อาชญากรรม : ข่าวทั่วไป วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2558 15 ปี 'กาสิโนลาว' บทเรียนพนันเสรีในไทย เรื่องเล่าข่าวดัง : 15 ปี 'กาสิโนลาว' บทเรียนพนันเสรีในไทย : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม เพียงข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว บริเวณด่านชายแดน จ.หนองคาย ก็จะเป็นนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว ซึ่งมีเพียงเส้นแบ่งแดนทางธรรมชาติกั้นกลางแยกอาณาเขตระหว่างบ้านพี่เมืองน้อง ติดกับด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาวมี “กาสิโน” อายุราว 15 ปี ทั้งชาวลาวและชาวไทยรู้จักกันดี ในนาม “บ่อนหน้าด่าน” ภายในเปิดให้เล่นการพนันจากตู้ไฟฟ้า ที่เรียกกันว่า “สลอต” หรือ “รูเล็ต” สามารถใช้ธนบัตรไทยเล่นพนันได้ โดยไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินกีบ สกุลเงินของลาว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักพนัน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย “ส่วนใหญ่เข้าไปเล่นพนันนี่แหละพี่ สังเกตง่าย ถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ยิ่งเป็นผู้ชายทั้งกลุ่มร้อยทั้งร้อยเข้าเวียงจันทน์ไปเล่นพนันในกาสิโนทั้งนั้น รองลงมาคือเข้าไปเที่ยวผู้หญิง ยิ่งวันหยุดยาวๆ นี่จะยิ่งเยอะ” สารถีหนุ่มทำหน้าที่พาทีมงานของเราข้ามแม่น้ำโขง ให้ข้อมูลเบื้องต้น บ่อนหน้าด่านในวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากหลายปีก่อน เพราะนครหลวงเวียงจันทน์มี “กาสิโน” แห่งใหม่เริ่มกิจการขึ้น โดยกาสิโนแห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ครบวงจร มีโรงแรมที่พัก มีสนามกอล์ฟ มีร้านอาหาร เรือสำราญ และบ่อนการพนัน อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน ที่นี่เรียกกันว่า “แดนสวรรค์” ตั้งอยู่ที่เขื่อนน้ำงึม ในเทือกเขาควาย ห่างจากศูนย์ราชการนครหลวงเวียงจันทน์ รวมถึงชายแดนไทยออกไปราว 90 กิโลเมตร บ่อนแห่งนี้ได้รับความนิยมแซงหน้ากาสิโนเก่าแก่อย่างรวดเร็ว เพราะการพนันที่มีให้นักพนันได้เสี่ยงโชคมากกว่า มีทั้ง รูเล็ต บัคคารา และแบล็กแจ็ก ภายในมีร้านอาหาร มีร้านค้าให้ได้จับจ่ายใช้สอย เดิมเคยมีเจ้าของเป็นนายทุนชาวมาเลเซีย ที่ร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวลาว แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมือไปเป็นของนักลงทุนชาวจีน มีข้อมูลว่า ช่วง 2-3 ปีก่อน มีนักพนันจากไทยเดินทางข้ามแม่น้ำโขงก่อนจะเดินทางต่ออีกกว่า 90 กิโลเมตร ไปยังเทือกเขาควายใกล้กับเขื่อนน้ำงึม เพื่อเข้าไปเล่นการพนันในกาสิโนแดนสวรรค์ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 500 คนต่อวัน และจะเพิ่มจำนวนทวีคูณขึ้นหากเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่องกันหลายวัน “บ่อนเขามีเครือข่ายอยู่ที่ จ.อุดรธานี มีรถตู้ให้บริการในการเดินทาง นักพนันสามารถไปขึ้นรถที่นั้น ซื้อแพ็กเกจได้เลยจ่ายเงินไปหมื่นหนึ่งก็จะได้ชิพเข้าไปเล่นที่บ่อน มีที่พักให้ มีอาหารให้กินฟรี 2 วันกับ 1 คืน หากรายใดที่เล่นพนันได้ก็สามารถนำชิพไปแลกเงินสดคืน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้คืนหรอก เพราะเสียพนันหมด เขารู้กันดี เพราะอุปกรณ์เล่นพนันพวกนั้นตั้งระบบไว้ให้ชนะพนันไว้ร้อยละ 70 ซึ่งมีนักพนันเพียงร้อยละ 30 เท่านั้นที่มีโอกาสชนะพนันกลับไป เพราะบ่อนต้องการเรียกลูกค้า” ท้าวบุญคำ ซึ่งมีอาชีพบริการนำเที่ยวในลาวมาหลายสิบปี บอกถึงเรื่องราวความเป็นไปของกาสิโน ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของลาว หากลองคำนวณดูจะพบว่า ภายใน 1 เดือน จะมีนักพนันชาวไทยอย่างน้อย 15,000 คน หรือราว 180,000 คนต่อปี นำเงินอย่างน้อยราว 150 ล้านบาทต่อเดือน หรือราว 1,800 ล้านบาทต่อปี ไปละลายในบ่อนกาสิโนที่นครหลวงเวียงจันทน์ของลาว แต่ระยะหลังพบว่านักพนันชาวไทยน้อยลง จนทางการลาวต้องยกเลิกข้อบังคับที่ห้ามชาวลาวเข้า “กาสิโน” เปิดโอกาสให้ชาวลาวเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนได้ “บ่อนกินเงินคนไทยหมด ก็หันมากินเงินคนลาวแทน รัฐบาลเคยห้ามไม่ให้คนลาวเข้ากาสิโนเด็ดขาด แต่ตอนนี้สามารถเข้าได้แล้ว มีข้อบังคับเพียงห้ามไม่ให้สวมเครื่องแบบที่เป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานราชการเข้าไปเท่านั้น และยังห้ามไม่ให้คนลาวเล่นการพนันภายนอกกาสิโนอย่างเด็ดขาด เหมือนพยายามต้อนนักพนันลาวให้เข้ากาสิโนกลายๆ” ท้าวบุญคำ กล่าวติดตลก ท้าวบุญคำ เล่าด้วยว่า ตั้งแต่กฎเหล็กห้ามคนลาวเข้ากาสิโนคลี่คลายลง ทำให้เกิดปัญหาในหมู่ชาวลาวค่อนข้างมาก เนื่องจากสมาชิกของครอบครัวพากันเข้าบ่อน หลายครอบครัวต้องเป็นหนี้จากการพนัน นำมาสู่ปัญหาครอบครัวแตกแยก “เพื่อนร่วมอาชีพผมก็หลายคน บางรายเคยอยู่ดีกินดี พอเข้าบ่อนได้ เวลาที่เคยหมดไปกับการหารายได้ก็หมดไปกับบ่อน เงินทองที่หาได้ก็ละลายในบ่อนหมด ต้องขายรถ ขายที่ ขายบ้าน วุ่นวายกันไปหมด อีกหน่อยคดีอาชญากรรมคงมีให้หนักใจ” ท้าวบุญคำ ว่า ในกาสิโนเขาไม่ได้กำหนดว่าผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้นที่จะเข้าไปเล่นพนันได้ ท้าวบุญคำ เล่าว่า ชาวลาวที่เข้ากาสิโน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียอีก ซึ่งท่าจะจริงอย่างที่ท้าวบุญคำว่า เพราะเท่าที่ทีมข่าวคม ชัด ลึก สังเกตเห็น นักพนันที่อยู่ในบ่อนส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงและอายุไม่น่าจะมากมายนัก “ในกาสิโนมีหมด และระยะหลังมีผู้หญิงเข้าไปให้บริการด้วย ซึ่งน่าห่วง ผู้หญิงที่เล่นพนันบางรายหันไปขายบริการเพื่อหาเงินเล่นพนันต่อ บางรายกลายไปเป็นเด็กเสี่ยเลี้ยงเลยก็มี ตอนนี้คนลาวมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เงินที่ได้จากกาสิโนช่วยพัฒนาประเทศของเราจริงมั้ย เพราะนายทุนก็เป็นคนต่างชาติรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในลาว แต่ไหลออกไปนอกประเทศเสียมากกว่า แต่ปัญหาสังคมที่กำลังเกิดขึ้นในลาวอยู่ในขั้นน่าวิตก ไม่รู้ว่าคุ้มค่ากันหรือไม่” ผู้ทำหน้าที่นำเที่ยวชาวลาว กล่าวด้วยน้ำเสียงอัดอั้นตันใจ เขายังบอกด้วยว่า หากเป็นไปได้ชาวลาวจำนวนไม่น้อยต้องการให้รัฐบาลลาวทบทวนเรื่องบ่อนกาสิโน และต้องการให้ยกเลิกการให้สัมปทานบ่อนกาสิโนในลาว เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติของลาว จะดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในลาว สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวได้ไม่แพ้การมีบ่อนกาสิโนในประเทศ “หากเลือกได้ผมว่าคนลาวไม่ต้องการกาสิโนนะ เพราะรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในลาวมันไหลไปต่างประเทศ ไม่คุ้มค่ากับปัญหาสังคมที่เป็นอยู่ ลาวเป็นเมืองพุทธ มีขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีสวยงาม ธรรมชาติก็ดี น่าจะส่งเสริมด้านนี้ ซึ่งจะสร้างความภูมิใจให้แก่คนลาวมากกว่า นี่ผมก็ได้ยินข่าวว่า ไทยก็มีความพยายามที่จะตั้งกาสิโน แต่เชื่อเถอะอย่ามีเลย เดี๋ยวจะซ้ำรอยประเทศผม” ท้าวบุญคำ ให้ความเห็นถึงเรื่องราวข่าวดังในไทย นอกจากบ่อนหน้าด่าน และบ่อนแดนสวรรค์ ในนครหลวงเวียงจันทน์แล้ว ในลาวยังมีกาสิโนอีก 2 แห่ง คือ คิงส์โรมัน ที่เมืองต้นผึ้ง ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และสะหวันเวกัส แขวงสะหวันนะเขต ตรงข้าม จ.มุกดาหาร ว่ากันว่า แต่ละปีนักพนันชาวไทยนำเงินตราไปละลายในบ่อนเหล่านี้หลายพันล้านบาท ซึ่งมักจะถูกใช้เป็นข้ออ้างทุกครั้งที่มีบุคคลบางกลุ่มหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการเปิดการพนันเสรีในไทย ครั้งนี้ก็เช่นกัน ว่ากันว่า มีผู้มีอำนาจบางรายถึงกับเดินทางไปจับเข่าคุยกับนายทุนบ่อนใหญ่ในสิงคโปร์ ก่อนจะมีการขับเคลื่อนจากคนในเครือข่ายเพื่อโยนหินถามทาง “กาสิโน” ถูกกฎหมายในไทย คนไทยจะได้อะไรจาก “กาสิโน” หรือเพียงแค่เกมแห่งผลประโยชน์ที่คนบางกลุ่มจ้องแบ่งเค้กกัน? -------------------------------------------------------------------------------------------------- บทเรียนใกล้บ้านเลย
ถ้าเข้าบ่อนไปเล่นกันเองอาจมีได้มีเสียกันปกติ แต่ก็ต้องจ่ายค่าต๋งไม่ว่าใครได้ใครเสียบ่อนได้อย่างเดียว แต่ถ้าใครคิดไปเล่นกับบ่อนแล้วจะเอาเงินบ่อนผมว่าบ้า+โง่ ก็ถ้าเขาไม่มั่นใจว่าจะกินเงินลูกค้าได้เขาคงไม่เปิดบ่อน
ที่ขอนแก่นมีรถบริการที่หน้าสำนักงานสะหวันเวกัส สำนักงานขอนแก่น 211 ถนนรื่นรมย์ เห็นนักพนันพยายามมาชวนคนนอกขยายฐานออกไปเรื่อย มีโปรหลายอย่างเช่นแลกชิปในราคาพิเศษ บางคนไปเพราะอยากเที่ยวข้ามไปฝั่งโน้น ไม่แน่ใจว่าต่อไปจะติดใจจนเปลี่ยนเป็นนักพนันหรือเปล่า การรับส่งไปเที่ยวที่นั่น ทำกันเป็นล่ำเป็นสันทีเดียว นอกจากสำนักงานที่ขอนแก่นแล้วยังมีที่โคราช อุบลราชธานี อุดรธานี และมุกดาหาร
http://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G6683869/G6683869.html นี่ไงเอนเทอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กแบบที่ท่านนายพลอยากได้ เข้าได้ทั้งครอบครัวน่าไปมากมันคือเหยื่อล่อคนเข้าบ่อนนั่นแหละ
เดี๋ยวก็อาจจะมีคนมาเปรียบเทียบว่า การไปเที่ยว ไปหาความสุข ไม่ว่าจะอะไรมันก็ต้องเสียเงินทั้งนั้น แล้วไปเที่ยวคาสิโน แล้วเสียเงิน มันจะแปลกตรงไหน แถมได้ความเร้าใจมากกว่าด้วย ใครขยันก็บอกที ผมขี้เกียจ
ถ้าเสียเงินมากินข้าว นอนพักโรงแรมหรือรีสอร์ทดีๆ ไปปีนเขา ขี่จักรยาน ล่องแก่ง เที่ยวทะเล ทำนองนี้ก็ไม่เท่าไหร่ ก็เสียเงินเป็นอย่างๆ ไป ค่าน้ำมันรถ ค่าเครื่องบิน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่า... ฯลฯ คนต้องเดินทาง ต้องอยู่ ต้องกิน แต่ถ้าจะมาเสียเงิน เสียแล้วเสียอีกเพราะแรงจูงใจที่จะเล่นการพนัน พอเล่นเสียก็อยากจะแก้มือ พอเล่นได้ก็อยากเอาอีก ก็ตามแต่ใจจะเล่น เงินใครเงินมัน กิเลสของคนมันไม่มีลิมิต พอไม่มีลิมิตก็บานปลาย กิจกรรมมีหลายอย่างมากมาย ไม่ไปเล่นเนอะ
มันเร้าใจ ตื่นเต้น เสบติด สมัยเรียน เคยเล่น ป.เด้ง ตั้งแต่บ่าย 4 เลิก 2 ทุ่มของอีกวัน ไม่ต้องนอน ไม่ง่วง เลยเข้าใจ 555
เป็นความพยายามให้เข้าใจผิด กาสิโน นี่ถูกกฎหมายนะ ส่วนบ่อน นี่ผิดกฎหมาย แต่จริงๆคำว่าบ่อน หมายถึง บแหล่งชุนนุมเพื่อเล่นการพนันจะถูกกฎหมาย ผิดกฎหมาย แต่ยังไงบ่อนก็คือบ่อนครับ
งานศพบ้านเราก็มีบ่อนเฉพาะกิจ อ้างว่าเล่นเป็นเพื่อน แต่เคยมีข่าวว่าเล่นแล้วมีเรื่องถึงขั้นเพิ่มศพในงานเลยก็มี เคยสั่งเสียลูกหลานญาติสนิทมิตรสหายอยู่ ว่าถ้าผมตายน่ะ อย่ามีบ่อนในงาน คิดเหตุผลไว้ว่า งานศพคืองานทุกข์งานโศก ไม่ควรมีกิจกรรมเล่นสนุกในงาน พอเล่นเสียก็มีเรื่องถึงขั้นใช้กำลัง ทำให้บรรยากาศในงานมีปัญหา เป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าภาพ อีกอย่าง หลายจังหวัดมีโครงการต้านการพนันในงานประเพณีต่างๆ รู้ว่ามันไม่ดีก็อย่าไปมีครับ
เพื่อนกันคนนึง ชอบเล่นมาก ไปเข้าบ่อนทาง เกาะ ติดกับ ระนอง เล่น บอล แทงทีหนักๆ ตอนนี้ ทั้งบ้านทั้งที่ หลายไร่ อยู่ในลูกฟุตบอลใบนิดเดียว