ดิจิตอลระส่ำ! 'วอยซ์ทีวี'โละ พนง.ครึ่งร้อย “เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทจึงปรับกลยุทธ์การบริหารและโครงสร้างองค์กรปี 2559 โดยปรับลดพนักงานลง 57 อัตรา เพื่อให้องค์กรมีขนาดที่เหมาะสมต่อการทำงานในภาวะการแข่งขันอย่างสูงมากในธุรกิจทีวีดิจิตอล ทั้งนี้บริษัทได้สื่อสารกับพนักงานทั้งหมดให้เข้าใจเป้าหมายแล้ว” แถลงการณ์ระบุ แถลงการณ์ยืนยันว่า ในการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ บริษัทได้ดูแลและชดเชยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างด้วยความเป็นธรรมตามกฎหมายแรงงานทุกประการ ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีเป็นของบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของคนในตระกูลชินวัตร ได้นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจช่วงปี 2557 ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ มีรายได้จากการบริการ 106,916,623.52 บาท รายได้อื่น 10,406,523.12 บาท รวมรายได้ 117,323,146.64 ส่วนรายจ่ายแจ้งว่ามีต้นทุน 235,229,469.76 บาท ค่าใบอนุญาต 60,973,515.98 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 37,556,374.30 บาท ค่าใช้จ่ายในบริหาร 79,709,134.51 บาท รวมรายจ่าย 413,468,494.55 บาท ขาดทุนสุทธิ 310,128,621.59 บาท ขณะที่ผลประกอบการในช่วงปี 2556 แจ้งว่ามีรายได้รวม 157,261,307.28 บาท มีรายจ่ายรวม 289,953,144.45 บาท ขาดทุนสุทธิ 134,094,264.39 บาท http://www.thaipost.net/?q=ดิจิตอลระส่ำ-วอยซ์ทีวีโละ-พนงครึ่งร้อย
หมดบารมีพ่อมันแร้ว จะไปทำมาหาแดกอะไรเป็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ก็ผ่าน ๆ มา ก็ได้ชื่อพ่ออ้างทั้งนั้นแระ ต่อไปก็มีคนรอจองกฐินกันยาว
ไอ้พวกในพันทิปบอกว่าเป็นทีวีทันสมัย สงสัยจะเกินไปเยอะ 555 เป็นทีวีที่เจอแล้วไม่เปลี่ยน ไม่ skip แต่ลบเลย
ธุรกิจในครอบครัว ขาดทุนแค่หลักร้อยล้าน ไม่ต้องมีใครบอกใครเตือน รีบปรับปรุงใหม่ ลดพนักงานเพื่อลดการขาดทุน แต่พอทำนโยบายประชานิยมเพื่อหาเสียง โดยใช้เงินภาษีของประเทศ ขาดทุนบักโกรกจนมีหลายหน่วยงานออกมาเตือน แม้แต่คนในพรรคเองเช่นดร.โกร่ง ก็ออกมาเตือน แต่เธอดันอ้างว่าเป็นนโยบาย เลิกไม่ได้ จะเดินหน้าทำต่อแม้จะขาดทุนเป็นแสนล้าน นักการเมืองทำตัวเองทั้งนั้น รธน.ฉบับใหม่เขาถึงได้เขียนป้องกันเอาใว้ แต่มันก็ไม่สำนึกหรอก ออกมาค้านกันขรมว่า ต่อไปรัฐบาลจะทำงานยาก มันมโนกันไปเอง เพราะหวงอำนาจ เห็นแก่ตัว ก็ถ้ามันทำแล้วดี ถามหน่อยเหอะ ใครหน้าไหนจะกล้าออกมาค้าน เพราะเท่ากับสร้างศัตรูทั่วประเทศ
ช่องอื่นก็มีปัญหากัน เรื่องเงินทุนเรื่องค่าใช้จ่าย บางช่องก็ไปไม่รอด คนยุคนี้ดูทีวีน้อยลง เสพข่าวเสพความบันเทิงในเน็ตกันมากขึ้น คนที่เรียนจบมาดี เป็นนักวิชาการ ดูมีโอกาสและภาษีดีกว่าชาวบ้าน แต่คิดได้แค่นี้ ผมเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง ยังคิดเห็นกับสื่อว่า เสรีภาพแบบไร้ความรับผิดชอบ เสี้ยมยุแหย่สังคม ละลาบละล้วงสิทธิส่วนบุคคล บ่อนทำลายบรรทัดฐานของสื่อเสียเอง จะให้ทำอย่างไร ?
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารายได้หลักของบรรดาธุรกิจทีวีดิจิตอลคือค่าโฆษณา ? ทว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้แต่ละช่องมีโฆษณาเข้ามาค่อนข้างน้อย หรือค่าโฆษณาราคาค่อนข้างถูกกว่าช่องฟรีทีวีนั้น เป็นเพราะไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร เนื่องจาก ‘Content’ หรือเนื้อหาในรายการต่าง ๆ ของช่องทีวีดิจิตอล ที่ยังคงซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีอะไรแปลกใหม่ มีตั้ง 15 ล้านตัว ทำไมไม่ช่วยกันดูล่ะ