แหล่งข่าวระดับสูง จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยสมัยดำรงตำแหน่งรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ว่ามีพฤติกรรมทุจริตในโครงการบ้านเอื้ออาทรโครงการที่บริษัท พาสทีญ่า ไทย จำกัด โดยมีมูลความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ 149
โทษประหารเป็นเรื่องเล็กสำหรับเสี่ยไก่ครับ นายหญิงของเสี่ยไก่เคยประกาศยอมตายคาเวทีประชาธิปไตยมาก่อนหน้านี้แล้ว
ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย สมัยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก ว่ามีพฤติกรรมทุจริตในโครงการบ้านเอื้ออาทร หลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา เมืองสุข สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในรัฐบาลทักษิณ ส่อว่าทุจริตในโครงการบ้านเอื้ออาทร เมื่อวานนี้ วันนี้ นายวัฒนา เมืองสุข เปิดแถลงข่าวยืนยันว่าไม่มีความกังวลใดๆ คดีนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.ได้ยื่นตรวจสอบตั้งแต่การรัฐประหารปี 49 ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหลายคดีที่เกิดขึ้นกับตนเอง คือมาจากกระบวนการของคณะรัฐประหารที่เป็นคู่ขัดแย้ง นายวัฒนา จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการแทรกแซงจากคสช.ให้ชี้มูลความผิด เพราะหากคดีนี้ผิดจริงก็น่าจะสามารถชี้มูลได้ตั้งนานแล้ว นายวัฒนา ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าที่ผ่านมามักเร่งรัดคดีกับฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับ คสช.เพื่อหวังระงับความเคลื่อนไหว ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลต่อไป สิ่งเดียวที่จะทำให้หยุดการวิพากษ์วิจารณ์ได้ ก็คือการที่รัฐบาลสามารถทำหน้าที่ได้ดีและถูกต้องเหมาะสม "ป.ป.ช." ชี้มูล "วัฒนา" กับพวก ทุจริต "บ้านเอื้ออาทร" โครงการพาสทีญ่า ชงสำนวนถึง "อสส." แล้ว สอบถามความคืบหน้ากับ คุณสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย สมัยดำรงตำแหน่งรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ว่ามีพฤติกรรมทุจริตในโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการที่บริษัทพาสทีญ่า ไทย จำกัด โดยมีมูลความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ149 แหล่งข่าวคนดังกล่าว เปิดเผยอีกว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการไต่สวนไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แล้ว แต่อสส.เห็นว่า มีข้อไม่สมบูรณ์ตามข้อกฎหมาย จึงมีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช.กับอสส. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ ก่อนส่งฟ้องต่อศาลต่อไป อย่างไรก็ตาม หากคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช.กับอสส. หาข้อยุติเรื่องดังกล่าวไม่ได้ ทางป.ป.ช.สามารถนำสำนวนมาส่งฟ้องต่อศาลด้วยตนเองได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าว นายวัฒนากับพวกถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเริ่มจากการที่บริษัทพาสทีญ่าได้โควตาเป็นคู่สัญญากับการเคหะแห่งชาติ 7 โครงการ 7,500 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสวนพลูพัฒนา โครงการผดุงพันธ์ โครงการนนทบุรี (วัดกู้ 1) โครงการนนทบุรี (วัดกู้ 3) โครงการสมุทรปราการ (วัดคู่สร้าง 1) โครงการปทุมธานี ลำลูกกา คลอง 2 และโครงการกระทุ่มแบน 3ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติในการเข้าเป็นคู่สัญญากับการเคหะแห่งชาติ แต่ได้มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อให้สามารถเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐได้ โดยเรื่องดังกล่าวเริ่มมีการตรวจสอบหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบโครงการต่างๆ ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งโครงการทุจริตบ้านเอื้ออาทรเป็นหนึ่งในโครงการอื้อฉาวที่คตส.เข้าไปตรวจสอบ โดยพบว่ามีหลายโครงการที่ผิดปกติ รวมถึงโครงการที่มีการกล่าวหานายวัฒนาและพวกด้วย ต่อมาเมื่อคตส.หมดหน้าที่ได้ส่งสำนวนทั้งหมดที่ยังค้างอยู่มาให้ป.ป.ช.พิจารณาต่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ 149 ตามที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายวัฒนากับพวกบัญญัติว่า มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต ส่วนมาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ หรือกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต
เสี่ยไก่ บอกว่า ฟ้องเพื่อปิดปากไม่ให้พูดทางการเมือง เสี่ยไก่ก็ลองเงียบดูสิ พิสูจน์ดูว่า คดีจะหลุด ปปช ยกฟ้อง
โดนไปก่อนซะแล้ว ศาลอาญาอนุมัติฝากขังครั้ง แรก 12 วัน "นายวัฒนา เมืองสุข" คดีโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องหมุดคณะราษฎร ก่อนอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกันตัว 2 แสนบาท แต่เมื่อวานนี้ ขณะพิจารณาคำร้องฝากขัง "นายวัฒนา" ได้เฟซบุ๊คไลฟ์ในห้องคำร้องฝากขัง ศาลจึงลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา พร้อมสั่งลบคลิปออกทันที
มีนิทานพื้นบ้านอยู่เรื่องหนึ่งครับ มีบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งตั้งอยู่แถวบางนา ต้องการเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชนรายได้ต่ำถึงปานกลางของรัฐบาล รมต.หัวใสที่รับผิดชอบโครงการนี้เรียกรับเงินสด25ล้านบาทจากบริษัทฯ เงินที่ว่านี้เพียงแลกกับสิทธิ์ที่จะได้เข้าร่วมประมูลโครงการ รมต.หัวใสสั่งให้บริษัทฯเตรียมเงินสดเป็นธนบัตรหมายเลขไม่เรียงกันใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมไว้ให้ พร้อมกับนัดหมายวันเวลาที่แกจะเข้าไปรับที่สำนักงานของบริษัทฯ บริษัทฯเองก็หวั่นว่าหลักฐานอะไรก็ไม่มี เกรงจะถูกเบี้ยวหรือถูกเรียกรับเงินซ้ำจากรมต.หรือจนท.คนอื่น ฝ่ายจัดการจึงสั่งติดตั้งวงจรปิดณจุดรับกระเป๋าเงินเพื่อเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน แต่พอถึงเวลานัด รมต.หัวใสคนนั้นโทรฯแจ้งว่าจะให้ลูกน้องไปรับแทน หลักฐานที่บริษัทนั้นได้ไว้เป็นหลักฐานจนถึงทุกวันนี้คือภาพกระเทยควายมาหิ้วกระเป๋าเดินทางออกไปเท่านั้น ก็แค่นิทานนะครับ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกระทู้นี้
โอ............... ไม่ใช่ประเทศไทยแน่นอนครับ แค่บังเอิญว่าประเทศในนิทานของผม มีพื้นที่ๆหนึ่งที่มีชื่อว่า"บางนา"ซ้ำกับเราเท่านั้น