"แพะรับบาป" ความอัปยศของกระบวนการยุติธรรมไทย .... โดย...วรรณโชค ไชยสะอาด ข่าวครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร กำลังกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในสังคมไทย หลังเธอถูกกล่าวหาว่าขับรถยนต์ชนผู้อื่นเสียชีวิตที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/report/475355
อย่างนี้สิเขาเรียกว่ายุติธรรม เมื่อความจริงประจักษ์ก็แก้ไข ไม่กวาดหมกไว้ใต้พรม แต่ความยุติธรรมแบบสังหารแบบฆ่าปิดปากไปกว่าสองพันศพรวมเด็กและผู้หญิง อ้างว่าปราบปรามยาเสพติดนี่สิ คืออาชญากรรมของแท้ ไอ้ตัวคนสั่งก็ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน ระเหเร่ร่อนอยู่จนทุกวันนี้
ถ้าหากย้อนไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 48 ช่วงนั้นกระแสการเมืองกำลังคุกรุ่น เหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ และเงียบไป ผลงานข้าราชการยุคนั้นมุ่งเน้น ตอบสนองฝ่ายการเมืองมากกว่าจะปฏิบัติตามหน้าที่ วันนี้สถานการณ์เปลี่ยน ทำให้เห็นความบกพร่องหลายอย่างที่ผู้มีอำนาจยุคนั้นพยายามทำเพียงเพื่อ ให้ตัวเองได้ดี ไม่สนใจในความเดือดร้อน ความยุติธรรมหรือแม้แต่ข้อเท็จจริง
"แพะรับบาป" ความอัปยศของกระบวนการยุติธรรมไทย .... คือเสื้อแดงติดคุกที่ต้องรับกรรมแทนคน 2 คน คนแรกคือคนที่พยายายามต่อสู้ถวายชีวิตให้ แต่กลับทอดทิ้งหนีเอาตัวรอดไปต่างประเทศ ไม่เคยติดต่ออะไรเลย คนที่สอง ไม่เคยลำบากอะไรเลย ทำเป็นตีสนิทเป็นเพื่อนเป็นพรรคพวก แต่จริงๆแอบเอาชื่อเสียงเขามาหากิน ใช้ด่าคนอื่นเพื่อระบายความใคร่ตัวเอง พอหมดประโยชน์ก็ทอดทิ้งไม่ใยดี น่าสงสารจริงๆ
ระบบศาลเมืองไทยตัดสินโดยได้ต้นธารข้อมูลจากตำรวจไทยและอัยการ ไม่มีการทำเกินกว่านั้นไปได้ ถ้าจะขุดจริง ต้องอย่าแยกส่วนวิพากษ์วิจารณ์ หาไม่เจ้าของกระทู้นั่นแหละคือคนที่แสดงตนเป็นคนอัปยศอย่างเลวร้ายที่สุด
เมื่อความจริงประจักษ์ก็แก้ไข ไม่กวาดหมกไว้ใต้พรม ที่ว่าแก้ไข แก้ไขตรงไหนบ้าง ? กี่ครั้งกี่คดีแล้วแพะรับบาปแบบนี้ ต่อไปจะมั่นใจได้ไงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ? ถ้าตอบมาไม่ได้คงพอจะเข้าใจนะ ใครเค้าจะอยากเข้ามาเสวนากับ "คนบรมโง่" กระบือบื้อสักแต่พ่นน้ำลาย หาแก่นสารในสมองไม่ได้
ไอ้ควาย การแก้ไข ทั้งรื้อฟื้นคดีใหม่ จนกระทั่งปล่อยตัว ทั้งหมดก็อยู่ในลิ๊งค์ที่เอ็งquoteมาตั้งแต่ตอนตั้งกระทู้ไงเล่า จะตั้งกระทู้เล่นงานกระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยก็อ่านสิ่งที่แปะมาด้วยสิ อย่าคิดแต่เอาเงินคาโพสท์อย่างเดียว มิน่าเล่า ทั้งนายเอ็ง เพื่อนเอ็ง ถึงต้องดาหน้าเดินเข้าคุกเพราะมีควายอย่างเอ็งที่โพสท์ทำยอดแบบไม่คิดตรวจเนื้อหานี่เอง
งั้นเจ้าพระยาใจดำก็เป็น "คนบรมโง่" กระบือบื้อสักแต่พ่นน้ำลาย หาแก่นสารในสมองไม่ได้ ไม่เห็นตอบอะไรผมได้เลย
คิดว่าคงไม่หรอกครับ ก็วนเวียนเปลี่ยนร่างไปเรื่อยนะแหละ ที่กลับร่างเดิม ก็แค่ให้เราไขว้เขว้เลิกจับผิดว่าเป็นด๊อกโสตัวปลอมชั่วคราวละครับ สงสัยคงไปรับงานเพิ่ม เพราะค่าจ้าง 20 บาทยังสำคัญรองลงมา จุดหมายที่แท้จริงของเจ้าพระยาใจดำคือความสนุกในการยั่วโมโหกับการล้อเล่นดูถูกความคิดความเชื่อของคนอื่น ในขณะที่ตัวเองเป็นพวกนอกรีตไม่กล้าจะเชื่ออะไรเพราะกลัวจะล้มเหลว ผิดหวัง กลัวที่จะรับผิดชอบ จะเห็นได้ว่าขนาดรับจ้างมายังคึกคะนองปากมากจนเผลอด่าหรือทำให้ภาพพจน์นายจ้างแย่กว่าเดิม
คดีนี้ปัญหาอยู่ที่ตำรวจกับอัยการนี่ครับ ซึ่งเราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าทำงานกันยังไง คนพวกนี้เป็นเสื้อแดงเยอะซะด้วย มือดีก็เป็นเสื้อแดงพวกเดียวกันดูแลกันเองหน่อยครับ ไม่ใช่ว่าโพสต์กระทู้ได้เงินสามทู้ยี่สิบแล้วก็พอแล้ว ไม่ทำอย่างอื่นบ้างเลย
คนโคราชถูกรางวัลที่ 1 โดนยิงตายเพราะคิดว่ารวยจากการขายยาเสพติด นั่นแพะรับบาปป่าว ศาลเค้าไม่รู้เรื่องไรหรอก ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน เหตุเกิดตอนปี 48 ก็รู้อยู่แล้วตำรวจยุคนั่นมันมั่วขนาดไหน ขนาดคนถูกรางวัลที่ 1 ยังถูกยิงตาย เพราะหาว่าขายยาเลย
โผล่หัวแล้ว อดีตร้อยเวรทำคดี “ครูจอมทรัพย์” เป็นแพะคดีชนคนตายติดคุก อ้างทำตามขั้นตอน กม.(ชมคลิป) พ.ต.ท. ทงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง รอง ผกก.( สอบสวนฯ) สภ.คำชะอี ช่วยราชราชการ สภ.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร อดีตตำรวจประจำ สภ.เรนูนคร จ.นครพนม มุกดาหาร - นายตำรวจร้อยเวรเจ้าของคดีรถชนคนตายที่นครพนมจนทำให้ “คุณครู” ชาวสกลนครต้องกลายเป็นแพะติดคุกฟรีกว่าปี โผล่แล้ว อ้างทำตามขั้นตอนการสอบสวน ไม่ได้กลั่นแกล้ง วอนสังคมให้ฟังข่าวสองด้าน จากข่าวกระฉ่อนโลก ตำรวจไทยจับแพะเข้าคุกในกรณีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร วัย 54 ปี ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เมื่อปี 2548 และถูกจำคุกเมื่อปี 2556 ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 รวมเวลาอยู่ในคุก 1 ปี 6 เดือน ล่าสุดวันนี้ (12 ม.ค.) พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง รอง ผกก.( สอบสวนฯ) สภ.คำชะอี ช่วยราชราชการ สภ.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร อดีตตำรวจประจำ สภ.เรนูนคร จ.นครพนมเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าว เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 มี.ค. 48 ขณะที่ตนเข้าเวรพนักงานสอบสวนก็ได้รับแจ้งเหตุว่ามีรถยนต์ชนรถจักรยาน 2 ล้อ มีผู้บาดเจ็บ ก็ได้ไปที่เกิดเหตุพร้อมพวก ส่วนรถยนต์ได้หลบหนีไป พบแต่จักรยาน 2 ล้อที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีส่งโรงพยาบาลนาแก จากการตรวจสอบที่เกิด พบจักรยาน 2 ล้อตะเกียบหลุด และมีรอยแลกสีกันที่ตะเกียบกับบังโคลนหน้าของรถจักรยาน 2 ล้อ ได้ถ่ายภาพ และทำแผนที่เกิดเหตุ และได้ไปดูผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และต่อมาได้เสียชีวิต ขณะตรวจที่เกิดเหตุพบพยาน 3 ปาก ได้จดชื่อ นามสกุล ที่อยู่ไว้ และได้สอบปากคำว่าเป็นรถยนต์ชนรถจักรยาน 2 ล้อ ก่อนเกิดเหตุพยาน 3 ปากได้ขี่จักรยานยนต์มาจากช่วยงานบุญ มาเห็นเหตุการณ์ และได้เอาไฟหน้ารถส่องดูป้ายทะเบียน สอบปากคำและตรวจสอบรถ ก็ให้ความร่วมมือ มีป้ายทะเบียนหน้ากับกันชนสีถลอกที่ติดรถจักรยาน 2 ล้อ กับบังโคลนหน้า ได้สอบปากคำเจ้าของรถให้การว่าได้ไปยืมรถยนต์ในช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระ ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาได้ขายให้ญาติไปแล้ว แต่ไม่มีรถ จึงยืมไปทำธุระก่อน เหตุเกิดประมาณ 1 ทุ่มของคืนนั้น จากการสอบพยาน 3 ปาก สอบเจ้าของรถ ตรวจสอบรถ มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนครพนมมาตรวจสอบระหว่างจักรยาน 2 ล้อ กับรถยนต์ ปรากฏว่าเข้ากันได้ในช่วงสูงต่ำ ก็เลยขอป้ายทะเบียนรถยนต์ และจักรยาน 2 ล้อ ส่งพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กทม. ผลออกมาว่าเป็นสีเดียวกันเข้ากันได้ จึงได้ออกหมายเรียกไปยังผู้ถูกกล่าวหามาพบพนักงานสอบสวนพร้อมทนาย ในชั้นสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ขอให้การชั้นศาล และไม่ขออ้างพยานใดๆ จะไปอ้างพยานแถลงข้อเท็จจริงในชั้นศาล จนศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา พิพากษาถึงที่สุด พ.ต.ท.ทนงศักดิ์กล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากคดีสิ้นสุด ทางตนได้ทำไปตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าตามพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้ เชื่อมโยงได้ทุกขั้นตอนไม่มีเลศนัย ไม่ได้เรียกร้องรับผลประโยชน์ใดๆ จากผู้ใดทั้งสิ้น ได้ทำตามหน้าที่ของตนเองทุกอย่าง “ขอวิงวอนประชาชนอย่าไปฟังความข้างเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่ก็ทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ก็ไม่เรียกร้องผลประโยชน์จากผู้ใดแต่อย่างใด”.... พ.ต.ท.ทนงศักดิ์กล่าว http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000003778
ตลกดี อยากเสียดสีทหารว่ายุคนี้ไร้ขื่อไร้แปร่ แต่ไม่กล้าพูดเต็มๆ แกล้งพูดให้เขว้ เพราะตำรวจคงไม่ได้พึ่งเป็นสมัยนี้ปีนี้แน่ เดียวจะกลายเป็นหัวข้อ "ทำไมปูกับแม้วไม่จัดการปฎิรูปตัวเองล่ะ" กลัวพูดเต็มๆจะไปโดนปูกับแม้ว แล้วจะโดนลดค่าจ้างละซิ
จขกท. เหตุเกิดเมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ.2548 เวลาประมาณ 20.00 น. ถ้าจำไม่ผิดสมัยไอ้แม้วเป็นนายกนะ ถึงคดีไม่ได้เพิ่งเกิดถึงคดีความจะนานมาแล้วผ่านมาหลายปี แต่คนที่ได้รับผลกระทบวันนี้ต้องได้รับการเยียวยา เรื่องแบบนี้ผมก็ไม่อยากให้มันเหงียบหายไปเฉยๆ อย่างน้อยต้องมีมาตราการอะไรที่ออกมาแก้ไขบ้าง ขบวนการรวบรวมพยานหลักฐาน ขบวนการสืบสวนสอบสวน ขบวนการไต่สวนพิพากษา ขบวนการเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบจากขบวนข้างต้น อย่าให้มันเกิดขึ้นซํ้าๆจนประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายกับขบวนการพวกนี้ พวกนักมนุษย์สิทธิ มุดหัวอยู่ใหนไม่เห็นออกมาดิ้นบ้างเลย ทีพวกเสื้อแดงเห็นออกมาดิ้นกันจัง จขกท.อย่าดีแต่โหนดูด้วยว่าเขาเยียวยาอะไรหรือยัง รอฟังศาลตัดสินใหม่ 16 มกราคม นี้ ว่าจะออกมาอย่างไร กูว่าสมัยไอ้แม้วไม่มีแบบนี้เรื่องคงเหงียบหายไปตามสายลม ขนาดคดีฆ่าตัดตอน2,000ศพคดียังเหงียบกริบ
9 ม.ค.2560 อดีตครู จ.สกลนคร เข้าขอบคุณ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังติดคุกฟรี กรณีขับรถชนคนเสียชีวิต โดยล่าสุด ศาลจังหวัดนครพนม มีคำสั่งรื้อฟื้นคดีใหม่ ส่วน พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.59 ศาลจังหวัดนครพนมมีคำสั่งรื้อฟื้นคดีใหม่ พร้อมให้การช่วยเหลือบุคคลที่ไม่ได้กระทำความผิด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ถูกต้อง และมีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งไม่เคยนำมาสืบพยาน เพื่อให้ศาลพิจารณาใหม่ คืนตำแหน่งหน้าที่ราชการแก่ผู้เสียหายและจ่ายเงินค่าทดแทนต่อไป
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สกลนคร ถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2548 และถูกจำคุกตั้งแต่เมื่อปี 56 ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 ก่อนจะยื่นหนังสือร้องขอให้ช่วยเหลือในการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ เนื่องจากนางจอมทรัพย์ ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดแต่ต้องตกเป็นแพะจำคุกนานกว่า 1 ปี ทั้งๆ ที่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ลงพื้นที่และพบตัวผู้ก่อเหตุตัวจริงแล้ว ว่า หากนางจอมทรัพย์ จะขอกลับเข้ารับราชการนั้น จะต้องทำเรื่องเสนอไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ต้นสังกัด พิจารณาเพื่อเสนอเรื่องมาให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ให้ความเห็นชอบ และหากต้องการได้รับการเยียวยาในเรื่องอื่น ๆ ก็ขอให้เสนอมาในคราวเดียวกัน “สาเหตุที่ศธ.ไม่สามารถให้นางจอมทรัพย์กลับเข้ารับราชการได้ทันที เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ของ ก.ค.ศ.กำหนดไว้ว่า การขอกลับเข้ารับราชการ จะต้องมีอายุไม่เกิน 50 ปี เพราะฉะนั้น กรณีนี้ต้องส่งเรื่องให้ สพท.ต้นสังกัด ดำเนินการและส่งเรื่องมาให้ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบตามขั้นตอน” ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าว สำนักงานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ยื่นหนังสือถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ลงวันที่ 13 ม.ค.2560 ขอให้เร่งดำเนินการโดยด่วนเพื่อชดเชยสิทธิประโยชน์และเยียวยาจิตใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้ นางจอมทรัพย์ ดังนี้ ขอให้เร่งดำเนินการกลับเข้ารับราชการโดยด่วน โดยให้นับย้อนหลังการต่อเวลาราชการโดยให้ถือว่ามิเคยได้ออกจากราชการครู รวมทั้งให้ชดเชยสิทธิประโยชน์ต่างๆ ย้อนหลัง ได้แก่ ชดเชยเงินเดือน ขั้นเงินเดือนเพิ่ม การนับต่อเวลาการรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ,สิทธิประโยชน์การเข้ารักษาพยาบาล ของ บิดา มารดา บุตร ,สิทธิประโยชน์การเบิกค่าเล่าเรียนของบุตรและค่าเสียโอกาสทางการศึกษา นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ดำเนินการรับบุตรของ นางจอมทรัพย์ เข้าศึกษาในต่อมหาวิทยาลัยที่เดิมที่สอบติด กรณีถ้าบุตรประสงค์จะเรียนในมหาวิทยาลัยดังกล่าว โดยมหาวิทยาลัยต้องจัดหาทุนมาเป็นค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่ ขณะเดียวกัน ขอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ไม่นับเวลาของการขาดส่งเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครู(ช.พ.ค.) และให้ทางสกสค.ชำระแทน ตลอดจนชำระดอกเบี้ยค้างชำระของวงเงินกู้จากธนาคารต่างๆ และประสานธนาคารที่คุณครูเป็นหนี้ให้ถอนการดำเนินคดีแพ่งออกจากระบบศาล และขอให้สำนักงาน สกสค.ดำเนินการอนุมัติเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ นางจอมทรัพย์ เพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรี http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=802570 ขอให้ที่ขอไปได้หมดเถอะครับสงสารครู
พญาควายดำ ParaDon จะอยากได้ จะเรียกร้องมาตราการการแก้ไข อะไรอีกเล่า ขบวนการรวบรวมพยานหลักฐาน ขบวนการสืบสวนสอบสวน ขบวนการไต่สวนพิพากษา ขบวนการเยียวยา ทั้งหมดนี้จำเป็นด้วยรึ แก้ไขแค่ รื้อฟื้นคดีให้ใหม่ จนกระทั่งปล่อยตัว แบบกระบือบื้อ ขายน้ำ มันว่าก็น่าจะพอใจแล้วนะ
มือดีฯที่ปล่อยตัวเพราะได้การปล่อยเพราะพ้นโทษจำคุกครบตามที่ศาลสั่ง 3 ปี อภัยโทษเลยติดแค่1+ปี หลังจากต้องโทษครบตามคำสั่งศาล เขายื่นร้องศาลใหม่ รอดูว่าการสอบสวน-สืบสวน-การไต่สวนจะเหมือนเดิมไม๊ ถ้าเหมือนเดิมคือไม่ได้รับการแก้ไข ถ้าไต่สวนแล้วบริสุทธิ์คือได้รับการแก้ไข วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2560 คงรู้กัน ไม่แน่ใจถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเรื่องคงเหงียบไปแล้ว รัฐบาลประชาธิปไตยชอบให้มีแพะชอบหาคนซวยที่ไม่มีปากมีเสียง ประชาธิปไตยคือเสียงข้างมากเลือกมากูถูกทุกข้อ ใครไม่เห็นด้วยคือผิด ใครไม่ใช่พวกกูผิด
ผมเข้าใจครับ ต้องบอกกระบือบื้อ ขายน้ำ สมองกลวงแล้วล่ะครับ มันเข้าใจ เค้ารื้อฟื้นคดีนี้ให้ใหม่ จนกระทั่งมีการปล่อยตัวครู “ยธ.”แนะสิทธิแพะคดีอาญา-ชี้ครูติดคุกฟรีได้เยียวยา1.6แสน
โอ น่าขำเสียจริง คำก็ยุติธรรม คำก็ว่ามนุษยธรรม แต่ไม่เคยเห็นมือด้วนทำอะไรให้เสื้อแดงติดคุกเลย ทั้งที่เขามีบุญคุณ ทั้งที่เขาเป็นเพื่อน
ครูเขาโชคดีมีเพื่อนช่วยมาตลอดครับ แต่เสื้อแดงเพื่อนมือด้วนติดคุกตั้ง 10 ปี เป็นข่าวมานานแล้วทำไมไม่ช่วยละครับ ไม่เห็นมีข่าวใครให้ความช่วยเหลือจริงจังเลย
ศาลไทยเป็นระบบกล่าวหา ศาลตัดสินตามหลักฐานที่อัยการฟ้อง อัยการก็ได้สำนวนจากตำรวจ ต้องไปตามต้นทางของสำนวนว่าเขียนยังไงคนบริสุทธิ์ถึงติดคุก และถามทนายว่าสู้คดียังไงถึงได้แพ้
อดีตทนายความของ 'ครูแพะ' เปิดเผยกับวอยซ์ ทีวี ถึงเหตุการณ์ในวันต่อสู้คดี ว่าขณะนั้นพบพิรุธในสำนวนของพนักงานสอบสวนหลายประเด็น แต่การหาพยานหลักฐานมาหักล้าง มีข้อจำกัด โดยเฉพาะการเข้าถึงข้อมูลราชการ จึงสนับสนุนให้ครูแพะ ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เป็นพยานและตำรวจทั้งแพ่งและอาญา นายวันชัย สอนศิริ อดีตทนายความนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ 'คดีครูแพะ' เปิดเผยว่า ตนได้รับการว่าจ้างเป็นทนายความนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ในชั้นอุทธรณ์และชั้นศาลฎีกา ขณะนั้น พบพิรุธหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนพนักงานสอบสวนหลายประการ ทั้ง เรื่องของสีรถที่ไม่ตรงกัน สภาพของรถที่ไม่มีการบุบสลาย รวมถึงป้ายทะเบียนรถ หรือแม้แต่เพศของผู้กระทำผิด ทางสำนักทนายได้เขียนอุทธรณ์ ยืนยันว่า ครูจอมทรัพย์บริสุทธิ์ ศาลอุทธรณ์เองก็เห็นพ้อง จนมีคำพิพากษายกฟ้อง แต่ต่อมาอัยการได้ยื่นฎีกา กระทั่งมีคำพิพากษากลับจำคุก ครูจอมทรัพย์ นายวันชัย ยังขอให้ทางกระทรวงยุติธรรม พิจารณาเงินเยียวยาแก่นางจอมทรัพย์เป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งสนับสนุนให้นางจอมทรัพย์ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เป็นพยานและเจ้าหน้าที่สอบสวน หรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ถึงที่สุด ทั้งทางแพ่งและอาญา ทั้งนี้ นางจอมทรัพย์ ถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีนี้เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน แต่ภายหลังปรากฏหลักฐานใหม่ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ http://news.voicetv.co.th/thailand/451881.html มันสู้ที่ไหนไอ้ทนายวันควายคนนี้ มันเลี้ยงไข้ลูกความชัดๆ บอกพบพิรุธหลักฐานหลาย ตั้งแต่ชั้นอุทธรณ์ แต่แก้ต่างให้ไม่ได้ จนต้องติดคุก แต่เรื่องใส่ความ เลียไข่เผด็จการขอให้บอกมัน ทำได้หมด
ขี้ข้าไอ้แม้วกลับมาแสดงสันดานถ่อยๆอีกรอบ แสดงว่าไอ้แม้วหมดหวังกลับบ้านเท่ๆแน่นวน สะใจหว่ะ #ลุงตู่ไม่ต้องรีบชาติหน้าค่อยเลือกตั้งก็ได้
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_181613 นางจอมทรัพย์กล่าวว่า หลังจากไม่ไว้ใจทนาย ตนเองและหลานต้องหาทางพิสูจน์ตนเองให้ได้ว่าบริสุทธิ์ จึงเริ่มสืบว่ารถทะเบียน บค 56 มีที่ใดบ้างจึงเริ่มมีหลักฐานเพิ่มเติมคือ มีรถทะเบียน บค.56 มุกดาหาร แต่เป็นรถ อีซูซุ สีเขียว จากนั้นจึงได้ไปปรึกษาทนายชื่อดังรายหนึ่งในการยื่นมือเข้ามาช่วย จนทำให้ศาลอุทรณ์ยกฟ้องเพราะเชื่อว่าตนไม่ผิด ระหว่างที่ต่อสู้คดีจึงได้หลักฐานเพิ่มเติมจากสำเนาให้การในชั้นศาลของจนท.ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน อ้างอิงในสำนวน คดีดำที่ ป.357/25 3 ต.ค.48 ระบุโดยสรุปว่า จากการได้ตรวจพิสูจน์หลักฐานของกลุ่มการตรวจทางเคมีฟิสิกข์และชีววิทยา กรณีการชนกันบริเวณป้ายทะเบียนรถน่าจะมีรอยบุบหรือรอยกระแทกที่ป้ายทะเบียนไม่มากก็น้อย แต่ในทะเบียนรถของกลางไม่มีร่องรอยกระแทกหรือรอยบุบหรือเฉี่ยวชน ซึ่งระหว่างขูดสีทะเบียนไปตรวจสอบนั้นสภาพทะเบียน รถกระโตโยต้า สีบอร์นเงิน บค 56 สกลนคร นั้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าใช่รถที่ก่อเหตุหรือไม่ก่อนที่เรื่องจะส่งไปชั้นศาลฎีกา แต่ตอนนั้นไม่มีทนายแล้วเพราะไม่มีเงินจ้าง หมดค่าใช้จ่ายเยอะจากการประกันตัวหนี้สินเริ่มพะรุงพะรัง และไม่มั่นใจว่าทนายจะสู้ให้ได้หรือไม่ มั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนผิด แต่สำนวนยังเป็นตัวเดิมตามที่ตำรวจสั่งฟ้อง ส่วนตนขณะนั้นพึ่งจะสืบสาวราวเรื่องจึงมีหลักฐานไม่เพียงพอ ทำให้ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก
ตลกดี ก็แค่แก้ตัวที่ไม่ช่วยเสื้อแดงติดคุก ใส่ร้ายเขา เพราะทนายเสื้อแดงห่วยช่วยใครไม่ได้ ตัวมือด้วนเองก็ไม่กล้าเสียแม้แต่บาทเดียวจ้างทนายดีๆช่วย
เรื่องจะส่งไปชั้นศาลฎีกา แต่ตอนนั้นไม่มีทนายแล้วเพราะไม่มีเงินจ้าง ดูมันครับ ดูมัน ดูทนายหาแดก มันหิวเงินขนาดไหน พอลูกความเงินหมด ไม่มีเงินจ้าง มันถีบหัวส่งลอยแพทันที ปล่อยให้ลูกความผู้บริสุทธิ์ติดคุกได้ลงคอ ทั้งๆที่รู้ครูบริสุทธิ์
ก็ไม่ได้บอกว่าที่ไม่มีเงินจ้างนี้ ไปติดต่อเขาหรือเปล่าหรือคิดว่าเงินไม่พอเลยไม่ได้ติดต่อ เรื่องคนอื่นนี้ยุ่งทุกเม็ด เรื่องเพื่อนตัวเอง 10 ปีไม่แตะสักแอะ
ไม่ถูกครับน่าจะเปลี่ยน "ดูมือด้วนครับ ดูมัน ดูโพสกระทู้หาแดก มันหิวเงินขนาดไหน พอเพื่อนเงินประโยชน์ ไม่มีผลงาน มันถีบหัวส่งลอยแพทันที ปล่อยให้เพื่อนผู้ร่วมทุกข์ติดคุกได้ลงคอ ทั้งๆที่รู้เพื่อนไม่เป็นสุข"
ไปถามเขาหรือยัง อุทธรณ์ กับ ฏีกาห่างกันเท่าไหร่... ทนายเสื้อแดงไปไหน ทนายเพื่อสิทธิฯไปไหนหมด หรือหิวเงินจนไม่สนใจกรณีแบบนี้
จริงปล่อยให้ผู้นำประเทศขี้โกงหนีศาลไปได้ไง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี คราวหลังคนมีเชื่อเสียงคนมีตำแหน่งคนมีอำนาจโดนคดีไม่ต้องประกันตัวขังภายใน24ชั่วโมง เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีกับสังคม
สังคมไทยมันเป็นแบบนี้ อย่าอายความจริงถึงจะเจ็บปวด กล้าทำกล้ารับผิดสำนึกผิดยอมรับโทษสังคมถึงจะเดินต่อไปได้ บางคนผิดผิดแล้วกลับไม่สำนึกไม่รู้สึกว่าตนเองทำให้ใครเดือดร้อน ต้องทุกข์ทรมานทางจิตใจกายไม่เท่าไหร่เพราะจิตใจมันพังไปหมดแล้ว ขอไว้อาลัยให้กับคนบางคนและคนบางกลุ่มที่นั่งใยไผไม่ใส่ใจหรือใยดีต่อความจริง ปล่อยคนชั่วลอยนวล10คนยังดีกว่าเอาคนดี1คนมารับกรรม
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์เฟสบุ๊กอ้างว่าครูจอมทรัพย์ “เป็นผู้ต้องหาตัวจริง” ไม่ได้ตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย ขณะที่เจ้าตัวยืนยันพร้อมสู้ในชั้นศาล นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ว่าได้รับข้อมูล จากชุดสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธร เรณูนคร จังหวัดนครพนม คดีครูจอมทรัพย์ ที่อ้างว่า "ครูจอมทรัพย์เป็นผู้ต้องหาตัวจริง" แต่ใช้วิธีจ้างวานบุคคลอื่นให้มาเป็นเจ้าของรถทะเบียน บค56 สีเขียว หลังมีคนในขบวนการรับสารภาพ ด้าน ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ยืนยันกับว่าไม่ได้จัดตั้งขบวนการหลอกลวง และตกเป็นแพะรับบาปคดีขับรถชนตาย โดยอ้างว่ามีหลักฐานต่อสู้จึงขอให้ศาลจังหวัดนครพนม รื้อคดีขึ้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ http://news.sanook.com/2153110/ โปรดติดตามด้วยความระทึกในหทัยพลัน. ...
ตลกดี อ้างยุติธรรม แล้วแถมาเรื่องทนาย แล้วแถเรื่องฝักฝ่าย แถมที่ขำสุดคือกดไลค์ตัวเอง งั้นถามมือด้วนดีกว่า เกิดตำรวจที่ทำคดีบอกว่าเป็นแดง แล้วครูบอกเป็นเหลือง มือดีจะพูดยังไงครับ ตอบหน่อยซิ แต่เนื่องจากหนีบ่อย ถ้าไม่ตอบก็จะถือว่ามือด้วนยอมรับว่าตัวเองใส่ร้ายคนอื่นละกัน
เงินสร้างได้ทุกอย่างแม้กระทั้งพยานและหลักฐานเท็จแค่อยู่ที่ว่าใครจะหยิบเอามาใช้ ทั้งโจทย์และจำเลยและใช้ได้แบบหมดจดไม่มีที่ติจนใครจับผิดไม่ได้ แต่สุดท้ายความจริงย่อมเป็นความจริงแค่มันจะปรากฏให้เราเห็นหรือเปล่าเท่านั้น สิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่ความจริง ความจริงเราอาจจะไม่ได้เห็น คดีพลิกได้เสมอแค่ใครจะทำให้ศาลยอมรับมากกว่านั้น หลังจากนั้นคงต้องยอมรับสภาพหรือหาทางต่อสู้กันต่อไป วันนี้คงชัดเจนอีกระดับหนึ่ง สิ่งที่ปรากฏอาจจะพลิกไปอีกฝั่ง กลายเป็นเรื่องโอละพ่อผิดเป็นถูกหรือถูกเป็นผิด จนเราคิดไม่ถึงก็ได้ใครจะรู้
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9600000004612 เดือนกันยายน พ.ศ.2556 จำคุก 3 ปี 2 เดือน รอดูคำตัดสินใหม่วันนี้จะยืนหรือเปลี่ยน
ก่อนอะไรๆจะสิ้นสุดข่าวล่าสุด ตำรวจอ้าง "ครูจอมทรัพย์" ว่าจ้างบุคคลให้มารับสารภาพแทนเพื่อเรียกเงินเยียวยา ระบุมีพยานเป็น "คนขับรถไม่เป็น" ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อแถลงตอบโต้ ด้านเจ้าตัวระบุ เป็นสิทธิที่จะอ้างได้ หวังได้รับความเป็นธรรมจากศาล วันนี้ (16 ม.ค.) เว็บไซต์ข่าวไทยพีบีเอส อ้างแหล่งข่าวจากตำรวจชุดสอบสวนว่า นางจอมทรัพย์ว่าจ้างบุคคลให้มารับสารภาพแทนเพื่อเรียกเงินเยียวยา โดยตำรวจมีพยานปากสำคัญคือ ผู้ชายคนหนึ่งที่นางจอมทรัพย์ต้องการว่าจ้างให้รับสารภาพแทน แต่เมื่อนางจอมทรัพย์ทราบภายหลังว่าพยานคนนี้ขับรถไม่เป็น จึงไม่ได้ว่าจ้าง ขณะที่ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้ามาติดตามคดีนี้และเตรียมรวบรวมข้อมูลจากตำรวจในพื้นที่ก่อนจะแถลงตอบโต้ว่า นางจอมทรัพย์ คือผู้กระทำผิดตัวจริง ขณะที่ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีด้วยเช่นกัน นางจอมทรัพย์ เปิดเผยกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาระบุว่า นางจอมทรัพย์ไม่ใช่แพะ มีเบื้องหลังและทำกันเป็นขบวนการ ว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าเธอไม่ใช่แพะนั้น เป็นสิทธิ์ที่จะอ้างได้ ส่วนตัวยังคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล มั่นใจและเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ใครจะทำอะไรก็ไม่สามารถทำลายจิตใจให้ท้อแท้ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ และสู้กันด้วยหลักฐาน ยืนยันว่าเธอนอนดูทีวีอยู่บ้านในวันเกิดเหตุ พร้อมขอบคุณเพื่อนครูทั่วประเทศและทุกกำลังใจที่ส่งมา ที่น่าแปลกงานนี้คนที่เคยเป็นเหยื่อนึกสนุกอยากกินเหยื่อขึ้นมาบ้าง หรือเปลี่ยนลุคใหม่จากผู้เคยถูกล่าขอเข้ามามีเอี่ยวเป็นนักล่าบ้าง ต้องมีเรื่องจริงบ้างแหล๊ะน่าหรือว่า เรื่องจริงไม่มีใครรู้ เรื่องที่รู้คือเรื่องไม่จริง
