คงต้องยอมรับว่า ข้อเสนอให้ทำการปฏิรูปก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนั้น ไม่ใช่ไม่มีที่มาที่ไป มีคนเสนอ มีคนพูดแล้วก็มีคนตอบรับ ! เราได้ยินเรื่องการยืดเวลาออกไปอีก 2-3 ปีครั้งแรก เมื่อครั้งคณะกรรมการปรองดองของ คสช. นำโดย พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเลขาธิการ คสช. เชิญบรรดาผู้แทนพรรคการเมืองและแกนนำมวลชนไปหารือก่อนหน้านี้ แล้วที่สุด ทั้งตัวแทนพรรคการเมืองและแกนนำมวลชนก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าจะยืดวันเลือกตั้งออกไปอีก 2-3 ปี ก็จะเป็นไรไป ถ้าแลกกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ ไม่ใช่แค่พูดในที่ประชุมร่วมกัน หากแต่ออกมาจากห้องประชุม ทุกคนก็พูดแบบนี้ แล้วจากนั้น ก็มีกระบวนการที่ว่า คสช.ประชุมร่วมกับ ครม. จากนั้นมีมติออกมาว่า จะต้องมีการทำประชามติ ตรงนั้นเองที่ทำให้เกิดการแจกแจงแยกย่อยว่า ถ้าจะทำประชามติ จะเกิดอะไรขึ้น จะต้องทำอะไรบ้าง ก็เริ่มกันที่ว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีการคาดคำนวณกันไปว่า ถ้าต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้ทำประชามติ แล้วต้องใช้เวลานานเท่าใด เมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ จากนั้นจะต้องใช้เวลาเท่าใดในการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ ส่งมอบให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใช้เวลาอีกเท่าใด กระทั่งถึงวันลงประชามมติ สิริแล้ว วันเลือกตั้งใหม่ว่ากันว่า น่าจะต้นปี 2560 ถ้านับจากวันนี้ไป แม้ไม่ถึง 2 ปี แต่ก็ใกล้เคียงละ แต่ประเด็นของ คสช.ถ้าฟังจาก วิษณุ เครืองาม นายกฯ ก็รับรู้ได้ว่า สิ่งที่ คสช.กังวลในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะออกมานั้น ก็คือ “ความต่อเนื่อง” ทำอย่างไรให้การเมืองในอนาคตมีความสงบ ก้าวหน้า เป็นธรรม รัฐบาลใหม่ต้องไม่ทุจริต ใช้อำนาจผิดทำนองคลองธรรม ถามว่า ถ้าหากมีเลือกตั้งตามกำหนดเดิม ทันทีที่ได้นักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ สิ่งแรกที่นักการเมืองเหล่านั้นคิดจะทำใช่เป็นการแก้รัฐธรรมนูญไหม ? ถ้าฟังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก็คือ ประเด็นแรกที่นักการเมืองจะแก้ก็น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับทหาร คือทำอย่างไรให้ทหารไม่ยึดอำนาจ แต่ไม่ได้แก้เพื่อสกัดสาเหตุที่นำไปสู่การยึดอำนาจ นั่นคือมุมมองของ คสช. และนำมาซึ่งข้อเสนอให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง 2 ปี ส่วนจะปฏิรูปอย่างไร ปฏิรูปอะไรบ้าง เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่จะต้องไปพูดคุยกันว่า อะไรคือความจำเป็นเร่งด่วน เพราะถ้าจะให้หว่านไปทุกเรื่อง ไล่มันทุกอย่าง ด้วยเพราะเห็นว่า มันล้มเหลวไปเสียหมด ทำกันไปสัก 4-5 ชาติ ก็อาจจะไม่หมด เพราะเรื่องบางเรื่องมันฝังเข้าไปในจิตสำนึก มันกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ การจะล้างสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจกำหนดได้ว่า 3 เดือน 6 เดือน จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ถ้ารู้ว่า บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ แล้วไปฝันจะให้ตื่นมาก็กลายเป็นเมืองในอุดมคติ เพราะ คสช.มี แก้ววิเศษ เนรมิตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ควรจะลองไปนั่งสมาธิแล้วค่อยๆ คิดไล่เรียงเหตุปัจจัยดูเสียหน่อยก็จะดี แต่ถ้ายอมรับกันแล้วว่า บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ และพอจะมองเห็นว่า อนาคตอันใกล้นี้ ก็ยังคงไม่ปกติ เห็นว่า ความขัดแย้งมันแค่ “หลบใน” เพราะมี คสช. น่าจะพอเข้าใจได้ว่า ต่อให้หลังจากปฏิรูป 2 ปี ก็ไม่รู้ว่า ความขัดแย้งจะหดหายไปจากสังคมไทยหรือไม่ แต่ถ้าคิดว่าไม่เอาแล้ว อยากจะวัดกำลังกันในวันนี้พรุ่งนี้ให้รู้ดีรู้ชั่วกันไป...ก็น่าจะไปถามชาวบ้านกันเสียหน่อยเป็นไร ว่าเขาเอาด้วยหรือเปล่า http://www.komchadluek.net/detail/20150609/207679.html ........................................................................................................... จำได้เหมือนกันว่า ช่วงนั้นนักการเมืองและกลุ่มแกนนำ ออกมาพูดเหมือนกันว่า ยอมรับได้หากการเลือกตั้งจะต้องเลื่อนออกไป ขอให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดี ซึ่งก็ไม่ต่างจากช่วงเวลานี้เท่าไหร่ที่จะยืดอายุให้ คสช.เพื่อทำการปฎิรูปต่อไปอีก แต่ที่ผมสนใจจริงๆคือ ถามว่า ถ้าหากมีเลือกตั้งตามกำหนดเดิม ทันทีที่ได้นักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ สิ่งแรกที่นักการเมืองเหล่านั้นคิดจะทำใช่เป็นการแก้รัฐธรรมนูญไหม ? อยากให้เป็นคำถามที่พรรคการเมืองทั้งหลาย ช่วยตอบให้ประชาชนอย่างผมชื่นใจหน่อยว่า พวกท่านจะไม่ทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้อีก เพราะผมไม่อยากให้ช่วงเวลาดีๆ 2-3ปี นี้ เสียของอีกเช่นกัน
ผมว่าปล่อยให้เลือกตั้งไปก็ได้ แต่ต้องแปลงสภาพ คสช เป็นหน่วยงานความมั่นคง ดูเรื่องปลุกปั่น อาวุธ หมิ่น จนกว่าไอ้พวกขี้ข้าจะหมดฤิทธิ์ การอยู่ต่อก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน ถ้าเผลอทำอะไรไม่ถูกใจคนมากๆขึ้นมา จะเข้าทางไอ้เหลี่ยมทันที
ที่ผ่านมานักการเมืองทาสแม้วทำให้เห็นแล้วว่าไม่สนเสียงประชาชน ไม่ว่ากรณีลักหลับ พรบ นิรโทษกรรม เกี๊ยะเซี่ยะกับวุฒิในการกลับไปเป็นสภาผัวเมีย แก้กฏหมายให้อำนาจรัฐบาลในการทำสัญญากับต่างประเทศ โดยไม่ผ่านสภา เหล่านี้ทำให้เห็นแล้ว และเชื่อว่าจะยังทำอีก ตราบใดที่องค์กรณ์ที่เคยปรารถนาดีกับประเทศ คัดค้านแล้วไม่เป็นผล การเมืองภาคประชาชนกลับมาแน่นอน ทุกวันนี้ที่หยุดตามที่ลุงตู่บอกไม่ได้ว่าหายจากโลก แต่หยุดเพื่อให้พวกสมุนทรราชย์ได้มีเวลาทบทวน กลับเนื้อกลับตัว ถ้าไม่สำนึกในเร็ววัน เตือนว่าภัยนั้นอยู่ใกล้ตัว
เราทุกคนมักพูดกันเสมอว่า อยากเห็นประเทศชาติเจริญเหมือนอารยประเทศ ไม่อยากเห็นการประท้วง การปฎิวัติรัฐประหาร แต่เราลืมเลือนกันไปหรือเปล่าว่า ทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น การแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องเท่านั้น ที่ผ่านมานักการเมืองมักพูดเพียงแต่ประเด็น ที่มานายกฯ เพราะกลัวสืบทอดอำนาจ การเลือกส.ส.แบบไหนดีกว่ากัน ทั้งๆที่สิ่งเหล่านี้ประชาชนแทบจะไม่ได้ประโยชน์ใดๆ และยังเอาประชาชนอย่างเราไปแอบอ้างว่าไม่ต้องการอย่างนั้นอย่างนี้ ในความเป็นจริง เราไม่เคยรู้เรื่องและต้องการอย่างนั้นเลย
มีใครพอรู้บ้างมั้ยครับว่า รธน ใหม่นี้ จะปราบคอรัปชั่นของนักการเมืองได้ เผลอๆ นักการเมืองไม่อยากจะแก้เลย เพราะเตะหมูเข้าปากหมาแล้ว
ในระบบปชต.แบบไทยๆที่ผ่านมา นักการเมืองจะอ้างประชาชนบังหน้า เมื่อต้องการทำสิ่งที่เลว ****บีบข้าราชการ ให้ทำตามคำสั่ง ****ออกนโยบายเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายเยอะๆ ****ต้องการอำนาจครอบคลุมทั้งประเทศ คสช.วางมือให้นักการเมืองมีอำนาจเมื่อไหร่ เตรียมถูกยุบทิ้งได้เลย ผมว่าคสช.แค่หาทางให้เศรษฐกิจฟื้นตัวให้เร็วที่สุด ถ้าทำได้ประชาชนเขาไม่สนใจหรอกว่าจะอยู่กี่ปี
ในแง่ประชาชน สิ่งที่เราอยากได้เมื่อเริ่มมีรัฐธรรมนูญใหม่(อีกครั้ง) คือ - ทำอย่างไร เราจะได้นักการเมืองที่ดี ไม่ซื้อเสียง ( โดยหวังไปถอนทุนคืนเมื่อได้รับการเลือก) - ทำอย่างไร นักการเมืองจะไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น เอื้อผลประโยชน์เพื่อพวกพ้องตัวเองและเครือญาติ - ทำอย่างไร นักการเมืองที่อยู่ในตำแหน่ง( สส.) หรือ รมต. จะทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจริงๆ และหาก นักการเมืองละเลย ละเว้น เพิกเฉย ในการปฎิบัติหน้าที่ จะมีบทลงโทษอย่างไร ซึ่งต้องรวดเร็ว ไม่ล่าช้าเมื่อที่ผ่านๆมา ผมคิดว่า นี่คือสิ่งที่ประชาชนทุกคนอยากได้ครับ
นักการเมืองเลือกตั้ง สนใจแค่วิธีการให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ ชนะเลือกตั้งแล้วทำอะไรก็ได้ อันนี้ผมไม่ได้ดูถูกนะ ... ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่ง ไม่ค่อยใส่ใจการทำงานของนักการเมืองที่ตัวเองเลือก สนใจแต่เพียงว่าขอให้ได้กาบัตรเลือกตั้ง และสนใจว่าตนคาดหวังว่าจะได้ผลประโยชน์จากนโยบายรัฐอะไรบ้าง พอนักการเมืองที่เลือกมาถูกตำหนิติเตียน เรื่องนโยบายการทำงาน ไม่เช็คข่าวเลย ไม่ถาม เห้ย.... ผิดจริงหรือเปล่าฟะ รู้จักตั้งคำถามบ้างอะไรบ้าง การเมืองจะดี ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีวิจารณญาณมากกว่าที่เป็นอยู่ นโยบายประชานิยมแบบไปตายดาบหน้า ที่วิจารณ์กันว่าไม่ดี ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่นอน อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ความหมายมันกว้างกว่าการที่ปวงชนกาบัตรลงคะแนนเสียงเลือก ส.ส. เยอะ
อันนี้แก้ไม่ยากครับ ก็อย่าเลือกมันเป็น สส ซิครับ รัฐธรรมนูญเขียนให้ดีวิเศษขนาดไหน ถ้าผู้ออกเสียงส่วนใหญ่ยังเป็นควายพันธุ์แท้ ก็ได้พวกโกงบ้านกินเมืองเหมือนเดิม 2ปีที่ผ่านมายังไม่มีใครจัดการเรื่องนี้ครับ
(ออกทะเลนะครับ บอกก่อน ขอต่อขยายจากข้อความที่ยกมาโดยเฉพาะตัวเข้มครับ) อันนี้ดุนะครับ แต่จริง ที่แย่คือไม่ค่อยมีใครยอมรับว่า "เราโง่" หรือ "เสียโง่" ไปแล้ว กทม. ไม่ใช่ประเทศไทยครับ ภาพของ กทม.ไม่ใช่ภาพสะท้อนของคนไทยทั้งประเทศ เราต้องไม่เผลอเรื่องนี้ ผมเตือนตัวเองแบบนี้ตลอด โดยเฉพาะเวลาเจอข่าว ถนนโก่งตัวแล้วคนไปขอหวย หรืออะไรทำนองนั้น ผมจะรู้สึกว่า ยังไกลมากประเทศไทย...และที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะการศึกษา (และที่เลวลงมากในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะสำนักงานมาตรฐานการศึกษา ที่ตั้งแต่มีขึ้นมาก็สร้างความวิบัติเสียหายกับการศึกษาไทยมาตลอด) อีโง่มันถึงมาเป็นนายกประเทศของเราได้ ที่จริงแล้วมันเป็นตัวสะท้อน คุณภาพคนของเราเอง ประชาชนถ้าเข้มแข็ง อีโง่จะมาได้หรือ ข้าราชการถ้าซื่อสัตย์ นักการเมืองมันจะฉ้อได้หรือ มันหมักหมมเหม็นเน่ามานานมากแล้วครับ และยังมีพวกขายชาติ คอยเลียนายทุนเอาเศษเงินโกงของมันอีก คอยเข้ามาบิดเบือน ก่อกวน รังควาน ทำลายเข่นฆ่า เพื่อประโยชน์ของนายทุน แม้กระทั่งเผาบ้านเผาเมือง มันก็ทำกันมาแล้ว คนมันต่ำทรามจริงๆครับ และถ้าไอ้เหลี่ยมอีแหลและบริวารชาติชั่วของมันทั้งหลาย ไม่ตายตก ไม่ต้องโทษตามกฎหมาย อย่าคิดเลยครับ ว่าจะปฏิรูปประเทศได้ "หมา" ที่ไหนจะเชื่อถือกฎหมายอีกต่อไปละครับ มันก็จะเข้าสู่ยุค "มึงพวกใคร" เท่านั้นเอง คอยดูกันครับ มันไม่ง่ายหรอก ปฏิรูปประเทศไทยหน่ะครับ โรดแมปลุงตู่หน่ะ แกตั้งไว้ตอนยังไม่เจอขยะใต้พรมครับ พอเข้ามานั่งจริงแล้วถึงรู้ว่ามัน เน่ามากแค่ไหน ไอ้พวกลัทธิคลั่งเลือกตั้งประชาธิปไตยจอมปลอมทั้งหลายหน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ตัวแสบๆคือ 1. นายทุนผูกขาดที่เลี้ยงบริวารชั่ว 2. คนมีสีที่มือดำต่ำทราม 3. ข้าราชการใจคด กินบนเรือนขี้บนหลังคา 4. อลัชชีหน้าด้านและเหล่ามหาเถนที่รับใช้มัน 5. พวกสื่อเสื่อมขายตัว ขายชาติทั้งหมด ถ้าจบ(จบนะครับ ไม่ใช่จับ)ไอ้ 5 จำพวกนี้ด้วยกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้ ไม่มีทางปฏิรูปประเทศได้ครับ แก้กฏหมายให้ตายก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะกลไกของมันจะโยงใย เข้าไปสู่ข้อกฏหมาย แฝงเข้าไปสู่ระบบต่างๆ หาช่องทางช่องว่าง กดทับประเทศต่อไปได้อีก ซึ่งถ้ากฏหมายไม่ทำงาน ประเทศไหนๆก็ไปไม่รอดครับ และด้วยเหตุนี้เอง ผมมองเองในแง่ดีว่า มันถึงมีมาตรา 44 ครับ รอดูกันต่อไปครับ ผมว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีใครสนใจหรอก เลือกตั้ง โรดม่งโรดแมป กลับคำพูดอะไรนั่น ทำไปเถอะ อย่าเฮี่ยละกัน ถ้าเฮี่ยแล้วคนรับไม่ได้ ก็ออกมาเต็มถนนเหมือนเดิมครับ ขอบคุณครับ
เคยอ่านผ่านตา แต่จำไม่ได้ว่าอ่านจากไหน(เลยไม่สามารถบอกที่มาเป็นหลักฐานได้) -------------------------------------------------------------------------- อับราฮัม ลินคอล์น ( Abraham Lincoln ) เคยกล่าวใว้ประมาณว่า "การทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีนั้น สำคัญกว่าการให้สิทธิและเสรีภาพ" -------------------------------------------------------------------------- ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแนวคิดท่านจริงหรือปล่าว เพราะท่านเป็นคนริเริ่มการเลิกทาส อับราฮัม ลินคอล์น ผู้นำคนที่ 16 แห่ง สหรัฐ นักประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพ เจรจาเก่ง ผู้นำแห่งสิทธิเสรีภาพของชาวอเมริกา เสียชีวิตจากการลอบสังหารในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1865 http://personworld.exteen.com/20140927/abraham-lincoln
นึกถึงคำพูดนึงนะครับ " ประชาชนที่อยู่ชนบท ยังขาดความรู้ ความเข้าใจเรื่องประธิปไตย " จริงๆแล้ว ชนบทคือขาดการรับรู้ข่าวสารเป็นหลัก ซึ่งผลที่ตามมาคือไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย ส่วนคนในเมืองมีแหล่งความรู้มากมาย แต่ไม่สนใจเน้นความฉาบฉวย รวดเร็ว ทำให้มีการประดิษฐ วาทกรรม มากมายที่บิดเบือน สุดท้ายสิ่งที่ได้คือกระแส แต่ไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย โจทย์ในเรื่อง ไม่เสียของ ของ คสช. ต้องบอกว่า หินมากๆครับ แต่เอาใจช่วย คณะคสช.ทุกๆท่านครับ
จริงครับ กฎหมายถ้าดีแค่ไหน ถ้าผู้รักษากฎหมายและผู้ที่(ต้อง)ปฎิบัติตามกฎหมาย ไม่รักษา ไม่ปฎิบัติตาม ก็ไม่มีความหมาย ปัญหาการเลือกคนดี ที่ไม่โกงกิน ทำงานเพื่อบ้านเมือง เป็นโจทย์ใหญ่มากสำหรับคนไทยและเมืองไทย เพราะเราเคยชินกับ โกงก็ไม่เป็นไรขอให้ทำงาน ขอให้แบ่งปัน มานานมากแล้วครับ
คสช.เองก็รู้ว่า ระบอบทักษิณ รอการกลับมา ท่านประยุทธถึงได้พูดว่า จะลงหลังเสือหรือต้องฆ่าเสือก่อนดี รอดูตอนลงครับว่าจะเป็นวีรบุรุษ หรือจะกลายเป็นตัวตลกเหมือน คปค. กรณีโรดแมฟ ต้องรอดูทางออกครับ แต่ผมก็เชื่อมือทีมงานเสธ.ของคสช.นะครับ ประเมินและลงมือตามสถานการณ์ได้รวดเร็วดี