ข่าวจาก CNN มันขม เอาข่าวนี้ดีกว่า จาก sputniknews รสหวาน รับประทานง่าย (26 ก.พ. 2559) ในขณะที่การหยุดยิงในซีเรียจะมีผลในวันเสาร์ นักข่าว Steven Sahiounie กล่าวกับวิทยุ sputnik ชัด ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคพื้นดิน และอธิบายความสงสัยของซีเรียในความตั้งใจที่แท้จริงของสหรัฐฯ มีความหวังว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรจะกดดันต่อซาอุฯ และตุรกีเพื่อจะหยุดยั้งทหารภาคพื้นดินในการเข้าไปในซีเรีย และทำให้ตุรกีปิดชายแดนของตน นักข่าว Sahiounie ซึ่งอยู่ใน Latakia กล่าวกับ Brian Becker ตุรกีทำตามที่ลูกพี่สั่ง Sahiounie กล่าว ในขณะที่การเจรจาที่มิวนิคระหว่างขั้วอำนาจต่าง ๆ นำไปสู่การหยุดยิง แต่มีความไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลของโอมาม่ามีความตั้งใจหรือไม่ในข้อตกลง “ในฟามเป็นจริง ถ้ารัสเซียพูดสิ่งใดแล้วจะทำจริง แต่ไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับรัฐบาลโอมาม่า จนถึงบัดนี้ยังไม่เห็นว่าพวกนั้นจะเอาจริง” ในขณะที่ Sahiounie ยังคงหวังในเรื่องของการหยุดยิง แต่ดูเหมือนกลุ่มต่อต้านทั้งหลายยังไม่จริงใจที่จะหยุดยิง Sahiounie ยังกล่าวถึงสถานการณ์ใน Latakia ซึ่งจำนวนประชากรพู่งขึ้นถึง 3 ล้านคนจากจำนวนเดิม 1 ล้านคนจากการที่ผู้ลี้ภัยอพยพมาจากด้านตะวันออกซึ่งถูกทำลายจากสงคราม “พวกเขาอยู่ในบ้านเช่า หรือเต้นท์ รัฐบาลซีเรียให้โรงเรียน การบริการด้านสุขภาพและยาเท่าที่จะทำได้ และประชาชนใน Latakia พยายามที่จะช่วยเหลือพวกเขาเหล่านี้” ในขณะที่ Latakia ส่วนใหญ่ยังปลอดภัย บางส่วนยังคงมีความรุนแรงเกิดขี้นเมื่อกลุ่มกบฎสายกลางพยายามสร้างความพินาศ “เพื่อนของผมซึ่งเป็นนักข่าวถูกฆ่าโดยพวก ‘กบฎสายกลาง’ เพียงเพราะว่าเขาบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้น Sahiounie กล่าว แล้วเขาตายเพราะอะไร? เขาตายด้วยขีปนาวุธ TOW ซึ่งสหรัฐฯ มอบให้กลุ่มกบฎ” การโจมตีดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับนักข่าวจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงนักข่าวของ RT news ซึ่งพยายามติดตามข่าวที่เครื่องบินรัสเซีย Su-24 ถูกยิงตกในน่านฟ้าของซีเรีย “ไอ้พวกนี้ไม่ได้ทำเพื่อเสรีภาพหรืออะไร พวกนี้แค่ฆ่าคนและกินเนื้อและตับ มีคลิปวิดิโออยู่ใน youtube พวกนั้นฆ่านักข่าวและฆ่าผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยยิงอาวธปล่อยไปที่สถานศึกษา” “มันเป็นการได้มาซึ่งเสรีภาพ, โดยการยิงไปที่นักศึกษา” (ทำไมไอห่านิวมันไม่มาอยู่ในซีเรียวะ ) ในขณะที่กำหนดการหยุดยิงกำลังมาถึง Sahiounie อยากกล่าวถ้อยคำนึ้ต่อชาวตะวันตก “ซีเรียมิใช่ซาอุดิอาระเบีย ซีเรียเป็นเพียงประเทศสายกลางซึ่งมีอายุ 10,000 ปี เราเป็นผู้คนที่ฝักใฝ่สันติ และเราอยากให้ผู้คนทั้งโลก pray for Syria, and pray for the citizens of Syria, and pray for the Syrian Army to finish ISIS และไอ้พวกผู้ก่อการร้ายกลุ่มอื่น ๆ” “สำหรับชาวตะวันตกที่มาเยือนภูเก็ด เอ้ย.. ซีเรีย และมาชมความงามของซีเรีย Sahiounie กล่าว, สิ่งเหล่านั้นถูกทำลายไปแล้ว แต่ซีเรียก็ยังคงงดงาม”
รถถังของอัสซาดขณะปฏิบัติการในชานเมือง Daraya (26 ก.พ. 2559) รถถังเป็นแบบไหน รุ่นอะไรก็ดูยากนะ คงต้องให้บรรดาเซียน ๆ มาบอก รู้แต่ว่ารถถังของ Syrian Arab Army นำเข้าจากรัสเซีย
มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นะฮัฟ UN resolution 2268 รับรองโดยเอกฉันท์ จากสมาชิก 15 ชาติ ในการยุติความขัดแย้งในซีเรีย link: http://www.un.org/press/en/2016/sc12261.doc.htm
จากสำนักข่าว Anadolu Agency ของตุรกี ANKARA/ALEPPO (29.02.2016) ทหารฝ่ายรัฐบาลซึ่งได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากรัสเซียยังคงโจมตีฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีข้อตกลงในการหยุดยิงซึ่งมีการประกาศในสัปดาห์ที่แล้วจากทางมอสโคว์และวอชิงตัน ซึ่งจะมีผลในตอนเที่ยงคืนของวันศุกร์ ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เครื่องบินรัสเซียได้โจมตีเป้าหมายซึ่งเป็นหมู่บ้านในตอนกลางของจังหวัด Hama และทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Aleppo ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คนและมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 12 คนจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในทางเหนือและตะวันตกของ Aleppo และ ทางใต้ของ Hama ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดถูกยึดครองโดย Free Syrian Army สัปดาห์ที่แล้วสหรัฐฯ และรัสเซียประกาศข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียซึ่งมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันศุกร์ ทั้งฝ่ายผู้ก่อการร้าย Daesh และ al-Nusra front ไม่อยู่ในข้อตกลงของการหยุดยิง ในวันศุกร์ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin กล่าวว่ามอสโคว์จะยังคงดำเนินการทางทหารต่อ Daesh และกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ถึงแม้ว่าหลังการหยุดยิงจะมีผล แต่ถึงแม้มอสโคว์จะอ้างว่าการโจมตีทางอากาศจะจำกัดอยู่ในพื้นที่ของ Daesh แต่เจ้าหน้าที่ NATO กล่าวว่าเป็นการโจมตีต่อเป้าหมายในพื้นที่ของกบฏสายกลางซึ่งสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลอัสซาด ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว การโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้ทำให้ประชาชนมากกว่าครึ่งล้านในซีเรียต้องอพยพจากถิ่นฐานของตัวเอง ซึ่งจำนวนมากได้เข้ามาหาที่พักพิงในตุรกีหรือประเทศข้างเคียงอื่น ๆ ตั้งแต่การหยุดยิงเริ่มมีผล ระบอบอัสซาด ตลอดจนรัสเซียและกลุ่ม Hezbollah จากเลบานอนได้พยายามรุกรานทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ การรุกรานนี้เกิดขี้นทั้งใน Homs, Aleppo, Hama และ Damascus รวมถึงในเขต Turkmen ในจังหวัด Latakia Riad Hijab ผู้ประสานงานในการเจรจาของฝ่ายต่อต้าน กล่าวในจดหมายถึง UN ว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 29 คนจากการโจมตีของฝ่ายรัฐบาลนับตั้งแต่มีการหยุดยิง ทั้ง US ตุรกี และชาติอาหรับกล่าวว่าการหยุดยิงจะเกิดผลสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทางรัสเซียหยุดการโจมตีทางอากาศต่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและเขตที่อยู่ของพลเรือน
ข่าวตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2559 นะครับ น่าสนใจ จากสื่อไอ้กัน washington post นักรบชาวเคิร์ดช่วยเหลือเด็กผู้หญิงสวีเดนวัย 16 ปีจากกลุ่ม IS washington post 23 ก.พ. 2559 BAGHDAD – หน่วยรบพิเศษของชาวเคิร์ดได้ช่วยเหลือเด็กผู้หญิงวัย 16 ปีจากกลุ่มมือปืน IS ใกล้กับเมือง Mosul ของอิรัก เจ้าหน้าที่เคิร์ดกล่าวในวันอังคาร ปฏิบัติการเพื่อช่วย Marilyn Nevalainen ซื่งพลัดหลงจากคู่ชู้ของตัวเองในปีที่แล้ว, เกิดขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ หลังจากทางการสวีเดนขอความร่วมมือในการค้นหาและช่วยเหลือนำตัวเธอกลับมา ฝ่ายการเมืองของเขตกึ่งปกครองตนเองของชาวเคิร์ดแถลง เธอจะถูกส่งตัวให้กับทางการสวีเดนและได้กลับบ้านหลังจากมีการเตรียมการที่จำเป็น มีชาวสวีเดนประมาณ 300 คนที่ได้จากประเทศตัวเองไปเพื่อเข้าร่วมกับ IS ในอิรัคและซีเรียในช่วงสามปีที่ผ่านมา ตามตัวเลขของฝ่ายความมั่นคงของสวีเดน พวกที่จัดหาคนจูงใจพวกวัยรุ่นผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือในชุมชนที่อาศัยอยู่ ในการให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ของกลุ่มเคิร์ด K24, Marilyn กล่าวว่าเธอออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 14 หลังจากนั้นได้พบกับคู่ชู้ ซึ่งโน้มน้าวให้เธอไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมกลุ่มรัฐอิสลามซึ่งรู้จักในชื่อ ISIS หรือ ISIL “ในตอนแรกเราอยู่ด้วยกันอย่างดี แต่เขาเริ่มดูวิดิโอของพวก ISIS และพูดเกี่ยวกับพวกนั้น หนูไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ ISIS หรืออิสลาม” เธอบอกกับโทรทัศน์ K24 เมื่อคู่ชู้ของเธอชักชวนว่าจะเดินทางไปเข้าร่วมกับ ISIS เธอตกลงใจและออกจากสวีเดนในวันที่ 31 พ.ค. ปีที่แล้ว สื่อของสวีเดนรายงานข่าวถึงเรื่องนี้ว่าในขณะนั้นคู่ชู้ของ Marilyn อายุ 19 และเธออายุ 15 และกำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือน Marilyn ซึ่งอยู่ใน Boras ใกล้กับ Gothenburg ได้จากบ้านอุปถัมภ์ไป ตามคำกล่าวของสื่อ ทางการเคิร์ดไม่ได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับลูก Marilyn กล่าวว่าทั้งสองคนเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสผ่านยุโรปก่อนที่จะข้ามพรมแดนตุรกีไปสู่ซีเรีย หลังจากข้ามไปซีเรีย ISIS พาทั้งสองคนไปทางรถบัสสู่ Mosul และให้อยู่ในบ้านหลังหนึ่ง “ในบ้านนั้นไม่มีอะไรเลย” เธอกล่าว “ไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำ เราไม่มีเงินติดตัว มันเป็นชีวิตที่ยากลำบากจริง ๆ” การหายตัวไปของ Marilyn เป็นข่าวใหญ่ในสื่อของสวีเดน แต่ว่ามีหลายอย่างที่ครอบครัวของเธอพูดไม่ตรงกับคำสัมภาษณ์ออกสื่อโทรทัศน์ของเธอ แม่ของเธอกล่าวกับสื่อสวีเดนว่าหลังจาก Marilyn หายตัวไปเธอได้เข้าร่วมกับ al-Nusra Front แต่ถูกลักพาตัวไปโดย IS ในเมือง Aleppo พวก IS ไม่รับรองการแต่งงานของทั้งคู่และแยกสองคนออกจากกัน Marilyn ซึ่งดูผ่อนคลายและยิ้มในขณะให้สัมภาษณ์ออกสื่อ บอกว่าหลังจากที่ไปถึง Mosul เธอโทรศัพท์ถึงแม่และบอกว่าอยากกลับบ้าน ปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้ดำเนินการโดยฝ่ายเคิร์ดทั้งหมด เป็นคำกล่าวของเจ้าหน้าที่เคิร์ดซึ่งพูดโดยไม่เปิดเผยตนและข้อมูลที่อาจส่งผลต่อความมั่นคง ในเดือนตุลาคม หน่วยพิเศษของเคิร์ดและสหรัฐฯ ได้ทำการจู่โจมในเมือง Hawijah ในอิรัคและปลดปล่อยนักโทษจำนวน 69 คน แต่ไม่พบนักโทษชาวเคิร์ดที่ตั้งใจจะช่วย และมีทหารสหรัฐหนึ่งคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว
ท่านขุนน้อย ไทยโพสต์ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. มัวไปยุ่งเรื่องพระ เรื่องเจ้า จนขนร่วง ขนหลุด อยู่ภายใน เข่งไก่ ไม่รู้กี่เส้นต่อกี่เส้นเข้าไปแล้ว วันนี้...เลยคงต้องขออนุญาต โผล่ไปเช็ก ตรวจสอบแนวรบด้านตะวันออกกลาง พอได้เปลี่ยนๆ บรรยากาศ ไม่ต้องปวดเศียร เวียนเกล้า กับการ รับอัดกรอบพระ ไปซักพัก ส่วนเรื่องนายหย่ง นายใหญ่ อะไรนั้น เอาอย่างที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านว่าเอาไว้ชัดเจนแล้วนั่นแหละ คือปล่อยให้ กฎหมาย พูดแทนน่าจะเข้าท่ากว่า... ----------------------------------------------------- สำหรับแนวรบตะวันออกกลางช่วงนี้...ดูจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวในแง่บวก พอให้ถอนหายใจได้บ้าง อย่างน้อยก็ซักเฮือก สองเฮือก นั่นก็คือข่าวการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย ตามความเห็นพ้องต้องกันของสองอภิมหาอำนาจอเมริกาและรัสเซีย โดยมีสหประชาชาติลงตราประทับรับรองด้วยอีกต่างหาก เริ่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 26 กุมภาฯ หรือ 05.00 น.ของเช้าวันเสาร์ที่ 27 กุมภาฯ ตามเวลาประเทศไทย ดังที่หน้าต่างประเทศ ไทยโพสต์ ได้ไล่เรียงรายละเอียดไปแล้วเมื่อวานนี้... ---------------------------------------------------- ถือเป็นข้อตกลงที่ต้องถูกนำไปใช้บังคับกับทุกๆ ฝ่าย ซึ่งใส่กันอุตลุดมาโดยตลอด ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายกบฏ หรือฝ่ายหนุนหลังรัฐบาล หนุนหลังกบฏ ยกเว้นแต่ฝ่าย ผู้ก่อการร้าย ที่ไม่มีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง กล้าประกาศสนับสนุนโดยเปิดเผย หรืออย่างเป็นทางการ อันนั้น...ยังคงสามารถใส่ต่อไปได้ จะทิ้งระเบิดใส่หัว ยิงถล่มด้วยรถถังรุ่นใหม่ของรัสเซีย ที่ขนาดจรวด TOW หรือ T-72 ของสหรัฐก็ยัง เอาไม่อยู่ ก็คงต้องว่ากันไป ซึ่งแม้ว่าข้อตกลงเหล่านี้จะเป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้ หรือมีผลบังคับใช้อย่างเป็นจริง เป็นจัง ขนาดไหน แต่อย่างน้อย...ก็พอช่วยให้เกิดบรรยากาศแห่งความเป็นมนุษย์ มนา ขึ้นมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี... ---------------------------------------------------- โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ถือเป็นการเปิดโอกาสให้การส่งความช่วยเหลือทางมนุษย์ธรรม ส่งข้าว ส่งน้ำ ส่งยารักษาโรคให้กับเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมวัฏสังสารชาวซีเรีย ให้พอได้ดำรง คงความเป็นมนุษย์ได้บ้าง ไม่งั้น...ภาพของบรรดาเด็กๆ ผู้หญิง คนแก่ ผู้หิวโหย ดวงตาแห้งผาก ปานประดุจแทบไม่เหลือวิญญาณติดร่างกาย ที่ถูกกัก ถูกล้อม อยู่ในดงกระสุน จรวด ดงระเบิด กระเสือกกระสนอยู่ในซากปรักหักพัง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ฝ่ายไหน ต่อฝ่ายไหน ก็แล้วแต่ คงต้องยอมรับว่า...ชั่งเป็นภาพที่บาดตา บาดใจ เสียเหลือเกิน สำหรับใครก็ตามที่ยังพอหลงเหลือความเป็นมนุษย์ติดตัวอยู่บ้าง น่าจะ รับไม่ได้ ไปด้วยกันทั้งสิ้น... ------------------------------------------------------- ยิ่งไปกว่านั้น...ยังถือเป็นการช่วยให้บรรยากาศ ความตึงเครียดทางทหาร อันเนื่องมาจากข่าวคราวเรื่องซาอุฯ และตุรกี ออกอาการกระเหี้ยนกระหือรือ คิดจะรวมหัวบุกซีเรียภาคพื้นดินในเร็วๆ นี้ ก็น่าจะปิดฉาก ปิดผ้าม่านกั้ง ลงได้ในระดับหนึ่ง หรือเป็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่แทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปปวดเศียร เวียนเกล้า นั่งวิเคราะห์ ตีความกันอีกต่อไป เพราะไม่ว่าฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน ก็ดูจะ ไม่เอาด้วย หรือ ไม่เห็นควรด้วย กับซาอุฯ และตุรกีไปด้วยกันทั้งสิ้น... ----------------------------------------------------- แม้ว่าตุรกีนั้น...จะมีสถานะเป็นหนึ่งในสมาชิก 28 ชาติขององค์การนาโต แต่ถ้าฟังจากตัวเลขาธิการนาโตเองตามที่ นาย Jen Stoltenberg ได้ออกมาให้สัมภาษณ์นิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมันคราวล่าสุด ด้วยคำพูดที่ว่า “ผมคิดว่านาโตได้เน้นเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า สิ่งที่เราต้องการคือให้สถานการณ์สงบลงไป เราไม่อยากเห็นการยกระดับทางทหารใดๆ อันจะนำไปสู่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ที่อาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุทางทหาร...ที่มิอาจควบคุมได้” รวมทั้งนาย Jean Asselborn รัฐมนตรีต่างประเทศลักเซมเบิร์ก ที่พูดไว้ชัดยิ่งกว่านั้น คือระบุว่า “นาโตจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกดึงเข้าสู่การยกระดับความขัดแย้งทางทหารกับรัสเซีย ด้วยการอาศัยเงื่อนไขความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและตุรกีเป็นข้ออ้าง” และ “มาตรา 5 ของนาโต (ข้อตกลงความร่วมมือทางทหารระหว่างนาโตกับชาติสมาชิก) คือหลักประกันสำหรับชาติสมาชิกที่ถูกรุกรานหรือถูกโจมตีก่อนเท่านั้น” ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็น่าจะเป็นอันปิดฉาก สำหรับความพยายามของ ผีโสโครก 3 ตน ที่จะชักลาก ปวงกษัตริย์ทั่วพิภพ ให้ไปร่วมชุมนุมทำ สงครามอารมาเกดโดน ตามที่พระคัมภีร์ไบเบิลได้ระบุเอาไว้... ------------------------------------------------------- เมื่อความพยายาม จุดชนวนสงคราม คราวนี้ชักจะจุดไม่ติด ทั้งซาอุฯ และตุรกีเองนั่นแหละ เลยออกอาการเป๋ๆ ไปด้วยกันทั้งคู่ ข่าวคราวเรื่อง การเปลี่ยนแปลงอำนาจภายใน ของราชอาณาจักรซาอุฯ ช่วงนี้ จึงเริ่มกลายเป็นที่สนใจของนักวิเคราะห์สถานการณ์ต่างประเทศ แทนข่าวการเตรียมบุกซีเรียไปแล้วในทุกวันนี้ เช่นเดียวกับข่าวคราวการทุจริต คอร์รัปชันของลูกชายประธานาธิบดีตุรกี นาย Bilal Erdogan ที่กำลังถูกอัยการอิตาลีสืบสวนสอบสวนในข้อหาขนเงินที่ได้จากการคอร์รัปชัน หรืออาจรวมถึงเงินที่ได้จากการค้าน้ำมันเถื่อนกับพวกไอซิส มาฟอกที่อิตาลี จนอาจกระทบกระเทือนไปถึงสถานะของผู้เป็นพ่อให้พลอยต้องหมดสง่า ราศี ตามไปด้วย จนแทบไม่เหลือคุณค่า ราคาใดๆ ที่จะไปชักลากใครต่อใครให้ไปร่วมเป็น ร่วมตาย กับตัวเองอีกต่อไปแล้ว หรืออย่างที่นักการทูตเยอรมนีรายหนึ่งได้กล่าวกับ Der Spiegel เอาไว้นั่นแหละว่า “เราคงไม่คิดจะไปจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆ ให้กับสงครามที่ตุรกีเป็นผู้ริเริ่มโดยเด็ดขาด”... ------------------------------------------------------- บรรยากาศโดยรวมมันก็เลยออกมาในทาง บวก อยู่ไม่น้อย แม้เป็นการหยุดยิงชั่วคราว หรือสันติภาพชั่วคราวก็ตามแต่ เหมือนๆ กับบ้านเราช่วงนี้นี่แหละ ไม่ว่าจะมีการ ส่งสัญญาน ในการบุก การจุดชนวน สงครามกลางเมืองรอบใหม่ ออกมาชัดเจนเพียงใดก็ตาม แต่ในเมื่อผู้นำการบุก ผู้พยายามชักลากใครต่อใครให้ไปตายเพื่อตัวเอง มันดันไร้ความสง่างาม ไร้สง่า ราศี เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเอง หรือตัวกู-ของกู เป็นที่ตั้งมาโดยตลอด ถึงจะออกมาขู่ คำราม ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ประเภท เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นมาเมื่อไหร่...ผมจะกลับไปนำหน้าพ่อ- แม่-พี่-น้องด้วยตัวเอง อันนี้...ใครก็ตามที่ยังไปเชื่อ ยังพร้อมที่จะรู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก มีแต่ต้อง ออกลูกเป็นลิง เพื่อต้อนรับปีลิงลูกเดียวเท่านั้นเอง... ------------------------------------------------------ ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Abraham Lincoln (อีกครั้ง)... “You can fool some of the people all the time, you can fool all of the people some of the time. But you cannot fool all of the people all of the time.- ท่านอาจหลอกบางคนได้ตลอดไป หลอกทุกคนได้ในบางครั้ง บางคราว แต่ท่านจะหลอกทุกคน ในทุกครั้ง ทุกคราว หรือตลอดไปไม่ได้...”.
จาก sputniknews อดีตรมต.กลาโหมสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ sputniknews เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง US-Russia ที่เลวร้ายลงและความคาดหวังว่าความร่วมมือในอนาคตจะเป็นไปได้หรือไม่
ผมว่าเรื่อง 9K720 lskander น่าจะมโนกันเองมากว่าครับ 1. หลักฐานต้นเรื่อง มีแค่ภาพแว๊บเดียว เห็นไกลๆ และก็ไม่ชัดด้วย อาจจะเป็นรถเชื้อเพลิง รถดับเพลิง รถบังคับการ อะไรก็ได้ทั้งนั้น 2. ลักษณะของการจอดวางยานยนต์คันดังกล่าวนั้น ไม่ได้ซ่อนพราง หรือมีที่กำบังอะไนเลย มันบ่งชี้ได้ว่าน่าเป็นยุทธปกรณ์ที่ไม่สำคัญนัก 3. ซีเรียสำคัญต่อรัสเซีย แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ต้องเสี่ยงกับทำสงครามนิวเคลียร์แน่ๆ มันไม่เส้นขีดแบ่งว่า เราจะเข้าสู่สงครามนิวเคลียร์กันตรงไหน ถ้ามีคนใช้นิวเคลียร์ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ มันก็สุ่มเสี่ยงที่จะนำตนเอง และโลกเข้าสู่สงครามนิวเคลียร์ โดยเฉพาะใช้กับชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยกัน 4. ถ้าไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ เป็นหัวรบธรรมดา มันก็ต้องใช้จำนวนมาก หลายๆระบบ เพราะฐานทัพอากาศ Incirlik มันกว้าง และมีกำบังอย่างดี การใช้อาวุธจำนวนน้อยๆไปโจมตี ก็คงไม่ส่งความเสียหายอะไรมากนัก 5. ถ้าโจมตีสหรัฐฯ ไม่ว่าแบบใด เท่ากับดึงสหรัฐฯเข้าสู่สงครามเต็มตัว ซึ่งรัสเซียไม่ต้องการ
ยอมรับว่าหลักฐานเรื่อง Iskander ไม่ชัดเจนขนาดที่จะสรุปอะไรได้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ทราบว่ามาจากสื่อไหนด้วย แต่อาจเป็นสื่อที่น่าเชื่อถืออย่าง sputnik news ก็เป็นได้ ลองค้นดูแล้วน่าจะเป็นเว็บนี้มั้งครับ https://southfront.org/russia-deployed-iskander-missile-systems-at-khmeimim-airbase-in-syria/ ในข่าวบอกว่ามีภาพจากโทรทัศน์ของรัสเซีย คาดว่าเป็นรถที่ใช้ปล่อยมิสไซล์ชนิดนี้ น่าจะเป็นภาพนี้ครับ ดูจากรูปแล้วก็เป็นไปได้หละว่าเป็นฐานทัพอากาศ khmeimim วิดิโอฉบับเต็มครับ เห็นรถคันนี้ตรง 5:23 ประเด็นคือมันเชื่อมโยงกับเรื่องเล่าผ่านเฟซบุ๊คได้หรือเปล่า