วงBadfinger นี้เข้ามาทำพลงในไทยช่วงปี1970 มีหลายเพลงดัง ทำเงินและติดหูนักฟังเพลงเมืองไทย วงดี เพลงเพราะ แต่โชคร้ายได้ผู้จัดการดูแลเงินแย่ สุดท้ายทุกอย่างแลกด้วยชีวิต chevy505 1hit1ders chevy505 chevy505
ดูหนัง ฟังเพลง..... เปิดเพลงเปิดคนดังฟังเพลงไปสองสามวันแล้ว คืนนี้ยังอยู่ใน Mode คนดังฟังเพลง (ฮา) ส่งเพลงโปรดของ Megan Fox ก่อนนอนอีกสักคนครับ
นางเอก Transformers เหรอเนี่ย แต่ผมชอบคนนี้ link คนดังคนต่อไปจะเป็นใครน้อ ขออ้างคำพูด Forrest Gump “แม่บอกเสมอว่าชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลต เราไม่มีทางรู้ว่าชิ้นต่อไปจะหยิบได้อะไร”
เพลงที่ชอบอีกเพลงของบ๊อบ SomDRock และก็ชอบเพลงนี้ของจิมมี่ ..ผมว่ามันละม้ายๆคล้ายกัน I am on WoodstockRogue666
หยิบได้ Jennifer Lawrence มีวงโปรดที่ผมชอบเหมือนกัน Mumford & Sons ก่อนนอนฟังเพลง I Will Wait ...แล้วเจอกัน....
จากเม้นนี้ผมเลยอยากจะ นำเสนอหนัง เรื่อง Ben ที่โด่งดังมากในอดีด อันนี้เป็นฉากสุดท้าย และพร้อมเพลงประกอบหนังมาให้ชมครับ หากใครจะตามไปดูหนังก็ไม่ต้องเปิดดูครับ ไปลุ้นเอา
ขอปักหมุด Timeline เทศกาล Woodstock Music & Art Fair -3 Days of Peace & Music มหกรรมดนตรี Woodstock ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดในโลกประวัติศาสตร์ดนตรี ที่ได้จัดขึ้นเมื่อ 15-18 สิงหาคม ค.ศ. 1969 จัดขึ้นที่ไร่ของ Max Yasgur ในพื้นที่ประมาณ 2.4 ตารางกิโลเมตรที่หมู่บ้าน ฺBethel, New York เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติความเป็นมาด้านศิลปะตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นที่พักอาศัยของศิลปินหลายคน เช่น Bob Dylan Johnny Cash Jimi Hendrix ในช่วงวันสุดสัปดาห์ที่จัดมีฝนตก ประมาณกันว่ามีผู้คนหลั่งไหลเข้าร่วมงาน ประมาณ 5 แสนคน 45 ปีที่ผ่านไป มนต์ขลังและกลิ่นอายจากประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดนตรีก็ยังไม่จางหายไป หากไม่รู้จัก Woodstock ก็คงเหมือนฟังเพลง แต่ ไม่รู้จักเพลง (อย่างนั้นเลยหรือ???) ย้อนไปดูเหตุการณ์ในวันนั้นกันสักหน่อย ก่อนเดินหน้ากันต่อไป..... มหกรรมดนตรี woodstock ได้เริ่มขึ้น เช้าวันศุกร์ที่ 15 ถึง เช้าวันจันทร์ ที่ 18 มหกรรมดนตรี woodstock เมื่อ 45 ปีที่แล้ว ได้จัดขึ้นที่ Bethel, N.Y., on Aug. 15-18, 1969. The Woodstock Music and Art Fair เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันกับที่ สหรัฐได้ส่งมนุษย์ ไปดวงจันทร์ ในปี 1969 ภาพบรรยากาศทั่วไปในช่วงสามวันแห่งมหกรรมดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ เมื่อ 45 ปีที่แล้ว
4 โพสท์ จาก วง Pink Floyd เลยนะเนี้ยะ ขอต่ออีกสัก 1 แล้วกัน... มีสถิติโลกที่น่าสนใจสำหรับวงแนว progressive and psychedelic rock วงนี้ จากหนังสือ GUINNESS WORLD RECCORDS 2013 เปิดไปที่หน้า 220 The Dark Side of the Moon ที่สุดแห่งอัลบัมโลก อยู่บนชาร์ตบิลบอร์ดส์ท็อป นานที่สุดในโลก กว่า15 ปีต่อเนื่องมาโดยตลอด (และคาดว่าอีกนาน กว่าจะมีวงใหน ทำได้อย่างนี้) ผมไม่ทันชุดนี้ครับ อัลบัมนี้ออกก่อน หรือผมเกิดหลังกันแน่????(ฮา) แต่ต่อมา ชุด The Wall เริ่มคุ้นเคยแล้วและทำให้วงนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้น ที่มีอิทธิพลทางดนตรีต่อผม ไปฟังเพลงคุ้นหู จากชุด The Wall เนื้อหาตั้งคำถามกับระบบการศึกษา ประมาณว่า ให้คิดนอกกรอบ ไม่ใช่อยู่แต่ในกำแพง(กะลา-บ้านเรา) ไปทลายกำแพงกันสักเพลง.....
ตามที่คุณ chackrapbong ได้ลงข้อมูล ของอัลบั้ม The Dark Side of the Moon ผมหาการแสดง คอนเสิร์ตของ วง Pink Floyd ในอัลบั้มชุดนี้มาให้ชม ลองฟังกันดูครับ TheGreat Gig
อย่างที่คุณ chackrapbong ได้นำเพลงเอก เพลงหนึ่งของ Pink Floyd คือ Another Brick In The Wallมาเปิดให้ชม ซึ่งเป็นเพลงที่ทำให้ Pink Floyd ดังไปทั่วโลก จนฉากกำแพง แทบจะเป็นตัวตนของ Pink Floyd ไป ผมขอเอาการแสดงคอนเสิร์ต Pink Floyd - Another Brick In The Wall - Live ปี 1980 มาให้ชมครับ Looking Glass Girl
ถ้าจะกล่าวถึงเพลง Another Brick in the wall แล้วไม่พูดถึง Mv ของเพลงแล้ว เหมือนการขาดการเล่าเรื่อง ในจินตนาการของเพลงนี้ เพลงนี้ และMv แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ Part I -rising from the sadness Part II - the protesting Part III - the furious เป็นการบอกเล่าชีวิตของ เด็กน้อย Pink ที่ผ่านความกดดันและสร้างกำแพงของตัวเองขึ้นมา(ตามไปอ่านได้ใน) https://en.wikipedia.org/wiki/Another_Brick_in_the_Wall Stardust Music Mv ชุด2 3 ตอนนั้น มีความรุนแรง และค่อนข้างยาว เลยมีการออก Mv เอาเฉพาะท่อน 2 และแสดงเป็นแบบภาพวาดแทน ในช่วงที่ดูมีความรุนแรง ซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเหมือนกัน Pink Floyd
มาดูคุณลุง มัลคอล์มและแอนกัส ยัง ที่ทำวง AC/DC มา 40 ปีแแล้ว ยังใส่ชุดนักเรียน ประถม ขึ้นร้องเพลงให้ร็อครุ่นหลานฟัง acdcVEVO อันนี้แถม สำหรับแฟนๆ IRONman acdcVEVO
ขอคั่นเรื่องเพลงมาเป็นเรื่องหนัง และเกาะกระแสหมีเซียะมาไทยบ้าง หนังเรื่อง จอมยุทธแสนกล (Ambitious Kung Fu Girl) ฉายเมื่อปี 2524 หนังตัวอย่าง จาก Celestial Pictures Limited บริษัทที่ซื้อหนังฮ่องกงของบริษัทชอว์ บราเดอร์ส มาซ่อมฟิล์มและอัดวีซีดี และดีวีดีขาย
ขอบคุณคุณhillton(ปาล์มาลี), ที่มาลงรายละเอียดเป็น series The Wall และขอลดโทนความหนักหน่วงดนตรี ไปอีกแนวครับ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 330 ปี นักประพันธ์เอกของโลกยุค Baroque Johann Sebastian Bach ถือเป็นงานที่ คนกลัวดนตรี คลาสิก เริ่มต้นจากงาน ของ ฺBach ได้เป็นอย่างดี มีใครคนหนึ่ง มโน ไปว่า หาก Bach ยังมีชีวิตอยู่ facebook ของ Bach น่าจะออกมาแนวนี้ ไปดู มโนเฟสบุค กันสักหน่อย ส่งท้ายคืนนี้ด้วย... นางดิท:ขยาย profile ให้ชัดครับ
อย่างที่โกวเล้งกล่าวไว้ คุณอาจจะไม่นิยมชมชอบการดื่มสุรา แต่คุณอาจจะชมชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา คอนเสิร์ต AC/DC ยาว 1.3 ชั่วโมง เสพบรรยากาศเอาครับ AC/DCfans
ห้าทุ่มแล้ว ขอลดเสียงลดนิด... ไปฟัง classical ผสาน hip-hop กันหน่อย เป็นแนวดนตรีที่ผสานทั้งแนว classical/hip-hop ได้อย่างลงตัว มีคนเรียกว่า stereotypes หรือดนตรีคู่ขนาน (แปลเองแบบเอาฮานะครับ) เป็นหนึ่งในหลากหลายแนวทางดนตรีที่มีอยู่ทุกวันนี้ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ "ผลงานนี้ไม่ได้เกิดจาก อุบัติเหตุ แต่เป็นความตั้งใจที่ทำออกมาได้" Kevin Sylvester / Black Violine ส่งท้ายคืนวัน สุข สักเพลง
Shakira บนเวที การประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 70 ที่นครนิวยอร์ก 2015 Shakira, before the Pope at the UN in NYC, dedicates her performance of John Lennon's Imagine to Aylan and Galip Kurdi and all the children turned refugees due to the Syrian war "Imagine"
เข้า celtic songs Mode สักโพสท์ จากงานของ Karan Casey, Martin Simpson, Sinead O'Conner, etc. และพลาดไม่ได้สำหรับ ขวัญใจชาวไทยเมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว The Corrs - Toss the Feathers
คืนนี้จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงซึ่งเป็นช่วงเดียวกับ super full moon ซะด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยครั้ง สังเกตเห็นได้ใน ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ตะวันตกของยุโรปและอาฟริกานะครับ เสียใจด้วย The Departed Soundtrack
คืนนี้! รอดู′ซุปเปอร์มูน′ดวงจันทร์ใกล้โลกสุดรอบปี ถ้าพลาดรออีก18ปี http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1443414456 นับเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเพียง 5 ครั้ง ได้แก่ ปี พ.ศ.2453, 2471, 2489, 2507, 2525 ครั้งที่ 6 ในวันที่ 28 กันยายน 2558 นี้ และจะเกิดครั้งต่อไปในปี พ.ศ.2576 ถึงแม้คนไทยจะพลาดชมจันทรุปราคาเต็มดวง แต่ในคืนดังกล่าวจะยังได้เห็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี
เห็นข่าวนี้แล้วก็ทำให้นึกถึง “สองคมสองคม - นางสาวกำไก่” สุดยอดตัวละครที่น่าจดจำของ 30 ปี วงการหนังฮ่องกง ตัวละครจากหนังสุดฮิต Infernal Affairs ของ "หลิวเต๋อหัว" ได้รับรางวัลเป็นตัวละครที่น่าจดจำที่สุดตัวหนึ่ง ของวงการหนังฮ่องกงในรอบ 30 ปี ที่ผ่านมา เช่นเดียวกันตัวละคร "นางสาวกำไก่" ของ "อู๋จินหยู" ที่ได้รับรางวัลสำหรับตัวละครของฝ่ายหญิงไป http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000109054 จะว่าไปแล้ว วงการหนังฮ่องกงที่เคยรุ่งเรืองสุดขีดในยุค 90 กับหนังแนว Heroic bloodsheed อย่าง โหด เลว ดี กอดคอไว้อย่าให้ใครเจาะกะโหลก ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หรือ สองคนสองคม เรื่องนี้ จนถึงปัจจุบันนี้ก็แทบไม่มีแล้ว กับหนังแนวเนื้อหาเข้มข้น บทสนทนาคมคาย ตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะพระเอกจะตายด้วยสภาพนองเลือดแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยวีรกรรมแบบวีรบุรุษ ให้เป็นที่จำจดเล่าขาน เอาเพลงมาลงดีกว่า เวอร์ชั่นกวางตุ้ง จีนกลาง และอันนี้เพลงเก่า แต่มาเป็นที่รู้จักกันดีจากหนังเรื่องนี้ Forgotten Time ของ ไช่ฉิน
พูดถึง Magnolia แล้ว สิ่งหนึ่งที่ชื่นชอบในหนังเรื่องนี้ก็คือ ลองช็อตยาว ๆ แบบนี้ 135 วินาที ตั้งแต่รายงานสภาพอากาศ คู่พ่อลูกเดินเข้ามาในสถานีโทรทัศน์ แล้วก็เดินเข้าไปเรื่อย ๆ กล้องก็ตามเข้าไปถ่ายต่อ ขึ้นชั้นบน ๆ ไปเรื่อย ๆ มีตัวละครต่าง ๆ เดินเข้ามาและออกไปจากฉาก จนกระทั่งถึงห้องออกอากาศ มหัศจรรย์มาก ๆ ในวงการหนังไทยเราก็มี คือ ต้มยำกุ้ง ในปี 48 ซึ่งอันนี้เป็นแอ๊คชั่นลองช็อตด้วย แล้วแม้แต่ในแวดวงเพลง ก็มี MV เพลงนึงของฝันดี ฝันเด่น ราว ๆ ปี 38 ก็ถ่ายแบบนี้คือ ลองช็อต ไม่มีตัด แต่จำไม่ได้แล้วว่าเพลงอะไร เพลงนี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่เป็นแค่ MV ทั้งคู่ก็แค่ออกแอ๊คชั่นไปเรื่อย ๆ จนจบเพลง แล้วใช้เทคนิคซ้อนภาพเข้าไป ส่วนลองช็อตที่เขายกให้เป็นอันดับหนึ่งเลย คือ ซีนในรถ ของ Children of men หนังไซไฟที่ได้รับคำชมมากมาย แต่ไม่ได้ลงโรงฉายในบ้านเรา
และก็อีกหนึ่งของสุดยอดลองช็อต หรือ ลองเทค ก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้ True Detective ความยาว 6 นาทีเต็ม ซึ่งก็เต็มไปด้วยความรุนแรงและฟักแฟงแตงน้ำเต้าซะจนคนดูอิ่มเลย แต่ก็มันส์ดี
ย้อนไปเมื่อปี 2534 ตอนนั้นเพิ่งขึ้น ม.1 ใหม่ ๆ เขากำลังดังเลย กับอัลบั้มชุดที่ 2 ของเขาที่เปลีึ่ยนแปลงตัวเองมาเป็นป๊อปแด๊นซ์ ดังระเบิดระเบ้อ ส่วนนึงที่ทำให้ชอบด้วย คือ พี่เขาเป็นรุ่นพี่ที่ ร.ร.ด้วย อัลบั้มชุดที่ 2 ทัช ธันเดอร์ ที่แจ้งเกิิดให้เขาได้อย่างเต็มตัว ปกแรก ปกแบบที่สอง จากนั้นก็ได้เล่นหนัง "รองต๊ะแล่บแป๊บ" ทั้งที่ความจริงแล้ว เขามีผลงานมาแล้วก่อนหน้านั้นในปี 2533 แต่ก็ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ แต่พอจะรู้จักหน่อยก็คือ เพลงนี้
ช่วงนั้น ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ต้องถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งของอาร์เอสโปรโมชั่นเลยทีเดียว เป็นเสมือนคู่แข่งของ เจ เจตริน ของแกรมมี่ ที่ก็ออกอัลบั้มชุดแรกในแนวป๊อปแด๊นซ์เหมือนกัน ยุคนั้น เพลงแด๊นซ์มาแรง ครองตลาดเพลงวัยรุ่น จำได้ว่าที่หน้า ร.ร. บางวันจะมีคนเอาแผงลอยมาตั้งขายรูปดาราที่ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีรูปของทัชกับเจจับมือกันด้วยที่คอนเสิร์ตอะไรซักแห่ง เท่มาก สำหรับ ทัช แล้ว เขาได้รับคำชมว่า "ร้องได้ดีทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว" ซึ่งหาได้ยากในวงการเพลงไทย เพลงช้า จากนั้นในปี 2536 ก็ออกอัลบั้มชุดที่ 3 จำได้เลยว่าวางแผงเมื่อวันที่ 1 เมษายน ตอนนั้นไปซื้อเทปชุดนี้ที่ตลาดบางแค เพลงโปรโมตอัลบั้มนี้เพลงแรก อีกเพลง ที่สมัยนั้นเขาสงสัยคำร้องที่ว่า "หรือปลาไหล 'สินจัย' เธอสับเปลี่ยนเร็วนัก" คือ คนไม่เข้าใจว่า "สินจัย หงษ์ไทย" เกี่ยวอะไรด้วย แต่ เราก็เอ๊ะ มันก็ฟังเป็น "สิงใจ" นะ ไม่ใช่ สินจัย เพลงช้าของชุดนี้
ช่วงนั้น คือ ยุค'90 ต้องบอกเลยว่าเป็นยุคที่เพลงวัยรุ่น เพลงป๊อป เพลงแด๊นซ์ครองตลาดจริง ๆ สำหรับอาร์เอส ออกอัลบั้มกับศิลปินในแนวนี้ไม่รู้ตั้งกี่คน ทั้ง บอยสเก๊าต์ ศรราม เทพพิทักษ์ ปราโมช แสงศร โชคชัย เจริญสุข เจอาร์วอย ลิฟต์กับออย นุ๊ก สุทธิดา แต่สำหรับเราแล้ว ทัช คือ เป็นคนเดียวเท่านั้นที่เป็น "นักร้อง" จริง ๆ เพราะเขาแจ้งเกิดมากับเพลงอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นดารา นักแสดง หรือนายแบบเหมือนคนอื่น ๆ พอขึ้น ม.3 จำได้ว่า จากความดังเขาทำให้เขาเล่นละครเรื่องแรกทางช่อง 7 คือ กระถินริวรั้ว บทที่ได้รับ คือ เป็นน้องนางเอก คือ ดา ชฎาพร รัตนเสน แม้จะไม่ใช่ตัวเอกหรือพระเอก แต่ก็มีบทบาทสำคัญ และมีบทบาทซะยิ่งกว่าตัวพระเอก คือ เบน อิศรางกูร ซะอีก เพลงประกอบละครเรื่องนี้ ไม่ใช่ดาว หรือ ดาวบนดิน ถัดมา ก็ได้ประกบกับนางเอกตัวแม่ของช่อง 7 เลย คือ กบ สุวนันท์ ในเรื่อง เกิดแต่ตม แต่สำหรับบทบาทการแสดงของเขาแล้ว ถึงแม้จะดังและประสบความสำเร็จก็ตาม ส่วนตัวแล้วต้องบอกว่า "ไปเป็นนักร้องอย่างเดิมเหอะ" ดีที่สุด อิอิ ก็อย่างที่บอก เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักร้อง ไม่ใช่นักแสดง
พอขึ้น ม.5 เขาก็ออกอัลบั้มชุดที่ 4 ในชื่อ ทัช V4 โดยส่วนตัวแล้วชอบชุดนี้มากที่สุด เพราะเป็นอัลบั้มที่ลงตัวมากที่สุด ทั้งดนตรี และการเต้น การแต่งกาย ซึ่งเป็นธรรมชาติมากที่สุด จำได้ว่าวางแผงวันที่ 16 เมษายน ครั้งนั้นนั่งรถไปซื้อที่วงเวียนใหญ่ เพลงโปรโมตเพลงแรก เพลงช้า เพลงช้าอีกเพลง เพลงนี้ไม่มีในยูทูปนะ http://radio.sanook.com/music/player/30462/แค่ดิน และทำให้ได้เล่นละครอีกครั้ง คราวนี้กับนักแสดงสาวในสังกัดเดียวกัน คือ นิ้ง กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา กับเรื่อง "ภูติพิศวาส" ทางช่อง 7 เรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอีกเช่นกัน ตอนนั้นที่ ร.ร.ครบ 100 ปี มีการจัดงานฉลอง เขามาเล่นคอนเสิร์ตในฐานะศิษย์เก่า ในวันสุดท้ายของงานฉลองที่มีกันต่อเนื่อง 3 วัน แว่ว ๆ มาว่า ค่าตัวเป็นแสนเหมือนกัน คือ ตัวเขาคงไม่เอาหรอก มาด้วยใจ แต่ต้นสังกัดเขาเอา ก็ทำไงได้ ในวันนั้นจำได้ว่าเขาใส่เสื้อยืดแขนยาวลายขวางสีขาว-ดำ กางเกงสีน้ำตาลกากี เป็นชุดเดียวกับที่ใช้ใส่ถ่ายละครเลย รู้สึกว่าจะรีบขึ้นเครื่องบินมาเพื่อแสดงตรงที่ ร.ร.โดยเฉพาะเลย สุดยอดจริง ๆ เรื่องนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ร้องเพลงประกอบนะ แต่เพลงประกอบเป็นเสียงร้องของนิ้ง ก็เอาไตเติลไปดูละกัน
ผ่านมาหลายปี เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า "ในหมู่วัยรุ่นเนี่ย ผมเนี่ยแก่สุด" ก็แหงล่ะ ก็อย่างที่บอก เพราะตอนออกอัลบั้มทัช ธันเดอร์ นั่นก็อายุอานามปาไป 22 แล้ว แต่เขาคือ นักร้องจริง ๆ เพียงคนเดียวในหมู่วัยรุ่นของอาร์เอสทั้งหมด แล้วก็บอกเล่าถึงช่วงเวลาตอนนั้นว่า ดังมาก เวลาไปเล่นที่ต่างจังหวัด ก็วิ่งรถโปรโมตกันเหมือนหาเสียงเลือกตั้งน่ะ คนก็มาดูกันเยอะแยะ ก็ตามยุคสมัยน่ะนะ แล้วก็ได้เล่นหนังอีกครั้ง กับ นิ้ง กุลสตรีอีก คือ "เกิดอีกทีต้องมีเธอ" ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอีก กับ นิ้ง กุลสตรี แล้ว ทั้งคู่คบหาเป็นแฟนกันจริง ๆ ไม่ใช่แฟนหรือคู่จิ้นโปรโมตเหมือนสมัยนี้ แต่ทั้งคู่ก็ไปกันไม่รอด เพราะว่า ทัชเคยไล่ฝ่ายหญิงลงจากรถกลางถนนตอนกลางคืนมืด ๆ มาแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร จากนั้นพอขึ้นสู่ทศวรรษใหม่ ในปี 2540 ตัวเราก็ขึ้นมหา'ลัย เขามีข่าวเสียว่าถูกจับได้ว่าเสพยากับเพื่อนที่คอนโดแถวท่าพระด้วย ช่วงนั้นในวงการบันเทิงเขามีมาตรการไม่เสนอผลงานของดารานักร้องที่เสพยาเสพติด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่เยาวชน พออัลบั้มชุดที่ 5 ทัช ไซโคลน ซึ่งออกราว ๆ ปี 2542-43 ก็ทำได้แค่โฆษณาหรือโปรโมตเท่านั้น แต่ไม่มีการเปิดเพลงหรือ MV ใด ๆ นี่เป็นเพลงนึงเท่าที่รู้จักในชุดนั้น จากนั้นชื่อเสียงเขาก็สร่างซาลงตามยุคสมัย เขาก็เปลี่ยนไปร้องลูกทุ่ง อะไรต่าง ๆ มายุคปัจจุบันก็เห็นกลับมาร้องเพลงกับแสดงละครอีกครั้งทางช่อง 3 ซึ่งเป็นได้แค่ตัวประกอบแล้ว ปล.ขอแก้ไข ภูติพิศวาส เขาได้ร้องเพลงประกอบไว้เพลงนึง คือ เพลงนี้
เห็นตัวอย่าง ทอง 10 แล้ว ก็ทำให้นึกอยากจะลงเรื่องราวของเขาคนนี้ กัญจน์ ภักดีวิจิตร เขาไม่ใช่พระเอก เขาไม่ใช่ตัวโกง เขาไม่ใช่ดาราโด่งดังอะไร แต่ให้ตายเหอะ เมื่อใดที่เขาปรากฏตัว ทุกตัวละครต้องชิดซ้ายหลบไป เพราะตัวขโมยซีนมาแล้ว และถ้าไม่มีตัวละครที่เขาแสดง เรื่องจะไม่สนุกเลย หรือเผลอ ๆ ไม่เป็นเรื่องเลยด้วยซ้ำ แรก ๆ ที่เขาปรากฏ ชาวพันทิปบ่นกันให้ตรึม ว่าเขาเป็นใคร ? เป็นลูกผกก.แล้วไง ไม่เห็นหล่อเลย ทำไมได้รับบทสำคัญนัก แต่หลัง ๆ จวบจนปัจจุบัน เขาได้กลายเป็นขวัญใจคนที่นั่นไปแล้ว หลายคนบอกเขาหล่อ มีเสน่ห์ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับจริง ๆ คือ เขาร้องเพลงเพราะมาก จึงมักได้ร้องเพลงประกอบในเรื่องแทบทุกเรื่องของพ่อเขา นี่คือ ผลงานเพลงของเขา
แม้ละครของพ่อเขาจะถูกหาว่าเชยอย่างไร แต่ให้รู้ไว้เถอะ ทุกเรื่องของแก เรตติ้่งงี้กระจาย ผู้บริหารช่องไม่ต้องห่วงเรื่องคู่แข่งหรือรายได้เข้าสถานีเลย เรียกว่าทำเงินได้ทุกเรื่องว่างั้นเถอะ และให้รู้ไว้เหอะ ไอ้พวกที่ชอบ ๆ วิจารณ์ผลงานแกน่ะ ดูละครแกทั้งนั้นอ่ะ ไม่งั้นจะเอามาคุยเป็นคุ้งเป็นแควได้ไง ใช่ม่ะ นี่แหละ คนไทย ชอบว่า แต่ก็ชอบดู มีคนรวบรวมลักษณะเฉพาะตัวอาจเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ก็ได้ ถึง 60 ข้อ (ถ้าภาษานั่นหน่อยก็เรียก ซิกเนเจอร์ หรือลายเซ็นประจำตัว ) ของละครของ อาหลอง หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตาแล้ว แต่ก็อ่านอีกจะเป็นไรไป 1. ละครและหนังของฉลองมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างคำว่า เชย และ อินดี้ 2. วงการเพลงมีพี่น้องสินเจริญ ละครหนังฉลองก็มีพี่น้อง ภักดีวิจิตรบราเธอร์ 3. พระเอกมักมีอาชีพเป็นตำรวจ (แม้ทั้งเรื่องไม่เคยใส่เครื่องแบบแต่นั่นแหละ..ผู้ก อง) ไม่จำเป็นต้องหล่อมากแต่ต้องบึก กำยำ และอันนี้สำคัญต้องมี....ขนหน้าอก 4. นางเอกมักแก่นเซี้ยว ลุยๆ ออกไปไหนไม่แต่งหน้า(หรือแต่ง) กำพร้าแม่ หากเป็นลูกตัวร้ายก็มักจะใฝ่ดี ทำแผลได้และขับเรือหางยาวเป็น 5. พ่อนางเอกมักทำธุรกิจผิดกฎหมาย เป็นผู้มีอิทธิพล แต่ถ้าเป็นคนดีมักได้เป็นกำนัน 6. กำนันจะมีลูกสาวคนเดียว(และสวย) กำพร้าเมีย มีบ้านใหญ่ มีไร่องุ่น คาดผ้าขาวม้าและห้อยพระสมเด็จ 7. นางเอกมีเพื่อนเล่นที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นผู้หญิงชื่อมักจำง่าย(เช่น นังกระต่าย) ขี่จักรยานเฟสสันได้ ตอนแรกเกลียดผู้ชาย สุดท้ายมักได้แฟนก่อนนางเอก 8. หากเป็นผู้ชายก็มักเป็นลูกสมุนคู่ซ้อม อ้วน แคระ และผิวหมึก ที่สำคัญห้ามชอบนางเอก 9. เพื่อนพระเอกก็ต้องคู่กับเพื่อนนางเอก และมีความสัมพันธ์รุดหน้าก่อนคู่นางเอกเสมอ และแน่นอนรับบทโดย ภักดีวิจิตรบราเธอร์ 10. หากในเรื่องมีฉากกุ๊กกิ๊กมีดนตรีประกอบ จะคล้ายกับมิวสิควีดีโอเพลงจากรายการชุมทางเสียงทอง (ของแท้ต้องมีโลโก้นพพรสีทองติดอยู่บนปก) 11. หนังฉลองห้ามมีกระเทยและคนใช้ มีได้...ก็ห้ามเด่น 12. พาหนะของพระเอกถ้าไม่ใหม่สุดๆ ก็ต้องเก่ากว่า 20 ปีขึ้นไป ราคาแพงในสมัยนั้น อะไหล่หายาก ขับพวงมาลัยซ้าย เข้าเกียร์กระปุกมือขวา (โจรโผล่มายิงยากนะนั่น !) 13. ลูกน้องตัวโกงมักได้บทพูดเท่าๆ กัน และโคลสอัพเต็มใบหน้าทุกคน 14. ความลับต่างๆ มักมาจากการได้ยินโดยความบังเอิญ จากการซุ่มหลังต้นไม้ กอไม้ไผ่ รั้วสังกะสีและต้องมีฝูงเป็ด 15. ออกจากบ้านไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์มือถือ เอาลูกกระสุนใส่กระเป๋าให้เต็มไว้เหอะได้ใช้แน่นอน 16. ดูจากข้างนอกในผับบาร์คนคงจะเยอะ ไม่ต้องกลัวเข้าไปเหอะ มันมีที่ว่างหน้าเคาน์เตอร์อยู่ที่นึงให้นั่งเสมอ 17. ลูกน้องตัวโกงมักขี้หงุดหงิดเวลาโกรธจะเอามือตบโต๊ะ แต่เวลาอยู่กับหัวหน้าจะดูสุภาพ และพูดอะไรไปแล้วมักโดนตบเสมอ.. 18. ร้านขายน้ำชากาแฟในหมู่บ้านเป็นที่ใครอยากรู้ข่าวอะ ไร มาที่นี่รับรองรู้หมด 19. ตัวละครที่เป็นฝรั่งพูดไทยได้ทุกคน ชัดไม่ชัดก็อีกเรื่อง 20. นางร้ายมักสวย ตายก่อนเสมอ และต้องนมโต...ไม่รู้เป็นอะไร 21. หนังพจน์ต้องมีโก๊ะตี๋ หนังฉลองภักดีก็ต้องมีกรุงศรีวิไล 22. จะต้องมีฉากหลงป่า (กฎ กติกา ข้อบังคับ) 23. จะเจอนายพรานแต่งเป็นกระเหรี่ยง และไม่ต้องเล่าอะไรเพราะนายพรานรู้หมดทุกอย่าง 24. ในกลุ่มจะต้องมีคนที่ดูฉลาดคู่หนึ่งเสมอ ให้เดาได้เลยว่าจะเป็นพระเอก กับนางเอก 25. ในเมื่อมีคนฉลาดก็ต้องมีคนโง่ไว้เป็นภาระซึ่งก็คือ นางร้าย และตัวที่ตลก 26. แม้ผืนป่าจะกว้างแค่ไหนก็ต้องมาจ๊ะเอ๋เจอกับลูกน้องตัวโกงเสมอ 27. ไม่พูดพร่ำทำเพลงไม่ต้องถามว่าเป็นพวกไหน จะต้องมีการยิงกันก่อน.. 28. ทั้งสองฝ่ายต้องถอยไปตั้งหลัก(พวกตัวโกงจะวิ่งหนีใส่เกียร์หมา และมาตัวเปล่า-ส่วนพวกพระเอกจะหนี....อย่างเท่ห์ และแบกเป้รุงรัง) 29. พวกพระเอกจะต้องไปเจอถ้ำประหลาดที่มี แสงสว่างตลอดทั้งปี 30. หากมีใครแปลงร่างได้ก็จะเผยโฉมหน้าที่แท้จริงในถ้ำนี่แหละ.. 31. หากแปลงเป็นเสือจะถ่ายฉากเสือมาจากสวนสัตว์เปิด และคำรามอย่างน้อยหนึ่งครั้ง(แต่ถ้ามีการตะปบจะเห็น (ถุง) มือเสือจริงๆ และมีเลือดกระฉูดกันเห็นๆ) 32. ฉากตัดมาตอนเช้าทุกคนจะร่วมวงดื่มกาแฟ และไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน 33. ใครมีประโยคเด็ดอะไรก็มาปล่อยกันตอนนี้นี่แหละ(เจ้าให้ข้าดื่ม ไยข้าจะไม่ดื่ม/ปืนนะมีไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีนะผู้กอง) 34. เหมือนจะรู้ว่าใกล้ๆ มีน้ำตก นางเอกเตรียมผ้าถุงมาด้วย(นางเอกจึงขอตัวไปอาบน้ำ) 35. นางเอกจะนุ่งกระโจมอกเผยแค่หัวไหล่ แต่ถ้าเป็นนางร้ายอนุญาตให้เห็นมากกว่านี้ได้(ฉากนี้เราจะเห็นทรวดทรงของเธออย่างชัดเจน(ส่วนที่ดีที่สุดของหนังฉลอง)) 36. นางเอกจะลูบไล้สบู่ไปมาแค่บริเวณต้นคอ เรียวแขนและเนินอกเท่านั้น แต่นางร้ายอนุญาตให้ล้วงไปในผ้าถุงได้ 37. พลัน! เสียงกุกกักเกิดขึ้น 38. นางเอกจะตะโกนถามว่า..นั่นใครอ่ะ? แต่ร้อยทั้งร้อยไม่มีเสียงตอบรับ 39. แต่ถ้าเป็นจะใครสักคนก็มักเป็นพระเอก(นางเอกจะเขินอายโผล่แค่หัวในน้ำ หันหลังให้พระเอกแล้วพูดว่า “คุณมาแอบดูฉันเหรอ”) 40. แต่ถ้าไม่มีใครนางเอกจะรีบขึ้นมาจากน้ำแต่งตัว 41. และเมื่อเข้ามาในกลุ่มก็พบว่าพระเอกหายไป 42. ถ้านางเอกไม่ชอบพระเอกอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งตอกย้ำว่า ~พระเอกต้องเป็นไอ้โรคจิต 43. พระเอกกลับมาแล้ว พร้อมกับไก่ 44. การก่อกองไฟในเรื่องเป็นอะไรที่ง่ายมาก มีการย่างไก่และทุกคนกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ต้องมี น้ำจิ้ม 45. นางเอกดูหิวกว่าคนอื่นเสมอแต่มักเก็บอาการเอาไว้ 46. พระเอกจะเป็นคนเดียวที่ดูออกและถามนางเอกว่า “คุณไม่หิวเหรอครับ”(นางเอกมักจะตอบว่า "ไม่(สั้นๆ)" แต่พระเอกก็ยื่นไปให้) 47. ด้วยความหิวนางเอกจึงรับไว้และกินด้วยความลืมตัว 48. พระเอก “ไหนคุณว่าคุณไม่หิวไงครับ” (นางเอกนึกขึ้นได้ มองค้อนและพูดในใจว่า “ฝากไว้ก่อนเหอะตาบ้า”) 49. ดึกแล้ว คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม กองไฟเพียงกองเดียวก็ให้แสงสว่างได้ทั่วทั้งป่า 50. นางร้ายอนุญาตให้นุ่งสั้นเข้านอนได้เพียงคนเดียวโดยไม่กลัวยุงป่า (เน้นซูมไปทั่วร่าง ~ ส่วนที่ดีที่สุดอีกส่วนหนึ่งของหนังฉลอง) 51. ของที่ตามหามาทั้งเรื่องมักอยู่ที่นางเอก แม้จะชิ้นใหญ่แค่ไหนก็มักพาไปไหนด้วยเสมอ เช่น รูปปั้นหินศิลาแลง (หนักนะนั่น!!) 52. ตำรวจจราจรมีอยู่ทุกที่ขับมอเตอร์ไซด์วิบากในป่า ก็ต้องใส่หมวกกันน็อค 53. ดนตรีประกอบจะต้องตื่นเต้นเร้าใจ ไม่เว้นแม้แต่ฉากตัวโกงกินโค้ก หรือพระเอกกำลังโบกแท็กซี่ 54. เพลงประกอบละครอังกอร์ 1 คือต้นฉบับ เรื่องหน้าแค่เปลี่ยนคำศัพท์ และคัฟเวอร์ 55. อย่าได้งงถ้าหากเห็นลูกน้องตัวโกงตัวหนึ่งโดนยิงตาย แต่ตอนท้ายแต่งกายมาเป็นชาวบ้านเพราะทุกคนเป็น ~ อมตะ 56. ทุกครั้งที่ต่อสู้กับผู้ร้าย นางเอกจะตะโกนเรียกพระเอกด้วยความเป็นห่วงจนพระเอกพลาดท่าผู้ร้ายเสมอ 57. แม้จะโดนผู้ร้ายสาดกระสุนสักเท่าไร พระเอกจะโดนยิงแค่หนึ่งนัดตรงหัวไหล่หรือไม่ก็ต้นขา ส่วนคนที่ทำแผลให้ ไปดูข้อ 4 58. ถ้าดูละครหนังฉลองไม่รู้เรื่องก็อย่าไปดูเหนังรื่องอื่นเลยนะ(โดยเฉพาะของศาสดาเป็นเอก Invisible Waves) 59. และสุดท้ายตอนจบ พระเอกไม่เคยตาย(เพื่อรอจะพูดประโยคสุดท้ายว่า ผมร้อยตำรวจเอก...ในนามของ...ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ควา มร่วมมือกับทางราชการ จ่าช่วยเอาตัวพวกนี้ไปโรงพักด้วย!) 60. แล้วเมื่อสันติสุขมาเยือนอีกครั้ง พระเอกก็ขอนางเอกแต่งงาน ณ ที่ตรงนั้น
แม้จะมีปิ้งไก่หรือไก่ปิ้งเป็นเอกลักษณ์ แต่ให้รู้ไว้เหอะ กัญจน์ ภักดีวิจิตร ไม่เคยเล่นเป็นตัวละครที่ต้องปิ้งไก่เลยซักเรื่อง อย่างมากก็แค่นั่งล้อมวงด้วยหน่อยในฐานะคนนอกที่เพิ่งเข้ามาสมทบกับกลุ่มพระเอก แต่เป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่บทสรุปของเรื่อง บทให้สัมภาษณ์ เรื่องนี้เขาไม่ได้แสดงนะ แต่ร้องเพลงประกอบไว้ 2 เพลง เพราะมาก เป็นเพลงของเขาที่ส่วนตัวแล้วชอบมากที่สุด อีกเพลง
ล่าสุดเห็นเขาไปทำงานเบื้องหลังเป็นผกก.แบบพ่อเขาแล้ว และยังจะย้ายวิกข้ามไปฝั่งช่อง 3 มั่ง ก็โอเค ถือ เติบโตได้ดี ไปได้สวยในเส้นทางสายนี้ ทอง 10 อีกไม่นานคงได้ออนแอร์ และก็คงจะไม่พ้นคำวิจารณ์เดิม ๆ อีกเช่นเคย แต่ให้รู้ไว้เหอะ นั่นอ่ะ ตำนานบทหนึ่งของวงการหนังไทยเลย เผื่อเด็กรุ่นหลังนึกไม่ออกว่า "ระเบิดภูเขา เผากระท่อม" เป็นยังไง จะได้มีตัวอย่างให้ดูให้ศึกษาได้ ส่งท้ายด้วยเพลงประกอบอีก 2 เรื่อง คราวนี้เป็นเสียงผู้หญิงมั่ง ไม่ว่าจะยังไง แต่ที่แน่ ๆ ที่ทุกคนยอมรับคือ ผลงานของอาหลอง เพลงเพราะทุกเรื่อง
เห็นช่อง 3 เอา เปาบุ้นจิ้น ฉบับปี 1993 ของไต้หวันมารีรันอีกรอบ ซีรีส์ชุดนี้ดังมาก ๆ ในบ้านเราเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนั้นตัวข้าพเจ้าเองอยู่ราว ๆ ม.4-ม.5 จำได้ว่าไป ร.ร. ไปพูดเรื่อง คดีสับเปลี่ยนองค์ชาย กะเพื่อนในห้อง 20 ปีแล้วเหรอเนี่ย ผ่านไปไวจริง ๆ แน่นอน ถ้าพูดถึงเปาบุ้นจิ้นแล้วไม่มีเพลงใดเกินเพลงนี้ 新鴛鴦蝴蝶夢 (ซินเยวียนยางหูเตี๋ยเมิ่ง) แปลว่า "ความรักของผีเสื้อคู่ใหม่" ต้นฉบับเป็นของนักร้องไต้หวัน หวงอัน อันนี้เวอร์ชั่นพี่จั่นเจา เหอเจียจิ้ง แกร้องเป็นภาษากวางตุ้งมั่งในปี 1994 อีกเพลงมั่ง เพราะไม่แพ้กัน 携手游人间 (เสอโส่วโหย่วเหยินเจียน) "จับมือเธอท่องไปในโลกกว้าง" และ 22 ปีผ่านไป มาดูบรรดานักแสดงในซีรีส์ชุดนี้ปัจจุบันกันมั่ง ท่านเปา รับบทโดย จินเชาฉิน ปัจจุบันอายุ 69 ปี องครักษ์จั่น พระเอกรูปหล่อ เหอเจียจิ้ง ปัจจุบัน 55 ปี ยังหล่อใสกิ๊กอยู่เลย เห็นผลงานหลัง ๆ ก็แสดงเป็น อู่หมิง หรือ บุรุษนิรนามชุดดำ ในฟงอวิ๋น 2 ฉบับภาพยนตร์ในปี 2009 ในบท อู่หมิง กงซุนเช่อ รับบทโดย ฟั่นหงซวน ปัจจุบันก็อายุ 69 ปี ถ่ายรวมหมู่
เห็นหน้า จินเชาฉิน ที่แสดงเป็นท่านเปาแล้วนึกถึง “แป๊ะยิ้ม” ตอนที่เชิดสิงโต เพลงเก่า ๆ ของญี่ปุ่นมั่ง Akatombo (赤とんぼ) ถ้า search ชื่อเพลงนี้ใน youtube จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นร้อยเลย มีคน cover ไว้เยอะมากกก ผมเลือกเอาที่น่าสนใจมา คลิปนี้บรรเลงด้วย โอคาริน่า เครื่องดนตรีคล้าย ๆ นกหวีด แต่เล่นได้หลายโน้ต ชอบตรงท่อน intro
ย้อนไปเมื่อปี 2544 กับหนังไทยฟอร์มใหญ่แห่งปี หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นหนังไทยฟอร์มใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ สุริโยไท หรือชื่อที่ท่านมุ้ยจะให้แต่ทีแรกในภาษาอังกฤษว่า The Sun and The Moon เป็นหนังอีพิคที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่เมื่อเข้าฉายฮื้อฮากันมาก จำได้ว่าไปดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย คือ วันที่ 17 สิงหาคม ตรงกับวันศุกร์ ที่เดอะมอลล์ท่าพระ คนงี้แน่นเต็มโรง จนกลายเป็นปรากฏการณ์เลยก็ว่าได้ เพราะไม่เคยมีหนังไทยเรื่องใดทำได้แบบนี้มาก่อน แต่เมื่อเข้าฉายแล้ว ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเพลงประกอบที่ว่ากันว่าเหมือนกับเพลงประกอบของ Crouching Tiger Hidden Dragon ของอังลี ที่ขับร้องโดย โคโค ลี ซึ่งเป็นหนังย้อนยุคของเอเชียที่เข้าสู่ตลาดโลกเช่นเดียวกัน เหมือนหรือต่างกันยังไง ลองมาฟังดูอีก เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ A Love Before Time: Crouching Tiger Hidden Dragon เวอร์ชั่นภาษาจีน สำหรับสุริโยไทแล้ว ว่ากันว่าเป็นหนังที่ไม่มีไคลแม็กซ์ หรืออารมณ์ของหนังขึ้นสูงสุด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทุกคนยอมรับว่า โปรดักชั่นนี้เยี่ยมมาก ทั้งฉาก ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว การแต่งหน้า ข้อเสียก็คือ ตัวละครเยอะ จำไม่ได้ และตัวละครตัวเดียวก็มีชื่อเรียกตั้งหลายตัว งงสำหรับคนต่างชาติ มีคำวิจารณ์จากฝรั่งที่ได้ดูแล้ว บอกว่า บทภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของการแย่งชิงบัลลังก์กัน เฉือดเชือนกันยังกับบทละครของเช็คสเปียร์ แต่ข้อเสีย คือ ลักษณะคาแรกเตอร์นั้นมันแบ่งแยกขาว-ดำกันชัดเจน คนดีก็ดีไปเลย คนชั่วก็ชั่วสุดขีด สำหรับส่วนตัวแล้ว ตอนที่เข้าฉาย ก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อหลายปีผ่านไปแล้ว เอามาเปรียบเทียบกับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ผลงานชั้นหลังของท่านมุ้ยแล้ว ก็ต้องบอกว่า สุริโยไท ในแง่ของการสร้าง เหนือชั้นกว่าจริง ๆ ดังนั้นไม่แปลกใจอะไรเลย ถ้าเรื่องนี้ฝรั่งต่างชาติจะชื่นชอบกันมาก
ไม่ได้เข้ามาสองสัปดาห์ ย้อนไป ฟัง-อ่าน นานมากครับ ขอสักโพสท์ Kurt Cobainขวัญใจมหาชนสำหรับคน gen X ศิลปิน นักร้องนำ มือกีตาร์ และคนแต่งเพลงอย่าง Kurt Cobain พื้นเพชาว Seattle งานเพลงของ Nirvana ถืือเป็นการส่งออกดนตรี rock ไปทั่วโลก ช่วงปีท้ายๆ ก่อนที่ เค้าจะฆ่าตัวตาย โดยการยิงสมองตัวเอง Kurt Cobain ติดยาเสพติด และได้รับแรงกดดัน จากคนรอบข้าง รวมทั้งภรรยาเค้าเองด้วย ในเดือนเมษายน 1994 ศพได้ถูกพบภายในบ้าน และเรื่องนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความเห็น เป็นประเด็นที่ทุกคนพูดถึง สาเหตุและแรงจูงใจในเหตุการณ์นี้ ต่างคนต่างพูด ต่างคนต่างแสดงความเห็น มีจดหมายฉบับสุดท้ายของ Kurt Cobain ที่เจอในในภายหลัง น่าจะเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด ว่าอะไร คือสาเหตุและแรงจูงใจ ในเหตุการณ์นี้ To Boddah Speaking from the tongue of an experienced simpleton who obviously would rather be an emasculated, infantile complain-ee. This note should be pretty easy to understand. All the warnings from the punk rock 101 courses over the years, since my first introduction to the, shall we say, ethics involved with independence and the embracement of your community has proven to be very true. I haven't felt the excitement of listening to as well as creating music along with reading and writing for too many years now. I feel guity beyond words about these things. For example when we're back stage and the lights go out and the manic roar of the crowds begins., it doesn't affect me the way in which it did for Freddie Mercury, who seemed to love, relish in the the love and adoration from the crowd which is something I totally admire and envy. The fact is, I can't fool you, any one of you. It simply isn't fair to you or me. The worst crime I can think of would be to rip people off by faking it and pretending as if I'm having 100% fun. Sometimes I feel as if I should have a punch-in time clock before I walk out on stage. I've tried everything within my power to appreciate it (and I do,God, believe me I do, but it's not enough). I appreciate the fact that I and we have affected and entertained a lot of people. It must be one of those narcissists who only appreciate things when they're gone. I'm too sensitive. I need to be slightly numb in order to regain the enthusiasms I once had as a child. On our last 3 tours, I've had a much better appreciation for all the people I've known personally, and as fans of our music, but I still can't get over the frustration, the guilt and empathy I have for everyone. There's good in all of us and I think I simply love people too much, so much that it makes me feel too fucking sad. The sad little, sensitive, unappreciative, Pisces, Jesus man. Why don't you just enjoy it? I don't know! I have a goddess of a wife who sweats ambition and empathy and a daughter who reminds me too much of what i used to be, full of love and joy, kissing every person she meets because everyone is good and will do her no harm. And that terrifies me to the point to where I can barely function. I can't stand the thought of Frances becoming the miserable, self-destructive, death rocker that I've become. I have it good, very good, and I'm grateful, but since the age of seven, I've become hateful towards all humans in general. Only because it seems so easy for people to get along that have empathy. Only because I love and feel sorry for people too much I guess. Thank you all from the pit of my burning, nauseous stomach for your letters and concern during the past years. I'm too much of an erratic, moody baby! I don't have the passion anymore, and so remember, it's better to burn out than to fade away. Peace, love, empathy. Kurt Cobain Frances and Courtney, I'll be at your alter. Please keep going Courtney, for Frances. For her life, which will be so much happier without me. I LOVE YOU, I LOVE YOU!