‘นายกฯ ตู่’ แถลงผลงาน 3 เดือน

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย อู๋ คาลบี้, 25 Dec 2014

  1. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    http://www.komchadluek.net/detail/20141225/198344.html
    การเมือง : ข่าวทั่วไป
    วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2557

    ‘นายกฯ’แถลงผลงาน3เดือน

    ‘นายกฯ’ แถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน รับยังไม่เป็นที่พอใจ ลุยปฏิรูปลดขัดแย้ง ขีดเส้นกระทรวงต้องทำตามเป้าหมาย ทุกคดีต้องมีความชัดเจนในอีก 3 เดือน

    cfa7cc5ff6jdhhg9ekcgh.jpg

    25 ธ.ค.57 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงผลงานรัฐบาล 3 เดือน โดยมีคณะรัฐมตรีและหัวหน้าส่วนราชการร่วมงาน มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจร่วมนำเสนอข่าวจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการก่อนเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ และตนยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้มาแถลงผลงานรัฐบาลในช่ง 3 เดือนที่ผ่านมาคือตั้งแต่เดือน ก.ย.จนถึงปัจจุบันซึ่งการดำเนินการต่อเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถือเป็นการทำงานควบคู่กันไปช่วยกันทำงานในลักษณะการประสานการปฏิบัติการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะทราบกันดีว่าปัญหาของประเทศมีจำนวนมาก ซึ่งบางอย่างแก้ไขโดยระบบราชการปกติได้แต่บางอย่างต้องอาศัยอำนาจพิเศษในการดำเนินการ แต่ทั้งหมดก็ทำให้สถานการณ์เรียบร้อยดีขึ้นตามลำดับ แต่สิ่งที่ทำมาทั้งหมดยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับที่จะทำให้ประเทศมีความมั่นคง ยั่งยืนในอนาคต ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนของนโยบาย การขับเคลื่อนและการปฏิบัติ ซึ่งต้องประสานสอดคล้องกันให้ได้ วันนี้รัฐบาลมีหน้าที่ 3 ประการคือ 1.การรักษาความสงบเรียบร้อย ที่ใช้ทั้ง คสช.และส่วนราชการปกติดำเนินการอยู่ 2. การขับเคลื่อนบริหารประเทศ เป็นหน้าที่หลักของรัฐบาล โดยมี คสช.เป็นผู้ช่วยเหลือ โดยใช้ระเบียบวิธีการบริหารราชการตามปกติ เพียงแต่เพิ่มเติมปรับปรุงวิธีการดำเนินงานให้บูรณาการประสานงานสอดคล้องมากขึ้น และ3. การปฏิรูปและการร่างกฎหมายต่างๆ ซึ่งมีทั้ง สนช.และ สปช.ดำเนินการ โดยทั้ง 3 ประการจะต้องเดินไปตามโรดแม็ปที่วางไว้ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่กำหนดไว้ทั้งการเลือกตั้งและสิ่งต่างๆที่มีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งหมด ยืนยันว่าตนไม่ได้ต้องการยืดเวลาทั้งหมดอยู่ที่ทุกคน ไม่ใช่โยนมาที่ตน

    “ผมเข้ามาเป็นกรรมการ ผมเข้ามาเป็นครูใหญ่ มาแนะนำทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้นในการทำงานเท่านั้น อาจจะมีความเป็นทหารมีความรวดเร็วอยู่บ้าง บางครั้งอาจไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่ผมสั่งงานหรือนโยบาบอะไรลงไปก็มักนอนไม่หลับ กว่าจะคิดศึกษารายละเอียดได้ก็ต้องทำการบ้านมากพอสมควร วันนี้อยากบอกว่าอย่ากังวลว่าเราจะใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือชื่อเสียงประเทศชาติจากสายตาคนภายนอก วันนี้เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาประเทศให้ได้เพื่อยืนหยัดในเวทีนานาชาติได้ในอนาคต ถ้าไม่เริ่มวันนี้วันหน้าก็ไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 3 เดือนที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลแบ่งงานออกเป็น 3 ระยะ ซึ่งขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในระยะเร่งด่วน และกำลังเข้าสู่ระยะที่สอง คือระยะกลาง เป็นช่วงของการปฏิรูปด้านต่างๆ และระยะที่สามคือระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งการทำงานต้องสอดคล้องประสานกันทั้ง 3 ระยะให้ได้ ปัจจุบันการการดำเนินการระยะที่ 2 คือการปฏิรูป ซึ่งเรามีเวลาไม่มากก็ต้องช่วยกันทำและแก้ไขกันไป วันนี้เราต้องเร่งสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งประเทศประกอบด้วยคน แผ่นดิน และความทุ่มเททั้งกายและใจ ถ้ามัวแต่มุ่งเน้นถึงผลปรโยชน์ ความขัดแย้งของตนเอง การปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องสุจริต ไม่เป็นธรรม ไม่ชอบธรรม ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศ เสถียรภาพต่างๆ ความไม่สงบสุขก็จะยังเกิดขึ้น วันนี้เราต้องใช้วิกฤติเป็นโอกาสให้ได้ เพราะเป็นโอกาสสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติไปสู่ความมั่งคงและยั่งยืนในอนาคต ที่ใดก็ตามมีความขัดแย้ง เห็นต่างเราก็ต้องแก้ไข หาทางร่วมมือกันให้ได้ เพราะถ้าเอาความขัดแย้งทั้งหมดมาเขียนอาจมีมากเป็น 100 เรื่อง แต่บางเรื่องอาจจะเห็นตรงกันแล้ว เราก็ต้องหาทางลงให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยแก้ปัญหาที่เหลืออยู่ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีวันจบ ทุกประเทศในโลกแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมและโปร่งใส วันนี้เรามีศาล องค์กรอิสระ ก็ต้องให้ทำหน้าที่ที่ได้รับความเชื่อมั่นและเชื่อถือโดยให้อิสระในการทำงาน

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานในกระบวนการยุติธรรมนั้นยาก ก็ต้องให้กำลังใจกับกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็ต้องไม่ใช้กฎหมายที่มีอยู่ไปมีอำนาจเหนือประชาชน ซึ่งถ้าสามารถสร้างความยอมรับ ความเชื่อมั่นได้ก็จะทำให้ประชาชนลดความขัดแย้งลงได้ การทำงานของเราขณะนี้คือแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง วางพื้นฐานของประเทศในทุกๆ ด้าน ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศด้วย เพราะทุกวันนี้โลกเป็นประชาคมแล้ว ซึ่งปีหน้าไทยก็จะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (เออีซี) ก็จะคาบเกี่ยวทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา วัฒนธรรม ทุกประเทศทั้วโลกถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ไม่ใช่คู่แข่งขัน ได้รับผลประโยชน์ที่เท่าเทียม เราจึงต้องเร่งสร้างความเข็มแข็ง วันนี้ไทยดำเนินนโยบายให้ความสำคัญกัลต่างประเทศเสมอกัน และสร้างความเข้มแข็งในอาเซียนให้ได้ วันนี้ทุกประเทศในอาเซียนชื่นชมประเทศไทยขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุขทุกประเทศก็พร้อมร่วมมือกับเราทุกอย่าง จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใด


    ให้กำหนดวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้า

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศว่า อีก 5 ปี ประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศที่มั่นคง ประชาชนมั่งคั่งและยั่งยืนตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราต้องนำประเทศให้ก้าวข้ามกับดักประชาธิปไตยให้ได้ ที่ผ่านมาเราติดกับมานานมากแล้ว จากปี 2475 เรามีการเปลี่ยนแปลงและมีการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้วหลาย เราจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ คน และทุกภาคส่วนให้ได้ “วันนี้บ้านเมืองเรามีความสงบสุขพอสมควร บางคนมองว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยากให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่สิ่งนั้นเป็นเพียงเรื่องกายภาพคือดูเหมือนมีความเรียบร้อย ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการประท้วง แต่สิ่งที่ยังเป็นสาเหตุหรือต้นเหตุยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล อาวุธสงคราม เราต้องทำอย่างคู่ขนานกันไป เพราะถ้าตราบใดสิ่งเหล่านี้ยังไม่ยุติ ต้อตอความขัดแย้งไม่เลิก กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เช่นเดิม ผมเพียงแต่รักษาสถานภาพไว้ แต่ยังเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยในอนาคต”

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว และว่า สิ่งที่ต้องการวันนี้คือทำอย่างไรที่จะขับเคลื่อนประเทศเดินต่อไปได้ ประเทศจะมีความปรองดอง จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมสามารถนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบได้ และคิดว่าสังคมในประเทศมีความเข้าใจมากขึ้น เพราะรัฐบาลบนำเอาปัญหาทั้งหมดมาเป็นโจทย์ในการทำงาน วันนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบ ที่รัฐธรรมนูญ แต่ปัญหาอยู่ที่คนว่าจะใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาให้เกิดความสงบสุขได้อย่างไร ซึ่งอยู่ที่การบริหารราชการแผ่นดิน และความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ข้าราชการ และประชาชน เราต้องสร้างห่วงโซ่ซึ่งกันและกันในการทำงานให้ได้ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้


    ขู่ข้าราชการ "เกียร์ว่าง" เจอตรวจสอบแน่

    “ขอร้องข้าราชการบางคนที่ทำงานแบบรอเวลา ไม่ยอมทำอะไรเพราะคิดว่าอีกไม่นานรัฐบาลนี้ก็ไปแล้ว คิดอย่างนี้ไม่ใช่คนไทยเดี๋ยวผมจะมีวิธีการตรวจสอบ ข้าราชการต้องไม่นิ่งนอนใจ มีความเห็นต่างได้แต่ต้องยึดประเทศเป็นหลัก ไม่ทำให้ประชาชนแบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย วันนี้ขอร้องว่าอย่ารอเวลาเพราะเวลาเราใกล้จะหมดแล้วในเวทีโลก ถ้าเราปล่อยเวลาอีกต่อไปไทยจะกลายเป็นประเทศที่ล้มเหลว ดังนั้นใครที่ยังเฉื่อยแฉะ รอเวลา ผมจะไม่ปล่อย การทุจริตผิดกฎหมายจะต้องถุกดำเนินการ ข้อกล่าวหาที่มีต่อ คสช.ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเงินสลึงเดียวพวกผมไม่เคยได้ ผมไม่มีต้นทุนในการทำงาน ไม่ได้เสียเงินแม้สลึงเดียว จึงไม่ต้องการนำกำไรกลับไป ยืนยันว่าพวกเราทุกคนเข้ามาทำงานด้สยความตั้งใจ ทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ ความรู้ความสามารถ เกียรติยศแต่ละท่าน ผมเข้ามาด้วยชีวิต ผมมีความแตกต่างในเรื่องคุณวุฒิ มีความรู้อาจไม่เท่าพวกพี่ๆ แต่ผมเอาชีวิตเข้ามา ถ้าสิ่งที่ผมทำในวันที่ 22 พ.ค.จัดระเบียบไม่ได้ ผมก็กลายเป็นกบฎ แล้วผมได้อะไรขึ้นมา ผมปล่อยไปไม่ได้ เพราะสงสารลูกหลานในอนาคตจะอยู่กันอย่างไร ประเทศไทยจะเข้มแข็งได้หรือไม่ ในฐานะฝ่ายความมั่นคง เป็น ผบ.ทบ.ก็ติดตามาโดยตลอด ทำงานสับสนุนทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน จะถูกจะผิดจะดีหรอืไม่ดี ก็อยู่ในบทบาทที่เหมาะสมมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นก็ต้องจำเป็น ยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่เคยขัดแย้งกับใคร เพียงแต่ต้องเข้ามาเพื่อระงับความขัดแย้ง และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ทุกคนอาจไม่รู้ว่าอาวุธสงครามเยอะแยะไปหมด อย่าลืมว่ามีคนและของเหล่านี้อยู่ส่วนจะเป็นพวกไหนบ้างก็ต้องไปสอบสวนกันมา วันนี้กระบวนการยุติธรรมต้องไล่ออกมาให้ได้ ใครจะผิดจะถูกก็ให้ชัดเจนออกมาแล้วลฺกกันเสียที จะมาอ้างกันอย่างนี้ไม่ได้ เสียหายทั้งหมดทั้งหมดผมไม่ยอม ต้องทำทุกอย่างให้เกิดความชัดเจนในช่วงรัฐบาลนี้เข้ามาทำงาน เราพร้อมรับฟัง บางคืนฟังจนนอนไม่หลับ อย่างเมื่อคืนไม่ได้นอนสักชั่วโมง เพราะคิดว่าทำอย่างไรจะพูดและสร้างความเข้าใจให้คนทั้งประเทศได้ ทำอย่างไรให้ข้าราชการเข้าใจ ซึ่งถ้าทุกคนยังตั้งแง่สร้างความขัดแย้งมันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด เราจึงต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง แล้ววางโรดแม็ปไปข้างหน้า ปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข” นายกรัฐมนตรี กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้คือการแก้ปัญหาทุกอย่าง ซึ่งไม่อยากพูดว่ามันมีมากและยากแต่ก็ถือว่าเป็นผลงาน 3 เดือนของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาไม่รู้กี่รัฐบาลก็ทำไม่จบที่ผ่านมาการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ตนไม่เคยไปก้าวก่ายหรือมีคำสั่งใดๆ ทุกคดีจะต้องมีความชัดเจนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ใครผิดใครถูกก็ต้องไปหาข้อมูลมา ขณะเดียวกันกระบวนการปฏิรูปก็ไปทำมา เพียงแต่อย่าเอาทุกอย่างมาเป็นประเด็นตีกันทั้งหมด
     
    padd likes this.
  2. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    ต่อครับ

    แนะสื่อปฏิรูปตัวเอง ขู่แจ้งเรื่องไปสมาคมสื่อ

    “สื่อก็ต้องปรับปรุงตัวเองซึ่งเป็น 1 ในหัวข้อการปฏิรูป มีหน้าที่เสนอข้อเท็จจริง วิจารณ์ความเห็นที่เป็นประโยชน์ งดการให้ร้ายอย่างมาเป็นธรรม เป็นสื่อในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้ผมแค่นี้ได้หรือไม่ เดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องไปยังสมาคมสื่อดูซิว่าไอ้หนังสือพิมพ์บางฉบับที่เขียนอยู่ทุกวัน ซึ่งผมก็ทนมานานแล้วติติงมันได้ทุกเรื่อง ทุกหน้ากระดาษ มันเป็นอะไรมันบ้าหรืออย่างไร ไม่ว่าใครเป็นก็ด่าเขาทั้งหมดมันดีตรงไหนว่ะ ไอ้เจ้าของก็จะติดคุกตายมิตายแหล่อยู่แล้ว ผมไม่ได้อยากจะอุดหนุนหรอกนะหนังสือฉบับนี้ แต่เขาซื้อมาให้อ่าน ผมบางทีก็ไม่อยากอ่านอ่านแล้วมันโมโห มันทำให้เสียกิริยา เสียมาดผู้นำหมด ขี้โมโม แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร พูดอย่างนี้พรุ่งนี้ผมก็โดนสวนกลับมาอีก แต่คราวนี้ผมจะปิดจริงๆ ปล่อยแล้วก็ไม่ได้ลามปามไปเรื่อย ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วผมจะเป็นไปทำไม จะมีกฎอัยการศึกไว้ทำไม เรามีไว้เพื่อให้เกิดความสงบ มีไว้ในเชิงสร้างสรรค์” นายกรัฐมนตรี กล่าว


    ยัน ม.44 มีไว้ใช้เชิงสร้างสรรค์ ย้ำปีใหม่ต้องไม่มีเหตุ ขรก.ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยทั้งหมด
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 44 มีไว้ใช้ในเชิงสร้างสรรค์ ตนยังไม่เคยเอาใครมาติดคุกหรือเอาใครมายิงเป้าสักคนเลย หรือใครทำ เอามั๊ย ก็ไม่ทำอยู่แล้ว เลยไปเรื่อยเปื่อยเรื่อยๆ ผมถือว่าถ้ายังทำให้เกิดความขัดแย้งอยู่ เช่น ปีใหม่ ยังมีเรื่องเหตุการณ์ มีการลอบทำร้าย และคดีความ ผมบอกฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีทันทีใช้กฎอัยการศึก ใช้กฎหมายทหารทุกฉบับ ถือว่าคนทั้งประเทศกำลังมีความสุขยังจะมาทำเช่นนี้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวังเกิดเหตุในพื้นที่ใครแล้วยังหาคนทำผิดไม่ได้โดน ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ตำรวจเองยังจับตำรวจด้วยกันได้ ปีใหม่จะต้องไม่มีเหตุข้าราชการทั้งหมดต้องรับผิดชอบความปลอดภัยทั้งหมด อย่าไปปัดภาระให้ความมั่นคงอยู่ที่ทหารตำรวจ อย่างเดียวไม่ได้ วันนี้เราโชคดีที่เกิดเป็นคนไทยและมีประเทศไทย ยังจะทะเลาะกันอีก ประเทสไทยเคยมีคนกล่าวว่าทุกอย่างดีหมดเว้นแต่คนไทยทะเลาะกัน วันนี้ต้องเลิก ต้องแก้ไขปัญหาให้เกิดการยอมรับ

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของการสร้างประชาธิปไตย กับต่างประเทศนั้นดีขึ้น วันนี้เมื่อมีใครมาวิพากษ์วิจารณ์ เราตอบไปว่า เรากำลังแก้ปัญหาเดินหน้าประเทศเราอยู่ ทุกอย่างกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ตอบมันไปแค่นั้น ยิ่งตอบมากไปก็บานปลายไปเรื่อย ไม่ใช่ธุระ ตนคิดว่าเราไปช่วยเหลือกับต่างปแระเทศ 200 กว่าภารกิจที่ไปทำงานต่างประเทศ งานสันติภาพใช้คน 3-4 หมื่นคน ทหารก็ไปช่วยหมด ได้รับคำชื่นชมมาโดยตลอดแล้วเราจะปฏิรูปประเทศเราไม่ได้หรืออย่างไร ทำไมจะต้องมาวุ่นวายกับเรามากนัก ขอเวลาให้เราทำให้คนไทยบ้างไม่ได้หรือ เราทำให้ทั้งโลกมาแล้ว ทุกที่ที่ไป ทหารก็ได้รับคำชมกลับมาอย่างประเทศซูดานทุกวันนี้อยู่ได้แล้ว เราไปสอนวิธีปลูกพืช ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง เขาฝากมาบอกเราคำเดียวว่า เราโชคดีที่ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เขาอยากมีอย่างนี้บ้าง ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่งไปเยือนเขาก็ฝากถวายพระพรให้ท่านทรงมีพระชนมายุยืนยาว เพราะประเทศไทยก็ต้องเป็นแบบนี้ มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีประชาธิปไตย มีวัฒนธรรมที่งดงาม มีบ้านเมืองที่สวย วันนี้ที่เราท่องเที่ยวได้ ก็ด้วยพระมหากษัตริย์สร้างไว้ทั้งนั้น

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเพิ่มศักยภาพทั้งการค้า การท่องเที่ยว ความมั่นคง ความปลอดภัย ทุกอย่างต้องปฏิรูปและปฏิวัติใหม่ทั้งหมด บางอย่างเพียงแค่ร่วมมือกัน ลดละอัตตาตัวเองลงไป วัฒนธรรมองค์กรหรือวันสำคัญในหน่วยงาน เขามีไว้ให้ภูมิใจในกระทรวง ในกรม แต่เวลาเจอกันข้างนอกไม่ใช่ไปตีกันเหมือนอาชีวะต้องเอาวัฒนธรรมแต่ละที่ที่งดงามมาเชื่อมต่อกันให้ได้แล้วทำงานร่วมกัน วันนี้ทุกอย่างต้องร่วมกันหมด การศึกษาก็เช่นเดียวกัน วันนี้ตนไม่ได้ตำหนิการศึกษา แต่ตำหนิรัฐบาล เราเอาแต่ของใหม่เข้ามา ของเก่าหายหมด ตนไปไล่สอบลูกให้ทำบัญญัติไตรยางค์ ปรากฎว่าทำไม่ได้ ตอนเรียนไม่ได้สอนแบบนี้ เขาเคยแต่เติมช่องว่าง คนก็เลยหนีวิชายากๆ ไปหมด ไปเรียนศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เพราะเรียนเลขแล้วปวดหัว ถามว่าบวกเลข คูณเลขเยอะๆ ต้องนั่งเขียนใช้กระดาษ คนก็คิดช้า พอโจทย์ไม่มีวิธีทำ เอาตัวเลขเติมไป ทำให้กระบวนการหายไป เรื่องเหล่านี้ให้ไปหาวิธีการดู แต่ไม่ใช่ตนยึดติดกับของเก่า ของใหม่บางอย่างก็ดี เราจำเป็นต้องแข่งขันกับต่างประเทศ แต่คนทั้งประเทศจะไปแข่งขันกับเขาหมดก็ไม่ได้ ต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งคือ เรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิด และความเข้าใจ บางคนพูดยังไงก็ไม่เข้าใจ ป้อนให้เขามาตลอด ไม่ได้สอนให้คิดต้องสอนให้เขาคิดเป็น วันนี้เกษตรกรทำไมถึงรายได้น้อย เพราะเขาค้าขายไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้เรื่องการตลาดอะไรเลย ตนได้สั่งให้ทุกกระทรวงไปทำตลาดชุมชนขึ้นมา ส่วนนายทุนจะซื้อก็ซื้อไป แต่ก็จะมีการคัดส่วนที่ดีและไปยังตลาดที่เราจัดไว้ให้ เหล่านี้คือสิ่งที่ต้องคิดใหม่ทั้งหมด ถ้าไม่สอนประเทศก็ไปไม่ได้ เขาก็จะรอแต่เมื่อไหร่จะไปอุดหนุน ตนถามว่าต้องอุดหนุนเท่าไหร่ วันนี้ข้าวยังไม่ได้อีกกว่า 7 แสนล้านบาท แล้วจะทำอย่างไร แล้วจะอุดหนุนไปถึงเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องของยางพารานั้นกำลังดูว่า เงินที่ให้ไปแล้ว ถึงมือหรือไม่ ทำไมมันถึงช้า เพราะบัญชีไม่เรียบร้อย ไม่ได้ตรวจสอบกันมาทุกรัฐบาล พอจะไปจ่าย บัญชีไม่เคยเคลื่อนไหวมาเป็น 10 ปีแล้ว ก็ไม่กล้าจ่าย วันนี้ทุกกระทรวงต้องมาร่วมกันขึ้นทะเบียน ไม่ใช่ ธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) อย่างเดียว กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลังต้องมาร่วมมือกัน แต่ก็ยังช้า เพราะจะจ่ายอะไรก็กลัวทุจริต เจ้าหน้าที่ไม่กล้าจ่าย วันนี้เดี๋ยวต้องจ่ายให้ทัน มีเวลาให้จ่าย ถ้าจ่ายไม่เสร็จก็มีเรื่องอีก จ่ายอย่างไรก็ได้ แล้วตามจี้ทุจริตอีกที ถ้าเป็นข้าราชการก็ต้องเอาออกจากตำแหน่งก่อนแล้วจึงสอบ ทำไม่ทันก็โดน ทุจริตก็โดนอีก อย่างไรก็ตามถ้ากลัวทุจริตแล้วทำไม่ได้ นโยบายจะออกมาทำไม งบประมาณก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ท่านเป็นข้าราชการ ตั้งมาให้แก้ปัญหา ไม่ใช่รับประโยชน์ การเป็นผู้บังคับบัญชาคน งานต้องเยอะขึ้น ไม่ใช่สบายขึ้น ต้องฟิต บริหารทุกวัน ไม่ใช่อะไรก็ทำไม่ทัน

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องยางเราต้องไปดูว่าเหมือนกับประเทศอื่นหรือไม่ ราคายางวันนี้กิโลกรัมละ 60 บาทเพียงพอหรือไม่ เลี้ยงดูครอบครัวได้หรือไม่ ก็ต้องไปดู เพราะบ้านเราเป็นอย่างนั้น การแก้ปัญหาต้องลงรายละเอียดให้หมด วันนี้เรากำลังทำอยู่ทั้งหมด แต่ทำอย่างไรถึงจะยกระดับให้ได้ ซึ่งจีนบอกว่าช่วยซื้อยางเพราะเห็นความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลและประเทศไทย โดยระบุด้วยว่าจะรับซื้อเป็น 2 เท่า ตนขอให้ราคาเท่านี้ได้หรือไม่ เขาตอบว่า บ้านเขายังไม่ถึงราคานี้ แต่จะทำอย่างไรก็ต้องคิดกันต่อ แต่เราต้องมีความเข้มแข็ง สร้างโรงงาน ทุกปีเราใช้ยางในประเทศ 10 เปอร์เซนต์และอีก 90 เปอร์เซนต์จะรอขายหรือ แล้วจะขายได้หรือไม่ โดยทุกประเทศแก้ปัญหาโดยปลูกยางในพื้นที่ที่ใช้ต้นทุนแรงงานต่ำ ไม่จำเป็นต้องมาซื้อกับไทยก็ได้ วันนี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์ให้เขามาซ้อของจากเรา ต้องง้อเขา ไม่ซื้อก็เน่าอยู่ในนั้น เศรษฐกิจทั้งประเทศยุบหมด วันนี้เราทำทุกอย่าง


    ชี้ รัฐวิสาหกิจไม่ใช่ต้องกำไรทุกอัน

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องรัฐวิสาหกิจ ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่กำไรทุกอัน บางอันขาดทุนก็ได้ เพราะเป็นการให้บริการ แต่ประชาชนจะพึงพอใจหรือไม่ก็ต้องปรับแก้ ขาดทุนก็คือขาดทุน อันไหนกำไรก็นำมาชดเชยที่ขาดทุนไป รมว.คลังปวดหัวทุกวัน ทุกคนจะเอานู่นเอานี่ แล้วจะเอาเงินจากไหน ต้องไปปรับระบบ โครงสร้างภาษี ก็โดนอีก ทุกคนเอาหมดแล้วบอกเป็นหน้าที่รัฐบาลไปหาเงินมา แล้วจะไปขุดมาจากไหน ก็ต้องภาษีให้เป็นธรรม อันไหนออกมาแล้วก็ให้ออกมาก่อน ถ้ามันเดือดร้อนก็ชะลอได้ รัฐบาลนี้ชะลอหมด หลายอย่างมันต้องขึ้นมาหลายปีแล้ว เราก็ดึงเอาไว้ พอวันนี้ขึ้นก็บอกว่าประชาชนเดือดร้อน แล้วจะให้ทำอย่างไร ให้เขาเจ๊งหรืออย่างไร เราต้องดูมหภาคด้วย ดูตัวเราว่าเราได้อะไร วันนี้พูดให้ตายถ้าไม่ถึงใครคนนั้นก็ด่าเอา เราต้องสอนให้เขามองภาพที่ใหญ่กว่าตัวเขา ประเทศจะไปอย่างไรต้องช่วยกัน ปัญหาเยอะแยะหลายประการ จะถูกจะผิดไปว่ากัน ใครเจตนาดีแต่ผิดกฎหมายก็ไปว่ากัน ถ้าเจตนาไม่ดีแล้วผิดกฎหมาย กฎหมายก็เมตตาไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน เสียสละแบ่งปันให้บ้านเมืองงดงามเหมือนในอดีต


    ถามต้องอดทนทุกอย่างเพราะเป็น นายกฯหรืออย่างไร

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าให้ต้องสร้างประเทศใหม่แล้วทำลายวัฒนธรรมเก่า เมื่อไหร่ที่เรามีเสรีภาพแล้วจะว่าใครก็บอกเสรีภาพ จะด่าตนถึงโคตรเหง้าศักราช ก็บอกว่าเป็นเสรีภาพ มันใช่ไหมเล่า คนเราต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตนเป็นนายกแล้วไม่มีสิทธิหรือ ต้องอดทนทุกอย่างเพราะเป็นนายกรัฐมนตรีหรืออย่างไร ตนไม่ได้อยากเป็น ถ้าทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันก็จบ วิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เหมาะสม ไม่ใช่ไล่ล่าฆ่าฟันจะจับบุตรสาวตนบ้าง ประเทศไทยมันเป็นอย่างนี้หรือ ตนถามว่าประเทศอื่นมีหรือไม่ โซเชียลมีเดีย แบบนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาบอกตนว่า ถ้าเขาเชื่อโซเชียลมีเดีย เขาจะคบกับใครไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น เขาต้องมีสติ และตนถามว่า ท่านให้เกียรติรัฐบาลไทยแค่ไหน ท่านบอกว่า ท่านจะพูดกับรัฐบาลประยุทธ์ เพราะเราเป็นทหารเก่าด้วยกัน รู้ใจกันว่าทำอย่างรแล้วประชาชนมีความสุขแต่ตนต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรที่อยู่ในพื้นที่ที่ปัญหา คุยได้ก็คุย คุยไม่ได้ก็ให้มันอยู่ในดิน 5,000 ปีก็ทิ้งไป คุยได้เมื่อไหร่ เขาพร้อมคุยเราก็คุยเปิดเผย ผลประโยชน์ เขตแดนว่ากันทีหลังได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็อยู่แบบนี้ไป ตนไม่ได้ว่าอะไร

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำอะไรต่างๆ ต้องสอดคล้องกันหมด เช่น เปลี่ยนการปลูกพืชต้องหาพืชทดแทน ต้องไม่มีแล้งซ้ำซากอีกแล้ว ปีนี้จะปรับงบประมาณลงพื้นที่แล้งซ้ำซากให้หมด ใช้ระยะเวลาที่มีอยู่ทำโครงสร้างใหญ่คงไม่ได้ ต้องปรับลดในส่วนที่เกิดประโยชน์กับประชาชนก่อน ทำอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ชลประทาน บางคนบอกทำไมไม่เพิ่มพื้นที่ชลประทานอีก 25 เปอร์เซนต์ แล้วตอนนี้มีต้นทุนน้ำเท่าไหร่ ไม่ให้ทำนาปรังก็จะทำ จ้างงานก็ไม่เอา บอกว่าเหนื่อย แล้วจะไปอย่างไร เราต้องสร้างความเข้าใจ ตนไม่ได้บังคับคนแก่มาขุดดินขุดหญ้า ให้ลูกหลานมาทำคนแก่ก็อยู่เฝ้าบ้านไป วันนี้การเกษตรพ่อแม่เป็นคนทำ ลูกเข้าเมืองหมดแล้ว แล้ววันหน้าใครจะมาทำวันนี้ต้นทุนมันสูงเพราะใช้โทรศัพท์สั่ง เราต้องมาคิดว่า รวมนาอย่างไรให้เป็นผืนใหญ่ ลดค่าเช่านา จดทะเบียนก็ไม่อยากจด แล้วก็แก้อะไรไม่ได้ ส่วนปัญหาที่ดินทำกิน กระทรวงที่เกี่ยวข้องกำลังแก้อยู่ โดยมี 2 อย่าง อันไหนที่ครอบครองอยู่แล้วก็ครอบครอง แต่จะมอบให้ทำกิน ไม่ได้ให้เป็นเจ้าของ ตนไม่เอาที่หลวงมาให้บุกรุก แต่ถ้าอยู่แล้วสร้างป่าแล้วทำกินด้วย ไม่ใช่แบบเดิมคือเป็นชุมชน ต้องจัดที่ดินทำกินใหม่ วันหน้าอยากให้รัฐบาลมาจัดแจกก็เชิญ มีอยู่ 5 แสนกว่าไร่ หมดแล้ว ประเทศไทยมีเท่านี้ บางคนมีที่เยอะเพราะเขาซื้อไป ถ้าถูกกฎหมายก็ให้เขาไป แต่ทำอย่างไรให้เขาเผื่อแผ่แบ่งปัน เรากำลังออกกฎหมายภาษีที่ดินเพื่อให้กระจายปล่อยออกมา ถ้าเขาไม่ทำกิน เก็บไว้ ก็ต้องเสียภาษีมาก นี่คือวิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อะไรที่เป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับคนจนต้องใช้ทั้ง รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรากำลังใช้พระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้ง 3 อำนาจหาคนใช้ไม่เป็น ต้องหาคนใช้ให้เป็น โซเชียลมีเดียกว้างไกลคุมไม่ได้ เราต้องใช้ปรับปรุงระบบไอซีที เราต้องพัฒนาในเรื่องของเศรษฐกิจดิจิตอล
     
    padd likes this.
  3. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    สั่งทุกกระทรวงผลิตนักกีฬา

    “ต่อไปนี้อีก 3 เดือนข้างหน้าตนจะกำหนดจุดประสงค์ที่ต้องการ ทุกกระทรวงต้องทำตามตนให้ได้ วิธีการสอน ตำราจะเปลี่ยนอย่างไร กีฬาเริ่มอย่างไร ไม่ใช่โหมประโคมกันไป ได้ถ้วยได้เหรียญ จากนั้นก็ลืมเขาไป และไปกดดันเด็ก อย่างนักแบตเป็นอย่างไร ระยะหลังแพ้ตลอด ดังนั้นต้องเอาเขากลับมาเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่ผลักดันเขาไปเรื่อยอย่างนั้นไปไหว เราเสียเพราะอย่างนั้น ดังนั้น การสร้างนักกีฬาไทยไม่ได้สร้างจากสมาคม เป็นหน้าที่ของกระทรวงไปหามา พวกมีพรสวรรค์ ต่อไปนี้ทุกสมาคมเงินมากทำมาก เงินน้อยทำน้อย ไม่มีขอรัฐบาล ทุกกระทรวงต้องไปผลิตนักกีฬามา มาแข่งกันในทุกสมาคมและใครชนะเลิศเอาคนนั้นเป็นตัวแทน ที่ผ่านมาสมาคมฟุตบอลทำไม่ได้ แต่ที่ทำได้เพราะวันนี้เกิดไทยพรีเมียร์ลีกขึ้นมา ไปคัดจากไทยพรีเมียร์ลีกเข้ามา ดังนั้น ทุกกระทรวงเป็นพรีเมียร์ลีก ไม่อย่างนั้นจะได้ใครมา กระทรวงศึกษาธิการภาคไหนไม่อยากเรียนให้เปลี่ยนเป็นห้องกีฬา ปรับหน่วยกิตให้เขา เล่นกีฬาให้เก่งแล้วกัน สร้างกันตั้งแต่เด็ก ภาคใต้ทำได้เลยเพราะมีคนเรียนน้อยมาก หาครูกีฬาลงไป เด็กชอบเล่นกีฬา ภาคใต้จะได้สงบ เขาได้เล่นในสิ่งที่เขาได้ระบาย มันแรงมีขับเคลื่อน ตนอยากให้คิดแบบนี้ คิดนอกกรอบกันบ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องตำราจะทำอย่างไร อาจจะปรับตำราชั้นประถมศึกษา เอาวิชาอะไรมาปรับแก้ใหม่ให้เขาคิดได้ วันนี้การใช้โซเชียลมีเดีย การใช้ระบบไอซีที ทุกคนจะซื้อแต่คอมพิวเตอร์ ซื้อแต่ฮาร์ดแวร์ ซื้อไปซื้อมามันต่อกันไม่ได้ ต้องต่อให้ได้ในระยะเวลาของรัฐบาลนี้ วันหน้าต่อไปไม่ได้ตนจะตามถึงบ้าน จะทำอย่างไรให้ซอฟแวร์เอามาใช้ประโยชน์ให้ได้ หากให้ซื้อให้ ทั้งที่ที่บ้านมีคอมพิวเตอร์กันทุกบ้าน ทำไมไม่ใช้วิธีการให้การบ้าน โดยให้นักเรียนไปคิดมา และมาดีเบตกันในห้องโดยใช้เทคโนโลยี ทำอย่างไรจึงจะสร้างนักวิเคราะห์วิจัยและพัฒนา

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราต้องแก้โครงสร้างพลังงานให้สอดคล้องกับน้ำมันข้างนอก มีคนถามว่าทำไมราคาน้ำมันข้างนอกลดลง 50 แต่ของเราทำไมไม่ลดลง 50 ตนถามว่าน้ำมัน 1 บาร์เรล มันทำดีเซลหรือเบนซิลได้ทั้งหมด 1 บาร์เรลหรือไม่ ซึ่ง 1 บาร์เรลมันทำได้ไม่เท่าไร เพราะต้องแยกไปตั้งหลายอย่าง บางอย่างขาดทุนบ้าง กำไรถัวเฉลี่ยกันไป ต้องบวกค่ากลั่น บวกภาษีสรรพสามิตอีก ยุบไปทั้งหมดแล้วอย่างไรก็ไม่ลด แต่วันนี้ต้องสร้างทั้งระบบ ขนส่งมวลชน รถเมล์ ซึ่งจะมีการปรับทั้งหมด แต่จะทันหรือไม่ยังไม่รู้เลย เรื่องการประมูลรถเมล์ตนอยากให้เร็วกว่านี้ ปีหน้าควรจะมีรถเมล์คันใหม่วิ่งในกทม.บ้าง มีทางลาดให้คนพิการ ต้องนึกถึงเขาบ้าง ถ้าบอกว่าต้องตรวจสอบให้ดีก่อนคิดว่าชาติหน้า แต่ถ้าซื้อแล้วทุจริตไม่ยอม วันหน้าต้องไปสร้าง ต้องการ 4,000 คัน วันนี้ซื้อมา 300 คันก่อน ต้องทำให้ได้อย่างนี้ ไทยเองต้องเป็นศูนย์กลางในเรื่องของการขนส่ง วันนี้สิ่งที่ต้องทำคือ แก้ปัญหาระยะสั้น ระยะยาวอย่างยั่งยืนส่งต่อไปยังรัฐบาลต่อไป ใครจะทำทำไป จะมีกฎหมายให้เขาทำได้ให้ว่ามา จะองค์กรไหนไปทำให้เขียนมา จะเขียนตรงไหนตนไม่รู้ อย่างไรตนก็ไม่อยู่ด้วยอยู่แล้ว ไม่ไหว


    เผย "22 พ.ค. 2557" ร้องไห้กันทั้งบ้าน แต่ไม่ทำไม่ได้

    “เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 บ้านผมร้องไห้กันทั้งบ้าน แล้วผมไม่ได้บอกใคร ผมบอกพี่ๆ ทีหลังทั้งนั้น แต่มันไม่ได้วันหน้าเกษียณไปก็โดนด่าตายว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


    ปลื้มฟุตบอลไทย

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องฟุตบอลตนปลื้มใจ เราต้องดูแลเขามากๆ ต้องเป็นนักกีฬาที่เป็นตัวอย่างของเยาวชนรุ่นต่อไป ไม่ใช่อยู่ๆ ก็เลิกไป เสียอีก ดังนั้น เราต้องมีการควบคุม จัดตั้ง ใช้งานให้ได้ เขาต้องเป็นทายาทต่อไปในรุ่นหลัง ซึ่งได้รับแจ้งว่า ตอนไทยแข่งกับมาเลเซีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงให้กำลังใจ เล่นให้มีสติ ชนะหรือแพ้เหมือนกัน ซึ่งมีการส่งข่าวไป ทุกคนมีกำลังใจ เล่นกันอย่างสงบ ไม่มีความรุนแรง แต่สิ่งหนึ่งที่ตนอยากบอกคือ นี่คือพระองค์ท่าน ท่านให้สติ โดยในขณะนั้นในสนามแฟนบอลมาเลเซียเป็นแสนคน ของไทยมีอยู่ 3 - 4 พันคน แต่พอเขาแพ้เขาก็ปรบมือให้เรา ยังคิดเลยว่าถ้าเป็นไทยจะเหลือหรือไม่เพราะนำจาก 3 - 0 แต่กลับมาแพ้ 3 - 2 ที่ผ่านมาเคยมีแข่งแล้วเสร็จตีกันจนต้องเลิกแข่ง ต่อไปนี้ใครทำแบบนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ต้องคาดโทษ

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 26 ธ.ค. ตนจะลงพื้นที่จังหวัดพังงาเพื่อร่วมรำลึกครบรอบเหตุการณ์สึนามิ และจะตรวจเยี่ยมน้ำท่วมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ ในวันที่ 28 ธ.ค.จะมีการปั่นจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ให้มาร่วมกันขี่จักรยาน ใครไม่พร้อมให้นำสามล้อมาขี่ ช่วยกัน มันติดขัดอยู่บ้างเพราะทางมันแคบ ค่อยๆ ทำไป ซึ่งเรากำลังเสนอความคิดเห็นกันไปว่าจะทำทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง เพราะคนไปไม่ถึงแม่น้ำ ต้องผ่านโรงแรมและอาคารต่างๆ เราจะทำสะพานยื่นลงไปในน้ำ ซึ่งจะต้องไปตั้งงบประมาณ เพื่อให้คนได้ปั่นกัน
     
    padd likes this.
  4. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    รีบแถลงไปไหน บางรัฐบาล 2 ปีิยังไม่แถลงผลงานเลย
     
    Redbuffalo010, Alamos, padd และอีก 2 คน ถูกใจ
  5. HiddenMan

    HiddenMan อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,779
    :swear: ดีแต่พูด...
     
  6. temp

    temp อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    9 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    868
  7. เช้าเม็ด..เย็นเม็ด

    เช้าเม็ด..เย็นเม็ด อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    20 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    362
    อ่านตามโพยแน่ๆเรย....
    ว่าแต่นายกเอาโพยแอบตรงไหนฟร่ะ....:clap:
     

Share This Page