เขาก็รู้ๆกันอยู่ องค์กร สาขา2 ของแมงสาป มันเป็นเช่นไร ป่วยการที่จะเอาเนื้อข่าวมาแปะ เอาแต่ถุยไปพอ ถือว่าให้เกียรติ มากแล้ว
ดีครับ และ เอาคดีโรงพักด้วยเลย จะได้ จบเลิกเล่นกันซะที......คดีโรงพักน่าจะติดคุกหลายคนโดยเฉพาะลูกเสือ.. อย่าลืมมาวนเรื่องนี้ด้วยนะ...ว่าแต่..เป็นรัฐบาลตั้งแต่ สมชาย สมัคร ยิ่งเลอะ ทำมัยไม่ ดำเนินการกันหว่า..หรือพวก...คนรวย....ที่ว่า..เครือข่ายตระกูลชินทั้งนั้น...หือ..
ใครๆก็รู้ มาอีกแล้ว ป่าช้าหยามเกียรติสมาชิกท่านอื่นมานานแล้วนะครับ ขอหยามคืนบ้างนะ ถุย ถุย ถุย ถุย ถุย ถุย ป่าช้านี่เหมาะแล้วที่ใครๆก็ถ่มถุย
ตั้งกระทู้โชว์ควายอีกล่ะ มีควายไปร้อง เค้าก็ต้องสอบเป็นธรรมดา คนโดนร้องไม่หนี ไม่บิดเบือน ไม่ตอแหล ยอมสู้พิสูจน์ตัวเองในชั้นศาล ไม่เหมือนพ่อมรึงที่หนีไปดูบอลจนยังไม่กลับ กับแม่มรึงที่จะขอไปกินโจ๊กต่างประเทศระหว่างไต่สวนคดีความอยู่ แค่นี้ยังแยกแยะไม่ได้ก็อย่ามาตั้งกระทู้ไร้สาระไปวันๆ ดีกว่าน่า ไอ้เวร ให้คนเค้าหัวเราะ ขำในสติปัญญาหางอึ่งได้ทุกวี่วันสิน่า
คำว่า ส่อ หมายถึง อันใด ต้องสงสัย ไม่มีหลักฐานอะไร ศาลจะยกประโยชน์ให้ ผู้ต้องหาหรือจำเลย ทักษิณ รอคดีหมดอายุความ ขี้ข้าพากัน คำนวนวันเวลาให้ ไม่ได้ส่อ เพราะศาลตัดสินแล้ว
มาถามหาความกล้า กับ หน้าตัวเมีย ....... ถามผิดคนหรือเปล่าครับบบบบบบ ความกล้า ความรับผิดชอบเป็นยังไง .....ผู้หลักผู้ใหญ่ที่บ้านไอ้ป่าช้า ไม่ได้อบรมสั่งสอนให้สะกดซะด้วยซ้ำ
ก็ดี รับเรื่องเข้าสู่ศาล จะได้พิสูจน์กันไปเลยว่ายังไงแน่ ไอ้ที่หนาวๆน่ะไอ้ตัวที่จรจัดนอกประเทศนั่นละ แล้วป่าช้าเน่าอย่ามาแหกปากอีกละว่าสองมาตรฐาน ถุยยยยยย ให้ความทูเรศของ จขกท
แต่อย่างน้อย มาร์คก็ไม่เคยขอไปดูโอลิมปิคแล้วหนีหางจุกตูดเหมือนไอ้แม้วหัวหน้ากาสรสีชาดนะ ************************************************************** อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ระบุพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หลังถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหากรณีสลายการชุมนุมปี 2553 เชื่อหากผู้เคยร่วมงานขณะนั้นยอมเป็นพยาน จะเป็นประโยชน์ต่อคดี อดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า ส่วนตัวยอมรับมติของ ป.ป.ช.ที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ส่อว่า กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีสลายการชุมนุมปี 2553 และพร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยจะไปชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช.แต่ก็ต้องตั้งคำถามว่า ในสถานการณ์ที่มีการก่อการร้ายมีการใช้อาวุธ ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะขณะนี้ก็มีผู้ฟ้องตัวเขาและ พระสุเทพแล้วว่า ปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุให้สูญเสียทรัพย์สิน นายอภิสิทธิ์ บอกด้วยว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้พยายามหลีกเลี่ยงการสูญเสีย ด้วยการปรับแนวทางเท่าที่จะทำได้ โดยมีการดำเนินการทั้งระดับนโยบายการกำหนดยุทธศาสตร์ และการปฏิบัติตลอดเวลา เห็นได้จากพัฒนาการของเหตุการณ์ ก่อน 10 เม.ย.ไปจนถึงวันที่ 19 พ.ค.2553 มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการของสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องควบคุมสถานการณ์ เพื่อคืนความปกติภายใต้การมีกองกำลังติดอาวุธและการก่อการร่าย นายอภิสิทธิ์ บอกว่าคนที่ทำงานร่วมกันจะเข้าใจ เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.ในขณะนั้น เพราะ ร่วมประชุม และรู้ดีถึงการทำงานในขณะนั้น หาก ป.ป.ช.ได้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา แต่ส่วนตัวไม่แน่ใจว่า บุคคลทั้งหมดพร้อมที่จะเป็นพยานให้หรือไม่