ไอเดียบรรเจิด ว่าด้วยเรื่อง สส. ปาร์ตี้ลิสต์

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย annykun, 22 พ.ย. 2014

  1. annykun

    annykun อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,591
    - สส. ปาร์ตี้ลิสต์ ให้แต่ละพรรคส่งตัวแทนพรรคได้ไม่เกิน 3 คน โดยให้มีรายชื่อในลำดับแรก
    - สส. ปาร์ตี้ลิสต์ที่เหลือ คิดจาก ผู้ที่ได้คะแนนเลือกตั้งเขต เป็นลำดับที่ 2 หรือ 3
    - แยกเป็นพรรค จัดเรียงลำดับตาม % คะแนนที่ประชาชนลงให้ภายในเขตของตัวเอง จากมากไปหาน้อย
    - เอาคะแนนที่เลือกพรรค มาจัดแบ่งโควตาตามสัดส่วน เอาให้ครบตามจำนวน

    ++ สส. ปาร์ตี้ลิสต์ ก็จะยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่ให้พรรคการเมืองเลือกให้
    ++ เสียงส่วนน้อยก็มีค่า เขตไหนคะแนนสูสี ก็มีโอกาสได้เป็น สส. คู่ คานอำนาจกัน แต่จะให้ดี ถ้าให้ สส. ทุกประเภท ทำหน้าที่นิติบัญญัติอย่างเดียว
    ++ 3 ลำดับแรก สำหรับหัวหน้าพรรค และที่เหลือคงต้องคัดเลือกตัวจี๊ดมา คงไม่บ้าส่งคนอย่างตู่ เต้น เหวง เป็ดเหลิม และคนอย่างจ่าประสิทธิมา ใช่ม่ะ??

    แนวคิดนี้ พอเป็นไปได้มั๊ยครับ??
     
    padd, redfrog53 และ ปู่ยง ถูกใจ
  2. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    อ่านแล้วผมเวียนหัว:rofl:
     
    Tatiana, bookmarks และ ปู่ยง ถูกใจ
  3. ควันหลง

    ควันหลง อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,786
  4. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    นึกว่าเป็นคนเดียว มีเพื่อนแระ:inlove:
     
  5. นอกคอก

    นอกคอก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    5,396
    ก็งงเหมือนกัน แต่ดูแล้วเหมือนว่าจะดึงปาร์ตี้ลิสต์ลงมาในระดับเขต หรือในระดับจังหวัด ซึ่งผมคิดว่าเป็นไปได้ อย่างน้อยไอ้ตู่ก็ต้องไปลงลิสต์ที่ กทม. หรือ จ.บ้านเกิด ไม่ได้มาเกาะรวมก้อนใหญ่ อันนี้คือมีปาร์ตี้ปาร์ตี้ลิสต์อย่างเดียวน่ะ ส่วนจะเก็บตกคะแนนที่ยังไม่ได้ สส.ยังไงค่อยคิดกันอีกที
     
  6. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    งง ข้อย่อย แต่ก้อทำให้พรรคฯไม่สามารถกำหนดเกณฑ์คนแบบเก่งแต่สภาโจ็ก มาเล่นจำอวดในสภาผู้แทนฯได้ระดับหนึ่ง
     
  7. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    สส ปาร์ตี้ลิส ของเดิมมันเป็นการเลือกพรรคการเมืองมากกว่า เป็นคะแนนนิยมของพรรคการเมืองที่เอามาเฉลี่ยออกมาเป็นจำนวน สส ตามสัดส่วนคะแนนที่ได้ เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองจะนำใครเข้าไปอยู่ในปาร์ตี้ลิส มันก็ไม่มีผลต่อการเลือก เพราะมันเป็นการเลือก พรรค ไม่ใช่เลือก คน แต่ถ้าเราไปกำหนดให้เป็นการเลือกตัวบุคคล มันก็อาจไปซ้ำซ้อนกับการเลือก สส เขต อีกนั่นแหละ ซึ่งการเลือกลักษณะนี้ มันจึงเป็นโอกาสของพรรคการเมืองบางพรรคนำ สส ประเภทไร้คุณภาพเข้ามาไว้ในปาร์ตี้ลิส เพราะอาจประเมินแล้วว่าถ้าส่งไปลงสมัครแบบเขตเลือกตั้งอาจไม่ได้รับการเลือกตั้ง เป็นวิธีคิดที่ต่างกับคนร่างรัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง เพราะเท่าที่ฟังเหตุผลจากผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เห็นบอกว่า มันมีคนดี ๆ เก่ง ๆ ที่เขาไม่ถนัดในการออกไปเดินหาเสียง เราน่าจะให้โอกาสเขาเข้ามาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติบ้าง โดยให้เขาเข้ามาสมัครอยู่ในปาร์ตี้ลิสของแต่ละพรรค แล้วผลมันก็ได้อย่างที่เห็น ๆ นั่นแหละ

    เรื่องเหล่านี้ผมมองว่า มัน "เพี้ยน" มาจากการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เคยคิดแก้ไข อย่างการเลือกพรรคแต่ออกมาเป็นคน และ เลือกฝ่ายนิติบัญญัติแต่ออกมาเป็นฝ่ายบริหาร

    เมื่อเริ่มต้นมัน "เพี้ยน" แล้ว เดินต่อไปยังไงมันก็ "เพี้ยน"
     
    temp, Tatiana, อู๋ คาลบี้ และอีก 2 คน ถูกใจ
  8. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    ยังไงก็ได้ ขอให้ชาติเจริญแล้วกัน
     
    kokkai likes this.
  9. annykun

    annykun อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,591
    งง ตรงไหนอ่า??:oops:

    ก็ประมาณว่า หากตู่คางคกลง สส. เขตกรุงเทพฯ แข่งกับคุณอภิสิทธฺ์ อภิสิทธิ์ได้รับเลือกเป็น สส. เขต ชนะขาดลอย ส่วนตู่มีโอกาสจะได้เป็น สส. ในปาร์ตี้ลิสต์ แทน แต่คะแนนห่างเกินไป สมมุติมีประชาชนเลือกคิดเป็น 1% คุณตู่จะมีรายชื่อเป็นอันดับท้ายๆ ในปาร์ตี้ลิสต์ โอกาสได้เป็น สส. จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย

    ในขณะเดียวกัน คุณอี้แทนคุณ แข่งกับหนูเก่ง ทารุณ คะแนนสูสี คุณอี้ชนะได้เป็น สส. เขต
    ส่วนคุณเก่ง ทารุณ ที่ได้เป็นอันดับ 2 ไปลุ้นเป็น สส. ปาร์ตี้ลิสต์แทน โดยจะได้เป็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าประชาชน(ทั้งประเทศ) เลือกพรรคเพื่อไทยมากแค่ไหน >>> โควตาจำนวน สส. ปาร์ตี้ลิสต์
    และประชาชนใน(ในเขต) ไว้วางใจแค่ไหน >>>> ลำดับที่ในปาร์ตี้ลิสต์ (คิดจาก % ประชาชนในเขตที่ลงคะแนนให้)

    เช่น เขตดอนเมืองมีคนเลือกเก่ง ทารุณ จำนวน 49% ดังนั้นจะส่งผลให้ คุณเก่ง มีโอกาสได้มีรายชื่อเป็นลำดับแรกๆ ในปาร์ตี้ลิสต์ และมีโอกาสได้เป็น สส. แบบปาร์ตี้ลิสต์สูง
     
    temp, Tatiana, kokkai และอีก 2 คน ถูกใจ
  10. aumstar

    aumstar สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    93
    แนวคิด เลือกตั้ง สส และการจัดตั้งรัฐบาล
    1. การเลือกตั้ง สส
    - สส ทั่วประเทศ 300 ที่นั่ง
    - การเลือกตั้ง เขตเดียว(ทั่วประเทศ) กาได้เบอร์เดียว
    - พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร เรียงตามหมายเลขผู้มีสิทธิ์ได้เป็น สส
    - พรรคการเมืองต้องประกาศ ว่าที่ชิงนายกเพื่อโหวตในรัฐสภา
    - พรรคการเมืองต้องประกาศ รายชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรี
    - พรรคการเมืองต้องชี้แจงนโยบายต่อ กกต เป็นรายลักษ์อักษร
    - การได้มาของ สส คิดตามสัดส่วนของคะแนน

    - พรรคการเมืองต้องวางมัดจำเงินประกัน 10 ล้านบาทต่อพรรค
    - พรรคการเมืองไหน? มีคะแนนน้อยกว่า 3% ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้ยุบพรรค และยึดเงินประกัน
    - ไม่มีเลือกตั้งในต่างประเทศ
    - ไม่มีวันเลือกตั้งล่วงหน้า


    2.การจัดตั้งรัฐบาล
    - นายก ต้องเป็น สส
    - นายก ต้องโหวตในรัฐสภา ตามรายชื่อพรรคการเมืองที่ประกาศไว้
    - นายก ประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ได้อย่างเดียว(ไม่มีการลาออก)
    - นายก อยู่วาระไม่เกิน 3 ปี
    - รัฐมนตรี ไม่ได้เป็น สส
    - รัฐมนตรี ต้องตามรายชื่อพรรคการเมืองที่ประกาศไว้(พรรคหลัก พรรคร่วม)
     
    Assava และ padd ถูกใจ.
  11. padd

    padd อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    14 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,139
    เข้าทีนะคะ ใครจะซื้อเสียงเพื่อเป็นสส. คงต้องคำนวนกันดีๆเลยเชียว :giggle:

    อยากให้เลือกตั้งนายกค่ะ แยกสส.ออกไปเลย ไปทำหน้าที่นิติบัญญัติอย่างเดียว ไม่ต้องมายุ่งกับการบริหาร แต่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ส่วนเรื่องถอดถอนให้เป็นหน้าที่ของปชป. หรือสว. ไป
     
    por, annykun และ redfrog53 ถูกใจ
  12. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    ตามความคิดผม จะปกครองระบอบอะไร เลือกตั้งแบบไหนผมไม่สน
    ขอแต่ว่าผู้ที่ได้อำนาจบริหาร มีฝีมือ เห็นแก่ประเทศมากกว่าตนเองและพวกพ้อง ผมก็พอใจแล้วละครับ
    แต่อุปสรรคที่สำคัญในความคิดของผม ที่ทำให้เราได้คนไม่ดีมาบริหารประเทศ คือ
    ระบบอุปถัมภ์ ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทย ทำให้เราติดกับดักตัวเอง
    จะคิดวิธีไหนที่จะได้คนดีมาบริหารประเทศ มันเลยยากเย็นเข็ญใจ
    และในความคิดผมระบบอุปถัมภ์ มันแพร่กระจายจนทั่วเมืองไทยเพราะ
    เริ่มจากข้าราชการไม่ยอมทำงานแบบตงฉิน เห็นแก่เงิน ลาภยศ พวกพ้อง นานๆเข้ามันก็ซึมลึกจนยากจะแก้ไข
    ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เลยเลือกคนที่ช่วยเขาได้(ดี-เลวไม่เกี่ยว) ไม่ใช่ช่วยประเทศได้
    การแก้ปัญหาประเทศ ให้ตรงจุดที่สุดต้องเริ่มแก้ที่ระบบยุติธรรม เป็นอันดับแรก
     
    padd และ อู๋ คาลบี้ ถูกใจ.

Share This Page