อ่านสำนวนป๋าทีไร รู้สึกสะใจ สะเด็ดสะเด่า ชวนให้ติดตามยังไงไม่รู้ บอกไม่เถิก... ///// ขยักแรก พรุ่งนี้ ๒๖ พฤษภา สมีโยจะไปมอบตัว ตามเส้นตาย DSI หรือไม่? ขยักที่สอง ถ้าไม่ไป DSI กล้าบุกไปจับถึงเตียงที่วัดมั้ย? ดูตามเส้นทาง "สมีโย" รอดยาก เพราะฝ่ายโยม ทั้ง DSI อัยการ และรัฐมนตรียุติธรรม เที่ยวนี้ "ข้อแข็ง" หลังจากปล่อยให้สมี "แข็งข้อ" และพวกศิษย์ออกมา "งอในกระดูก" นานสมควรแก่เหตุ! ก็ดูซี ขนาดทนายหนวดยังดิ้นในรูเข็ม ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอให้เพิกถอนหมายจับสมี เมื่อวาน (๒๔ พ.ค.) ศาลท่านก็ "ยกคำร้อง" คงยื่นศาลอุทธรณ์ต่ออีกแหละ เพราะมีสิทธิ์ทำได้ภายใน ๓๐ วัน ก็ตามดูการดิ้นเขาไปละกัน นอกจาก DSI แถลงท่าทีชัดแล้ว ๒๖ พฤษภา สมีโย จะเดินมา นั่งมา นอนมา หรือหามมา จะมาในปางไหนก็ได้ ยังไงๆ ก็ต้องมา ถ้าไม่มา DSI ก็จะไป.... ไม่ใช่ไปพนมมือไหว้ตีนไซส์ขาหมูเยอรมัน หากแต่ "ไปจับตัว" สมีโยมาคุมตัวไว้ ในฐานเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ถ้าถึงขั้นนี้ จะสะเทือนถึงสถานะคราบ "พระเทพญาณมหามุนี" หรือธัมมชโยทันที เพราะต้อง "สึก" จากพระ ไปอยู่ในสถานะ "นายไชยบูลย์ สุทธิผล" ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินและร่วมรับของโจร "นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ" อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน ๓ บอกชัด "..........หากไม่เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ก็ต้องขอหมายค้น ต้องแสดงหมายจับ แต่วิธีที่ง่ายที่สุด ขอให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ ๒๖ พ.ค.ตามกำหนด" คือมารับทราบข้อหาซะดีๆ ตามที่ DSI ยืดหยุ่นให้เต็มที่แล้ว แบบนี้มีโอกาสได้ประกันตัวไป แต่ถ้าต้องให้ตามไปลากตัวมา เข้าข่ายมีเจตนาหลบหนี DSI อาจไม่ให้ประกัน เมื่อนำส่งศาล ก็เสี่ยงและเสียวว่าศาลท่านจะให้ประกันหรือไม่? เพราะถ้าได้ประกัน นั่งจานบินขึ้นสวรรค์ไปเป็น "ภุมเทวา สายวิทยาธรกึ่งยักษ์" ร่วมวิมานกับสตีฟ จอบส์ ใครจะรับผิดชอบได้! มาดูทางรัฐมนตรียุติธรรมบ้าง.......... "พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา" เป็นอีกท่านหนึ่ง ฟันธง จะจะ ได้ใจอุบาสก-อุบาสิกาแก้ว ว่า "หากพระธัมมชโยไม่มาตามนัด เจ้าหน้าที่ต้องนำหมายจับเข้าไปที่วัด โดยเป็นการปฏิบัติเหมือนการจับกุมบุคคลตามหมายจับทั่วไป ไม่ต้องกังวลจะมีม็อบขัดขวาง เชื่อว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้น เพราะวัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและการถือศีล ทำไมจะเข้าไม่ได้.......... แต่ถ้าเข้าไปแล้วมีเรื่องมีราว เขาก็ประเมินเองแหละว่า ความเสียหายมันเกิดจากอะไร เพราะอย่าลืม เจ้าหน้าที่ก็ทำถูกกฎหมาย เมื่อมีผู้ขัดขวางทำผิดกฎหมายแล้ว มันจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าการจะไปบุกจับเขา ก็ต้องพิจารณาเองว่า 'สมควรจะทำไหม?' แต่ถ้าพูดถึงว่า 'ไม่กล้าไป' ผมก็ตอบว่า....... มันจะไม่กล้าไปได้ยังไง ถ้าไม่กล้าไป ก็ไม่ต้องมาเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีนี้สิ ก็ลาออกซะให้หมด มันต้องกล้าไป มันเป็นหน้าที่ไง” ก็คงสะดุ้งแปดกลับ ยกมือทาบอก ตกใจจนตกเตียงไปแล้วกระมัง..ป่านนี้ เพราะทุกคน-ทุกฝ่ายไปในทิศทาง "ไม่เชื่อ" เรื่องขาป่วยเหมือนกันหมด "ภาคประชาชน" ที่วิจารณ์ขรม ร้อยละ ๙๙ ก็มีความเห็น "จัดฉาก" ด้วยเหตุผล สีหน้ากับสีเท้าไม่รับกัน!? โบราณบอก ใบหน้า-ดวงตา คือหน้าต่างใจ คนป่วยปางตาย นอนซมเป็นเดือน-ครึ่งเดือน ยังไงๆ ทุกขเวทนาทั้งทางกายและทางใจ ต้องปรากฏเป็นความเจ็บปวดออกทางสีหน้า ร่วงโรย ซูบซีด ทรุดโทรม บ่งบอกความอ่อนล้าทางประกายตา แต่ที่สมีโย "ถ่ายสด" ออกฉาก......... หน้าเงี้ย อ่องต่อง ปากแดง อมยิ้มปริ่มสุข แถมสวมแว่นตา และเสื้อแขนยาวทรงกระบอกของเจ๊ นอนป่วยนานขนาดนั้น ยังเรี่ยมเร้ ผิวหน้ากับผิวตีน ยังไงๆ มันก็แย้งอาการ จนต้องถามกันว่า...นี่มันคนละคนเดียวกันแบบเล่นกลหรือไฉน? ยิ่งเมื่อวาน....... มีคนโพสต์-คนแชร์ เฟซบุ๊ก Tavatchai Kanchanarin ของ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ผช.ผอ.กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่อนไปหมดด้วยแล้ว ระดับชาวบ้าน ที่รู้แหละว่าโยหลอก แต่บอกไม่ได้ ด้วยไม่ประสาเรื่องแพทย์-เรื่องพยาบาล แต่พอ Tavatchai Kanchanarin ซึ่งเป็นแพทย์ โพสต์ fb เท่านั้นแหละ เสร็จเลย...โย! ข้อความที่ Tavatchai Kanchanarin โพสต์เป็นข้อสังเกต มีดังนี้ ธรรมกายเปิดวัด-ถ่ายสดผ่านวงจรปิด! คิดว่าเนียน กลับยิ่งไปกันใหญ่ 14 พ.ค. โชว์ภาพนิ่ง ผู้ป่วยนอนราบไม่ได้หนุนขาซ้าย ดม oxygen mask ไม่ได้ต่อถังออกซิเจน สาย oxygen sat ก็ไม่ได้ติด มอนิเตอร์วางซะไกล แพทย์ตรวจร่างกายฟังปอดทะลุผ่านจีวรผ้าห่ม แปะ IV ใกล้ข้อมือ ไม่มี infusion pump control 22 พ.ค. ฉากปรับปรุงขึ้น หนุนขาแล้ว ดม oxygen canular ผ่าน flowmeter humidifier ต่อถังออกซิเจน สาย oxygen sat ติดปลายนิ้วแล้ว สาย EKG monitor & BP cuff อยู่ในตะแกรง IV ไม่มีแล้ว มี defibrillator, emergency kit, respirator, mayo overbed รถทำแผล .... แต่เท่านี้เพียงพอแล้วหรือ? ผู้ป่วยอาการหนัก นานกว่าสองสัปดาห์ สภาพภายในห้องควรเป็นอย่างไร กินนอนขับถ่ายเช็ดตัวกันอย่างไร แพทย์พยาบาลนั่งเฝ้ากันตรงไหน? ยิ่งดูวิดีโอเห็นภาพต่อเนื่องแล้ว ขำกลิ้งตั้งแต่หมอเปิดประตูเดินเข้ามา ไหนโฆษกบอกว่าอยู่ในห้องพักฟื้นเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ ออกอาการร้อนตัว ให้สื่อเขียนตัวเลข ยืนถือหนังสือพิมพ์ถ่ายรูป จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว แก่จน 72 แล้ว ยังเล่นเป็นเด็กไปกับเขาด้วย คนที่ทำงานในวงการแพทย์พยาบาลมานาน มีความรู้ประสบการณ์ด้านวิกฤติ เขาไม่มองแค่เท้าคนไข้หรอก vital signs, ESI, APACHE score แสดงให้ดูด้วยซิ คุณบอกว่าอาการหนักจนไม่สามารถเดินทางมา รพ.ได้ ต้องรักษาที่วัด อันนี้มันผิดหลักการแพทย์น่ะ ไม่งั้นจะมีระบบ EMS ไว้ทำไม ครับ...แบบนี้ "จอดไม่ต้องแจว" จอดแล้ว สมีโยรีบเขยกไปมอบตัว เพื่อได้รับการประกันจาก DSI ซะวันนี้ ที่ ๒๕ พฤษภาเลยดีกว่า ขืนลังเล มัวแต่งหน้า-แต่งขา เลย ๒๖ พฤษภาไปแล้ว จะหาว่า DSI โหดไม่ได้เชียวนะ เพราะนั่น พ้นรายการโปรโมชัน "มอบก่อน-ได้ประกัน" ไปแล้ว จะเข้าสู่รายการ "ตามล่า" ตามหมายจับ ซึ่งยากประกัน! จะกระซิบอะไรให้อีกหน่อย เผื่อจะตัดสินใจง่ายขึ้น........ เมื่อวาน DSI กับอัยการพิเศษ ไปแจ้งข้อหา "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" ที่คุกบางขวางอีกข้อหา คือข้อหา "สมคบกันฟอกเงิน" เกี่ยวเนื่องที่สั่งจ่ายเช็คให้สมีโยนี่แหละ! ปรากฏว่านายศุภชัย "สำนึกดี-สำนึกชอบ" พนักงานสอบสวนถามอะไร นายศุภชัยตอบหมดเลย "ศุภชัยรับข้อกล่าวหาและให้การรับสารภาพเพียงบางส่วน แต่ให้การที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นความรู้จัก สนิทสนมระหว่างพระธัมมชโยกับศุภชัย ช่วงที่นายศุภชัยเป็นไวยาวัจกรวัดพระธรรมกาย โดยพระธัมมชโยจะใช้ชื่อเรียกนายศุภชัยเป็นการเฉพาะ เป็นที่รู้กันสองคน อย่างไรก็ตาม ชื่อดังกล่าวเป็นรายละเอียดในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นประเด็นที่แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนม สามารถเข้าไปหาพระธัมมชโยที่กุฏิได้ ต่างจากที่ทางวัดเคยออกมาระบุว่า 'ไม่รู้จักสนิทสนม' ทั้งนี้ ต้องมีการเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะนายศุภชัยให้การที่เป็นประโยชน์หลายคดี และเปิดเผยรายชื่อผู้เกี่ยวข้องอื่นอีกจำนวนมาก" นี่...นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ ท่านเป็นคนบอกเอง ไม่ต้องกลัว "พระถูกใส่ร้าย" เพราะมีทนายของนายศุภชัยร่วมฟังอยู่ด้วย ที่นายศุภชัยติดคุกตอนนี้ เป็นเพียงคดี "ยักยอกทรัพย์" ของสหกรณ์ฯ จำนวนหนึ่งเท่านั้น ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ข้อหาเดียวกับสมีก็มาถึงแล้ว ลองขนาดนายศุภชัยเปิดถึง "รหัสลับ" ที่รู้กันเฉพาะ ๒ ต่อ ๒ ขนาดนี้ ไปมอบตัว ซื้อเวลารอ "แดงทั้งแผ่นดิน" อยู่นอกคุกดีกว่าเข้าไปชิตัง เม อยู่ข้างใน เชื่อผมเถอะ. ///// ท่านสมีโย จะฟังหรือจะเชื่อป๋าเปลวแกหรือปล่าว นั่นคงต้องติดตามกันต่อไป... หรือเพื่อนๆ คิดเห็นกันเช่นไร เชิญได้ครับ...
วันนี้ ป๋าเปลวแกว่า 'แผ่นดินไทยสูงขึ้นตามลำดับ' ๐๐๐ แล้ว "นายขวัญชัย" พ่อในไส้ "ตำรวจแดง" สายอีสาน ก็คว้าตั๋ว "หนีคุก" ออกนอกประเทศไปจนได้! ถามว่าผิดคาดหมายมั้ย? กับคนพวกนี้ การไม่สวมสันดานลูกพี่แม้วโกยสี่ตีน โดยอยู่-ยอมรับโทษ แบบนั้นตะหาก ที่ผิดคาดหมาย คงจำกันได้ เมื่อกรกฎา ๕๑ นายขวัญชัย ไพรพนา สร้างความดี-ความชอบให้ระบอบทักษิณยิ่งใหญ่ นำสมุนพังเวทีพันธมิตรฯ ที่หนองประจักษ์ อุดรฯ รุมตี-รุมฆ่าผู้ชุมนุม "ปางเจ็บ-ปางตาย" หลายคน! ในขณะที่ตำรวจถิ่นนั้น ถืออุเบกขา ยืนดูการรุมยำพันธมิตรฯ ด้วยจิตปีติ ซาบซ่า อยู่ห่างๆ ดูจนสะใจ สมควรแก่กาลเวลายำ ก็ค่อยๆ เคลื่อนไหว ทำหน้าที่ ที่ตำรวจพึงทำ! เนี่ย.... ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกนายขวัญชัย ๔ ปี ไม่รอลงอาญา แต่เพราะ "รับสารภาพ" จึงลดกึ่งหนึ่ง เหลือ ๒ ปี ๘ เดือน ปรับ ๓ แสน ๕ หมื่น นายขวัญชัยเอาโฉนดที่ดินตีราคา ๓ แสน ประกันตัวออกไประหว่างอุทธรณ์ ต่อมา ในชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลก็ยืนตามศาลชั้นต้น คือ ให้จำคุกนายขวัญชัย ๒ ปี ๘ เดือน ปรับ ๓ แสน ๕ หมื่น และเมื่อวาน (๒๕ พ.ค.๕๙) ถึงขั้นศาลฎีกา โดยศาลจังหวัดอุดรธานี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลนัดให้มาฟังคำตัดสินแล้ว แต่ปรากฏว่า นายขวัญชัย...หายจ้อย! เท่าที่อ่านๆ จากข่าว...... ศรีภรรเมียเขาว่า ศรีภรรผัวปลีกวิเวก นัยว่าปลีกไปทางฝั่งลาว จนถึงตอนนี้ ไม่ทราบข่าวคราวกันเลย เขาว่างั้นนะ! ตอนนี้ศาลออกหมายจับแล้ว เรียกว่าขวัญชัยเจริญตามรอยตีนลูกพี่จนเจริญแบบลูกพี่เต็มขั้นแล้ว ซึ่งช่างน่าอิจฉานัก ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาที่จะอ่านเมื่อวานไปวันที่ ๒๘ มิ.ย.๕๙ ให้ทนายไปตามตัวมาฟังในวันนั้นให้ได้ ความจริง ยังไม่มีใครทราบเลยว่า ศาลฎีกาจะตัดสินอย่างไร ยืนตามศาลอุทธรณ์ หรือยก หรือแบบไหน? แต่อย่างว่า "อีกาตาแวว"............ "ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี" ใครจะรู้เท่าตัวเองซึ่งเป็นผู้ก่อเป็นไม่มี ไม่เพียงนายขวัญชัย ทักษิณผู้หมายมั่นเปลี่ยนไทยเป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" ก็เหมือนกัน บรรดาสมุนหัวหอกที่ "สหรัฐฯ อุปถัมภ์" ให้ใช้แผ่นดินอเมริกันเป็นแหล่งบัญชาการ "เขย่าสถาบัน" ก็เหมือนกัน เพราะมันรู้ ก่อกรรมหนักอะไรไว้ จึงจำต้องตีตั๋วไปจอง "ที่ตาย" อยู่นอกแผ่นดินแต่เนิ่นๆ! ก็บอกแล้ว ถึงคราว "ดาวเสาร์เช็กบิล".......... นอกจากรายนายขวัญชัย ที่เห็นหน้า-เห็นหัวกันอยู่ตอนนี้ อีกหลายคน ในอีกหลายคดี "ต่างกรรม-ต่างวาระ" ทำกร่าง-ซ่า-อหังการ กันไปเถอะ คดีเริ่มงวดแล้วนะ บอกลูกพี่เตรียมตั๋วโอเพนให้ติดตัวคนละใบ "เตรียมเผ่น" ไปสุมหัวสมทบได้แล้ว ไอ้ที่คุยกันภายในว่า........... ถ้ารัฐบาล คสช.โดยนายกฯ ประยุทธ์ยังอยู่ "สู้ก็ตาย-ไม่สู้ก็ตาย" มิสู้สร้างสถานการณ์ เพื่อ "ทำสงครามครั้งสุดท้าย" ไม่ดีกว่าหรือ เพราะนั่น...ยังพอมี "รู" ให้ลอดที่ตูดเข็ม!? ก็อยากบอกว่า อย่าให้เสียชาติที่เกิดมาอยู่ใต้ตีนเจ้าพ่อดาวเทียม โปรดสำนึก ยุคนี้เป็นยุค "สื่อสารครองโลก ใครครองสื่อ คนนั้นครองโลก" ก็วีรกรรม นปช.บนการนำของบรรดาสมุนเจ้าพ่อดาวเทียม จากปี ๕๒-๕๓ ด้วยยุคเทคโนโลยี "สื่อสารครองโลก" นั่นแหละ ได้ย้อนสนองแล้ว ย้อนสนองยังไง? ก็ย้อนทุกช็อต-ทุกตอน ทั้งบุกโรงแรมที่พัทยา พังการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ทั้งที่ประกาศ "พวกเรามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายมาช่วยแล้ว" ก็ก่อจลาจล ๑๐ เมษา มี "ชุดดำ" สไนเปอร์ ฆ่านายทหาร! ทั้งบุกรัฐสภา บุกโรงพยาบาล บุก กกต. บุกมหาดไทย "เจตนาฆ่า" อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ รวมไปถึงจลาจล สั่งเผาบ้าน-เผาเมือง ๑๙ พฤษภา ๕๓! ด้วยเทคโนโลยีสื่อสารของลูกพี่ย้อนศร ได้บันทึกภาพ-เสียง ที่เรียกว่า "เหตุการณ์" ไว้ทั้งหมด ทั้งเรื่องโจมตีสถาบัน เรื่องประกาศเปลี่ยนประเทศ-ล้มระบอบ กระทั่งเรื่องสั่งเผา สั่งยึด สั่งก่อการ สารพัดเรื่อง สารพัดคำพูด สารพัดทำ เทคโนโลยีสื่อสารบันทึกเป็นหลักฐานไว้เรียบ และนี่แหละ......... ย้อนมาเป็นหลักฐานมัดบรรดาโจรลูกน้องที่สุดจะผยองกันนักในตอนนั้น เผลอๆ โจรลูกพี่ ก็หนีซวยซ้ำไม่พ้น!? ตัวลูกพี่ ครองได้แค่แก๊งสื่อ ครองโลกไม่ได้หรอก แต่กระบวนการยุติธรรมได้ "ครองหลักฐาน" จากเทคโนโลยีสื่อสารไอที ยันถึงการ "เผาบ้าน-เผาเมือง-ล้างระบอบ-ล้มสถาบัน" "หลักฐาน" นั่นตะหาก "ครองโลก" ได้ เพราะครองหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม-ดุลยธรรม เท่ากับได้ "ครองธรรม" และการ "ครองธรรม" นั้นคือการ "ครองโลก" แท้จริง! พูดถึงการครอง............ วันนี้ สมีโย มีโอกาสได้อยู่ครอง "เสื้อแขนกระบอกเหลือง" เลียนแบบจีวรพระต่อไปอีกซักระยะ หรือ "สิ้นแรงค้อน" ถูก DSI บุกค้นจับถึงวัด เอาตัวมาคุมขัง ฐานเป็นผู้ต้องหา "หนีหมายจับ" หรือไม่? วันนี้ ก็...๒๖ พฤษภา ถึงกำหนด "เส้นตาย" ที่ DSI ขีดให้สมีโยเดินแล้ว มามอบตัว หรือ ไม่มา.........? ตื่นกันเช้าๆ แล้วคอยเงี่ยหูฟังก็แล้วกันว่า หมากตาเดินนี้ DSI หรือ สมีโย ใครจะแต้มเหนือใคร และฝ่ายไหนจะเป็นฝ่าย "เข้าตาจน"? ดูตามลีลาแล้ว สมีโยเห็นท่าต้องยอม "มอบตัว" เพื่อซื้อทางยาว คือมอบตัวยังมีโปร ได้ประกัน แต่ถ้าไม่มอบ DSI ต้องตามไปลากขาเน่าถึงวัดเอง แบบนี้ ไม่มีโปร "อดประกัน" คือต้องถูกขังคุก-ขังตะราง ถึงขั้นนี้ หลวงพี่โยต้องเปลื้องเสื้อแขนกระบอกเหลืองออก คือต้อง "สึก" จะทึกทักเป็นพระ เป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่ต่อไปอีกไม่ได้! เว้นแต่ว่า ปลีกวิเวกแบบขวัญชัย ล่องหน-หายตัวไปซะตั้งแต่เมื่อคืน ปล่อยให้ DSI กลืนน้ำลายติดกระเดือก ตาเหลือกคาที่อยู่คนเดียว ผมก็จับสัญญาณจาก "ทนายหนวด" ที่กดแท็บเล็ตขอเวลานอกไปสนทนากับ DSI เมื่อวานนั่นแหละ ถ้าไม่ต้องการมอบ คงไม่มาถามไถ่ให้แน่ใจเรื่องประกง-ประกันนั่นแหละว่า... ที่บอก...ถ้ามามอบตัววันนี้ แล้วจะให้ประกันทันที ด้วยค่าตัว ๕ ล้าน อย่างนี้ แน่นะ? ครับ...เดาส่งเดชก็ป่วยการ เพราะมวยชกแล้ว นั่งนิ่งๆ ดูวันนี้ดีกว่า ว่า.... ถ้ามา...มาในปางเดินมา-นอนมา-หามมา? ถ้าไม่มา...ที่รัฐมนตรีไพบูลย์บอก "ใครไม่กล้าจับ ก็อย่ามาเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีนี้สิ" ใครจะจ๊าบ-ใจถึงกว่าใคร บ่ายนี้มีคำตอบ. ๐๐๐ อีกไม่นาน คงได้รู้ผล...
ฉากต่อไปธัมมี่มอบตัวสู้คดีวันนี้ที่ สภ.อ.คลองหลวง ปทุม เวลา 14.30 น ทำไมต้องทำให้ตัวเองยุ่งยากมากขึ้นทุกทีวะ
ต่อเรืองนี้...ใครพูดโกหก ย่อมรู้แก่ใจตน... ๐๐๐ ๐๐๐ แต่ที่แน่กว่า และเป็น สัจจธรรม คือ... "คนพูดโกหก ไม่ทำชั่วอื่น ไม่มี"… ล่าสุด ก่อนถึงเวลามอบตัว... ๐๐๐ ๐๐๐
ก็คงมีเพื่อนอยู่หรอกครับอย่าง ผู้พิชิตสนามบิน เลอคู นักล้างป่าช้า นุ๊ค anurid apirat ลูกผู้ชายพันธุ์ดี เจ๋งเหม่งจ๋าย ไม่ลองติดต่อหุ้นกันออกเหรอครับ เห็นผู้พิชิตสนามบินบอกว่าไม่กี่ร้อยเอง รวมกันคงได้ซักพันบ้างละ
