http://www.komchadluek.net/detail/20150212/201252.html การเมือง : ข่าวทั่วไป วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ‘สมชาย’ยันบริสุทธิ์คดีม็อบพธม.ปี51 ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ อดีตนายกฯ ยืนยันบริสุทธิ์คดีสั่งสลายม็อบพธม.ปิดล้อมสภาฯปี51 ย้ำปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง ชอบธรรม ลั่นพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 12 ก.พ.58 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีศาลฎีกามีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชุมชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปิดล้อมสภา เมื่อปี 2551 ว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ต่อเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่า ในครั้งที่ตนปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบและสุจริตตามอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่พึงปฏิบัติ ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ ตามที่คณะกรรมการป.ป.ช.ฟ้องคดีเอากับตน เพราะก่อนหน้าที่ป.ป.ช.จะฟ้องคดีได้มีการพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้เสร็จสิ้น โดยอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีเอากับตนแล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2555 จนถึงขณะนี้รวมเวลา 2 ปีเศษ และคณะกรรมการป.ป.ช. ก็เคยยื่นฟ้องถอดถอนตนต่อวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอนตนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 นับจนถึงขณะนี้เป็นเวลา 5 ปีเศษ แต่ป.ป.ช.กลับนำเรื่องที่อัยการสั่งไม่ฟ้องและวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอนมาฟ้องคดีที่ศาลอีกครั้ง นอกจากนี้ ในชั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายผู้ปฏิบัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติและศาลปกครอง ได้มีคำพิพากษาให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและได้มีการคืนความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติแล้ว ดังนั้น ในฐานะที่ตนเป็นฝ่ายบริหารจึงควรจะได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ฟ้องคดีในครั้งนี้ด้วย นายสมชาย กล่าวอีกว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งประทับรับฟ้องและมีคำสั่งนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 เวลา 09.30 น.ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการปกติของการดำเนินคดีในศาล แต่ยังจะต้องมีขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายอีกหลายขั้นตอนในการอำนวยความยุติธรรม อาทิ การแถลงเปิดคดี การนัดสืบพยาน และการแถลงปิดคดีของคู่ความทั้งโจทก์และจำเลย ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาต่อไป ตนในฐานะอดีตผู้พิพากษามีความมั่นใจว่า ศาลยุติธรรมจะพิจารณาคดีของตนโดยปราศจากอคติ และเป็นไปโดยถูกต้องและเที่ยงธรรม แม้ตลอดมาตนในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ จากคณะกรรมการป.ป.ช.ก็ตาม แต่เมื่อเรื่องมาถึงศาลแล้ว ตนพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และมีพยานหลักฐานที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ "ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่ป.ป.ช.มาฟ้องคดีให้ผมต้องรับผิดตามกฎหมายในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องควรจะจบแล้วนั้น ป.ป.ช.ยึดหลักนิติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ประการใด หากเทียบกับคดีที่มีการสลายการชุมนุมเมื่อปีพ.ศ. 2553 ที่มีข้อพิจารณาต่อตัวผู้ถูกกล่าวหาในคดีแตกต่างจากคดีของผม ดังนั้น ขอให้สังคมช่วยกันตรวจสอบ และขอเรียกร้องทุกฝ่ายให้ยุติการชี้นำคดีนี้ ปล่อยให้ศาลพิจารณาและพิพากษาคดีไปตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมายด้วย" นายสมชาย กล่าว ------------------------------------------------------------------------------------------- ช้าไปไหมที่ผมจะตั้งกระทู้นี้ ผมว่าหลายคนยังเจ็บกับรัฐบาลผัวเจ้แดง
ขึ้นศาลก็ดีแล้วนี่ จะได้ชี้ขาดกันไปให้จบๆว่าเอาพื้นที่คืนเวลามีการชุมนุมตอนตัวเองเป็นนายกนั้นทำเป็นขั้นเป็นตอนไหม ทอดเวลาให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่พอไหม เปิดทางออกให้เขาทยอยออกทางไหน สลายการชุมนุมได้แค่ไหนอย่างไร เดี๋ยวสุเทพกับอภิสิทธิ์เขาก็จะโดนเป็นคิวต่อไป ยังไม่เห็นพวกเขาออกมาโวยวายอะไร สมชายเรียกร้องให้ยุติการชี้นำคดีแต่ตัวเองก็ออกมาชี้นำว่าตัวเองบริสุทธิ์ ปากพูดอย่างแต่ทำอีกอย่างสมกับเป็นเสื้อแดงจริงๆ
ผมงงกับสมชายที่บอกว่าไม่ผิด ทั้ง ๆ ที่ศาลปค.กลางพิพากษาว่าผิดแล้ว ทั้งกระบวนการ ขั้นตอน และจงใจทำร้ายให้ถึงชีวิต ตามคำพิพากษาวันที่ 5 ต.ค. 55ของศาลปกครองกลาง หมายเลขดำ 1569/2552 ที่นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ กับพวกรวม 250 ราย ซึ่งเป็นประชาชนที่สูญเสียอวัยวะสำคัญและได้รับบาดเจ็บ จากกรณีเจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พิพากษาให้ชดใช้ความเสียหายจากคำสั่งและการกระทำทำให้เกิดการสูญเสีย http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349437121
สมชายถ้ายืนยันตัวเองบริสุทธิ์ งั้น สุเทพ กับ อภิสิทธิ์ ก็ไม่ต้องขึ้นศาลแล้ว เอาอย่างนั้นดีไหมสมชายง่ายดีพบกันครึ่งทาง เอาป่ะ
เอาคำอ้างของอัยการ กับในสภา มาแก้ตัวให้ตัวเอง กลัวเหลือเกินกับการไปศาลนะ คนในตระกูลนี้ เหตุผลเดียว ศาลซื้อไม่ได้
เห็นพูด เรื่องความบริสุทธิ์ ของบุคคล ผมเลยนำภาพนี้มาจากอินเตอร์เน็ต เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สำหรับเพื่อน สมาชิก เรื่องการตัดต่อ รูปภาพ ที่เป็นข่าว ว่าบางข่าว หรือรูปภาพ ต้องใช้วิจารณญาณ ในการชม หรือ ตัดสินใจ อย่าเชื่อง่ายๆครับ
ในเมื่ออัยการไม่ฟ้องสมชายก็มีการร่วมกันพิจารณาภายใน 30 วันกับปปช.ให้อัยการยื่นฟ้องเข้าไปอีกแต่อัยการยังยืนยันไม่ฟ้องก็เป็นหน้าที่ของปปช.ต้องฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเองไม่งั้นปปช.ก็อาจโดน 157 ฐานละเว้น ส่วนคดีอภิสิทธิ์-สุเทพ 2553 เป็นคดีสุดยอดแห่งความคลาสสิคเพราะแรกเริ่มเดิมทีธาริตแห่งดีเอสไอยุค 2553 เป็นเจ้าภาพสอบสวนกรณีชุมนุมจนเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกันยายน 2553 มีผู้ต้องหา 26 ราย โดยมีพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายหมายเลข 1 ครั้นพอพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลในช่วงหลังของปี 2554 “"ดีเอสไอ" ภายใต้ "ธาริต” พลิกลิ้นออกหมายเรียกอภิสิทธิ์กับสุเทพมารับข้อหามีการกระทำที่เล็งเห็นผลว่าจะทำให้มีคนตาย และอัยการกระดี้กระด้ารับลูกไปสั่งฟ้องอภิสิทธิ์-สุเทพต่อศาลอาญาทันที (แต่อัยการไม่ส่งฟ้องสมชายนะ เหอๆ) http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098460 ^^ อย่างไรก็ตาม ศาลอาญายกฟ้องเมื่อ 28 ส.ค. 57 และแนะนำให้อัยการไปฟ้องศาลฏีกาแผนกคดีอาญาสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะจำเลยเป็นนักการเมือง แต่อัยการยังดันทุรังส่งอุทธรณ์ที่ศาลอาญาเพราะจะเอาผิดกับอภิสิทธิ์และสุเทพในคดีอาญาฐานฆ่าคนตายให้ได้ ก็ต้องดูว่าศาลอุทธรณ์จะว่าอย่างไร(อัยการยื่นอุทธรณ์ 24 ก.ย. 57) เรื่องอภิสิทธิ์-สุเทพเกิดทีหลังมาอีกราว 2 ปีแถมอัยการยื่นฟ้องผิดศาล มันก็เป็นธรรมดาที่ผลจะตามมาทีหลัง อย่าโมเมว่าคนโน้นเอียงคนนี้สองมาตรฐาน มันหลอกได้เฉพาะเสื้อแดงที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารเท่านั้น
นักข่าวช่อง New TV ไปถามอาจารย์คณิต ณ นคร เกี่ยวกับอัยการ ยุครัฐบาลปูเน่า อาจารย์คณิต บอกว่า กรรมของ อรรถพล คือบิดเบือนกฎหมาย กรรมที่เห็น ก็คือโดนให้พ้นจากตำแหน่ง