จากการแถลงข่าว … ***** ***** ***** https://www.facebook.com/tnewsTV/?hc_ref=NEWSFEED ***** ***** ***** ที่กล่าวว่า เพื่อออกไปทำประโยชน์ให้กับ ปชช. ได้มากกว่านั่น… ผมว่าไม่ใช่เหตุผลหลักอย่าง(เดียว)แน่นอน...หรือไม่ก็ "พูดไม่หมด" หรือ เพื่อนๆ ว่าไง ? ถ้าเดาไม่ผิดก็คงกลัว ฉิปหายทั้งพรรค(อีกครั้ง) หรือไม่ก็คงรู้ตัวว่า ถ้าขืนอยู่ต่อ ตาม รธน.ใหม่ บวกกับ นิสัยเดิมๆ คง ไม่รุ่ง แน่นอน มีแต่เสียกับเสีย ?
อนิจจา..... การเมืองไทยสูญเสียบุคคลากรตัวอย่างไปอีกคนหนึ่งแล้ว มีใครในโลกที่อนุมัติและทำพาสปอร์ตได้ใน24ชั่วโมงบ้าง
ปึ้ง "ลาออก" ....อ่านเกม แผนร้ายพรรคเพื่อไทย แตกพรรคเล็กกุม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ (ทีนิวส์ว่าไว้ มันจะเป็นไปได้จริงหรือเปล่า ?) http://www.tnews.co.th/contents/314317 สร้างความงุนงงให้กับบรรดาคอการเมืองทั้งที่ "ปึ้ง" ขึ้นชื่อว่ารับใช้นายใหญ่มานาน และภักดีกับครอบครัวชินวัตร ทั้งนายใหญ่ - นายแดง - นายปู "ปึ้ง" ไม่เคยเอากายและใจออกห่าง ตรงกันข้ามกลับเดินติดสอยห้อยท้ายดูแลทุกข์สุขกันมาตลอด กางตำรารบของพรรคสีแดง หากเลือกรบแบบเดิมคือคงพรรคขนาดใหญ่เอาไว้ งานนี้มีหวังแพ้จนเจ๊ง เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดระบบเลือกตั้งส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสม โดยกำหนดให้มี ส.ส. ทั้งหมด 500 คน (เขตเดียวเบอร์เดียว 350 คน + บัญชีรายชื่อ 150 คน) ซึ่งจะนำคะแนนส.ส.เขตทั้งที่ชนะ และแพ้การเลือกตั้งทั่วประเทศ มาคำนวณเป็น % เพื่อหาจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคควรจะได้ โดยส่วนต่างจากจำนวน ส.ส.เขตที่ชนะการเลือกตั้ง จะถูกเพิ่มเป็นจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคนั้นๆ อาทิ พรรค ก. ได้คะแนน ส.ส. เขตไม่ว่าจะแพ้หรือชนะการเลือกตั้งในเขตนั้นๆทั่วประเทศ รวม 40 % ทำให้พรรคนั้นมีจำนวน ส.ส. ที่ควรจะได้เป็น 200 คน จากทั้งหมด 500 คน แต่ปรากฏว่าพรรคนี้ได้ ส.ส.เขตไปแล้ว 180 คน ทำให้จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มเติม เพียง 20 คนเท่านั้น คิดคำนวณง่ายๆคือพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตจำนวนเยอะอยู่แล้วจากฐานเสียงที่ยังคงเหนียวแน่นอยู่ จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจึงน่าเป็นห่วง เพราะจะถูกลดสัดส่วนลงทันที เพราะแม้จะได้รับคะแนนบัญชีรายชื่อเยอะ แต่ก็ไม่ถูกนำมาคำนวณ หรือนำไปคำนวณแล้วได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นเพียงนิดเดียว ทางออกของพรรคเพื่อไทยคือ สลายขั้วพรรคใหญ่ แตกสาขาเป็นพรรคเล็ก เพื่อเก็บคะแนนส.ส.แบบแบ่งเขต และนำคะแนนไปคิดส.ส.บัญชีรายชื่อได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งอาจจะไม่ตั้งพรรคใหม่ แต่จะเลือกเทคโอเวอร์พรรคการเมืองที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ กกต.อยู่แล้ว มาเป็นพรรค "นอร์มินี" ฉะนั้นการลาออกของ "ปึ้ง" จึงซ่อนไว้ด้วยกลเกม แม้จะติดโทษแบนทางการเมือง แต่หากเคลื่อนไหวเบื้องหลังให้กับพรรคการเมืองเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย ก็คงช่วยเก็บคะแนนเสียงได้มากพอตัว เพราะบรรดาแฟนคลับจะดู "ชื่อ" เป็นหลัก ชื่อใครขายได้ ก็มีโอกาสมากกว่า จับตาหลัง "ปึ้ง" ลาออก คงมีคีย์แมนหลายคนของพรรคเพื่อไทยเดินออกตาม เพื่อสานงานตามเกม "แตกตัว" ที่วางเอาไว้ ยิ่งใกล้ปลดล็อคการเมืองเมื่อไร ยิ่งใกล้เลือกตั้งเมื่อไร ขุนพล - กุนซือ พรรคเพื่อไทยวิ่งกันฝุ่นตลบแน่นอน (ถ้าแบบนี้ที่ศรีธนญชัยมันสามารถแก้เกมสร้างแผนร้ายได้ แม้เขียนรัฐธรรมนูญแบบไหน มันก็คิดยอกย้อนหาช่องโหว่เอาจนได้ทุกท่าสิน่า)
สงสัยการทิ้งปูและเสื้อแดงอาจจะเป็นเทนด์ใหม่มาแรงก็ได้มั้งครับ ดูอย่างบอร์ดเราซิครับ มือด้วนก็ดี ตัดแปะก็ดี anuridก็ดี ทิ้งปู ทักกี้ อีกคนไม่น้อยหน้าก็โกตี๋ เป็นที่นิยมทอดทิ้งไม่แพ้กัน
จากในข่าว เห็นคนรักษาการที่รับใบลาออก นั่นแหล่ะครับ บอกว่าเสียดาย... ถ้าขืนบอกไปว่า ยินดีและดีใจ เป็นอย่างยิ่ง ก็คงจะกระไรอยู่มั๊งครับ ถ้าโพย ไม่ได้เขียนบอกไว้...
เป้นไปไม่ได้หรอกเพราะมันใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวพรรคนอมินีแทบเปืนไป/ม่ได้เลยเพราะมันจะบีบให้เลือกได้แค่พรรคเดียว
มีทีนิวส์ที่เขาคิดดัก "ความเป็นไปได้" ของแนวคิดพวกศรีธนญชัยเอาไว้ ก็เลยเอามารวบรวมไว้ให้ในกระทู้ ผิดถูกอย่างไรคงต้องไปมองภาพของกติกาการเลือกตั้งที่ออกมาอย่างละเอียดกันอีกที คนคิดตาม หรือแก้เกมบางทีคิดไม่ทันพวกนี้มันหรอก ก็น่าคิดนะว่าอยู่ดีๆจะแค่สร้างข่าวว่าลาออกจากพรรคเพื่อไทยมาทำไม ยังไม่เห็นประโยชน์ลึกๆที่ซ่อนอยู่
คุณ phat21 ไม่เข้าใจวิธี nominee ของเพื่อไทยครับ ผมจะอธิบายแบบชัด ๆ ให้ฟังดังนี้ ถ้าเพื่อไทย ไม่แตกพรรค แล้วได้ สส.เขต 180 จาก 350 ขณะที่ บัญชีรายชื่อได้ 15 ล้าน จาก 37.5 ล้าน ซึ่งก็คือประมาณ 40% ของทั้งหมด เค้าจะได้ สส. ที่ไม่เกิน 200 เสียง ซึ่งคือ 40% จาก 500 นั่นหมายความว่า เค้าจะได้ สส.บัญชีรายชื่อไม่เกิน 20 คน ต่างกัน ถ้าปึ้งมาตั้งพรรคนอมินี เพื่อสส.เขต โดยเฉพาะ สมมุติ ให้ปึ้งไปแบ่งมา 60 จาก 180 ให้เพื่อไทยเหลือ 120 แบบนี้ เพื่อไทยจะได้สส.เพิ่มมากมาย จากอะไร ผมจะแสดงให้ดู ถ้าเพื่อไทยได้ สส.เขต 120 บัญชีรายชื่อ 13 ล้าน พรรคนอมินี ได้ สส.เขต 60 บัญชีรายชื่อ 2 ล้าน เท่ากับ เพื่อไทยได้ 34.67% สามารถมี สส.ได้ทั้งหมด 173 คน พรรคนอมินี ได้ 5.33% สามารถมี สส.ได้ทั้งหมด 27 คน แต่ เพื่อไทยได้ สส.เขต ไปแล้ว 120 จึงมีบัญชีรายชื่อได้อีก 53 ขณะที่นอมินี ได้ สส.เขตไปแล้ว 60 บัญชีรายชื่อจึงเป็น 0 ถ้ารวมเข้าด้วยกัน เพื่อไทยมี 173 นอมินี มี 60 คราวนี้เป็น 233 แล้วครับ ไม่ใช่แค่ 200 เข้าใจตรงกันนะ นี่คือทริค ของปึ้งครับ
สมองคนนี้ คงไม่ฉลาดขนาดนั้นมังครับ ถ้ามาแนวนี้ คงเป็นระดับสมองพวกคีย์แมน พรรคนี้เขาถนัดกรณีการใช้"นอมินี" มาตลอด
phat21 ไปเกณฑ์ทหารมาแล้วเหรอ หรือผ่อนครั้งสุดท้าย ปึ้งเหรอจะออกมาตั้งพรรค โดน 5ปีก้อเน่าแล้ว น่าหมดประโยชน์มากกว่า วิดวะเมกาที่พูดปะกิตก้อไม่ได้ นี้นะ อยู่เลี้ยงหลานอยู่บ้านเฉยๆน่ามีประโยชน์กับสังคมมาก
แกน่าจะไปสมัครงานบริษัทกระทิงแดงนะครับ แว่วๆว่าทางการจะยกเลิกพาสปอร์ตทายาทเจ้าของบริษัทฯฐานไม่มารายงานตัวกับจนท.คดีขับรถชนคนตาย เสี่ยปึ้งแกเป็นเจ้าของสถิติใช้เวลาทำพาสปอร์ตสั้นที่สุดอยู่แล้ว บริษัทฯเขาน่าจะพิจารณาจ้างไว้
นี่ผมยังจะต้อง มานั่งสงสารหลานๆของ "พวกมัน" และ/หรือ ต้องมานั่งปลงกับชีวิตของลูกหลานผม และอนาคตประเทศชาติอีกหรือนี่...
ข่าวล่าสุด มีชัยออกมากล่าวแล้วว่า การซื้อ-ขายพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญใหม่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย http://www.matichon.co.th/news/554355 “มีชัย” ออกมากล่าวแล้วว่า การซื้อ-ขายพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญใหม่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย “มีชัย” ชี้ ข่าวซื้อ-ขายพรรค หากจริงปชช.ไม่ควรเลือก - ไม่ควรได้รับการไว้วางใจต่อการบริหารประเทศตั้งแต่แรก เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยนายมีชัย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึง กรณีมีกระแสข่าวการซื้อขายพรรคการเมืองว่า ประเด็นดังกล่าวต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ หากพบว่าเป็นจริงจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณา มีบทบัญญัติกำหนดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด อย่างไรก็ตามการตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้นนั้น ต้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันตรวจสอบ ประเด็นที่จะซื้อขายพรรคตามที่มีกระแสข่าว เป็นเรื่องที่เกิดก่อนจะมีมาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ แต่หากพบว่าเกิดขึ้นจริง ถือว่าพรรคการเมืองนั้นไม่ควรได้รับการไว้วางใจให้บริหารประเทศตั้งแต่แรกแล้ว สำหรับกติกาใหม่ว่าด้วยพรรคการเมืองที่กรธ.บัญญัติ คือ การรวมตัวของพรรคการเมืองสามารถทำได้ 2 กรณี คือ พรรคการเมืองรวมตัวกันเพื่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือ พรรคใดพรรคหนึ่งยุบพรรคเพื่อร่วมกัน การกระทำดังกล่าวสามารถทำได้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่หากเลือกตั้งเสร็จแล้ว และมี ส.ส.แล้ว จะไม่สามารถรวมพรรคได้ http://www.matichon.co.th/news/554355
อ่านข่าวที่หนูอ้อยเอามาลงแล้วเหนื่อยใจ เศร้าใจกับแนวทางทิศทางการเมืองไทย คงมืดมนไปอีกนาน เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อโยนบาปให้ชาวบ้าน 3ปีที่ติดกับดักทางความคิด ส่วนตัวผมเคยพูดหลายครั้งว่าอย่าให้ใครคนเดียวมาบงการชี้ทางเดินรัฐธรรมนูญ มันต้องมาจากความคิดของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เอาคนไม่กี่คนมาใส่เข่งเขย่าๆ ถ้าเขียนรัฐธรรมนูญกันแบบนี้คงชาติหน้ามั้งถึงจะได้เลือกตั้งถ้าจะเอาแบบดีๆ สุดท้ายรัฐธรรมนูญที่ได้มาก็คงเกิดขึ้นมาแบบขอไปทีเหมือนครั้งที่แล้ว เอาไปก่อนแล้วแก้ทีหลัง งั้นจะเขียนใหม่ให้เสียเวลาเพื่อ? ในอนาคตก็ต้องมีการประท้วงทางการเมืองมีการปฏิวัติรัฐประหารมีการขึ้นมาอีกแน่นอน