เห็นเขาบอกให้ช่วยแชร์กันต่อๆไป...ว่า... -------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------- เพื่อนๆ…จะลองแต่งเรียงความ นำมาแบ่งปันกันรับชม/ พิจารณากันก่อนส่งประกวด ดูซ๊ะหน่อยมั๊ยครับ... แม้ว่าจะไม่มีอาชีพทำนา ขายข้าว แต่ก็เชื่อว่า น่าจะพอนึกกันออกน่ะครับ... ยิ่งช่วงที่ได้เห็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ลืมตาอ้าปากกัน แล้วละก็ ผมว่าน่าจะเขียนความจริงกันออกมาให้ได้อ่านกันได้เยอะเชียว...
โครงการจำนำข้าว... เล่นเอาเด็กนักเรียน คิดเลขง่ายๆไม่ถูก... ------------------------------- -------------------------------
ส่งผ่านเสรีไทยได้มั้ยครับ "ครอบครัวของฉันวันที่ไม่มีจำนำข้าว" ครอบครัวของฉันที่เคยมั่งมีศรีสุขจากภาษีของประชาชนคนไทยทั้งประเทศกลับต้องทุกข์ระทมและเสี่ยงต่อภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด คุณลุงที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ต่างประเทศเครียดเพราะรายได้ขาดหายไปมหาศาล ลูกจ้างในบริษัทการเมืองจำกัดของคุณลุงต่างอดอยากปากแห้งกันถ้วนหน้า แถมยังต้องปัดความรับผิดชอบกันพัลวัน สภาวะเงินสดขาดมือนี้วิกฤตินัก แม้แต่ญาติผู้พี่ที่เคยโกงเงินแบ๊งค์ได้เป็นล่ำเป็นสันกลับไม่มีแม้เงินจะซื้อยาไอซ์มาเสพ ที่แย่ที่สุดคือแม่ของฉันกำลังถูกเล่นงานคดีทุจริตจำนำข้าว ประมาณจากหลักฐานและระดับสติปัญญาของแม่และลูกจ้างบริษัทของคุณลุง งานนี้แม่ติดคุกแน่นอน ที่แปลกคือเพื่อนๆที่โรงเรียน ผู้ปกครองของเพื่อนๆและคนไทยทั้งมวลกลับมีความสุขกันทั่วหน้า จบ
อ๊ะ อ๊ะ…มีผู้ส่งเข้าประกวดแล้ว... ------------------------------------ ------------------------------------
สมัยนั้น...จำได้ว่า น้าจ่อย ช่วยแนะนำให้เด็กๆมีที่เล่นว่าวใหม่ๆด้วย... -------------------------------------------- -------------------------------------------- เมื่อไม่มี "โครงการรับจำนำข้าว"... การเล่นว่าวของเด็กๆ ต้องหันกลับไปใช้ลมธรรมชาติ แทนการใช้ ลมจากสต๊อกข้าว เบยยย...
เผื่อใครจะส่งเรียงความ อยากให้ลองพิจารณา นำกลอนนี้ ไปประกอบด้วย น่าจะช่วยให้เห็นภาพยิ่งขึ้นน่ะครับ...
ในวันที่ "ไม่มีจำนำข้าว" ครอบครัวของฉัน ก็ไม่ต้องมานั่งฟัง การแถ ลง แบบไว้ท์ลาย ของบรรดา ขี้ข้าประจำตระกูลนักโทษหนีคุกอีกต่อไป … ---------------------------------------------- ----------------------------------------------
มันจะเอาไปอ้างศาล หรือ ทำประชาพิจารย์ ประชามติ ของเพื่อไทย หรือเปล่า ถ้ามีผลบวก จำนวนมาก ของความคิดเห็น ในที่นี้คือเรียงความ มันจะเอาไปกดดันศาล ในคดีความของเจ้านาย เสื้อแดงพวกนี้ มันเห็นหัวศาลที่ใหน ระเบิดก็วางมาแล้ว
100 ล้าน ไปเลยครับ คนยอมตายแทนแน่ ขนาด 7-10 ล้าน ยายแก่หน้าเวทีปราศัย ยังไม่ยอมลุก ภาวนาให้คนมาฆ่า เพื่อหวังว่าลูกหลานจะได้
ชาวนาคือผู้ทำนาปลูกข้าว ...ผมส่งเป็นคลิปนะครับ รู้แต่ตอนมีนะ มึงเครียดมาก worayuth srivoragij cr nation
มีผู้ให้คำเตือนไว้ได้น่าสนใจ... ---------------------------------- วาระซ่อนเร้นของ ณัฐวุฒิ ครอบครัวของฉัน ในวันที่ไม่มีจำนำข้าว ปรากฏในรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2558 ว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. จะจัดกิจกรรมประกวดเรียงความหัวข้อ"ครอบครัวของฉัน ในวันที่ไม่มีจำนำข้าว" ความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 เพื่อเป็นเวทีสำหรับลูกหลานชาวนาตั้งแต่ระดับมัธยมถึงมหาวิทยาลัยได้อธิบายความจริงของชีวิตสู่สังคม โดยรางวัลที่ 1 ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายในครอบครัว 100,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 30,000 บาท และรางวัลชมเชย 10,000 จำนวน 10 รางวัล สามารถส่งเรียงความได้ตั้งแต่วันนี้ และหมดเขตวันที่ 30 พ.ย. ที่ตู้ปณ. 91 ปณศ.ลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 หรือ EMAIL : thaifarmer2015@gmail.com การจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่การพิจารณาคดีรับจำนำข้าวกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะถูกดำเนินคดีฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งอาจจะมีความผิดถึงขั้นยึดทรัพย์ โดยได้มีกระแสการออกมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยการใส่เสื้อแดง ในวันที่ 1 พ.ย. 2558 นี้ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า การนัดใส่เสื้อแดงนั้นเป็นการนัดหมายของใคร เนื่องจากแกนนำบางรายเช่นนายจตุพร ก็ออกมากล่าวว่าไม่ได้เป็นการนัดหมายของ นปช.แต่อย่างใด การจัดให้มีการประกวดเรียงความนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการปลุกกระแสการรับจำนำข้าวในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วชาวนามีทั้งที่ได้รับประโยชน์จากการรับจำนำข้าว และบางส่วนก็ไม่ได้รับประโยชน์จนเกิดเหตุให้ชาวนาผูกคอตายหลายรายในช่วงการดำเนินโครงการของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในเมื่อหัวข้อเรียงความออกมาว่า "ครอบครัวของฉัน ในวันที่ไม่มีจำนำข้าว" และจัดประกวดโดยเจ้าของนโยบายรับจำนำข้าว ก็ย่อมต้องเชื่อแน่ว่า คนจะได้รับรางวัลของการประกวดเรียงความนั้น คงจะต้องบรรยายถึงความลำบากยากไร้ ในวันที่ไม่มีจำนำข้าว จึงจะเข้าตากรรมการ และเมื่อเรียงความใดได้รับรางวัลชนะเลิศ หรือระดับรองลงไป ก็จะต้องมีการเผยแพร่เรียงความนั้น ซึ่ง ณ จุดนั้นแหละเป็นจุดที่ นายณัฐวุฒิต้องการ เพราะการประกวดเรียงความอ่านกันในกรรมการ แจกรางวัลกันแล้วจบไป มันก็ดูเรียบง่ายเกินไป ดังนั้นเมื่อผลการประกวดเรียงความออกมา เรียงความที่ได้รับรางวัลย่อมเป็นเรียงความที่บรรยายความดีงามของโครงการรับจำนำข้าว และความเดือนร้อนยากเย็นแสนเข็ญ เมื่อไม่มีโครงการรับจำนำข้าว เมื่อเรียงความลักษณะนั้น นำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะชน ตามความประสงค์ของผู้จัดการประกวด เมื่อนั้นแหละ เรียงความนั้นจะถูกพิจารณาว่า เป็นลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ เพราะเป็นการกล่าวชื่นชมโครงการที่ประสบความล้มเหลว และแสดงความลำบากยากไร้จากการดำเนินนโยบายข้าวของรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งก็น่าเป็นห่วงคนที่เขียนเรียงความเข้าประกวด ว่าจะตกเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือในการโจมตีรัฐบาล โดยไม่รู้ตัว เหมือนกับเหล่าคนเสื้อแดงที่เคยหลงเชื่อแกนนำ ในการเผาบ้านเผาเมืองและตกเป็นจำเลยคิดคุกติดตรางกันคนละหลายปี แต่แกนนำคนยุยงส่งเสริมยังเสวยสุขกันอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ อย่างไรก็ฝากให้นักเขียนเรียงความจงคิดให้หนัก เพราะเชื่อว่าโครงการนี้มีวาระซ่อนเร้นแน่ๆ http://www.oknation.net/blog/2279/2015/10/27/entry-1 ---------------------------------- ผมว่า ถ้าลองกล้าแต่งเรื่อง จนได้รับรางวัลได้ มันคงไม่ต้องไปคิดอะไรให้หนักกบาลหรอกครับ... หวังเงินรางวัล ตัวเดียวโดดๆ เท่านั้นแหล่ะ... ตามสันดานที่ชอบหาแดรกอะไรกัน แบบง่ายๆ... เที่ยวงอมือ งอตรีน ขอเศษตังค์จากนักการเมืองกันไป...
พูดข้างเดียว เดี่ยวๆ ฉะฉาน มีตัวเลขให้... ------------------------------------- -------------------------------------
อู้ววว...ได้รางวัลแหง๋มๆ... ขนาดบางส่วน ยัง 'โดน' ซ๊ะขนาดเนี๊ยะ... -------------------------------- -------------------------------- ตามอ่านเรียงความฉบับเต็มกันเองแล้วกันครับ...