พบหลักฐาน!! ต้นตอผลิต จม.บิดเบือนรธน.ซุกห้องทำงานนายกฯอบจ.เชียงใหม่ http://deeps.tnews.co.th/contents/197334/
ข่าว 7 สี - ทหาร-ตำรวจ ขยายผลเข้าตรวจค้น 6 เป้าหมาย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจับกุมผู้ต้องหา ที่เกี่ยวกับกระบวนการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และทหารมณฑลทหารบกที่ 33 เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด โดยที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนเชียงใหม่-สันป่าตองตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบของกลางเป็นซองจดหมาย กระดาษ และเครื่องปริ๊น ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ 1 หมื่นชุด ที่หย่อนลงตู้ไปรษณีย์ในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้ตำรวจจับกุมนายสามารถ ขวัญชัย ได้นำใบปลิวบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ไปติดไว้กระจกหน้ารถในห้างสรรพสินค้า และกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ จึงสอบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบว่า จดหมายดังกล่าวนายวิศรุต คณะนิติสารเป็นผู้จัดทำขึ้น จึงเข้าตรวจค้น บริษัทฯ ดังกล่าว แต่ไม่พบตัวนายวิศรุต ก่อนจะติดตามจับกุมได้ที่กรุงเทพมหานคร ที่จังหวัดลำพูนทหาร-ตำรวจ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมนายพงพันธ์ จีระวัง และนางสาวสายฝน อภิวงศ์งาม ภายในห้องเช่าในพื้นที่หมู่ 18 ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุกหลังตรวจลายนิ้วมือตรงกับ บนซองจดหมายที่ถูกส่งจากตู้ไปรษณีย์ ในจังหวัดลำปาง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ กำลังเร่งสอบสวนขยายผล เชื่อมโยงไปยังกลุ่มกระบวนการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ทหารและตำรวจบุกค้นสำนักงานส่วนตัวของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พบหลักฐานการทำใบปลิวรณรงค์ประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อมโยงกรณีส่งจดหมายกว่าหมื่นฉบับในหลายจังหวัดทางภาคเหนือก่อนหน้านี้ ทหารและตำรวจกว่า 300 นาย สนธิกำลังตรวจสอบและค้นหาหลักฐานความผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติบนถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพง อำเภอเมืองเชียงใหม่ รวม 6 จุด หนึ่งในนั้นคือการตรวจค้น บริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด ของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พบหลักฐานจำนวนมาก เช่นเครื่องพิมพ์ กระดาษ และซองจดหมาย นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์สีแดงและเสื้อผ้าที่ตรงกับภาพในกล้องวงจรปิด ที่ผู้ก่อเหตุขับขี่นำจดหมายไปหย่อนตู้ไปรษณีย์ตามสถานที่ต่างๆ ก่อนหน้านี้กว่า 1 หมื่นฉบับ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นเอกสารบิดเบือนเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวนายบุญเลิศ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมแล้ว การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นผลมาจากการจับกุมชายอายุ 63 ปี ได้ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่เขาติดใบปลิววิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ที่บริเวณห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ถนนช้างคลาน และให้การกับเจ้าหน้าที่ จนนำมาสู่ค้นสำนักงานดังกล่าว ส่วนที่กรุงเทพ ตำรวจและทหาร สามารถจับกุมนายวิศรุต คณะนิติสาร อายุ 38 ปี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ขี่รถจักรยานต์ยนตระเวนส่งจดหมายดังกล่าว ขณะนี้กำลังนำตัวกลับไปดำเนินคดีที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ ที่จังหวัดลำพูน ยังมีการจับกุมสองสามีภรรยา ที่ประกอบธุรกิจร้านซักอบรีด ในตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน ที่สารภาพว่าเป็นผู้พับกระดาษใส่ซองจดหมายโจมตีร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้านจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ เข้าจับกุมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 คนที่รับสารภาพว่าฉีกและเผาทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งศาลเยาวชนเพื่อพิจารณาความผิดต่อไป ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีที่ 2 ในจังหวัดระยองแล้ว และก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่าบัญชีรายชื่อหน้าหน่วยเลือกตั้งในอำเภอนิคมพัฒนาถูกฉีกออกไป ขณะนี้กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายต่อไป
ถึงจะมีคนบอกว่าไม่ชอบรัฐธรรมฉบับของทหารพาดันออกมาเห่าหอนเป็นทิวแถว เชื่อเหอะสุดท้ายประชามติก็ผ่านฉลุยสมใจหมายของลุงตู่ ประชามติผ่านรอกำหนดวันเลือกตั้งคงประมาณปีหน้าปีนี้นักเลือกตั้งก็จะมีเวลาลงพื้นที่หาเสียงกันแต่เนิ่นๆไม่อยากพูดว่าแอบซื้อเสียงล้วงหน้าแจกก่อนถึงวันจริงจะได้ไม่ต้องแจกให้ผิดกฏหมาย หลังประชามติตลาดเลือกตั้งคงคึกคักกันจนตลาดแทบแตกเพราะอั้นมานานนักการเมืองอยากออกทีวีบ้าง
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=715784..... อ่านเนื้อหาด้วยสิครับ นายกไม่ได้มาแจ้งขอเปลี่ยนแปลง ทางการไม่สามารถเปลี่ยนโดยพละการได้ เนื้อหามี ไม่อ่าน ห่วยหว่ะ.....
ไม่แจ้งเปลี่ยนเลยไม่เปลี่ยน ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นประจักษ์ทั่วบ้านทั่วเมือง ว่ายศอะไร โง่ตาใส หรือแก้ตัว งบประมาณเป็นพันๆล้าน ไม่เสียดายบ้างเหรอ เงินขนาดนี้ แต่ผลงานได้แค่นี้ ...
ยินดีครับที่จำได้... แล้วคุณหละเด็กน้อย อวตารไหน เปลี่ยนบ่อยจังนะครับ ( แต่ไม่ทิ้งนิสัยเดิม คาบข่าวมาแต่ไม่เคยอ่านเนื้อหา )
ใครๆ ก็พูดได้ **************************************** 'ทัศนัย' แจงตระกูล 'บูรณุปกรณ์' ไม่เกี่ยวร่างรธน.เก๊ โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 24 กรกฎาคม 2559, 11:56 นายกฯนครเชียงใหม่ แจงตระกูล "บูรณุปกรณ์" ไม่เกี่ยวร่างรธน.เก๊ ย้ำ "นายกฯอบจ.เชียงใหม่" ไม่หนีไปตปท. แค่ไปเยี่ยมลูกสาว จากกรณีจนท.ค้นบริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด ถ.เชียงใหม่-สันกำแพง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกันกับบ้านของนายวิศรุต คุณะนิติสาร อายุ 35 ปี ถูกดำเนินคดีแจกจ่ายจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญตามตู้ไปรษณีย์ในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งในบริษัทพบของกลางจำนานมากที่เกี่ยวข้องกับการบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นซองจดหมาย เครื่องปริ๊นเตอร์ คอมพิวเตอร์ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบิดเบือนเนื้อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนพอจะทราบเรื่องดังกล่าวอยู่บ้างจากข่าวที่ออกมา แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายบ้านเมืองและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงผู้กระผิด ทำผิดอะไรไว้ก็รับโทษกันไปตามกฏหมาย ส่วนเรื่องการเกี่ยวข้องกับตระกูลบูรณุปกรณ์นั้น ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างทำงาน ขณะที่ทางด้านของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ไปต่างประเทศจริง เพื่อเยี่ยมลูกสาวในต่างประเทศ ซึ่งได้แจ้งลาล่วงหน้าแล้ว ไม่ได้หลบหนีตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง พร้อมยืนยันความบริสุทธ์เมื่อเดินทางกลับจากต่างประเทศ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/708735
‘บิ๊กตู่’ ใช้ ม.44 สั่งพักงาน นายก อบจ.เชียงใหม่ ไม่ได้เงินตอบแทน หลังได้รับรายงานผู้บริหาร-จนท.ท้องถิ่น ทำผิด กม.ประชามติ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องสอบด่วน หากพบว่าไม่ผิดจริงให้รายงานเพื่อเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หลังพบร่าง รธน.ปลอมบิดเบือนเนื้อหาเพียบ ก่อนหน้านี้เคยเข้าค้นบริษัทด้วย http://www.isranews.org/isranews-news/item/48736-didi_48736.html
หลังจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ ตำรวจภาค 5 ก็เร่งขยายผลลอบไปถึงผู้บงการ ที่อาจเชื่อมโยงถึงนักการเมืองในพื้นที่ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ บอกว่า หลังการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ใน จ.เชียงใหม่ลำพูน และจ.เชียงราย ได้ 2 ราย คือ นายพงศ์พันธ์ จีระวัง และนายวิศรุต คุณะนิติสารชุดสืบสวนและพิสูจน์หลักฐานของ ตำรวจภูธรภาค 5 ยังเร่งค้นข้อมูลจากหลักฐานที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์,ข้อมูลจากหน้าซองไปรษณีย์ ที่ระบุถึงบุคคลต่างๆ หรือคำให้การจากผู้ต้องหา ถึงตัวการสำคัญในคดี โดยคดีของนายพงศ์พันธ์ ที่แจกจ่ายใบปลิว ซุกไว้ตามที่ปัดน้ำฝนรถยนต์และท้ายรถจักรยานยนต์บริเวณห้างสรรพสินค้าพันธ์ทิพย์พลาซ่า จ.เชียงใหม่ พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการ อีก 1 รายเป็นผู้หญิง กำลังรอศาลพิจารณาหมายจับ ส่วน คดีที่มีการจับกุมนายวิศรุต ที่พบว่า เป็นผู้นำซองจดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญไปหย่อนตามตู้ไปรษณีย์ต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่ ลำพูนและลำปาง ได้มีการค้นบริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ ที่ตั้งบน ถ.เชียงใหม่-สันกำแพง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกันกับบ้านของนายวิศรุต พบของกลางจำนานมาก ต่อมาก็เข้าตรวจต้น ที่เทศบาลตำบลช้างเผือก และบ้านนายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก พบเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ สอบประวัติ ก็พบว่า นายคเชน เป็นหลานเขยของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้นายบุญเลิศ ก็ยังอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเยี่ยมลูกสาวในต่างประเทศ ขณะที่นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ออกมาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เชือด "บูรณุปกรณ์" ให้ "ชินวัตร" ดู มีคําสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับล่าสุดออกมาในวันนี้ สั่งให้ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระงับการปฏิบัติเป็นการชั่วคราว โดยเหตุผลของคำสั่งระบุชัดเจนว่าอาจเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับนี้ เป็นฉบับที่ 44/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 5 ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานและตรวจค้นพบว่าผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งมีการกระทําซึ่งอาจเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ จึงจําเป็นต้องดําเนินการโดยด่วนเพื่อป้องกันหรือระงับมิให้เป็นการทําลายความสงบเรียบร้อยหรือเกิดความเสียหายต่อราชการแผ่นดิน คำสั่งระบุให้นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ใน อบจ.เชียงใหม่ เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคําสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหรือดําเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ในกรณีพบว่ามีผู้บริหารหรือข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้อื่นเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด หรือไม่พบว่านายบุญเลิศมีความผิด ให้รายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาหรือเปลี่ยนแปลงคําสั่งต่อไป คำสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการตรวจพบจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญจำนวนนับหมื่นฉบับที่ส่งให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง และลำพูน ซึ่งต่อมาตำรวจมีการนำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ต่างๆ และพบว่าอาจเชื่อมโยงกับนายบุญเลิศ และกลุ่มการเมืองตระกูลบูรณุปกรณ์ "ประวิตร"ไฟเขียวหลักฐานถึงใครจัดการหมด ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงข่าวตำรวจภูธรภาค 5 เตรียมออกหมายจับนักการเมือง 5 คนที่เกี่ยวข้องกับการส่งจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ภาคเหนือ โดยบอกว่า เจ้าหน้าที่ระบุว่ากำลังเตรียมการ ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ถ้าหลักฐานถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ไม่ทราบว่าจะถึงนักการเมืองระดับชาติหรือไม่ ขอให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนไปก่อน ยืนยันว่าเรื่องเอกสารปลอมร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่การดำเนินการของ คสช. ส่วนการฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามตินั้น ไม่มีขบวนการฉีกบัตร แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ถึงขั้นเป็นขบวนการล้มประชามติ ผู้ต้องหา3กลุ่มโยงนักการเมืองตระกูลดัง ด้านความคืบหน้าทางคดี พลตำรวจตรี มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวน แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว ขณะที่พลตำรวจโท ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า เตรียมออกหมายจับไล่ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงผู้มีส่วนรู้เห็นและผู้บงการ โดยผู้เกี่ยวข้องแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บงการสั่งการ // ผู้ผลิตหรือพิมพ์เอกสาร // และผู้นำส่งเอกสาร ทั้งนี้ ในระดับล่าง คือผู้ที่นำเอกสารไปส่งยังตู้ไปรษณีย์ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ งเจ้าหน้าที่ได้ตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 คน ส่วนที่เหลือทราบว่ายังมีอีกหลายคน ส่วนข่าวที่ว่าอาจเชื่อมโยงนักการเมืองท้องถิ่นตระกูลดังหรือไม่นั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แม้ว่าหลักฐานบางอย่างเชื่อมโยงไปถึงผู้ที่ใกล้ชิดกับตระกูลนี้จริง แต่ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน ผู้ต้องหาขอเค้าโปรแกรม"คุ้มครองพยาน" มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองตระกูลดังในจังหวัดเชียงใหม่ และถูกจับกุมฐานเกี่ยวข้องกับการส่งจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ได้ให้การรับสารภาพพร้อมเปิดเผยผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ขณะนี้เจ้าตัวขอเข้าโปรแกรมคุ้มครองพยาน เนื่องจากหวั่นเกรงความไม่ปลอดภัย ทหารคุมตัวผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญขึ้นรถตู้มารายงานตัวที่กรุงเทพฯ มีคนในตระกูลบูรณุปกรณ์ กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย พร้อมนำตัวไปควบคุมไปที่ มทบ. 11 หรือ ราบ 11 ด้าน “ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์” อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ถูกทหารรวบตัวไป มทบ.11 ขณะรอพบ ผบ.ตร. เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ผู้ต้องหาตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา116 จำนวน 11 คนมารายงานตัวที่มทบ.33 หลังจากที่ฝ่ายกฎหมายของคสช. เข้าแจ้งความกล่าวโทษที่กองปราบปราม โดยส่งตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีที่กทม. โดยอยู่ในความดูแลของ มณฑลทหารบก 11 ทางตำรวจภาค 5 จะมีการสอบสวนร่วมกับกองปราบปราม ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (26ก.ค.) ได้เชิญตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 11รายเพื่อให้มารายงานตัววันนี้(27ก.ค.)ส่วนนายวิศรุต คุณะนิติสาร ผู้ต้องหาที่ยอมรับว่าเป็นผู้ส่งจดหมายให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ดีก็จะแยกส่งตัวไป ไม่รวมกับกลุ่มที่ให้มารายงานตัว ส่วนของนายบุญเลิศ อยู่ต่างประเทศแต่ได้แจ้งบุคคลใกล้ชิดมาถึงจะรีบไปรายงานตัว สำหรับน.ส.ทัศนีย์ ทราบว่า อยู่กทม.ได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานให้ไปรายงานตัวที่มทบ.11 ส่วนนายกฤตกร และนายเทวรัตน์ ขณะนี้ที่ยังไม่มารายงานตัว ซึ่งก็รวมยังเหลืออีก 4 คน ซึ่งหากสะดวกก็ให้ไปรายงานตัวที่กรุงเทพฯได้เลย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คนพร้อมคนสนิทที่ขอติดตามไปด้วยขึ้นรถตู้ของทหาร เดินทางเข้ากทม.เพื่อไปส่งยังมทบ.11ส่วนของนายวิศรุตทางเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวไปส่งอีกกลุ่มหนึ่ง รวบอดีตส.ส.เชียงใหม่ขณะรอพบผบ.ตร. ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางขอเข้าพบพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการส่งจดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงมาร้องขอความเป็นธรรม ขอให้เจ้าหน้าที่ทหารปล่อยตัว น.ส.ธารทิพย์ บุรณุปกรณ์ น้องสาว ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุมตัว เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมยืนยันจะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ระหว่างที่ น.ส.ทัศนีย์ และทนายความให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยยังไม่ได้เข้าพบ ผบ.ตร. ทางเจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัว น.ส.ทัศนีย์ โดยใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2556 ฐานยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ขึ้นรถไปสอบปากคำที่ มณฑลทหารบก 11 ทหารค้นห้อง"บุญเลิศ"หาหลักฐานป่วนร่างรธน. เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ( 27 ก.ค.) ตำรวจสถานำตรวจภูธรช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหาร รวมกว่า 30 นาย นำหมายค้นเข้าตรวจสอบที่ห้องทำงานของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งห้องทำงานของนายไพรัช ใหม่ชมภู และนายพิเชษฐ์ พิศุทธกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 4 ของอาคาร ที่ทำการ อบจ.เชียงใหม่ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ทำข่าว
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เข้ารายงานตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 ตามคำสั่ง คสช.ติดตามบรรยากาศกับ ปรีชา เพาะพูล สำหรับบรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้ามณฑณทหารบกที่ 11ยังคงมีสื่อมวลชนทุกสำนักติดตามการเดินทางมารายงานตัวนาย บุญเลิศ บูระนุประกร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่สร้างความสับสนในการลงประชามติโดยประตูทางเข้าฝั่งถนนเกษะโกมลยังคงมีเพียงสื่อมวลชนคอยเกาะติดสถานการณ์อยู่บริเวณภายนอก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จากกรณี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ใช้อำนาจ ม.44 สั่งพักงาน นายบุญเลิศ บูระนุปะกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ ด้วยคำสั่ง คสช. ฉบับล่าสุดที่ออกมา ถึงเรื่องการสั่งพักงานนายบุญเลิศ เป็นการชั่วคราวนั้น นายบุญเลิศ จะทราบแล้วเช่นกัน และพร้อมจะเดินทางกลับไทยล่วงหน้าก่อนกำหนดเพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ มีรายงานว่า ตัวของนายบุญเลิศ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่จะเดินทางไปยัง มณฑลทหารบกที่ 11 โดยเดินทางด้วยเครื่องบินในวันนี้ ด้าน พลตรีโกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก33 เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จากการพูดคุยกับนายบุญเลิศ ได้รับทราบแล้วว่า ต้องเข้าไปรายงานตัวที่ มทบ.11 โดยไม่ได้เป็นการควบคุมตัวแต่อย่างใด เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว เมื่อคุยกันก็เข้าใจ และจะเดินทางเข้าไปรายงานตัวที่กรุงเทพฯ "บุญเลิศ" รายงานตัวทหาร ข้อหาบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ช่วงเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ ด้วยสายการบินไทย ไลออน แอร์มาที่สนามบินดอนเมือง เพื่อรายตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 ในคดีที่เกี่ยวข้องกับจดหมายบิดเบือนรัฐธรรมนูญ โดยนายบุญเลิศ ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อคดีนี้ ทั้งนี้ นายบุญเลิศ ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พักปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) และถูกตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 และกรมการปกครอง นำหมายเรียกไปเชิญตัว นายบุญเลิศ หลังถูกระบุว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่จดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ช่วงคืนที่ผ่านมา (28 ก.ค.) หน่วยข่าวกรอง กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.เชียงใหม่ กองทัพภาคที่ 3 รายงานว่า ได้เชิญตัวนายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งของ คสช. หลังพบหลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวาน และเข้ารายงานตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 แล้ว บัตรออกเสียงประชามติ ตำรวจคุมขนส่งบัตรออกเสียงประชามติ ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มจัดส่งบัตรออกเสียงประชามติไปทุกจังหวัดแล้ว โดยบัตรออกเสียงได้ส่งถึง 11 อำเภอ ในจังหวัดลพบุรีแล้ว โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อของบริษัทไปรษณีย์ไทย นำขบวนและปิดท้ายด้วยรถตำรวจทางหลวง 2 คัน ในรถขนบัตรจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมรถบรรทุกบัตร 2 นาย จุดแรกนำส่งที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี และส่งต่อเนื่องไปตามอำเภอต่างๆ จำนวน 11 อำเภอ และตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้จัดกำลังตำรวจสายตรวจติดตาม และตำรวจจราจร คอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง สำหรับจังหวัดลพบุรี มีหน่วยออกเสียง 1,075 หน่วย ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมี 590,000 คน คณะรักษาความสงบแห่งชาติยืนยันการกักตัวนักการเมืองตระกูล “บูรณุปกรณ์” พร้อมพวก เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อสอบหาขบวนการทำจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญส่งทางไปรษณีย์จำนวนหลายหมื่นฉบับ พันเอกปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า การคุมตัว นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และพวกนั้น เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับขบวนการจัดส่งจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการควบคุมตามกรอบกฎหมาย ใช้อำนาจ คสช.ที่สามารถควบคุมตัวได้เป็นเวลา 7 วัน ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งกระทำการใดๆ ให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง และซ่องโจรนั้น ทีมกฎหมาย คสช.กำลังพิจารณาว่าพฤติกรรมเข้าข่ายหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ต้องไปขึ้นศาลทหาร "บุญเลิศ"รายงานตัวทหารที่ มทบ.11 แล้ว ด้านความเคลื่อนไหวของ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช.ระงับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเปิดทางให้สอบสวนความเกี่ยวโยงกับพฤติการณ์บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญนั้น ภายหลังกลับจากต่างประเทศและถูกควบคุมตัวไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อค่ำวานนี้ ปรากฏว่าเช้าวันนี้ มีรายงานว่า นายบุญเลิศ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่มณฑลทหารบกที่ 11 ขณะเดียวกัน ฝ่ายทหารโดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กกล.รส. จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเชิญตัว นายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งของ คสช.ด้วย หลังพบหลักฐานว่าอาจเชื่อมโยงกับเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ จังหวัดสั่งสอบ"บุญเลิศ"ซ้ำปมจดหมายบิดเบือน นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนายบุญเลิศ และสอบสวนปมบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้จังหวัดอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่สิ่งที่นายก อบจ.เชียงใหม่และทีมงานถูกกล่าวหานั้น ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานท้องถิ่น เพราะเป็นกฎหมายคนละบทกัน ฉะนั้นต้องรอดูผลทางคดีอาญาว่าจะออกมาอย่างไรด้วย ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ศาลทหารได้อนุมัติหมายจับ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมพวกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พลตำรวจโทธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ศาลทหารได้อนุมัติหมายจับ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ญาติและคนใกล้ชิด 11 คน รวมทั้งนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย พบข้อกล่าวหาความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น /มาตรา 210 สบคมกันกระทำการอั้งยี่ ซ่องโจร พร้อมให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามกฎหมายประชามติ พรุ่งนี้( 2 ส.ค.59) ตำรวจจะเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาจากมณฑลทหารบกที่ 11 ก่อนคุมตัวส่งศาลทหารเพื่อขอฝากขังภายใน 48 ชั่วโมง
อดีต ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมคนในครอบครัวบูรณุปกรณ์ และคนใกล้ชิดรวม 11 คน ถูกควบคุมกลับถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลทหาร นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมพวกรวม 11 คน ถูกควบคุมตัวจากกองบังคับการปราบปราม กลับไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะส่งตัวขึ้นศาลทหารจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขออำนาจฝากขังผัดแรก ภายใน 48 ชั่วโมง ในข้อหายุยงปลุกปั่น เป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 116 และมาตรา 210 กระทำการอั้งยี่ ซ่องโจร และความผิดกฎหมายประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง จากกรณีสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องข้องกับจดหมายโต้แย้งร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ นางสาวทัศนีย์พร้อมพวก ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา และเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่นำบุคคลทั้งหมดไปสอบปากคำดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปราม โดยมีพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมสอบปากคำ ยืนยันหลักฐานชี้ชัดในการกระทำความผิด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน ล่าสุดมีรายงานว่า พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับทหาร เชิญตัว นายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และนายอัครพล ถนอมศิลป์ เจ้าของโรงพิมพ์นพบุรีการพิมพ์ ไปสอบปากคำเพื่อหาความเชื่อมโยงเพิ่มเติมในคดี คดีประชามติ 4 กลุ่มโยง "บูรณุปกรณ์" ทำจดหมายบิดเบือน รธน. ข่าว 7 สี - ตำรวจภูธรภาค 5 เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน ในคดีบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ตำรวจได้ควบคุมตัว นายไพรัช ใหม่ชมภู และทันตแพทย์หญิงธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ 2 ใน 11 ผู้ต้องหา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่ตำรวจอีกชุดได้นำรถยนต์ของนางสาวเอมอร ดับโศรก ที่เชื่อว่าเป็นรถคันที่นำไปตระเวนส่งจดหมายไปตรวจค้น เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พลตำรวจโทธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำ และหาพยานหลักฐานเพิ่ม ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังในวันพรุ่งนี้ ที่จะครบ 48 ชั่วโมง ซึ่งแนวทางการสืบสวน พบกลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายถูกออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน ส่วนคดีบัญชีราชชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงลงประชามติ ในพื้นที่อำเภอสันกำแพง หายไปทั้งชุด พันตำรวจเอกอัครินทร์ กาสา ผู้กำกับการ สภ.สันป่าตอง เปิดเผยว่า ได้ตั้งประเด็นในเรื่องของวัยรุ่นคึกคะนอง และเกิดจากลมพัดแรง แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นมีผู้ป่วนการลงประชามติ และกำชับให้ตำรวจเร่งหาเบาะแสในคดีแล้ว ศาลทหารไม่อนุญาตให้ประกันตัว11 ผู้ต้องหาคดีส่งจดหมายบิดเบือนร่างรธน. หวั่นไปยุ่งเยิงกับพยานหลักฐาน ด้านทนายความเตรียมยื่นประกันตัวอีกครั้ง หลังวันลงประชามติ
ข่าว 7 สี - มีการจับกุมผู้ที่บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มอีก 2 คน ก่อนถูกส่งตัวมายังมณฑลทหารบกที่ 11 เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม นาย เทวารัตน์ รินต้า คนขับของรถนายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ได้ถูกควบคุมตัวหลังเข้ามอบตัวยังฝั่งประเทศไทย บริเวณด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดย นายเทวารัตน์ ถูกนำตัวมาควบคุมตัวไปไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ ก่อนถูกส่งตัวต่อมายังมณฑลทหารบกที่ 11 กรุงเทพมหานคร เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม จากนั้นจะถูกควบคุมตัวกลับไปยัง สภ.แม่ปิง เพื่อดำเนินคดี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวนางเนติธัช อภิรติมัย นักวิชาการนโยบายและแผนปฏิบัติการ และเลขานุการของ นายคเชน เจียกขจร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก ไปสอบปากคำเบื้องต้นที่มณฑลทหารบก 33 และส่งตัวต่อมายังมณฑลทหารบกที่ 11 แล้วเช่นกัน ส่วนบรรยากาศที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ สถานที่ควบคุมตัวนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ และพวก 5 คน ที่เป็นผู้ชาย ตลอดทั้งวันมีนักการเมืองทั้งระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น ขอเข้าเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้แพทย์ และพยาบาล ได้เข้าตรวจร่างกายของนายบุญเลิศ พบว่ามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีสีหน้าที่แจ่มใส ถึงแม้จะยังคงมีความวิตกกังวลอยู่บ้าง ภ.จว.เชียงใหม่ แจ้งความต่อพนง.สอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีกับ 'จิราภรณ์ ฉายแสง' ภรรยาจาตุรนต์ ฉายแสง ข้อหาช่วยเหลือคนทำผิดกม.ประชามติ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ให้ดำเนินคดี นางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยานายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ข้อหาช่วยเหลือ นายวิศรุต คุณะนิติสาร ที่หลบหนีหมายจับ ความผิด พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไปฝากเจ้าอาวาสวัดสระเกศวรมหาวิหาร กรณีนำจดหมายใบปลิวต้านร่างรัฐธรรมนูญแจกจ่ายทางไปรษณีย์ ในจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่มีการออกหมายจับกุมผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ด้านนายจาตุรนต์ โพสต์ Facebook ระบุ ภรรยาไม่เกี่ยวข้องการซ่อนตัวของนายวิศรุต และหากมีหมายเรียก พร้อมที่จะไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสู้คดีเพื่อยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งเตรียมฟ้องกลับผู้ที่ใส่ร้าย ให้การเท็จหรือกระทำใดๆ ให้เสียหาย ศาลทหารไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ รวมทั้งนางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และ พวก หลังทนายความเข้ายื่นขอประกันตัวอีกครั้ง หมายข่าวล้อมกรอบ กับ ประจักษ์ มะวงษา ร่ายยาวความสัมพันธ์ของนักการเมือง คดีเมียจาตุรนต์ และ แร้งลงที่วัดสระเกศ ทหารควบคุมตัวอดีตผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยในภาคเหนือ เพิ่มเติมอีก 2 คนพร้อมนักการเมืองท้องถิ่น หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยกรณีจดหมายโต้แย้งร่างรัฐธรรมนูญ และไม่อนุญาตให้แกนนำพรรคเข้าเยี่ยม พลตำรวจโท วิโรจน์เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย พร้อมแกนนำพรรค ขอเข้าเยี่ยม นายรังสรรค์ มณีรัตน์ และนายสมโภชน์ สายเทพ อดีตผู้แทนราษฎรจังหวัดลำพูน และ ลำปาง พร้อมด้วยนายปริญญา ขาวรัตน์ รองนายกเทศบาลตำบลบ้านธิ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 แต่ไม่ได้รับอนุญาต นายรังสรรค์ พร้อมพวกถูกตั้งข้อสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับจดหมายโต้แย้งร่างรัฐธรรมในภาคเหนือ และถูกจับกุมตัวตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่ จากนั้นถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่าน (10 ส.ค.) นายภูมิธรรม เรียกร้อง คสช.ผ่อนปรน เพราะการแสดงออกทางความคิดเห็นไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรง หรือหากจะมีการดำเนินการเอาผิด ก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมปกติ ส่วนนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ "ไผ่ ดาวดิน" ซึ่งถูกคุมขังภายในเรือนจำภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.ประชามติ วันนี้เป็นวันที่ 5 ได้เขียนจดหมายจากเรือนจำ พร้อมยืนยันไม่ขอประกัน และอดอาหารประท้วงต่อเนื่อง แม้สภาพร่างกายอ่อนแรงมากขึ้น ส่วนบรรยากาศหน้าเรือนจำ ยังคงมีเพื่อนนักกิจกรรม นักศึกษา และตัวแทนจากชุมชน เช่นกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย และจากบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ
ศาล มทบ.33 ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทำจดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญรวม 13 คน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ศาลทหารอนุญาตฝากขังผัดที่ 2 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้ต้องหาคดีเผยแพร่จดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญรวม 10 คน ขณะที่ทหารส่งมอบอดีตส.ส.เพื่อไทย อีก 2 คน หลังพบความเกี่ยวข้องในขบวนการ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลาง และทัณฑสถานหญิงจังหวัดเชียงใหม่ นำตัวนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวทัศนี บูรณุปกรณ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พร้อมพวกรวม 10 คน เข้าขออำนาจศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 33 ฝากขังผัดที่ 2 ระหว่างรอพนักงานสอบสวนจัดทำสำนวนส่งฟ้อง หลังทั้งหมดตกเป็นผู้ต้องหาความผิดตามกฎหมายอาญา และประชามติ กรณีแจกเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ภาคเหนือ ล่าสุดศาลทหารได้อนุมัติฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ตามคำขอของพนักงานสอบสวน ส่วนการยื่นขอประกันของทีมทนายความไม่เป็นผล อีกด้านหนึ่งที่กองบังคับการปราบปราม คณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. ส่งมอบตัวนายรังสรรค์ มณีรัตน์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำพูน พรรคเพื่อไทย นายสมโภช สายเทพ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปาง พรรคเพื่อไทย พร้อมพวกรวม 4 คน ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นพบพฤติกรรมเชื่อมโยงกับเครือข่ายผู้ต้องหาเผยแพร่เอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 10 รายก่อนหน้านี้ โดยแจ้งข้อหาความผิดตามกฎหมายอาญา ยุยงปลุกปั่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญตามกฎหมายประชามติ เตรียมนำตัวส่งฟ้องที่ศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 33 ต่อไป ทหารคุมตัว 4 ผู้ต้องหา พิมพ์หนังสือบิดเบือนประชามติ ส่งตำรวจกองปราบ ก่อนส่งฟ้องยังศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 32 จ.ลำปาง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) - วันที่ 15 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ และเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ได้ควบคุมตัว นายรังสรรค์ มณีรัตน์ อดีต สส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย , นายสมโภช สายเทพ อดีต สส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย , นายปริญญา ขาวรัตน์ รองนายกเทศมนตรี ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน และนายสุปกิจ คชเสนี อดีตผู้สมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคมหาชน และหลาน จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้ต้องหาในความผิดข้อหา ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , ร่วมกันเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 และ ร่วมกันเผยแพร่ข้อความที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือกล่าวหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญตาม พ.ร.บ. ประชามติ มาตรา 61 (2) , (4) ส่งมอบต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อพิจารณาดำเนินคดี ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และคณะ รอรับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนภายหลังรับมอบตัวผู้ต้องหาแล้ว ทางแพทย์ รพ.ตำรวจ ได้ทำการตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐาน ว่าผู้ต้องหาไม่ได้ถูกทำร้าย หรือมีบาดแผลใดๆ ในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยทั้งหมดสุขภาพร่างกายเป็นปกติ ก่อนจะส่งมอบให้ทางพนักงานสอบสวนรับมอบตัวไว้ และดำเนินคดี ก่อนส่งฟ้องยังศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 32 จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในส่วนของพฤติการณ์ที่พบนั้น มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของกลุ่มผู้ต้องหา 11 ราย ที่ถูกควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีก่อนหน้านี้ โดยเกี่ยวพันกับกรณีการเผยแพร่จดหมายที่มีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ แจกจ่ายในพื้นที่ภาคเหนือ ในช่วงระหว่างวันที่ 12-15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบพบการส่งต่อในพื้นที่ จ.ลำปาง จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ กระทั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว