ขุ่น ๆ ในอ่าวไทยนี่ ไม่ต้องถึง 70 เมตรหรอกครับ ลึก 10 เมตรบางที่ก็มองไม่เห็นแล้วล่ะครับ พวกค่าความใสของน้ำ กองทัพเรือน่ามีอย่างละเอียด
"ทัพเรือ"ยัน เรือดำน้ำจีนชั้นหยวน แพคเกจอาวุธเพียบ! นักวิชาการรุมค้านชี้ศก.แย่ ทร.ยันเรือดำน้ำจีนดีสุด เสนอขาย 3 ลำ พร้อมแพคเกจอาวุธอื้อ เผยสมรรถนะ"ชั้นหยวน"เจ๋งเทียบเท่ายุโรป พท.ถามเตรียมรบกับใคร ชี้ไม่ใช่ยุคล่าอาณานิคม นักวิชาการรุมค้าน แนะนำงบมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ (ทร.) เปิดเผยกรณี ทร.มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 ลำ งบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ว่าคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผู้ช่วย ผบ.ทร.) เป็นหัวหน้า ได้ให้บริษัทเรือดำน้ำ 6 บริษัทจากเยอรมนี สวีเดน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ รัสเซีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน มาเสนอโครงการให้ ทร.พิจารณา ทั้งนี้ จีนมีข้อเสนอดีที่สุด เพราะเป็นเรือดำน้ำชั้นหยวน รุ่นใหม่ มีเทคโนโลยีทันสมัย เครื่องดีเซลไฟฟ้า ที่สำคัญเสนอขาย 3 ลำ ในวงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท พร้อมแพคเกจอาวุธครบ อาทิ ตอร์ปิโด จรวดนำวิถี ทุ่นระเบิด ฯลฯ แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะที่บริษัทอื่นๆ เสนอขายเพียง 2 ลำ โดยรัสเซียขายแค่เรือดำน้ำ ไม่มีอาวุธให้ ส่วนฝรั่งเศสเสนอเรือดำน้ำสกอร์เปี้ยน 1000 เป็นเรือเล็ก ซึ่งลดเกรดจากที่มีอยู่และสเปกไม่ตรงต่อความต้องการของ ทร. ขณะที่สวีเดนได้เสนอแบบเอ 19 ดัดแปลง มีขีดความสามารถต่ำกว่าปกติ ยิงจรวดนำวิถีไม่ได้ ส่วนเยอรมนีเสนอเรือดำน้ำแบบ 209 แบบเดียวกับที่เกาหลีใต้เสนอมา เพราะซื้อไลเซนส์ แต่เยอรมนีมีราคาแพงกว่า ส่วนเกาหลีใต้เสนอให้อาวุธบางชนิด แต่ยังติดปัญหาต้องมีการเจรจาเรื่องการติดตั้ง "เกาหลีใต้กับจีนมีข้อเสนอที่สมบูรณ์ แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้ว เรือดำน้ำจีนมีอาวุธที่ครบกว่า และให้ ทร.ไทย 3 ลำ ถ้าให้เรือดำน้ำ 2 ต่อ 2 ของเกาหลีใต้อาจจะถูกใจคณะกรรมการฯกว่า อีกทั้งข้อได้เปรียบของเรือดำน้ำชั้นหยวนของจีน มีระบบเอไอพี (ทำให้เรือดำน้ำสามารถดำน้ำได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ) สามารถดำน้ำได้ 3 สัปดาห์ ขณะที่เรือดำน้ำทั่วไปประมาณ 3 วัน ต้องโผล่ท่อขึ้นมาหายใจและชาร์จแบต" แหล่งข่าวกล่าว และว่า ช่วงแรกคณะกรรมการมีความเป็นห่วงว่า เหล็กของตัวเรือชั้นหยวนจะมีปัญหาหรือไม่ แต่หลังศึกษาในรายละเอียด ปรากฏว่าตัวเรือมีมาตรฐานทนแรงดันน้ำได้สูงเท่าเรือดำน้ำยุโรปแบบเดียวกับเรือดำน้ำแบบ 209 ของเยอรมนีที่ทนแรงดันน้ำได้ดี และตัวเรือชั้นหยวนมีพื้นฐานแบบเดียวกับชั้นกิโล (ห่อหุ้มแบบ 2 ชั้น) เวลากระทบกระแทกจะเสียหายแค่ตัวเรือชั้นนอกเท่านั้น อีกทั้งเรือชั้นหยวนจะแบ่งข้างในเป็น 6 ห้อง ถ้ามีปัญหาน้ำเข้าสามารถปิดกั้นห้องได้ แหล่งข่าวระดับสูง ทร.กล่าวว่า จะดูถูกกองทัพเรือจีนไม่ได้ เพราะกำลังจะก้าวขึ้นเป็นกองทัพเรือดำน้ำที่มีศักยภาพ โดยเรือดำน้ำชั้นหยวนมีขนาด 2600 ตัน และจีนได้เสนอรับประกันทั้งระบบ 2 ปี ประกันอะไหล่ 8 ปี พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เต็มที่ ทั้งนี้ ทร.ได้ส่งเอกสารโครงการทั้งหมดให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา รายงานข่าวแจ้งว่า ในอาเซียน ประเทศที่มีเรือดำน้ำและกำลังจะมีเรือดำน้ำ อาทิ มาเลเซียมีเรือดำน้ำฝรั่งเศส 2 ลำ, สิงคโปร์มีเรือดำน้ำสวีเดน 6 ลำ และกำลังจัดซื้อจากเยอรมนีอีก 2 ลำ, เวียดนามมีเรือดำน้ำรัสเซีย 6 ลำ, อินโดนีเซียมีเรือดำน้ำ 2 ลำ และสั่งซื้ออีก 3 ลำ ขณะที่มีข่าวว่าเมียนมากำลังพิจารณาจัดซื้อเรือดำน้ำเช่นกัน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า อยากถามว่าประเทศไทยจะเอาเรือดำน้ำไปรบกับใคร เพราะขณะนี้ไม่ได้อยู่ในยุคล่าอาณานิคมอีกแล้ว โลกวันนี้สู้กันด้วยเศรษฐกิจ การค้าเสรี เอาเงินที่ซื้อเรือดำน้ำมาแก้ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาข้าวยากหมากแพงให้ประชาชนจะดีกว่า ที่สำคัญการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในทุกๆ รัฐบาลที่ผ่านมา มักจะถูกครหาว่าอาจมีนอกมีใน จึงไม่อยากให้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกองทัพถูกตั้งคำถามจากประชาชนว่า ในภาวะเศรษฐกิจของประเทศฝืดแบบนี้ ควรซื้อเรือดำน้ำหรือ และไม่อยากให้เกิดข้อครหาว่าทำเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นายเอกภัณฑ์ ปิณฑวณิช ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำขึ้นอยู่กับแผนต่างๆ เพียงแต่ว่าการใช้จ่ายเงินจำนวนมากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็น่าจะดูว่าอะไรที่มีความสำคัญมากกว่ากัน ความจำเป็นในการที่จะมีแล้วจะส่งผลทางการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ ส่งผลไปในทางการแข่งขันสะสมอาวุธในภูมิภาคหรือเปล่า นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า อยากให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญการใช้งบประมาณระหว่างการซื้ออาวุธกับการ ช่วยเหลือภาคการเกษตรและภาคเอกชนไทยโดยขณะนี้มองว่าไทยยังไม่จำเป็นต้องซื้อ เรือดำน้ำ เพราะเศรษฐกิจยังย่ำแย่ รายได้จากจัดเก็บภาษีของรัฐบาลยังไม่เข้าเป้าหมาย ไหนจะรายจ่ายรัฐบาลก็เยอะ แม้ความเป็นจริงประเทศอื่นๆ อาจจะมีเรือดำน้ำแล้ว เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งการที่ไทยมีเรือดำน้ำบ้างอาจจะเป็นการคานอำนาจบ้าง แต่รัฐต้องจัดลำดับความสำคัญให้ถูก "การที่รัฐบาลออกมาจะซื้อเรือดำน้ำยิ่งดูไม่ดีในสายตาประชาชน เพราะคนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรเอางบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนมากกว่า โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพิ่งออกมาพูดเองว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณในการช่วยเหลือ หรืออุดหนุนราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ แต่พอถึงเวลารัฐบาลจะเอาเรือดำน้ำ เกษตรกรไทยคงไม่มีความสุข" นายพิชิตกล่าว นายตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากมองในแง่ของความมั่นคง หน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถตั้งงบประมาณเพื่อดูแลภาพรวมของเศรษฐกิจได้ เช่น กองทัพเรืออาจตั้งงบประมาณเพื่อดูแลน่านน้ำมากขึ้น เพื่อดูแลประชาชนและเอกชนที่ประกอบธุรกิจอยู่ในน่านน้ำไทย นั่นคือเพิ่มศักยภาพการเป็นผู้ดูแลเรือประมงหรือเรือเดินสินค้า ป้องกันโจรสลัดและผู้บุกรุก นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า คิดว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ในสถานการณ์ตอนนี้ ที่รัฐบาลต้องซื้อเรือดำน้ำให้เป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะดูจากสถานการณ์โลกเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่เหมือนสถานการณ์ช่วงสมัยสงครามเย็นที่ต่างฝ่ายต่างจะต้องมีการกักตุนอาวุธพร้อมที่จะเกิดสงคราม หรือสถานการณ์ขัดแย้งในทะเลจีนใต้ที่อาจจะเกิดสงครามได้ทุกเมื่อ ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังย่ำแย่ การส่งออกที่ติดลบ สถานการณ์ภัยแล้ง การจัดเก็บภาษีของรัฐบาลก็ย่ำแย่ รัฐบาลควรนำงบประมาณมาอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้มากกว่า "ผมว่าประชาชนหลายคนเห็นตรงกับผม และตั้งคำถามเดียวกันกับรัฐบาลว่าช่วยอธิบายเหตุผลเชิงความมั่นคงในการซื้อเรือดำน้ำได้ไหม เพราะดูจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมโลกในขณะนี้ มันไม่จำเป็นทั้งหลักรัฐศาสตร์หรือหลักเศรษฐศาสตร์เลย" นายสมชายกล่าว อ้างอิง : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435977452 ----------------------------------------------------------------------- นักวิชาการมีแต่ปาก ไม่มีปัญญากันรึไง ที่ไม่รู้ว่าเรือดำนํ้าไม่ใช่รถยนต์ ที่ซื้อมาแล้วจะพร้อมใช้ระยะเวลาอันสั้น นับหนึ่งตอนนี้ อีก 5 - 6 ถึงได้รับเรือ แล้วต้องฝึกกันเป็นปีๆ ถึงจะพร้อมรบ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้น ยังไม่เห็นมีใครบอกว่า เศรษฐกิจดี สักทีเลย ถ้าต้องว่าเศรษฐกิจดีเมื่อไร ถึงจะเจียดงบประมาณให้ความมั่นคงบ้าง เห็นที คงใช้ดาบอาทมาตแบบพี่เหม สู้อากก้าแล้วกระมัง เข้าใจอะไรบ้างไหม 0-2 กับ 0-6 หน่ะ ไม่ตกเลขใช่มั้ย คิดว่าจะเกิดอะไร ถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้น สงครามสมัยใหม่ เรือฟรีเกต หรือเรือพิฆาต ลาดตระเวนชั้นเมพๆของสรอ. รัสเซีย จีน ตกสภาพเดียวกันหมด คือเป็นแท่งเหล็กลอยนํ้าได้ ทำดีที่สุดคือใช้อาวุธป้องกันตนเองไม่ให้ถูกจม ฉะนั้นเรือผิวนํ้า ต่อให้ดีเลิศขนาดไหน ก็เป็นได้แค่คมด้านข้างของหอก ปลายคมหอกของกำลังทางเรือยุดใหม่ คือ เรือดำนํ้า และเครื่องบินโจมตีทางทะเล ก็คิดเอาปลายคมหอกมันบิ่นไปข้างนึง แล้วมันจะไปแทงใครเข้า ถ้ามีเหตุต้องใช้ ไม่ตายห่ากันหมดก่อนรึ ทุกวันนี้ ราชนาวีไทย ก็ประหยัดจะตายห่าอยู่แล้ว ไปตามฐานทัพเรือดูได้ กำลังลังรบหลักของราชนาวีไทย เกินครึ่งมาจากจีน นี่ยังไม่ประหยัดอีกเหรอ เรือจีนนี่ไม่มีอะไรดีเลยนะ คุณภาพตัวเรือก็ห่วย อาวุธก็เชื่อถือไม่ค่อยได้ มีดีอย่างเดียว คือราคา เบื่อนะพวกที่วิจารณ์เรื่องที่ตัวเองไม่รู้
ข่าวนี้มีนัยยะ อีกฝั่งจะบอก กรีซมีปัญหาเพราะนโยบายประชานิยม http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436011534 ย้อนวิกฤติกรีซ!สาเหตุหนึ่งเกิดจากทุ่มงบทหารเกินตัว-ใช้เงินแสนล้านซื้อเรือดำน้ำ วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 08:50:00 น. กรีซ หนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วแต่ ณ ปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างหนักเหมือนดังเช่นที่ทุกคนทราบ ลองมองย้อนกลับไปจะพบว่ากรีซเริ่มเผชิญปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงปี 2010 แม้ว่าภาครัฐจะรู้ (หรือไม่รู้) ในเรื่องนี้ แต่ยังคงทุ่มงบจำนวนมากในการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพ ทั้งที่กรีซเป็นประเทศขนาดเล็กมีประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่กลับเป็นประเทศที่นำเข้าอาวุธสงครามสูงที่สุดในแถบยุโรปหรือคิดเป็นอันดับ 5 ของโลก หากคิดเป็นสัดส่วน GDP จะพบว่ากรีซมีการใช้งบประมาณทางทหารเกือบสูงที่สุดในยุโรป ขณะที่เมื่อปี 2010 กรีซซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำจากเยอรมนีมูลค่า 1.3 พันล้านยูโร เรือรบขนาดใหญ่ 6 ลำและเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยอีก 15 ลำจากฝรั่งเศส รวมถึงเครื่องบินรบ F-16 อีกกว่า 20 ลำจากสหรัฐ ที่คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพูดได้ว่ากรีซเป็นประเทศที่มีรถถังมากถึง 1,300 คัน มากกว่าประเทศอังกฤษถึงสองเท่า ด้านสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ในปีที่ผ่านมานั้นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกรีซทุ่มเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท) ในการซื้อเรือดำน้ำที่ยังต่อไม่เสร็จ ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ในกรุงเอเธนส์ โดยสำนักข่าวบิซิเนสอินไซด์เดอร์เผยว่า สาเหตุที่รัฐบาลกรีซทุ่มงบประมาณมหาศาลให้กับกองทัพมากที่สุดแม้ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากแค้น มาจากเหตุผล 3 ประการ 1. งบประมาณเหล่านั้นเป็นเงินเดือนให้กับบุคลากรกองทัพ 2. การเมืองระดับภูมิภาค 3. ความกดดันจากการเมืองภายในประเทศ ทั้งนี้ งบประมาณสำหรับกองทัพนั้นเป็นโครงการที่ถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด ------------------------------------------------------------------------ แล้วเพจตบดิ้นก็บอกว่า ...
นักเศรษฐศาสตร์ กับทหาร จะมีมุมมองที่ต่างกัน อาจจะเป็นคนละขั้วเลยด้วยซ้ำ ถ้าถามผมว่า ในนาทีนี้ ผมเลือกใคร ระหว่างนักเศรษฐศาสตร์ กับ ทหาร... ผมเลือกทหารครับ
คนสยามลืมความเจ็บปวด ตราด ร.ศ.๑๑๒ ลืมพระยอดเมืองขวางที่ต้องติดคุกเพราะปกป้องแผ่นดินไทย เราไม่รังแกใคร แต่คนอ่อนแอจะถูกรังแก