เป็น"ไทย" นี่มันลำบากมากหรือไง? จากกระทู้นี้ที่โพสต์เมื่อวันก่อน วันนี้มานั่งคิดวิเคาระห์ดูเหมือนกับว่าเรื่องนี้มีการทำอย่างเป็นกระบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน โดยจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือลดทอนความเป็นและมีอยู่ของราชวงศ์ การนำเสนอเรื่องราวทางวิชาการประวัติศาสตร์ที่ถูกค้นพบขึ้นใหม่ เป็นสิ่งที่ดีที่ควร แต่การอาศัยบทความทางการวิชาการนั้นมาเป็นเครื่องมือเสียดสี กระแหนะกระแหนก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ และมีบางคอลัมน์นำมาขยายความอย่างต่อเนื่อง คำ ผกา: มันชินจนชา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 01:35:18 น. มติชนสุดสัปดาห์ 6-12 กุมภาพันธ์ 2558 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423758222
คำว่าชาติ ไม่ได้หมายถึงเชื้อชาติ มันหมายถึงวิถีชีวิต ถ้านับตามเชื้อชาตินะ สิงค์โปร์ ไต้หวัน ก็จีนทั้งนั้น อเมริกา ก็ชาติอะไรรู้ รวมๆกัน แปลว่าประเทศพวกนั้นไม่มีชาติ คำผกาเคยเห็นคนยิว ตัวดำปื้ดมั้ยหล่ะ ถ้าเขาจับตรวจเลือด ก็คงหาไม่เจอแล้วว่า มีส่วนไหนของร่างกายเป็นยิวบ้าง แปลว่าเค้าไม่ใช้คนยิวหรอกหรือ เขาใช้ชีวิตแบบคนยิว นับศาสนายูดาห์ พูดภาษาฮิบบรู ใช้สิทธิ์ในการปกครองตนเอง ผ่านทางรัฐบาลอิสราเอล แต่ตามนิยามของคำผกาแล้ว ก็ไม่นับว่าเป็นคนยิว เพราะเชื้อชาติผสม คำผกาให้นิยามคำว่าชาติ ไปผูกกับเชื้อชาติ ซึ่งเป็นนิยามอ่อนด้อย ไม่สมกับคนที่เรียกตัวเองว่านักเขียนด้วยซํ้า
มันไม่ใช่คำผกา คนเดียวครับที่เอานิยามคำว่าชาติ ไปผูกกับเชื้อชาติ แต่มันเป็นทั้งแก๊งค์ครับที่อ้างถึงรายงานวิชาการประวัติศาสตร์ อันโน้น อันนี้ แล้วมาผูกเป็นเรื่อง ปล คุณควันหลงอธิบายเข้าใจง่าย ผมก็คิดเช่นนั้นครับ แต่เขียนไม่ออก
สรรหาวาทกรรมให้ดูดี ตื่นจากความเป็นไทยงี้ แต่ยังหลับใหลกับการหลงตัวเอง เพื่อสวนกระแสในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง คลั่งอยู่กับความคิดของตน ในเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้งในสังคม
พวกคิดว่าตัวเองรู้มากแล้ววางโตเป็นอึ่งอางพองลม อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เอาเรื่องเชื้อชาติมาโยงการเมืองแต่บอกว่าตัวเองหัวก้าวหน้า มันช่างลักลั่นย้อนแย้งยิ่งนัก
"เพราะฉันตื่นจากความเป็นไทย ไม่ใช่ด้วยการอ่านหนังสือเล่มใหญ่ แต่จากการอ่านคอลัมน์ไม่สั้นไม่ยาวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร" น่าเห็นใจ เธอ เพราะแค่ คอลัมน์ไม่สั้นไม่ยาวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร ก็ทำให้ เธอ ตื่นจากความเป็นไทยได้แล้ว เห็นใจเพราะนึกถึง ผลไม้ ที่ถูกหนอนเจาะเน่าคาต้น แค่ถูกลมกระโชกเบา ๆ ก็ร่วงหล่นลงดินได้ ไม่ต้องเอาไม้ไปสอยหรือเอาบันไดไปปีนเก็บให้เสียเวลา "เมื่่อฉันเป็นคอลัมนิสต์กับเขาบ้าง จึงเฝ้าเขียนแต่เรื่องท่ี่จะ เขย่า คนไทยออกจากความเป็นไทย ออกจากความหลงชาติคลั่งชาติ" คงต้อง เขย่า ไปจน เหนียงยาน นั่นแหละ อาจมีผลไม้ลูกเน่า ๆ ร่วงหล่น ตามรุ่นพี่ ให้พอเป็นกำลังใจบ้าง แต่ที่อยากจะบอกจริง ๆ ก็คือ คนที่เอาความคิดของตนเองมาเที่ยว มโน ว่าคนอื่นเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แล้วพยายามจะไปเปลี่ยนแปลงเขาให้เป็นอย่างที่เราต้องการนั้น "คือคนที่หลงตัวเองว่าฉลาดเหนือคนอื่น" คุณ ฉลาดจริงหรือครับ
สุจิตต์ วงษ์เทศนั้น งานหลายชิ้นก็จัดว่าดี แต่หลังๆมาชักจะไปกันใหญ่ อะไรๆก็ลากเข้าเป็นของลาว พูดราวกับว่าไม่มีเขื้อชาติไทยอยู่บนโลกใบนี้เลย เป็นความจริงที่ว่า ประเทศไทยนั้นเป็นดินแดนหลายชาติพันธุ์ ข้อนี้ไม่เถียงและเถียงไม่ได้ แต่สุดท้ายทุกเชื้อชาติที่เข้ามาก็เข้าเบ้าหลอมเดียวกัน ออกมาเป็นวัฒนธรรมอย่างไทย เป็นคนไทยคนสยามออกมา ก็ไม่ทราบว่าคนพวกนี้จะเอาไปเป็นประเด็นทำไม ฟังๆดูแล้วอาจสันนิษฐานได้ว่า เขาจะให้เรารักชาติไทย(ที่เขามองว่าคลั่งชาติ) น้อยลง ซึ่งทำไปทำไม ขนาดอเมริกาซึ่งโคตะระจะหลากหลายเชื้อพันธุ์ เขาก็ยังปลูกฝังให้มีความเป็นอเมริกัน รักบ้านเมืองตน แม้ว่าชนชาติตัวเองจะไม่ได้ไปยุ่งดองข้องเกี่ยวกับการประกาศเอกราชเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน เป็นประชากรหัวดกดำที่มาใหม่ก็ตาม...
บ้านเมืองปั่นป่วน วุ่นวาย แต่กลับมีคน แนะไม่ให้รัก สามัคคี สอนให้ ไม่ต้องยืดติด กับคำชาติ เชื้อพันธุ์ เพื่อจะได้โดนยึดประเทศง่ายๆ อยากจะรู้ ประเทศใหนส่งมันมา คำว่าโดนยึด มันไม่ได้แปลว่า ยึดที่ดิน หรือ ตักดินของประเทศเราไปเก็บไว้ ให้เราเหยียบอากาศ ไม่มีดินอยู่ แต่หมายถึงทุกผู้ ทุกคน หรือส่วนใหญ่ ฝักใฝ่ชาติ อื่น หรือ แตกแยกเหยี่ยบย่ำ ชาติตน
ผมละขำกับตรรกะอันผิดเพี้ยนของคนหลงตัวเอง แค่ไม่ถูกจริตของคำผกาก็กล่าวหาว่าคนอื่นผิดหมด สมัยเด็ก ๆ ผู้ใหญ่เคยสอนว่า ถ้ามองคนทั้งโลกว่าบ้า ให้ย้อนมองกลับมาดูตัวเองว่าบ้าหรือเปล่า ผมว่าจริง ตลอดเวลาคำผกาเขียนเรียกร้องเพื่อชี้นำสังคม แต่เมื่อเวลาผ่านไปการชี้นำไม่สำเร็จ ก็พยายามเรียกร้องความสนใจโดยการเปลือยอก ประเดี๋ยวประด๋าวสังคมก็เลิกสนใจเพราะตรรกะอันทุเรศของเธอ มาวันนี้ก็พยายามบอกให้สังคมมาสนใจอีก บ่นในทำนองน้อยใจว่าพยายามทำให้สังคมดีแล้วไม่มีใครสนใจ ไม่ลองมองย้อนกลับบ้างล่ะว่าคนอื่นเขาทนความทุเรศไม่ไหว ยอมเสียสละที่จะไม่เอาเรื่องเอาราว
ผมว่าพวกเรา ๆ ท่าน ๆ ไม่เท่าไหร่หรอก มันมีพวก เ หี้ _ บางตัวนั่นแหละ สังเกตุสิครับช่วงนี้พวกมันออกมาตอดนิดตอดหน่อย ไอ้นั่นโดนเรียกก็หุบปาก ไอ้นี่ก็โผล่มาแทน ผมว่าไม่นานมันออกมาทั้งฝูงแน่ ๆ ยิ่งตอนนี้คิดถึงหลายตัวเลย ง่อยบางบอนงี้ ปอดไนท์ซาฟารีงี้
จะสังเกตุว่า ยุคทักษิณ บุคคลเหล่านี้ ได้มีโอกาศ เปิดหน้า หรือแสดงตัว ได้เปิดโอกาศ ให้บุคคลเหล่านี้ เข้าถึงแหล่ง ที่จะป้อน ความคิด หรือ ทัศนะ ให้คนหมู่มาก และเยาวชน ได้อย่างกว้างขวาง อันความคิด ความเห็น ต่างๆ ที่ได้แสดงออกมา อาจมีจุดมุ่งหมายแอบแฝง ถ้ามันไม่ถูกต้องหละ ??? ภัยอันใหญ่หลวง จะตามมา เมื่อคน หรือเยาวชน ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันดีพอ จะถูกป้อน โปรแกรม ใส่ในสมองให้เลย เราจะสังเกตุเห็นอย่างเช่น กรณี ที่มีคนต่อต้าน หรือเสียดสี ค่านิยม 12 ประการ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น มันเหมือนหลักการอะไรสักอย่าง หรือยุทธวิธี ในสงคราม ทั้งบนดิน และใต้ดิน เข้าตี กลมกลืน สอดแทรก ปั่นป่วน ยุยง และบ่อนทำลายจากข้างใน คำว่าล้างสมอง นั้นมีจริงๆนะครับ ในภาคปฏิบัติ ยิงซ้ำซาก จำเจ ทุกวัน แม้เห็นว่าเป็นเรื่องผิด เราก็จะมองเห็น ว่าเป็น เรื่องปรกติ และยอมรับไปในที่สุด
สังเกตุเห็นจากสื่อสิ่งพิมพ์และนักเขียนของกลุ่มมติชิน ช่วงหลังมักจะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการหักล้างเรื่องความเชื่อที่เราเรียนกันมาเกี่ยวชาติไทย เชื้อชาติไทย โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นการปลุกฝังความเชื่อกันมาผิดๆ เพราะแต่ละยุคสมัยไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยชาติไทยในปัจจุบัน ซึ่งตรงนี้ก็จะไปช่วยเสริมข้อมูลของเวบใต้ดินที่แพร่หลายอยู่ในขณะนี้เกี่ยวกับเรื่องราวของพระเจ้าตากสินและราชวงศ์จักรี
มติชนพยายามบิดเบือนเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไทย โดยอาศัยความเป็นสื่อ แต่ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกลับนิ่งเฉย กระทรวงวัฒนธรรม ควรที่จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน ไม่ใช่ปล่อยให้กล่าวอ้างลอย ๆ บิดเบือน ทำให้เข้าใจผิด ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แต่ไม่ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ที่ตนมีอยู่และต้องดำเนินการ
นักเขียนที่เคยยิ่งใหญ่มาจากไหน ลองมาสยบอยู่ใต้ตีนเงินไอ้เหลี่ยม อย่างเครือมติชิน ก็ล้วนมีพฤติกรรมหน้าด้านไร้ยางอายเหมือนกันไปหมด ตามนั้นเลยครับ
ใช้คำว่าตื่นจากความเป็นไทย... ถามหน่อย... ตื่นแล้วไง ? ... กล้าขอถอนสัญชาติตัวเองไหม ? ... ถ้าไม่กล้าก็อย่ามาพ่น ...
งานแค่นี้ก็ยังกระแหนะกระแหน เฮ้อ อ่อนอกอ่อนใจ ว่าแต่ไอ้ อี ตัวไหนอยากย้อนยุคไปสร้างเรือนขุนช้างไว้ข้างแม่น้ำสุพรรณบุรี
น่าเสียดายที่ความเป็นไทยมันยังหยั่งรากลึกลงไม่พอ เมื่อกระแสทุนโลกาภิวัตน์ซัดเข้ามาในเมืองไทย คนไทยเราก็เอาอย่างฝรั่ง เกาหลี ไปเสียหมด แถมยังเหยียดตนเอง ทำทุกอย่างให้เป็นแบบเขา แต่ไม่รู้จักสร้างอะไรใหม่ๆขึ้นมาบ้าง แล้วเราจะเดินเชิดหน้าชูตาบนเวทีโลกในสภาพที่เราเป็นข้าทางวัฒนธรรมอย่างนั้นหรือ ถ้าเราไม่รู้จักและใช้ต้นทุนของตนเอง
บางประเทศ แย่งชิงบ้านเมืองชาวบ้านเค้ามาหน้าด้านๆ ยังเขียนประวัติศาสตร์ให้ตนเองสวยหรู ว่าไม่ใช่ คนรุ่นใหม่อย่าไปคิดอะไรมากเลย ทุกวันนี้ชนพื้นเมืองให้รับสิทธิที่เท่าเทียมในประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโลกอยู่แล้ว บางประเทศ กล่าวถึงแต่เหตุผลที่พอฟังได้ ถึงสาเหตุที่ประเทศตัวเองต้องก่อสงคราม เพื่อให้เยาวชนไม่รู้สึกแย่มากไป อะไรเหี้ยๆที่เคยไปทำไว้ในประเทศอื่นๆ ไม่พยายามพูดถึง หรือไม่ก็บอกว่าอย่าไปคิดมากเลย มันเป็นเรื่องปกติของสงคราม ประเทศรอบๆบ้านเรา ก็มีประวัติศาสตร์แนวชาตินิยม ที่ไม่ต่างกับประเทศไทยมากนัก บางที่เล่นหนักกว่าไทยจนน่าเกลียดด้วยซ้ำ จุดประสงค์ก็ไม่ได้ต่างจากของไทย เพื่อประโยชน์ในความภาคภูมิใจของเชื้อชาติ ซึ่งจะนำประโยชน์หลายๆอย่างตามมา แล้วประเทศไทย จะเป็นประเทศคนดี แนวอยู่คนเดียว เขียนประวัติศาสตร์ด่าชาติตัวเองอยู่ชาติเดียว ในขณะที่ชาวบ้านเค้าเขียนเพื่อความภาคภูมิในชาติตัวเองกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ชาติมหาอำนาจ เราจะเสียเปรียบชาติอื่นหรือเปล่าว? ลูกหลานเราจะเหลืออะไรให้ภาคภูมิใจ ใครจะรักซาติมีอารมณ์ทำเพื่อชาติได้? ประเทศไทยจะเป็นชาติที่โลกสวยอยู่ชาติเดียวหรือไม่? หรือ เรากำลังทำในสิ่งที่ไง่ เง่า หรือไม่? ที่สำคัญ ไอ้ประวัติศาสตร์ฉบับซังชาติ มันเป็นจริงซักแค่ไหน? มันเป็นไปได้หรือที่ชาติเราจะไม่มีอะไรดีเลย? แล้วถ้ามันอาจจะไม่จริงก็ได้ แล้วจะเชื่ออย่างจริงจัง โดยไม่มีหลักฐานยืนยันชัดแจ้ง ทำไปเพื่ออะไร?
ถ้าเป็นท่านปูจะไม่มีบ่น... ณ ตลาดย้อนยุค "ยิ่งลักษณ์" เดินสายแก้น้ำท่วมพร้อมคณะ เข้าพักเมืองกรุงเก่า ตกเย็นคลายเครียด เดินชมตลาดย้อนยุค งานกาชาดปี55 ทักทายประชาชน พร้อมโชว์ฝีมือทำ "ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย" แจกจ่ายผู้ติดตาม บรรยากาศสุดชื่นมื่น http://www.dailynews.co.th/Content/politics/69271/"นายกปู"โชว์ฝีมือ "เตี๋ยวผัดไทย"ที่อยุธยา หรือจะตลาดแบบ โรงเกลือ นายกฯได้ขึ้นรถรางตรวจดูการค้าขายของตลาดโรงเกลือ http://www.dailynews.co.th/Content/politics/64593/"ยิ่งลักษณ์"ลงพื้นที่สระแก้วดูตลาดโรงเกลือ
ถ้าจะให้โลกสวยให้หมด พม่า ลาว เขมร ก็ต้องทำด้วย ไม่ใช่ ปวศ ลาว เขมร สับไทยเอาๆ แต่ ปวศ เรากลับด่าตัวเอง ยกย่องผู้อื่นเกินงาม แบบนี้มันมีนัยยะแล้วหละ (ยกเว้นประวัติศาสตร์คณะราษฎรสายปรีดี สวยงามมม วีรบุรุษสุดวิเศษที่เมืองไทยไม่ต้องการ ฮือออ)
ผมได้ไปคุยกับพี่ที่ทำงานคนนึง เขาบอกว่าประเทศไทยมันไม่มีหรอก เราเพิ่งมารวมตัวกันไม่กี่ปี เชียงใหม่เขาก็เป็นแคว้นของเขา คนเหนือมีน้ำใจ คนใต้ใจดำ ตัวเขาปู่ก็คนจีน บลาๆๆๆๆๆๆๆ ผมก็บอกแค่ว่าไม่รู้ดิผมว่าเราเป็นคนไทยทั้งหมดแหละต่างกันที่ภูมิภาคกับชาติพันธ์แค่นั้นเอง ส่วนอดีตย้อนไปร้อยๆปีผมไม่รู้ ผมรู้แค่ที่ย่าเล่าให้ฟังผสมกับที่เจอมาเอง ไทยพุทธ ไทยมุสลิม ไทยคริสต์ ไทยเหนือ ไทยกลาง ไทยอีสาน ไทยใต้ ยังไงมันก็ไทยทั้งนั้น เขายกเรื่องรัฐปัตตานีมา ยกนู่นยกนี่ คุยด้วยแล้วปวดหัว ปากบอกรักป่ารักสิ่งแวดล้อมแต่ก็มาเล่าให้ฟังว่าไปนอนบ้านแอ๊ด คาราบาวที่อยู่บนเขามา ผมโคตรอยากถามเลยว่า พี่แอ๊ดแม่มไปเอาฉโนดที่ไหนมาอ่ะ แล้วไปคยกับคนที่แม่มไม่อยู่กับร่องกับรอยอย่างแอ๊ดได้ไง แม่มกาก
สงสัยอ่านประชาใคร โว้ย เยอะไปหน่อย ประเทศไทยในรูปแบบรัฐชาติ เริ่มเกิดในสมัย ร.5 จริง แต่ก่อนหน้านั้นล่ะ ถือว่าไม่มีตัวตนเลยหรือ? เพราะรัฐชาติที่ปรากฎนั้นมันก็สืบทอดจากรัฐจารีต กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ แค่เอารัฐจารีตมาแต่งตัวให้เป็นฝรั่ง แค่นี้แหละ อย่าคิดว่าประเทศไทยก่อน ร.5 ไม่มีตัวตน ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในประเทศไทย มีจริง แต่ทุกคนก็เป็น Thai citizen มีศักดิ์และสิทธิ์ในความเป็นพลเมืองเท่ากัน รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ โอเค้
เหมือนที่ อาจารย์ไตรรงค์แกพูดบนเวที ผู้ปกครองเปรียบเหมือนสายลม ประชาชนเปรียบเหมือนยอดหญ้า หากผู้ปกครองดี ประชาชนก็จะดีตาม หากผู้ปกครองชั่ว ประชาชนก็จะชั่วเช่นกัน สื่อชั่วเสียงดัง เพราะผู้นำชั่ว ชักนำประชาชนให้หลงทาง อาจารย์ชั่ว ศิษย์ต่ำทรามออกมาเห่าหอนรับใช้ทรราชย์ เพราะทรราชย์ครองประเทศมา 10 กว่าปี นับจากนี้อีก 5 ปีสิ่งเหล่านี้จักต้องหมดสิ้นลง คนชั่วและคนดีมีปนกัน แต่ที่สังคมมันไปกันรอดเพราะคนชั่ว "ต้องกลัว" กฎหมาย และเวลาที่คนชั่วต้องกลัวกำลังมาถึงแล้ว รอดูกันเมื่อถึงเวลา ซากเน่าของทรราชย์จักหายหัวไปกลับไปในรูของมัน และประชาชนก็จะกลับมาเป็นปกติสุข แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ทรราชย์ปล้นชาติเราไปสิบปี กว่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม คงไม่เร็วนัก บางทีก็เหนื่อยแทนนายกประยุทธ์ แต่ผมว่าแกอดทน ฉลาดและเข้มแข็งมากพอ หากมีใครในนี้เอาข้อความไปถึงได้ขอบอกว่า ผมเชียร์นายกประยุทธ์ และให้กำลังใจท่าน สั้นๆง่ายๆ "ให้กำลังใจครับ" เพราะทางเดินข้างหน้าบางทีมันก็น่าท้อเหลือเกิน หากท่านท้อ ขอให้นึกถึงพระราชดำรัสของในหลวง ครั้งหนึ่งทรงตรัสกับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทว่า "ความ จริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านคือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ” * ขอให้นายกประยุทธ์น้อมนำพระราชดำรัสนี้เป็นแนวทาง เป็นแบบอย่าง เป็นขวัญและกำลังใจว่า ท่านกำลังทำในสิ่งที่เป็นคุณแก่ประเทศตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชาผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ขอบคุณครับ *อ้างอิง : http://www.chaoprayanews.com/2012/06/06/“ครองใจคน”รักในหลวง/