พท. จี้รัฐเลิกใช้ ม.44 ขู่ม็อบยาง หนุนดันราคารับซื้อ 60 บาท โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ม.ค. 2559 17:36 "วัฒนา" หนุนข้อเสนอรับซื้อยาง ปชป. กก.ละ 60 บาท แต่จะซ้ำรอยข้อกล่าวหาเอาผิดจำนำข้าว "ยิ่งลักษณ์" แทรกแซงกลไกตลาด ยันไม่นำประเด็นมาเล่นการเมือง จี้รัฐเลิกใช้ ม.44 ขู่ม็อบ เมื่อวันที่ 12 ม.ค.59 นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยางว่า เสียดายที่รัฐธรรมนูญถูกฉีกไป โดยเฉพาะมาตรา 84 (8) ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่บัญญัติให้รัฐต้องคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ในการผลิตและการตลาด ส่งเสริมให้สินค้าเกษตรได้รับผลตอบแทนสูงสุด ถ้ารัฐธรรมนูญยังอยู่รัฐบาลใดก็ตามต้องช่วยเหลือเกษตรกร โดยไม่มีเงื่อนไข แต่เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามดุลยพินิจของท่านผู้นำและรัฐบาล นายวัฒนา กล่าวต่อว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือการจำกัดพื้นที่เพาะปลูกให้เหลือเท่าที่มีความต้องการ ส่วนที่เกินจากความต้องการ ต้องให้เกษตรกรเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นภายใต้การช่วยเหลือของรัฐบาล หากจะถามต่อว่าจะให้เกษตรกรไปทำอะไร ตนขอให้รัฐบาลนี้ไปคิดเอาเอง ที่ผ่านมายังไม่เคยได้ยินแนวทางในการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล นอกจากคำขู่ว่าจะใช้มาตรา 44 เท่านั้น ส่วนพวกตนได้คิดทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ซึ่งจะนำเสนอประชาชนในการหาเสียง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เราชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล http://www.thairath.co.th/content/561607
คิดจะทำเรื่องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็ทำเลยไม่ต้องรอ จะได้รู้ว่ามีฝีมือจริง ไม่ใช่โม้ว่าเก่ง แต่จะทำเมื่อได้อำนาจรัฐ ถึงเวลาทำจริงแม่มอย่างกระจอก
แต่ผมเห็นด้วยเต็มที่นะครับ ถ้านายวัฒนา....เอาเงินส่วนตัวมาซื้อให้หมดทั้งประเทศ หรือขอจากครอบครัวภรรเมียก็ได้
ถ้าชาวสวนยาง อยากผูกคอตาย เหมือนชาวนา ก็เอาเลยท่าน ประวัติดีแต่โม้ของพรรคนี้ มันเพิ่งโชว์ผลงานไม่นานนี่เอง
สวนทางกับที่ไอ้แม้ว มันทำไว้นะ นโยบายแจกกล้ายาง 90 ล้านต้น ทั่วประเทศ แบบนี้ไอ้แม้วก็เสียหน้าสิ ขี้ข้ายังรู้เลย ว่าจะแก้ทางออกยังไง
ทุกปัญหาของประเทศ นักการเมืองเอามาเสกเงินจากอากาศได้ตลอด เพราะมีแต่การแก้ปัญหา โดยสร้างปัญหาใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีก ปัญหาของประเทศเราเลยหมักหมม บานปลายไปได้เรื่อยๆ
นี่ถ้านังเม้ยรอดคดีจำนำข้าว เราก็อาจจะได้เห็นนโยบายจำนำยาง 200 บาท ต่อกิโล แน่ๆ หวังว่าคนใต้ จะไม่เชื่อคนง่าย และวิเคราะห์เป็น
รอบที่แล้วหลอกชาวนา รอบหน้าหลอกชาวสวนยาง ทำอย่างไรก็ได้ให้ได้เป็นรัฐบาล มองเห็นอนาคตเลยว่า เลือกพวกมันมาสุดท้ายก็ต้องมาเดินขบวนขับไล่อีก เอาผลงานในอดีตมาให้ชมกัน
"ส่วนพวกตนได้คิดทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ซึ่งจะนำเสนอประชาชนในการหาเสียง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เราชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล" แล้วตอนคุณเป็น"รัฐบาล" เสรือกคิดไม่ออกละคร๊าบบ.
ถ้าคิดได้ตั้งนานแล้ว ชาวสวนยางคงไม่ออกมาชุมนุม ตอนนั้นก็ไม่ให้เงินชาวสวนยาง อ้างว่าต้องตามราคาตลาดโลก ตอนนี้มาแนะนำ รัฐบาล คสช รับจำนำยาง จะได้เอาไปอ้างในศาลคดีจำนำข้าว ว่า รัฐบาล คสช ยังทำจำนำยางเลย อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่มันเลย
นักการเมืองของเรา ส่วนมากคิดแต่เรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนจะต้องสูญเสียงบเท่าไหร่ ระยะยาวจะมีปัญหามั๊ย พวกเขาไม่เคยคิด ถ้าเอาแนวทางของในหลวงเรา มาใช้กับการเกษตรทั้งระบบ ป่านนี้เราสบายกันทั้งประเทศไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งพื้นที่ 30% เอาใว้ใช้กักเก็บน้ำ แต่นี่เราไม่เคยสนใจ แล้งทีก็วุ่นกันทั้งประเทศ ผมเองเป็นลูกชาวสวน ตัวเองตอนนี้ก็ทำสวนเล็กๆน้อยๆ เป็นอาชีพเสริม เพื่อจะได้ออกกำลังกายไปด้วย ผมสรุปได้เลยว่า ไม่ว่าพื้นที่ตรงไหน ถ้าจะทำการเกษตร เรื่องน้ำ สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ***ดินไม่สมบูรณ์เราปรับปรุงได้ ***พันธุ์พืช จะปลูกอะไร หาพันธุ์ที่ดีจากไหน ไม่ใช่เรื่องยาก ***เรื่องตลาด ถ้าเราใส่ใจสักนิด อย่าบ้าเห่อปลูกตามคนอื่น เราสามารถเลือกได้ว่าจะปลูกอะไร ที่มีตลาดรองรับ แต่ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าไม่มีน้ำพอเพียง อย่าคิดทำการเกษตรเป็นอันขาด คุณปวดหัวแน่
7โล100 (ไม่รู้ว่าชนิดไหนนะครับ) http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1452696416 http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1452170978 http://www.dailynews.co.th/politics/372440
น่าจะเป็นยางก้นถ้วย ที่เคยได้ยินมา แถบอีสานชาวสวนยางจะกรีด แต่ไม่เก็บน้ำยางไปขายหรือทำเป็นแผ่น โดยจะทิ้งให้มันแข็งตัวอยู่ก้นถ้วย(ภาชนะรับน้ำยาง) เมื่อกรีดได้จนมียางก้นถ้วยเยอะพอ จึงจะเก็บไปขาย บางทีอาจจะกรีดถึง 3 วันจึงจะเก็บสักครั้ง ยางแบบนี้จะมีราคาถูกกว่ายางแผ่นดิบประมาณครึ่งหนึ่ง แต่ดีตรงที่ไม่ต้องเสียเวลาทำแผ่น
จากเวปของเดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th/politics/372440 นายถาวร เสนเนียม ตำหนิเรื่องการแก้ปัญหาราคายาง และตำหนิรมต.เกษตรฯ บอกตรงๆว่า ตอนปชป.เป็นรัฐบาล ผมเองก็ไม่เคยเห็นนายถาวร มีวิธีแก้ปัญหาเรื่องราคายางในระยะยาวเลย ถ้ามีวิธีและทำมาก่อน เราคงไม่เจอปัญหาแบบนี้ เพราะนายถาวรเองก็เป็นคนปักษ์ใต้ อยู่กับชาวสวนยางมาตลอด เป็นสส.มาก็หลายสมัย ทำไมไม่คิดใว้ล่วงหน้าบ้างเลย พอมีปัญหา ก็ออกมาตำหนิ ทำเพื่ออะไร ย้อนดูตัวเองบ้างไหม?
เข้าสู่วันที่ 3 ของการเก็บตัวร่างรัฐธรรมนูญแล้ว โดยมีประเด็นน่าสนใจที่ปรากฏออกมา คือ การวางมาตรการป้องกันไม่ให้รัฐบาลในอนาคต ใช้นโยบายประชานิยม การประชุมนอกสถานที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเข้าสู่วันที่สาม ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ การป้องกันนโยบายประชานิยมเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดหลักเกณฑ์และข้อบังคับว่า รัฐมีหน้าที่ต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง ให้มีเสถียรภาพและยั่งยืนตามกฏหมาย โดยต้องกำหนดที่มาของรายได้ และรายจ่ายให้ชัดเจน โดยทุกครั้งที่รัฐบาลจัดทำงบประมาณเสร็จแล้ว ยังจำเป็นต้องแถลงให้สาธารณะรับทราบ เพื่อความโปร่งใส นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญจะกำหนดข้อห้ามไว้ด้วยว่า รัฐจะไม่สามารถนำเงินนอกระบบงบประมาณ และยังต้องทำแหล่งที่มาของรายได้ และรายจ่ายให้ชัดเจน โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อุดม รัฐอมฤต ยอมรับว่า แนวทางทั้งหมดนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อไม่ให้รัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง นำงบประมาณไปใช้เป็นนโยบายประชานิยมเพื่อสร้างฐานเสียงให้กับตัวเอง จนกลายเป็นความสูญเสียต่อประเทศชาติ โดยร่างรัฐธรรมนูญ ยังจะกำหนดว่า รัฐจะต้องมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก้ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาค รัฐและเอกชน รวมถึงกลไกต่างๆเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ นอกจากแนวทางแก้ปัญหาประชานิยมแล้ว ที่ประชุมกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยังได้ข้อสรุป เกี่ยวกับหน้าที่ของปวงชนชาวไทย เช่น หน้าที่รับราชการทหาร หน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฏหมาย หน้าที่ไปเลือกตั้ง หน้าที่เสียภาษีอากร และหน้าที่ต่อต้านทุจริตเป็นต้น สำหรับวาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราของ กรธ.ในวันนี้ซึ่งเข้าสู่วันที่สาม จะมีการพิจารณาเนื้อหาในหมวด 7 ว่าด้วยรัฐสภา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1452737636 ′บิ๊กฉัตร′บ่นเสียหน้า-อยากลาออกรมต.เกษตรฯ นายกฯสั่งกระทรวงอื่นช่วยแก้ราคายาง รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเพื่อติดตามงานและขับเคลื่อนนโยบาย โดยในที่ประชุม พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหนักสุดในช่วงที่ผ่านมาคือเรื่องของยางพาราตกต่ำ แม้จะคลี่คลายไปบ้าง 3-5 วัน แต่มาถึงวันนี้ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ถือเป็นเรื่องที่ปวดหัวที่สุดตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีมา 2 กระทรวง คือกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ และเมื่อการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นการประชุม ครม.ครั้งแรก ที่ผมอึดอัดที่สุด เพราะงานยางพาราเป็นงานภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตรฯ แต่ในที่ประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็มีการสั่งมาให้กระทรวงเกษตรฯทำงานไปตามปกติ แต่ก็มอบหมายงานให้กับหน่วยงานอื่นแก้ปัญหา ทั้งการมอบหน้าที่ให้กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้ารับซื้อยางพารา ให้กับกระทรวงอื่นๆ ช่วยรับซื้อ อคส.ซื้อได้หรือไม่ผมไม่รู้ ต้องรอดูต่อไป “ผมยอมรับว่าเป็นการประชุมครม.ที่ผมเสียหน้าที่สุด งานกระทรวงเกษตรฯมีปัญหา นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงอื่นเข้ามาดูแล ผมว่ามันเสียหน้ามาก เสียศักดิ์ศรี บอกถึงคนของกระทรวงเกษตรฯไร้ความสามารถ เป็นการประชุมครม.ที่ผมอยากลาออกที่สุด ผมมาอยู่กระทรวงเกษตรฯทำงานที่กระทรวงเกษตรฯแม้ไม่นาน แต่มากรีดเลือดผมดูได้ตอนนี้ถือเป็นเกษตรเต็มตัว งานมีปัญหาให้แก้ไม่มีปัญหา แต่ให้กระทรวงอื่นมาทำงานแทนเหมือนเราไม่มีความสามารถ ถ้าจะให้กระทรวงเกษตรฯดีขึ้น สินค้าเกษตรแพงขึ้น จะมาตัดนิ้วมือผมทิ้ง 1 นิ้วผมยอมนะ” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวในที่ประชุม รายงานข่าว ระบุด้วยว่า พล.อ.ฉัตรชัยยังได้กล่าวในที่ประชุมว่า "ผมรู้ว่างานของกระทรวงเกษตรฯเหนื่อยและลำบาก แต่เมื่อเข้ามาทำงานมาเป็นข้าราชการแล้วมากกว่าคนละ 30 ปี ก็ควรตั้งใจ พวกเราต้องหันหน้าเข้ามาร่วมกันทำงาน จากนี้จงใช้โอกาสแบบนี้ทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจทำงาน อย่างกรณีวันที่ 14 มกราคมนี้ ผมจะลงพื้นที่ จังหวัดหนองคายและจังหวัดขอนแก่น ผมตรวจรายชื่อมีทั้งปลัดและอธิบดี หลายคนผมสั่งทุกคนตรงนี้เลยไม่ต้องไป เดี๋ยวผมไปคุยกับคนในพื้นที่เอง มันเยอะ ควรจะช่วยกันทำงานในส่วนกลาง งานกระทรวงเกษตรฯมีจำนวนมากที่ต้องจัดการมัวแต่ตามผม เกาะติดผมไม่ต้องทำงานกันพอดี" ---------- จะเสียหน้าทำไมครับ ทุกคนรู้ว่าเรื่องแบบนี้ทำกระทรวงเดียวไม่ได้ ต้องร่วมกันเป็นระบบ ต้องรื้อความคิดกันยกใหญ่ กี่รัฐบาลแล้วที่ไม่มีการวางแผนระยะยาว พืชผลหลายๆตัวก็เช่นกัน อย่างยางเนี่ย สมัยที่ราคาสูงๆน่ะใครที่รับผิดชอบกล้าพูดเต็มปากเหรอครับว่าไม่ได้รับอานิสงค์จากตลาดโลกและราคาน้ำมัน เป็นฝีมือล้วนๆ แผนงานข้าพเจ้าเจ๋งๆ กี่ปีก็ไม่มีเจ๊ง ไม่ได้ให้ใครมาทำแทน แต่ให้มาช่วยกันทำ ประเทศชาติได้ประโยชน์ ปชช.ก็ได้รับผลดีร่วมกัน ส่วนท่อนสุดท้าย เชียร์เลยครับ ให้เป็นแบบอย่างกันทุกกระทรวงเหอะ
อันนี้ถูกใจใช่เลย นักการเมืองเรา บอกตรงๆว่าไม่มีวิสัยทัศน์ พืชผลทางการเกษตรเรา หลายตัว มีปัญหาเรื่องราคาบ่อยมาก แต่นักการเมืองไทย ไม่เคยคิดแก้ปัญหาล่วงหน้า หรือแก้ทั้งระบบในระยะยาว ที่ทำอยู่คือ มีปัญหาที ก็แก้ไขกันที นโยบายที่ใช้บ่อย คือเอาเงินภาษีมาพยุงราคา วนเวียนแบบนี้มาตลอด การใช้นโยบายพยุงราคาเนี๊ยะ ผมว่าเป็นเรื่องหมูๆ ไม่ต้องใช้สติปัญญาสูงส่งใดๆก็ทำได้ แต่มีข้อเสียที่เห็นชัดคือ ***แก้ได้แค่ปัญหาเฉพาะหน้า ต่อไปก็วนเวียนมาให้กันอีกทุกปี ***มีการรั่วไหล มีการโกงกิน ตลอด(หรือที่นักการเมืองเขาชอบเพราะเป็นแบบนี้)
เสียงอีสานที่น่ารักเสียงจริงไม่อิงนักการเมือง ขอแชร์บ้าง อิอิ Hack'z Nanthaphong ติดตาม · 10 มกราคม ใกล้ Ban Na Nong Thum· มีคนพูดถึงเรื่องราคายางพาราตกต่ำ แต่ทำไม...!!คนอีสานไม่โอดครวญหรือแทบจะไม่ได้ยินเสียงร้องเรียกอะไร คำตอบคือเราเรียกร้องครับ เราได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เราทำงานหนักเหมือนเดิมแต่มีเงินในกระเป๋าน้อยลง ภาระค่าใช้จ่ายทวีคูณตามสถานการณ์ ศก. แต่มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนอีสาน "พออยู่ได้" อยู่รอด ประคับประคองตัวเองและครอบครัวได้คือ...คนอีสานส่วนใหญ่นอกจากยางพาราแล้วเราปลูกข้าวเป็นหลักปลูกยางพาราเป็นรอง เรามีมันสัมปะหลัง เรามีอ้อย เรามีถั่วเขียว เรามีถั่วเหลือง เรามีพืช ศก. อื่นมาทดแทน ถึงยางพาราจะราคาตกต่ำแต่ส่วนใหญ่แล้วเราไม่ได้ซื้อข้าวกิน ในน้ำเรามีปลา หลังบ้านเรามีสวนผัก เรามีหน่อไม้ในป่า เรามีเห็ดตามธรรมชาติ เรามีอาหารป่า เรามีพืชพันธุ์ธัญญาหารสมบูรณ์ เราใช้ชีวิตเรียบง่าย เราพึ่งพาอาศัยและแบ่งปันกันได้ ดังนั้น เหตุผลที่ว่าคนอีสานโง่ รอแบมือขอ เห่อของใหม่ คิดเองไม่เป็น เห็นเขาปลูกอะไรที่เป็นราคาดีก็แห่ปลูกตาม จึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น กลับกันเรามีภูมิปัญญา เราเผื่อแผ่ เราสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ เรารู้จักปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ ถึงเวลานี้จะเดือดร้อนอยู่บ้างเราก็ไม่ถึงกับวิกฤต เรายังจะกรีดยางพาราต่อไป อย่างน้อยถึงจะไม่มีเงินเหลือเก็บออม แต่ก็ยังพอที่จะนำมาใช้จุนเจือครอบครัว ค่าพริก ค่าเกลือได้อยู่บ้าง หากรัฐไม่สามารถพยุงราคายางพาราให้สูงขึ้นได้ สิ่งที่เราจะเรียกร้องคือค่าครองชีพ ลดราคาหมู เนื้อสัตว์ ลดราคาพืช ผัก ผลไม้ ลดราคาอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนลงมาบ้างก็ยังดี ผมให้กำลังใจพี่น้องชาวสวนยางพาราภาคใต้ ขอให้มีความอดทนและต่อสู้กับปัญหา ที่สำคัญอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่เขาต้องการแล้วไม่แยแสต่อความทุกข์ยากของเราอีก ##################### ข้างล่างนี้ ขำๆนะ (แซวลุงตู่ อิอิ) 555+ ยิ้มหน่อยดิตะเอง --- ######################## หลังจากโพสนี้ เลยต้องชี้แจงต่ออีก อิอิ กระทู้ด้านบน เรื่องปัญหาราคายางพารา ผมมิได้มีเจตนากล่าวหารัฐบาลว่าไม่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา ผมเพียงแต่แสดงความรู้สึกภายใต้สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นว่า เราต้องรู้จักที่จะปรับตัว แต่ไม่ได้บอกให้ทำตามที่ผมพูด ไม่ต้องไปปลูกลูกตอ ลูกเนียง ข้าวโพด อ้อย อื่น ๆ แทนยางพารา และที่สำคัญประชาชนทุกกลุ่มทุกภาคอย่าได้ตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มเพื่อหลอกใช้ความทนทุกข์ของเราเป็นสะพานเพื่อบรรลุความอยากของคนเหล่านั้นอีก ทุกเรื่องไม่ว่าจะยางพารา ข้าว มันสัมปะหลัง ข้าวโพด ถั่วเหลือง ผลไม้ พืชผัก สัตว์เลี้ยง ฯลฯ เพราะเดี๋ยวจะตีความที่ผมเขียนกันแบบผิด ๆ ไป ความซวยจะมาเยือนผมเพาะเวลานี้ไม่ว่างพอที่จะมีคนนัดไปหารือ แต่แน่นอน รบ. ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว เข้าใจว่ากำลังพยายามอยู่ อาจจะเห็นผลช้าหน่อยเพราะเป็นปัญหาระดับชาติ อีกอย่างผมเพียงแต่จะชี้ให้เห็นว่า คำว่า "โง่ จน เจ็บ รอแบมือขอ เห่อของใหม่ คิดเองไม่เป็น" ใช้ไม่ได้กับคนบ้านผมแล้วน่ะครับ #ตกใจตั้งแต่แสดงความเห็นอะไรไป #ไม่เคยมีใครถล่มไลค์ถล่มแชร์ขนาดนี้
"ตุ๊กตาลุงตู่ทำจากดินประดิษฐ์จากยางพารา จาก สกว.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-บ.เจเจ โมเดล หนึ่งในหลากหลายผลงานที่ทางรัฐบาลได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ และการใช้ประโยชน์จากยางพารา ณ ตึกสันติไมตรี (โถงกลาง) ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้ (19 ม.ค. 2558)...." CR::คุณบุญกึ่ม บ้านโคก รักในหลวง
ต่อไปนโยบายบิดเบือนตลาดสินค้าเกษตรแบบนี้คงไม่สามารถทำได้แล้ว ประเทศไหนทำอีก โดน WHO ปรับอานแน่ๆ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยที่ประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก เห็นชอบยกเลิกอุดหนุนการส่งออกสินค้าเกษตร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือสศก. สุรพงษ์ เจียสกุล บอกว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 10 เห็นชอบให้ยกเลิกอุดหนุนการส่งออกสินค้าเกษตรรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ประเทศพัฒนาแล้วจะต้องยกเลิกการอุดหนุนเกือบทั้งหมดทันที ส่วนประเทศกำลังพัฒนาจะต้องยกเลิกการอุดหนุนการส่งออกภายในปี 2561 โดยยังสามารถอุดหนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการตลาดและการขนส่งสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรได้จนถึงปี 2566 ทั้งนี้ การอุดหนุนการส่งออกนับเป็นการบิดเบือนทางการค้า ซึ่งองค์การการค้าโลก กำหนดให้ประเทศสมาชิกสามารถอุดหนุนการส่งออกได้ไม่เกินจำนวนที่แจ้งผูกพันไว้ โดยที่ผ่านมาไทยไม่ได้แจ้งผูกพันการอุดหนุนการส่งออก จึงไม่สามารถอุดหนุนการส่งออกสินค้าเกษตรได้
ซื้อมารอเน่ากันให้สะใจไปเลย ผลการตรวจสต๊อกยางพาราทั้ง 4 โกดัง ในจังหวัดตรัง จำนวน 8 ล้าน 8 แสนกิโลกรัม จาก 2 โครงการของรัฐบาลเพื่อไทย พบยางเสื่อมคุณภาพแล้วทั้งหมด ทำรัฐสูญเสียเงินมหาศาล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสอบปริมาณและคุณภาพยางในพื้นที่จังหวัดตรัง ในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ปี 2555 หรือโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 8,129,161 กก. และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง ปี 2557 ของรัฐบาลปัจจุบันจำนวน 702,909.46 กก. โดยจัดเก็บเป็นก้อนๆ จำนวน 79,595 ก้อนๆ รวมยางในสต๊อกทั้งหมด 8,832,070 กิโลกรัม หรือ 8,832.07 ตัน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง นายบุญเจือ สมทิพย์บอกว่า การตรวจสอบปริมาณและคุณภาพยางในสต๊อกทั้ง 4 โกดังในจังหวัดตรัง พบว่า ภาพรวมยางพาราในสต๊อกขณะนี้เสื่อมคุณภาพลงทั้งหมด เพราะจัดเก็บไม่เป็นระเบียบ ยางเสียรูป และมีราชื้นเกิดขึ้นเกือบทั้งหมด และบางโกดัง เกิดราชื้นทั้ง 100 % ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า สาเหตุสำคัญเกิดจากระยะเวลาในการเก็บยางไว้ยาวนานเกินไป ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน จึงทำให้ยางทั้งหมดตกชั้นและเสื่อมคุณภาพลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไปต่อราคายางที่จะขายหรือระบายออกไปในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้ได้ราคาต่ำกว่าปกติ นั้นก็หมายความว่า รัฐบาลจะต้องขาดทุนจากโครงการนี้อย่างแน่นอน แต่จะเป็นมูลค่าเท่าไร อย่างไร รวมทั้งโกดังอื่นๆทั่วประเทศด้วยหรือไม่ ต้องให้ทางการยางแห่งประเทศไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ให้ข้อมูล เพราะคณะทำงานแต่ละจังหวัดจะต้องรายงานในส่วนของจังหวัดตัวเองเข้าไป ให้คณะทำงานระดับสูงกว่านำไปพิจารณา สำหรับยางพาราที่อยู่ในสต๊อก ขณะนี้มีจำนวนทั้งหมด 3.1 ตัน ใน 64 โกดัง กระจายอยู่ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ โดยยางตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ปี 2555 (โครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง) ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ขณะนั้นรัฐบาลรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 109 บาท ส่วนยางในโครงการมูลภัณฑ์กันชน รัฐบาลรับซื้อในราคากก.ละ 64 บาท พบยางพาราที่รับซื้อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรใน จ.ตรัง เสื่อมภาพกว่า 9,000 ตัน
ขณะนี้ธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกะยางพารา อาการน่าเป็นห่วง และไม่รู้ว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ชาวสวนยางเรื่มปลูกปาล์ม ทดแทนยางพารากันมากขึ้น กล้ายางขายยาก กล้าปาล์มขายดี ต่อไปไม่รู้ว่า ปาล์มจะมีราคาตกต่ำอีกป่าว ถ้ากระทรวงเกษตร หันมาสนใจบ้างก็ดี เพราะลำพังชาวบ้านไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ คิดจะปลูกอะไร ก็ดูราคาในตอนนั้น แล้วก็แห่ตามๆกัน ความจริงประเทศเรามีภูมิอากาศ ที่เหมาะสมกับพืชตั้งหลายชนิด เราขาดแค่เรื่องการมองอนาคตในภาพรวมแค่นั้นเอง.....เฮ้อ....เขียนไปก็วังเวงใจ
ปีนี้ ผมก็ยังให้ลูกน้องกรีดยางนะ ว่าไปตอนนี้ ขอราคาประมาณนี้แหละครับ หรือว่าให้ดี ก็ได้สัก 60 นิดๆ พออยู่ได้ทั้งเถ้าแก่และลูกน้อง ปีที่แล้วเรียกว่า แย่สุดๆจริงๆ ไม่มีเงินเก็บเลย เหมือนกับ กรีดเลี้ยงลูกน้อง
เจาะลึกทั่วไทย 1/8/59 : "การยางฯ" ช็อก! ถูกโนติ้ส 1.37 หมื่นล้าน - YouTube papapon nopapp1 วันที่ผ่านมา คิดตามแบบโง่ๆยังรู้เลยทรัพย์ตามไปไม่หมดแต่หนี้เทเหมารวมแบบจัดหนัก ประสบสันติ์ ศรีสุวรรณ22 ชั่วโมงที่ผ่านมา เงินภาษีนั้นเหมือนๆสมบัติผลัดกันชมยังไงไม่รู้อ่ะ
ถ้าไม่มีอะไรมาทำให้ผลผลิตยางพารา ลดลงแบบฮวบฮาบ เช่นเกิดแล้งจัด พายุลูกใหญ่กวาดไปทั่ว แค่ 60บาท/กก. ก็น่าจะเป็นราคาในฝันแล้วละครับ
คือที่บ้านปลูกปาล์มมาตั้งแต่ปี 2528 แล้วครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้ปาล์มราคาตกค่อนข้างยากนะครับ เพราะรัฐบาลส่งเสริมไบโอดีเซลกันมาก ถ้าราคาเริ่มตก รัฐบาลก็แค่ปรับเพิ่ม % ของไบโอดีเซลจาก 7% เป็น 10% แค่นี้ก็ดูดดีมานด์ส่วนเกินไปได้มหาศาลแล้วละครับ แต่ที่น่ากังวลมากกว่าคือโดนขโมยตัดครับ ปีนี้ราคาปาล์มขึ้น โดนขโมยตัดไป 2 รอบแล้ว
Sirisak Borisutsawat ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ เมื่อวานนี้ เวลา 13:27 น. · ■ Cr.thairath. ------------------------------------- ภาคเอกชนจีน ลงนามสั่งซื้อที่นอนยางพาราจากไทย ยอมรับสินค้ายอดนิยม โดย ไทยรัฐออนไลน์ 31 ก.ค. 2559 22:35 ... ดูเพิ่มเติม ถูกใจ
เรื่องโจรขโมยปาล์มมีเกือบทุกท้องถิ่นครับ ยิ่งถ้า ***เจ้าของสวนอยู่ไกล โดนแน่ แม้จะมีคนเฝ้ามันก็ไม่กลัว คนเฝ้ากลับกลัวมันจะทำร้ายถ้าเข้าไปยุ่ง ***เจ้าของสวนอยู่ในสวน มันก็แอบตัดกลางคืน ***ขโมยเป็นลูกหลานของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เป็นลูกหลาน ผู้ใหญ่ กำนัน แบบนี้ มันกล้าตัดกลางวันแสกๆเลยครับ เรื่องนี้ถ้าตำรวจเอาจริง โจรก็ไม่เหลือหรอกครับ เพราะพวกโจรมันจะขายกับแหล่งรับซื้อใกล้ๆนั่นเอง หาไม่ยาก