เลิกงานแล้ว ไปปั่นจักรยานกันต่อ เอาเพลงที่ 7 RPM Release 65 เรยแระกัน เพลงที่ 5 House of the Rising Sun มันเบาไป แร้วเสร็จแร้ว อย่าลืมยืดคลายกล้ามเนื้อนะ
ถ้าผมเป็น นักล้างป่าช้า ผมก็ทำอย่างนี้แหละ เพราะเดี๋ยวนี้ สื่อเหลือง สื่อแดง เขาปรับมาตรฐานเป็นมาตรฐานเดียวกันแล้ว หยิบสื่อไหนมาเล่นก็เหมือนกัน แล้วจะหยิบสื่อแดงมาให้ถูกด่าให้เปลืองตัวทำไม ผมติงนักล้างป่าช้านิดเดียวเท่านั้นแหละ ตรงชื่อกระทู้ เพราะน่าเป็นชื่อ "ใหญ่แค่ไหนก็จับ" หึ่ง.. เรียกแป๊ะ ปรับทัศนคติ แป๊ะ ครับ ไม่ใช่ ป๋า เพราะพาดหัวข่าวแบบเจตนาให้คนที่อ่านแต่พาดหัวเข้าใจผิดว่า ป๋าเตือนสติท่านประยุทธ พาดหัวแบบนี้มันน่าจะเป็นสื่อยุค สงครามเย็นโน่น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ายุคนี้ทำไมยังมีสื่อแบบนี้หลงเหลืออยู่อีก ในเนื้อหาข่าว ป๋า ท่านเตือนสติผู้ที่เข้าร่วมฟังท่าน และคนทั้งประเทศครับ ว่า ประเทศไทยไม่ใช่ของท่านประยุทธคนเดียว ทุกคนต้องช่วยกัน ต้องสร้างความปรองดอง แล้วแบบนี้ นักล้างป่าช้า คิดว่าจะ หึ่ง เรียก ป๋า หรือหึ่ง เรียก แป๊ะ ครับ
'ก็แล้วแต่น้อง' ตีความกันยกใหญ่ครับว่า "ป๋าเปรม" เตือนสติ "นายกฯ ลุงตู่" หรือเปล่า! เพราะจากข่าวที่ปรากฏ "ป๋าเปรม" เป็นประธานเปิดงานโครงการ สานใจไทยสู่ใจใต้ พิเศษ รุ่นที่ ๑ หลักสูตรสังคมพหุวัฒนธรรม นำสันติสุขสู่แดนใต้ ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ เมื่อวานซืน (๒๙ มกราคม) มีแม่ทัพนายกองร่วมงานพรึ่บ! มีเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและพุทธในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒๔๐ คนรับฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ท่านพูดเอาไว้ว่า "เยาวชนทั้ง ๒๔๐ คนนั้น เป็นคนไทยนะ เป็นคนไทยเหมือนผม และเหมือนกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. เราเป็นเจ้าของประเทศนี้ ประเทศนี้เป็นของเรา ไม่ใช่ของคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นของเราทุกคนคนไทย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ฉะนั้น ผมมั่นใจว่าคุณคงรักประเทศไทย เหมือนผม และคนอื่นๆ ที่รักประเทศไทยเหมือนกัน ทุกคนต้องสำนึกว่าทุกคนต้องทำหน้าที่ให้ชาติสงบสุข เราจะปล่อยให้ประเทศเกิดความบาดหมางคงไม่ดีแน่" หากดูประโยคเต็ม จะเห็นบริบทชัดเจน ความหมายของ "ป๋าเปรม" คือไม่ใช่ให้ "นายกฯ ลุงตู่" รับผิดชอบประเทศคนเดียว เป็นหน้าที่ของเยาวชน และคนไทยทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ท่าทีอันดุดันระหว่างให้สัมภาษณ์นักข่าวทำเนียบรัฐบาล ในวันเดียวกันแต่ประการใด นายกฯ ลุงตู่ เป็นแบบนั้นแหละครับ เหมือนคุยกับนักข่าวในวงเหล้า โขมงโฉงเฉง ชี้มือชี้ไม้ไปตามเรื่องตามราว แต่ไม่ปกติอยู่นิดเดียวตรงที่ พูดกันในทำเนียบรัฐบาล ระหว่างการสัมภาษณ์นะซิครับ ทั้งภาพทั้งเสียงจึงออกไปทั่วประเทศ ชาวบ้านชาวช่องดูแล้วมีทั้งชอบและไม่ชอบ คนที่ชอบก็บอกว่า นายกฯ เด็ดขาดดี ตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าใคร ส่วนคนที่ไม่ชอบก็ตั้งข้อสังเกตว่า ท่านมีปัญหาวุฒิภาวะทางอารมณ์หรือเปล่า? แล้วแต่จะมองครับ สำหรับผมมองว่าคนเรามีบุคลิกไม่เหมือนกัน ผู้นำหลายประเทศในโลกนี้หลายคนมีบุคลิกเฉพาะตัว "อูโก ชาเบซ" อดีตผู้นำเวเนซุเอลา กัดอเมริกาไม่ปล่อยในแทบทุกเรื่องด้วยลีลาอันดุดัน พ่นจนน้ำลายกระเด็น ยากจะหาผู้นำประเทศใดมาเทียม หรือแม้กระทั่ง "วลาดิมีร์ ปูติน" ประธานาธิบดีรัสเซีย เน้นการโชว์ความแข็งแกร่งของร่างกาย เบ่งกล้ามเป็นมัดๆ ทรมานใจแม่ยก ไม่ต้องอื่นไกล อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้ล่วงลับ เจ้าของวลีทอง "กูไม่กลัวมึง" ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านก็ยกส้นเท้าใส่หน้านักข่าวจนเป็นที่ฮือฮามาแล้ว แต่ไม่นับรวมบุคลิกแปลกๆ ของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" โดยเฉพาะเมื่อครั้งเจอกับ "ประธานาธิบดีบารัค โอบามา" นะครับ ฉะนั้นถ้าจะมองเป็นเรื่องบุคลิกคน ท่านนายกฯ ลุงตู่ก็ไม่มีอะไรแปลกครับ เพราะท่านเป็นของท่านแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็นั่นแหละครับมันก็มีขีดจำกัด มีเส้นแบ่งระหว่าง "พอดี" กับ "เกินงาม" อะไรที่มากเกินไปมักจะสร้างปัญหาให้ตามแก้ในภายหลังเสมอ เอาเป็นว่าหลังจากที่เรามีผู้นำที่ไม่รู้อะไรสักเรื่อง อ่านโพยจนน่ารำคาญ วันนี้เรามีผู้นำที่มีความรู้พูดได้แทบทุกเรื่อง ด้วยลีลาที่ดุดัน และเป็นกันเองจนคิดว่านั่งอยู่ในวงเหล้า มันก็ใช่ว่าจะเสียหายอะไรนัก! แต่ถ้าเพลาๆ ลงหน่อยก็จะดูงามกว่านี้ ไม่เช่นนั้นต่อไปรายการข่าวคงต้องติดเรต ๑๘+ ฮ่าๆๆๆ ที่ว่าไม่เสียหายเพราะท้ายสุดแล้ว อยู่ที่ผู้นำคนนั้นคิดอย่างไรกับประเทศ ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคม ที่ผ่านมา มีคำพูดนายกฯ ลุงตู่อยู่ ๒ ท่อน ที่ผมอยากให้อ่านกันให้ละเอียด "....ถ้าหากว่าเราวันนี้ดูแลกันไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ได้ ให้ชาติอื่นเขามาดูแลเราหรือครับ เราเป็นอิสระไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครมาเป็นกี่ร้อยปีแล้ว วันนี้เราทำไมจะต้องให้คนอื่นเขามาเที่ยวไปฟ้องร้องใครคนโน้นคนนี้ให้เขา ช่วยมาแก้ปัญหาให้เรา ผมว่าน่าอายๆ เราทำไมถึงต้องดึงประเทศเราให้ไปเป็นเหมือนกับหลายๆ ประเทศที่เขามีปัญหาอยู่เวลานี้ ผมก็ไม่แน่ใจ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาคิดอย่างไร...." "......วันนี้ท่านก็เห็นอยู่ วันนี้ก็ยังไม่หยุดยังจะต่อสู้กันไป อะไรนักหนา ผมไม่รู้ ไม่แน่ใจ ทุกเรื่องมีปัญหาไปหมด จะปฏิรูป จะออกกฎหมายอะไรก็ไม่ได้ ทั้งที่มันก็ยังไม่เกิดขึ้น ผมไม่เข้าใจว่าจะเดือดร้อนอะไรกันนักหนา เดือดร้อนแต่เพียงว่า วันหน้าจะเข้ามาใช้อำนาจไม่ได้ ใช้ไม่สะดวก โกงกินไม่ได้หรือเปล่า อันนี้ไม่อยากจะเปิดศึก แต่ต้องพูด ไม่อย่างนั้นผมถูกพูดอยู่ข้างเดียว เพราะผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมไม่อยากไปกล่าวว่าใคร ไม่อยากไปพูดประเทศไทยเสียหายอย่างไรมา ไปโทษคนนั้นคนนี้ ท่านไม่อายเขาหรือไง ท่านเที่ยวไปร้องแรกแหกกระเชอกับต่างประเทศเขาทั่วไปหมด ผมว่าต้องเลิกแล้วนะ..." ครับ...สุภาพบุรุษพูดตรงไปตรงมา ท่านบอกว่า รัฐบาลนี้เข้ามาอย่างไร ไม่เคยไปปฏิเสธที่ไปที่มา ซึ่งผมคิดว่าหลายคนก็ไม่ปฏิเสธเรื่องที่มา คือมาจากการรัฐประหาร! รู้ว่าที่มามันผิดไปจากระบอบประชาธิปไตย แต่จะทำอย่างไรล่ะครับ เพราะระบอบประชาธิปไตยไม่เคยแก้ปัญหาโกงกินของประเทศไทยได้ ซ้ำร้ายประชาธิปไตยยังกลายเป็นเครื่องมือในการทำมาหารับประทานของนักโกง เมืองทั้งหลายเสียอีก แล้วพวกร้องหาประชาธิปไตยจนปากมันในวันนี้ มีหัวหน้าก๊วนสักคำว่าโกงอยู่ตรงหน้าผากนั่นแหละครับ คำถามสำคัญจากนายกฯ ลุงตู่ ที่ว่า "ผมไม่เข้าใจว่าจะเดือดร้อนอะไรกันนักหนา เดือดร้อนแต่เพียงว่า วันหน้าจะเข้ามาใช้อำนาจไม่ได้ ใช้ไม่สะดวกโกงกินไม่ได้หรือเปล่า" มีนักการเมืองคนไหนสนใจตอบให้ชื่นใจมั้ยครับ! แต่อย่าตอบเลยครับ เพราะเห็นแต่ละคนที่ถูกเรียกไปปรับทัศนคติ เป็นพวกปากกล้าแต่ขาสั่นกันทั้งนั้น "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังไปรายงานตัวว่า "เพื่อนมิตรมากมายห่วงใยถามไถ่ เล่าสู่กันฟังครับ เจ้าหน้าที่นัดผมไปคุยที่สโมสร ทบ. การสนทนาเป็นไปด้วยอัธยาศัยไมตรี ไม่มีข่มขู่บีบบังคับ สาระโดยสรุปคือ อธิบายเหตุผลการยึดอำนาจ ความมุ่งหมายของ คสช. และขอให้งดแสดงความเห็นทางการเมือง พร้อมแจ้งมาตรการต่อไปหากเห็นว่าไม่ให้ความร่วมมือ ผมบอกไปว่ายินดีให้ความร่วมมือ ไม่มีเคลื่อนไหวเผชิญหน้า แต่เรื่องการแสดงความเห็น ผมคิดว่าเป็นสิทธิ์และพร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น ขอให้เข้าใจว่าทุกอย่างที่พูดเพราะผมคิดและเชื่อเช่นนั้น ด้วยความหวังดีต่อบ้านเมืองไม่มีเป้าหมายอื่น สุดท้ายก็จบตรงที่ 'ก็แล้วแต่น้อง' ถือว่าเราได้พูดคุยกันแล้ว ผมก็ตอบว่าหากวันข้างหน้ามีเหตุต้องเรียกผมมาหรือดำเนินการอย่างไรกับผมอีก ขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่ผมเล่นแง่ หรือไม่ไว้หน้าคณะที่พูดคุยกัน แต่ 'ผมเป็นผมแบบนี้จริงๆ' " ถุย! จะเล่นบทพระเอก ถามนิดเถอะครับ ในวันที่ถูกนักข่าวประจำกระทรวงพาณิชย์ตั้งคำถามไล่ต้อนโครงการรับจำนำข้าว ที่โกงกันสะบัด ทำไมวันนั้นหน้าซีดเหลือแค่ครึ่งนิ้ว แทบไม่พูดอะไรออกมาเป็นภาษาคน แต่คอดันแห้งผากกระเดือกน้ำเสียหมดแก้ว คงต้องเตือนเผื่อจะลืมกันไป ย้ำกันอีกครั้ง ที่นายกฯ ลุงตู่พูดว่า "วันหน้าจะเข้ามาใช้อำนาจไม่ได้ ใช้ไม่สะดวก โกงกินไม่ได้หรือเปล่า" ประโยคนี้มันสำคัญจริงๆ แกนนำเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย ระบอบทักษิณ ต้องจดจำไว้นะครับ ที่ผ่านมาประชาชนทนเห็นการคอร์รัปชันไม่ได้ และแสดงออกมาให้เห็นแล้วว่า พลังของประชาชนเรือนล้านนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง หากคิดจะกลับเข้าสู่อำนาจแล้วเข้าไปทำแบบเดิม ระวังไว้! กระทั่งน้ำสักแก้วก็จะไม่มีให้กิน แต่ถ้าน้องยังเป็นแบบนั้น ก็แล้วแต่น้องนะ! ผักกาดหอม http://www.thaipost.net/news/310115/102375
ตัดแปะ บิดเบือน คำพูดแล้วนำมาโจมตีโดยไม่ดูที่มาที่ไปนี่ งานถนัดของเรื้อนแดงเค้าหละ ไม่มีงาช้างงอกออกจากปากสุนัขฉันใดก็ฉันนั้น