เริ่มต้นของข่าวนี้ ไทยโพสต์ลงว่า ข่าวมาจากทีมพีอาร์ยิ่งลักษณ์ แต่สื่องับมาลงเหมือนกับว่า เป็นข่าวใหญ่โต ดราม่าราคาสินค้า เกษตรกรตกต่ำ ค่าแรงงานถูกคงจะเป็นไปอีกหลายต่อหลายปี คู่สังคมไทย
อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เผย ชาวอุบลฯ คอนเฟิร์มจัดฉาก “ยิ่งลักษณ์” ซื้อข้าว ชี้บรรจุภัณฑ์ไม่ใช่จากชาวนาทั่วไปแน่ ต้องเป็นโรงสีขนาดใหญ่ แถมเอาข้าวหอมมะลิมาขายกิโลกรัมละ 20 บาท ทุบราคาท้องตลาดถึง 15 บาท จี้ นายกฯ สอบขบวนการจัดตั้ง แจงประชาชนใครตัวป่วน ข้าวที่ซื้อมาจากที่ไหน ระบุ ส่อซ้ำเติมตลาดข้าว หวังให้ชาวบ้านตาสว่าง วันนี้ (6 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดงานขายข้าวสารราคาถูกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) ว่า เป็นซีรีส์ถล่มราคาข้าวหอมมะลิอย่างเลือดเย็น เพียงผลทางการเมือง เพื่อหวังให้สั่นคลอน ซึ่งมีข้อเท็จจริงหลายอย่างที่ประชาชนควรรู้ และรัฐบาลยังต้องหาคำตอบมาชี้แจงประชาชน เพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อตลาดข้าวหอมมะลิ กลับมาเป็นปกติ สิ่งที่ประชาชนควรรับรู้ คือ การจัดฉากขายข้าวสารหอมมะลิราคาถูก กิโลละ 20 บาท ของชาวนาที่อุบลราชธานี ได้รับการยืนยันจากชาวอุบลฯ ว่า เป็นการจัดฉากจริง เพราะหลังจากฉาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงซื้อข้าวราคาถูกจบลง วันถัดมาจนปัจจุบันก็ไม่มีการขายข้าวที่เดิมอีกเลย ที่สำคัญ ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึง มีคนโพสต์เฟซบุ๊ก แจ้งว่า ไปขอซื้อข้าวสารก็ไม่ขาย นพ.วรงค์ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า ซื้อข้าวสารหอมมะลิจากชาวนา 10 ตัน และอดีต ส.ส. ซื้อจากชาวนาอีก 10 ตัน แต่รูปแบบการบรรจุนั้น ไม่น่าใช่ข้าวสารจากชาวนาแน่นอน เพราะการบรรจุดังกล่าว ต้องเป็นโรงสีขนาดใหญ่ เพื่อส่งต่อลูกค้า รวมทั้งส่งต่างประเทศ และการนำข้าวสารหอมมะลิ มาขายเพียงกิโลละ 20บาท ในขณะที่ราคาทั่วไปกิโลละ 30 - 35 บาท เท่ากับเป็นการทุบราคาข้าวสารหอมมะลิ อย่างเลือดเย็นที่สุด แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแจงในเฟซส่วนตัว ว่า เป็นข้าวไม่ได้คัดเกรด ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะข้าวชาวนาที่ไหนเขาคัดเกรด ยิ่งขัดแย้งกับสิ่งที่เคยพูด นพ.วรงค์ กล่าวว่า ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องตรวจสอบและชี้แจงประชาชน คือ ชาวนาที่มาจากหลายที่นั้น มีขบวนการจัดตั้งอย่างไร และต้องชี้แจงด้วยว่า ชาวนาที่ผิวพรรณดีๆ นั้นเป็นใคร เป็นทีมงานนักการเมือง แต่ทำตัวเป็นชาวนา เพื่อสร้างเหตุการณ์ป่วนตลาดข้าวใช่หรือไม่ แต่ละคนชื่ออะไร บทบาทเป็นอย่างไร ข้าวสารหอมมะลิที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างว่า ซื้อมาจากชาวนา 10 ตัน รวมทั้งอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย อีก 10 ตันนั้น ซื้อมาจากชาวนาหรือโรงสีกันแน่ แต่รูปแบบการบรรจุนั้นน่ามาจากโรงสี มาจากโรงสีเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ โรงสีที่ส่งข้าวนั้นชื่ออะไร อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ข้าวที่นำมาขายที่กรุงเทพฯ ราคากิโลละ 20 บาท และคาดว่า ซื้อมาจากโรงสีนั้น โรงสีขายมาราคาเท่าไร ต่ำกว่าราคาที่ควรจะขายต่อหรือไม่ การตรวจสอบว่าเป็นข้าวจากโรงสีนั้นสำคัญมาก เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ โฆษณาว่า รับซื้อข้าวมาจากชาวนา ถ้ากลายเป็นข้าวจากโรงสี เท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โกหกประชาชน “การช่วยเหลือชาวนานั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเกิดความยั่งยืน และไม่เกิดผลเสียต่อระบบข้าวของประเทศ ดังนั้น การที่ราคาข้าวตกต่ำ แต่กลับมาซ้ำเติมขายข้าวต่ำกว่าที่ชาวบ้านเขาขายกัน ยิ่งเป็นการซ้ำเติมตลาดข้าว ยิ่งผู้กระทำเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ผลกระทบจึงยิ่งรุนแรง” อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธาน นบข. ขอให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบโดยด่วน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของตลาดข้าวกลับคืนมา อย่างน้อยพี่น้องชาวนาจะได้หูตาสว่างว่าใครกันแน่ที่ประสงค์ร้ายต่อชาวนา ที่มา : http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000110934
ถ้าข่าวซื้อข้าวหอมแค่ 20 บาท จากราคาตลาด 35 บาทจริง ถือว่าแย่มาก เพราะชาวนาเริ่มเอาออกมาขายตรงสู่ผู้บริโภค ข่าวออกไปขาย 20 บาท ถ้าชาวนาเอามาขายตรงราคา 35 บาท จะถูกมองว่าเอาเปรียบผู้บริโภคหรือป่าวเพราะขายอดีตนายกแค่ 20 บาท กลายเป็นชาวบ้านมาด่าชาวนาอีกว่าขายแพงเอากำไรเยอะ หลอกเขามาสร้างภาพให้ดูดี แต่อาจจะฆ่าชาวนาทั้งเป็นอีกต่างหาก สมกับเป็นตระกูลปล้นชาติหลอกคนมาตายมาฆ่าเพื่อเสวยอำนาจ
อีกข่าว ที่มา : http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000110912 ผู้ต้องหาหลบหนีคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โพสต์ข้อความแขวะ ม.รังสิต ซัดเอาข้าวจ่ายค่าเทอม อีกหน่อยก็เอาไปจ่ายค่ากะหรี่ได้ ถามนี่กลับไปยุคระบบการค้าแบบแลกเปลี่ยนหรือ ด้านอดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ บอกเห็นภาพเลย ถามแถวไหนรับแลก มีรายงานว่า เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการ มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้ต้องหาหลบหนีคดีฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เขียนข้อความถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยรังสิต ประกาศให้นักศึกษานำข้าวมาแลกเป็นค่าเทอมได้ ว่า “เอาข้าวไปจ่ายค่าเทอม อีกหน่อยไปเที่ยวซ่อง ก็เอาข้าวไปจ่ายกะหรี่แทนเงิน” นอกจากนี้ นายปวิน ยังเขียนข้อความเพิ่มเติมในช่องแสดงความเห็นด้วยว่า “นี่เรากลับไปยุค barter trade system หรือนี่?” ขณะที่เฟซบุ๊ก Watana Muangsook ของ นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงความเห็นในกระทู้ของ นายปวิน ด้วยว่า “โหวจารย์ เห็นภาพเลยครับว่าแต่แถวในรับ barter ครับ” โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ประกาศช่วยเหลือชาวนาในเวทีพูดคุยเพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตราคาข้าว ช่วยเหลือชาวนา โดยจะให้นักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่เป็นลูกชาวนา นำข้าวสารมาจ่ายเป็นค่าหน่วยกิตได้ และจัดให้มีทุนการศึกษาทุนลูกชาวนา โดยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ และจัดพื้นที่ให้บุคลากร นักศึกษาที่ครอบครัวทำนา ได้นำข้าวสารมาร่วมจำหน่าย โดยเปิดโซนพื้นที่ในการจำหน่ายให้เป็นถนนข้าวสารลานแบร์ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการช่วยจำหน่ายข้าวสาร ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดระเบียบกฎเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือนักศึกษา โดยประสานงานไปยังคณะ / วิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนจากวิกฤตราคาข้าวสามารถยื่นความประสงค์ เพื่อเข้ารับความช่วยเหลือได้ ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ซึ่งจัดให้โครงการนี้เป็นมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนในภาคเรียนที่ 2 / 2559
รัฐบาลสามารถสร้างแนวทางเลือกและกระแสที่สังคมสามารถตอบสนองในการช่วยกันคิดช่วยกันลงมือช่วยชาวนาให้พ้นวิกฤติจากราคาข้าวตกต่ำ ไม่ว่าใช้ข้าวสารจ่ายค่าหน่วยกิต โดยช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่ตุ๊ดปวิน เสื้อแดง และอดีตรัฐมนตรีวัฒนาของพรรคเพื่อไทย กลับออกสื่อเหวี่ยง ไหนรักชาวนา ไหนอยากให้ชาวนาพ้นความยากจน ถ้ารักชาวนาจริง ต้องส่งเสียงสนับสนุน ไม่ใช่มาเหวี่ยง ทำให้มันไม่สำเร็จ ชาวนาชาวบ้านน่าจะดูเป็นตัวอย่างนะว่าเสื้อแดงกะอดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เขาทำแบบนี้ ตอบออกสื่อกันแบบนี้ เขาช่วยให้พวกท่านหลุดจากปัญหา หรือกวนน้ำให้ขุ่นสร้างปัญหาให้ท่าน ผมสงสัยว่าที่มีคนเคยบอกว่ามีกลุ่มการเมืองที่พยายามเลี้ยงไข้ชาวนาให้ยากจนไม่ต้องลืมตาอ้าปากได้เพราะจะได้เอาเงินมาล่อเหยื่อเพื่อเอาคะแนนเสียงมาเป็นฐานให้มีอำนาจทางการเมือง จะได้โกงสบายๆ
ต่อเรื่องนี้ เขาเขียนไว้ได้น่าสนใจ … "อะไร สมควรเป็นข่าว" *** *** *** วันก่อนนี้เขียนถึง กรณี คุณยุวดี ธัญญศิริ นักข่าวของบางกอกโพสต์เข้าทำเนียบไม่ได้ แล้วเลยไปถึงการคัดกรอง นักข่าว ว่าไม่ได้มีการคัดกรองกันเลย ทำให้ได้นักข่าวที่ไม่ค่อยจะมีคุณภาพ มีเทปอัดเสียง มีกระดาษ มีปากกา ก็ตามไปอัดเสียง หรือจดที่แหล่งข่าวพูด โดยที่ไม่รู้ว่า แหล่งข่าวนั้นเป็นใคร เป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน เรื่องที่ให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องอะไร เสร็จสัมภาษณ์ค่อยมาถามนักข่าวรุ่นป้า รุ่นน้า รุ่นพี่ ว่าเรื่องที่ให้สัมภาษณ์น่ะ เรื่องอะไร ประเด็นอยู่ตรงไหน ใครให้สัมภาณ์ หรือที่แถลงน่ะ ใคร ? ถ้าสักหน สองหน แรกๆ ก็พอเข้าใจ นักข่าวใหม่ แต่บางคนเราจะเห็นใจจอทีวี ก้มหน้าก้มตาจด ก้มหน้าก้มตาอัดเทปอย่างเดียว ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทั้งปี ไม่เคยมีคำถาม ถ้าเป็นยุคก่อนก็อาศัย พี่ปรีชา สามัคคีธรรม พี่วิเชียร แก้วเปล่ง พี่เชาวน์ รูปเทวินทร์ เป็นคนถาม มายุคหลังๆนี้ก็เป็น เจ๊ยุ หรือ คุณ ยุวดี นี่แหละเป็นตัวหลัก มีอีกประเภทหนึ่ง ตั้งหน้าตั้งตาที่จะมาถามแหล่งข่าวเพื่อกวนประสาทโดยเฉพาะ ท่านที่โดนบ่อยพักหลังนี้ คือ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร ถามเข้าไปเถอะ จะเลือกตั้งเมื่อไร จะเป็นไปตามโรดแม้ปได้หรือไม่ ท่านจะเล่นการเมืองต่ออีกไหม จะมีเหตุทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปหรือไม่ ? คำถามเหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่ ” ชอบธรรม” ของยุคสมัยที่รัฐบาล คนช. ยังครองอำนาจอยู่ และเป็นคำถามที่จะทำให้ผู้ถูกถาม คือ พลเอก ประยุทธ นายกรัฐมนตรีอารมณ์เสียได้ เพราะเป็นคำถามที่เคยตอบแล้ว ชี้แจงแล้วหลายต่อหลายครั้ง สมัยเผด็จการ สฤษดิ์ นักข่าวถามคำถามเหล่านี้ไหม ? ก็ถาม (เป็นเรื่องปกติของนักข่าวที่จะต้องถามอยู่แล้ว) จอมพลสฤษดิ์ ก็จะไมตอบ ใช้วิธีมองหน้าให้รู้ว่า คำถามนี้เคยตอบแล้ว แต่ถ้ายังเช้าชี้ถามอีก วงสัมภาษณ์ก็แตก ทุกอย่างจบ นั่นเป็นเกร็ดเกี่ยวกับนักข่าว มาถึง สิ่งที่เป็นข่าวบ้าง ตอนที่ลูกสาวจอมพลถนอม กิตติขจร แต่งงานนั้น จอมพลถนอม เป็นนายกรัฐมนตรี มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งตีพิมพ์ข่าวและภาพในหน้าหนึ่ง เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากในหมู่คนหนังสือพิมพ์ด้วยกัน แม้จะเป็นที่รู้กันว่า หนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวและภาพนั้น จะมีไมตรีกันอยู่กับฝ่ายรัฐบาลก็ตาม ทุกวันนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป ดารานักแสดง ลูกเจ้าสัว ลูกคนมีสตางค์ หนังสือพิมพ์ต่างก็แย่งกันลงทั้งข่าวและภาพในหน้าหนึ่ง สมัยผมเป็นบรรณาธิการ หรือเป็นหัวหน้าข่าว ไม่มีสิทธิมาอยู่หน้าหนึ่งหรอกครับ โน่นหน้าบันเทิง หรือหน้าสตรีโน่น ข่าวนางสาวยิ่งลักษณ์ไปซื้อข้าวชาวนาที่อุบลราชธานี ถ้าผมยังทำหน้าที่หัวหน้าข่าว หรือ บรรณาธิการ โน่นเลยครับ หน้าโฆษณา ไม่ต้องเป็นหัวหน้าข่าว หรือผู้ชำนาญการข่าวที่ไหนก็รู้ครับว่า ไอ้การเดินทางไปอุบลราชธานีของนางน่ะมันเป็นการจัดฉาก มันเป็นการสร้างภาพ รายละเอียดของข่าวมีไหมละครับนางซื้อข้าวมากี่ตัน เป็นข้าวสารกี่กระสอบ ข้าวเปลือกกี่กระสอบ ราคาเท่าไหร่ หมดเงินกันไปเท่าไหร่ ช่วยชาวนาได้สักกี่คน เบื้องหลังการถ่ายทำ เราก็เห็นกันอยู่ว่า อดีตนักการเมืองอุบลราชธานี ขนคนมาร่วมเข้าฉาก นางก็บีบน้ำตาเสียหน่อยทำเป็นว่าสงสารชาวนา พอนางเผลอนางก็หัวเราะ เรื่องอย่างนี้ ถ้าจะลงข่าวเพื่อกระแทกแดกดันรัฐบาลว่าไม่สนใจความเดือดร้อนชาวนา ราคาข้าวตกต่ำ ราคาปุ๋ยแพง ก็ไปขายปุ๋ยซี ก็อาจจะพอได้สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ก็มันเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่สองปี มันเคยเอาใจใส่ชาวนาเสียที่ไหน ผูกคอตายไปกี่รายมันก็ยังไม่รู้ ข้าวที่รับจำนำมาขายไปเท่าไร เน่าไปเท่าไร มันก็ยังไม่รู้ แค่นี้อ่านกันไม่ออกหรือ ? *** *** ***
ถ้าผูกคอตายเพราะเป็นหนี้จากขายข้าวก็น่าแปลก ปูกี้รับจำนำ15,000บาทต่อตัน และรับจำนำทุกเม็ด ถ้าจำนำได้จริงอย่างปูกี้โม้ ก็ควรลืมตาอ้าปากใช้หนี้ไปหมดแล้ว หรือข้าวส่วนใหญ่ที่ปูกี้รับจำนำเป็นข้าวเขมรข้าวพม่า แล้วเงินภาษีคนไทยเลยไปอยู่กับอีซาละเปาและครอบครัวพวกพ้องหมด
ลิงก์ ‘เดชา ศิริภัทร’ : กระดูกสันหลังของชาติถูกมอมเมาด้วยปุ๋ยเคมีและประชานิยมเกษตร ‘เกษตรอินทรีย์’ บรรจุในแผนพัฒนาประเทศตั้งแต่ปี 40 ยังไม่ขยับ… แชร์ ISRANEWS.ORG|โดย วสี ภูเต็มเกียรติ ศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศรา
กลุ่มชาวนา ข้าวมาขาย หายตัวหมด ชาวบ้านอด ซื้อข้าว ชาวนาขาย วันปูซื้อ ชาวนา มามากมาย วันปูหาย ชาวนาลี้ หนีสูญพันธุ์ เพิ่งรู้ข่าว ชาวนาหาย ตายสนิท คู่เปอร์ฤทธิ์ ร้อนเร่า เขย่าขวัญ ขับปาดหน้า รถข้าวสาร สะท้านกัน ตายทั้งคัน กระจาดหมด รถบรรทุก
ชาวนาไม่เหมือนอาชีพอื่น เพราะลงทุนลงแรงตลอดเวลา ประสบปัญหาธรรมชาติก็เยอะ แถมยังต้องเอานาไปผันเป็นแก้มลิงเวลาน้ำท่วม ปกป้องน้ำมากรุงเทพก็มาก ขาดทุนมาตลอดเวลา ถ้าไม่แก้แบบรัฐยอมขาดทุน แบบยิ่งรัก ก็จะช่วยชาวนาไม่ได้ เพราะหนี้สิน ดอกเบี้ยก็ล้นพ้นตัว ไม่เหมือนยาง ปลูกแล้วรอแดกอย่างเดียว ทำเหมือนไม่เข้าใจ ไอ้ควาย โง่
ไอ้นี่โชว์ควาย จำนำข้าวที่รวยมีเยอะ แต่ข่าวไม่ออก สมัยนั้นจบ ปตรี กลับบ้านไปไถนากันก็เยอะเพราะราคาดี แต่ ไปโค๊ดเอาข่าวชาวนาเป็นหนี้ เข้าโครงการจำนำข้าวทำไมไม่รวย จะรวยยังไงวะ เป็นหนี้ เป็นดอก ธกส และนอกระบบอยู่ต้องเยอะ แต่หนี้มันก็ลดลงมาบ้าง แต่แล้วมีพวกเหี้ย ไปปิดธนาคารไปแหกปากบอก ต้องเอาเงินขายข้าว มาจ่ายค่าจำนำข้าว ไอ้ควาย การบริหารจัดการขนาดใหญ่แบบนี้ มันต้องมีีเงินอนาคตมาใช้บริหารสภาพคล่อง ธุุรกิจใหนๆมันก็แบบนี้ทั้งนั้น มันไม่เข้าใจว่าต้องเสียเงิน เพื่อช่วยเขา ตรงนี้ขาดทุน ต้องนั้นมีรายได้ ก็โป๊ะๆ กันไป คน70ล้านคนมึงจะใช้ระบบใหนมาดูแล
ข่าวไม่ออก แล้วรู้ได้ยังไง ว่ารวยจากจำนำข้าว... นั่งเทียน? งั้นกลับกัน สมัยนี้ชาวนา ขายข้าวได้ราคาดีก็มี แต่ไม่เป็นข่าวได้มั๊ย? เอามาแต่ข่าวชาวนาขายข้าวไม่ได้ แล้วปิดธนาคาร ปิดเมื่อไหร่? ก่อนหรือหลังจำนำข้าว... อมขี้ปากคนอื่นมาพ่น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครควาย...
พอมีรายละเอียดอ้างอิงไหมครับ ว่ามีชาวนาท่านใดจำนำข้าวแล้วรวยบ้างครับ เอาเป็นข้อมูลหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือ จังหวัดก็ได้นะครับ คือสรุปมาหรือ แปะ link หรือ Quote มาเลยก็ได้ครับ เพื่อนสมาชิกที่ไม่เคยทราบจะได้รับทราบกันว่ามีชาวนาที่จำนำข้าวแล้วรวย เราจะได้มีข้อมูลข้อเท็จจริงเอาไว้โต้ตอบกันในกระดานสนทนาครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
อ้าวไอ้นี่กวน ราคาข้าวตลาดเท่าไหร่ ราคาจำนำเท่าไหร่ คนไปลงทุนทำนา ที่เขาต้นทุนต่ำ มีหรือจะไม่กำไร สมัยนี้มันจะดีไงวะ ราคาข้าวเท่าไหร่ ต้นทุนเท่าไหร่ เอาที่เห็นโลละ5บาท แต่ต้นทุนไม่ลดเลยมีแต่เพิ่ม แล้วมันจะรวยจากใหน? สุดท้ายแล้วปิดทำไม ปล่อยกู้ให้โครงการอื่นไม่ปิด มาปิดจำนำข้าว ไอ้เหี้ยไปปลุกระดมตอนใหน มันก็ปิดตอนนั้นแหละ ไม่เกี่ยวว่าจะปิดก่อน ปิดหลัง คือ ปิดก่อนก็เหี้ย ปิดหลังก็เหี้ย
"ชัยพร พรหมพันธุ์" เกษตรกรดีเด่น ถ่ายทอดประสบการณ์ ระบุ ชาวนาเคมี ต้องคอยพึ่งแต่นักการเมือง http://bazhygro.blogspot.com/2012/06/blog-post_04.html จบป.ตรี ปลูกแห้วขาย สลับทำนา ส่ง s&p - มาลี กำเงินแสนทุกวัน ตลอด 6 เดือน http://www.farmkaset.org/contentsNET/default.aspx?content=02888# เกษตรกรรายนี้ ได้มีความพยายามที่จะลดต้นทุนในการทำนา ทำนาอย่างมีคุณภาพได้ทั้งข้าวขายและเมล็ดพันธุ์ http://www.farmkaset.org/contentsNET/default.aspx?content=02257# ลองดู....แม้นแต่ในตอนนี้สีข้าวขายเองไม่ยอมงอมืองอตีน นั่งนิ่งๆ รอแต่นังอองดอกที มาตั้งราคาสูงกว่าราคาตลาดให้ขายไม่ได้ และตั้งกลโกงปล่อยปละละเลยให้กลุ่มพวกพ้องตักตวง จนต้องนั่งน้ำตาเล็ดอ้อนพวกชาวนาจัดฉากหรอก....
อ้าว คิดแบบนี้ดูถูกคนไปทำนานี่ครับ ? ว่าทำนาต้องขาดทุน ไม่กำไร ผมถือว่ากวนตีน นะคับ ยิ่งมาถาม หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด มึงไม่ถาม บัตรประชาชน ที่อย่ ภูมิลำเนา มาด้วยเลยละ จะได้ กวนตีนโดยสมบูณ อย่าถามแบบนี้อีกนะคับ ถือว่าประจานนิสัยโสโครกของตัวเอง ออกมา
ถ้าที่ไอ้เหลี่ยมกับซ่องโจรของมันทำแล้วชาวนาได้ลืมตาอ้าปากจริงๆ ป่านนี้เรายังจะเห็นชาวนาลำบากกันอยู่หรือ ไอ้เหลี่ยมกับซ่องโจรของมันกุมอำนาจรัฐอยู่ร่วมสิบปี มีมาร์คมาคั่นอยู่ช่วงสั้นๆ ถ้ามันดีจริง สิบปีไม่พอหรือที่จะช่วยชาวนา หรือพวกมันปล้นชาวนาหนักกว่าสมัยไหนๆ ดูอย่าง15,000บาทต่อตันและรับจำนำข้าวทุกเม็ดอย่างที่ปูกี้ทำ ถ้าผลประโยชน์ตกอยู่กับชาวนาจริงๆ เขาจะยอมให้ลุงตู่ทำรัฐประหารหรือ? เอาหัวแม่เท้าคิดก็ได้คำตอบแล้ว
มีกี่คน ที่ทำได้แบบนั้น ไอ้นี่มองแบบ เอาจุดเดียวมาปั้น PR แล้วโขกชาวนาทั่วประเทศ ปัญหาที่มีมันก็ต่างกันเยอะ
ก็ยกมาซิ่ ว่าสมัยจำนำข้าวใครรวย รวยยัง จำนำมากี่ปี กี่รอบแล้ว เงินจำนำข้าวถึงชาวนาเท่าไหร่ จากเงินงบประมาณเท่าไหร่ ที่เหลือใครได้ประโยชน์? ปิดหลังจากที่โครงการจำนำข้าวมันเริ่มไปแล้ว มันอนุมัติเงินไปแล้ว ค้างชำระเขาไปแล้วไง ปี 55 ก็ค้างเกี่ยวกับปิดธนาคารอีกมั๊ย ดันบอกว่ามีเงิน ใครท้วงใครติงก็เฉย ถึงได้โดนคดี... แล้วรัฐบาลไหนมันกู้เงินจากธนาคารแบบต้องเอารถเข้าไปขนเงินหรือไง ถึงบอกกู้ไม่ได้เพราะปิดธนาคาร
คิดแบบพรรคกากๆ เอาจุดเล็ก มาตีจุดใหญ่ มันต้องมีอยู่แล้วที่ตกหล่น แล้วมันก็ต้องมีอยู้แล้วที่ชาวนาได้รับเต็มๆ ซึ่งมากกว่าอยู่แล้ว ฝนตกที ยังไม่ตกทั่วฟ้าเลย
ที่ผมเห็นว่า "รวยชัดๆ" น่าจะมีอยู่ 2 ท่านน่ะครับ... รวย อาการ "ส่อปด"... น่าอดสู... มีเกาหู เขี่ยข่วน,แตะคิ้ว จมูก ปาก,ตาถลึง,เสียบปากกา,ย้ายแว่นตา,ทำหน้าเจื่อน,เลื่อนเอกสาร ฯลฯ...
มันไม่เข้าใจหรือไงว่า สูตรนี้ บริหารจัดการแบบนี้ มันจะได้ผลแบบใหน? ส่วนที่จะให้เอาผล มาปิดเผย ถามตรงๆนะ ผลที่เอามาเปิด มีอันใหนมันไม่ตกแต่งบ้าง คิดบ้างสิ ? ถ้าจะเอาผลที่ไม่เป๊ะ มาเถียง มันก็เละไปเรื่อยๆ ไม่ได้อะไรขึ้นมา
เข้าใจคับว่าเป็นโวหาร ป้ายสีเขา แต่ที่จิง คุณณัฐวุฒิ กับ บุญทรง ก็ไม่เห็นรวยอะไรจากจำนำข้าว แต่ก็บ่งบอกนิสัย คุณได้ดีนะครับ การเมืองน้ำเน่า แบบพรรคเก่าแก่
ใครไม่คิดกันแน่... ชาวนารวยจากจำนำข้าวก็หาไม่ได้ ผลประโยชน์จากจำนำข้าวตกที่ใครก็ไม่รู้ เถียงข้างๆคูๆ มันจะไปได้อะไรล่ะ
แล้วมันไม่รวยเพราะอะไร ค่าข้าวหมื่นห้าต่อตัน ถ้าไม่เป็นหนี้ ยังไงก็รวย แค่แก้หลักการตรงนี้ ว่าทำไมจะจนยังทำไม่ได้ ก็มาหาเรื่องว่า เอาคนรวยจากจำนำมาไม่ได้ ตลกหว่ะ ข้อมูลดิบๆจิงๆมันไม่มีหรอก อย่ามาชักชวน เถียงแล้วเอาตารางจากเวปนั้นเวปนี้มาเลย มันไม่เสถียร ... ถ้าจะมาคุยด้วยข้อมูลไม่เสถียร แบบนั้น ก็ไม่คุย ไปคุยกับคนอื่นก็ได้นะ
ยิ่งลักษณ์ช่วยชาวนา ยิ่งลักษณ์ไม่ผิด ยิ่งลักษณ์จ่ายเงินใบประทวนครบ... ก็มโนทั้งนั้นซิ่นะ เรืองแสงในกะลาเลย
ไม่ได้ทำข้อมูลเอง แต่เสือกเชื่อว่าข้อมูลถูกต้อง ไม่ตกแต่ง ไม่คาดเคลื่อน ไม่เรียกว่ากะลา แล้วเรียกว่าอะไร
แล้วแบบนี้เรียกอะไร... ข้อมูลอะไรก็ไม่มีอ้างอิง แต่เชื่อ กะลาเรืองแสงเลย "ไอ้นี่โชว์ควาย จำนำข้าวที่รวยมีเยอะ แต่ข่าวไม่ออก สมัยนั้นจบ ปตรี กลับบ้านไปไถนากันก็เยอะเพราะราคาดี"