เป็นเหตุเป็นผล ตอบข้อย้อนแย้งได้โดยไม่ติดขัด แถมตอบโดยไม่ยอมโดนผูกมัดใดๆ บทสัมภาษณ์พิเศษ อ.มีชัย โดย ไพบูรณ์ กระจ่างวุฒิชัย ------------------------------------------------------------------------------------- “แล้วคุณเคยคิดหรือไม่ว่า จากเมื่อปี 2549 มาถึงตรงนี้มันจะเป็นอย่างนี้ ตัวผมเองก็ไม่ได้คิด มันก็คงเป็นวิวัฒนาการของมัน เมื่อมีการออกนอกกฎที่วางไว้และหาช่องโหว่ออกจากกฎกันมากขึ้นมันก็หลีกไม่ได้ จริงๆ เหตุที่มันเกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากกฎตามรัฐธรรมนูญมันเกิดขึ้นเพราะพยายามแหกกฎออกจากรัฐธรรมนูญมากกว่า ถ้าคุณไม่แหกกฎมันก็คงไม่เกิดเรื่อง” จากนั้นหัวเรือในการเขียนรัฐธรรมนูญได้ฝากข้อความถึงฝ่ายคัดค้านการร่างรัฐธรรมนูญว่า “ประเทศชาติเป็นของทุกคน ตอนนี้เรากำลังจะเริ่มวางกติกาของประเทศชาติ จะไปมัวกังวลเรื่องอะไรอื่นทำไม ควรมากังวลว่าแล้วเราจะวางกติกาอย่างไร ถ้าคิดว่ามีแนวความคิดดีๆ ก็บอกมา เราจะได้เอามาพิจารณากัน มันจึงจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ” http://www.posttoday.com/analysis/interview/393117
“มีชัย”ตั้งธง ตัดสิทธิการเมืองโกง ห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต “ข้าราชการตัวเล็กๆ ไปโกงข้อสอบยังถูกห้ามไม่ให้เป็นข้าราชการตลอดชีวิต นักศึกษาที่โกงการสอบก็ไม่มีทางได้เข้ามาในมหาวิทยาลัยได้เลย แล้วทำไมคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ถ้าผิดต่อหน้าที่กลับบอกว่า 5 ปีผ่านไปแล้วเอามาเถอะ เบื้องหลังของเหตุผลมันคืออะไร ผมก็พร้อมรับฟังและช่วยยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการทุจริตอีก” นายมีชัย กล่าว http://www.chaoprayanews.com/2015/10/09/มีชัยตั้งธง-ตัดสิทธิกา/
งั้นตามรธน.ใหม่ คงหมดสิทธิ์ละซิ ----------------------------------------------------------------- นับว่าน่าสนใจ และคงทิ่มแทงหัวใจคนเสื้อแดงไม่น้อย เมื่อผู้ค้นคว้าวิจัย "เรื่องคอร์รัปชั่น-ของบ้านนี้เมืองนี้" มาอย่างยาวนานอย่าง "ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์" ออกมาปอกเปลือก "รัฐบาลพระเจ้าจำแลง" ของชาวไพร่แดงเสียจนล่อนจ้อน โดยกูรูเรื่องฉ้อโกงทุกรูปแบบ ระบุชัดเจนว่าสมัยที่นักประชาธิปไตยตัวพ่ออย่าง "ทักษิณ ชินวัตร" ครองอำนาจในยุค "ทักษิณ 1 " ต่อช่วงในยุคหัว ๆ "ทักษิณ 2" คือในช่วงปี 2544 - 2549 ก่อนถูก "บิ๊กบัง" เขี่ยตกจากบัลลังก์อำนาจนั้น นับเป็นความเลวร้ายถึงขีดสุดทางการเมืองของไทย...เพราะกวาดตามองไปทั่วผืนโลกในช่วงนั้น...ไม่มีนักการเมืองคนไหน...ฉ้อโกงแผ่นดินตัวเองได้เท่า "ทักษิณ" อีกแล้ว "มีการคอร์รัปชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก" คือคำจำกัดความสั้น ๆ ที่ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ใช้อธิบายการบริหารอันฉ้อฉลของรัฐบาลพระเจ้าจำแลงของชาวเสื้อแดงอย่างหมดเปลือก อาจารย์ (ดร.สังศิต) ว่า...ช่วงปี 2544 - 2549 นับเป็นห้วงยามที่การเมืองไทยสกปรกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะหนทางการเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองในช่วงนั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย มีการซื้อสิทธิ-ขายเสียงโกงการเลือกตั้งทุกหย่อมหญ้า อย่าว่าแต่ตัวข้าราชการที่เป็นกลไกในการเลือกตั้งก็ถูกซื้อไม่น้อยหน้ากัน เพราะเริ่มต้นมาจากการใช้เงินซื้อเสียง -โกงเลือกตั้ง เมื่อเข้าสู่อำนาจภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตยแล้ว ตรรกะที่ตามมาต่อจากนั้นคือ การถอนทุน - แสวงหาผลประโยชน์จากอำนาจที่ถืออยู่ในมือ และสุดท้ายก็กลายเป็นการคอร์รัปชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก...อย่างที่อาจารย์สังศิตว่า http://www.tnews.co.th/html/content/164211/
และเมื่อถามว่า เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ รัฐธรรมนูญในฝันของ “มีชัย ฤชุพันธุ์” จะชื่อว่าอะไร นายมีชัย ตอบคิดมาหลายปีแล้วว่าอยากให้สถาบันพระปกเกล้าไปทำวิจัยให้ลึก ใช้เงินสัก 200-300 ล้านบาท ว่าจริงๆ แบบประชาธิปไตยที่ยุโรปใช้กันอยู่ ใช้กับคนไทยได้มากน้อยแค่ไหน จะต้องดัดแปลงอย่างไร ถึงจะสอดคล้องกับวิธีคิดของคนไทย ฝรั่งเวลาไปเลือกตั้ง เลือกคนที่มีแนวคิดในการพัฒนาประเทศสอดคล้องกับตนเอง กับสิ่งที่ตัวเองอยากให้เป็น แต่คนไทยเลือกที่คนนั้น ดีหรือไม่ดี คำว่า “ดีหรือไม่ดี” ก็ไม่เป็นมาตรฐานที่สังคมไทยเคยคิด แต่ดีหรือไม่ดีของคนไทยที่ไปเลือกตั้ง คือ คนนั้นเอาใจใส่ดูแลหรือเปล่า มางานศพ งานแต่ง สม่ำเสมอไหม ฝากงานเข้าได้ไหม บางคนก็อาจจะหล่อหรือเปล่า ไม่พูดถึงหน้าที่เลย ถามว่าระหว่างคนแบบนี้ กับคนที่เป็นคนดีถือศีล 8 ทำงานของตนเองประสบความสำเร็จ มุ่งมั่น คิดอ่านเพื่อประเทศชาติ ไม่ค่อยได้ไปพบกับใครเลย ถามว่าชาวบ้านเลือกใคร http://www.tnamcot.com/content/301436
ควรต้องห้ามลูกห้ามเมียด้วย ไม่งั้นมันส่งนกเอี้ยงมาปกครองประเทศ อาจซวยยิ่งกว่าเก่า แบบ กรณี รัฐบาลยิ่งโง่
ใครเดือดร้อนที่สุด ถ้าตัดสิทธิ์คนโกงเข้าสู่วงการเมือง ขบวนการข่มขู่ คุกคามเริ่มอีกแล้ว --------------------------------------------------------------------- เกิดเหตุคนร้ายแอบตัดสายไฟฟ้าบ้าน "มีชัย" ประธาน กรธ.ในหมู่บ้านเมืองทองกลางดึก โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ ผู้การฯ นนทบุรี รีบรุดดูที่เกิดเหตุ คาดคนร้ายประสงค์สร้างสถานการณ์การเมือง... http://www.thairath.co.th/content/532059
พระต้องถือศีล 227 ข้อครับ http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=1946 ชาวพุทธทั่วไปจะถือศีล 8 บ้างก็ได้ ไม่ผิดอะไร มีศีลบริสุทธิ์ คือถือศีล ๕ ในวันธรรมดา ได้แก่ ๑. ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ๒. ละเว้นจากการลักทรัพย์ ๓. ละเว้นจากการประพฤติผิดประเวณี ๔. ละเว้นจากการพูดปดมดเท็จ ๕. ละเว้นจากการเสพสุรายาเมา ถือศีล ๘ ในวันพระ ด้วยการรักษาเพิ่มจากศีล ๕ อีก ๓ ข้อ ได้แก่ ๖. ละเว้นจากการรับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว ๗. ละเว้นจากการดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุเพื่อความบันเทิง ดูหนัง ดูละคร เที่ยวเตร่ ร้องรำทำเพลง และเว้นจากการแต่งหน้าทาปาก จากการใช้เครื่องหอม เครื่องสำอางทั้งหลาย ๘. ละเว้นจากการนอนบนฟูกบนเตียงที่นิ่มสบาย ปูเสื่อนอนก็ได้ เพราะไม่ได้แสวงหาความสุขจากการหลับนอน แต่แสวงหาความสุขในใจที่เกิดจากการปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรม เป็นความสุขที่เกิดจากการสะสมบุญกุศล เป็นความสุขที่ดี ที่ประเสริฐ เป็นความสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งภายนอก สุขภายนอกต้องมีเงิน มีทอง จึงจะสุข แต่สุขในใจไม่ต้องมีเงินมีทองก็สุขได้ ขอให้มีศรัทธา มีความเชื่อว่าความสุขที่แท้จริงมีอยู่ภายในใจ http://www.kammatthana.com/D_62.htm
ตัวอย่างความลื่นไหลของปรมาจารย์กฎหมาย -------------------------------------------------------------------- รัฐธรรมนูญจะเป็นคำตอบสุดท้ายของการแก้ปัญหาการเมืองไทย? มีชัย :มันไม่ใช่ เพราะเมื่อเขียนรัฐธรรมนูญไปแล้ว ก็เป็นเพียงกรอบให้สังคม และเป็นวิธีการให้กับบางเรื่องเท่านั้น จะเขียนรายละเอียดจำนวนมากไม่ได้ เนื่องจากหากผมคิดวิธีการได้ในวันนี้ และเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แปลว่าผมได้ผูกมัดพวกคุณไว้ไปตลอด จะถูกหรือผิดก็ยังไม่รู้ เมื่อถึงเวลาจริงๆ อาจจะทำไม่ได้ อาจหงายหลังล้มตึงได้ ดังนั้นรัฐธรรมนูญเราจะเขียนให้สั้น โดยเขียนในแง่ของหลักการ รายละเอียดไปคิดกันเอา ในวันข้างหน้าก่อนวันแรกที่จะไปเลือกตั้งก็คิดได้ส่วนหนึ่ง พอไปเลือกตั้งอีกครั้งพบว่าที่คิดนั้นมันแย่ ก็จะเปลี่ยนได้ โดยไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นรัฐธรรมนูญต้องแก้ไขได้ง่ายกว่าเดิมหรือไม่? มีชัย :รัฐธรรมนูญ ควรถูกแก้ยาก ไม่ควรแก้ง่ายเหมือนกฎหมาย เพราะฐานะของรัฐธรรมนูญสูงกว่ากฎหมายธรรมดามาก กฎหมายใดๆ มาขัดกับรัฐธรรมนูญ ก็เจ๊งหมด กับความยากของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ผมคิดว่าอาจไม่พอ เพราะท่าทางอาจจะอยู่ในอำนาจของพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญต้องได้รับฉันทานุมัติจากหลายส่วน เราต้องไปคำนวณต้องทำอย่างไร เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งแก้รัฐธรรมนูญได้ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างคิดว่าจะทำอย่างไรดี แต่คงไม่ใช่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้เลย เพราะทำลำบาก ขณะนี้ยังไม่ได้คิดรายละเอียดเนื่องจากยังพิจารณาไม่ถึง แต่ได้คุยกับคร่าวๆ ว่า ไม่ควรให้ใครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่งสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นอันตราย ทั้งต่อประชาชนและพรรคการเมืองอื่น จะบอกคนไทยอย่างไร ต่อมุมมองที่ว่าเรากำลังจะสร้างบ้านหลังใหม่ที่มั่นคงแข็งแรง แต่ยังใช้ช่างไม้ชุดเดิม? มีชัย :เพราะว่าเมื่อมาไว้ใจให้ทำ ช่างไม้ก็ทำเต็มความสามารถ แต่ช่างไม้ไม่ได้คิดคนเดียว ช่างไม้ถามเจ้าของบ้านทุกคนให้ช่วยกันคิด หากไม่ช่วยกันคิด แสดงว่าคุณวางใจให้ผมคิดอะไรก็ได้ ตามที่สติปัญญาผมจะมี แต่หากคุณคิดว่า นี่เป็นบ้านของคุณ คุณต้องช่วยกันคิด http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/669794
คำเตือนจาก "กูคนรู" ด้านกฎหมาย -------------------------------------------------------------------- เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า.... รัฐธรรมนูญที่เป็นสากลต้องเคารพและตั้งอยู่บนอย่างน้อย 5 เสาหลักคือ 1. หลักการประชาธิปไตยที่เคารพการตัดสินใจของคนไทยทั้งประเทศ 2. หลักการเคารพเสรีภาพพื้นฐานและสิทธิมนุษยชนสากล 3. หลักการถ่วงดุลระหว่างสามอำนาจคืออำนาจบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ 4. หลักนิติธรรม 5.หลักการที่รัฐธรรมนูญอาจแก้ไขได้เพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของประเทศ .... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/politic/394529
เห็นด้วยกับ อ.มีชัยครับ ว่า รัฐธรรมนูญเป็นหลักการปกครองไม่ควรแก้ไขได้ง่าย ส่วนของรายละเอียดเป็นเรื่องของกฎหมาย(ลูก) ซึ่งหากจะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยหรือสถานการณ์ ควรจะแก้ไขตัวกฎหมายลูกมากกว่า ส่วนของกรณี นพดล ข้อ5. จึงไม่ถูกต้อง ส่วนข้ออื่นๆก็เป็นหลักพื้นฐานทั่วๆไปที่กว้างๆเท่านั้นเอง
ถ้าพรรคมันมีเสียงข้างมาก ถ้าคิดจะแก้ ก็แก้เพื่อผลประโยชน์ของพวกมันเท่านั้นเอง ประชาชนไม่เกี่ยว อ.มีชัยท่านรู้ไต๋พวกนักการเมืองเลวๆ ท่านเลยคิดจะดักทางไว้ก่อน
"มีชัย" แจงระบบเลือกตั้ง สส.ไม่ทำลายพรรค แต่ตัดปัญหาพวกส่งเสาโทรเลขลงสส. ยันแพ้โหวตโนไม่ถูกตัดสิทธิชั่วชีวิต แต่ตัดสิทธิเฉพาะคนทุจริต นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงชี้แจงกรณีการกำหนดระบบเลือกตั้งสส.แบบใหม่ว่า การนำระบบเลือกตั้งที่คำนวณคะแนนสส.เขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อด้วยบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว เป็นความต้องการของกรธ.ที่อยากให้ทุกคะแนนที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิมีความหมาย โดยเฉพาะการให้คะแนนของผู้สมัครสส.ระบบเขตที่แพ้เลือกตั้งไปคำนวณหา จำนวนสส.บัญชีรายชื่อ ประธานกรธ. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่เป็นคนกระทำการทุจริตประพฤติมิชอบจะถูกตัดสิทธิตลอดชีวิต ซึ่งคิดว่ามีประชาชนประมาณ 99% ที่เห็นด้วย อีก1%ที่เหลือน่าจะเป็นคนที่ทุจริตเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย .... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/politic/396764