ นายกฯและครม.จึงหมดความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่ง จึงขอให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ ในเวลา 11.20 น. นายสาธิต สุทธิเสริม รองหัวหน้าส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จึงออกมาพบแกนนำคปท. และเป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว จากนั้น แกนนำคปท.จึงเดินทางกลับที่ชุมนุม

คปท.รอกองหนุน เคลื่อนพลบ่าย

เมื่อเวลา 11.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำคปท.กลับถึงที่ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานฯ หลังจากเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบฯ โดยบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก และมีผู้ชุมนุมหนาตา จากนั้น 11.55 น. แกนนำประกาศบนเวทีว่า จะเลื่อนเวลาในการเดินขบวนจากเดิม 12.00 น. ไปเป็นเวลา 13.00 น. เพื่อรอกลุ่มผู้ชุมนุมจากรัฐวิสาหกิจมาสมทบ

แดงกวป.รวมตัวหน้าศาลรธน.

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ มีมวลชนเสื้อแดง ราว 30 คน จากกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) มารวมตัวกันหน้าศูนย์ราชการ พร้อมใช้โทรโข่งกล่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ภายนอกเท่านั้น

ปล่อยพิราบ เริ่มเคลื่อนขบวนไปอโศก

เมื่อเวลา 12.40 น. ที่จุดชุมนุมคปท. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาคปท. และนายอุทัย เป็นตัวแทนกลุ่มคปท.ปล่อยนกพิราบ โดยระบุว่าแสดงถึงความมีเสรีภาพ จากนั้นจึงนำผู้ชุมนุมเดินเท้าเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าถนนหลานหลวง ถนนเพชรบุรี โดยมีจุดหมายที่บีทีเอส สถานีอโศก

ราชดำเนินนัด 1 ล้านคน เดินอารยะ

เมื่อเวลา 14.15 น. ที่เวทีราชดำเนิน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกลุ่มต่อต้านกฎหมายนิรโทษ แถลงว่า ที่ผ่านมาคนของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลออกมาปฎิเสธคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) อย่างชัดเจน จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่จะออกมาสู้กับระบอบทักษิณ ศัตรูกับระบอบรธน. โดยในวันที่ 24 พ.ย. แกนนำได้กำหนดมาตรการต่อสู้ไว้ 2 มาตรการ

1.รวบรวมมวลชนให้ได้มากกว่า 1 ล้านคน ก่อนเวลา 18.00 น. ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้แม้จะถูกขัดขวางจากหน่วยงานต่างๆ และปัญหาอุทกภัยในภาคใต้ มาตราที่ 2.หลังเวลา 18.00 น. จะขอความร่วมมือประชาชนให้ปักหลักค้างคืนจนถึงเช้าวันที่ 25 พ.ย. เพื่อร่วมเดินอารยะไปตามหน่วยงานราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รณรงค์ให้ข้าราชการออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน โดยย้ำว่าการเดินอารยะในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อกดดันข้าราชการ แต่เป็นการเดินขอร้องโดยสงบ ปราศจากอาวุธ มีเพียงนกหวีดและดอกไม้เท่านั้น

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ แกนนำจะประกาศให้ทราบบนเวทีอีกครั้ง และย้ำว่าจะยังคงมีการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. และปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า จะคืนพื้นที่ชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย.

คปท.บุกปิดหน้าพรรคเพื่อไทย

เมื่อเวลา 14.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคปท. ซึ่งเดินเท้าเคลื่อนขบวนมาจากสะพานมัฆวานฯ เดินมาถึงหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี โดยทั้งหมดยืนถือธงชาติหยุดอยู่หน้าที่ทำการพรรค จากนั้นแกนนำประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้ผู้ชุมนุทุกคนอยู่ในความสงบ ถ้าใครก่อเรื่องวุ่นวายหรือใช้ความรุนแรง จะถือว่าไม่ใช่คนของคปท.

หลังจากแกนนำกล่าวทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมเสร็จ จึงเริ่มปราศรัยโจมตีรัฐบาล พรรคเพื่อไทย โดยผู้ชุมนุมร่วมส่งเสียงโห่ เป่านกหวีด และเขย่ามือตบต่อมามีการนำป้ายโจมตีรัฐบาลติดทับป้ายชื่อพรรคเพื่อไทย จากนั้นนายนิติธรและนายอุทัยนำโบว์ดำมาโปรยหน้าป้ายพรรค ระบุว่าเป็นการไว้อาลัยการบริหารประเทศ และที่นี่คือสถานที่ของต้นเหตุเผด็จการ ทำให้ประเทศเป็นแบบนี้ ให้เวลา 1 สัปดาห์ในการเอาชื่อพรรคออก หากไม่เอาออก ตนจะมาเอาออกเอง และถ้ามาถึงพรรคแล้วยังไม่สำนึก สัปดาห์หน้าจะไปทำเนียบฯ และรัฐสภา ก่อนเคลื่อนขบวนออกจากหน้าพรรคเพื่อไทยในเวลา 15.50 น.

พลเมืองแข็งข้อ แฉระบอบทักษิณ

ที่ราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมในช่วงเย็น พบว่าผู้ชุมนุมทยอยจับจองที่นั่งหน้าเวทีหนาตามากขึ้น ใกล้กับเวทีมีการตั้งโต๊ะแจกหนังสือฟรี ชื่อ "พลเมืองแข็งข้อ" จัดทำโดยกลุ่มเวทีมหาประชาชนราชดำเนิน เบื้องต้นพิมพ์ 5 หมื่นเล่ม เพื่อนำมาแจกที่ราชดำเนินเท่านั้น เนื้อหาในเล่มเกี่ยวกับ "ระบอบทักษิณ" ว่าทำไมประชาชนต้องแข็งข้อ มีการอธิบายถึงระบอบทักษิณ โครงการประชานิยมต่างๆ การแกะรอยคอร์รัปชั่น รวมไปถึงหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรม มีการใช้ภาพการ์ตูน และตารางสรุปใจความสำคัญ โดยแบ่งเนื้อหาเป็นตอนๆ ได้แก่ ทำไมต้องแข็งข้อ, ระบอบขี้หมูไหล, รถรางคันนั้นชื่อปราถนา, เชี่ยเหยียบเมฆ, ลงแขกแล้วสู่ขอ, แข็งข้อพวกทรยศ, และร่างกฎหมายนิรโทษ

ขบวนคปท.เจอปาประทัดใส่

เมื่อเวลา 17.00 น. ขณะผู้ชุมนุมคปท.กำลังเคลื่อนขบวนกำลังจะผ่านหน้าโรงแรมเฟิร์ส ถนนเพชรบุรี เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด โดยเบื้องต้นการ์ดคปท.เปิดเผยว่า เป็นประทัดยักษ์ที่น่าจะเป็นฝีมือของมือที่สามลอบป่วนขบวนผู้ชุมนุม จากการตรวจสอบพบว่า ประทัดดังกล่าวระเบิดก่อนที่ขบวนจะเคลื่อนผ่าน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเดินเท้าต่อไป โดยแกนนำไม่เปิดเผยถึงที่หมาย เพียงแต่บอกว่า เป็นบ้านหลังใหม่

ทิ้งมัฆวาน ยกระดับปักหลักนางเลิ้ง

17.40 น. ผู้ชุมนุมคปท. เดินมาถึงบริเวณหน้าสนามม้านางเลิ้ง และหยุดพักขบวน จากนั้นเวลา 17.50 น. แกนนำได้ประกาศว่า จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่แยกนางเลิ้ง โดยจะเร่งย้ายสัมภาระ เต็นท์ เวทีปราศรัยมาตั้งบริเวณนี้ พร้อมทั้งปิดการจราจรรอบทำเนียบฯ ให้เป็นอัมพาต



สรุปสถานการณ์การชุมนุมล้มระบอบทักษิณ 22 พ.ย. 56ม็อบ คปท. ทิ้งพื้นที่มัฆวานฯ ปักหลักที่สนามม้านางเลิ้ง เพื่อปิดการจราจรรอบทำเนียบให้เป็นอัมพาต สั่งขนเวที-เต็นท์มาตั้ง ด้านเวทีราชดำเนิน ประกาศเชิญชวนประชาชนชุมนุมก่อน 6 โมงเย็น 24 พ.ย. พร้อมชวนให้อยู่ด้วยกันจนถึงเช้า 25 พ.ย.เพื่อร่วมเดินขบวนอารยะ

ที่มา http://dailynews.co.th/Content/Article/196640/เกาะติดม็อบ 22 พ.ย. 56
อันนี้แถมฮะ น้องแตงโม เวทีราชดำเนิน 21 พ.ย.56

 

ถ้าไม่บรรยายตรงนี้ ภาพมวลมหาประชาชนคงไม่ชัดเจนในปรากฏการณ์มวลมหาประชาชน ในขณะที่กรุงเทพเป็นศูนย์รวม

ของความวุ่นวาย ต่างจังหวัดก็วุ่นวายไม่แพ้กัน เช่นกรณีของ นักการเมืองท้องถิ่นท่านหนึ่งจากเดิมที่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ปกติ

ความขัดแย้งที่มีอยู่ดึงให้ต้องเลือกข้าง แม้ว่าในเวลานั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับยอมทอดตนรับใช้ฝ่ายรัฐบาล

ความที่แกห่วงประชาชนจะมาทะเลาะกัน จึงใช้ความเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาห้าม ทำให้ดูเสมือนไม่ถูกใจ

พ่อเมืองในตอนนั้น โดนด่าไปหลายยกทำให้คิดหนักหลายวันถึงกับถอดใจว่าคงต้องกลับไปเป็นคนธรรมดา

แต่ไม่ยอมให้ใครทำร้ายประเทศชาติที่รัก ซึ่งในตอนหลังแกเป็นตัวหลักในการร่วมชุมนุม ทุ่มเทชนิดที่ผมอาย

 

แต่งงานในม็อบ บ่าว-สาว ควงคู่เป่านกหวีด แชะภาพกลางม็อบราชดำเนิน
http://hilight.kapook.com/view/93844



น.ส.วิชชุดา ช่วงชัยกิจการ และนายเดชา วัฒนธีรางกูร ควงคู่ร่วมม็อบราชดำเนินทั้งชุดแต่งงาน เพื่อถ่ายภาพกลางฝูงชน พร้อมเป่านกหวีดฉลองแต่งงานท่ามกลางเสียงเชียร์ของฝูงชนที่ร่วมแสดงความยินดี

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานจากเวทีการชุมนุมที่ถนนราชดำเนินว่า พบ น.ส.วิชชุดา ช่วงชัยกิจการ และนายเดชา วัฒนธีรางกูร ได้สวมชุดแต่งงาน ควงคู่กันเข้ามาร่วมม็อบราชดำเนิน เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกท่ามกลางฝูงชนที่อยู่ภายในการชุมนุม จากนั้น พิธีกรจึงได้เชิญให้ทั้งคู่ขึ้นไปร่วมพูดคุยบนเวที


โดย คู่บ่าว-สาว เล่าว่า ตนเองมาเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกภายในม็อบ ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะนำนกหวีดไปคล้องคอให้แทนพวงมาลัย และทั้งคู่ก็เป่านกหวีดร่วมกันเพื่อฉลองแต่งงาน เรียกเสียงเฮลั่น ซึ่งเป็นการสร้างสีสันให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมได้เป็นอย่างดี

 

ในวันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 56 วันนั้นเป็นวันที่ระทึกทุกฝ่ายว่า ฝ่ายลุงกำนัน ขณะที่ฝ่าย นปช ก็จัดให้มีการชุมนุม หลวงปู่พุทธอิสระ

เริ่มแสดงออกโดยการส่งจดหมายมาที่ชุมนุม เนื่องจากทนไม่ไหวกับความลุอำนาจของรัฐบาลในช่วงนั้น

ตามไทม์ไลน์ในไทยรัฐการเมือง http://www.thairath.co.th/content/384846

09.00 น. ใกล้เข้ามาแล้ว "24 พ.ย. 56" วันนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่ง "สุเทพ เทือกสุบรรณ" แกนนำ ประกาศไว้ว่าจะเป็น "วันแห่งประวัติศาสตร์ในการขจัดระบอบทักษิณออกไปจากประเทศไทย" และคาดการณ์กันว่าจะมีมวลชนเดินทางมาจากทุกสารทิศทั่วทั้งประเทศ เพื่อมาร่วมการชุมนุมขั้นสูงสุดนี้

11.45 น. "ยิ่งลักษณ์" งดจ้อทีวี ส่ง "ธงทอง" แจง "ในหลวง" เสด็จออกมหาสมาคม 5 ธันวา ณ ท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แนะประชาชนชมถ่ายทดสดทางโทรทัศน์...

12.32 น. แกนนำ นปช.นัดมวลชนที่สนามราชมังคลาฯ ชุมนุมชนม็อบราชดำเนินพรุ่งนี้ ลั่นแสดงพลังต่อต้านกลุ่มล้มรัฐบาล เชื่อจะมีผู้เข้าร่วมมากกว่าเวทีราชดำเนินแน่.

13.29 น. "อนุสรณ์" ยันรัฐบาลไม่ยุบสภา-ลาออก ชี้เรื่องปรับ ครม. เป็นอำนาจนายกฯ เย้ย "สุเทพ" เตรียมใช้แผนดาวกระจาย บอกโบราณ เชื่อมาล้านคนก็เปลี่ยนประเทศไม่ได้ ขอเสื้อแดงอดทนต่อการยั่วยุ

14.11 น. 'ขวัญชัย' ลังเลร่วมชุมนุม นปช. 24 พ.ย. นี้ เผยเตรียมตัวไม่ทัน จวก 'ธนาวุฒิ' ไม่มีแผนการทำงาน ลั่นทำไปก็อายคนอื่น รอมติแดงอีสานป้องรัฐภายในเย็นนี้

15.03 น. “องอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์” จี้รัฐหากจริงใจเปิดซักฟอก 3 วัน ซัด รบ.-พท. ทำตัวศาลเตี้ย เสี้ยมนายกฯเขี่ย “แรมโบ้” สวนกลับรัฐใช้เครือข่ายกุข่าว

15.30 น. ทำความรู้จัก "ชุมพล จุลใส" เจ้าของฉายา "ลูกหมีอูซี่" คนสนิท สุเทพ เทือกสุบรรณ

15.45 น. สมาคมนักข่าวฯ เปิดศูนย์ประสานงานสื่อช่วงชุมนุม 24-26 พ.ย. ห่วงความปลอดภัยนักข่าว เรียกร้องทุกฝ่ายเคารพการทำหน้าที่

16.20 น. “ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)” ปูด ม็อบชุมนุมใหญ่มีบางกลุ่มเตรียมยกระดับยึดทำเนียบ-สภาฯ พบมือที่ 3 แฝงตัวอยู่กับผู้ชุมนุมเตรียมสร้างสถานการณ์

จำได้ว่านาทีนั้นทุกคนที่เป็นคนไทย โดยเฉพาะคอการเมืองใจระส่ำตามกัน ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันรุ่งขึ้น ขณะที่ฝั่งทักษิณ

ออกข่าวว่าคนมาชุมนุมแค่หลักหมื่น เสมือนดูถูกทำให้เกิดกระแสขึ้นมากมาย มาดูการประกาศเชิญชวนของลุงกำนันในคืนวันที่

23 พ.ย. 56 กันครับ

ขณะที่เสื้อแดงก็มีการนัดชุมนุมแข่งเช่นกันที่สนาม รัชมังคลา

 

จำได้ว่าวันที่ 23 พ.ย.56 วันนั้นรถจากทุกสารทิศมาร่วมชุมนุมกันที่ 23 สายใต้ถึงกับปิดสะพานปิ่นเกล้า ผมเดินไปร่วมชุมนุม

ตั้งแต่ช่วงบ่าย มีคนเข้าทยอยเข้าร่วมชุมนุมเรื่อย ๆ



ช่วงดึก ผมกลับไปพักผ่อนที่บ้านสวนทางกับผู้ที่เพิ่งเดินทางมาถึง เดินไปแตะมือให้กำลังใจกันไป

บอกพี่น้องว่าพรุ่งนี้จะมาร่วมใหม่เพราะวันนั้นเหนื่อยเต็มที

 

พรุ่งนี้24พย.ขอเยอะๆเลยนะครับ
ขอบคุณครับ

 

บันทึกไว้ ความยากลำบากของฝั่งผู้ชุมนุม กปปส แม้จะยากลำบากแค่ไหนก็เดินทางด้วยใจ ขณะที่อีกฝั่งแม้จะสบายแค่ไหน

แต่ก็เดินทางด้วยเงิน การเดินทางของพี่น้องภาคใต้ในคืนวันที่ 23 พ.ย.56

การขัดขวางโดยมีการวางตะปูเรือใบรถบัสผู้ชุมนุม

ขณะที่ฝั่งผู้ชุมนุม นปช มีรถตำรวจนำขบวนแดงอุดร 20 บัส

http://www.tnews.co.th/html/content/76733/ภาพจะๆ!!-รถตำรวจนำขบวนบัสแดง-20-คันเข้ากรุงชุมนุมใหญ่ราชมังคลา-.html
ในวันนั้นผมจำได้ว่า แดงบางบัวทองที่เคยมาทีหลายบัส ปรากฏว่าไม่มีการจัดรถบัสเลย
จบท้ายคืนนี้ด้วย ความรู้สึกของคนไทยคนหนึ่ง ได้ร้องเพลงเพื่อบรรยายความรู้สึกเขา เผยแพร่ในวันที่ 23 พ.ย.56 เพื่อเชิญชวนร่วมชุมนุมในวันถัดไป

 

BLUESKY Channel
23 พฤศจิกายน 2556....คุณสุเทพ ขึ้นประกาศนัดหมายรวมพลวันมวลมหาประชาชน...ฟังกันอีกรอบนะครับ...บลูสกายถ่ายทอดสด

สุเทพ เทือกสุบรรณ บนเวทีมวลมหาประชาชน ราชดำเนิน 23 พ.ย. 2556

 

1ปีมวลมหาประชาชน กับภารกิจที่ยังไม่สิ้นสุด
http://www.komchadluek.net/detail/20141030/194979.html

ถ้าหากนับเวลาตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 จวบจนถึงวันรัฐประหาร 22 พฤษภาคม ปีนี้ การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนได้กินเวลายาวนานถึงเกือบ 7 เดือน แม้ว่าการชุมนุมใหญ่ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแบบมืดฟ้ามัวดิน จนคำประกาศของแกนนำในวันนั้น ดังว่า "วันมวลมหาประชาชน คนไทยใจเกินล้าน" ไม่ใช่คำโอ้อวดที่เกินเลย อย่างที่เคยชินกันมาสำหรับการ "นับจำนวน" ผู้เข้าร่วมบนท้องถนน คือวันเริ่มต้นของ "มวลมหาประชาชน" ที่แท้จริงก็ตาม

คงไม่มีใครพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำว่า หลังเสียง "นกหวีด" อันเป็นศาสตราวุธแห่งกองทัพอหิงสา ภายใต้การนำของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่แผดก้องขึ้นข้างสถานีรถไฟสามเสนในยามเย็นย่ำวันที่ 31 ตุลาคม ปีที่แล้ว จะนำพาเหตุการณ์ไปไกลถึงขั้นผลักดันให้เกิดการปฏิรูปชาติบ้านเมืองขึ้นได้.

หากแต่อย่างน้อยที่สุด การคว่ำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย กดดันให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยุบสภา และมาตรการชัตดาวน์กรุงเทพฯ อารยะขัดขืน จนเกิดภาวะรัฐบาลที่ล้มเหลว คือบทสำหรับในหน้าประวัติศาสตร์ที่ทอดยาวไปสู่อนาคตของประเทศ สำหรับการออกก้าวเดินครั้งใหม่ไปพร้อมๆ กัน ภายใต้สัญญาประชาคม ปฏิรูป และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นให้ได้

ร่วม 7 เดือนสำหรับการต่อสู้บนท้องถนน ที่ผู้คนนับล้านร่วมแสดงพลัง ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน เคียงกันมาอย่างแนบแน่น และ 365 วันเต็มในช่วงรอบปีแห่งการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งอย่าง คือหมุดหมายของการเริ่มต้นครั้งใหม่ ที่แต่ละก้าวเดินล้วนมีความหมาย บ่งบอกถึง ที่สุดแห่งภารกิจมวลมหาประชาชน

“สำหรับการชุมนุมของกปปส. ต่อเนื่อง 7 เดือน ถือเป็นการสร้างโจทย์ที่ฝ่ายการเมืองต้องหาคำตอบให้ได้ว่าจะสร้างประชาธิปไตยที่มีความหมายมากกว่าการเลือกตั้งอย่างไร โดยเฉพาะการปรับความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจรัฐ ราชการ และประชาชน นอกจากนั้นในประเด็นความตื่นตัวทางการเมืองของมวลมหาประชาชน เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้การเมืองในสภา หรือระบบเผด็จการรัฐสภา ต้องเจียมตัว เพราะเสียงข้างมากในสภาไม่ใช่เครื่องชี้ขาดหากขาดเหตุผล และความชอบธรรม"

สุริยะใส กตะศิลา แนวร่วมกปปส. ผู้พลิกผันสู่ภารกิจใหม่ในฐานะผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศ (สปท.) ตอกย้ำว่า บทเรียนการเคลื่อนไหวที่นักการเมือง นักเลือกตั้งต้องซึมซับก็คือ อำนาจไม่ใช่ความชอบธรรม แต่ความชอบธรรมต่างหากคืออำนาจ

กระนั้นก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนของขบวนกปปส. หากแต่สิ่งที่พวกเขาทั้งหลายตั้งปณิธานไว้มั่นคงก็คือ การปฏิรูปประเทศ ซึ่งสุริยะใสมองว่า ดอกผลจากการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชน ได้สร้างโจทย์ท้าทายสำหรับการปฏิรูปเอาไว้คือ 1.เราจะออกแบบประชาธิปไตย ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างไร 2.สำหรับพลังของประชาชนที่เอาการเอางาน และตื่นตัว แบบที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของการเมืองภาคประชาชน จะขับเคลื่อนให้พลังนี้ มีส่วนร่วมกับการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ได้อย่างยั่งยืนอย่างไร และ 3.ไม่ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะใช้ข้ออ้างใดเข้ามาทำหน้าที่ แต่ต้องสำนึกไว้ว่า ปรากฏการณ์การตื่นตัวของประชาชนที่ไม่ใช่พวกความจำสั้นกับประวัติศาสตร์ทางการเมือง ได้สร้างบทเรียนและการเรียนรู้ให้แก่การเมืองไทย ดังนั้นรัฐบาลต้องไม่ทำสิ่งใดให้มวลมหาประชาชนผิดหวัง และหากรัฐบาลทรยศต่ออุดมการณ์ทางการเมืองตามที่ประชาชนเรียกร้องเขาอาจจะออกมาเคลื่อนไหวได้ต่อ

ขณะที่ แกนนำคนสำคัญของกปปส.อย่าง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย เห็นว่า ประชาชนได้ออกมาประกาศสิทธิการเป็นเจ้าของประเทศทางตรง จากเดิมที่คิดว่าการมีตัวแทนจะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาได้ แต่ประสบการณ์การต่อสู้ก็ชัดเจน ถ้าพบว่ารัฐบาลที่เลือกเข้าไปทรยศประชาชน ประชาชนก็จะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาล ขณะเดียวกันเมื่อรัฐบาลใช้มาตรการแข็งกร้าวโดยการจัดตั้งมวลชนขึ้นมา ประชาชนก็จะไม่ยอมและจะลุกมาต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะในการเมืองภาคประชาชน

สาทิตย์เผยด้วยว่า ขณะนี้การต่อสู้ของกปปส.จบลงไปแล้ว แต่ที่มีอยู่คือการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยขึ้นมา เพื่อดำเนินการภารกิจหลัก 4 เรื่อง 1.ติดตามเรื่องการปฏิรูปของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) 2.เดินหน้าทางวิชาการกับประชาชนเพื่อสนับสนุนแนวทางของสปช. 3.ให้ความรู้ภาคประชาชนเรื่องการปฏิรูปต่อไป เพราะเชื่อว่าใน 2 ปี ยังมีการปฏิรูปหลายด้านต้องใช้เวลาระยะยาว และ 4.ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม

ในอีกมุมมองที่แตกต่างออกไป ถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส.อีกคนหนึ่งเห็นว่า การเรียนรู้ในเรื่องการต่อสู้อย่างอหิงสาถือว่าสำคัญ

"ประชาชนยังได้เรียนรู้เรื่องการระงับอารมณ์ ไม่ใช้อาวุธตอบโต้ ถึงแม้จะถูกกระทำครั้งแล้วครั้งเล่าจนมีผู้เสียชีวิต 23 คน บาดเจ็บหลายร้อยคน พวกเขาก็เรียนรู้ที่จะต่อสู้โดยอหิงสา ไม่ใช้ความรุนแรง สิ่งสำคัญคือ รู้จักวิธีการเจรจา เช่น การได้รับเชิญเข้าไปเจรจากับนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านั้น หรือได้รับเชิญจากผู้บัญชาการทหารบก ให้เข้าไปเจรจาเพื่อขอยุติปัญหากับรัฐบาล ทั้งหมดก็เป็นกระบวนการที่ประชาชนเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี

วิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส. บอกว่า การชุมนุมของ กปปส. ไม่เสียเปล่า เพราะประชาชนได้รับบทเรียนจากการต่อสู้ เป็นการเปิดช่องทางให้ได้รื้อระบบการเมืองทั้งหมด ถ้าประชาชนไม่ลุกขึ้นสู้ในวันนั้น เราก็จะเห็นระบอบทักษิณครองอำนาจประเทศอยู่ แต่วันนี้เมื่อปลอดโปร่งแล้วคนที่มารับภาระต่อ ต้องอย่าทำให้สูญเปล่า เราพร้อมให้กำลังใจ การชุมนุมของ กปปส. ต้องการจัดการระบบการเมืองที่เลวร้าย ดังนั้นการที่ทหารเข้ามาในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นประชาชนก็มีมือเปล่าต่อสู้กับระบอบทักษิณ ประเทศก็ได้รับความเสียหาย

"ถึงวันนี้เราฝากความหวังว่า จะให้ปฏิรูปการเมืองทำการเมืองให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เรามองการเมืองของระบบการเลือกตั้งที่เริ่มจากการซื้อเสียง ดังนั้นเราจะทำอย่างไรให้มีการปฏิรูปทั้งระบบและปฏิรูปประชาชนด้วยโดยทำควบคู่กันไป และจัดการอำนาจรัฐ ไม่สร้างอำนาจรัฐที่รับใช้ระบอบทักษิณ ฉะนั้นแนวทางที่เราเสนอไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบดำเนินคดีกับการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยไม่มีอายุความ หรือจัดการกับระบบตำรวจ อำนาจเหล่านี้ต้องกลับมาดูให้อยู่ภายใต้การดูแลของประชาชนมากขึ้นหรือระบบการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด การกระจายอำนาจต้องให้ประชาชนรับผิดชอบดูแลอนาคตตัวเองมากขึ้น ทำอำนาจรัฐให้เล็กลง ประชาสังคมมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมให้มากขึ้น"

อีกคนหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทโดดเด่นประดุจเงาของกำนัน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. เห็นเช่นกันว่า การชุมนุม 204 วันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในประเทศในลักษณะเป็นรูปธรรม นำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปครั้งใหญ่และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาต่อสู้ นอกจากนี้ถือเป็นการแสดงพลังของคนไทย ที่ได้เสียสละร่วมกันครั้งประวัติศาสตร์โดยใช้พลังบริสุทธิ์ไม่ใช้อาวุธ ขณะนี้กระบวนการปฏิรูปเริ่มแล้ว เราจะติดตามต่อไป เพราะ กปปส.ได้เสียสละและต่อสู้กันมา จึงอยากเห็นผลงานเป็นรูปธรรม

"สิ่งที่เราเรียกร้องคือการปฏิวัติของประชาชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการรัฐประหาร ซึ่งทั้งสองอย่างแตกต่างกัน หลายคนคิดคลุมเครือว่าทหารกับ กปปส. เป็นพวกเดียวกัน แต่เราเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชน สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ทำ ผมเห็นถึงความตั้งใจเรื่องการปฏิรูปประเทศที่แท้จริง แต่กระบวนการเพิ่งเริ่ม เราก็ขอฝากความหวังว่าที่สุดผลออกมาจะเป็นรูปธรรม เป็นหน้าที่ที่คนไทยจะช่วยกัน เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะร่วมกันปฏิรูป"

31 ตุลาคม 2557 ครบรอบวันเริ่มต้นของการต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 204 วัน หากแต่ในวันนี้ พวกเขายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ภารกิจของมวลมหาประชาชนยังไม่จบ

 

รวมลิงค์ - ประวัติศาสตร์มวลมหาประชาชน

24 พฤศจิกายน 2556
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=895749
ประมาณ 17.00 น. ถึงสนามม้านางเลิง



ซอยเล็กๆบริเวณถนนหลานหลวง ตั้งกำแพงคอนกรีตสองชั้น และแผงกำบัง ด้านหลังเป็นกำลังตำรวจ

ประชาชนต่างสลับกันเข้าไปถ่ายภาพ





ผ่านภูเขาทอง





ถึงสะพานผ่านฟ้า คนเต็มหมดแล้วไม่สามารถเดินต่อไปได้อีก





อยากเห็นภาพประชาชนในมุมสูง รถดับเพลิงจอดอยู่ ผู้ชายหลายคนอยู่บนนั้น




ร้อยดวงใจผองชนคนไทย
















คนบ้านเราก็มา



๐ ๐ ๐

 

เมื่อวันนั้น วันที่ อ. สมเกียรติ ยังมองโลกสวย


เสียงเตือนจาก "สมเกียรติ" ถึง "สุเทพ" อย่าพามวลมหาชนข้ามเส้น"อหิงสา"
http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/25376-som_25376.html

"..คำถามที่น่าสนใจต่อมาคือ หลังจากการทำกิจกรรมเคลื่อนขบวน 13 เส้นทางจบสิ้นลงแล้ว กิจกรรมต่อไปของ ผู้ชุมนุมภายใต้การนำของนายสุเทพ และอดีตนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ คือ อะไร?.."



พลันที่ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะแกนนำคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและกำจัดระบอบทักษิณ ประกาศมติแกนนำให้ผู้ชุมนุมบนถนนราชดำเนิน รับทราบถึงมติแกนนำว่า ในช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 จะแบ่งขบวนมหาประชาชน ออกเป็น 13 กลุ่ม เพื่อเคลื่อนขบวนไปตาม 13 เส้นทาง ตามสถานีที่ต่างๆ อาทิ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานราชการ รวมถึงสื่อฟรีทีวีต่างๆ

พร้อมระบุว่า จะเดินขบวนไปแบบ "สุภาพชน" จะเดินแบบสงบสันติอหิงสา เมื่อไปถึงก็ไม่ต้องทำอะไร นำนกหวีด ดอกไม้ ธงชาติไปให้ แล้วถามว่าจะมาอยู่ข้างประชาชนหรือไม่

แต่ดูเหมือนว่า มติแกนนำที่ออกมาจะทำให้ "นายสมเกียรติ อ่อนวิมล" นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง ไม่ค่อยสบายใจนัก

และออกมาแสดงความเห็นคัดค้านอย่างรุนแรง ถึงขนาดเสนอให้ "มวลมหาประชาชน" เปลี่ยนม้ากลางศึก หาผู้นำใหม่ที่รักสันติสุภาพเข้มแข็งอดทน ให้การทำงานโปร่งใส ให้มวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้ มาทำหน้าที่แทน

อะไรคือสาเหตุทำให้ นายสมเกียรติ ซึ่งประกาศตนว่าอยู่ตรงข้ามกับระบอบทักษิณ อย่างชัดเจนคนหนึ่ง ถึงออกมาแสดงความเห็นในลักษณะนี้

ย้อนหลังกลับไปหลังจากที่นายสุเทพ ขึ้นประกาศมติแกนนำบนเวทีปราศรัยราชดำเนิน ช่วงเวลา ประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา

นายสมเกียรติ ได้เริ่มต้นโพสต์ข้อความแสดงความเห็นส่วนตัว ผ่านทางทวิสเตอร์ ที่ใช้ชื่อว่า Somkiat Onwimon ‏ทันที

โดยระบุว่า “ขอคัดค้านการที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จะนำมวลเดินแยกสายไปกดดันข่มขู่สื่อมวลชนและส่วนราชการต่างๆทั่วกรุงฯ ถือเป็นการใช้ความรุนแรงขัดหลักอหิงสา”

ก่อนจะตามมาด้วยข้อความจำนวนมาก ดังนี้

“มวลมหาประชาชนฯควรทำ"อารยะขัดขืน"ไม่ร่วมมือกับคุณสุเทพและคณะที่จะพาเดินไปกดดันสื่อมวลชนที่คุณสุเทพไม่ชอบและส่วนราชการที่คุณสุเทพเห็นเป็นเป้า”

"ผมเห็นด้วยกับการล้มระบอบทักษิณ แต่ต้องเป็นวิธีประชาธิปไตยและไม่ใช้ความรุนแรง ประชาชนและข้าราชการต้องใช้เวลาเรียนรู้เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย"

"วิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือให้รัฐบาลยุบสภา นายกลาออก เลือกตั้งใหม่ ใครแพ้ใครชนะก็ต้องยอมรับ ระบอบทักษิณจะกลับมาก็ต้องรับ จะสู้กันใหม่ก็สู้"

"การพามวลชนตระเวนข่มขู่สื่อมวลชนและหน่วยราชการเป็นความรุนแรงในตัวอยู่แล้ว และจะเสี่ยงต่อการปะทะเกิดบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้นไปอีก ต้องอารยะขัดขืน"

"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเราก็ต้องยึดหลักประชาธิปไตย ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง เราต้องเร่งให้การศึกษาเรื่องผลร้ายจากระบอบทักษิณ"

"หากพรรคการเมืองเก่าและใหม่จะเอาชนะระบอบทักษิณได้ก็ต้องด้วยการให้การศึกษาเปลี่ยนความคิดประชาชนจนชนะเลือกตั้งใน 4 ปี 8 ปี 12 ปี กี่ปีก็ต้องยอม"

"ฟังคุณสุเทพปราศรัยคืนนี้แล้วพบว่าคุณสุเทพใช้อหิงสาแบบไม่เข้าใจ จะใช้เป็นเพียงเครื่องมือชั่วคราวอีกสองวัน หากกดดันไม่สำเร็จจะใช้วิธีอื่น"

"อหิงสาต้องทำโดยผู้เข้มแข็งอดทนมีวินัย ที่คุณสุเทพประกาศจะหยุดอหิงสาในสองวันถ้าไม่ได้อย่างใจ จึงเป็นอหิงสาของผู้อ่อนแอ ล้มเหลวพ่ายแพ้ต่อกิเลส"

"การที่คุณสุเทพจะไปกดดันทีวีช่อง 3 และช่อง 7 เพราะไม่ชอบการทำข่าวของเขาเพราะเขารายงานไม่ถูกใจ ก็ผิด Blue Sky / T-News ก็ลำเอียงข้างเดียวตลอด"

"ประเทศไทยวันนี้เต็มไปด้วยสื่อเลือกข้างประชาชนจะต้องรู้จักเลือกดู จะกดดันกันด้วยกำลังรุนแรงไม่ได้ แสดงความเห็นติเตียนได้ ไม่ชอบก็ปิดไม่ต้องดู"

"คุณสุเทพจะต้องรับผิดชอบถ้าพามวลมหาชนไปสู่ความรุนแรง และความรุนแรงรับประกันความพ่ายแพ้แน่นอน"

"การปราศรัยของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งเนื้อหาและอารมณ์ พบว่าคุณสุเทพฯเป็นคนรุนแรงไม่ใช่นักอหิงสาที่แท้จริง ไม่ควรจะให้นำมวลมหาประชาชนต่อไป"

"ถึงเวลาที่"มวลมหาประชาชน" จะต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก หาผู้นำใหม่ที่รักสันติสุภาพเข้มแข็งอดทน ให้การทำงานโปร่งใส ให้มวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้"

"อหิงสา" คือ"ความไม่รุนแรง"การที่มวลมหาประชาชนเดินขบวนไปสร้างแรงกดดันผู้อื่นที่ตนถือเป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นความรุนแรง เป็น"หิงสา" ไม่ใช่"อหิงสา"

"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจอหิงสา ยืมคำว่าอหิงสามาลองใช้เป็นเครื่องมือชั่วคราว หากไม่สำเร็จก็จะใช้วิธีอื่นดังที่บอกเมื่อคืน"

"คุณสุเทพเป็นคนรุนแรง ใจก็คิดรุนแรง วาจาก็แสดงออกรุนแรง กายก็มีอาการรุนแรง ดังที่เห็นในการปราศรัยเมื่อคืนที่ผ่าานมา นักอหิงสา จะไม่เป็นแบบนี้"

"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำอหิงสาไม่ได้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ก็เช่นกัน เป็นนักอหิงสาไม่ได้ เป็นผู้นำมวลชนทำกิจกรรมการเมืองแบบรุนแรง อาจพอได้"

"วิธีการต่อสู้ของนักสัตยาเคราะห์แบบอหิงสาที่แท้จริงต้องสู้โดยทำให้ทุกข์ทรมานตกอยู่กับตนเองเท่านั้น แล้วแผ่เมตตาให้ฝ่ายตรงข้าม"

"นักสัตยาเคราะห์แบบอหิงสาจะต่อต้านต่อการกระทำที่ชั่วร้ายเท่านั้น ไม่ต่อต้านคนที่กระทำชั่วร้าย จะเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร จะไม่ทำลายศัตรู"

"หากการต่อต้านศัตรูวิธีอื่นทำทุกวิธีจนหมดหนทางแล้วยังไม่สำเร็จ วิธีสุดท้ายของนักอหิงสา ตามคำสอนของมหาตมะ คานธี คือวิธีประท้วงด้วยการอดอาหาร"

"ดังนั้นถ้าจะใช้อหิงสาวิธีสุดท้าย ขอให้มวลมหาประชาชนนั่งอยู่กับที่กลางถนนราชดำเนิน อย่าเคลื่อนย้ายไปกดดันให้ทุกข์กับใคร แล้วเริ่มการอดอาหาร"

"อาจเริ่มทำอหิงสา-สัตยาเคราะห์ โดยการอดอาหาร โดยคุณสุเทพทำคนเดียวก่อน หรือคณะกรรมการแกนนำทั้งหมดทำทั้งคณะก็ได้ ส่วนมวลชนอยู่ที่เดิมตามปกติ"

"หากการอดอาหารโดยคณะผู้นำไม่เป็นผล คุณสุเทพ และคณะผู้นำมวลชนตายหมดแล้ว ให้มวลมหาประชาชนเริ่มอดอาหารต่อ จนกว่ารัฐบาลจะเข้าใจทุกข์ยากของประชาชน"

"ที่ผมอธิบายแนะนำมาทั้งหมดนี้คืออหิงสาตามแบบมหาตมะ คานธี ที่แท้จริง หากไม่รู้ ไม่เข้าใจอหิงสา ประท้วงไปแล้วความพ่ายแพ้จะมิใช่ความผิดของอหิงสา"

"อหิงสา" เพียงต้องการประกาศความจริงคือความเป็นบาปหยาบช้าของศัตรูให้รับรู้กันทั่ว "อหิงสา"สร้างมิตร ไม่ทำลายศัตรู แต่เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร"

"ผมให้ความรู้เรื่องอหิงสาด้วยความเป็นมิตรกับมวลมหาประชาชนไทยเพื่อล้มระบอบทักษิณ เป็นมิตรกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ชินวัตร"

"ที่ผมอธิบายแนะนำมาทั้งหมดนี้คืออหิงสาตามแบบมหาตมะ คานธี ที่แท้จริง หากไม่รู้ ไม่เข้าใจอหิงสา ประท้วงไปแล้วความพ่ายแพ้จะมิใช่ความผิดของอหิงสา"

แต่ดูเหมือนว่าเสียงเตือนของ นายสมเกียรติ อาจจะเบาและไร้น้ำหนัก ในมุมมองของนายสุเทพ และแกนนำ

เพราะทันทีที่ถึงเวลานัดหมายในช่วง 08.00 น.ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 13 เส้นทาง ได้เคลื่อนขบวนออกจากถนนราชดำเนินไปตามสถานที่ต่างๆ ที่แกนนำกำลังไว้ โดยพร้อมเพรียง

ขณะที่ เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายสุเทพ ได้โพสต์ข้อความแจ้งกำหนดการและเหตุผลการเคลื่อนขบวนทั้ง 13 เส้นทางว่า

"ผมตัวแทนคณะแกนนำ ประกาศให้ "ขี้ข้า" ทักษิณทราบ พรุ่งนี้ ขบวนเราจะแบ่งเป็น 13 เส้นทาง

1.ไปกองบัญชาการทหารสูงสุด แจ้งวัฒนะ มีคุณนายสกลธี ภัททิยกุลนำไป เจอกันที่นั่นเลย ไม่ต้องเดินไปเพราะไกลเกิน

2.ไปกองบัญชาการกองทัพอากาศดอนเมือง มีคุณวิทยา แก้วภราดัย นำไป

3.ไปกองทัพบก ไปหาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเป็นแม่ทัพบก เราจะไปแบบผู้น้อม ในเอกนัฐ พร้อมพันธุ์นำไป

4.ไปกองบัญชาการกองทัพเรือ ผบ.น่ารักมาก เป็นผบ.คนเดียวใน 3 เหล่าทัพที่บอกว่ากำลังพลมาร่วมชุมนุมได้นอกราชการ จะให้คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นำไป

5.ไปสำนักงานตร.แห่งชาติ ไปพบพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ให้ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นำไป อยากจะขอเชิญพี่น้องนักธุรกิจ แถวราชประสงค์-สีลม นักศึกษาจุฬาฯไปร่วมกันเยอะๆครับ เพราะพวกนี้คุยยากหน่อย

6.ไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปพบคนที่ได้ดีเพราะพี่มันให้ ให้ชุมพล จุลใส นำไป พี่น้องช่วยไปสมทบกันเยอะๆนะครับ

7.ไปช่อง 3 ผมกราบเรียนพี่น้อง เมื่อปี 53 เสื้อแดงไปเผาช่อง 3 ผมเป็นคนสั่งตำรวจที่ไว้ใจไปช่วย และให้นำฮ.ไปรับผู้บริหาร มันถึงตอบแทนเราอยู่ทุกวันนี้ มี ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นำไป

8.ไปช่อง 5 ในฟรีทีวีมีช่อง 5 ที่ยังพอรายงานข่าวเรา ว่าผมพูดอะไรบ้าง ให้ อิสสระ สมชัย นำไป

9.ไปช่อง 7 วันนี้เกือบโดนไปแล้ว เรามอบ ชาญวิทย์ วิภูศิริ นำไป

10.ไปช่อง 9 แดนสนธยา ให้ถนอม อ่อนเกตุพล นำไป

11.ไปช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ให้ถาวร เสนเนียม นำทีม

12.ไปกระทรวงมหาดไทย เราจะให้สมาชิกอบต.ทั้งคณะ นำมวลชนไปทวงเงินงบประมาณที่สัญญาว่าจะให้ท้องถิ่น

13.ไปสำนักงบประมาณ ไปบอกเค้าว่า หยุดจ่ายเงินให้อี..เอาไปผลาญได้แล้ว ผมจะนำทีมเอง!!

ทุกขบวน (ยกเว้นขบวนที่ 1.) ตั้งขบวน 8 โมงเช้าที่ท้องสนามหลวง"

ooo

ส่วนภาพรวมในการเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าที่ผ่านมา (เวลา 10.00 น.) ยังเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีการปัญหาความรุงแรงหรือเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด โดยแกนนำที่นำขบวนไปในแต่ละเส้นทางได้ประกาศแจ้งผู้ชุมนุมอยู่เป็นระยะๆ ใช้ความระมัดระวังตัวในการเคลื่อนขบวน อยู่ในความสงบ ป้องกันมือที่สาม ไม่ให้เข้ามาสร้างสถานการณ์

พร้อมมีการมอบหมายให้ผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงนำดอกไม้ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมหลายคน ก็ยืนยันว่า การเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้นำชุมนุมครั้งนี้ ทำได้ เป็นไปตามแนวทางอสิงหา เป็นการเชิญชวนประชาชนตามสถานที่ต่างๆ ให้มาเข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้น เป็นการเคลื่อนขบวนอย่างงดงาม



อย่างไรก็ตาม คำถามที่น่าใจต่อมาคือ หลังจากการทำกิจกรรมเคลื่อนขบวน 13 เส้นทางจบสิ้นลงแล้ว กิจกรรมต่อไปของ ผู้ชุมนุมภายใต้การนำของนายสุเทพ และอดีตนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ คือ อะไร?

จะยึดแนวทางต่อสู้แบบอหิงสาต่อไป หรือ จะยกระดับ "กิจกรรม" ให้มี "ความรุนแรง" มากยิ่งขึ้น เพื่อเผด็จศึก "รัฐบาล" ให้ได้ ก่อนที่พลังของมวลชนจะลด น้อยลง ตามที่หลายฝ่ายประเมินกันไว้หรือไม่?

หลังจากที่ฝั่งรัฐบาล เลือกที่จะเล่นเกม"เงียบ"เน้นการ "ตั้งรับ"แบบมี "นัยยะ" ตามที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้

 

เมื่อวันนั้น วันที่ อ. สมเกียรติ ยังมองโลกสวย


เสียงเตือนจาก "สมเกียรติ" ถึง "สุเทพ" อย่าพามวลมหาชนข้ามเส้น"อหิงสา"
http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/25376-som_25376.html

"..คำถามที่น่าสนใจต่อมาคือ หลังจากการทำกิจกรรมเคลื่อนขบวน 13 เส้นทางจบสิ้นลงแล้ว กิจกรรมต่อไปของ ผู้ชุมนุมภายใต้การนำของนายสุเทพ และอดีตนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ คือ อะไร?.."



พลันที่ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะแกนนำคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและกำจัดระบอบทักษิณ ประกาศมติแกนนำให้ผู้ชุมนุมบนถนนราชดำเนิน รับทราบถึงมติแกนนำว่า ในช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 จะแบ่งขบวนมหาประชาชน ออกเป็น 13 กลุ่ม เพื่อเคลื่อนขบวนไปตาม 13 เส้นทาง ตามสถานีที่ต่างๆ อาทิ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานราชการ รวมถึงสื่อฟรีทีวีต่างๆ

พร้อมระบุว่า จะเดินขบวนไปแบบ "สุภาพชน" จะเดินแบบสงบสันติอหิงสา เมื่อไปถึงก็ไม่ต้องทำอะไร นำนกหวีด ดอกไม้ ธงชาติไปให้ แล้วถามว่าจะมาอยู่ข้างประชาชนหรือไม่

แต่ดูเหมือนว่า มติแกนนำที่ออกมาจะทำให้ "นายสมเกียรติ อ่อนวิมล" นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง ไม่ค่อยสบายใจนัก

และออกมาแสดงความเห็นคัดค้านอย่างรุนแรง ถึงขนาดเสนอให้ "มวลมหาประชาชน" เปลี่ยนม้ากลางศึก หาผู้นำใหม่ที่รักสันติสุภาพเข้มแข็งอดทน ให้การทำงานโปร่งใส ให้มวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้ มาทำหน้าที่แทน

อะไรคือสาเหตุทำให้ นายสมเกียรติ ซึ่งประกาศตนว่าอยู่ตรงข้ามกับระบอบทักษิณ อย่างชัดเจนคนหนึ่ง ถึงออกมาแสดงความเห็นในลักษณะนี้

ย้อนหลังกลับไปหลังจากที่นายสุเทพ ขึ้นประกาศมติแกนนำบนเวทีปราศรัยราชดำเนิน ช่วงเวลา ประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา

นายสมเกียรติ ได้เริ่มต้นโพสต์ข้อความแสดงความเห็นส่วนตัว ผ่านทางทวิสเตอร์ ที่ใช้ชื่อว่า Somkiat Onwimon ‏ทันที

โดยระบุว่า “ขอคัดค้านการที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จะนำมวลเดินแยกสายไปกดดันข่มขู่สื่อมวลชนและส่วนราชการต่างๆทั่วกรุงฯ ถือเป็นการใช้ความรุนแรงขัดหลักอหิงสา”

ก่อนจะตามมาด้วยข้อความจำนวนมาก ดังนี้

“มวลมหาประชาชนฯควรทำ"อารยะขัดขืน"ไม่ร่วมมือกับคุณสุเทพและคณะที่จะพาเดินไปกดดันสื่อมวลชนที่คุณสุเทพไม่ชอบและส่วนราชการที่คุณสุเทพเห็นเป็นเป้า”

"ผมเห็นด้วยกับการล้มระบอบทักษิณ แต่ต้องเป็นวิธีประชาธิปไตยและไม่ใช้ความรุนแรง ประชาชนและข้าราชการต้องใช้เวลาเรียนรู้เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย"

"วิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือให้รัฐบาลยุบสภา นายกลาออก เลือกตั้งใหม่ ใครแพ้ใครชนะก็ต้องยอมรับ ระบอบทักษิณจะกลับมาก็ต้องรับ จะสู้กันใหม่ก็สู้"

"การพามวลชนตระเวนข่มขู่สื่อมวลชนและหน่วยราชการเป็นความรุนแรงในตัวอยู่แล้ว และจะเสี่ยงต่อการปะทะเกิดบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้นไปอีก ต้องอารยะขัดขืน"

"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเราก็ต้องยึดหลักประชาธิปไตย ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง เราต้องเร่งให้การศึกษาเรื่องผลร้ายจากระบอบทักษิณ"

"หากพรรคการเมืองเก่าและใหม่จะเอาชนะระบอบทักษิณได้ก็ต้องด้วยการให้การศึกษาเปลี่ยนความคิดประชาชนจนชนะเลือกตั้งใน 4 ปี 8 ปี 12 ปี กี่ปีก็ต้องยอม"

"ฟังคุณสุเทพปราศรัยคืนนี้แล้วพบว่าคุณสุเทพใช้อหิงสาแบบไม่เข้าใจ จะใช้เป็นเพียงเครื่องมือชั่วคราวอีกสองวัน หากกดดันไม่สำเร็จจะใช้วิธีอื่น"

"อหิงสาต้องทำโดยผู้เข้มแข็งอดทนมีวินัย ที่คุณสุเทพประกาศจะหยุดอหิงสาในสองวันถ้าไม่ได้อย่างใจ จึงเป็นอหิงสาของผู้อ่อนแอ ล้มเหลวพ่ายแพ้ต่อกิเลส"

"การที่คุณสุเทพจะไปกดดันทีวีช่อง 3 และช่อง 7 เพราะไม่ชอบการทำข่าวของเขาเพราะเขารายงานไม่ถูกใจ ก็ผิด Blue Sky / T-News ก็ลำเอียงข้างเดียวตลอด"

"ประเทศไทยวันนี้เต็มไปด้วยสื่อเลือกข้างประชาชนจะต้องรู้จักเลือกดู จะกดดันกันด้วยกำลังรุนแรงไม่ได้ แสดงความเห็นติเตียนได้ ไม่ชอบก็ปิดไม่ต้องดู"

"คุณสุเทพจะต้องรับผิดชอบถ้าพามวลมหาชนไปสู่ความรุนแรง และความรุนแรงรับประกันความพ่ายแพ้แน่นอน"

"การปราศรัยของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งเนื้อหาและอารมณ์ พบว่าคุณสุเทพฯเป็นคนรุนแรงไม่ใช่นักอหิงสาที่แท้จริง ไม่ควรจะให้นำมวลมหาประชาชนต่อไป"

"ถึงเวลาที่"มวลมหาประชาชน" จะต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก หาผู้นำใหม่ที่รักสันติสุภาพเข้มแข็งอดทน ให้การทำงานโปร่งใส ให้มวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้"

"อหิงสา" คือ"ความไม่รุนแรง"การที่มวลมหาประชาชนเดินขบวนไปสร้างแรงกดดันผู้อื่นที่ตนถือเป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นความรุนแรง เป็น"หิงสา" ไม่ใช่"อหิงสา"

"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจอหิงสา ยืมคำว่าอหิงสามาลองใช้เป็นเครื่องมือชั่วคราว หากไม่สำเร็จก็จะใช้วิธีอื่นดังที่บอกเมื่อคืน"

"คุณสุเทพเป็นคนรุนแรง ใจก็คิดรุนแรง วาจาก็แสดงออกรุนแรง กายก็มีอาการรุนแรง ดังที่เห็นในการปราศรัยเมื่อคืนที่ผ่าานมา นักอหิงสา จะไม่เป็นแบบนี้"

"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำอหิงสาไม่ได้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ก็เช่นกัน เป็นนักอหิงสาไม่ได้ เป็นผู้นำมวลชนทำกิจกรรมการเมืองแบบรุนแรง อาจพอได้"

"วิธีการต่อสู้ของนักสัตยาเคราะห์แบบอหิงสาที่แท้จริงต้องสู้โดยทำให้ทุกข์ทรมานตกอยู่กับตนเองเท่านั้น แล้วแผ่เมตตาให้ฝ่ายตรงข้าม"

"นักสัตยาเคราะห์แบบอหิงสาจะต่อต้านต่อการกระทำที่ชั่วร้ายเท่านั้น ไม่ต่อต้านคนที่กระทำชั่วร้าย จะเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร จะไม่ทำลายศัตรู"

"หากการต่อต้านศัตรูวิธีอื่นทำทุกวิธีจนหมดหนทางแล้วยังไม่สำเร็จ วิธีสุดท้ายของนักอหิงสา ตามคำสอนของมหาตมะ คานธี คือวิธีประท้วงด้วยการอดอาหาร"

"ดังนั้นถ้าจะใช้อหิงสาวิธีสุดท้าย ขอให้มวลมหาประชาชนนั่งอยู่กับที่กลางถนนราชดำเนิน อย่าเคลื่อนย้ายไปกดดันให้ทุกข์กับใคร แล้วเริ่มการอดอาหาร"

"อาจเริ่มทำอหิงสา-สัตยาเคราะห์ โดยการอดอาหาร โดยคุณสุเทพทำคนเดียวก่อน หรือคณะกรรมการแกนนำทั้งหมดทำทั้งคณะก็ได้ ส่วนมวลชนอยู่ที่เดิมตามปกติ"

"หากการอดอาหารโดยคณะผู้นำไม่เป็นผล คุณสุเทพ และคณะผู้นำมวลชนตายหมดแล้ว ให้มวลมหาประชาชนเริ่มอดอาหารต่อ จนกว่ารัฐบาลจะเข้าใจทุกข์ยากของประชาชน"

"ที่ผมอธิบายแนะนำมาทั้งหมดนี้คืออหิงสาตามแบบมหาตมะ คานธี ที่แท้จริง หากไม่รู้ ไม่เข้าใจอหิงสา ประท้วงไปแล้วความพ่ายแพ้จะมิใช่ความผิดของอหิงสา"

"อหิงสา" เพียงต้องการประกาศความจริงคือความเป็นบาปหยาบช้าของศัตรูให้รับรู้กันทั่ว "อหิงสา"สร้างมิตร ไม่ทำลายศัตรู แต่เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร"

"ผมให้ความรู้เรื่องอหิงสาด้วยความเป็นมิตรกับมวลมหาประชาชนไทยเพื่อล้มระบอบทักษิณ เป็นมิตรกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ชินวัตร"

"ที่ผมอธิบายแนะนำมาทั้งหมดนี้คืออหิงสาตามแบบมหาตมะ คานธี ที่แท้จริง หากไม่รู้ ไม่เข้าใจอหิงสา ประท้วงไปแล้วความพ่ายแพ้จะมิใช่ความผิดของอหิงสา"

แต่ดูเหมือนว่าเสียงเตือนของ นายสมเกียรติ อาจจะเบาและไร้น้ำหนัก ในมุมมองของนายสุเทพ และแกนนำ

เพราะทันทีที่ถึงเวลานัดหมายในช่วง 08.00 น.ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 13 เส้นทาง ได้เคลื่อนขบวนออกจากถนนราชดำเนินไปตามสถานที่ต่างๆ ที่แกนนำกำลังไว้ โดยพร้อมเพรียง

ขณะที่ เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายสุเทพ ได้โพสต์ข้อความแจ้งกำหนดการและเหตุผลการเคลื่อนขบวนทั้ง 13 เส้นทางว่า

"ผมตัวแทนคณะแกนนำ ประกาศให้ "ขี้ข้า" ทักษิณทราบ พรุ่งนี้ ขบวนเราจะแบ่งเป็น 13 เส้นทาง

1.ไปกองบัญชาการทหารสูงสุด แจ้งวัฒนะ มีคุณนายสกลธี ภัททิยกุลนำไป เจอกันที่นั่นเลย ไม่ต้องเดินไปเพราะไกลเกิน

2.ไปกองบัญชาการกองทัพอากาศดอนเมือง มีคุณวิทยา แก้วภราดัย นำไป

3.ไปกองทัพบก ไปหาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเป็นแม่ทัพบก เราจะไปแบบผู้น้อม ในเอกนัฐ พร้อมพันธุ์นำไป

4.ไปกองบัญชาการกองทัพเรือ ผบ.น่ารักมาก เป็นผบ.คนเดียวใน 3 เหล่าทัพที่บอกว่ากำลังพลมาร่วมชุมนุมได้นอกราชการ จะให้คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นำไป

5.ไปสำนักงานตร.แห่งชาติ ไปพบพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ให้ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นำไป อยากจะขอเชิญพี่น้องนักธุรกิจ แถวราชประสงค์-สีลม นักศึกษาจุฬาฯไปร่วมกันเยอะๆครับ เพราะพวกนี้คุยยากหน่อย

6.ไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปพบคนที่ได้ดีเพราะพี่มันให้ ให้ชุมพล จุลใส นำไป พี่น้องช่วยไปสมทบกันเยอะๆนะครับ

7.ไปช่อง 3 ผมกราบเรียนพี่น้อง เมื่อปี 53 เสื้อแดงไปเผาช่อง 3 ผมเป็นคนสั่งตำรวจที่ไว้ใจไปช่วย และให้นำฮ.ไปรับผู้บริหาร มันถึงตอบแทนเราอยู่ทุกวันนี้ มี ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นำไป

8.ไปช่อง 5 ในฟรีทีวีมีช่อง 5 ที่ยังพอรายงานข่าวเรา ว่าผมพูดอะไรบ้าง ให้ อิสสระ สมชัย นำไป

9.ไปช่อง 7 วันนี้เกือบโดนไปแล้ว เรามอบ ชาญวิทย์ วิภูศิริ นำไป

10.ไปช่อง 9 แดนสนธยา ให้ถนอม อ่อนเกตุพล นำไป

11.ไปช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ให้ถาวร เสนเนียม นำทีม

12.ไปกระทรวงมหาดไทย เราจะให้สมาชิกอบต.ทั้งคณะ นำมวลชนไปทวงเงินงบประมาณที่สัญญาว่าจะให้ท้องถิ่น

13.ไปสำนักงบประมาณ ไปบอกเค้าว่า หยุดจ่ายเงินให้อี..เอาไปผลาญได้แล้ว ผมจะนำทีมเอง!!

ทุกขบวน (ยกเว้นขบวนที่ 1.) ตั้งขบวน 8 โมงเช้าที่ท้องสนามหลวง"

ooo

ส่วนภาพรวมในการเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าที่ผ่านมา (เวลา 10.00 น.) ยังเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีการปัญหาความรุงแรงหรือเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด โดยแกนนำที่นำขบวนไปในแต่ละเส้นทางได้ประกาศแจ้งผู้ชุมนุมอยู่เป็นระยะๆ ใช้ความระมัดระวังตัวในการเคลื่อนขบวน อยู่ในความสงบ ป้องกันมือที่สาม ไม่ให้เข้ามาสร้างสถานการณ์

พร้อมมีการมอบหมายให้ผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงนำดอกไม้ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมหลายคน ก็ยืนยันว่า การเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้นำชุมนุมครั้งนี้ ทำได้ เป็นไปตามแนวทางอสิงหา เป็นการเชิญชวนประชาชนตามสถานที่ต่างๆ ให้มาเข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้น เป็นการเคลื่อนขบวนอย่างงดงาม



อย่างไรก็ตาม คำถามที่น่าใจต่อมาคือ หลังจากการทำกิจกรรมเคลื่อนขบวน 13 เส้นทางจบสิ้นลงแล้ว กิจกรรมต่อไปของ ผู้ชุมนุมภายใต้การนำของนายสุเทพ และอดีตนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ คือ อะไร?

จะยึดแนวทางต่อสู้แบบอหิงสาต่อไป หรือ จะยกระดับ "กิจกรรม" ให้มี "ความรุนแรง" มากยิ่งขึ้น เพื่อเผด็จศึก "รัฐบาล" ให้ได้ ก่อนที่พลังของมวลชนจะลด น้อยลง ตามที่หลายฝ่ายประเมินกันไว้หรือไม่?

หลังจากที่ฝั่งรัฐบาล เลือกที่จะเล่นเกม"เงียบ"เน้นการ "ตั้งรับ"แบบมี "นัยยะ" ตามที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้

 

คลิป ๒๔ พศจิกา ๕๖ มหาประชาชน นับล้าน ทะลัก สะพานพระปิ่นเกล้า
http://www.oknation.net/blog/kiadkakam/2013/11/25/entry-1
Posted by เขียดขาคำ
คลิป ๒๔ พศจิกา ๕๖ มหาประชาชน นับล้าน ทะลัก สะพานพระปิ่นเกล้า

 

ม็อบสีลม ลำน้ำสายเล็กๆ สู่ สายหลัก ราชดำเนิน
http://www.oknation.net/blog/rinrudee/2013/11/24/entry-1
Posted by รินรู้ดี

กลับจากถนนราชดำเนินมาได้พักใหญ่ (ยอมรับว่า เข้าไปไม่ถึง เวทีราชดำเนิน)
บรรยายกาศเป็นไปตามที่มีพี่น้องในบางโอเค ได้รายงานกันหลายๆ เอนทรีแล้ว แต่ รินรู้ดี ขอเล่าเรื่อง การร่วมเดิน ไปยัง ราชดำเนิน กับ ประชาคมสีลม ที่นัดรวมตัวกันหน้า สีลมคอมเพล็กซ์ เวลาประมาณ 12.00 น.

แกนนำคือ คุณหมอตุลย์ เจ้าเก่า ซึ่งประกาศว่า พรุ่งนี้ ลาหยุดราชการกับ รพ. จุฬาฯ ทั้งที่ต้องลงตรวจ ประจำทุกวันจันทร์ แต่ ขอทำหน้าที่รับใช้ชาติก่อน หวังว่า คนไข้ที่รอคุณหมออยู่ จะเข้าใจ
(คุณหมอตุลย์เป็นสูตินารีแพทย์)





วันนี้มีผู้มาร่วมชุมนุม ไม่หนาแน่นเท่ากับ วันทำการ และวันที่เดินไปราชดำเนินครั้งแรก นั่นคือ 11/11 คงเป็นเพราะ ผู้ร่วมชุมนุม สามารถเลือกสถานที่ในการเข้าร่วมได้ ที่มีจุดเดินกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อไปรวมกับเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน

เนื่องจากระยะทางจากถนนสีลม ถึง ถนนราชดำเนิน อยู่ไกลพอสมควรหากเดินเท้า ไม่เหมาะกับ ผู้สูงวัย จึงมีรถบัส 3 คัน พาลุงป้าน้าอา ไปยังจุดหมาย ซึ่งรินรู้ดี ก็อยากจะสูงวัยมากในวันนี้ แต่ อาย ตัวเอง



สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกับการเข้าร่วมชุมนุมในวันนี้ มิใช่เฉพาะพลังจากพี่น้องประชาชนความตั้งใจที่จะช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ล้มล้างระบบ "ทักษิณ" ให้หมดไปแต่ กับเป็น คุณตำรวจทั้งหลาย ที่ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางเป็นอย่างดี



เมื่อถึงหน้า สตช. แกนนำ ขอบคุณ ตำรวจ และเรียกร้องเชิญชวน ให้ ตำรวจทุกนาย มาเข้าร่วมกับ มวลชน เพื่อเขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เหมือนกับ ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะ ตำรวจชั้นประทวน ที่โดนโกงเบี้ยเลี้ยงอยู่เสมอ ดังนั้น วันนี้ ต้องขอปรบมือดังๆ ชมเชย คุณตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่สองมาตรฐาน เหมือนที่เคยพบมา คุณตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ ดูแล ขบวนผู้ร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ เท่านั้นนะคะ

ไม่เกี่ยวกับ ตำรวจที่อยู่รอบนอก ซึ่งอย่างที่ทราบๆกัน ว่าใช้วิชามาร สกัดกั้น พี่น้องจากต่างจังหวัดที่จะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุม แบบน่าตกใจ

เช่น ที่ อ. สวี ชุมพร และอีกหลายจุด และนี่คือรายงานข่าวสั้นๆ จากผู้ร่วมชุมนุมของม็อบสีลม ซึ่งเปรียบเหมือนลำน้ำสายเล็กๆสู่แม่น้ำสายหลัก ที่ ราชดำเนิน

พรุ่งนี้คงต้องออกแรงอีกครั้ง หากมีการเดินไปยัง 12 จุดของสถานที่ราชการสำคัญๆ
ตามที่แกนนำ คุณสุเทพ เทือก... ได้ประกาศไว้

หมายเหตุ ยังหวั่นๆ ใจ และไม่เชื่อสนิทกับ ท่าทีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ว่าจริงใจ หรือ ไก่กา

ด้วยความเคารพ
รินรู้ดี

 

?สนธิ? ร้อง ?พันธมิตรฯ? ออกไปช่วย ?สุเทพ-คปท.? เพื่อเป้าหมายปฏิรูปประเทศ
http://www.oknation.net/blog/bunjerds/2013/11/25/entry-10
Posted by Bunjerds

“สนธิ” ร้อง “พันธมิตรฯ” ออกไปช่วย “สุเทพ-คปท.” เพื่อเป้าหมายปฏิรูปประเทศ
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000146451



อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เผย “สนธิ ลิ้มทองกุล” ขอร้องให้พันธมิตรฯ ไปช่วยปกป้องคุ้มครอง “สุเทพ” ที่กระทรวงการคลัง และ “คปท.” กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จ ชี้ความสำคัญยืนหยัดได้เท่าไหร่ เชื่อเดิมพันสูง “ต้องชนะสถานเดียว”

วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 18.25 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่น 2 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ระบุว่า “คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ให้ผมแจ้งทุกท่านให้ทราบว่า คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ขอร้องให้พี่น้องประชาชนที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกไปช่วย คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้มากที่สุด ไปช่วยปกป้องคุ้มครองคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กระทรวงการคลัง เพื่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จ”

“คปท.เคลื่อนบุกที่กระทรวงการต่างประเทศแล้วนะครับ จำเป็นต้องมีมวลชนมากพอ เพื่อไม่ให้ถูกสลายเช่นกันนะครับ ความสำคัญในเวลานี้ไม่ใช่เพียงแค่การมาชุมนุมในช่วงหัวค่ำแล้วกลับบ้าน แต่ความสำคัญอยู่ที่การยืนหยัดได้นานเท่าไหร่มากกว่า อย่าลืมไปสนับสนุนกลุ่มนี้ด้วยนะครับ”

“คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แจ้งว่าขอร้องให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกไปช่วยทั้งเวที 2 ที่ คือ 1.กระทรวงการคลัง นำโดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ 2.กระทรวงการต่างประเทศ นำโดย คปท.” ปานเทพกล่าว

นายปานเทพ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “1.การเข้ายึดกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง รวมถึงการตัดน้ำตัดไฟโดยการสั่งการ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ถือเป็นการเคลื่อนที่หยุดอำนาจการสั่งจ่ายงบประมาณแผ่นดิน ส่งผลต่อการหยุดอำนาจรัฐไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือว่าคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ใจถึงมาก มีเดิมพันสูง “ต้องชนะสถานเดียว”!!!

2.ฝ่ายอำนาจรัฐคงไม่น่าจะอยู่เฉยได้ คงมีการตอบโต้จากอำนาจรัฐ ทั้งคดีความ และการเข้าจับกุม ถ้ามีมวลชนน้อยสถานภาพ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จะตกอยู่ในอันตรายทันที ดังนั้นใครสนับสนุนคุณสุเทพ เทือกสุบรรรณ ต้องช่วยออกไปที่กระทรวงการคลังให้มาก และต้องช่วยยืนหยัดให้นานประมาณ 2-10 วันเป็นอย่างน้อย ก่อนเข้าช่วงเวลามหามงคล 5 ธันวาฯที่จะเข้าสู่ช่วงเวลามหามงคลที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน

3.การประกาศสถาปนาสภาประชาชน และรัฐบาลประชาชนของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ในเวลานี้ ทำให้คุณสุเทพ จะมี 2 สถานภาพต่อไปให้เลือกเท่านั้นคือ 1.ผู้นำการปฏิวัติประเทศโดยประชาชน หรือ 2.กบฏ/งานนี้ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ใจถึงมาก ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จและได้รับความปลอดภัยครับ”

 

ต้องบอกว่าอ่านแล้ว โคตรจุใจเลยครับท่าน กบแดง งั้นผมเล่าในส่วนของผมเสริม ในวันนั้นจำได้ว่าเป็นเช้าวันอาทิตย์

ผมไปอยู่ที่บางบัวทอง มีกิจกรรมพยายามรวมพลแดงเพื่อไปร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. 56 แต่ปรากฏว่าผู้ไปร่วมงาน

ไม่มากนัก ขาประจำแถวบ้านที่ไปร่วมชุมนุมก็ไม่ยอมออกจากบ้าน ด้วยความคุ้นเคยกันเลยไปสอบถามว่าทำไม ตำตอบ

ประมาณว่างานนี้ค่าแรงไม่คุ้ม เพราะเมื่อการชุมนุมที่เมืองทองที่ผ่านมาแกไม่ได้รับเงิน ช่วงนั้น ธง นปช ที่เคยปักประกาศตัว

แต่ละแห่งหายไปกันหมด แสดงว่าหลายบ้านที่เคยได้รับเงินสนับสนุนก็ไม่ได้รับเงินแล้ว ขณะที่รากหญ้าบางคนเช่น

คนขับรถเร่ขายของที่ประกาศตัวว่า เป็นองครักษ์พิทักษ์ปู ก็ปลดป้ายอันแสนภาคภูมิใจของเขา คงเหลือแต่หัวขบวนแดง

ที่เป็นอดีตอัยการที่ทำได้แค่นั่งบ่นหน้าบ้าน มองพวกนกหวีดค่อย ๆ ทยอยขึ้นรถตู้คันแล้วคันเล่าไปที่ปิ่นเกล้าตั้งแต่เช้า

ผมนัดกับข้างบ้านที่เป็นหัวหอกในซอยขับรถไปจอดที่พาต้าปิ่นเกล้า ตอนบ่าย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รถติดแล้วโคตรสุขใจเลย

มองเห็นพี่น้องต่างเบียดเสียดกันเดินไปที่สะพานปิ่นเกล้าเนื่องจากตำรวจปิดการจราจรที่แยกอรุณอัมรินทร์ เราหาอะไรกินกันใน

ห้างพาต้า โอ้แม่เจ้า ม๊อบคนดีนั่งกินกันเต็มทั้งในร้านหรู จนกระทั่งนั่งพื้นกินอาหารในห้าง ยอมรับว่ากินไปน้ำตาไหลไป

เป็นน้ำตาของความตื้นตัน บอกตรง ๆ มันไม่ใช่ม๊อบจัดตั้งที่ต้องเข้าไปกินอาหารในพื้นที่ แต่เป็นม๊อบของคนอุดมการณ์เดียวกัน

ทุกชนชั้น ทุกเพศทุกวัย ผมเขิน ๆ ไม่กล้าคล้องนกหวีดตอนแรก แต่แล้วก็คล้องอย่างภาคภูมิใจเดินกินอะไรเรียบร้อย

ด้วยความเป็นห่วงว่าจะไม่ได้เข้าร่วมชุมนุม ซักบ่าย 2 เริ่มต้นเดินไปพร้อมกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์รู้สึกเสมือนสายน้ำไม่มีวัน

ขาดสาย คือไหลตามคนไป ยิ่งเดินคนยิ่งแน่น เลยตัดสินใจกันว่าไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น นึกในใจ ขอโทษครับลุงกำนัน ผมมาได้แค่นี้

55555 งานนั้นทำให้ผมรู้ว่าถ้าถนนสายตรงไปไม่ได้เราก็ต้องอ้อมไป ตั้งใจในตอนนั้นว่าจะอยู่ให้ดึกที่สุด เราเดินเรื่อยมา จนได้ที่พัก

เหมาะๆก็บ่าย 4 โมงกว่าแล้วคือ ตรงกลางถนนที่ กทม เอาต้นไม้มาปลูก แหมะอยู่ประมาณหน้าศึกษาภัณฑ์ ปรากฏว่าผมหลับๆ

ตื่นๆ ฟังปราศรัยไม่รู้เรื่อง แต่พอยามเย็นเห็นบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่เดินออกมาร่วมชุมนุม เห็นท่านหนึ่งใช้ไม้เท้าพยุงกาย ยืนพิงรถฟัง

อย่างสงบ นานเหมือนกัน ตรงที่ผมนั่งหลายคนก็หลับด้วยความอ่อนเพลียเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน อ้อ...ตรงที่ผมนั่งใกล้ ๆ รถห้องน้ำ

ของ กทม ซึ่งมีกลิ่นค่อนข้างแรงคนถึงไม่นั่งกันมาก อยากบอกลุงกำนันนะ ถ้าไม่รักกันจริงไม่มานอนดมเยี่ยวกลางแดดร้อน ๆ

นะเออ วันนั้นไม่ทันได้ฟังลุงกำนันปราศรัย เดินออกมาก่อนเพราะต้องไปส่งพรรคพวกที่บางบัวทอง ขากลับด้วยความเหนื่อยอ่อน

เราไม่ได้สนใจอะไร คล้องนกหวีด ใส่เสื้อผู้ชุมนุม กำลังจะแวะหาอะไรกินข้างทาง พวกที่นั่งรถมาด้วยทักว่า เราใส่เสื้อผู้ชุมนุม

ลงไปเจอแจ๊คพอตเสื้อแดงขายของจะงานงอกเอานา สรุปว่าคืนนั้นเลยต้องกลับไปกินมาม่าบ้านใครบ้านมัน

ปูลู คืนนั้นเสียดาย ไม่ได้ฟังน้องมัดหมี่ร้องเพลง ในหลวงของแผ่นดิน

 

ขณะเดียวกันที่รัชมังคลาก็มีการชุมนุมของ นปช มีการจัดตั้งภาพลวง เช่น กปปส มีเด็กอาชีวะ

นปช ก็สร้างกลุ่มอาชีวะ โดยอุปโลก ตั้ง อาชีวะ เป็นแกนนำ ทำให้เกิดความสับสนเป็นวงกว้าง

ซึ่งภายหลังกลายเป็นรายการเด็กเลี้ยงแกะ เพื่อสร้างภาพให้ผู้ที่จะตัดสินใจเกิดการลังเล ในการจัดการคนชั่ว

 

บรรยากาศ ยามเช้า วันนี้ของปีที่แล้ว
วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 16:12:15 น.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.ปชป. แกนนำการชุมนุมที่่อนุสาวรีย์ประชาธิปไทย ถนนราชดำเนิน พร้อมคณะ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปปัตย์ ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ โดยมีหลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยมารับบิณฑบาต ที่ข้างเวทีปราศรัย วันที่ 24 พฤศจิกายน

 

ไม่ลงอันนี้เสียชื่อม๊อบลุงกำนันแย่เลย ที่มา http://www.thairath.co.th/content/382992

จากการชุมนุมทางการเมืองมีม็อบอยู่ในหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวกันของประชาคม 4 จุดเคลื่อนพลมารวมตัวกันที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินซึ่งตรงนี่เป็นจุดที่ใหญ่มากมีคนมาเข้าร่วมการชุมนุมอย่างคึกคัก ถัดออกไปเป็นอีกจุดที่สะพานมัฆวาน และกองทัพธรรม วันนี้ไทยรัฐออนไลน์จะมาประมวลภาพอาหารจากม็อบทั้ง 3 จุดมาให้ได้ดูกัน






'ครัวประชาธิปัตย์' จากเวทีราชดำเนิน ครัวที่นี่จะมีร้านอาหารประมาณสี่สิบกว่าเกือบห้าสิบร้าน ส่วนใหญ่เป็นอาหารจากทางใต้ จะมีจำพวกก๋วยเตี๋ยวเยอะ ไม่ว่าจะเป็น เกี๋ยวเตี๋ยวน้ำใส กระเพาะปลา มาจากทั่วประเทศ จากกรุงเทพฯ ก็มีจะมีพวกก๋วยเตี๋ยว ส่วนข้าวแกงจะมาจากทางใต้ ทางอีสานก็มีผัดหมี่โคราช ทุกๆ วันมีการสับเปลี่ยนอาหาร โดยเฉพาะครัวข้าวแกงจะมีการเปลี่ยนเมนูทุกวัน หลักๆ เป็นพะแนงไก่ แกงไก่ ไก่ทอด และดึกๆ เป็นข้าวไข่เจียว ทุกครัวทุกร้านเน้นที่มีความสะอาดเป็นหลัก ในทุกๆ วันมีการเก็บกวาดร้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีร้านอิสลามอยู่คอยบริการชาวอิสลามประมาณ 3 ร้าน มีร้านข้าวเหนียวหมูจากเมืองกาญจน์ ใช้หมูประมาณวันละ 200 กิโล ส่วนเรื่องรสชาติของความอร่อย

 

แม่ครัวจากครัวภูเก็ตบอกกับไทยรัฐออนไลน์ว่า "มีคนร้อยพ่อพันแม่ ของกินก็เป็นของฟรีเราก็ไม่สามารถจะไปรู้ได้ว่าอันไหนถูกปากไม่ถูกปากเขา แต่เรายึึดความสะอาดเป็นหลัก เพราะว่าเราคิดว่าเราทานข้าวเรายังต้องการความสะอาดเลย เราก็นึกถึงคนอื่นด้วย"

ส่วนแม่ครัวจาก 'ครัวกองทัพธรรม' กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.) ที่เวทีผ่านฟ้า กองทัพประชาชนฯและกองทัพธรรม บอกว่า ครัวนี้มีจุดเด่นที่เป็นอาหารมังสวิรัติ เน้นพวกผักไร้สารเราจะส่งมาทุกวันวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ เสาร์ เราจะส่งผักมาเป็นผักไร้สารมาตรงนี้ พันธมิตรก็จะเอามาบริจาคเราก็มีแต่เราก็ต้องล้างใช้แช่ 15 นาที ทุกวันอาหารจะไม่ซ้ำมีอาหารให้ตั้งแต่เช้า 8 โมงครึ่ง จนบ่ายเราจะพักและจะมีมาเปลี่ยนกะกันตอนบ่ายสามโมงจนกระทั่งเลิกการชุมนุม จนกว่าอาหารจะหมดเลิกประมาณสามทุ่ม เน้นพวกโปรตีน ไม่มีเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นร้านอื่นก็จะเป็นแบบมีคนมาบริจาคเอง มาทำกันเอง มีประมาณ 3-4 ร้าน มีข้าวผัดบ้าง ก๋วยเตี๋ยวหมู ข้าวมันไก่บ้าง ส่วนอาหารมังสวิรัติมีคนมากินเยอะมากหมดทุกวันไม่มีเหลือ

 

ด้าน 'ครัวจากกลุ่มแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย'(คปท.) หรือที่สะพานมัฆวาน จากการสำรวจของไทยรัฐออนไลน์ ที่นี่จะเน้นเป็นอาหารแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก มีวัตถุดิบแต่ไม่กี่อย่าง ครัวนี้จะเน้นกินง่ายๆ เช่น ข้าวไข่เจียวที่ฮอตฮิตมีคนต่อแถวกันยาวเหยียดเลยทีเดียว และยังมีขนมจีนที่หมดเร็วเหลือแค่น้ำยาก้นหม้อ นอกจากนี้ยังมีหอยทอดคอยบริการอีกด้วย และมีข้าวโพดต้มรวงเหลืองอร่ามน่ากินทีเดียวเชียว

 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแสดงดนตรีต่างๆ เพื่อให้ความบันเทิงกับประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมอีกด้วย มีการผ่อยคลายอารมณ์ผู้ชุมนุมด้วยวงดนตรี ไม่ว่าจะเป็น สุเทพ วงศ์คำแหง เจ้าตำนานนักร้องลูกกรุง, นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี นักเป่าขลุ่ยมือทอง ขึ้นสร้างสีสันด้วย และยังมีบรรดานักแสดง นักร้อง คนดังสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีอย่างไม่ขาดสาย สร้างความครึกครื้นและความหรรษาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว...

 

มีภาพติดมาโฟสเดอร์เดียว ภาพที่ทำให้ทุกคนมีความฮึกเหิม

 

เคยคุยกับแท๊กซี่เสื้อแดง มันบอกว่าช่วงนั้นมันเข้าไปกินฟรีอยู่บ่อยๆ

 

ที่มา http://www.oknation.net/blog/niwedsiam/2009/08/01/entry-1
แท็กซี่เสื้อแดงของแท้แบบนี้ ชัวร์ 1000%
V
V
V



แต่มันออกจะเก่าเกินอายุ เสี่ยงกันเล็กน้อย

 

ขอบคุณครับ
คิดถึง กปปส.มาก
ผมอยากให้ยิ่งลักษณ์ กลับมาเป็นนายกอีกเร็วๆ

 

6 เดือนเต็มๆ ยังไม่เหนื่อยอีกหรือ

 

Kanok Ratwongsakul Fan Page
ครบ 1 ปี "วันมวลมหาประชาชน" วันที่มีการชุมนุมทางการเมือง ณ สถานที่หนึ่ง มากที่สุดในประเทศไทย! ด้วยจำนวนหลักล้านขึ้น! บ้างก็บอกว่า 2 ล้าน บ้างก็บอกมากกว่านั้น ...คลื่นมหาชนเต็มแน่นถนนราชดำเนินกลาง จนทะลักข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ...วันนี้..ไม่ว่าท่านจะทำอะไรอยู่ หยุดคิดถึงเหตุการณ์วันนั้น และคิดถึง "พวกเรา" ที่ยืนชุมนุมด้วยกันในวันประวัติศาสตร์นะครับ
รายการLineกนก TalkaTive_Nation22

 

Anonymous Photographer
24 พย. 2556
เหตุการณ์ความวุ่นวายในการเตรียมงานสำหรับวันที่ 24 พย. 56 เริ่มมีการสั่งพิมพ์สติกเกอร์วันมวลมหาประชาชนจำนวน 1 ล้านใบ เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายทางสัญลักษณ์ในการแสดงว่าการชุมนุมนี้มีคนออกมากันมากแค่ไหน ต้องมีการเตรียมร้านอาหารและน้ำดื่มเพื่อรองรับประชาชนที่จะออกมาแสดงพลัง
เจ้าหน้าที่และอาสาทุกคนทำงานกันด้วยความรีบเร่ง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อหาร้านอาหารที่จะต้องมีเตรียมให้พร้อม ช่างภาพที่สองถูกมอบหมายหน้าที่ในการช่วยหาร้านอาหาร และจัดเตรียมเต้นท์สำหรับแจกจ่ายอาหารตลอดตั้งแต่ท้ายเวทียาวออกไปทางแยกคอกวัว ไปจนถึงสนามหลวง เธอไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะเป็นห่วงว่าทุกสิ่งจะไม่พร้อม เดินดูเต้นท์ที่จัดวาง และอำนวยความสะดวกให้กับร้านอาหารต่างๆที่จะมาเตรียมงานจนถึงรุ่งเช้า
ในคืนวันที่ 24 พย. 56 เราไม่สามารถเดินเข้าไปบริเวณเวทีได้ ถนนราชดำเนินและโดยรอบเต็มไปด้วยผู้คน แน่นจนเดินไม่ได้ ผมและช่างภาพที่สองมานั่งอยู่ที่เต้นท์อาหารซึ่งเป็นร้านของเพื่อนที่มาออกงานและคอยช่วยเหลือผู้คนอยู่บริเวณขอบสนามหลวงตรงทางขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ตัวผมเองก็ได้แต่เดินถ่ายภาพเล่นๆอยู่แถวๆนั้น
วันนั้นคนเยอะ เหนื่อยจัด เห็นคนมามากมาย นั่งอยู่ในสนามหลวง ตามท้องถนน ยาวขึ้นไปสะพานพระปิ่นเกล้า
ภาพชุดนี้อาจจะไม่ได้ดูอลังการณ์เป็นภาพผู้คนมุมสูง แต่ภาพชุดนี้เป็นภาพของประสบการณ์ส่วนบุคคลของทีม Anonymous Photographer ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนร่วมล้านคนที่ออกมาแสดงพลัง

คิดถึงทุกๆท่านนะครับ
ปล. ถ้าผมจำไม่ผิด ป้ายสติกเกอร์ที่แจกๆกันในวันนั้น ใครเก็บสติกเกอร์นี้ไว้ อย่าลืมว่า คุณโบว์เป็นคนช่วยออกแบบ ควบคุมการผลิตและสั่งพิมพ์




















24 พฤจิกายน 2556 ราชดำเนินคนเกินล้าน
24 พฤศจิกายน 2013 · · ถ่ายที่ สนามหลวง วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง
ใครเห็นภาพชุดนี้คงแปลกใจว่ามันเป็นราชดำเนินคนเกินล้านตรงไหน ผมขออนุญาติแจ้งก่อนเลยครับ ว่าในวันที่ 24 พ.ย. ที่กำนันสุเทพเชิญมวลมหาประชาชนออกมาร่วมใจกันที่ราชดำเนินนั้น

ทางทีม Anonymous Photographer เป็นผู้ช่วยดูแลร้านอาหารกว่า 200 ร้านที่ถูกเตรียมไว้รองรับมวลชนที่แวะเวียนมาตามคำเชิญ เตรียมงานก่อนสองวัน ช่างภาพที่สองแทบไม่ได้หลับนอน เสร็จจากการจัดแจงร้านค้าก็ต้องมาช่วยเฝ้าร้านอาหารของเพื่อนที่มาออกงานในวันนั้นด้วย

ส่วนภาพนี่บอกได้เลยครับว่าไม่ได้เรื่อง เพราะสภาพแสงมืดมาก ขอแค่ถ่ายติดเป็นพอ และอุปสรรค์ที่สำคัญที่สุดคือมวลมหาประชาชนที่หลังไหลกันมาจนแม้แต่ตัวผมเองก็แทบจะเดินไปไหนไม่ได้.

แต่ผมก็อยากโพสให้ได้ดูบรรยากาศกันนะครับ ภาพอาจจะหมาไม่กิน ด้วยภาระหน้าที่ในวันนั้น ผมก็ทำดีที่สุดได้เท่านี้ครับ

 

... คิดถึง ลุง ป้า น้า อา พ่อ แม่ พี่ น้อง ทุกคน
... คิดถึงครัวทุกครัวที่เคยฝากท้องไว้
... คิดถึงจิตอาสาทุกท่านที่ร่วมกันเสียสละเพื่อส่วนรวม

 

แล้วได้กิน ที่ "" ครัวจิรายุ " มั้ยยยย!!!

 

24 พ.ย. 56 มีการถ่ายภาพด้วย โดรน เวลา 14.30

ภาพถ่ายจากโดรนบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตค 16 เวลาประมาณ 18.00 น

วันนั้นเวลา 18.00 น ก็มีการเคารพธงชาติตามปกติ ความรู้สึกผมตอนนั้นคือ รัฐบาลกับประเทศชาติ เป็นคนละเรื่องกัน

แล้วในเวลาประมาณ 21.00 น ลุงกำนัน ปราศรัย ตลอดจนแจ้งแผนดาวกระจายที่จะนำมวลชนไปเยี่ยมสถานที่ราชการต่าง ๆ

วันนั้น ความรู้สึกผมบอกว่าเราไม่แพ้แน่นอน การที่รัฐบาลบอกว่ามีคนชุมนุม 4 หมื่นคนช่างรู้สึกขัดแย้งกับภาพที่เห็น

ดูฝั่งเสื้อแดงที่รัชมังคลาบ้าง ในขณะเดียวกัน ขนาดจ้างแล้วยังไม่มีคนมา

ขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เตรียมตัวสำหรับการยื่นมติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในสภา

 

ประมวลภาพ หน้ากระทรวงการคลัง ๒๕ พ.ย. ๒๕๕๖
Posted by arpo

ประมวลภาพ หน้ากระทรวงการคลัง ๒๕ พ.ย. ๒๕๕๖









.

.

.

.

.

.

 

ไทม์ไลน์ 25 พ.ย. 56 การเคลื่อนขบวนของ กปปส ที่มา http://dailynews.co.th/Content/Article/197281/เกาะติดม็อบ+25+พ.ย.+56

• 

"เดลินิวส์ออนไลน์" เกาะสถานการณ์การชุมนุมทั่วกรุง 25 พ.ย. 2556 ราชดำเนินดาวกระจาย 13 เส้นทาง

วันจันทร์ 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09:08 น.
"เดลินิวส์ออนไลน์" เกาะสถานการณ์การชุมนุมทั่วกรุง 25 พ.ย. 2556 ราชดำเนินดาวกระจาย 13 เส้นทาง คปท.-กปท.กดดันทำเนียบ เสื้อแดงยังปักหลักราชมังคลา สุเทพพาม็อบยึก ก.คลัง-สำนักงบฯ-กรมประชาสัมพันธ์ คปท.ยึดพื้นที่ก.ต่างประเทศ


(08.00น.) ราชดำเนินดาวกระจาย

เมื่อเวลา 08.00 น. ที่เวทีราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมคึกคักตั้งแต่เช้า บนเวทีมีการจัดรายการเล่าข่าวที่ถูกรายงานจากสื่อต่างๆ กระทั่งเวลา 08.30 น. แกนนำผู้ชุมนุมเริ่มเคลื่อนพลดาวกระจายไป 13 เส้นทางตามที่ประกาศไว้

ด้านเวทีชุมนุมคปท. ที่แยกนางเลิ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนส่วนใหญ่ปักหลักอยู่หน้าเวทีเพื่อฟังปราศรัย และเตรียมเคลื่อนขบวนในเวลา 09.00 น.

ขณะที่เวทีราชมังคลากีฬาสถาน จุดชุมนุมของคนเสื้อแดง บรรยากาศในช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวพบว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ปักหลักค้างคืนแยกย้ายกันทำกิจวัตรส่วนตัว รับประทานอาหารเช้า ขณะที่บนเวทีมีตัวแทนคนเสื้อแดงจากพื้นที่ต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย

13 เส้นทาง เดินอารยะ

สำหรับ 13 เส้นทาง เดินอารยะขัดขืนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มต่อต้านกฎหมายล้างผิด ประกาศไว้นั้น ประกอบด้วย 1.กองบัชญาการทหารสูงสุด ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ, 2.กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง, 3.กองทัพบก, 4.กองบัญชาการกองทัพเรือ, 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, 6.กองบัญชาการตำรวจนครบาล

7.สถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 8.สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, 9.สถานีโทรทัศน์ช่อง 7, 10.สถานีโทรทัศน์ช่อง 9, 11.สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์, 12.กระทรวงมหาดไทย, และ 13.สำนักงบประมาณ

ทั้งนี้ตามการประกาศของนายสุเทพวานนี้ (24 พ.ย.) ระบุด้วยว่า เมื่อผู้ชุมนุมเดินถึงที่หมายจะนำนกหวีด ธงชาติ และดอกไม้มอบให้ จากนั้นจะเดินทางกลับที่ชุมนุมราชดำเนิน

ราชดำเนินเคลื่อนขบวนคึกคัก

ที่เวทีราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเคลื่อนขบวนเดินอารยะว่า เป็นไปอย่างคึกคัก โดยแกนนำขึ้นประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมทราบว่า จุดรวมตัวของแต่ละเส้นทางอยู่บริเวณใด ใครเป็นแกนนำ และแจ้งทิศทางในการเดิน โดยให้ผู้ชุมนุมเลือกเส้นทางตามความสมัครใจ ขณะที่บรรยากาศในแต่ละขบวน ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะเดินโบกธงชาติ เป่านกหวีด และเขย่ามือตบ

(09.50น.) ม็อบนกหวีดติดด่านบช.น.

09.50 น. บรรยากาศบริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ถนนศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการวางกำลังตำรวจ แบริเออร์ รั้วลวดหนาว ส่งผลให้ผู้ชุมนุมยังไม่สามารถเคลื่อนขบวนเข้าไปยังบช.น.ได้ ส่งผลให้ นายชุมพล จุลใส แกนนำของเส้นทางดังกล่าว ใช้เครื่องขยายเสียงเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะขอเข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. และขอให้ผู้ชุมนุมอย่าปะทะ หรือทำร้ายตำรวจ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปได้ นายชุมพล จึงปราศรัยต่อด้วยเนื้อหาโจมตีรัฐบาลกับการดูแลตำรวจ ขณะที่ฝั่งตำรวจ เจรจาผ่านเครื่องขยายเสียงเป็นระยะ

กระทั่งเวลาราว 10.40 น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบ.ชน. เป็นตัวแทนออกมาเจรจา เนื่องจากพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ติดภารกิจ โดยผลการเจรจาตกลงกันได้ว่า จะมีเพียงผู้ชุมนุมหญิงเท่านั้นที่เข้ามามอบดอกไม้ นกหวีด และธงชาติ ซึ่งการมอบของดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง

(10.25น.) คปท.เคลื่อนพลแล้ว ไม่บอกที่หมาย

10.25 น. ที่เวทีชุมนุมแยกนางเลิ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำคปท.เรียกผู้ชุมนุมตั้งขบวน และเคลื่อนออกจากที่ชุมนุมแล้ว โดยใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก ตรงไปแยกยมราช แล้วเลี้ยวซ้าย โดยแกนนำประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงจากหัวขบวนว่า ให้ผู้ชุมนุมติดตามฟังทิศทางการเดินให้ดี เนื่องจากจะไม่ประกาศจุดหมาย ทั้งนี้การคาดการณ์ของแกนนำยังระบุด้วยว่า วันนี้ผู้ชุมนุมคปท.ที่มาร่วมขบวนมีมากกว่าคืนวานถึง 2 เท่า

ขบวนสุเทพแถวยาวเหยียด

บรรยากาศการเคลื่อนขบวนเดินอารยะมุ่งหน้าสำนักงบประมาณ ที่มีนายสุเทพเป็นแกนนำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนดังกล่าวเดินมาถึงหน้ากระทรวงการต่างประเทศ มีกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ที่ใช้สัญลักษณ์ธงสีส้มยืนรอเข้าร่วมขบวนไปด้วย จากนั้นขบวนของนายสุเทพเดินผ่านหน้าโรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวนผู้ร่วมเดินขบวนในเวลาราว 10.40 น. เป็นแถวยาวจนไม่สามารถมองเห็นท้ายแถวได้

ดาวกระจายเยี่ยมสื่อ

สำหรับการเคลื่อนขบวนเดินอารยะไปยังสำนักงานของสถานีโทรทัศน์ ช่องฟรีทีวีต่างๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางไปรอยังหน้าสถานีโทรทัศน์ที่หมายก่อนขบวนจะมาถึง โดยในเวลาราว 11.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 รายงานว่า มีผู้ชุมนุมเข้ามอบนกหวีด ดอกไม้ และธงชาติให้บรรณาธิการข่าว ขณะที่หน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 มีผู้ชุมนุมรวมตัวรออยู่เป็นจำนวนมากเจ้าหน้าที่ของสถานีปิดประตูรั้วใหญ่ โดยไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านใน เช่นเดียวกับที่ช่อง 3 ช่อง 9 และช่อง 11

สำหรับบรรยากาศล่าสุดทีหน้าอาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 มีรายงานว่า ผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแนวรั้วกั้นเข้าไปภายในบริเวณใกล้ตัวอาคารได้แล้ว ขณะที่แกนนำยังคงกล่าวปราศรัยต่อเนื่อง โดยไม่มีการบุกเข้าภายในอาคาร ต่อมาในเวลา 13.30 น. นายวิบูลย์ ลีรัตนขจร เป็นตัวแทนผู้บริหารช่อง 3 ออกมาเจรจากับผู้ชุมนุมหน้าอาคาร ผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่า ช่อง 3 พร้อมบริการน้ำดื่ม และห้องสุขา ขณะที่ข้อเรียกร้องขอพบนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการนั้น นายวิบูลย์รับว่าจะติดต่อให้นายสรยุทธ์มาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะมาถึงก่อนเวลา 16.00 น.

(11.00น.) ชื่นมื่นดาวกระจาย ทบ.-ทอ.-ทร.

เวลาราว 11.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนผูุ้ชุมนุมราชดำเนิน ซึ่งมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ โฆษกกลุ่มต่อต้านกฎหมายล้างผิด เป็นผู้นำขบวนได้เดินเท้ามาถึงหน้ากองทัพบก เพื่อขอพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. แต่ทางกองทัพบกส่ง พ.อ.วัชระ นิตยสุทธิ์ รองเลขาฯ ทบ. ออกมาเป็นตัวแทนรับมอบ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวกับพ.อ.วัชระ ว่า ฝากดอกไม้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย

ที่บริเวณหน้าฐานทัพอากาศดอนเมือง กลุ่มผู้ชุมนุม นำโดยนายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำราชดำเนิน และนายแทนคุณ จิตอิสระ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตดอนเมือง มายื่นหนังสือเรียกร้องให้ทหารอากาศออกมาร่วมทำการอารยะขัดขืนเพื่อต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ร่วมกันกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาล ก่อนจะมอบดอกไม้และนกหวีด ให้ทหารอากาศ และแยกย้ายสลายตัวกันในเวลา 13.30 น.

ส่วนด้านหน้าบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผอ.สำนักข่าวทีนิวส์ เป็นแกนนำผู้ชุมนุมราชดำเนิน มามอบนกหวีด ดอกไม้ให้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และเรียกร้องให้ทหารเรือมาอยู่ข้างเดียวกับประชาชน ทั้งนี้ ผบ.ทร. ได้มอบหมายให้ พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ เป็นผู้แทนรับเรื่องแทน จากนั้นผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนกลับราชดำเนิน

(11.00น.) แห่ไล่ธาริต หลังไปกองทัพไทย

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำเวทีราชดำเนิน นำผู้ชุมนุเคลื่อนขบวนมาถึงในเวลา 11.00 น. จากนั้นได้อ่านแถลงการณ์ให้กำลังใจทหาร ขอให้ออกมาต่อสู้เคียงข้างประชาชน ทั้งนี้ยืนยันว่ามาชุมนุมอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ จากนั้นพร้อมใจกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี รวมถึงมอบธงชาติ นกหวีดและดอกกุหลาบให้กับ พล.ต.ก่อเกียรติ พิทักษ์วงศ์ เลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทย ตัวแทนผู้รับมอบ ทั้งนี้ นายสกลธี ปราศรัยว่า จะให้เวลาทหารในการตัดสินใจแสดงท่าทีภายใน 3วัน พร้อมประกาศจะมีการยกระดับชุมนุมทุกวันไปจนถึงวันที่ 26 พ.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการชุมนุมที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายสกลธี ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไปเป่านกหวีดที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งรอบบริเวณอาคารมีการนำรั้วเหล็กมากั้นรอบบริเวณถึง 2 ชั้น และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อยอยู่ภายในรั้ว โดยผู้ชุมนุมต้องการมาแสดงพลังเป่านกหวีดต่อต้านมาตรการที่ดีเอสไอประกาศจะดำเนินคดีกับผู้ที่เป่านกหวีด และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ หลังจากนั้น นายสกลธี ได้ปีนรั้วเข้ามามอบธงชาติให้กับตัวแทนดีเอสไอ เพื่อนำไปมอบให้นายธาริตเพื่อให้รำลึกถึงประเทศชาติ

(11.25น.) สุเทพนำม็อบปิดหน้าสำนักงบฯ

เมื่อเวลา 11.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนของนายสุเทพ เดินเท้าถึงหน้าสำนักงบประมาณแล้ว โดยนายสุเทพขึ้นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่และประกาศจัดระเบียบผู้ชุมนุม พร้อมกำชับว่า ให้ใจเย็น และเป็นระเบียบ หากมีที่ว่างขอให้นั่งกันจนเต็มพื้นที่ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และนั่งเฝ้าหน้าสำนักงบประมาณไปก่อน

กระทั่งถึงเวลาพักกลางวัน 12.00 น. ประตูรั้วกระทรวงการคลังเปิดให้ข้าราชการเดินออกไปพักกลางวัน มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามขยับเข้าด้านใน แต่นายสุเทพประกาศห้าม พร้อมให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้้ข้าราชการเดินออกมาได้อย่างสะดวก

(11.30น.) ม็อบปิดพระราม1หน้าสตช.

11.30 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำกลุ่มต่อต้านกฎหมายนิรโทษ ผู้นำขบวนเดินอารยะไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ปักหลักรอพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมกับผู้ชุมนุมจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรบริเวณถนนพระราม 1 ฝั่งสตช. ตั้งแต่แยกราชประสงค์จนถึงแยกเฉลิมเผ่าถูกปิดไปโดยปริยาย ทั้งนี้มีรายงานว่า เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ เดินทางมาติดตามสถานการณ์การชุมนุมอยู่ภายในสตช.

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 15.00 น. นายพุทธิพงษ์ ได้นำผู้ชุมนุมกลับราชดำเนิน หลังจากได้เข้าไปพบ พล.ต.อ.อุดม รักศีลธรรม รอง ผบ.ตร. เพื่อแจ้ง 4 ข้อเรียกร้อง คือ ขอให้ดูแลผู้ชุมนุม, ลงโทษตำรวจเลือกข้าง, ดำเนินการปิดเว็บหมิ่นสถาบัน, และให้ตำรวจร่วมชุมนุมได้

(11.50น.) คปท.เรียกคนฟิตอยู่หัวขบวน มุ่งหน้าทำเนียบฯ

เมื่อเวลา 10.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมคปท.ซึ่งเดินมาจากแยกนางเลิ้ง ได้หยุดพักที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นในเวลา 11.50 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออก มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยแกนนำประกาศขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมชายที่มีร่างกายแข็งแรงขยับขึ้นมาเดินนำที่หัวขบวน

 

(13.00น.) จตุพรลั่นเสื้อแดงจะมากกว่าเดิม

เวลา 13.00 น. ที่ราชมังคลาฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ขึ้นแถลงบนเวทีปราศรัยว่า คืนนี้คนเสื้อแดงและประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะมาร่วมชุมนุมมากกว่าวานนี้ (24 พ.ย.) มีหลายคนกังวลต่อสถานการณ์การเคลื่อนมวลชนของนายสุเทพ ไปยังหน่วยงานราชการหลายแห่ง รวมถึงสำนักงบประมาณ มีเป้าหมายเพื่อหยุดการบริหารประเทศ เขาคิดว่าสำนักงบประมาณคือหัวใจของการบริหารประเทศ แต่ตนขอบอกว่า เชิญปิดต่อไป ถึงอย่างไรก็ยังบริหารประเทศต่อไปได้ แต่คนที่เดือดร้อนคือประชาชน

วิเคราะห์ที่บช.น.อ่อนไหวสุด

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การบุกสื่อสถานีโทรทัศน์นั้น ไม่เข้าใจว่า นายสุเทพทำไปทำไม ส่วนการเคลื่อนขบวนของราชดำเนิน จุดของนายชุมพล จุลใส ที่บช.น ถือว่าอ่อนไหวที่สุด จึงขอเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ต้องคิดมาก ให้ออกหมายจับดำเนินการตามกฎหมายได้เลย ทั้งนี้ นายกฯได้แถลงข่าวอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการยุบสภาอย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้นายสุเทพมีทางเลือกเดียวเท่านั้นคือผูกคอตาย

นายสุเทพจะไปที่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่ขอเรียนไปยังพี่น้องเสื้อแดงว่าเราจะยังยืนหยัดอยู่ที่ราชมังคลาฯ ร้ิองรำทำเพลงต่อไป อย่าไปเครียดตามเขา ซึ่งการที่นายสุเทพได้ออกมากล่าวว่าถ้าไม่ชนะจะไม่กลับบ้านนั้นพูดถูกแล้ว เพราะเขาจะไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปเข้าคุกแทน

(13.50น.) ม็อบนกหวีดยึดพื้นที่สำนักงบ-ก.คลัง

เมื่อเวลา 13.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าพื้นที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง โดยให้เข้าไปทุกตึก ทุกชั้น ทุกห้อง แล้วนั่งเฉยๆ ไม่ทำร้ายผู้ใด อย่าทำลายทรัพย์สิน อย่าหยิบฉวยสิ่งของ ขณะเดียวกัน นายสุเทพ ยังให้การ์ดราชดำเนินปิดถนนเข้า-ออกบริเวณนี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในเวลา 14.00 น. นายสุเทพ ประกาศว่า ขณะนี้ไฟฟ้าที่สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังดับลงแล้ว

จากนั้น นายสุเทพ ยังประกาศให้การ์ดไปปิดประตูหลัง สำนักงบฯ ชั้น 6 และเรียกร้องให้อธิบดีฯ พาลูกน้องออกจากตึกให้หมด โดยถือว่าขณะนี้ถือว่าผู้ชุมนุมสามารถยึดกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และตัดน้ำ-ไฟ เพื่อปักหลักชุมนุมได้แล้ว

(14.00น.) คปท.พังรั้วลวดหนามแนวกั้นวัดเบญจมบิตร

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่แนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกวัดเบญขมบพิตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมคปท.ช่วยกันดึงรั้วลวดหนามออกจากแนวกั้น และโยนทิ้งลงไปในคลอง ก่อนเดินเข้าประชิดตำรวจทีละก้าว ตามคำสั่งของแกนนำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงพยายามเจรจาให้ผู้ชุมนุมหยุดฝ่าแนวกั้น

(14.50น.) เฉลยมาทำเนียบฯ แต่เป้าหมาย ก.คลัง!

14.50 น. บริเวณแนวกั้นแยกวัดเบญจมบิตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาคปท. ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ ก่อนนำผู้ชุมนุมกลับที่ตั้งว่า วันนี้แค่พาผู้ชุมนุมมาวอร์มหรืออุ่นเครื่อง วันนี้จึงขอพอแค่นี้ เป้าหมายเราอยู่ที่กระทรวงการคลัง ที่ทำเนียบรัฐบาลเข้าแน่นอน แต่ยังไม่ใช่วันนี้ ดังนั้นขอขอบคุณผู้ชุมนุมที่เป็นระเบียบ ขอบคุณตำรวจที่ไม่ใช้ความรุนแรง ตนขอนำขบวนผู้ชุมนุมกลับแยกนางเลิ้งเช่นเดิม

(15.30น.) สุเทพยึดอีก! กรมประชาสัมพันธ์

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประกาศจากรถนำขบวนว่า หลังจากที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งมุ่งหน้าไปยึดกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งอยู่ภายในซอยอารีย์สัมพันธ์เช่นเดียวกับกระทรวงการคลังนี้ ในที่สุดกรมประชาสัมพันธ์เป็นของเราแล้ว

จากนั้นนายสุเทพ กล่าวปราศรัยว่า รัฐบาลจะมีประกาศภาวะฉุกเฉินมาจับสุเทพและประชาชน แต่ไม่ต้องกลัวเราจะเข้าไปหลบในกระทรวงการคลัง เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะใช้ที่นี่ปักหลัก

(16.00น.) ม็อบนกหวีดเคลียร์ใจสรยุทธ์

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่หน้าอาคารมาลีนนท์ นายสรยุทธ์ ปรากฎและรับดอกไม้จากผู้ชุมนุม และรับทราบข้อเรียกร้องจากแกนนำที่ต้องการให้นำเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง โดยมีนายวิบูลย์ ตัวแทนพนักงานและผู้บริหารช่อง 3 คอยพูดคุยกับผู้ชุมนุมผ่านเครื่องขยายเสียง ทั้งนี้นายวิบูลย์ยังระบุด้วยว่า ม็อบที่มาในวันนี้ สุภาพดีที่สุดในโลก

(16.30น.) สรยุทธ์ยอมเป่านกหวีด แต่ปัดเลือกข้าง

อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักที่ช่อง 3 เพราะต้องการให้นายสรยุทธ์ออกมากล่าวชี้แจงเรื่องการนำเสนอข่าว กระทั่งเวลา 16.30 น. นายสรยุทธ์ ออกมาพบผู้ชุมนุมอีกครั้ง ใจความว่า ช่วงที่ไม่ได้อยู่ภายในช่อง 3 ยืนยันว่าไม่ได้หลบหน้า แต่เป็นการเดินทางไป-กลับตามปกติ เมื่อผู้ชุมนุมต้องการให้ช่อง 3 นำเสนอข่าวการชุมนุมของเวทีราชดำเนิน ขอให้ผู้ชุมนุมรักษาการแสดงออกด้วยความสงบ ต่อเนื่อง และอดทน ส่วนข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ตนเป่านกหวีดนั้น ในฐานะสื่อมวลชน ตนต้องนำเสนอข่าวด้วยความเท่าเทียม ดังนั้นการเป่านกหวีดตามข้อเรียกร้อง ตนขอให้สื่อถึงการให้กำลังใจผู้ชุมนุมต่อสู้เรียกร้องด้วยความสงบต่อไป จากนั้นผู้ชุมนุมจึงแยกย้ายกลับราชดำเนิน

(16.55น.) สุเทพ ย้ำพรุ่งนี้ยึดหน่วยงานราชการอีก!

16.55 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การยึดกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประชาชนมารวมตัวกัน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของประชาชนในการที่จะล้มระบอบทักษิณ โดยการยึดกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เป็นการยึดแบบสันติวิธี เป็นการยึดโดยประชาชน

สัญญาณของการยึดกระทรวงคลัง-สำนักงบฯ เพื่อให้พี่น้องประชาชนไทยยึดหน่วยงานราชการทุกแห่งในประเทศ ไม่ให้ระบอบทักษิณทำงานได้อีกต่อไป โดยเป็นการยึดโดยใช้พลังของประชาชนที่เข้ายึดอำนาจด้วยมือเปล่าของประชาชน ซึ่งเป็นแห่งเดียวของโลกและประชาชนชาวไทยทำได้

"รัฐบาลนี้สิ้นสภาพแล้ว เพราะไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่ารัฐบาลนี้ได้สิ้นสภาพไปแล้ว ไม่ต้องเจรจากับประชาชนแล้ว และสภานี้เป็นโมฆะไปแล้ว เพราะมีประธานสภาที่ปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันนี้เห็นการยึดกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ พรุ่งนี้ก็ยังจะได้เห็นอีก ซึ่งการกระทำการนี้เป็นการกระทำการโดยประชาชนไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์"

ทั้งนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า จะเปิดเวทีที่กระทรวงการคลัง แต่จะไม่ยุบเวทีราชดำเนิน โดยทั้งสองจุดจะเป็นเวทีที่เชื่อมโยงกัน

(18.05น.) ธิดาแถลง 4 ข้อ จวกสุเทพกบฏ

เมื่อเวลา 18.05 น. ที่ราชมังคลาฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์เสื้อแดงขอประณามการกระทำของม็อบต้านรัฐบาล 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอประณาม นายสุเทพ แกนนำม็อบราชดำเนิน และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำมวลชนเข้าปฏิบัติการที่เข้าข่ายก่อการร้ายและก่อกบฎ 2.ขอให้รัฐบาลจัดการผู้ละเมิดกฎหมาย มาตรา 215-216

3.ปฏิบัติการนี้ถือเป็นการโค่นระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบอบทักษิณหรือล้มรัฐบาล และ 4.ถือเป็นภาระหน้าที่ของประชาชนและคนเสื้อแดง ต้องร่วมกันต่อต้าน ขัดขวาง คนทำลายประเทศ โดยการนำของนายสุเทพ ที่มุ่งทำให้ประเทศถอยหลัง

(18.10น.) จตุพรสับสุเทพโครตชั่ว ไล่ไปยึดตอม่อโรงพัก

จากนั้นในเวลา 18.10 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า คนเสื้อแดงไม่เคยบุกเข้าไปตัดน้ำ ตัดไฟในสถานที่ราชการ สิ่งที่นายสุเทพทำเรียกว่า โครตชั่ว ดังนั้นประชาธิปัตย์ จะใครก็ตามต้องแถลงว่า จะรับผิดชอบต่อการกระทำของนายสุเทพอย่างไร ซึ่งการบุกยึดกระทรวงการคลัง-สำนักงบประมาณไม่ได้ทำให้รัฐบาลอยู่ยาก แต่เป็นตัวนายสุเทพเอง ทั้งนี้ตนขอเสนอให้นายสุเทพไปยึดโรงพักที่เหลือแต่ตอม่อแทน

นายจตุพร ยังกล่าวประณามการกระทำของนายสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งคุณทำเรื่องเลวร้ายมากขึ้นเท่าไหร่ ประชาชนยิ่งเกลียดคุณมากขึ้นเท่านั้น วันนี้คุณจบแล้วสุเทพ ทั้งนี้ การที่นายกฯยืนหยัดไม่ปฏบัติตามข้อเรียกร้องของนายสุเทพ ถือเป็นการกระทำที่เข้มแข็งแล้ว

(18.40น.) คปท.ยึดกระทรวงต่างประเทศ

เมื่อเวลา 18.40 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ มีรายงานว่า แกนนำพร้อมผู้ชุมนุมคปท. พังรั้วกระทรวงการต่างประเทศ และเคลื่อนขบวนและนำรถเครื่องขยายเสียงเข้าไปในพื้นที่ด้านของกระทรวงฯ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในกระทรวงก่อนหน้านี้ ทยอยเคลื่อนตัวออกโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

 

กระแสการเมืองร้อนแรง ดาราร่วมชุมนุมเวทีราชดำเนิน โพสต์ภาพแสดงจุดยืน
http://news.sanook.com/1333375/ดาราคนดัง-ร่วมชุมนุมเวทีราชดำเนิน/
เมื่อค่ำวานนี้ (24 พ.ย.) กลุ่มมวลชนคนไทยเดินทางไปร่วมชุมนุมที่เวทีราชดำเนินกันอย่างคับคั่ง รวมถึงกลุ่มดารานักแสดงหลายคนที่เข้าร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อแสดงจุดยืนของตนเอง มีการโพสต์ภาพผ่านทางอินสตราแกรม เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่มีคนดังออกมาร่วมต้านมากที่สุด

 

ซึ่งต่อมา กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์มวลมหาประชาชน

 

Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)
21 พฤศจิกายน 2013
“เรารู้สึกว่าบ้านเมืองของเราถึงจุดที่จะต้องเลือกแล้วว่าคุณจะอยู่ฝั่งดีหรือฝั่งเลว มันเห็นชัด มันเห็นชัดๆ อยู่แล้ววันนี้ แต่ถ้าคุณยังคงหลับตาอยู่คุณจะไม่เห็นอะไร ถ้าคุณยังหลับตาอยู่ก็จะถูกต้อนไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนี้ เราลืมตาขึ้นมาเผชิญทุกสิ่งทุกอย่าง เราลืมตาเลือกในสิ่งซึ่งเราสบายใจเพราะเราเติบโตมาในวัฒนธรรมที่ดีที่เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ นี่คือประเทศไทยของเรา”
“เหมือนที่พ่อหลวงเคยบอกว่าอย่าให้คนเลวมีอำนาจ มันจะล่มสลายหมด เราต้องยิ่งรวมตัวกันให้ได้เยอะๆ แล้วล้างมันออกไป!"
"เปิ้ล" จารุณี สุขสวัสดิ์

 

ไทม์ไลน์ 26 พ.ย.56 ที่มา http://www.dailynews.co.th/Content/Article/197605/เกาะติดม็อบ+26พ.ย.56
"เดลินิวส์ออนไลน์" เกาะสถานการณ์การชุมนุมวันที่ 26 พ.ย. 2556 ม็อบนกหวีดปักหลักกระทรวงคลัง คปท.ยึดกระทรวงต่างประเทศ

วันอังคาร 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09:16 น.
"เดลินิวส์ออนไลน์" เกาะสถานการณ์การชุมนุมวันที่ 26 พ.ย. 2556 ม็อบนกหวีดปักหลักกระทรวงคลังคปท.ยึดกระทรวงต่างประเทศ


(19.30 น.) "สุเทพ" ปลุกปชช.ไปทุกกระทรวงพรุ่งนี้! ล้มระบอบทักษิณ

19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นเวทีปราศรัยที่ กระทรวงการคลังว่า ในเมื่อรัฐบาลนี้ปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ก็แสดงว่ารัฐบาลนี้ไม่เคารพกฎหมายสูงสุดของประเทศ เมื่อไม่เคารพกฎหมายสูงสุดของประเทศจึงกลายเป็นรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป จึงเป็นรัฐบาลที่เราไม่จำเป็นต้องรับฟังอีกต่อไป และเราก็มีสิทธิ์ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อรักษากฏหมายสูงสุดไว้

นายสุเทพ กล่าวว่า รากเหง้าของปัญหานี้มาจากกระบวนการเลือกตั้งที่เป็นอยู่ เพราะเปิดโอกาสให้เกิดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เกิดจากทุจริตเลือกตั้ง จนเกิดเป็นระบอบทุนสามานย์ และระบอบทักษิณ ทางแก้คือ 1.ต้องทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ 2.ต้องเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชั่น โดยต่อต้านและปราบคอรัปชั่น 3.ต้องเคารพในอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง โดยให้ประชาชนสามารถถอดถอนนายกรัฐมนตรี-ส.ส.ได้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้งเช่นเดียวกับผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ 4.ต้องปฏิรูปโครงสร้างของตำรวจ ให้ประชาชนเป็นผู้ให้ความดีความชอบแก่ตำรวจ 5.ต้องกฏว่าข้าราชการต้องเป็นข้าราชการระบบคุณธรรมไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์ 6. ต้องทำวาระแห่งชาติเรื่องระบบการศึกษาเพื่อไม่ให้ด้อยกว่าเพื่อนบ้าน และระบบขนส่ง



นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เมื่อล้มระบอบทักษิณแล้วจะตั้งสภาประชาชนปฏิรูป เอาคนดีมาเป็นนายกฯ และยืนยันว่าสุเทพ เทือกสุบรรณจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมประกาศพรุ่งนี้ (27พ.ย.56)ให้ประชาชนไปทุกกระทรวงที่เหลือเพื่อปิดกระทรวงให้ข้าราชการไม่ต้องทำงาน

(15.00 น.) ตัดไฟมหาดไทย ขู่ตัดน้ำซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกปท. บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย (มท.) ว่า หลังจากผู้ชุมนุมเข้าปิดล้อมพื้นที่รอบมท. แกนนำขึ้นปราศรัยอย่างต่อเนื่อง โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่ยังตรึงกำลังอยู่ด้านใน รวมทั้งข้าราชการและผู้ที่ยังอยู่ภายในมท. ออกมาร่วมชุมนุมกับกปท. หากผ่านเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมจะไม่ยอมให้ออกมาแล้ว

ทั้งนี้ แกนนำยังปราศรัยอีกว่า มท.ค้างชำระค่าไฟฟ้ามาหลายเดือน ดังนั้นจะทำการตัดไฟ กระทั่งเวลาราว 15.00 น. แกนนำประกาศว่า ได้ทำการตัดไฟแล้ว และจะตัดน้ำต่อไป

(14.45 น.) ม็อบนกหวีดเล็งเจรจารบ.ตั้งสภาปชช.

เมื่อเวลา 14.45 น. ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกนัฏ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ภายในวันนี้จะส่งหนังสือชี้แจงถึงสถานการณ์ จุดยืนของการชุมนุมไปยังหน่วยงานต่างประเทศ และระหว่างประเทศ พร้อมหนังสือเชิญสื่อต่างประเทศให้มาติดตามรายงานสถานการณ์การชุมนุม ส่วนรายละเอียดการเคลื่อนมวลชนในพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) นายสุเทพ จะแถลงบนเวทีปราศรัยที่กระทรวงการคลัง หลังเวลา 18.00 น.

ทั้งนี้ นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า การชุมนุมจะจบภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่24พ.ย. ซึ่งแกนนำอาจเจรจากับรัฐบาลเพื่อร่วมกันตั้งสภาประชาชน หากนำไปสู่เป้าหมาย คือ การล้มล้างระบอบทักษิณ

(14.30 น.) คปท.ขู่ยกระดับชุมนุม หากรัฐทำรุนแรง

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่เวทีนางเลิ้ง นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาคปท. และนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานคปท. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า คปท.อยู่ระหว่างการร่างหนังสือสำหรับยื่นต่อองค์การสหประชาชาติและสถานทูตต่างๆ เพื่อให้นานาประเทศรับรู้ถึงพฤติกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้ คปท.จะเดินหน้าขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างต่อเนื่อง และกำหนดกิจกรรมเป็นระยะ

อย่างไรก็ตาม คปท.พร้อมต่อสู้กับคดีทุกคดีที่โดน จะยกระดับการชุมนุมในทุกกรณีหากภาครัฐใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม และวันนี้ คปท.จะไม่เคลื่อนไปไหน จะปักหลักอยู่แยกนางเลิ้ง


(13.30 น.) กปท.ประกาศปักหลักมหาดไทย

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย (มท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกปท.มารวมตัวกันเต็มพื้นที่รอบ มท. ทั้งนี้แกนนำประกาศบนเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ว่า ให้ผู้ชุมนุมปักหลักค้างคืนอยู่ที่นี่ โดยยังไม่มีการเข้าบุกเข้าไปภายในมท.



(13.05 น.) งงทวิตเตอร์รัฐสภา โชว์ความเห็นการเมือง

เมื่อเวลา 13.05 น. ทวิตเตอร์ @thai_parliament ซึ่งระบุว่าเป็นทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของรัฐสภาไทย ปรากฏข้อความว่า "ผมว่าคุณสุเทพและพรรคพวกบ้ากันใหญแล้วและจำเป็นต้องบ้าเพราะถอยกลับไม่ได้แล้ว.ข้อหา"กบถ"ชัดเจนหมดอนาคตแน่นอน....นานาอ...http://fb.me/2JUAXR6kD" ทั้งนี้เมื่อคลิกตามลิงค์ที่แนบมาข้างท้าย พบว่าข้อความดังกล่าวถูกเชื่อมมาจากเฟซบุ๊ก Chotianan Phutpornchanan

(11.50 น.) กปท.ขีดเส้น 12.40 น. บุกเข้ามหาดไทย

11.50 น. มีรายงานว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ข้าราชการ ลูกจ้าง และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในบริเวณกระทรวง ออกจากพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาปิดล้อม ขณะที่ กลุ่มกปท. ซึ่งยังล้อมอยู่ภายนอกกระทรวงนั้น ประกาศว่า ขอให้อาสาสมัครถอนกำลังออกจากกระทรวงมหาดไทย ภายในเวลา 12.40 น. โดยหลังจากนั้นจะทำการตัดน้ำ ตัดไฟ

 

(11.45 น.) สุเทพโพสต์ข้อความ ใครกลัวให้กลับ

เมื่อเวลา 11.45 น. นายสุเทพ แกนนำกลุ่มต่อต้านฯ ลงข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) ใจความว่า ผมได้ข่าวว่า เค้าจะออกหมายจับผมในข้อหากบฏ ถ้าพี่น้องกลัวเดือดร้อนด้วยก็เก็บกระเป๋าออกจากกระทรวงการคลังได้ แต่ถ้าพี่น้องจะอยู่กับผม เราก็จะสู้เคียงข้างกัน ถ้าเห็นว่าเราทำถูก ออกมาสมทบกับเรา ทั้งนี้ เรายินดีให้คณะกรรมการสิทธิ สถาบันที่เป็นกลาง เข้ามาตรวจพื้นที่เราได้ พบอาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว เรายอมกราบเท้าทุกคน

(11.25 น.) กต.ประกาศพรุ่งนี้ทำงานปกติ

เมื่อเวลา 11.25 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจกระทรวงการต่างประเทศ ลงข้อความว่า ขณะนี้กลุ่มมวลชนได้เดินทางออกจากพื้นที่กระทรวงการต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศทุกคนจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในวันพรุ่งนี้ (27 พฤศจิกายน 2556) ทั้งนี้ ข้าราชการที่มีภารกิจเร่งด่วนสามารถกลับเข้าไปปฏิบัติงานในอาคารกระทรวงฯ ถ. ศรีอยุธยา ตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไป

(11.00 น.) กปท.บุกล้อมมหาดไทย ยึดแล้ว3กระทรวง

เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และกองทัพธรรม เคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ชุมนุมบริเวณแยกผ่านฟ้า โดยเคลื่อนผ่านเวทีราชดำเนิน ซึ่งแกนนำประกาศบนเวทีปราศรัยรถบรรทุกว่า จะจัดการกับระบอบทักษิณให้หมดไปภายในวันนี้ โดยขบวนจะเคลื่อนไปยังกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกปท.เข้ายึดพื้นที่และตัดน้ำตัดไฟกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคมแล้ว

(10.55 น.) คปท.เคลื่อนขบวน ประชิดแนวกั้นแยกวัดเบญฯ

เมื่อเวลา 10.55 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำคปท.นำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออกจากกต. ไปยังถนนศรีอยุธยา กระทั่งเวลา 11.25 น. ขบวนคปท.มาถึงบริเวณแนวกั้นแยกวัดเบญจมบพิตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสริมความหนาแน่นของแบริเออร์มากขึ้นกว่าเมื่อวาน (25 พ.ย.)



(10.20น.) นกหวีดพัก1วัน พรุ่งนี้เคลื่อนไหวทั่วปท.

10.20 น. ที่กระทรวงการคลัง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกลุ่มต่อต้านฯ แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า การปิดกระทรวงคลังในครั้งนี้เพื่อแสดงเป็นตัวอย่างแก่ประชาชนว่า การยึดหน่วยงานราชการด้วยวิธีสันติ-อหิงสานั้นสามารถกระทำได้ หากประชาชนปฏิบัติตามด้วยการยึดหน่วยงานราชการทั่วประเทศจะสามารถหยุดยั้งระบอบทักษิณได้ โดยในวันนี้จะหยุดเคลื่อนขบวนเพื่อให้ผู้ชุมนุมพักผ่อนหนึ่งวัน ส่วนพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) จะเคลื่อนไหวพร้อมกันทั่วประเทศ

ชี้แจงกรณีม็อบทำร้ายสื่อต่างชาติ

นายเอกนัฏ กล่าวถึงกรณีนายกฯ ออกมาประกาศเพิ่มพื้นที่พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า รัฐบาลชุดนี้ถือเป็นโมฆะ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม โดยยืนยันปักหลักกระทรวงการคลังต่อไป ส่วนกรณีที่นายนิกส์ ช่างภาพชาวต่างชาติ ได้เข้าแจ้งความที่สน.พญาไท เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลวานนี้ (25 พ.ย.) นั้น ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง แม้จะเป็นสื่อแต่มีการเสนอข่าวบิดเบือนความเป็นจริง และในการชุมนุมวานนี้ มีการด่าทอต่อผู้ชุมนุม โดยหลังจากนี้จะมีการส่งหนังสือชี้แจงต่อต้นสังกัดของนายนิกส์ และยื่นหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติและสื่อต่างประเทศให้ส่งตัวแทนมาติดตามสถานการณ์ชุมนุมใกล้ชิด

จวกรัฐไม่รับอำนาจศาล แต่ขอหมายจับสุเทพ

ส่วนกระแสข่าวขอหมายศาลเพื่อดำเนินการจับกุมนายสุเทพนั้น นายเอกนัฏ เผยว่า ไม่รู้ว่าจุดยืนของรัฐบาลคืออะไร เพราะในขณะที่รัฐบาลออกมาต่อต้านไม่รับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับไปขอหมายศาลมาจับนายสุเทพ



(09.30น.) นกเขาแจงยึดกต.ให้โลกรู้-จ่อเคลื่อนอีก

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) นายนิติธร ลำเหลือ ที่ปรึกษาคปท. เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่คิดว่าจะปักหลักอยู่นานแค่ไหน โดยจะอยู่ไปจนกว่าจะมีการประชุมและดูตามสถานการณ์ คปท.ยืนยันว่าไม่ได้ยึดกต. แค่ขอพื้นที่สื่อสารกับคนในโลกว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรม เป็นเผด็จการ ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ยุติการสื่อสารกับรัฐบาลชุดนี้ ยืนยันว่าเราเคลื่อนไหวอย่างสันติวิธี สำหรับผู้ที่ทำงานในกต. เราก็เปิดสถานที่ เปิดทางให้เข้าทำงานได้ และจะงดใช้เครื่องเสียงให้

นายนิติธร กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคนของกต.เข้ามาเจรจา ถ้าอยากให้ออกจากพื้นที่ต้องมาเจรจากัน ตนไม่กลัวว่าจะถูกแจ้งข้อหาต่างๆ เพราะเราทำไปตามกฏหมาย ส่วนกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศพื้นที่บังคับใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง เพิ่มเติมนั้น ไม่สามารถสลายการชุมนุมได้ เรามาชุมนุมอย่างสันติ ทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ นายนิติธร ยังกล่าวถึงการทำงานของกต.ด้วยว่า ตั้งแต่มีรัฐบาลชุดนี้มา กต.ก็ออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทันที แต่ในกรณีของ นายวีระ สมความคิด ซึ่งติดคุกอยู่ที่กัมพูชา รัฐบาลกลับมีท่าทีที่ไม่ชัดเจน และมีท่าทีสมยอมกับฮุนเซนด้วย

เมื่อเวลา 10.15 น. แกนนำคปท.ประกาศว่า อีกประมาณ 1 ชั่วโมงข้างหน้าจะมีการย้ายไปที่อื่น เพื่อเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศไทย ขอให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัว



(08.30น.) ม็อบนกหวีดเต็มพื้นที่กระทรวงคลัง

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงเช้าว่า มีผู้ชุมนุมกลุ่มต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมและระบอบทักษิณ ซึ่งเดินอารยะมากับขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มต่อต้านฯ ตั้งแต่วานนี้ (25 พ.ย.) ยังคงปักหลักยึดพื้นที่อยู่ ช่วงเช้าผู้ชุมนุมแยกย้ายกันพักผ่อนตามจุดต่างๆ และทานมื้อเช้าจากครัวชั่วคราวและข้าวกล่องที่ถูกจัดเตรียมมาให้ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณลานจอดรถ ขณะที่ประตูกระทรวงทั้งสองแห่งถูกปิด ห้ามรถเข้า-ออก เปิดเพียงประตูเล็กไว้ให้ประชาชนเท่านั้น

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ในช่วงเช้าบนเวทีมีการจัดรายการเล่าข่าว มีผู้ชุมนุมนั่งฟังบางตา ส่วนใหญ่แยกย้ายพักผ่อนตามจุดต่างๆ

คปท.ปักหลักกระทรวงต่างประเทศ

ที่กระทรวงการต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเย็นวานนี้ (25 พ.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ (คปท.) เข้ายึดพื้นที่ดังกล่าว บรรยากาศในช่วงเช้าบริเวณลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการฯ ภายในบริเวณกระทรวง จึงมีผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ ขณะที่แกนนำคปท.จัดกิจกรรมเล่าข่าวจากบนเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ให้ผู้ชุมนุมฟัง

โต้ข่าวยึดคลังทำเงินเดือนขรก.ออกช้า

ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายถาวร เสนเนียม แกนนำกลุ่มต่อต้านฯ แถลงโต้กระแสข่าวการบุกยึดกระทรวงการคลังส่งผลให้เงินเดือนข้าราชการออกช้าว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทางธนาคารกรุงไทยได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของข้าราชการแล้ว ส่วนกรณีความล่าช้าของการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวนั้น อยู่ที่การบริหารงานรัฐบาลไม่เกี่ยวกับการชุมนุมแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า ผู้ชุมนุมจะไม่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ

 

สถานการณ์เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.56) มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายจากการชุมนุมทางการเมืองของฝ่ายต่างๆ



บรรยากาศช่วงเย็นและค่ำภายหลังฝนตกลงมาอย่างหนักภายในพื้นที่การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สนามกีฬาราชมังคลาฯ Photographer อดิศร ฉาบสูงเนิน (Adisorn Chabsungnuen)





บรรยากาศเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาของการชุมนุมเพื่อต่อต้านระบอบทักษิณเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยไม่มีความรุนแรงโดยในช่วงเย็นได้มีฝนตกลงมาแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการฟังปราศรัยเนื่องจากประชาชนได้กางร่มหรือไม่ก็ใช้ชุดกันฝนเพื่อป้องกันตัวเปียก ที่ อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน Photographer ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Thanachai Pramarnpanich)





บรรยากาศยามค่ำของการชุมนุมขับไล่ต่อระบอบทักษิณ ภายในกระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ Photographer วัชรชัย คล้ายพงษ์ (Watcharachai Klaipong)





กลุ่มเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุมต่อ ที่สนามกีฬาราชมังคลาฯ Photo by อดิศร ฉาบสูงเนิน





แพทย์ชนบท บุกบ้านนายกฯ...
กลุ่มแพทย์ชนบทเดินเท้าไปที่บ้านนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้นพ.ประดิษฐ์ ลาออกจากตำแหน่งภายหลังไม่ได้รับคำตอบเรื่องเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายโรงพยาบาลในชนบท Photo by อดิศร ฉาบสูงเนิน





กลุ่มแพทย์ชนบทจุดไฟเผารูปของนพ.ประดิษฐ์ สินธวรณรงค์ รมต.กระทรวงสาธารณสุข หลังเดินทางมาชุมนุมบริเวณถนนใกล้ทางเข้าบ้านนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้นพ.ประดิษฐ์ ลาออกจากตำแหน่งภายหลังไม่ได้รับคำตอบเรื่องเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายโรงพยาบาลในชนบท Photographer อดิศร ฉาบสูงเนิน (Adisorn Chabsungnuen)





ป้องกันบ้านนายกฯ..กลุ่มคนเสื้อแดงถือไม้ชุมนุมอยู่บริเวณปากซอยโยธินพัฒนาซอย3 หลังมีกลุ่มหมอชนบท มาเรียกร้องที่บ้านนายกฯ โดยตำรวจป้องกันไม่ให้สองกลุ่มเผชิญหน้ากัน Photo by NationPhoto





เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลจำนวน 6 กองร้อย คุมเข้มความปลอดภัยบริเวณบ้านนายกรัฐมนตรี โดยตรวจค้นอาวุธและห้ามนำรถเครื่องเสียงเข้าออกบริเวณซอยโยธินพัฒนาซอย 3 Photographer อดิศร ฉาบสูงเนิน (Adisorn Chabsungnuen)





กองทัพธรรมประมาณ 5,000คน กำลังปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย Photographer จรูญ ทองนวล (Charoon Thongnual)





ประชาชนร่วมชุนนุมเพื่อเป้าหมายเดียวกันในการคัดค้านระบอบทักษิณ ยังคงปักหลักอยู่ที่ กระทรวงการคลัง
Photographer ภักดี สุขเพิ่ม (Pakdee Sukperm)





ม็อบคปท.ที่อยู่กระทรวงการต่างประเทศทยอยเดินทางออกจากกระทรวงฯเพื่อกลับมาปักหลักถนนนางเลิ้ง
Photographer ศุภกฤต คุ้มกัน (Suphakit Khumkun)





ตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิด ชนิดลูกเกลี้ยงหรือเอ็ม 26 หน้าศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ สาขาพระโขนง จากการตรวจสอบพบระเบิดถูกดึงสลักออกแล้ว แต่อยู่ในสภาพเก่าไม่สามารถใช้ในการสังหารหรือทำลายล้างได้ //Photo by คณาธิศ ศรีหิรัญเดช



ภาพจากเฟสบุ๊ึคเนชั่นโฟโต้ http://www.oknation.net/blog/varietynews/2013/11/27/entry-1

 

สุเทพ ประกาศจุดยืนในการไล่ระบอบทักษิณ ในคืนวันที่ 26 พ.ย.56 ที่กระทรวงการคลัง

ขณะเดียวกัน ในสภาก็มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายก

ม.ศิลปากร ร่วมขบวนพลังมหาประชาชน นำศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันร่วมสมทบ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมประกาศหยุดเรียน 2 วัน ห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษา


เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา "ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช" อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร , "ศาสตราจารย์ปรีชา เถาทอง" ศิลปินแห่งชาติ, "ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกพงษ์ ตรีตรง" คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ เดินนำคณะประชาคมศิลปากร คณบดี,คณาจารย์,ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ร่วมเดินขบวนสมทบกับมวลมหาประชาชน ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย





ล่าสุด ประกาศหยุดการเรียนการสอนเฉพาะคณะวิชาที่ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ในวันจันทร์ที่ 25 ถึง วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2556 เป็นเวลา2 วัน เนื่องจากมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ มีพื้นที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าว มหาวิทยาลัยศิลปากรมีความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษา ซึ่งอาจทำให้นักศึกษาเกิดความยากลำบากในการเดินทางของนักศึกษา

สระบุรี เดินขบวนต้านระบอบทักษิณ บุกศาลากลางขับไล่ผู้ว่าฯ


กลุ่มนักเรียนโรงเรียนดังสระบุรีถือป้าย เดินรณรงค์ต้านระบอบทักษิณไม่เอา พรบ.นิรโทษกรรม ผู้ปกครอง พ่อค้า ประชาชน ร่วม พลังมวลชนสมทบ กว่าพันคน เป่านกหวีด บุกศาลากลางขับไล่ผู้ว่าฯอ้างเอียง แดง นปช.

เมื่อ 26 พ.ย. เวลา 16.00 น.กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนดังจังหวัดสระบุรีกว่า 50 คนได้จัดเดินถือป้ายรณรงค์ต้านการโกงกิน ต้านพรบ.นิรโทษกรรม และระบอบทักษิณ ไปเขตเทศบาลเมืองสระบุรี กลุ่ม พ่อแม่ผู้ปกครอง ข้าราชการ พ่อ ค้า ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ทราบข่าว ทยอยเข้าร่วมสมทบ ร่วมต้านกลาย เป็น ม๊อบใหญ่ ไร้แกนนำ พร้อมใจ รวมตัวกันบนถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ด้านหน้าศาลากลาง เนื่องจากทางเจ้าหน้าตำรวจและฝ่ายปกครองกว่า 50 นาย ได้มารักษาความสงบเรียบร้อย ได้ปิดประตูทุกด้านเพื่อไม่ให้มวลชนเข้าไปชุมนุมภายในเขตรั้วศาลากลาง จึงได้แต่ ร่วมกันเป่านกหวีด ชูมือตบ โบกธงชาติไทย ปราศรัยโจมตี ผ่านโทรโข่ง พร้อมป้ายข้อความ โจมตีการบริหารงานของรัฐบาลและ บุกศาลากลางขับไล่ผู้ว่าราชการจวก พฤติกรรมที่ผ่านมา มีประพฤติตนวางตัวไม่เป็นกลาง ยังฝักใฝ่ให้การสนับสนุนกลุ่ม นปช.สระบุรี อีกด้วย

ต่อมาเวลา 17.10 น.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.สระบุรี ได้ลงมาพบปะกับกลุ่มมวลชนที่ตะโกนขับไล่อย่างเดียวจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแต่หยิบกระดาษที่เขียนโจมตี แล้ว กล่าวว่า ขอบคุณครับ แล้วเดินจากไปท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่มวลชนยังคงปักหลักยืนหน้าศาลากลางกล่าวโจมตีอย่างต่อเนื่องและมีประชาชนเดินทางสมทบตลอดเวลา ไม่มีแกนนำสั่งการในการดำเนินกิจกรรมต่อหรือยุติการชุมนุม สุดท้ายก็ได้จับกลุ่มคุยกัน ในบริเวณ จึงนัดกันว่ามาขับไล่อีกครั้งในวันที่ 27 พ.ย.56เวลา 16.00 น. จึงยอมสลายตัวในเวลา 18.59 น.

 

ประทับใจเหตุการณ์ในคืนวันที่ 26 พย. 57 นี่มากๆค่ะ ผู้คนมากมายออกมาปกป้องลุงกำนันที่กระทรวงการคลัง หลังจากที่มีข่าวว่าตำรวจจะเข้าไปจับลุง