ไปอ่านเจอที่ป๋าเปลว แกเขียนไว้ ในหัวเรื่องที่ว่า... "ทักษิณที่สมควรให้อยู่สวรรค์" อ่านไป อ่านมา ถึงได้รู้ว่า ป๋าเปลวแก เล่นหักมุม จนผมเห็นด้วยขึ้นมาทันที... บทความแกว่า ว่า… ------------------------------------------- "ทักษิณที่สมควรให้อยู่สวรรค์" "พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.ท่ามกลางการดูแคลนสังคม ว่าคงไม่ต่างจากตำรวจในแอ่งตีนระบอบทักษิณหลายๆ นายที่ขึ้นมาใหญ่ใหญ่แล้ว ก็ใช้อำนาจอยู่ใต้ "ระบบโจร" สั่ง! แต่นับจากวันแรกที่ พล.ต.อ.สมยศขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.จนถึงวันนี้ และจะเกษียณสิ้นกันยาที่จะถึง ทุกคำ-ทุกเรื่อง ที่สังคมสบประมาท....... พล.ต.อ.สมยศ ทำหน้าที่ ผบ.ตร. "ลบคำสบประมาท" จนสิ้นเสียงถุย กู้ศักดิ์ศรีสถาบันตำรวจกลับคืนมาได้ ชนิด "พลิกคาดหมาย" คนทั้งประเทศ! ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๔ ที่ทักษิณครอบงำประเทศในฐานะนายกฯ และยึดครองสถาบันตำรวจ ใช้เป็นเครื่องมือทางอำนาจชั่ว สถาบันตำรวจในสายตาประชาชน........ คล้าย "โจรเครื่องแบบ" เป็นศูนย์รวมความเกลียดชังและเสียงแช่งด่า! สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นแห่งแรกที่ประชาชนต้องการให้ คสช.ปฏิรูปก่อนเพื่อน แต่นับจากวันแรกที่ พล.ต.อ.สมยศเข้ามาเป็น ผบ.ตร. มีคดีสำคัญๆ ทดสอบทันทีหลายเรื่อง "ใหญ่แค่ไหนผมก็จับ"! ฮากันครืน...เมื่อ ผบ.ตร.สมยศพูดคำนั้น และจากวันนั้นเรื่อยมา เสียงฮาครืนค่อยๆ แปรสภาพเป็นเสียง อื้อฮือ..อื้อฮือ คดีฆ่าแหม่ม คดีจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ คดีจับผู้ต้องหาเผาบ้าน-เผาเมือง คดีจับคนหมิ่นสถาบัน ฟันตำรวจนอกแถวและตำรวจคุณภาพด้อยกว่าตำแหน่งหน้าที่ กระทั่งคดีค้ามนุษย์ และสำคัญๆ อีกหลายคดี! จากที่ไม่ให้ราคา สังคมค่อยๆ เพิ่มราคาให้ ผบ.ตร.ที่ชื่อสมยศขึ้นเรื่อยๆ เสียงแช่งด่าตำรวจจางไป ถึงแม้บาดแผลในหัวใจประชาชนที่ถูกตำรวจใต้ระบอบทักษิณกระทำยังไม่หาย แต่การทำหน้าที่ ผบ.ตร.ซื่อตรงต่อคำว่า "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในรอบ (เกือบ) ปี ถือเป็นการเยียวยาบาดแผลหัวใจได้ระดับหนึ่ง! การที่ พล.ต.อ.สมยศ ทำเรื่องยกเลิกพาสปอร์ตทักษิณไปถึงกระทรวงการต่างประเทศจนมีผล ในขณะที่ ผบ.ตร.ที่ผ่านมาตั้ง ๔-๕ คน ไม่กล้า ได้ใจประชาชนมาก! ทำให้นึกถึง "ผู้ใหญ่" วงนอกท่านหนึ่ง ท่านพูดให้ผมฟังถึงปฏิบัติการ ๒๒ พ.ค.๕๗ ของพลเอกประยุทธ์ ว่า........ "แบบนี้ต้องซูฮกหัวใจมัน"! ผมถาม...ทำไม? เขาบอก "ผมก็ทหารระดับพลเอกหัวแถวเหมือนกัน จะทำปฏิวัติต้องคิดหนัก เพราะอีก ๔ เดือนเกษียณ เท่ากับอีก ๔ เดือนก็สบายแล้ว จำเป็นอะไรต้องเสี่ยง พลาดก็คุก ถึงไม่คุก แต่ต้องเป็นศัตรูกับพวกทักษิณ มันสบายที่ไหน แล้วอีกอย่าง แน่ใจได้ไง ว่าพรรคพวก-ลูกน้องมันจะเอากะเรา เพราะเดี๋ยวเราก็ไม่ได้เป็นนายมันแล้ว" เนี่ย...มาวานซืน เห็นสังคมเหมือนเห็ดได้ฝน จากที่ พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งอีก ๔ เดือนจะเกษียณ แต่กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดหมายว่า ผบ.ตร.คนนี้จะกล้า ให้นึกถึงคำที่คุยกันนั้นขึ้นมาติดหมัด พูดถึงการเสี่ยง พล.ต.อ.สมยศ ไม่มีอะไรต้องเสี่ยง การไม่ทำเรื่องให้ถอนพาสปอร์ต นั่นตะหากที่เสี่ยง เท่ากับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะความผิดที่ทักษิณทำ เอาสดๆ ร้อนๆ ที่ให้สัมภาษณ์จากเกาหลี กล่าวหาสถาบัน เข้าข่ายกฎหมายต้อง "ถอน" อยู่แล้ว! ที่ต้องให้เครดิต ก็ตรงประเด็น อีก ๔ เดือนจะเกษียณ แต่กล้าเล่นกับทักษิณ พล.ต.อ.สมยศต้องประเมินแล้ว ชีวิตหลังเกษียณ ที่อาจเจอทั้งบางตำรวจรอชำระแค้น และเจอทั้งคนระบอบทักษิณรอเช็กบิล ยามสิ้นอำนาจ จะสุขได้หรือ? ก็นับว่า พล.ต.อ.สมยศ วางเดิมพัน "ชีวิตหลังหมดหน้าที่" ไว้กับการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ เพื่อผดุงศักดิ์ศรีสถาบันตำรวจ ชนิด "หมดหน้าตัก" สมจริงดังคำที่พูดวันแรก "ใหญ่แค่ไหน ผมก็จับ"! ด้วยเหตุนี้ ตามที่แฟนๆ เรียกร้องไปยังนายกฯ ลุงตู่วันแล้ว-วันเล่า "ยึดพาสปอร์ต-ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ" ตอนนี้ ก็ทำตามคำเรียกร้องไปแล้วหนึ่ง คือยึดพาสปอร์ต อยู่อีก ๒ เรื่อง คือการถอดยศ และเรียกคืนเครื่องราชฯ ถ้าจะทำ....คนชง ก็คือ พล.ต.อ.สมยศอีกนั่นแหละ! แล้ว พล.ต.อ.สมยศจะกล้ามั้ย? นี่คือคำตอบ........... "ขณะนี้ ผมตั้งคณะทำงานตรวจสอบแล้ว มอบ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เป็นผู้ดูแล และไปตรวจสอบหาข้อมูลหลักฐานมาดำเนินการ" ความจริง คณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันไปยังรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลสมัครเรื่อยมาถึง ๒ ครั้ง คือตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒ แล้วว่า......... องค์ประกอบความผิดทักษิณ เป็นเหตุให้ต้องถอดยศ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ๒๕๔๗ (๒) ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก (๖) ผู้ต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป สำหรับผู้ที่มิอยู่ในราชการหรือหน่วยงานรัฐ แต่ ผบ.ตร.ขณะนั้น ทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ไม่นับรักษาการ ผบ.ตร.อีก ๓ นาย ทั้งในรัฐบาลระบอบทักษิณ และระบอบประชาธิปัตย์ ทั้งไม่เห่า-ไม่กัด และทั้งเห่า แต่ไม่กัด! แต่ดูแนวโน้มแล้ว การถอดยศน่าจะตามมา ซึ่งประเด็นถอดยศและการเรียกคืนเครื่องราชฯ นี้ มีแง่มุมต้องคิดเหมือนกัน ถ้าทำ ควรอธิบายด้านกฎระเบียบทางกฎหมายเป็นความเข้าใจต่อประชาชนและประชาโลกให้ดีว่า ไม่ได้ทำเพราะคนนั้น คือทักษิณ........... แต่ทำเพราะ กฎระเบียบทางกฎหมาย บัญญัติให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องใช้บังคับกับคนที่ทำความผิดแบบนั้น ตามมาตรานั้นๆ เนื่องจาก ยศ พ.ต.ท.ก็ดี เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ก็ดี เป็นยศ-เป็นเครื่องราชฯ ที่ได้รับพระราชทานมา ทักษิณและสมุน จ้องหาเหตุบิดเบือน-ใส่ร้ายสถาบันอยู่แล้ว เมื่อมีประกาศด้วยคำขึ้นต้นว่า........ "มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากยศ....." จะเป็นประเด็นให้ทักษิณใช้มือปืนทั้งไทยและเทศ กระพือข่าวเบี่ยงประเด็นทันทีว่า.... "เห็นมั้ย นี่ไง...ที่ผมบอก ผมมีความขัดแย้งกับสถาบัน"! ฝรั่งต่างชาติ จะรู้เรื่องรู้ราวอะไร แล้วทักษิณก็จะตอกหัวตะปูว่า...กลั่นแกล้ง เป็นคดีการเมือง ไม่ใช่คดีอาญา เป็นความผิดที่ยัดเยียดให้มัน แล้วไปร้องยูเอ็น ยูเอ็นเอชซีอาร์ ที่อ้าขารออยู่แล้วเป็นผู้ลี้ภัยการเมือง ขอตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น จับตัวส่งกลับก็ไม่ได้ เพราะอยู่นอกเหนือสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน! มองอีกด้านหนึ่ง ต้องไปแคร์อะไรกับมันและกับความเข้าใจต่างชาติ ที่ควรแคร์คือ ความรู้สึกและความผิด-ถูกตามกฎหมายบ้านเมืองมากกว่า ในความเห็นผม ยึดพาสปอร์ต-ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ แค่นั้น ตายทั้งเป็นแล้ว ไม่ต้องตะเกียก-ตะกายไปเอาตัวกลับมาเข้าคุกหรอก! เอามา เหมือนเอาอุจจาระมากองในบ้าน แล้วจะปวดหัวแมลงวันที่บินมาตอมกันให้ยุ่บยั่บไปหมด คนไม่เคยออกจากบ้านเกิด-เมืองนอนไปต่างประเทศ มักเข้าใจว่า ต่างประเทศคือสวรรค์ ใครได้ไป-ได้อยู่ เหมือนอยู่สวรรค์ น่าอิจฉา ฉะนั้น ปล่อยให้ทักษิณ "อยู่สวรรค์" ไปจนตายนั่นแหละ ดีแล้ว!. http://www.thaipost.net/?q=ทักษิณที่สมควรให้อยู่สวรรค์ -------------------------------------------- อย่างงี้ ผมว่า น่าจะหาทาง ช่วยให้โคตรเง่า สักหลาด ข้าทาส บริวารมัน ได้ไปอยู่สวรรค์ กันไปด้วยทั้งหมดเลยเนอะ... ว่ามั๊ย...
ถ้ามันหนีไปแล้ว และอยู่เฉยๆ คงใช้เงินสบายใจไปแล้ว เพราะคงมีไม่กี่คนที่อยากเอา"ไม้สั้นไปรันขี้" แต่คนมันสันดอนเลว เลยหาความสงบในชีวิตไม่เป็น