เกือบทุกประเทศในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะปกครองโดยระบอบใด จะมีคนรวยอยู่กระจุกนิดเดียว แต่มีคนจนอยู่เยอะแยะมากมาย ช่องว่างตรงนี้ ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งถ่างออกมากยิ่งขึ้น และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นคือ คนรวยมหาศาลระดับต้นๆของโลก กลับเป็นคนในประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด -------------------------------------------------------------------------------------- http://www.posttoday.com/world/news/411024
คนนิยมด่าตัวเอง มีตั้งแต่นักการเมืองลงมา ... ไม่ต้องแปลกใจ วาทกรรมที่บอกว่าสังคมดัดจริต ก็ไม่เคยพ้นตัวเอง ไม่ใช่เตือนตัวเองนะ แต่ประจานพฤติกรรมที่ตัวเองทำเอง
บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่า คงมีกติกาบางอย่าง ของสังคมมนุษย์ที่ผิดพลาดอยู่ และไม่เคยได้รับการแก้ไข จึงทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำได้มากขนาดนี้
ที่น่ากลัวคือ มันเป็นภัยเงียบ มนุษย์เลยไม่รู้สึกต่อต้าน เหมือนรู้สึกต่อต้านพวกเชื้อโรคหรืออาวุธร้ายแรง
กิเลสครับ ธุรกิจใดก็ตาม ที่ทำมาหากินกับกิเลส มองเห็นจุดอ่อนที่เป็นกิเลสของมนุษย์ ธุรกิจนั้นก็จะร่ำรวย เช่น - อินเตอร์เน็ตที่เราใช้ ความเร็วก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่กิเลสคนต้องการให้เร็วขึ้นไปอีก ความพอดีจึงถูกมองข้าม - มนุษย์ ต้องการบุญ ต้องการขึ้นสวรรค์ชั้น7 จึงต้องทำบุญเยอะๆ ทำกับเจ้าลัทธิ องค์กรหลอกเงินทำบุญจึงเกิดขึ้น ร่ำรวยไปตามๆกัน โป้งๆๆชิตังเมๆๆ รวยๆๆๆ สาธุ - ร้านอาหารบุฟเฟ่ แสดงให้เห็นถึงธุรกิจที่หลอกล่อกิเลสของคนชัดเจนที่สุด กินกันจนท้องแตก เพื่อให้คุ้มที่สุด เยอะแยะตาแป๊ะครับ ถ้าอิงกับกิเลสคน ทำอะไรก็รวยครับ ที่สำคัญคือคนเราก็ปล่อยให้กิเลสครอบงำจนเกินพอดี เงินก็เลยไหลออกจากคนที่อยู่กับกิเลส ไปเข้ากระเป๋าคนที่มองเห็นกิเลสของเรา บ้านเราแม้วก็มองเห็นกิเลสจุดนี้ของคนไทย เลยหยิบเอามาใช้ มาล่อให้คนไทยเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น เราถึงติดหล่มจนถึงทุกวันนี้ไงครับ
โปรแกรมบอล เสาร์-อาทิตย์นี้ วันเสาร์, 23 มกราคม 2016 พรีเมียร์ลีก 19:45 นอริช ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล 22:00 แมนเชสเต้อ ยูไนเต็ด vs เซาแธมป์ตั้น AFC Championship U23 20:30 เกาหลีใต้ vs จอร์แดน 23:30 UAE vs อิรัก ลาลีก้า 22:00 มาลาก้า vs บาร์เซโลน่า ลีกเอิง 23:00 ปารีส แซงแชแมง vs อองเชร์ วันอาทิตย์, 24 มกราคม 2016 กัลโช่เซเรียอา เอ็มโปลี vs เอซี มิลาน อินเตอร์ มิลาน vs คะปิ เอฟซี 1909 พรีเมียร์ลีก เวสต์แฮมยูไนเต็ด vs แมนเชสเต้อซิตี้
หรือจริงๆแล้ว ไม่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ จะเป็นสัตว์ที่ฉลาดที่สุด สร้างกฏเกณฑ์ สร้างระเบียบ สร้างศาสนาขึ้นมามากมาย เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคมมนุษย์มากที่สุด แต่เราก็ยังหนีกฏแห่งธรรมชาติไม่ได้ "ผู้เข้มแข็งเท่านั้น ถึงจะอยู่รอด" "คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด"
62คนแรก บางทีต้องดูดีๆนะครับ บางครั้งเป็นแค่มูลค่าในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นพวกหุ้น อย่าง มาร์กเจ้าของเพสบุ๊คมีหุ้นมูลค่า 1.6ล้านล้านบาท(เกือบเท่างบประมาณประจำปีประเทศไทย) แต่ถามว่าถ้าเขาขายหุ้นทั้งหมด จะได้เงินเท่านี้มั๊ย? ซึ่งถ้าคิดตามหลักการแล้ว ผมว่าถ้าเขาขายทิ้่งจริงๆมูลค่าหุ้นที่ขายได้ลดลงเกินครึ่งแน่นอน แต่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้เล่นหุ้น ดังนั่นทรัพย์สินส่วนมากจะเป็นในรูปที่ดิน เงินสด มากกกว่า
ความเป็นจริงคือคนมีเงินและอำนาจหยิบมือเดียวเท่านั้นที่ครองโลก ไม่ว่าจะในระบอบการปกครองแบบไหนก็ตาม ดูจะชัดเจนในระบอบการปกครองแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ในระบอบเสรีประชาธิปไตยก็ไม่ได้แตกต่างจากระบอบเผด็จการเลย ระบอบเสรีประชาธิปไตยเสียอีกที่ทำให้คนสำคัญผิดว่าตนมีอำนาจควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างโดยผ่านการออกเสียงเลือกตั้ง เป็นเรื่องลวงโลกครับ เพราะโครงสร้างทางกฏหมายยังเอื้อคนรวยไม่เปลี่ยนแปลง อัตราการถือครองทรัพย์สินจึงยังกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มเดิม แถมยังมั่นคงยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
จะว่าไปแล้วมันก็เป็นธรรมดาของโลกครับ สมัยโบราณก็มีนามเศรษฐีเป็นที่เลื่องลือว่าทรัพย์มหาศาลมากมาย เช่นในสมัยพุทธกาลก็ปรากฏนามหลายท่านเช่น อนาถบิณฑิกะเศรษฐี ผู้ซื้อสวนเจ้าเชตุ จากพระเจ้าปเสนทิโกศล ร่ำรวยมหาศาล ทุกวันนี้ที่โลกวุ่นวายเพราะบางคนในกลุ่มผู้ร่ำรวยเหล่านี้กลับไม่มีสำนึกของการแบ่งปัน กลับใช้ อำนาจเงินแห่งตนกอบโกยให้มากที่สุด จึงทำให้โครงสร้างของภาวะการเป็นอยู่ของคนบนพื้นโลกนี้บิดเบี้ยวไป
บอกตรงๆว่าไม่เคยได้ยินคำนี้ เลยลองหาในอากู๋ เห็นว่าน่าสนใจดี เลยยกมาบางตอน ---------------------------------------------------------------------------------------- 3.การนำกฎ 80/20ไปใช้อย่างมีคุณธรรมจริยธรรม คนรวยจำนวน 20 %ของคนทั้งประเทศและมีทรัพย์สินหรือก่อให้เกิด GDP รวมกันคิดเป็น 80 % ของทรัพย์สินหรือรายได้มวลรวมประชาชาติของคนทั้งประเทศ ….แต่ ถ้าเรายึดหลักเศรษฐศาสตร์เพียงอย่างเดียว(ไม่มีคุณธรรม,จริยธรรม) ไปให้ความ สำคัญและสนับสนุนธุรกิจของคนรวยเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ จะออกมาเป็นตัวอย่างและ บทเรียนอย่างที่เราเคยเห็นในวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ความเสียหายมากกว่า 80 % จึงมีสาเหตุมาจากสาเหตุจากกลุ่ม 20 % เท่านั้น http://www.kwamru.com/27