แมนกว่าบางคน? "เสื้อแดงเผาศาลากลางติดคุก"

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย นิจนิรันดร์, 4 Apr 2016

  1. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    หัวหน้าใจตุ๊ด หนีคุกไปแล้ว แต่ลูกน้องยังแมนกว่าหัวหน้าที่กล้าติดคุก

    images.jpg
     
    Last edited: 4 Apr 2016
    หนูอ้อย likes this.
  2. นอกคอก

    นอกคอก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    5,396
  3. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    4(705).jpg

    หัวหน้าใจตุ๊ด รอดคุกไปแล้ว แต่ลูกน้องยังแมนกว่าหัวหน้าที่กล้าติดคุก ไม่ยอมซัดทอด:D
    1389839955-521761-o.jpg
     
  4. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    ช่วงนี้ดูหัวหน้าที่หนีคดี มีแรงฮึดอีกครั้ง เห็นปากดีว่าถูกยัดข้อหา
    สังเกตดู สภาพจิตไม่ปกติเท่าไหร่นะครับ ช่วงนึงก็โพสต์รูปนั่งสมาธิ ช่วงนึงก็ เซ็ตซีโร่ มาตอนนี้ก็ท้าทายอีกครั้ง หากคสช.คุมเกมส์ช่วงนี้ได้ ก็คงโพสต์รูปลงว่า ปล่อยวางแล้ว ;)
     
    apollo, kokkai, นิจนิรันดร์ และอีก 1 คน ถูกใจ.
  5. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  6. เจ๋งเหม่งจ๋าย

    เจ๋งเหม่งจ๋าย สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    8 Feb 2016
    คะแนนถูกใจ:
    22
    มีแต่กระบอกปืน รถถัง ที่ล้มทักษิณและเสื้อแดงได้ นอกนั้นเป็นไอ้ตุ๊ดปากดีประตูหลัง รวมถึงตุ๊ดคีย์บอร์ดด้วย
    555
     
  7. ทองเค

    ทองเค อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    25 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    ทักษิณ โปะหนี้ IMF โดยการ หมุนหนี้ ยืมที่หนึ่ง เอามาใช้อีกที่หนึ่ง
    ยอดเยี่ยม ... เลียนแบบแม่ค้า นี่หว่า ไม่ค่อยแมน
     
  8. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
    คนใจดำนี้มันก็ใจดำวันยันค่ำจริง เอาแต่สน กปปส. เพื่อนตัวเองไม่เคยพูดถึง ถ้าอ้างว่าการไม่ยอมรับคือใจตุ๊ด hot boy ก็คงใจตุ๊ดละ ที่ไม่ยอมรับเพื่อน
     
    Last edited: 4 Apr 2016
  9. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
    รู้อยู่แล้วครับว่าเจ๋งเหม่งจ๋ายเป็นกระเทย ไม่ต้องแกล้งพาลด่าคนอื่น ที่นี้ไม่มีใครเขาเตะกระเทยหรอก(หรือมี?) เดียวนี้สังคมเขายอมรับแล้ว
     
  10. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    เอ... ว่าแต่ทำไมต้องทำถุงขนมหล่นที่ศาลด้วยหว่า
    5556
     
  11. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
  12. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
  13. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    นี่แหละอยู่แต่ในกะลาแดง อ่านแต่พาดหัวข่าว แต่ไม่ได้อ่านเน้ื้อข่าว ประเด็นอยู่ที่ย่อหน้าสุดท้าย

    รายงานระบุว่า มูลเหตุคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก เดินทางมารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ระหว่างนั้นมีทีมทนายความนำถุงขนมใส่เงิน จำนวน 2 ล้านบาทไปให้แก่เจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และมีการแจ้งความดำเนินคดี ส่วนเงินของกลางได้คืนแก่ทีมทนายความไป หลังจากนั้นศาลได้แจ้งข้อหาละเมิดอำนาจศาลกับทั้งสาม และไต่สวนข้อเท็จจริง กระทั่งวันที่ 25 มิถุนายน 2551 ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกนายพิชิฏ กับพวก คนละ 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล จนพ้นโทษเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551

    แง้มกะลาแดงหน่อยนะ ตุ๊ดบอย
    พวกควายแดงนี่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัดจริงๆ
     
    apollo, ชายน้ำ, Anduril และอีก 1 คน ถูกใจ.
  14. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    คดีติดสินบน อัยการไม่ฟ้องจริง แต่คดีละเมิดอำนาจศาล นี่โดนไปติดคุกไป 6 เดือนแล้วนะ
    อัยการไม่ฟ้องเพราะจำเลยไม่ระบุว่าจะติดสินบน "ใคร" ต่างหาก
    แต่เรื่องละเมิดอำนาจศาล เอาเงินไปตั้งไว้ 2 ล้านนี่ ศาลก็ตัดสินว่าเป็นความจริงเหมือนกันนะ
    ********************************************
    จำคุก 6 เดือน แก๊งทนายแม้วติดสินบนศาล!

    ศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือนทนายแม้ว-เสมียน-หลานหญิงอ้อ ละเมิดอำนาจศาล หิ้วเงินสด 2 จูงใจเจ้าหน้าที่ศาลฯ ศาลชี้พฤติการณ์อุกอาจท้าทายศาลสูงสุดของประเทศ หวังประโยชน์เชื่อมโยงคดีที่ดินรัชดา สมควรลงโทษสถานหนักไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมสั่งออกหมายจับหลานหญิงอ้อ เบี้ยวฟังคำสั่ง ให้เลขาศาลฎีกา แจ้งความข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานอีกกระทง

    ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลฎีกา สนามหลวง วันที่ 25 มิ.ย.51 เวลา 15.00 น. นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา นายวีรพล ตั้งสุวรรณ และนายอิศเรศ ชัยรัตน์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา องค์คณะผู้พิพากษาไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีทนายความอดีตนักการเมือง นำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาทมามอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.51 ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง คดีดำ ลอ.1/2551 หมายเลขแดงที่ 4599/2551 ความแพ่ง ระหว่างนายอนันต์ วงศ์ประภารัตน์ เลขานุการศาลฎีกา ผู้กล่าวหา และนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร , น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 เรื่องละเมิดอำนาจศาล

    คดีนี้สืบเนื่องจากนายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ทำหนังสือบันทึกลงวันที่ 10 มิ.ย.51 ถึงนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.51 เวลา 9.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งวันดังกล่าวนายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ไปตรวจดูความเรียบร้อยที่ศาลฎีกาฯ หลังจากนั้น หม่อมหลวงฐิติพงศ์ ชมพูนุช นิติกรประจำแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เข้ามาสอบถามเรื่องที่ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ นำสิ่งของซึ่งเป็นถุงกระดาษสีขาวปิดสก็อตเทปใสมิดชิด มาให้เจ้าหน้าที่ว่าจะรับไว้ได้หรือไม่ โดยเมื่อเปิดถุงแล้วพบธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 2 ตั้งๆละ 10 มัด รวมประมาณ 2 ล้านบาท นายอนันต์จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ส่งคืน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาถึงศาลเพื่อรายงานตัว

    จากการไต่สวนหม่อมหลวงฐิติพงศ์ ชมพูนุช นิติกรประจำแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ความว่า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาถึง นายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 สั่งให้นางสาวศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แจ้งต่อม.ล.ฐิติพงศ์ ว่าให้ไปพบเพื่อจะปรึกษาคดี ม.ล.ฐิติพงศ์ จึงไปพบที่ห้องพักทนายความ ซึ่งภายในห้องมีเพียง 2 คน โดยม.ล.ฐิติพงศ์ นั่งโต๊ะตรงข้ามกับนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ซึ่งได้หยิบถุงกระดาษส่งให้ พร้อมบอกว่า “ระยะนี้ต้องมาติดต่อบ่อย เห็นใจเจ้าหน้าที่ เลยเอาของมาฝาก ให้ไปแบ่งกัน” จากนั้น ม.ล.ฐิติพงศ์ จึงได้เดินไปหานายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ แต่ไม่อยู่ เนื่องจากเดินทางไปประชุมที่รัฐสภา จึงไปพบนายอนันต์ ที่ตรวจงานอยู่ นายอนันต์จึงสั่งให้เปิดถุง เมื่อพบว่าเป็นเงิน จึงสั่งให้คืนเจ้าของไป เพราะการรับถุงไว้น่าจะเป็นการไม่ชอบ อาจละเมิดอำนาจศาล และเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน โดยได้มีการถ่ายรูปธนบัตร และถุงไว้เป็นหลักฐาน

    ศาลฎีกาประชุมตรวจสำนวนแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นที่ยุติว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.51 เวลา 9.30 น. นายพิชิฏ,นางสาวศุภศรี และนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ขึ้นไปยังชั้น 4 เพื่อยื่นคำร้องการรายงานตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จำเลยในคดีทุจริตซื้อขายที่รัชดาภิเษก หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งมีม.ล.ฐิติพงศ์ เป็นผู้ดูแลสำนวน โดยนางสาวศุภศรี เสมียนทนายของนายพิชิฏ ซึ่งเป็นทนายเจ้าของคดี ได้นำคำร้องยื่นต่อศาลก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯเพื่อรายงานตัว โดยนางสาวศุภศรีได้มาแจ้งกับ ม.ล.ฐิติพงศ์ ว่า นายธนา ให้ไปพบ เพื่อปรึกษาคดีที่ห้องพักทนายความ ทั้งที่นายธนายืนห่างเพียง 1 วา และเมื่อเข้าไปพบ นายธนา กลับยื่นถุงกระดาษซึ่งปิดผนึกมิดชิด ภายในบรรจุเงิน 2 ล้านบาท โดยไม่บอกว่าภายในบรรจุอะไร เพียงแต่ให้เอาแบ่งกัน ซึ่งจากการไต่สวนนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 อ้างว่า เมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 21.00 น. นายบุญชาญ อักษรสุวรรณ ได้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาท ที่ได้ซื้อบ้านผู้ถูกกล่าวหาในราคา 5.3 ล้านบาท มาให้ และได้เตรียมนำเงินดังกล่าวไปฝากธนาคารในวันรุ่งขึ้น โดยให้ภรรยาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณหญิงพจมาน นำเงินบรรจุใส่ถุงกระดาษปิดผนึกมิดชิด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้ภรรยา ไปซื้อช็อคโกแลต และห่อในลักษณะเดียวกัน เพื่อเตรียมมอบให้เจ้าหน้าที่ศาลในวันที่ 10 มิ.ย.51 ซึ่งเป็นวันยื่นคำร้องรายงานตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่างๆในคดี ขณะที่วันเกิดเหตุได้นำเกิดเหตุได้นำถุงขนมวางไว้ที่นั่งด้านหลังเบาะรถ ส่วนห่อเงินได้ใส่ไว้ที่กระโปรงหลังท้ายรถ แต่ตนได้หยิบถุงผิดไป เมื่อทราบจึงแจ้งให้นายพิชิฏ ทราบเพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ โดยนายพิชิฏ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้โทรศัพท์หา ม.ล.ฐิติพงศ์ พร้อมกล่าวคำขอโทษ แต่ม.ล.ฐิติพงศ์ แจ้งว่าได้ทำบันทึกถึงผู้บังคับบัญชาแล้ว

    คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า นายธนา รู้หรือควรรู้ว่าในถุงมีเงินอยู่หรือไม่ ซึ่งในการไต่สวน ม.ล.ฐิติพงศ์ ให้การว่านายธนา เป็นผู้หยิบถุงเงินที่ปิดมิดชิดมอบให้โดยไม่แจ้งว่าเป็นสิ่งใด ก่อนจะเปิดพบเป็นเงิน ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งให้ส่งคืนไป โดยมีเจ้าหน้าที่ศาลนำถุงส่งคืนกับมือนายธนา พร้อมถามว่า รู้หรือไม่ว่าข้างในมีอะไร นายธนา ได้ตอบว่า รู้ และเดินกลับไป โดยไม่มีท่าทีอิดเอื้อนตอบกลับ ซึ่งเป็นพิรุธ เห็นว่า หากเป็นไปตามที่นายธนากล่าวอ้าง ว่าหยิบถุงผิดไป โดยคนขับรถเป็นผู้นำถุงผิดมาให้ตน โดยไม่มีการตรวจสอบก่อน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าของ 2 สิ่งลักษณะห่อเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติว่าจะมีการหยิบผิด และเมื่อเจ้าหน้าที่ทักท้วงก็ต้องเปิดดู และตรวจสอบสิ่งของ แต่กลับไม่ดำเนินการ อีกทั้งหากนายธนา จะนำช็อคโกแลตมามอบให้จริงก็ควรจะนำไปมอบให้ที่เคาน์เตอร์อย่างเปิดเผยเพื่อความบริสุทธ์ใจ จึงเชื่อว่านายธนาได้รู้อยู่แล้วว่าในถุงกระดาดังกล่าวมีเงิน 2 ล้าน

    คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อว่า นายพิชิฏ และน.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกลาวหาที่ 1และ2 มีส่วนรู้เห็นหรือให้ความร่วมมือในการกระทำของนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 หรือไม่ จากการไต่สวน ม.ล.ฐิตพงศ์ ได้ความว่านายพิชิต เป็นทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ส่วน น.ส.ศุภศรี เป็นเสมียนทนายและเลขานุการส่วนตัวของนายพิชิฎ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ส่วนนายธนา เป็นผู้ติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวันเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ได้มายื่นคำร้อง ขณะที่ น.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มาแจ้ง ม.ล.ฐิติพงศ์ ให้ไปพบนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ปรากฏว่า ทั้งนายพิชิต และ น.ส.สุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 อยู่ในเหตุการณ์ด้วย อีกทั้งเมื่อ ม.ล.ฐิติพงศ์ เดินเข้าไปพบนายธนา ที่ห้องพักทนายความแล้วเดินออกมาพร้อมถุงกระดาษ นายพิชิต และน.ส.ศุภศรี ก็ได้เห็นเหตุการณ์ วิสัยของคนทำงานร่วมกัน นายพิชิต จะต้องสอบถามและซักไซ้หรือบอกกล่าวให้รู้กันว่าจะนำชอคโกแลตมาให้เจ้าหน้าที่ศาลโดยไม่ต้องปิดบัง ซึ่งนายพิชิฎ เป็นหัวหน้าคณะทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน การกระทำของนายธนา นอกจากจะเป็นเรื่องร้ายแรงแล้วยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีและกระทบต่อวิชาชีพของนายพิชิฎ แทนที่จะซักไซ้ไล่เรียงให้เกิดความชัดเจนหรือนำถุงสิ่งของที่ถูกต้องมาเปลี่ยนมอบให้หรือต่อว่านายธนา แต่ นายพิชิต กลับทำตามคำร้องขอของนายธนา โทรศัพท์มากล่าวขอโทษกับ ม.ล.ฐิติพงศ์ พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พฤติการณ์ของนายพิชิต ชัดแจ้งว่ามีส่วนร่วมถือเป็นตัวการร่วม ส่วน น.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แม้เป็นเสมียนทนายความ แต่ก็ร่วมรู้ในเหตุการณ์ โดยเป็นผู้เรียก ม.ล.ฐิติพงศ์ ให้ไปพบกับนายธนา พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่า น.ส.ศุภศรี มีส่วนร่วมรู้เห็นกับนายธนา และแบ่งหน้าที่กันทำจึงฟังได้ว่า ทั้งนายพิชิต และ น.ส.ศุภศรี เป็นตัวการร่วมกับนายธนา

    คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยข้อสุดท้ายว่าทั้งสาม กระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เห็นว่าการนำถุงกระดาษใส่เงิน 2 ล้ายบาทให้ ม.ล.ฐิติพงศ์ ถือว่าเป็นเหตุจูงใจให้เจ้าหน้าที่ของศาลฎีกาฯ กระทำการอันมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่อาจเชื่อโยงเป็นประโยชน์ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามซึ่งกระทำการร่วมกันจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและพานิชย์ ม.31 (1) , 33 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา ม.83 และน่าจะมีมูลความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ตามประมลกฎหมายอาญา มาตรา 144 หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงาน การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามเป็นการกระทำที่อุกอาจท้าทายละเกิดขึ้นที่ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลยุติธรรมสูงสุดของประเทศ อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามประกอบอาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายย่อมตระหนักดีกว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาลยุติธรรมและจะส่งผลกระทบกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาในการปฎิบัติหน้าที่ของบุคคลากรในอำนาจตุลาการจึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนักเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคนละ 6 เดือน ส่วนความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 144 หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงานนั้น ให้นายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ผู้กล่าวหาคดีนี้ไปดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

    ส่วนนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำสั่งออกไปเป็นเวลา 7 วัน อ้างว่าปวดศีรษะ ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุเพียงพอ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้ออกหมายจับนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มาบังคับคดีตามคำสั่งศาลต่อไป

    ที่เหลือไปอ่านต่อที่นี่นะ
    http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000074787
     
  15. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่ากับทนายความทั้งสามคนไม่ได้กระทำความผิดและติดคุกฟรี อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิดเพราะคดีละเมิดอำนาจศาล เป็นความผิดเกี่ยวกับการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล และเป็นความผิดคนละประเภทกัน ที่ศาลลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลจำคุกคนละ 6 เดือนจนออกจากคุกมานั้น ศาลลงโทษเหมาะสมแล้ว อัยการเห็นด้วยไม่ขัดข้อง

    ต้องป้อน ต้องเคี้ยว ให้ตลอด:D:D
     
  16. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    อ่ะ.. แง้มกะลาให้ อ้าปากกว้างๆ เดี๋ยวเคี้ยวป้อนนะ อย่ากินแต่ขี้แม้ว

    คดีละเมิดอำนาจศาล
    คือมีความพยายามติดสินบนจริง
    ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกนายพิชิฏ กับพวก คนละ 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล จนพ้นโทษเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551

    ส่วนคดีติดสินบนศาลยกฟ้อง เพราะ เอาเงินมาให้ศาล แต่ศาลไม่รับสินบน เลยไม่มีความผิดในคดีนี้
     
    JSN และ Anduril ถูกใจ.
  17. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    ส่วนคดีติดสินบนศาลยกฟ้อง เพราะ เอาเงินมาให้ศาล แต่ศาลไม่รับสินบน เลยไม่มีความผิดในคดีนี้

    คดีติดสินบน
    ศาลรับ หรือ ไม่รับ ความผิดคดีนี้ ถ้าเป็นจริงยังไงมันก็ต้องมี มันต้องผิดอยู่แล้ว
    คนจะเอาเงินให้ คนที่จะติดสินบน จะไม่มีความผิดได้ไง
     
  18. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    พยายามเอาเงินมาให้ศาล แต่ไม่มีคนรับ
    เลยไม่ผิดคดีติดสินบน เพราะคดีติดสินบนจะสำเร็จได้ ต้องมีคนรับสินบน
    ที่เอาลิ้งค์มาแปะได้อ่านหมดหรือยัวหรืออ่านแต่พาดหัวข่าว
     
  19. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    ก็ผิดในคดีละเมิดศาลงัย จำคุกคนละ 6 เดือนอ่ะ
     
  20. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    เอางี้นะ... สมมุติผมฝ่าไฟแดง ตำรวจเลยเรียก
    ผมกะจะเอายัดเงินเพื่อไม่ให้ถูกจับ แต่ตำรวจไม่รับเงินนี้ จะจับผมข้อหาฝ่าไฟแดงให้ได้
    แบบนี้ผมก็ไม่มีความผิดในข้อหาติดสินบนใช่ไหม เพราะตำรวจไม่รับ?
     
  21. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    คุณ Ricebeanoil ก็เอาเนื้อหาคำพิพากษามาให้อ่านก็ไม่อ่าน
     
  22. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    ของคุณ Ricebeanoil
     
  23. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    ขอเถอะครับ ขอเนื้อหาคำพิพากษาจากสื่ออื่นเถอะนะ

    ผมไม่อยากคลุ้มคลั่งถูกล้างสมอง จากสื่อเทียมโกเต๊ก จนเป็นเหมือนพวกคุณ:D
     
  24. comma

    comma อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    28 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,142
    ชัดไหมครับ?
     
  25. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
  26. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    ที่จำคุกคนละ 6 เดือนจนบัดนี้พากันออกจากคุกมาแล้วนั้น
    แท้จริงเค้าโดน "คดีละเมิดอำนาจศาล" ซึ้งเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล
    ไม่ได้ติดคุกเพราะติดสินบน:D:D
     
  27. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    อยากได้ของมติชินเหรอ ก็มีให้นะ
    จะว่าไปของเดลินิวส์ก็มีนะ กลายเป็นกรณีศึกษาของคณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต ด้วย
    ทนายพี่แม้วเค้าเยี่ยมจริงๆ
    **************************************
    "สภาทนายความ"เตรียมถอดใบอนุญาตทนายทักษิณ- อ่านรายละเอียดคำสั่งศาล

    สภาทนายความ เปิดเผยถึงกรณี ศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินให้ นายพิชิต หรือพิชิฏ ชื่นบาน , น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ และนายธนา ตันศิริ ทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา มีความผิดกรณีนำเงินสด 2 ล้าน ใส่กล่องขนมมอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกา ว่า อาจจะพิจารณาลงโทษทนายความสูงสุด ถึงขั้นถอดใบอนุญาตทีมทนายความทั้งหมด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.50 น. ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาจำเลยที่ 1-2 ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก และน.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ ทีมทนายความคดีเดียวกัน ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว แต่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว จากนั้น นายพิชิฏได้เดินทางออกจากห้องพิจารณาคดี โดยถูกใส่กุญแจมือ แต่ใช้เสื้อสูทคลุมไว้ ซึ่งนายพิพิฏมีใบหน้าเศร้าและมีน้ำตาคลอด ขณะที่ น.ส.ศุภศรีได้เดินก้มหน้าตลอดเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์กำลังนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขึ้นรถตู้เพื่อนำตัวไปยังเรือนจำต่อไป

    ขณะที่นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากการนำกล่องขนมบรรตุเงิน 2 ล้านบาทไปมอบให้ศาล ว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เพราะศาลจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

    นายวิชิต กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องปรับเปลี่ยนทีมทนายใหม่ เพราะในชั้นไต่สวนจำเป็นต้องใช้ทนายความ แต่ยังไม่ได้หารือเรื่องนี้กับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เลขานุการส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด ส่วนตนจะเป็นทนายให้พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น ต้องไว้หารือกันก่อน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายพงศ์เทพนัดแถลงกับสื่อมวลชนในเรื่องดังกล่าว ที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อยู่แถลงข่าว โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจต้องไปงานศพ

    ....................

    รายละเอียดคำสั่งศาล

    ตามที่มีผู้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาท มาให้เจ้าหน้าที่แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาขึ้นเพื่อทำการไต่สวนหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และองค์คณะได้ทำการไต่ส่วนพยานเสร็จสิ้นแล้ว โดยนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 25 มิถุนายน 2551 เวลา 14.00 น.นั้น

    วันนี้เวลา 14.00 น. องค์คณะไต่สวนได้อ่านคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องฟังแล้วตามทางไต่สวนปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีผู้ถูกกล่าวหา 3 คน คือ นายพิชิต หรือพิชิฏ ชื่นบาน ที่ 1 น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ ที่ 2 และนายธนา ตันศิริ ที่ 3 ข้อเท็จจริงในการไต่สวนได้ความว่า

    ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นำถุงกระดาษข้างในบรรจุเงินประมาณ 2 ล้านบาท มามอบให้หม่อมหลวงฐิติพงศ์ ชมพูนุท นิติกรประจำแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจริง โดยน่าจะมีเจตนาจูงใจหม่อมหลวงฐิติพงศ์และเจ้าหน้าที่ในแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ให้การกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยผู้ถูกกล่าวหาที่2 และที่ 3 ไม่มีส่วนร่วมรู้เห็นนั้น ไม่อาจรับฟังได้ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามเป็นการร่วมกันประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ซึ่งการกระทำดังกล่าวกระทำที่ศาลฎีกา เป็นกรณีร้ายแรงจึงลงโทษผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 จำคุกคนละ 6 เดือน และการกระทำของผู้ดังกล่าว ข้อต่อสู้ของผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ที่ว่าหยิบถุงผิดโดยประสงค์จะมอบถุงบรรจุช็อกโกแลตให้แก่พนักงานและที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และที่ 2 ต่อสู่ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นนั้น ไม่อาจรับฟังได้ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามเป็นการร่วมกันประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีความแพ่ง มาตรา 31 (1) ,33 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งการกระทำดังกล่าวกระทำที่ศาลฎีกา เป็นกรณีร้ายแรง จึงให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 จำคุกคนละ 6 เดือน และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามน่าจะมีมูลความผิดให้สินบนแก่พนักงานตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 144 หรือความผิด อื่นต่อเจ้าพนักงานนั้น ให้เลขานุการศาลฎีกาดำเนินการตามกฏหมาย แก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

    ที่มา : มติชนออนไลน์
    http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=3919
    ********************************************
     
    Last edited: 4 Apr 2016
    อู๋ คาลบี้ และ Anduril ถูกใจ.
  28. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    คุก 6เดือน!พิษถุงขนมเชือดทีมทนายทักษิณ

    แจ้ง ตร.เอาผิดคดีสินบนพิชิฏลั่นมีคนอื่นสานต่อ
    ลงดาบเชือด "ทีมทนายแม้ว"ศาลฎีกาตัดสิน จำคุกคนละ 6 เดือนไม่รอลงอาญา"พิชิฎ-ศุภศรี-ธนา"โทษฐานละเมิดอำนาจศาลคดีสินบน 2 ล้านบาท หลังจากไต่สวนข้อเท็จจริงหลักฐานมัดแน่นในวันเกิดเหตุ “ญาติหญิงอ้อ”ให้เสมียนทนาย เรียก “นิติกร 5” ไปพบในห้องทนายความ อ้างนำขนมมาฝาก แต่พอเปิดถุงดูกลายเป็นแบงก์พัน 10 มัดเลยรีบรายงานผู้ใหญ่มาตรวจ ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหายืนยัน หยิบถุงช็อก โกแลตมาให้ผิด ส่วนเงินเป็นค่าซื้อขายบ้าน แต่ศาลพิเคราะห์แล้วฟังไม่ขึ้น เชื่อหวังผลจูงใจให้กระทำการอันมิชอบ แถมท้าทายศาลสูงสุดของประเทศ สมควรลงโทษสถานหนักไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สั่งแจ้งความไล่บี้เอาผิดข้อหาติดสินบนซ้ำ หลังถูกตัดสิน “พิชิฏ-ศุภศรี” ถึงกับเครียดหนัก ร่ำไห้คอตกเข้าเรือนจำ “ธนา” ไม่ยอมมาฟังเจอถูกออกหมายจับแล้ว ด้านสภาทนายเตรียมลบชื่อออกจากการเป็นทนาย เผยวันเกิดเหตุ “ทักษิณ” ก็เดินทางมาด้วย มั่นใจไม่มีผลกระทบคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ

    จากเหตุการณ์มีผู้นำถุงขนมใส่เงินจำนวน 2 ล้านบาท ไปให้เจ้าหน้าที่ภายในศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา บอกว่าให้ “เอาไปแบ่ง ๆ กัน !” แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีใครกล้ารับพร้อมยังรายงานผู้พิพากษามาตรวจสอบแล้วบันทึกภาพเอาไว้ก่อนจะส่งคืน หลังเกิดเรื่อง นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ได้มีคำสั่งแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คนขึ้นไต่สวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าในวันเกิดเหตุได้มีนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมลูกทีมทนายได้เดินทางไปยื่นคำร้องเพื่อรายงาน ตัวต่อศาลฎีกาตามคำสั่งศาล หลังจาก พ.ต.ท. ทักษิณ เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่นายพิชิฏยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

    ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวัน ที่ 25 มิ.ย. ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตั้งแต่ช่วงสายได้มีกลุ่มสื่อมวลชนจำนวนมากทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์มาปักหลักรอทำข่าวเนืองแน่น หลังจากทางองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำสั่ง กรณีสิน บนในถุงขนม 2 ล้านบาท โดยมีการเสริมกำลังรปภ.มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ต่อมานายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความที่ถูกพาดพิงถึง พร้อมด้วย น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนาย ได้เดินทางมาถึงศาลแล้ว แต่ไม่ยอมเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกแต่เพียงว่าหลังจากฟังคำสั่งแล้วจะเปิดเผยถึงรายละเอียดต่าง ๆ ส่วนนายธนา ตันศิริ 1 ในทีมทนายที่ถูก กล่าวหาด้วยไม่ได้เดินทางมาอ้างว่าป่วย

    กระทั่งเวลา 15.00 น. นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา นายวีรพล ตั้งสุวรรณ และนายอิศเรศ ชัยรัตน์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา องค์คณะผู้พิพากษาไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีทนายความอดีตนักการเมือง นำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาท มามอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 51 ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง คดีดำ ลอ.1/2551 หมายเลขแดงที่ 4599/2551 ความแพ่ง ระหว่างนายอนันต์ วงศ์ประภารัตน์ เลขา นุการศาลฎีกา ผู้กล่าวหา และนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร, น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 เรื่องละเมิดอำนาจศาล

    สืบเนื่องจากนายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ทำหนังสือบันทึกลงวันที่ 10 มิ.ย.51 ถึงนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 51 เวลา 09.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งวัน ดังกล่าวนายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ไปตรวจดูความเรียบร้อยที่ศาลฎีกา หลังจากนั้น ม.ล.ฐิติพงศ์ ชมพูนุช นิติกร 5 ประจำแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เข้ามาสอบถามเรื่องที่ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ นำสิ่งของซึ่งเป็นถุงกระดาษสีขาวปิดสก๊อตเทปใสมิด ชิด มาให้เจ้าหน้าที่ว่าจะรับไว้ได้หรือไม่ โดยเมื่อเปิดถุงแล้วพบธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 2 ตั้ง ตั้งละ 10 มัด รวมประมาณ 2 ล้านบาท นายอนันต์ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ส่งคืน โดยเหตุการณ์ ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาถึงศาลเพื่อรายงานตัว

    จากการไต่สวน ม.ล.ฐิติพงศ์ ได้ความว่า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาถึง นายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 สั่งให้ น.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แจ้งต่อ ม.ล.ฐิติพงศ์ ว่า ให้ไปพบเพื่อจะปรึกษาคดี ม.ล.ฐิติพงศ์ จึงไปพบที่ห้องพักทนายความ ภายในห้องมีเพียง 2 คน โดย ม.ล.ฐิติพงศ์ นั่งโต๊ะตรงข้ามกับนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ได้หยิบถุงกระดาษส่งให้ พร้อมบอกว่า “ระยะนี้ต้องมาติดต่อบ่อย เห็นใจเจ้าหน้าที่ เลยเอาของมาฝาก ให้ไปแบ่งกัน” จากนั้น ม.ล.ฐิติพงศ์ จึงได้เดินไปหานายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯแต่ไม่อยู่ เนื่องจากเดินทางไปประชุมที่รัฐสภาจึงไปพบนายอนันต์ ที่ตรวจงานอยู่ จึงสั่งให้เปิดถุง เมื่อพบว่าเป็นเงิน จึงสั่งให้คืนเจ้าของไป เพราะการรับถุงไว้น่าจะเป็นการไม่ชอบ อาจละเมิดอำนาจศาล และเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน โดยได้มีการถ่ายรูปธนบัตร และถุงไว้เป็นหลักฐาน

    ศาลฎีกาประชุมตรวจสำนวนแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นที่ยุติว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 51 เวลา 09.30 น. นายพิชิฏ น.ส.ศุภศรี และนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ขึ้นไปยังชั้น 4 เพื่อยื่นคำร้องการรายงานตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จำเลยในคดีทุจริตซื้อขายที่รัชดาภิเษก หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งมี ม.ล.ฐิติพงศ์ เป็นผู้ดูแลสำนวน โดย น.ส. ศุภศรี เสมียนทนายของนายพิชิฏ ซึ่งเป็นทนายเจ้าของคดี ได้นำคำร้องยื่นต่อศาลก่อนที่ พ.ต.ท. ทักษิณ จะเดินทางมาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯเพื่อรายงานตัว โดย น.ส.ศุภศรีได้มาแจ้งกับ ม.ล.ฐิติพงศ์ ว่า นายธนา ให้ไปพบ เพื่อปรึกษาคดีที่ห้องพักทนายความ ทั้งที่นายธนา ยืนห่างเพียง 1 วา และเมื่อเข้าไปพบนายธนากลับยื่นถุงกระดาษซึ่งปิดผนึกมิดชิด ภายในบรรจุเงิน 2 ล้านบาท โดยไม่บอกว่าภายในบรรจุอะไร เพียงแต่ให้เอาแบ่งกัน

    จากการไต่สวนนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 อ้างว่า เมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 21.00 น. นายบุญชาญ อักษรสุวรรณ ได้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาท ที่ได้ซื้อบ้านผู้ถูกกล่าวหาในราคา 5.3 ล้านบาทมาให้ และได้เตรียมนำเงินดังกล่าว ไปฝากธนาคารในวันรุ่งขึ้น โดยให้ภรรยาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณหญิงพจมาน นำเงินบรรจุใส่ถุงกระดาษปิดผนึกมิดชิด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้ภรรยาไปซื้อช็อกโกแลต และห่อในลักษณะ เดียวกัน เพื่อเตรียมมอบให้เจ้าหน้าที่ศาลในวันที่ 10 มิ.ย. 51 ซึ่งเป็นวันยื่นคำร้องรายงานตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่าง ๆ ในคดี ขณะที่วันเกิดเหตุได้นำถุงขนมวางไว้ที่นั่งด้านหลังเบาะรถ ส่วนห่อเงินได้ใส่ไว้ที่กระโปรงหลังท้ายรถ แต่ตนได้หยิบถุงผิดไป เมื่อทราบจึงแจ้งให้นายพิชิฏ ทราบเพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ โดยนายพิชิฏผู้ถูก กล่าวหาที่ 1 ได้โทรศัพท์หา ม.ล.ฐิติพงศ์ พร้อมกล่าวคำขอโทษ แต่ ม.ล.ฐิติพงศ์ แจ้งว่าได้ทำบันทึกถึงผู้บังคับบัญชาแล้ว

    คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า นายธนา รู้หรือควรรู้ว่าในถุงมีเงินอยู่หรือไม่ ซึ่งในการไต่สวน ม.ล.ฐิติพงศ์ ให้การว่านายธนา เป็นผู้หยิบถุงเงินที่ปิดมิดชิดมอบให้โดยไม่แจ้งว่าเป็นสิ่งใด ก่อนจะเปิดพบเป็นเงิน ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งให้ส่งคืนไป โดยมีเจ้าหน้าที่ศาลนำถุงส่งคืนกับมือนายธนา พร้อมถามว่า รู้หรือไม่ว่าข้างในมีอะไร นายธนา ได้ตอบว่า รู้ และเดินกลับไป โดยไม่มีท่าทีอิดเอื้อนตอบกลับซึ่งเป็นพิรุธ เห็นว่าหากเป็นไปตามที่นายธนา กล่าวอ้างว่าหยิบถุงผิดไป โดยคนขับรถเป็นผู้นำถุงผิดมาให้ตน โดยไม่มีการตรวจสอบก่อน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าของ 2 สิ่งลักษณะห่อเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติว่าจะมีการหยิบผิด และเมื่อเจ้าหน้าที่ทักท้วงก็ต้องเปิดดู และตรวจสอบสิ่งของแต่กลับไม่ดำเนินการ อีกทั้งหากนายธนา จะนำช็อกโกแลตมามอบให้จริงก็ควรจะนำไปมอบให้ที่เคาน์เตอร์อย่างเปิดเผยเพื่อความบริสุทธิ์ใจ จึงเชื่อว่านายธนาได้รู้อยู่แล้วว่าในถุงกระดาษดังกล่าวมีเงิน 2 ล้าน

    ส่วนนายพิชิฏ และ น.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และ 2 มีส่วนรู้เห็นหรือให้ความร่วมมือในการกระทำของนายธนา ผู้ถูกกล่าว หาที่ 3 หรือไม่ จากการไต่สวน ม.ล.ฐิติพงศ์ ได้ความว่านายพิชิฏ เป็นทนายความของ พ.ต.ท. ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ส่วนน.ส.ศุภศรี เป็นเสมียนทนายและเลขานุการส่วนตัวของนายพิชิฏ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ส่วนนายธนา เป็นผู้ติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวันเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนได้มายื่นคำร้อง ขณะที่ น.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มาแจ้ง ม.ล.ฐิติพงศ์ ให้ไปพบนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ปรากฏว่า ทั้งนาย พิชิฏ และ น.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 อยู่ในเหตุการณ์ด้วย อีกทั้งเมื่อ ม.ล.ฐิติพงศ์ เดินเข้าไปพบนายธนา ที่ห้องพักทนายความแล้วเดินออกมาพร้อมถุงกระดาษ นายพิชิฏและ น.ส. ศุภศรี ก็ได้เห็นเหตุการณ์ วิสัยของคนทำงานร่วมกัน นายพิชิฏจะต้องสอบถามและซักไซ้หรือบอก กล่าวให้รู้กันว่าจะนำช็อกโกแลตมาให้เจ้าหน้าที่ศาลโดยไม่ต้องปิดบัง

    ซึ่งนายพิชิฏ เป็นหัวหน้าคณะทนาย ความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน การกระทำของนายธนา นอกจากจะเป็นเรื่องร้ายแรงแล้วยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีและกระทบต่อวิชาชีพของนายพิชิฏ แทนที่จะซักไซ้ไล่เลียงให้เกิดความชัดเจนหรือนำถุงสิ่งของที่ถูกต้องมาเปลี่ยนมอบให้หรือต่อว่านายธนา แต่นายพิชิฏ กลับทำตามคำร้องขอของนายธนา โทร ศัพท์มากล่าวขอโทษกับ ม.ล.ฐิติพงศ์ พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พฤติการณ์ของนายพิชิฏ ชัดแจ้งว่ามีส่วนร่วมถือเป็นตัวการร่วม ส่วนน.ส.ศุภศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แม้เป็นเสมียนทนายความ แต่ก็ร่วมรู้ในเหตุการณ์ โดยเป็นผู้เรียก ม.ล.ฐิติพงศ์ ให้ไปพบกับนายธนา พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่า น.ส.ศุภศรี มีส่วนร่วมรู้เห็นกับนายธนา และแบ่งหน้าที่กันทำจึงฟังได้ว่า ทั้งนายพิชิฏ และ น.ส.ศุภศรี เป็นตัวการร่วมกับนายธนา
     
  29. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยข้อสุดท้ายว่าทั้งสาม กระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เห็นว่าการนำถุงกระดาษใส่เงิน 2 ล้านบาทให้ ม.ล. ฐิติพงศ์ ถือว่าเป็นเหตุจูงใจให้เจ้าหน้าที่ของศาลฎีกาฯ กระทำการอันมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่อาจเชื่อมโยงเป็นประโยชน์ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามซึ่งกระทำการร่วมกันจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและพาณิชย์ ม.31 (1), 33 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา ม.83 และน่าจะมีมูลความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ตามประมูลกฎหมายอาญา มาตรา 144 หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงาน การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามเป็นการกระทำที่อุกอาจท้าทายและเกิดขึ้นที่ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลยุติธรรมสูงสุดของประเทศ อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามประกอบอาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายย่อมตระหนักดีว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาลยุติธรรมและจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในอำนาจตุลาการจึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนักเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ๆ ละ 6 เดือน ส่วนความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 144 หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงานนั้น ให้นายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ผู้กล่าวหาคดีนี้ไปดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

    ส่วนนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำสั่งออกไปเป็นเวลา 7 วัน อ้างว่าปวดศีรษะ ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุเพียงพอ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้ออกหมายจับนายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มาบังคับคดีตามคำสั่งศาลต่อไป

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั่งรอฟังคำสั่ง ตอนแรกนายพิชิฏไม่แสดงอาการเครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด ยังได้พูดคุยกับ น.ส.ศุภศรี พร้อมกับตบหลังให้กำลังใจกัน นอกจากนี้นาย พิชิฏ ยังได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเองว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การกระทำนั้นเกิดจากนายธนา เป็นผู้ดำเนินการเองโดยตลอด อย่างไรก็ดี ภายหลังศาลมีคำสั่งจำคุกไม่รอลงอาญา นาย พิชิฏ และ น.ส.ศุภศรี มีสีหน้าท่าทางอาการเครียดเห็นได้ชัด น.ส.ศุภศรี ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่น้ำตาไหลพรากออกมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เข้ามาควบคุมตัวทั้งสองและให้ถอดเครื่องประดับทรัพย์สินมีค่าและอุปกรณ์สื่อสารฝากญาติไว้

    ต่อมานายพิชิฏ ได้ให้ทีมทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัวพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดต่อศาลฎีกาโดยไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเงิน แต่ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เกิดขึ้นภายในบริเวณศาลฎีกาดังนั้นคำสั่งของศาลฎีกาจึงเป็นที่สุดให้ยกคำร้องประกันตัว จากนั้นเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้สวมกุญแจมือนายพิชิฏ นำตัวขึ้นรถตู้ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยระหว่างทางนายพิชิฏ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงคดีที่ดินรัชดาภิเษกสั้น ๆ ว่า คดีนี้มีทีมทนายความคนอื่นรับผิดชอบอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร ส่วน น.ส.ศุภศรี ระหว่างถูกนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน เอาแต่ก้มหน้าหลบตลอดเวลา

    ด้านนายอเนก คำชุ่ม ทีมทนายความที่ดินรัชดาภิเษก กล่าวว่า คดีละเมิดอำนาจศาล ที่ศาลสั่งจำคุกนายพิชิฏ จะไม่กระทบกระเทือนกับการว่าความในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก เพราะคดีนี้ตนก็รับผิดชอบมาตั้งแต่ต้น โดยเป็นผู้ดูแลด้านเอกสารหลักฐานและคำถามซักค้าน พยานโจทก์ในคดี โดยวันที่ 30 มิ.ย.จะยื่นบัญชีรายชื่อพยานจำเลย 22 ปาก เช่นเดียวกับโจทก์ 22 ปาก และศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกวันที่ 8 ก.ค.

    เมื่อถามว่าได้รายงานเรื่องนี้ให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ทราบหรือยัง นายอเนก กล่าวว่า ตนไม่เคยรายงานใครรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องคดีเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับคดีละเมิด โดยมั่นใจในพยานเอกสารหลักฐานที่มีว่าจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับลูกความได้ ไม่จำเป็นต้องติดสินบนเจ้าหน้าที่ธุรการศาลแต่อย่างใด

    ขณะเดียวกันนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานกรรมการมารยาทสภาทนายความ ให้สัมภาษณ์ ว่า หลังจากได้คำสั่งจากศาลฎีกาแล้วก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมารยาทสภาทนายความ เพื่อพิจารณาโทษของทั้งสามคน โดยโทษของคดีละเมิดอำนาจศาล มีสถานเดียวคือการลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ

    ส่วนที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล 1 ในทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาสั่งจำคุก นายพิชิฏ และพวก 3 คนว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม คิดว่าคงจะไม่กระทบกับการพิจารณาคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเชื่อว่าศาลให้ความยุติธรรมในการต่อสู้คดี

    ที่กรมราชทัณฑ์ นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า นายพิชิฏ และน.ส.ศุภศรี คืนแรกจะอยู่ในแดนแรกรับ เบื้องต้นไม่ได้สั่งการให้ดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็สั่งเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแล โดยในช่วงแรกจะเน้นการปรับให้ผู้ต้องหาขังแรกรับสามารถใช้ชีวิตในเรือนจำร่วมกับผู้อื่นให้ได้ตามปกติ จากนั้นก็จะเข้าสู่ระเบียบของทางเรือนจำ โดยผู้ชายจะถูกนำตัวไปตัดผม อย่างไรก็ตามคดีละเมิดอำนาจศาลนี้ไม่สามารถอุทธรณ์หรือฎีกาได้.

    http://203.149.30.199/law/news_detail.php?bn_id=1405
     
  30. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    จนบัดนี้ เพลานี้ มันก็ล่วงเลยเข้าไป 6-7 ปีแล้ว
    นายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา ก็ยังไม่ดำเนินการตามกฏหมาย เพื่อจะเอาผิด
    ในคดีความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องเลย
     
  31. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    5555 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

    ยอมรับว่าบางทีก็งง เจอมันตอแหลหน้าด้านๆจนผมถึงกับเขวไปก็มี คิดว่ามันมีข้อมูลทันสมัยกว่า

    แต่ปรากฏว่าทุกงานล้วนโกหกตอแหล ไม่ก็หน้าด้านลักไก่เอา

    สันดานนายจ้างลูกจ้างนี่มันช่างเหมือนกันจริงๆ
     
    JSN likes this.
  32. 5555

    5555 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    18 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,450
    รายนามอัยการสูงสุดของไทย[2]

    1. ศาสตราจารย์ ดร.โกเมน ภัทรภิรมย์ (1 มี.ค. 2534 - 1 ต.ค. 2536)
    2. นายโอภาส อรุณินท์ (1 ต.ค. 2536 - 30 ก.ย. 2537)
    3. ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.คณิต ณ นคร (1 ต.ค. 2537 - 30 ก.ย. 2540)
    4. ศาสตราจารย์ สุชาติ ไตรประสิทธิ์ (1 ต.ค. 2540 - 30 ก.ย. 2544)
    5. นายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ ( 1 ต.ค. 2544 - 30 ก.ย. 2546)
    6. ศาสตราจารย์พิเศษ เรวัต ฉ่ำเฉลิม (1 ต.ค. 2546 - 30 ก.ย. 2547)
    7. ศาสตราจารย์พิเศษ คัมภีร์ แก้วเจริญ (1 ต.ค. 2547 - 30 ก.ย. 2548)
    8. นายพชร ยุติธรรมดำรง (1 ต.ค. 2548 - 30 ก.ย. 2550)[3]
    9. ศาสตราจารย์พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ (1 ต.ค. 2550 - 2552)
    10. ศาสตราจารย์พิเศษ จุลสิงห์ วสันตสิงห์ (1 ต.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2556)
    กรูว่าแล้วมันแปลก
    เลยลองไปดูชื่ออัยการช่วงคดีถุงขนมหน่อย
    พอเกษียณไม่นาน ก็ได้เป็นรัฐมนตรีเลย
    นี่มันยังมีหน้ามาอ้างอัยการสั่งไม่ฟ้องอีกน๊ะเนี่ย

    555
     
  33. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    ทำไมตอแหลจังครับ สมาชิกอุตส่าห์ทั้งเคี้ยวทั้งป้อน หรือชาตินี้แกจะกินได้แค่ขี้แม้วครับ
     
    apollo, นิจนิรันดร์, maya และอีก 1 คน ถูกใจ.
  34. นิจนิรันดร์

    นิจนิรันดร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,472
    ไม่งับข้อมูลจากแหล่งอื่น
    งับข้อมูลของแกนนำและงับขี้แม้วเท่านั้น
     
  35. comma

    comma อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    28 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,142
    เขาไม่ฟ้องเพราะมันไม่โจ่งแจ้งไง ซึ่งปกติคนให้สินบนก็ทำแบบลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้อยู่แล้ว หรือคุณว่าไอ้ถุงขนม 2 ล้านของทนายแม้วนี่มันไม่ใช่การให้สินบน? โลกสวยกับแม้วสมเป็นเสื้อแดงจริง ๆ
     

Share This Page