ในที่สุดก็มีคนกล้าออกมาจัดการเรื่องนี้ซักที

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย Ricebeanoil, 30 Jan 2015

  1. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
    ฮะ ผมเห็นด้วยครับ เพียงแต่ผมเคยเจอคนแบบนี้หลายคนกับญาติตัวเองก็เจอ คือมีนิยามความดีต่างกันไปตามใจตัวเองชอบ ที่เจอส่วนมากคือ "ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ" ทำให้ขณะเดียวกันก็ไม่สนใจคนอื่นเลยกลายเป็นคนใจดำไป เพราะคิดว่าคนอื่นเดือดร้อนไม่ใช่ความผิดตน จะช่วยหรือไม่ช่วยก็ได้
     
    padd และ อู๋ คาลบี้ ถูกใจ.
  2. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    อันนี้แหละที่เป็นปัญหา เพราะคิดว่าศาสนายังสอนเรื่องของคนดีไม่เหมือนกันเลย

    ผมว่าไอ้ที่คิดว่าทำการใดๆ แล้วคนอื่นไม่เดือดร้อน บางทีก็เป็นแนวคิดของคนเห็นแก่ตัวนะ แปลไทยเป็นไทยจากที่คุณ Alamos บอกได้ว่า ไอ้ที่กลัวคนอื่นเดืิอดร้อนก็เพราะกลัวคนอื่นไม่พอใจ แล้วเขาจะตามเอาเรื่องกับตัวเองมากกว่า
     
    Alamos likes this.
  3. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    แต่อย่าลืมว่า มนุษย์กับดิรัจฉานต่างกันที่นิสัยใจคอ การวางตัว และความประพฤติ

    มนุษย์ก็อย่าเอานิสัยสัตว์ที่แย่ๆ มาทำเสียเอง
     
    Bayonet likes this.
  4. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    เงินถึงเสียอย่าง พระลิขิตขององค์สังฆราช ยังทำอะไรมันไม่ได้
    01-E180E230E230E210E010E320E2202_zps2db19dc0.jpg

    01-E180E230E230E210E010E320E2203_zps416284dc.jpg
     
  5. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    สมัยเรียนมหาวิทยาลัยหลายปีล่วงมาแล้ว มีกิจกรรมธรรมะของธรรมกาย

    เพื่อนคู่หูคู่ใจของผม พูดกับผมว่า มรึงจำกรณีธรรมกายได้ไหม
    คำพูดนี้ทำให้ผมนึกได้ว่าเคยมีข่าวนี้
    แม้ระดับผู้นำของศาสนจักรออกมาท้วงติง ก็ยังไม่เกรงใจกัน

    แล้วเพื่อนคนเดิมนั่นก็บอกอีกว่า
    ถ้ามรึงบวชกับวัดนี้ มรึงกับกรูเลิกคบกันเลย
    คำพูดของแก ผมยังจำถึงทุกวันนี้ครับ

    การทำบุญไม่ใช่การลงทุนเอากำไร
     
    padd และ kokkai ถูกใจ.
  6. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    คนบางพวกบางกลุ่มที่ไม่นับถือศาสนาอะไรเลย อาจเป็นเพราะเขาคิดว่า เขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ยึดติดกับอะไร มีอิสระเสรี จะคิด จะพูด จะเขียน จะทำอะไร มันเป็นสิทธิ และเสรีภาพของเขา

    แต่ถ้าเขาศึกษาศาสนาพุทธแล้ว เขาอาจจะรู้ได้ว่า สิ่งที่เขาคิดว่าเขาเป็นนั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเขาก็ไม่
    แตกต่างกับ เรา ๆ ท่าน ๆ หรอก ตั้งแต่มีชีวิตเกิดมา มันก็มีภาระติดพันยึดเหนี่ยวกันอีรุงตุงนังไปหมด จะไปหาอิสระเสรีภาพตรงไหนยังมองไม่เห็น เพราะไหนจะพ่อแม่พี่น้อง ลูกเมีย เพื่อน ไหนจะทรัพย์สินเงินทองบ้านช่อง ไหนจะหน้าที่การงาน เรื่องเหล่านี้มันล้วนยึดเหนี่ยวผูกพันเราทั้งนั้น ยิ่งสะสมมากก็ยึดติดมาก

    พระพุทธเจ้าจึงสอนให้สละมันออกไป ถ้าอยากเป็นอิสระ แต่มันทำได้ยาก เพราะมีพ่อแม่ ก็ห่วงพ่อแม่ มีเมียก็ห่วงเมีย มีลูกก็ห่วงลูก มีทรัพย์สินเงินทอง บ้าน รถ ก็ห่วงไปหมด ยิ่งมีมากก็ยิ่งห่วงมาก แต่ขนาดมีภาระห่วงมากมายก็ยังอยากได้เพ่ิ่มอีกไม่รู้จักพอ แล้วจะไปหาอิสระเสรีจากตรงไหน

    พระพุทธเจ้าสอนให้สละออกไปเพื่อไม่ให้ยึดติด มันก็เลยอาจจะกลายมาเป็นการทำบุญให้พระให้วัดอย่างที่เห็นอยู่ปัจจุบัน แต่ความเข้าใจอาจถูกชักนำให้เปลี่ยนไปจนดูเหมือนว่า ญาติโยมสละทรัพย์สินเงินทองให้พระให้วัดนำไปสะสมเพื่อแลกเอาบุญจากพระจากวัดมาสะสมไว้เป็นทุนไปสวรรค์ยังงั้นแหละ
     
    Maratiraj และ อู๋ คาลบี้ ถูกใจ.
  7. temp

    temp อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    9 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    868
    edit: อ่านละเอียดอีกหลายรอบแล้วถึงเข้าใจว่ายังไม่สรุปครับ หัวข่าวพาหลง เขาแค่ยืนยันว่ามติคราวก่อนไม่ได้ให้ปาราชิก รอบนี้ยังไม่รู้ผล


    http://news.thaipbs.or.th/content/พศยืนยันมติ-มสปี-2542-พระธัมมชโย-คืนทรัพย์สินแล้วไม่ต้องปาราชิก

    พศ.ยืนยันมติ มส.ปี 2542 "พระธัมมชโย" คืนทรัพย์สินแล้วไม่ต้องปาราชิก
    Thu, 19/02/2015 - 12:45

    โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า จากการตรวจสอบมติ มส.เมื่อปี 2542 จากพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชฯ ทำให้ทราบว่าเมื่อพระธัมมชโยยอมคืนทรัพย์สินและที่ดินกว่า 900 ล้านบาทให้กับวัดพระธรรมกายแล้ว ไม่จำเป็นต้องปาราชิก และสามารถเป็นเจ้าอาวาสวัดได้ต่อไป แต่เนื่องจากมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นอีกครั้ง จึงจะเสนอให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคมพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.2558)

    นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) บอกว่า หลังจากตรวจสอบเอกสารตามมติมหาเถรสมาคมเมื่อปี พ.ศ.2542 ตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พบว่าขณะนั้นอยู่ในความดูแลของกรมการศาสนา ดังนั้นการจะหยิบยกพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชฯ ขึ้นมาอีกครั้ง ต้องเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม

    ส่วนประเด็นให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ ระบุชัดเจนว่า หากพระธัมมชโยไม่คืนทรัพย์สินและที่ดินให้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งถือว่ามีความผิดชัดแจ้ง จึงให้ถือว่าเป็นปาราชิก

    แต่เนื่องจากการตรวจสอบพบว่า พระธัมมชโยได้คืนทรัพย์สินและที่ดินกว่า 900 ล้านบาทให้กับวัดพระธรรมกาย ดังนั้น มติ มส.ในขณะนั้นจึงไม่ได้ให้ปาราชิก และยังสามารถเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้ แต่เมื่อมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ทาง พศ.จะเสนอวาระนี้เข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.2558) โดยอาจมีการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการ ที่ประกอบด้วยพระผู้ใหญ่ และฆารวาสที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อร่วมกันตีความพระลิขิตอีกครั้ง
     
    Last edited: 19 Feb 2015
  8. temp

    temp อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    9 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    868


    ปล. ขอโทษเพื่อนสมช.บางคนที่ดูfbไม่ได้นะครับ ถ้าหาภาพพระลิขิตได้ครบจะมาแปะให้ใหม่
     
  9. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :rolleyes: รอดูตอนจบดีกั๊วะขอรับ... ของจริงหรือเปล่า... หรือแค่พัดไปตามกระแส...

    :rock: ซึ่งน่าจะเป็นตามนั้น...
     
    temp และ อาวุโสโอเค ถูกใจ.
  10. Maratiraj

    Maratiraj อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    11 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    986
    พวกวัดจานบินมักบอกว่า

    ถึงปลดได้ก็คืนยศในภายหลังได้
     

Share This Page