"กิตติรัตน์" ระเบิดลง โต้กลับ "อรรถวิชช์" ปมว่ารบ. "ปู" สร้างหนี้มโหฬาร บอก กล่าวเท็จคำโตเพื่อเอาดีใส่ตัวตามสันดานเดิม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหาว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างหนี้มโหฬารนั้น เป็นการกล่าวเท็จคำโต เพื่อเอาดีใส่ตัว ตามสันดานเดิมของพรรคพวกตน ความจริงเป็นที่ปรากฏชัดว่า จากระดับหนี้สาธารณะ และภาระดอกเบี้ยต่องบประมาณที่ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับช่วงมาจากรัฐบาลของพวกเขา ได้ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินอย่างรอบคอบและเป็นผลดี จนเศรษฐกิจของประเทศ (GDP) ขยายตัว หนี้ฯใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลของงบประมาณมีขนาดน้อยลง และแม้เมืื่อรวมหนี้ฯใหม่จากโครงการที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ของรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ (ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมรวม หนี้วงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ไว้แล้ว) สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ และหนี้สาธารณะที่เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดินก็มีระดับที่ต่ำลง จากการบริหารหนี้สาธารณะ และระบบการชำระคืนเงินต้น ให้เข้าที่เข้าทาง เห็นได้จากความจำเป็นในการตั้งงบประมาณประจำปี เพื่อจ่ายดอกเบี้ย ลดต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญ "อยากบอกนายอรรถวิชช์ว่า ถ้ากลัวคนเขาจะลืม ก็ขอให้เขาจำได้ในทางที่ดีเถอะครับ มิฉะนั้นคนเขาจะไปโยงเอากับสันดานของพรรค ของพวก หรือแม้แต่ของบุพการี" นายกิตติรัตน์ ระบุ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437384269 ภาพจากอาณาจักรไบกอน Returns เจ็บไหมอ่ะคะ ? ไอ้พรรคขี้โกง ไอ้พรรคขี้แพ้ แพ้ซ้ำซาก แพ้จนชิน แม่ตัวเองโกง ธนาคารมหานคร หนีคดีจนหมดอายุความ 4,700 ล้าน ยังหนังหนาหน้าด้าน กล้ามาชี้หน้าบอกคนอื่นกว่าโกง กลับไปดูคนที่พรรควิบัติ กลับไปดูคนที่บ้านตัวเองก่อนดีกว่าไหม ทำระยำอะไรไว้? สมเพช ที่โทษประหารสำหรับคนโกงอีกฝ่ายหนึ่ง ถูกกำหนดขึ้นมาจากคนขี้โกงอีกฝ่ายหนึ่ง จัญไรแค่ใหนก็เกิดขึ้นได้ ในกะลาแลนด์ ท่านกิตติรัตน์ จัดหนักได้ใจจริงๆ
ถ้ากลัวคนเขาจะลืม ก็ขอให้เขาจำได้ในทางที่ดีเถอะครับ มิฉะนั้นคนเขาจะไปโยงเอากับสันดานของพรรค ของพวก หรือแม้แต่ของบุพการี ย้อนแย้งเหมือนด่าตัวเอง เจ้าของคำพูดนี้ มีอะไรดีๆ ให้ชาวบ้านจำบ้างมั้ยเนี่ย ?
"พูดไม่จริง โดยสุจริต" มันคืออันใด งั้นเสื้อแดงคงพูดว่า "เราไม่ได้เผา เราแค่จุดไฟไล่ยุง ดีขนาดใหนแล้ว ที่ทุกคนไม่เป็นไข้เลือดออก "
ไม่เจ็บอ่ะ ถ้ามาจากปากรมต.จอมโกหก ที่ยอดต่ำเตี้ยกว่าเป้าจนต้องออกมายอมรับว่าตัวเองโกหก เอาเลยนะโต้ง แฉตัวเองเยอะๆ จัญไรแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ เพราะเคยทำจัญไรประมาณว่าเผาบ้านเผาเมือง ปล้น ฆ่า ก่อกวน ยิงพวกเดียวกัน ปาระเบิด ก็ทำมาหมดแล้ว แต่ไม่หนำใจอยากแยกดินแดนกะจะจัญไรให้เต็มที่ในกะลาแลนด์แต่แยกไม่ได้จ้ากะลาแลนด์แห่งสปป.ล้านา กลัวอะไรกับกฎหมายใหม่เหรอ แล้วแม่อรรถวิชช์เขาไปร่วมร่างกฎหมายด้วยเหรอ กลับไปดูที่พรรคเผาไทยทั่วราชอาณาจักร กลับไปดูครอบครัวตัวเองก่อน ลูกเรียนห่วยแต่ใช้วิธีพิเศษย้ายคณะ อีกคนติดยาแถมลอกข้อสอบ อีกคนนี่เกรียนจริงๆ เข้ามหาวิทยาลัยแบบกังขาเพราะข้อสอบรั่ว น้องคนนึงก็ปลอมวุฒิ ตัวเองก็เลียไข่เผด็จการจนร่ำรวย ลิ่วล้อก็ทิ้งแม่ อีกตัวก็สั่งเผา ดีแต่ปากแต่ใจตุ้ด เอ้อ สันดานใส่ร้ายไม่เลิกจริงๆ นายเวรนี่ เป็นควายแดงตอแหลอย่าได้ริอาจชี้หน้าผู้อื่นว่าตอแหลเลย น่าสมเพช กฎหมายใหม่ออกมารัดกุมกว่าเดิม ดิ้นพราดๆๆๆๆๆๆกันเป็นแถบ สะใจโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หน้าแตกมั้ยจ๊ะ ท่านโต้งไวท์ลายจอมโกหก ดิ้นกันเข้าไปนะ ยิ่งเห็นยิ่งขำ ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขนาดคนในตระกูล ณ ระนอง ยังรับในความเลวของไอ้โต้งไม่ได้เลย ฉายา white lie มันได้มาจากความตอแหลของมันล้วนๆ
กลุ่ม 40 ส.ว. รุมถล่ม “กิตติรัตน์” โกหกสีขาวหรือโกหกคำโตเรื่องตัวเลขส่งออก ส่งผลกระทบต่อการลงทุน “คำนูณ” จี้ลาออก ฝากผู้ตรวจฯ จัดการฐานผิดจริยธรรมทำขัด รธน.ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ... นายกิตติรัตน์กล่าวว่า สำหรับข้าวที่เข้าโครงการมากเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะบริหารจัดการระบายออกไปในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาขายข้าวระหว่างรัฐบาล หรือจีทูจี ส่วนความกังวลเรื่องการเสียแชมป์ในการส่งออกข้าวนั้น รัฐบาลได้ชี้แจงมาหลายครั้งว่าไม่ได้ให้ความสำคัญของแชมป์มากกว่าเม็ดเงินที่จะได้มาและความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร หากจะเสียแชมป์ไปบ้าง แต่ทำให้อยู่ดีกินดีก็น่าเป็นเรื่องที่ดี “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมีการพูดเรื่องนี้กันมาก หรือฝ่ายค้านกลัวว่าโครงการจะประสบความสำเร็จ จึงหยิบยกมาเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งข้าวที่เก็บไว้ในสต๊อกของรัฐบาลดูแลอย่างดี ตราบใดที่ยังไม่ขายออกไป ก็ไม่ขาดทุน”
ไม่เจ็บ เพราะคนจะเลว มันเลวที่ตัวคน พ่อแม่เลว ใช่ลูกจะเลว ลูกเลว ใช่พ่อแม่จะเลวด้วย ถ้าเหมารวมยังงั้นเจ้าพระยาชอบโกหก พ่อแม่ก็ต้องชอบโกหกด้วยใช่ไหม
เบี่อหลิ่มขี้ลืมว่ะ... ผลงานดีๆชิ้นโบว์แดงก็ตอนยืนบีบน้ำตาร้องให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นตอนรัฐบาลของมันทำน้ำท่วมไง หลิ่มนี่ไม่รู้จักจำเรื่องดีๆ
พี่ชายใครหว่า....เจอแจ้ง ตำรวจด้วย.... เดี๋ยวหาว่าใส่ร้าย ความผิดนิดเดียวเอง... คดีที่ศาลตัดสินแล้ว 5 คดี 1.คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก มีจำเลยคือ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาให้จำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 2 ปี ฐานกระทำผิดกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 100 โดยออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณไว้ และได้ให้ยกฟ้องคุณหญิงพจมาน 2.คดีเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป มูลค่า 738 ล้านบาท มีจำเลยคือ คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ศาลอาญาได้พิพากษาให้จำคุกคุณหญิงพจมาน และนายบรรณพจน์ คนละ 3 ปี ส่วนนางกาญจนาภา จำคุก 2 ปี แต่ภายหลังศาลอุทธรณ์ได้กลับคำตัดสินของศาลอาญา สั่งยกฟ้อง คุณหญิงพจมานและนางกาญจนาภา ส่วนนายบรรณพจน์ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่อัยการสูงสุดจะตัดสินใจ "ไม่ฎีกา" 3.คดีทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มีจำเลยคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ กับพวก รวม 44 คน ต่อมาศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา ให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 44 คน เนื่องจากพบว่าไม่ได้กระทำความผิด 4.คดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้ายพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน คตส.ยื่นฟ้อง ครม.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งคณะ และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันเป็นจำเลย ซึ่งศาลฎีกาตัดสินให้จำคุกนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง 2 ปี นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และประธานคณะบอร์ดกองสลาก 2 ปี นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีต ผอ.กองสลาก 2 ปี แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 ไม่เคยทำผิดมาก่อน ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษา จึงมีการออกหมายจับ 5.คดีร่ำรวยผิดปกติ ให้ทรัพย์สิน 76,621 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งให้ยึดเฉพาะเงินค่าขายหุ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกฯ และเงินปันผล จำนวน 46,373 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน คดีที่ค้างอยู่ในชั้นศาล 1. คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว หรือคดีหวยบนดิน ซึ่งคดีนี้ คตส. ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คณะรัฐมนตรี "รัฐบาลทักษิณ" และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คนเป็นจำเลยและคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้สั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเนื่องจากหนีคดี และได้ตัดสินให้จำคุกนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และนายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผ.อ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คนละ 2 ปี และให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 2 ปี 2. คดีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์)ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่า คดีนี้ คตส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการดูแลกิจการเข้าไปมีส่วนได้ส่วน เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157 กรณีที่มีการอนุมัติเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ให้แก่รัฐบาลพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจากบริษัทในเครือ ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้จำหน่ายคดีชั่วคราวไว้ก่อนเนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หลบหนีคดี 3.คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท คดีนี้อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,152,157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ,100 ,122 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้สั่งจำหน่ายคดีไว้ ชั่วคราวเนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หลบหนีคดี คดีอยู่ระหว่างการพิจารณของคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ปปช. 1. คดีทุจริตซีทีเอ็กซ์ 9000 ซึ่งคดีนี้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋า สัมภาระผู้โดยสารและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด (ซีทีเอ็กซ์ 9000)ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กับพวก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 2. คดีธนาคารกรุงไทย อนุมัติเงินกู้ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นการอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทที่เป็นหนี้ ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยคดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กับพวก นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีกับนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายในข้อหารับของโจร ด้วย 3.คดีทุจริตโครงการระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคมกับพวกเป็นจำเลย
คนดูทั้งประเทศ มันยังกล้าตอแหล สุดท้ายก็หลงเหยียบหาง ลืมคำพูดตัวเอง ยอมรับว่าพรรควิบัติ และสมุนลิ้วล้อสาวก มันหนังหนาหน้าด้านกันอย่างน่าตกใจ..
พ่อโต้งออกมาด่าอรรถวิชญ์ คนตอแหลด่าคนอื่นว่าพูดปด ไม่รู้ว่า Moody's หรือ Standard and Poor จะจัดอันดับความน่าเชื่อถือไว้ระดับไหน น่าจะพอๆกับพ่อศรีปราชญ์ ศรีธนญชัยแห่งประเทศกรีซ
ความจริง กปปส. เกิดก่อนวันในคลิปซะอีก แต่ไม่มีชื่อ เกิดจากคนที่ไม่ชอบยิ่งลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตร ม็อบเสธอ้าย และกลุ่มอื่นๆมารวมกัน แต่มาตั้งชื่อ กปปส. จริงจัง หลังสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจาก ปชป. แต่นั้นแหละพวกนปช.ก็โกหกกันเองทุกวัน จนหลงเชื่อคำโกหกของตัวเอง
ล่าสุดอัดวิด ออกมาสวนแล้ว เป็นไงล่ะ ไอ้โกหกสีขาว ออกมาโต้อีกสิ เอากันให้ยาวๆไปเลย อย่าหยุดนะ อยากดูไส้ใครจะยาวกว่ากัน
http://www.fahwonmai.tv/politics/1214003 Share on facebookShare on twitterShare on google_plusone_share ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลังและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กรณีกล่าวหาตนโกหกจากการให้ข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้สาธารณะมโหฬารว่า ตนไม่แปลกใจว่าทำไมนายกิตติรัตน์จึงได้ชื่อว่าเป็นคนโกหกสีขาว เพราะเป็นคนพูดความจริงไม่หมด ทั้งนี้ ตนขอนำตัวเลขทางเศรษฐกิจมายืนยัน ดังนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารประเทศในปี 2554 ตัวเลขหนี้สาธารณะอยู่ที่ 4.2 ล้านล้านบาท พ้นตำแหน่ง 2556 ตัวเลขหนี้สาธารณะอยู่ที่ 5.4 ล้านล้านบาท นี่คือความน่าอับอายของท่าน เพราะรัฐบาลเดียวสร้างหนี้ 1.2 ล้านล้านบาท และหนี้ครัวเรือนก็กระโดดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 159,432 บาท เพิ่มเป็น 188,774 บาทต่อครัวเรือน คือเพิ่มขึ้นถึง 29,342 บาท เพิ่มแบบก้าวกระโดดถึง 18.4% ส่วนกรณีที่นายกิตติรัตน์อ้างว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำให้จีดีพีโตนั้น ความจริงคือ การนำตัวเลขจีดีพีในช่วงหลังน้ำท่วมที่มีการฟื้นฟูจนจีดีพีอยู่ที่ 6.5 จากปี 2554 ที่จีดีพีอยู่ที่ 0.1% จากนั้นลดลงเรื่อยๆ จนในปี 56 อยู่ที่ 2.9 จึงแปลกใจที่นายกิตติรัตน์กล้านำเรื่องนี้มาอ้างเป็นผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ด้วยการพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว นอกจากนี้โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังสร้างความเสียหายอย่างมากและนายกิตติรัตน์เคยระบุว่า หากขาดทุนเกิน 6 หมื่นล้านมากกว่าโครงการประกันรายได้รัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ สุดท้ายโครงการดังกล่าวสร้างความเสียหายกว่า 7 แสนล้าน จนประชาชนออกมาไล่ แต่กลับไม่เคยรับผิดชอบตามที่ตัวเองเคยพูด อีกทั้งยังมีนโยบายรถยนต์คันแรกที่สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์เพราะไปแทรกแซงกลไกตลาดทำให้เกิดกำลังซื้อเทียม สร้างหนี้ครัวเรือนเพิ่ม และใช้เงินภาษีประชาชนถึง 9 หมื่นล้าน ซึ่งสามารถนำไปสร้างโรงพยาบาลอย่างดีได้ถึง 20 แห่ง นายอรรถวิชช์กล่าวด้วยว่า งบประมาณประจำปีที่นายกิตติรัตน์อ้างว่าลดภาระได้นั้น แท้จริงแล้วเป็นการซุกหนี้ไว้นอกงบประมาณคือ รัฐวิสาหกิจ โดยที่หนักสุดคือธ.ก.ส. ซึ่งต้องมีการเพิ่มวงเงินตลอดจนสุดท้ายไม่มีเงินจ่ายชาวนา เพราะไม่ขายข้าวตามปกติ แต่ขายจีทูจีปลอมให้กับรัฐวิสาหกิจมณฑลกวางตุ้งที่นำเข้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา GSSG ซึ่งไม่มีใบอนุญาตนำเข้าข้าวไปจีน แต่ข้าวที่รัฐบาลขายไปถูกนำมาวนขายภายในประเทศ โดยรับจำนำข้าวเปลือกที่ 15,000 บาทต่อตัน แต่ไปขายเป็นข้าวสารที่สีแล้วในราคาเพียง 10,000 บาทต่อตันเท่านั้น “ผมอยากบอกว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ดีจะทำให้นายกรัฐมนตรีมีบารมีและพาชาติรุ่งเรือง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่แย่แย่ทำให้นายกรัฐมนตรี ตกต่ำและชาติฉิบหาย ซึ่งลึกๆ แล้วนายกิตติรัตน์น่าจะทราบดี” นายอรรถวิชช์กล่าว
อรรถวิทย์ตอแหล ...... หนี้สาธารณะ ถูกเตะเข้าไปในแบ็งค์ชาติ อีกก้อนหนึ่งในรัฐบาลอีโง่ เพื่อเปิดรูมให้กู้ได้มากขึ้น แต่ อรรถวิทย์ไม่ได้บอก