ตามความคิดผม ผมว่าปูคงต้องก้มหน้ารับกรรมไป ปูต่างกับทักกี้มีลูกที่ยังไม่โตเต็มที่ ต่างกับทักกี้ที่ลูกหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว 3 คน เรียกว่าตายก็ไม่เสียดาย(ลูก) แต่อาจจะยึกยัก ดึงเกมแน่นอน
กรณี อีปูมันออกมารับประกันว่า จีทูจี มีจริง ๆ ให้สัมภาษณ์สื่อ รู้กันทั่วประเทศไทย ไปถึงเมืองนอก แสดงว่ารู้แล้ว ว่าเป็นจีทู้เจ๊ง แต่ยังปล่อยปละละเลยให้มีการโกง สมควรติดคุกแล้ว เพราะโง่แล้วอยากเป็นนายก รู้ว่ามีการโกงกัน แต่ยังโง่ออกมารับประกัน
กฏหมาย มิได้ยกเว้นให้กับ คนโง่ที่ทำผิด/ฝ่าฝืน ... ดังนั้นแม้ จะโง่ปานใด,ฟังคำสั่งใครมา,หรือจะเอาโพยจากไหนมาอ่าน... ถ้าเป็นการสนับสนุนการโกหก,โกงหรือทำให้ชาติเสียหาย... ยังไงๆ ก็ต้องติดคุกแบบโง่ๆอยู่ดี นอกจากจะมี โพย บอกให้หนี... เพราะอย่างเธอ...ผมคิดว่า ไม่น่าจะมีสมองพอที่จะคิดอะไรเองในเรื่องเหล่านี้...
ลุงตู่ ก็ออกมารับประกันว่า จีทูจี ในรัฐบาลปูยิ่งลักษณ์ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มีจริง ๆ ให้สัมภาษณ์สื่อ รู้กันทั่วประเทศไทย ไปถึงเมืองนอก ว่าเป็นจีทูจีของจริงเลยนะ จะบอกให้ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/597996 "ประยุทธ์เผยเจรจาขายข้าวจีทูจีให้จีน ส่งมอบข้าวตามสัญญาที่เหลือ9แสนตัน เผยดำเนินการเดือนละ8หมื่น-1แสนตัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. กล่าวว่า เรื่องการเจรจาซื้อขายข้าว แบบ รัฐ ต่อรัฐ ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ โดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางไปเจรจาที่จีน มีผลการเจรจากลับมา เป็นข่าวดีคือ การส่งมอบข้าวตามสัญญาที่เหลือ 9 แสนตัน ทางจีนแจ้งว่าจะยังคงดำเนินการต่อไป ทุกเดือน เดือนละ 8 หมื่น ถึงหนึ่งแสนตัน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 ถึง กันยายน 2558 จริง ๆ แล้วต้องส่งเขาล็อดที่ 2 แล้ว สำหรับกติกาเดิม ล็อด 1 ล็อด 2 วันนี้ล็อด 2 จีนเขาให้แก้ราคาใหม่ได้ ตามราคาท้องตลาดไม่อย่างนั้นราคาจะต้องต่ำกว่านี้ สำหรับล็อดแรก และนี่คือสิ่งที่เราทำ จีนสนใจการสั่งซื้อปลายข้าวโดยสั่งซื้อ 1 แสนตันในเดือนสิงหาคม 2557 และเปิดโอกาสให้เราส่งตัวอย่างข้าว ที่เราไปตรวจมา แล้วที่ผ่านมาตรฐานดีที่สุด ดี ปานกลาง ต่ำ ให้เขาเลือกดูว่าเขาจะช่วยเราตรงไหนได้บ้าง ทางเราจะเสนอราคาให้จีนพิจารณาเพิ่มเติม ประเด็นสำคัญจีนมองว่า ข้าวเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน ซึ่งน่าชื่นใจ
จีนสอบ'เป่ยต้าฮวง'ทำสัญญาจีทูจีไทย แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว กล่าวถึงสาเหตุที่เป่ยต้าฮวง แจ้งยกเลิกสัญญาซื้อข้าวไทย 1.2 ล้านตัน ว่าข้อเท็จจริงแล้วเกิดจากรัฐบาลจีนไม่พอใจ จีนสั่งสอบ แหล่งข่าวมาจากวงการค้าข้าวว่างั้น น่าเชื่อถือจริงๆ ถ้ามีการแจ้งยกเลิกสัญญาซื้อข้าว แล้วจะมีการส่งมอบข้าวตามสัญญาที่เหลือ9แสนตันทำไม คิดสิคิด คิดเยอะๆ
เป็นบ้าไปแล้วซินะ ถึงออกมาด่าปู เพราะข้อความเต็มคือ จีทูจีแท้คือรัฐบาลจีนซื้อข้าวผ่านบริษัทคอฟโก เท่านั้น เป่ยต้าฮวง เป็นรัฐวิสาหกิจไม่ใช่รัฐบาล น่าสงสาร เผลอชมผมจนเป็นบ้าไปแล้ว
ผมเชื่อว่าอิปรูรอดคุกแน่นอน แค่ยื่นใบรับรองแพรดว่า เมื่อ3ปีที่แล้ว เดี้ยนวิกลจริต มีอาการไบโพล่าแทรกซ้อน
“เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนทั้งหมดแล้วก็จะขออนุมัติจาก นบข. เรื่องแผนการระบาย เบื้องต้นต้องส่งมอบข้าวให้ครบตามสัญญาเดิมที่มีอยู่ คือ ข้าว 1 ล้านตันที่ตกลงไว้กับคอฟโก ส่วนสัญญาอื่นๆ หรือที่เรียกว่าจีทูจีเก๊ อันอื่นผมไม่เกี่ยวและไม่เข้าไปยุ่งด้วย ตอนนี้กับคอฟโกส่งออกไปแล้ว 3 แสนตัน ที่เหลือ 7 แสนตันกำลังทยอยส่งมอบ” พล.อ. ฉัตรชัย กล่าว http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/614495
โดยในการเบิกความของพยานทั้ง 2 ราย ได้อธิบายคำจำกัดความของการระบายข้าวแบบจีทูจีไว้ชัดเจน ! เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำคำเบิกความดังกล่าวมาสรุป ดังนี้ เปิดฉากด้วยอัยการฝ่ายโจทก์นำสืบในประเด็นการดำเนินการขายข้าวแบบจีทูจีนั้น มีขั้นตอนใดบ้างที่ต้องปกปิดเป็นความลับ ขั้นตอนใดเปิดเผยได้ และเปิดเผยได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงการขายข้าวแบบจีทูจีจำเป็นต้องมีผู้บริหารรับทราบด้วยหรือไม่ นางดวงพร ตอบสรุปได้ว่า ในช่วงอยู่ระหว่างการเจรจา จำเป็นต้องเป็นความลับ เพื่อไม่ให้ตลาดเกิดความสับสน แต่เมื่อมีการทำสัญญาแล้ว สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนสัญญา ปริมาณข้าว ราคาที่ขาย หรือจิปาถะอื่น ๆ เปิดเผยได้หมด ส่วนกระบวนการทำนั้น ‘ผู้ใหญ่’ ในที่นี้หมายถึงตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) รวมถึงบรรดาคณะกรรมการอนุระบายข้าว รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ เพราะเรื่องนี้ฝ่ายบริหารเป็นผู้มอบนโยบาย กรอบการเจรจา ราคา ปริมาณ รายละเอียดต่าง ๆ มาจากฝ่ายบริหารทั้งหมด ฝ่ายปฏิบัติถึงจะดำเนินการได้ ต่อมาถึงฝ่ายทนายจำเลยซักบ้าง ในประเด็นแนวทางการปฏิบัติของการระบายข้าวจีทูจี ต้องยึดตามมติของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักหรือไม่ นางดวงพร ตอบสรุปได้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีมติคณะรัฐมนตรี หรือแนวทางเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ชื่อของมันก็บ่งบอกชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วว่า จีทูจี หมายถึง Government to Government (รัฐบาลถึงรัฐบาล) นั่นคือ รัฐบาลต่างประเทศที่เป็นผู้ซื้อ จะต้องได้รับสินค้า และรัฐบาลต่างประเทศที่เข้ามาติดต่อขอซื้อนั้น จะต้องมีการมอบหมายตัวแทนอย่างเป็นทางการ เช่น ประเทศไทย มอบหมาย กรมการค้าต่างประเทศ ประเทศจีน มอบหมาย คอฟโก (COFCO) ประเทศอินโดนีเซีย มอบหมาย บูล็อค (BULOG) เป็นต้น ดังนั้นการขายข้าวแบบจีทูจี คือการขายข้าวที่ตัวแทนของรัฐบาลประเทศนั้น ๆ มอบหมาย หากเป็นเพียงการขายข้าวให้กับรัฐวิสาหกิจทั่วไป นั่นหมายความว่าไม่ใช่จีทูจี แต่จะต้องดำเนินการเปิดการประมูลเพื่อให้มีการแข่งขันเสนอราคากัน เพื่อป้องกันข้อครหากีดกันการเสนอราคาอย่างไม่เป็นธรรม อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เบิกความอีกสรุปได้ว่า สำหรับกรมการค้าต่างประเทศ ขายข้าวจีทูจีมาแล้วหลายครั้ง และในการติดต่อซื้อขายกับประเทศจีน ก็มอบหมายให้กับคอฟโก เป็นตัวแทนทุกครั้ง ซึ่งทำกันมายาวนานกว่า 30 ปีแล้ว และไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ก็ทราบกันทั้งโลกว่า รัฐบาลประเทศไหนมอบหมายหน่วยงานใดเป็นตัวแทนในการซื้อขายแบบจีทูจี ที่สำคัญนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงฝ่ายบริหารต้องรู้ เพราะต้องมีคอนเน็คชั่นในการที่เขาเข้ามาติดต่อซื้อขาย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่การจัดซื้อจัดจ้างธรรมดา ที่ฝ่ายปฏิบัติดำเนินการเอง “ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน ต้องทราบตั้งแต่ข้างบนแล้วว่าการซื้อขายข้าวจีทูจี หน่วยงานใดเป็นตัวแทนของรัฐบาลประเทศนั้น เพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ ไม่ใช่แค่ระดับฝ่ายปฏิบัติที่ดำเนินการ รัฐบาลต้องรู้ อย่างประเทศจีนนี่มอบหมายคอฟโกชัดเจน นายกรัฐมนตรีต้องรู้ รัฐมนตรีต้องทราบ ไม่น่ามีข้อสงสัย” https://www.isranews.org/isranews-scoop/49828-g2g_49828dd.html
มันไม่่ใช่แค่เรื่องเป้ยต้าหวงเรื่องเดียวหรอก แต่ไอ้ที่ยิ่งลักษณ์จะดิ้นไม่หลุดก็ตรงที่เอาข้าวมาวนขายในประเทศ โดยอ้างการซื้อแบบจีทูจี ซึ่งไม่ต้องประมููล ข่าวข้างบน อธิบายชัดเลยว่า จีทูจี ต้องมีลักษณะการซื้อการขายยังไง แถมเหยียบหน้าอีปูอีกต่างหาก "ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน ต้องทราบตั้งแต่ข้างบนแล้วว่าการซื้อขายข้าวจีทูจี หน่วยงานใดเป็นตัวแทนของรัฐบาลประเทศนั้น เพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ ไม่ใช่แค่ระดับฝ่ายปฏิบัติที่ดำเนินการ รัฐบาลต้องรู้ อย่างประเทศจีนนี่มอบหมายคอฟโกชัดเจน นายกรัฐมนตรีต้องรู้ รัฐมนตรีต้องทราบ ไม่น่ามีข้อสงสัย” สารภาพกับศาลไปซะว่า หนูโง่ หนูไม่รู้ บางทีศาลท่านอาจลดโทษให้บางส่วน