ความเป็นไทยมันถูกสร้างขึ้นมาเมื่อตอนจอมพลป. เพื่อรวมศูนย์อำนาจเพื่อการปกครองหรือเปล่าครับ ผมละเสียดายความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่โดนกลืนไปมากกว่า เราอยู่ร่วมกัน รักกันในความหลากหลายดีกว่ามั้ยครับ ส่วนเรื่องจะมีใครลุกขึ้นมาทวงคืนแผ่นดินนั้น ถ้าทุกคนมีพื้นที่ยืนทางสังคมได้กำหนดทิศทางการเจริญเติบโตของท้องถิ่นตัวเอง อยู่ดีกินดี ใครจะมาคิดถึงเรื่องแบบนี้กัน
ผมกลับเห็นว่าคนที่ไม่ยอมกระจายอำนาจและเสียประโยชน์คือพวกเพื่อไทยมากกว่า เพราะยังไงก็ชนะเลือกตั้งและได้คุมงบประมาณทั้งประเทศอยู่ดี แต่ถ้ากระจายอำนาจละก็ เมืองที่มีเศษฐกิจดีๆ รายได้ดีๆ กลับตกไปอยู่ที่ ปชป ซะมากกว่า
สรุปว่าข้อเสียอีกหนึ่งข้อของการปกครองแบบ"รัฐเดี่ยว รวมศูนย์" ของไทยทุกวันนี้ทำให้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดนกลืน??? แล้วมี"วัฒนธรรม"อะไรบ้างครับที่โดนกลืนโดยการปกครองแบบ"รัฐเดี่ยว รวมศูนย์"
ความหลากหลายมันก็มีอยู่ครับในแต่ละท้องที่ ปรากฎจากการสร้างอาคาร วัฒนธรรมและประเพณี คุณลองไปดูได้เลยนะครับ แม้กระทั่งศาสนาตอนนี้เราไม่ได้ประกาศศาสนาประจำชาตินะครับ ไม่มีใครไปเหยียดหยามเลยนะครับ จอมพล ป.จำเป็นต้องสร้างชาตินิยมครับเพราะต้องผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยทั้งหมด แต่มันผ่านไปแล้ว เรามาดูตอนนี้ว่าระบบมันเป็นยังไงดีกว่าครับ
ประชาชนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศซึบซาบเข้าถึงจิตวิญญาณแก่งประชาธิปไตย คุณดูสิคะ แม้พวกแดงเทียมมันยังคิดได้เมื่อไหร่พวกคุณจะคิดได้สักที ประเทศของดิชั้นต้องปกครองด้วยนะบอบประชาธิปไตยเท่านั้น นายกทุกคนที่ผ่านมาจากการเลือกตั้งล้วนมาจากตระกูลชินวัตร และถูกพวกเผด็จการยึดอำนาจทำให้ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ทุกวันนี้เราดดนกดขี่ไม่มีเสรีภาพ เพราะพวกมันมีความสุขบนคราบน้ำตาของคนเสื้อแดงทั้งปฐพี ดูสิน่าสงสารจริงๆค่ะ พวกมึงเองไม่ใช่เหรอที่ไม่ยอมให้พวกเรารวมตัวกันเป็น สปปล้านนาเพื่อประชาธิปไตย เพราะกลัวประชาชาจะสามัคคีเข้มเเข็ง
ถ้าวัฒนธรรมใดที่ไม่ได้รับความนิยมจากส่วนกลาง มีแต่จะเลือนหายตายไป ยิ่งเป็นเมืองเล็กๆด้วยแล้วที่ สส.ไม่มีอำนาจใดมาก ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เค้าไม่มามองไม่มาสนับสนุนเลย ยกตัวอย่างเช่นดนตรีพื้นบ้านของจังหวัดผม ก็หาได้ยากแล้วครับ
ถ้าเป็นสมัยก่อนก็พวกชุมชนคนเชื้อสายจีน ที่อยู่กันเป็นสังคมปิดคล้ายๆพวกชุมชนคนยิวในต่างประเทศ จะติดต่อกับคนนอกเฉพาะเรื่องผลประโยช์นเท่านั้น มีหยิ่งในวัฒนธรรมที่ติดมากับเชื้อชาติที่แข็งแกร่งยากจะกลืนกิน มีความสามารถในการพึงพาตนเองสูงขนาดที่ไม่ต้องง้อรัฐ มีสาธารณุปโภค เป็นของตนเอง มีโรงเรียนสอนภาษาจีนในชุมชน มีกองกำลังเป็นของตนเองในรูปของสมาคมลับ จนกระทั่ง หลังจากที่ภาครัฐในตอนนั้นปราบกบฎอั้งยี่ไปแล้ว จึงได้ออกกฏหมายให้ ทารกเชื่อสายจีนหากเกิดในประเทศไทยได้สัญชาติไทยในทันทีนั้นละ พวกคนเชื้อชาติจีนในไทยถึงได้ถูกกลืนกลายอย่างแยบยลโดยรัฐไทยในภายหลัง
ดิชั้นเห็นด้วยกับคุณค่ะ เราต้องไม่ปล่อยให่ทหารมันปฎิวัติ ควรรีบๆเลือกตั้งแล้วใช้ระบอบสาธารณะรัฐประชาธิปไตย มันจะได้ใช้อำนาจเผด็จการยัดข้อหาจับประชาชนเข้าคุกไม่ได้
จังหวัดอะไรครับ ผมว่ามันอยู่ที่ คนรุ่นใหม่จะสืบสานต่อหรือเปล่ามากกว่าครับ ต่อให้มีงบประมาณแต่ไม่มีใครสืบสานต่อจะมีประโยชน์อะไรครับ
ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ เราร่างแผนผังมาตั้งแต่ปี54แล้วค่ะ พื้นที่สีแดงข้างล่างนั้นเราจำเป้นต้องใช้ขนส่งสินค้าเพื่อนำเงินเข้าประเทศ และเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาช่วยเราพัฒนาประเทศชาติค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเราเอาพื้นที่แถวๆจันทบุรี ตราดแลกกับพวกฝ่ายเผด็จการแล้วค่ะ มันจะได้หาเรื่องยึดพื้นที่ทางทะเลของดิชั้นไม่ได้
คือถ้ามีการกระจายอำนาจที่มากพอ ให้ท้องถิ่นสามารถจัดการแนวทางการพัฒนาของตนเองได้ ก็คงไม่ต้องแยกเป็นรัฐอย่างที่ว่าหละครับ เพียงแต่ที่ผ่านมาแค่ตั้งขึ้นมาเป็นตุ๊กตา ให้มันมีๆไปเท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไรกัน
ระบบมันก็สามารถทำให้คนดีขึ้น หรือเลวลงได้ครับ ระบบตอนนี้มันก็แค่รอรอบรัฐประหาร ปฏิวัติ รอบใหม่เท่านั้น
ผมก็ยังเห็นว่า ต่อให้แยกเป็นรัฐมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ ถ้ามีก็แค่ตั้งมาเป็นเครื่องประดับแบบที่คุณบอกแหละครับ มันอยู่ที่คนจริงๆครับ มันมีหลายปัจจัยละเอียดอ่อนระดับท้องถิ่น ระดับหมู่บ้านครับ แต่คุณต้องยอมรับว่า ประเพณี วัฒนธรรมมันเป็นของท้องถิ่นจริงๆครับ มันอยู่กับชีวิตของเขาจริงๆ จะอยู่รอดหรือไม่ อยู่ที่วิถีชีวิต และการสืบทอดครับ
การทุจริตมันเกิดขึ้น ก็ต้องอาศัยประชาชนแล้วครับ ว่าจะยอมให้ อบต. ที่ทุจริตเดิมๆ มาบริหารหรือเปล่า ถ้ามีท้องถิ่นชอบ อบต.ทุตจริต กับ ท้องถิ่นที่ชอบ อบต. ใสสะอาด ผมว่าน่าจะมีความแตกต่างกันเยอะนะครับ (กรณีที่กระจายอำนาจอย่างมาก ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ) ปล. อ๋อเข้าใจแล้วครับ ร่าน มาจากริเบอร่านนี่เอง
อีกมุมมองนึงที่คุณคงทราบดีอยู่แล้วคือ ระบบดีขึ้นหรือเลวลงก็ได้ จากการนำระบบไปใช้โดยมนุษย์ในทางปฏิบัติ
ผมว่ามีผลครับ ถ้าท้องถิ่นสองที่ได้เงินพัฒนา พันล้าน อีกที่โกงกินทำประชานิยม อีกที่เอามาพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน สร้างรายได้ ผมว่ายังไงๆมันก็ต่าง ยังไงคนเรามันก็ต้องเห็นความแตกต่างและสำเหนียกกันบ้าง
เงื่อนไขการรัฐประหารแต่ละครั้งก็แตกต่างกันไปครับ แต่คุณดูสองครั้งล่าสุดนะครับ สาเหตุมันคล้ายๆกันมั้ยครับ รธน.ปี50 นั้นค่อนข้างรัดกุมนะครับ และคนที่พูดว่ารธน.ฉบับนี้มันไม่ดี เขาก็ไม่เคยบอกว่ามาตราไหนที่ไม่ดี แต่คนต่างหากที่ไม่ปฏิบัติตาม ปัญหามันเกิดจากการละเมิดกฎหมาย การโกงครั้งมโหฬาร ระบอบการปกครองไม่เกี่ยวนะครับ และอำนาจฝ่ายท้องถิ่นนี่แหละครับที่ปลุกระดมผู้ชุมนุม
คือผมเข้าใจคุณเรื่องแยกรัฐนะ เพราะคุณคิดว่ามันจะช่วยกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นได้มากขึ้น แต่การกระจายอำนาจที่คุณพูดถึงต่อให้ได้รับงบประมาณมากแค่ไหน ถ้าคนที่รับผิดชอบไม่สนใจ ทุกอย่างก็เหมือนเดิมครับ ถ้าแยกรัฐ รัฐนั้นอาจต้องใช้งบประมาณจากภาษีที่รัฐเก็บได้นะครับ แต่คุณต้องคิดถึงรายได้ของประชากรและจำนวนประชากรด้วยครับ ผมยืนยันว่าอยู่ที่คนจริงๆครับ
แล้วกระจายมากกว่านี้ คือยังไง? คือหมายความว่า กรุงเทพเก็บภาษีได้เก้าแสนล้าน ก็มีสิทธิ์ใช้ทั้งก้อนจากทุกวันนี้ได้ใช้แสนกว่าล้าน?
อินเดีย เขามีเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาที่ดี เพราะผมไม่เชื่อหรอกครับว่าคนของเราด้อยกว่าเขา ถ้ามีระบบที่ดีผมเชื่อว่าเราพัฒนาได้เร็วครับ
เคยเห็นสลัมในอินเดียไหมคะ คนในนั้นไม่มีบ้านอยู่ด้วยซ้ำ ต้องไปอาศัยตามท่อ ตามบ่อขยะ รู้ไหมคะว่าเด็กขอทานในอินเดียถูกปฎิบัติเหมือนสัตว์ ความรวย ความเจริญมันกระจุกอยู่แค่บางส่วน คนจนก็จน ในขณะที่คนรวยแม่งก็โคตรรวย
ญี่ปุ่นก็มีครับ แต่อินเดียเอง คนที่มีฐานะก็กระจุกตัวกันครับ ประเทศเขามีประชากรเยอะและมีพื้นที่กว้างใหญ่ครับ ซึ่งต่างกับบ้านเราครับบ้านเรามีประชากรประมาณ 70 ล้าน ผมอาจตกหล่น ประมาณเอานะครับ พื้นที่ก็น้อยกว่าเขา บางพื้นที่ประชากรก็เบาบางเพราะพื้นที่เป็นภูเขา
อินเดีย คุณเห็น สภาพสังคม และ การเมืองภายใน เขาแล้วหรือครับ ถ้าคุณได้ไปอยู่ แทบจะโกย ไม่ทันหรอกครับ ทั้งสังคมวรรณะ สังคมศาสนา ใหนจะสิทธิ สตรีอีก เอาเป็นว่าไม่อยากอยู่เมืองไทย ไปอยู่สหรัฐ อย่าเกิดเป็นคนสีผิว คนนิโกร ก็แล้วกัน
เพลียกับริเบอร่านโลกสวย ทุกครั้งที่มีการทุจริตเกิดขึ้นก็เห็นมันได้รับเลือกกลับเข้ามาใหม่ทุกครั้ง ไม่เห็นประชาชนผู้มี(แค่)สิทธิเลือกตั้งจะลงโทษคนขี้โกงด้วยการไม่เลือกเลยสักครั้ง ไม่ต้องระดับประเทศหรอก ถ้าเอาตัวอย่างแค่ อบต. มันก็พวกๆญาติๆกันทั้งนั้น โกงเท่าไหร่ก็ได้กลับมาในเมื่อคนเลือกมันได้ประโยชน์กับการโกงนั้นด้วย ถ้าแยกออกไปได้สำเร็จในชาตินี้อย่างที่บางฝ่ายกระสันอยากจะแยกแล้วล่ะก็ กรุณาใช้แต่ภาษีของตัวเองนะครับ อย่าได้มาแบมือขอเงินสนับสนุนจากประเทศกรุงเทพเป็นอันขาดเลย
ไทยเป็นรัฐเดี่ยวก็ดีอยู่แล้ว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความมั่นคง คนที่คิดจะเปลี่ยนต่างหาก ต้องนำเสนอว่าคุ้มไหมกับการเปลี่ยน หรืออยากเป็นอย่างอิรัก ซีเรีย
นั่นแหละครับที่ต้องการ ให้คนที่เลือกเข้ามาปกครองเขาได้รับผลกระทบโดยตรง เงินขาดต้องขอจากส่วนกลางจะต้องมีขั้นตอนมีหลักฐาน ให้รู้กันไปเลยว่า ที่ไหนเลือกคนมีประสิทธิภาพที่เลือกคนเพราะญาติเพราะอิทธิพล ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนวิธีเลือก ก็รับผลกรรมไปครับ เพราะปัจจุบันใช้เงินรวมกัน นโยบายจากส่วนกลางเท่านั้น เช่นโครงการจำนำข้าว เงินไปลงคะแนนเสียงตัวเองซะเยอะ เงินส่วนกลางภาษีทั้งนั้น และถ้ากระจายอำนาจ ทรัพยากรส่วนกลางจะน้อยลง ต้องเลือกละครับ ว่าจะเอามาพัฒนาประเทศหรือจะเอาไปทำประชานิยม
จขกท.ลอง"บรรยาย"ความเห็นมาบ้างดีกว่าครับ เอาเท่าที่ตกผลึกก็ได้ ผมว่าน่าอ่านกว่าที่จะมาโต้ความเห็นเพื่อนสมาชิกเรื่อยๆทีละประเด็น แล้วเนื้อหามันก็เลยไม่ค่อยต่อเนื่องน่ะครับ
คนที่ไม่ได้เลือกพวกขี้โกงพวกนั้นก็รับกรรมไปด้วยหรือครับ เพียงเพราะเป็นเสียงข้างน้อย อย่างที่ผมบอก อบต ก็เลือกแต่ญาติๆพวกๆตัวเองแล้วโกงเอาเงินมาแบ่งกัน ซ่อมถนน สร้างทางก็ทำไปถึงแค่หน้าบ้านตัวเอง แล้วคนอื่นๆล่ะครับ จะให้เขาทำอย่างไร ถ้ากระจายอำนาจแล้วมันแก้ปัญหาไม่ได้ ผมควรต้องถามกลับว่า มันจำเป็นไหมที่ไทยต้องเปลี่ยนจากรัฐเดี่ยวอย่างตอนนี้ไปเป็นแบบอื่น
เขามีแยกแล้ว เข้าใจมั้ยครับ บางพื้นที่ อาจขึ้นอยู่ กับสภาพเศรษฐกิจ ให้เป็นแบบพิเศษไป เช่น กรุงเทพ หรือ พัทยา ส่วนในตัวเมือง ก็มีทั้ง อบจ. เทศบาล ชานเมืองเศรษฐกิจ ไม่หนาแน่น ก็เป็น อบต.ไป ผมว่ามันแยกเยอะ ไปด้วยซ้ำ ทั้งราชการจังหวัดเอง ราชการอำเภอ สภาหมู่บ้าน ตำบล ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน จะเอาอะไรอีก บางพื้นที่ มันบริหารยุ่งยาก ยิบย่อย เพราะมีแต่ ทุ่งนาก็มี แล้วคุณจะให้เขา แบ่งแยกบริหารยังไง ส่วนเงิน ที่มาจากส่วนกลาง เขาก็ให้ไปบริหารเอง เพราะถ้าเก็บภาษีเอง ให้บริหารรายรับเอง มันไม่พอ กับรายจ่าย บางที่มันเป็นทุ่งนา
งั้นความเข้าใจความหมายกระจายอำนาจคงไม่ตรงกันครับ เพราะปัจจุบันผมเห็นว่ายังไม่ใช่กระจายอำนาจ มีขึ้นมาแต่ก็ไม่มีอำนาจ อำนาจสั่งการนโยบายยังเป็นส่วนกลางเหมือนเดิม
คุณรู้มั้ยว่าท้องถิ่นนี่แหละมีบทบาทมากกว่าที่คิดครับ ถ้าแบบที่คุณอยากได้ ผมบอกได้ว่าไม่เหมาะสม เพราะรายได้ เพราะจำนวนประชากร ครับ คุณเอาไปเทียบกับอินเดียไม่ได้หรอกครับ เพราะญี่ปุ่นเขาไม่ต้องแบ่งรัฐ
ถ้าเป็นจขกท. สงสัยน่าจะอยู่ยาก เพราะคนนิโกรหรือพวกสีผิวก็เอาการกดขี่มาลงที่คนเอเชียที่ย้ายเข้ามาเหมือนกัน
แบบญี่ปุ่นก็ดีครับ ก็มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นอย่างมากเหมือนกัน ขออนุญาติแปะ http://www.kpi.ac.th/wiki/index.php//การกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่นญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นแบ่งการการปกครองท้องถิ่นเป็นสองระดับ (two tiers system) คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับบน เรียกว่า Prefecture เทียบเท่ากับจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ 47 แห่ง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับล่าง คือ เทศบาล จำนวน 1,724 แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสองระดับมีผู้บริหารมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ผู้บริหารท้องถิ่นระดับบนเรียกว่าผู้ว่าจังหวัด (Governor) ผู้บริหารท้องถิ่นระดับล่างเรียกว่านายกเทศมนตรี (Mayor) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสองระดับมีสภาท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เดิมกฎหมายได้กำหนดจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นไว้อย่างชัดเจน แต่ภายหลังได้ยกเลิกไป ในปัจจุบันจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่นว่าจะกำหนดให้มีจำนวนเท่าไร ซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร เช่น ในท้องถิ่นขนาดใหญ่อย่างโยโกฮาม่า มีประชากร 3.5 ล้านคน มีจำนวนสมาชิกสภา 91 คน ส่วนเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 5,000 คน มีสมาชิกสภา 15 คน ความสำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจพิจารณาได้จากรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศที่มีมากกว่ารายจ่ายของรัฐบาล เนื่องจากภารกิจของท้องถิ่นมีจำนวนมาก เช่น โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งหมด รวมถึงตำรวจก็สังกัดอยู่กับจังหวัด ส่วนการดับเพลิง โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นก็เป็นหน้าที่ของเทศบาล ท้องถิ่นแต่ละระดับจะมีการแบ่งภารกิจกันอย่างชัดเจน แต่เทศบาลจะมีภารกิจมากกว่าและเป็นภารกิจที่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดประชาชน เช่น งานทะเบียน งานเก็บขยะ น้ำเสีย การประปา สวนสาธารณะ และที่สำคัญคือ สวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุและเด็ก ความสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ จำนวนข้าราชการท้องถิ่นมีมากกว่าจำนวนข้าราชการส่วนกลางด้วยเช่นเดียวกัน จำนวนข้าราชการท้องถิ่นเปรียบเทียบกันระหว่างจังหวัดและเทศบาลมีจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งรวมแล้วมีถึง 2,500,000 คน สัดส่วนของข้าราชการท้องถิ่นที่มากที่สุดคือ ครู
ถ้าทำได้ก็ดีเลยนะครับ จริงๆแล้ว เราเริ่มปลุกจิตสำนึกสาธารณะ เราเริ่มรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ และรู้จักคำว่าสิทธิก่อนคำว่าเสรีภาพ และปลุกจิตสำนึกให้ชนรุ่นหลัง ถ้าเริ่มจากตัวเราเองจะง่ายกว่าครับ รับรอง ประเทศสงบสุขแน่ๆครับ
ชักเบื่อพวกยูโทเปีย - เอาวิธีที่ีมันเหมาะกันนิสัยคนไทยดีกว่า อย่าดัดจริตไปตามก้นเขาทั้งที่ศักยภาพไม่ถึงดีกว่า ลองมาหลายทีแล้ว ก็เละตลอด เละขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ทราบว่าเป็นวิธีไหน หรือแนวทางไหนครับ ที่ทำได้แตกต่างจากเดิม หรือให้ผลที่ดีขึ้น เพราะที่เราทำๆกันมา ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
ผมว่าผมชัดแล้วนะ ว่าผมเห็นว่าประเทศเราต้องการการปฏิรูป โดยให้การกระจายอำนาจอย่างมากจากส่วนกลาง มากที่สุดสำหรับผมคือการให้ท้องถิ่นสามารถปกครองตนเองได้ในระดับรัฐท้องถิ่นครับ สำหรับท่านอื่นที่เห็นว่าทำไม่ได้ ผมอยากทราบว่าปัญหาใดที่ท่านคิดว่าไม่เหมาะกับประเทศเราครับ คือผมอยากทราบความคิดเห็นท่านอื่นเป็นความรู้หนะครับ
จริงแล้วนะครับ ลืมทฤษฎีต่างๆทิ้งไปซะ ต่อให้มีกฏหมายดี สิ่งแวดล้อมดี วัฒนธรรมดี มีเศรษฐกิจที่ดี มีการศึกษาที่ดี แต่ถ้าคนไม่ดี ยังไงก็ไปไม่รอด เรื่องสังคมสมบูรณ์แบบไม่มีทางเป็นจริงได้หรอกครับ ตราบใดที่มีความตายและการสูญเสีย