เชียร์อยู่ต่อปฏิรูปให้สำเร็จ 'ประยุทธ์' พร้อม ชี้ต้องชอบธรรม-ช่วยปกป้อง 'ฝ่ายเห็นต่าง' ซัดสืบทอดอำนาจ ยิ่งด่ายิ่งมีแรง ไม่หวั่น ครม.สัญจร 'เชียงใหม่' ถูกต้าน เมื่อถามว่า ล่าสุดมีข้อเสนอให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเห็นด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมเฉยๆ ถ้าให้ผมอยู่ ผมก็ทำ อยู่ด้วยความชอบธรรมนะ ไม่ได้อยู่ด้วยอำนาจ ถ้าทุกคนอยากให้ผมอยู่ ผมก็อยู่ ผมก็ทำให้ แต่ต้องช่วยปกป้องผมจากภายนอกประเทศ รวมถึงภายในประเทศด้วย ที่กล่าวหาว่าผมอยากสืบทอดอำนาจ ซึ่งผมไม่ต้องการอำนาจ เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์ ผมต้องการทำประเทศชาติให้ดีขึ้น แต่จะทำอย่างไร ผมไม่รู้ มันเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ" เมื่อถามว่า การที่จะให้ นายกฯ อยู่ต่อนั้น ประชาชนต้องทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแสดงออกของประชาชนนั้นไม่ใช่ปกป้อง ประชาชนมีหน้าที่ คือ การออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เลือกรัฐบาลเข้ามา และความร่วมมือในการทำประชามติ เมื่อถามย้ำว่า ถ้าจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อต้องทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ ต้องไปถามฝ่ายกฎหมาย "ผมถามว่า อูย ! ดีใจหรืออยากอยู่ ถ้าอยากอยู่ไปเข้าช่องทางมา แต่ข้อเสนอแนะนี้จะเป็นแนวทางที่ดีหรือไม่ ผมไม่รู้ ผมจะไปพิจารณาเองได้อย่างไร ดีหรือไม่ดี เพราะผมใช้อำนาจอยู่ในตอนนี้ แล้วจะให้บอกว่าอยู่ต่อแล้วจะดี ตรงนี้ผมพูดได้ไหม วันนี้ใครต้องการให้ผมปฏิรูป ประชาชนก็ต้องไปหาทางมา" เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้ปฏิรูปไปเลย กับการบังคับให้รัฐบาลใหม่มาปฏิรูปอะไรจะดีกว่ากัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ท่านต้องการประชาธิปไตยกันไม่ใช่หรือ ท่านบอกผมไม่ใช่ประชาธิปไตยไง ผมไม่ได้เลือกตั้งเข้ามาไง ท่านก็ว่าผมอยู่ทุกวัน ต่างชาติก็ถามว่าผมจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับคนไทย จะกำหนดอนาคตประเทศไทยอย่างไร เป็นเรื่องของประชาชน 67ล้านคนไปว่ากันมา ไม่ใช่ผม" เมื่อถามว่า ถ้าต้องอยู่ต่ออีก 2 ปี พร้อมที่จะโดนด่าจากฝ่ายที่เห็นต่างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่กลัวคำว่า คำด่า ยิ่งด่า ผมยิ่งมีแรง" อ่านเต็มๆได้ที่นี่ครับ http://www.komchadluek.net/detail/20150604/207447.html .......................................................................................................... คิดว่าจะต้องมีคนเอาไปเล่นประเด็นเลยเอามาให้เพื่อน สรท.อ่านกันก่อน ตัวสื่อฯเองก็พยายามจี้ให้ท่านประยุทธหลุดปากยอมรับ ว่าจะอยู่ต่อ แต่ท่านก็ฉลาดพอที่จะบอกว่า อยู่ที่ประชาชน ไปหาทางกันมา ใจจริงถ้าอยู่ต่อสัก 2-3 ปี น่าจะเรียบร้อย ไม่เสียของด้วย เพราะตอนนี้ ต่างชาติเองก็วุ่นๆ เรื่องทะเลจีนใต้อยู่
เกี่ยวกับทักษิณอย่างช่วยไม่ได้ ทุกวันนี้เรื่องยุ่งต่างๆเกิดขึ้นก็เพราะมันนน.. เหอๆ เมื่อ‘ทักษิณ’ห่างจากมวลชน : ขยายปมร้อน โดยอรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ เนชั่น เมื่อ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ออกมาเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเกาหลีใต้วิพากษ์รัฐประหารในไทย ว่าเป็นความร่วมมือของคนหลายฝ่าย หลายพวก เข้าทำนอง “รุมกินโต๊ะ” และแน่นอนว่าล่วงล้ำก้ำเกินเข้าไปในอาณาเขตที่ คสช.ยอมไม่ได้ จึงทำให้เกิดปฏิบัติการ “เอาคืน” ตามมาติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นการถอนพาสปอร์ต หรือถอดยศ ทำให้ “ทักษิณ” ต้องออกมาผ่อนคลายสถานการณ์ โดยการโพสต์ภาพตัวเองนั่งสมาธิ “หลังจากได้อุ้มหลานที่สิงคโปร์ วันนี้กลับมาอยู่ดูไบแล้ว ได้มีเวลานั่งสมาธิ ได้เพิ่มการแผ่เมตตา ให้แก่ผู้มีอำนาจพ้นจากความโลภ โกรธ หลง เพื่อจะได้มีสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง สร้างความปรองดอง ไม่ใช่บริหารแต่อำนาจและสร้างความแตกแยกให้มากยิ่งขึ้น” "สำหรับผมเชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า “ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง" คือทุกสิ่งไม่มีอยู่จริง เมื่อเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป พาสปอร์ตก็เช่นกัน ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โตอะไรกันมากมาย ผมก็ยังเป็นคนเดิมจนกว่าจะลาโลกไป อยากให้คนไทยมีเมตตาต่อกัน กฎหมายและปืนไม่สามารถแก้ปัญหาได้นอกจากเมตตาเท่านั้น" ขณะที่ฝ่ายที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แม้จะมีความรู้สึกกับการกระทำเช่นนี้อยู่บ้าง แต่กลับไม่แสดงอะไรออกมา เช่นเดียวกับคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่แทบจะไม่เคลื่อนไหว มีเพียงคนที่ใกล้ชิดกับ “ทักษิณ” เท่านั้นที่ออกมาขยับ ขณะที่รัฐเองนั้นก็ใช่ว่าจะวางใจถึงขนาดมีหนังสือให้ระวังสถานการณ์หลังจากที่ “ถอนพาสปอร์ต-ถอดยศ” คำถามคืออะไรที่ทำให้สถานการณ์อยู่ในสถานะเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการควบคุมสถานการณ์และมวลชนอย่างดีเยี่ยมของ คสช. ได้เข้าไปควบคุมความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ แกนนำถูกจับตาและไม่เปิดโอกาสให้เคลื่อนไหว หรือหากใครเคลื่อนไหวก็จะถูกเชิญไปปรับ “ทัศนคติ” โดยไม่เว้นว่าเป็นการเคลื่อนไหวระดับชาวบ้าน หรือเคลื่อนไหวระดับแกนนำทางความคิด แต่อีกสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือท่าทีของ “ทักษิณ” ที่ผ่านๆ มา เป็นการผลักมวลชนให้ออกห่างจากตัวเขาไปเรื่อยๆ ทั้งที่ในอดีตเขามี “ประชาชน” เป็นดั่งผนังทองแดงกำแพงเหล็ก แต่เวลาที่ผ่านไปเขากลับไม่ได้แสดงศักยภาพของผู้นำประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ ข่าวลือเรื่องการเจรจาต่อรองหรือ “ซูเปอร์ดีล” ออกมาเรื่อยๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เข้าเค้าว่าข่าวลือคล้ายจริง จนกระทั่งการรวบรัดเสนอ “ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย" ทำให้มวลชนเห็นว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้คิดอะไรที่ไกลกว่าตัวเอง และด้วยความต้องการเช่นนั้นทำให้ผู้ที่สมควรจะได้รับนิรโทษกรรมกลับไม่ได้รับเพราะทั้งหมดถูกนำไปผูกติดกับตัว "ทักษิณ" หรือกระทั่งเมื่อเกิดการรัฐประหาร “ทักษิณ” กลับไม่ได้แสดงความพยายามที่จะต่อสู้กับอำนาจที่มาโดยไม่ถูกต้อง มีแต่การเรียกร้องให้หยุดรอ และไม่ได้มีท่าทีว่ากลุ่มการเมืองของพวกเขาจะหวงแหนอำนาจที่ประชาชนมอบให้มาแต่อย่างใด ด้วยวิธีคิดและการกระทำเช่นนี้ทำให้เขาลอยออกห่างจากมวลชนออกไปเรื่อยๆ น่าเชื่อว่าหากมีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในครั้งต่อไป “ทักษิณ” จะไม่ใช่ตัวชูโรงหรือเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เหมือนที่ผ่านมา หากแต่เขาจะเป็นเพียงผู้ติดสอยห้อยตามขบวนประชาชนเท่านั้น http://www.komchadluek.net/detail/20150603/207373.html
ท่านไม่ต้องอยู่ต่อก็ได้ครับ แต่อยู่ไปเรื่อยๆ เพราะท่านยังไม่หมดวาระการคืนความสุขให้ประชาชน เพราะประชาชนอย่างผม ยังไม่มีความสุขเลย ที่ต้องมาเห็นอดีตนายก ตกอับเพราะโครงการจำนำข้าว จนต้องมาเก็บเห็ดกิน อีกคนก็ประสาทรับประทาน เพราะไม่เข้าใจว่า ทำมัยโดนยึดพาสปอร์ต ทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพียงแค่ทำสิ่งที่กฎหมายห้าม จนต้องหลบไปนั่งสมาธิให้น่าสงสารเป็นข่าวใหญ่อย่างเงียบๆ
ไปเจอของ เมเนเจอร์ ลงได้ละเอียดดี เลยเอามาเพิ่มเติมครับ วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ความคืบหน้าการสัมมนาร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อรับฟังการดำเนินงานที่ผ่านของรัฐบาลในรอบ 1 ปี โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม สมาชิก สปช. โดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ขอฝากคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเสียงเรียกร้องของประชาชนได้เรียกร้องกันมาต่อเนื่อง ว่าควรปฏิรูปให้เรียบร้อยก่อนไปจัดการเลือกตั้ง เพราะเป็นห่วงบ้านเมืองว่าหากจะปล่อยให้เดินหน้าไปสู่กลไลของระบบการเมืองที่ล้มเหลวก็จะทำให้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมมีปัญหาต่อไปไม่จบสิ้น จึงเรียกร้องให้นายกฯ พิจารณาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เสร็จลุล่วงก่อนจึงจัดการเลือกตั้ง จากเอกสารที่ปรากฏในการแถลงผลงานนั้นเป็นเพียงการวางรากฐานทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมความที่มั่นคงกับประเทศ ก่อนส่งผ่านไปสู่ระยะที่ 3 การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร จัดการการเลือกตั้งทั่วไป แต่ถ้าทำเพียงแค่นี้ ประเทศเราเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติขึ้น เพราะกระบวนการออกกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่จะปฏิรูปบ้านเมือง รวมทั้งกระบวนการบังคับใช้กฎหมายไปสักหนึ่งระยะ ยังไม่ได้ทำเลย แต่ถ้าไปสู่กระบวนการจัดการเลือกตั้งแล้วความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 ก็จะกลับมาอีกอย่างแน่นอน “การที่นายกฯ บอกว่าเข้ามาทำหน้าที่ก่อนวันที่ 22 พ.ค. เพื่อหยุดความเคลื่อนไหวและให้น้ำเกลือแล้ว แต่จากนั้นก็ทิ้งให้คนไข้ไปอยู่กับใครก็ไม่ทราบ เป็นไปไม่ได้ จึงต้องรักษาให้หาย ให้เข้มแข็ง จนกระทั่งสามารถยืนหยัดต่อไปได้ ดังนั้นข้อเรียกร้องจากประชาชนที่ลงชื่อเข้ามาหลายหมื่นชื่อเพื่อขอให้ครม.จะให้ออกเสียงประชามติก่อนที่จะร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเพื่อถามว่าควรจะปฏิรูปทุกด้านให้เสร็จเรียบร้อยบริหารประเทศให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปก่อนระยะหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 2 ปี ขอให้นายกฯพิจารณาจะกรุณาจัดให้หรือไม่” นายไพบูลย์ กล่าว ท่านนายกฯ ประยุทธ ตอบว่า “วันนี้ถูกกดดันมาก เวลาผมไปต่างประเทศ ไม่ใช่เขาไม่ชอบผม เขาชอบผมมาก ผมลูกทุ่งแบบนี้ เวลาประชุมเขาก็ฟังผมหมดไม่รู้เพราะอะไร อย่างน้อยผมเสียงดัง ไม่มีคนหลับในห้อง เขาก็ฟัง ว่าไอ้นี่ฉลาดเหมือนกัน แปลกๆ ออกไปดูแลโลก ดูแลมุนษยชาติ ผมก็พูดไปแบบนี้ จะไปรบกันทั้งโลกได้อย่างไร มีใครกล้าพูดกับเขาอย่างนี้ไหม ผมก็พูดกับเขา ทุกอย่างดีหมด จะลงทุนอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เขาก็ถามต่อว่าแล้วเลือกตั้งเมื่อไหร่ ผมก็ได้แต่บอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว จะเลือกตั้งก็อยู่ที่รัฐธรรมนูญ ทำเสร็จก็ต้องทำประชามติ จากนั้นก็ไปสู่การเลือกตั้ง ผมก็บอกว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้อยู่ที่คนไทยทั้งประเทศ จะปฏิรูปหรือไม่ ต้องการจะแก้ปัญหาประเทศหรือไม่ หรือต้องการจะเลือกตั้งเพื่อให้มีประชาธิปไตยเต็มใบ ผมไม่รู้ ผมตอบได้แค่นี้ และเขาให้ผมสัญญาว่าเรื่องที่เป็นอยู่นี้ จะเกิดต่อเนื่องไปรัฐบาลหน้าหรือไม่ ถามซิผมจะตอบเขาได้ไหม เพราะผมไม่รู้ตัวว่าใครจะเป็นรัฐบาล ก็จะมี 2-3 กลุ่มที่จะมาเป็น สมมติเลือกวันนี้ ผมถามว่าถ้าฝ่ายหนึ่งได้เป็นรัฐบาล อีกฝ่ายไม่ได้เป็น มันจะเป็นอย่างนี้ไหม ไม่ว่าใครจะมาเป็น ผมฝากสภาปฏิรูปไปทำ ก่อนมานี่ผมปวดท้อง วันนี้ เจอคำถาม ยิ่งปวดกว่าเดิม ผมอยากจะบอกว่าขอบคุณในความเมตตา ให้เกียรติผมและรัฐมนตรีทุกคน ทุกคนทำงานอย่างหนัก ถึงท่านจะว่าใครก็ตามผมก็ต้องปกป้อง เพราะทำงานให้ผม สิ่งที่ผมตอบตรงคำถามไม่ได้ ว่าอยากอยู่ต่อ รับครับ ขอบคุณครับ แล้วอยู่เลย โดยใช้มาตรา 44 ออกกฎหมาย ไม่ต้องเลือกตั้ง ให้รัฐบาลนี้ทำงานต่อ เลยมันก็ไม่ได้ ทำเพื่อตัวเองก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของประชาชนทั้งประเทศ จะต้องเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศเอง งานก็ใช้ เรื่องคอขาดบาดตายก็ให้ผมทำอีก ไม่เอาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอย่างไรพูดไปถ้าทั่วโลกรับได้ ถ้าไม่พูดแทนผมผมพูดไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าผมอยากอยู่อีก อยู่ทุกวันอายุสั้นลงทุกวัน นอนก็ไม่หลับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000063535 ...................................................................................................... ประเด็นอยู่ที่ มีคนอยากให้ท่านนายกฯ อยู่ต่อ เพื่อสานงานปฎิรูปให้สำเร็จก่อนแล้วจึงมีการเลือกตั้ง เพราะไม่อยากให้ประเทศ กลับเข้าสู่วังวนเดิมอีก แต่ท่านนายกฯ ก็ไม่ได้รับปากอะไร เพียงแต่บอกว่า หากปชช.ต้องการอะไร อย่างไร ให้ไปหาช่องทางกันมาเอง แต่ท่านจะไม่พูดว่าอยากอยู่ต่อ แต่เชื่อได้ต้องมีคนไปขยายประเด็นต่อแน่
ผมว่าถ้าจะเสียเงินสัก2-3000ล้าน เพื่อถามประชามติว่า ควรให้คสช.อยู่ปฎิรูปประเทศให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง หรือควรเลือกตั้งก่อนแล้วให้รัฐบาลใหม่สานต่อการปฏิรูป ผมว่าเสียเงินแค่นั้นไม่แพงเลยนะสำหรับอนาคตประเทศ และถ้าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็จะเป็นการปิดปาก ทั้งคนในประเทศและคนต่างประเทศ อิ...อิ....ก็ประชาชนส่วนใหญ่เขาต้องการแบบนี้ คุณจะมาเผือกอะไรด้วย แต่ถ้าเสียงส่วนใหญ่อยากเลือกตั้งใจจะขาด ก็ถือว่า ช่วยกันรับกรรมต่อไปก็แล้วกัน
ไอ้คนจ้องจะด่า ทำยังไงมันก็ด่า พวกนี้ผีเจาะปากมาให้พูด ต้องปล่อยมันไป พูดมากนักก็เรียกไปเจรจา เด๋วมันก็หยุด
ประกาศไปเลยลุง ปฏิรูปไม่เสร็จไม่ต้องเลือกตั้ง ข้าราชการมันเกียร์ว่างรอนักเลือกตั้งมาให้เลีย ประกาศให้มันรู้ไปเลย จะได้ทำงานทำการกันซักที
ทำไมลุงตู่ยึดอำนาจมาปีกว่าผมรู้สึกเฉยๆ จะอยู่ต่อไปอีก4ปี ผมก็คิดว่าไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร แล้วทำไมบางกลุ่มกลับกลัว "ประชาธิปไตยที่กินไม่ได้" ผมว่าที่อยู่ๆ กันเวลานี้เรามีอำนาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดูซิพวกเจ้าพ่อ มาเฟีย ข้าราชการระดับสูง ในอดีตมีใครกล้าแตะบ้าง ตอนนี้เป็นไงจับเรียบ พวกเศรษฐีนายทุนที่มี นักกินเมืองหนุนหลัง บุกรุกป่าก็ถูกจับยึดคืน จนได้ที่ดินป่าสงวนคืนมาเกิน 4 หมื่นไร่ไปแล้วมั้ง เป็นแต่ก่อนในยุคประชาธิปไตยที่กินได้ มีใครกล้าแตะ.....พวกผมก็เป็นคนหาเช้ากินดินเนอร์ ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรถ้าลุงตู่จะอยู่ปฏิรูปต่อเลย...
หลังจากที่ข่าวนี้กลายเป็นประเด็นร้อนช่วงข้ามคืน ท่านประยุทธเลยฝากเสธ.ไก่อูมาว่า "นายกฯ รู้สึกขอบคุณ ทุกกำลังใจที่ส่งให้ ไม่เคยคิดยึดติดกับอำนาจ แต่นายกฯ ยึดติดกับความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และยืนยันที่จะเดินหน้าตามโรดแมปไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความมั่นคง มั่นคั่งให้แก่ประเทศ และที่สำคัญนายกฯ จะไม่ดำเนินการใดๆ ที่นอกเหนือกรอบของกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ การตัดสินใจใดๆ ของนายกฯ คงฟังทั้งเสียงประชาชนและคำนึงถึงความถูกต้องในกรอบของกฎหมายเป็นสำคัญด้วย" รองโฆษกฯ กล่าว พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ยังได้ฝากไปยัง กลุ่ม องค์กร ที่พยายามออกมาเคลื่อนไหว ทั้งบิดเบือนข้อมูล และให้ร้ายประเทศเป็นระยะว่า หากไม่พร้อมที่จะมีส่วนช่วยสร้างชาติไปด้วยกัน ก็ขอให้โปรดนิ่งเฉย อย่าทำตัวแบบ "มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ" เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของเล่น และนายกฯ ก็ไม่คิดเล่นการเมือง แต่ที่มาก็เพื่อบริหารบ้านเมืองเท่านั้น http://www.naewna.com/politic/161681 ............................................................................................................ ไม่รู้หมายถึงใคร ใช่คนที่ออกมาโวยวายวันนี้หรือเปล่า
แหม....ไม่ค่อยอยากรบกวนคนโชคดีเลย ว่าแต่จะสะดวกโอนธนาคารอะไรอะครับ อิ......อิ......ผมจะได้บอกเบอร์บัญชีไปให้
