สำนักงานใหญ่ไทยพานิชย์นี่น่าจะไกลปืนเที่ยงมากเลย ใช้เวลารอรถกระเช้า เกือบ 2 ชั่วโมง มาฉีดน้ำ 20 นาที ควบคุมเพลิงได้(ข่าวจากเนชั่น) คิดว่าหลักถงหลักฐานน่าจะไหม้หมดพอดีครับ 2ชม น่าจะพอ
หลักฐานที่เป็นกระดาษคง ไม่หาย ไปไหนหรอกครับ เพราะทำแบบนั้นมันโจ่งครึ้มเกินไปหน่อย ยิ่งระบบออนไลน์แล้ว ยังไงก็เรียกสำเนาออกมาได้ แต่เนื่องจากไฟไหม้ตั้งนาน ระบบใหญ่บางเครื่องอาจจำเป็นต้องปิดระบบ น่าคิดว่าจะมีแก้ไขข้อมูลอะไรหรือเปล่านี่ซิ ยอมเสียหายจากเพลิงไม่กี่สิบล้าน ถ้าแก้ไขทำให้ไม่ต้องชดเชยทางแพ่งหลายร้อยล้าน คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีก ตั้งแต่ที่ผมดูข่าวการให้สัมภาษณ์ของบิ๊ก scb (ไม่แน่ใจว่าฝ่ายกฏหมายหรือว่า CEO) ที่แถออกมาว่า ผมดูข่าวแล้วต้องบอกว่าเป็นการแถที่หน้าด้านจัญไรมาก ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากคนที่ต้องรับผิดชอบหน้าที่สำคัญขนาดนั้น ...... ก็ถ้าแบงก์ไม่แต่งตั้งให้เป็นถึงผู้จัดการ มันก็คงไม่สามารถโกงเงินลูกค้ามหาศาลขนาดนี้ได้หรอก แบงก์คัดเลือก+มอบอำนาจให้ผิดคน ก็ต้องรับผิดชอบทางแพ่งไป .....จะมาหน้าด้านแถไปทำไม หลายปีมานี้ แบงก์แห่งนี้มีข้องกังขาด้านธรรมาภิบาลมาก ลองค้นดูข่าวโดยใช้คำว่าเงินในบัญชีหายกับแบงก์นี้ดูซิ เจอข่าวเพียบ!!! แล้วเวลามีข่าวเรื่องเงินในบัญชีลูกค้าหายทีไร ก็เห็นมีปัญหาในการตรวจสอบล่าช้า จนลูกค้าต้องไปฟ้องสื่อให้เป็นข่าวทางทีวี หนังสือพิมพ์ตั้งหลายครั้ง ที่ผมจำได้ลาง ๆ ช่วง 2-3 ปีมานี้ รู้สึกจะเป็นเกษตรกรสวนผลไม้แถวภาคตะวันออก (ถ้าจำผิด-ใครมีข้อมูลช่วยแก้ให้ด้วยครับ) เงินในบัญชีหายไปเป็นหลัก 10 ล้าน ตรวจสอบเป็นเดือนยังไม่ได้คำตอบลูกค้าก็ร้อนใจตามเรื่องแบงก์บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยจนเรื่องไปถึงนักข่าว ออกทีวีอยู่หลายวัน ผมไม่แปลกใจที่ผู้บริหารใหญ่เคยถูกเรียกขานว่าเป็นสายตรงของหน้าเหลี่ยม เพราะดูแล้วจริตน่าจะไปกันได้
ถ้า 2 ชม. จริงต้องถาม กทม. เลยครับว่าไปเอารถไฟฟ้ามาจากอยุธยาเหรอ นานมากครับ ผมเคยโทรติดต่อสถานีดับเพลิงมาจับงู ยังไม่นานขนาดนี้
คือผมเองก็ดูข่าวช่องเนชั่น นักข่าวบอกว่าไฟไหม้ประมาณ 4 ทุ่ม และกำลังรอรถกระเช้าอยู่ ตอนนั้นก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว พอรถกระเช้ามาฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบ แต่มีการติดไฟอีกเล็กน้อยหลังจากนั้น อันนี้ตามที่ผู้สื่อข่าวรายงานนะครับ ผมเองจึงสงสัยว่าถรกระเช้านี้มันประจำการที่ไหนครับ ทำไมใช้เวลาเดินทางนานขนาดนี้
สถานีที่ใกล้ที่สุดคือลาดพร้าว แต่ทำไมนาน สุดท้ายมันก็จะเงียบหายไปพร้อมกับเปลวไฟและควันแม้กระทั่งกลิ่น พูดง่าย ๆ เข้าสู่ mode normal ไงก็ขอแสดงความเสียใจกับนักสู้กับไฟที่เสียชีวิต ผู้ที่เสียชีวิตไม่รู้หรอกว่าทำไมไฟไหม้ ใครทำ และทำเพื่ออะไร แต่เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำคือหน้าที่ที่ต้องปราบไฟสู้กับไฟ
http://www.thairath.co.th/content/479778 สาเหตุที่ช้าน่าจะมาจาก เรียกรถดับเพลิงธรรมดามาก่อนจากสถานีดับเพลิงลาดยาว สถานีดับเพลิงจตุจักรและสถานีดับเพลิงสุทธิสาร เมื่อพบว่ารถดับเพลิงธรรมดาไม่สามารถดับได้ถึงจึงประสานงานเรียกรถกระเช้าจากสถานีดับเพลิงพญาไท พบว่ารถกระเช้าจากสถานีดับเพลิงพญาไทใช้การไม่ได้ จึงประสานไปที่สถานีดับเพลิงสามเสนแทน กว่าจะประสานไปที่สถานีดับเพลิงสามเสน การจราจรแถวที่เกิดเหตุคงหนาแน่นแล้ว ยิ่งทำให้ช้าครับ ด้าน พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 เผยว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ รีบประสานรถดับเพลิงของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยใกล้เคียงคือ สถานีดับเพลิงลาดยาว สถานีดับเพลิงจตุจักรและสถานีดับเพลิงสุทธิสาร แต่เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานได้เพราะเป็นอาคารสูง จึงประสานรถกระเช้าสูง 100 ฟุต ของสถานีดับเพลิงพญาไท แต่รถเสีย ต้องประสานขอรถจาก สดพ.สามเสน มาสนับสนุนแทน ส่วนนักผจญเพลิงที่มาแล้วขึ้นไปชั้นบน ต้องเจออุปสรรคเนื่องจากระบบความปลอดภัยของตัวอาคาร เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นประตูทุกบานจะล็อกอัตโนมัติ ขณะนี้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารเพื่อปลดล็อกประตูให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
จากเพจ อจ.ต่อตระกูล ยมนาค ที่ดับไฟได้ช้าก็มาจาก 2 สาเหตุ 1) พนักงานดับเพลิงต้องมายืนรอขอนุญาติเข้าตึก 2) รถบันไดที่ฉีดได้สูง10ชั้นของหน่วยดับเพลิงพญาไทเสีย น่าตกใจมาก ที่อาคารธนาคารไทยพานิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน เกิดไฟใหม้หนักได้อย่างไร ? ออกแบบโดยสถาปนิกวิศวกรชั้นนำ ระบบป้องกันไฟอย่างดี ผู้รับเหมาก็ดี ผมเองเกี่ยวข้องโดยเป็นผู้ควบคุมงานอยู่กันที่นั่นใกล้ชิดเลยตลอด 3 ปี พ.ศ. 2535-2538 ดร. วิชิต สุรพงศ์ชัย ประธานธนาคารไทยพานิชย์ แถลงข่าวเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า ชั้นที่เกิดไฟใหม้เป็นชั้นที่มีเครื่องถ่ายเอกสาร และยืนยันว่าไม่ได้เก็บเอกสารของ พระจอมเกล้า_ลาดกระบัง ที่ชั้นนี้ อ่าน นสพ. เช้านี้ รปภ.ที่มีนั้น เอาไว้เฝ้าตึก สำคัญกว่าหน้าที่ดับเพลิง ขนาดตึกกำลังไหม้พนักงานดับเพลิงต้องมายืนรอขอนุญาติเข้าตึก ไทยรัฐ เขารายงานว่าเมื่อไฟลุกขึ้น หัวฉีดอัตโนมัติก็ทำงาน แต่ ระบบวางไว้ให้ รปภ. ให้อยู่ภายนอกหมดเข้าอาคารไม่ได้ เพราะปิดล็อคอัตโนมัติหมดทุกประตู ต้องรอเจรจานานกว่าจะเปิดได้ ! พนักงานดับเพลิงจึงเข้าไปไม่ได้ทันการ ข่าวบอกว่ารถบันไดที่ฉีดได้สูง10ชั้นของหน่วยดับเพลิงพญาไท ก็เสีย เสียอีก ต้องรอมาจากสามเสนแทน
ธนาคารใหญ่โต แต่ไม่มีชุด fireman ของตัวเองไม่จ้างเพราะเปลืองงบ และเปลืองค่าอุปกรณ์ จริง ๆ หรือ ผมไปเดินเล่นศาลาแดง อาคารอะไรไม่ขอกล่าวถึง มีห้องเก็บชุดอุปกรณ์ของ fireman และมีถึง 2 ห้อง มีเจ้าหน้าที่ของอาคารเองประจำอยู่ตลอดเป็นเจ้าหน้าที่สู้ไฟและกู้ภัยไปในตัว แต่ ธนาคารสำนักงานใหญ่ไม่มี เจ๋งจริง ๆ
จากข้อสังเกต ความคิดเห็น ของเพื่อนๆ ในนี้ และตามเฟซบุ๊ค สรุปได้ว่า เคสนี้มีกลิ่นไม่ค่อยดี มากกว่ากลิ่นจากควันไฟไหม้
บางข่าวบอกมีพนักงานทำงานหนีรอดปลอดภัย ??? แล้วคนที่รอดถ้ามีจริง ๆ ทำไมเงียบเหมือนโดนมนต์สะกด!!! ถ้ามีพนักงานทำอยู่จริงทำไมไม่กล่าวถึงพนักงานเหล่านั้น??? อย่างที่เพื่อน จาจา เอามาให้อ่านนั่นแหละ อาคารธนาคารสำนักงานใหญ่ ระบบป้องกันอัคคีภัย มีค่าเป็นศูนย์เชียวหรือ ผมว่าไม่น่าใช่นะ คิดเฉย ๆ
ไหนทาง SCB บอก ส่งหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว ไม่รู้ไปส่งที่แผนกไหนจนชาวประชาคม สจล. ออกมาประกาศปิดบัญชีย้ายบัญชีเงินเดือนไปที่อื่น เลิกทำธุรกรรมกับแบงก์ มาตอนนี้บอกขอเลื่อน.....แล้วไม่เข้าใจว่า การวางระบบป้องกันอัคคีภัยมันเกี่ยวอะไรกับการส่งหลักฐานทุจริตยักยอกเงิน สจล. ??? เพราะคำพูดกับพฤติกรรมไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ไงล่ะ ถึงทำให้ชื่อเสียงภาพพจน์ตกต่ำ สะท้อนถึงธรรมาภิบาลที่ง่อนแง่น งานนี้ กระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย ควรออกโรงเข้ามาตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฏหมายของสถาบันการเงินอย่างถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่วิกฤตศรัทธาความน่าเชื่อถือจะลามไปยังสถาบันการเงินอื่น ส่งผลให้ภาพรวมความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินไทยตกต่ำลงในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ วิกฤตต้มยำกุ้งก็เริ่มจากเรื่องทุจริตและไม่โปร่งใสแบบนี้แหละ จนลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้
คหสต ผมมองว่าทำไม กทม เมืองหลวงของประเทศที่มีตึกสูงเกิน 10 ชั้นมากมาย ทำไมจึงมีรถกระเช้าที่ใช้สำหรับดับเพลิงอาคารสูงไม่เพียงพอ ที่มีก็ดันเสียใช้งานไม่ได้ มันฟังไม่ขึ้นครับ และหากว่าถ้าสามารถฉีดน้ำดับเพลิงตั้งแต่ชั่วงแรกๆ น่าจะควบคุมเพลิงได้เร็วกว่านี้ครับ ที่สงสัยคือมันเป็บแบบนี้ได้อย่างไร มันดูดแปลกๆครับ
ฉีดจากข้างนอก เป็นแค่ตัวประกอบ ถ้าจะดับไฟจริงๆ ต้องเข้าไปดับข้างในครับ จะดับช้าดับเร็วขึ้นอยู่กับระบบนํ้าดับเพลิงในตึกมัน มีพอให้ใช้สู้ไฟหรือเปล่าเท่านั้นแหละครับ ไม่ต้องเชื่อผมนะ ไม่รู้ไปจำมากจากไหน เอิ้กๆ
ในอาคาร ไม่ว่าจะสูงหรือเตี้ย ระบบป้องกันอัคคีภัยวางมาดีครับ ในอาคารหรือลานจอดจะมีระบบของมันอยู่ ถ้าเข้าอาคารได้ตามตู้ firehose จะมีหัวจ่ายน้ำพร้อมสายอีก ระบบ spk หรือหัวสปริงเกอร์ ก็ทำงานตามอุณภูมิ ทำไมไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าอาคารต้องปล่อยเวลาไปขนาดนั้น เรื่องมันจะพยามยามเอามาผูกกันให้ได้ไงครับ เอกสารที่ไฟไหม้เราคนนอกไม่รู้ คนที่รู้โกหกไม่เป็นหรือ ? อ้างว่าไม่มีเอกสารเกี่ยวกับ สจล อ้างว่ารถกระเช้าเสีย มันจะมาบวกเหตุผลโกหกกันได้ไร้รอยต่อจริง ๆ แค่หัวสปริงเกอร์แตก ตัวปั๊มที่เรียกกันว่า firepump ก็ทำงานน้ำในระบบแรงดันเต็ม ๆ แค่คนเข้าไปได้ลากสายน้ำพร้อมหัวฉีดเปิดวาวล์ก็พอแก้หนักเป็นเบาได้แต่นี่เปล่า
ไฟไม่ได้ไหม้ทุกวัน ดังนั้นรถกระเช้าจึงไม่ค่อยได้ใช้งาน เมื่อมีเหตุอาจทำให้ระบบขัดข้องใช้งานไม่ได้ชั่วครู่ พอใช้ได้ไฟก็สงบ ควรจะมีการซ้อมแผน หรือนำรถออกวิ่งบ้างนะครับ เก็บมะพร้าว สอยลูกตาล ก็ยังดี ได้ใช้งานทดสอบประสิทธิภาพ
จริงอยู่ครับไฟไม่ได้ไหม้ทุกวัน แต่มันมีการโหลดอุปกรณ์พร้อมใช้งานไม่ว่าติดเครื่องยนต์ หรือตรวจอุปกรณ์บนรถ อยู่แล้วทำไมมันประจวบเหมาะ งานป้องกันอัคคีภัยมันต้องพร้อมตลอดแบบนี้เท่ากับว่า หน่วย ดพ. ไม่พร้อมทำงานตลอดเวลา แม้แต่ิ่งจำเป็นยังไม่ตรวจเช็ค ขนาดทหารม้ารถถังในกรุงเทพ ไม่รู้จะเอาไปวิ่งที่ไหน ยังมีการโหลดกันเลย
เรื่องรถกระเช้านี่ ผมฟัง ผอ สำนักบรรเทาสาธารณภัย กทม ให้สัมภาษณ์ เห็นท่านบอกว่า มันถูกขอไปทีหลัง คือเจ้าหน้าที่ที่ไปดับเพลิงเขาจะประเมินสถานการณ์เอง ถ้าเห็นว่าต้องขอรถกระเช้าเขาก็จะขอไป พิธีกรที่สัมภาษณ์ ก็ตั้งคำถามแบบนี้แหละครับ แต่เล่นซะ 3 ชั่วโมง คือถามว่า แล้วทำไมมันใช้เวลามากนักกว่าจะไปถึง ใช้เวลาตั้ง 3 ชั่วโมง ซึ่งท่าน ผอ ก็บอกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ว่าใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงกว่าจะไปถึง แต่ท่านก็บอกว่ารถกระเช้านี้ มันไม่สามารถรวดเร็วทันใจได้อย่างรถดับเพลิงปกติทั่วไปหรอก เพราะรถมันใหญ่ วิ่งใช้ความเร็วแบบรถดับเพลิงทั่วไปไม่ได้ ไปถึงที่แล้วก็ต้องหาที่จอดที่เหมาะสมเพื่อตั้งขาค้ำยันให้มั่นคง แล้วจึงจะปฏิบัติการได้ ฟังแล้วแบบนี้ ถ้าเป็นตรอกซอกซอย หรือพื้นที่เล็ก ๆ แคบ ๆ หมดสิทธิ์เรียกรถกระเช้าแน่ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ คือท่านบอกว่า พนักงานดับเพลิง เขาจะเน้นการเข้าไปดับเพลิง ณ จุดที่เป็นต้นเพลิง ซึ่งกรณีธนาคารไทยพาณิชย์ นี่ ก็คือ การเข้าไปดับไปในตัวอาคาร ชั้น 10 แต่ปัญหาที่พบก็คือ ควันเยอะมาก มองไม่เห็นทาง มองเห็นได้แค่ประมาณ ฟุตเดียวเท่านั้น ลิฟท์ ใช้ไม่ได้ ต้องขึ้นบันไดไปชั้น 10 และที่เป็นปัญหาใหญ่ก็คือต้องใส่หน้ากากอ๊อกซิเย่นเข้าไป ซึ่งหน้ากากนี้มันใช้งานได้แค่ 40 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้น ขึ้นไปดับไฟชั้น 10 ก็ต้องเผื่อเวลาลงมาด้วยไม่งั้นอ๊อกซิเย่นหมดก่อน ประกอบกับอาคารนี้เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ภายในสร้างเพื่อความสวยงาม มันจึงมีซอก มีหลืบ มีอะไรต่ออะไรบังตามบังทางเดินอยู่มาก ไม่เหมือนทางเดินในโรงแรมหรืออาพาร์ทเม้น ทำให้พนักงานดับเพลิงขึ้นไปแล้ว หลงได้ ไม่รู้จะขึ้นต่อหรือลงอย่างไรทางไหน (ไม่รู้ว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้พนักงานดับเพลิงท่านหนึ่งต้องเสียชีวิตหรือเปล่า) ฟังดูแล้วน่าจะประเมินได้ว่า การเข้าไปดับเพลิง ณ จุดต้นเพลิง คือภารกิจหลัก ส่วนรถกระเช้าน่าจะเป็นภารกิจเสริม ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูงหรืออาคารเตี้ย พิธีกร ถามอีกว่า แล้วอุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ ไม่ทำงานหรืออย่างไร และเห็นบอกว่าผู้ดูแลความปลอดภัยของธนาคารไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไปดับไฟด้วย ผอ ท่านบอกว่า กรณีทีว่าไม่เปิดประตูให้พนักงานดับเพลิงเข้าไปดับไฟนี่ ไม่เห็นมีพนักงานดับเพลิงรายงานเลย ทางธนาคาก็ให้ความร่วมมือดี นำแผนผังธนาคารมาให้ดูทางขึ้นทางลง ส่วนอุปกรณ์ดับไฟอัตโนมัติเท่าที่ตรวจสอบดูแล้วก็ทำงานปกติ แถมฉีดน้ำออกมาเยอะมาก เต็มไปหมดไหลนองลงไปถึงในลิฟท์เลย ถ้าไม่มีตัวนี้ช่วย สงสัยว่าจะไหม้มากกว่านี้เยอะ เพราะน้ำที่ฉีดออกมามันช่วยระบายความร้อนได้เยอะ เรื่องนี้ผมมองอยู่ 3 ประเด็นครับ ประเด็นแรก ต้องหาสาเหตุของเพลิงไหม้ให้ได้ว่ามันเกิดจากอะไร ผมไม่ได้สงสัยเรื่องเอกสารอะไรหรอก แต่มองว่ามันเป็นอาคารทันสมัย มีระบบความปลอดภัยครบ แล้วมันเกิดเหตุได้อย่างไร ผมเบื่อที่จะฟังว่า สาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เต็มทนแล้ว ประเด็นที่สอง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคาร มีความรู้เรื่องการดับเพลิงหรือเปล่า มีจำนวนเพียงพอที่จะดูแลรักษาอาคารหรือเปล่า ธนาคารกำไรแต่ละปีเยอะครับ จะขี้เหนียวไปทำไมครับ ประเด็นที่สาม อันนี้สำคัญ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เขาเสียชีวิตเพื่อรักษาอาคารของท่านครับ ท่านต้องเหลียวมาดูครอบครัวของเขาด้วยครับ อย่าปล่อยให้เขาได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการแต่เพียงอย่างเดียว เพราะดูแล้วมันไม่คุ้มกับชีวิตของเขาครับ
เค้าว่า... ตึกนี้ มันอัจฉริยะ !!! .... เราก็ถามว่า... มัน อัจฉริยะตรงไหน ??? เค้าตอบ ... มันทำลายตัวเองได้ถ้ารู้ตัวว่า หลักฐานความผิดจะถูกตำรวจจับได้ ....