จากบทความวันนี้ (23 กค.59) ของแก ... วันชุมนุม 'ภาณยักษ์ใหญ่' ความว่า... @@@ วันนี้ ต้องเรียกว่า "มากับพระล้วนๆ"! พระแรก...... "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์" หรือ "สมเด็จช่วง" ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช ผู้เป็นเจ้าของเบนซ์เถื่อน ขม ๙๙ และเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ "วัดพี่-วัดน้อง" วัดพระธรรมกาย! พระที่สอง.... "พระมหาศาสนมุนี" หรือ "หลวงพี่แป๊ะ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เลขานุการประจำตัว "สมเด็จช่วง" ผู้รับธุระจัดหาเบนซ์เถื่อน ขม ๙๙ ให้เจ้าประคุณสมเด็จ จากสมณศักดิ์ "พระครู" จัดหามาถวายเดือนกรกฎา ๕๔ ด้วยอานิสงส์ประเสริฐ อีก ๕ เดือนต่อมา ได้เลื่อนสมศักดิ์ เป็นเจ้าคุณ ที่ "พระมหาศาสนมุนี"! ติดยศ "เจ้าคุณ" รุ่นเดียวกับ "พระเมธีธรรมาจารย์" หรือ "โล้นประสาร" ผู้มีทักษิณเป็นที่พึ่งอันประเสริฐนั่นแหละ เมื่อวาน (๒๒ ก.ค.๕๙) ดีเอสไอ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง และทีมงานคลี่คลายคดีรถเถื่อน แถลง เบนซ์เถื่อน ขม ๙๙ "ผิดทุกขั้นตอน"! "สมเด็จช่วง-หลวงพี่แป๊ะ" จะถูกดีเอสไอ ดำเนินคดี ๒ ข้อหา ข้อหาแรก "ร่วมกันครอบครอง" ซึ่งสินค้าที่รู้ว่าไม่เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ผิด พ.ร.บ.สรรพสามิต ๒๕๒๗ มาตรา ๑๖๑ (๑) และกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ข้อหาที่สอง "ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ" ลงในเอกสารราชการ และแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานผู้ทำตามหน้าที่ ผิดกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗ และมาตรา ๒๖๗ ประกอบมาตรา ๘๓ พระที่สาม.... "พระครูปลัดสิทธิวัฒน์" หรือ "หลวงพี่น้ำฝน" เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ผู้กว้างขวางและมากบารมีแถบนครปฐม รถจากัวร์ รุ่นแพนเธอร์ คันงามของหลวงพี่นั้น ตรวจสอบแล้ว สรุปว่า จดทะเบียนทั้งคันที่สหรัฐฯ เป็นยี่ห้อ "แพนเธอร์"! แต่เปลี่ยนทะเบียน หลวงพี่ซื้อต่อจากคนไทยในสหรัฐฯ ก่อนแยกชิ้นส่วน "ตัวถังกับเครื่องยนต์" ส่งทางเรือเข้ามาไทย จดทะเบียนเป็นยี่ห้อ "จากัวร์"! เอกสารที่แสดงเป็นชื่อ "นายชรินทร ปถคามินทร์" เป็นผู้นำเข้าโครงตัวถัง แต่นายชรินทรอ้าง ถูกปลอมเอกสารลายมือชื่อทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างคดี ตัวอยู่ในเรือนจำนครปฐม! ส่วนหลวงพี่น้ำฝน มีชื่อเป็นผู้นำเข้าเครื่องยนต์ ก่อนประกอบเป็นรถยนต์ขึ้นมา ดีเอสไอสอบปากคำผู้ครอบครองรถยนต์คันนี้ที่สหรัฐฯ พบว่ากระบวนการลักษณะนี้ เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี เพื่อชำระเงินให้ถูกลง แต่หลวงพี่ใจเย็นๆ........ ยังลงเลข-ลงยันต์ได้อีกสักพัก ดีเอสไอ "ยังไม่แจ้งข้อหา" วันนี้-พรุ่งนี้ รวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานอีกแป๊บ...แจ้งแน่! พระที่สี่-ที่ห้า-ที่หก-ที่เจ็ด-ที่แปด.......... ประกอบด้วย พระทัตตชีโว รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แทนธัมมชโย ผู้ป่วยตีนโตข้ามภพ-ข้ามชาติ พระถวัลย์ศักดิ์, พระมหาสมชาย, พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ และพระสุธรรม สำนักธรรมกายทั้งหมด ทั้ง ๕ พระนี้ ดีเอสไอเรียกสอบเกี่ยวกับเส้นทางการเงินในวัด อยากรู้ ระโยง-ระยางถึงธัมมชโย ถึงใคร-ที่ไหนอีกบ้าง? ตอนนี้ อยู่ระหว่างใบเหลือง ใบที่ ๒ คือ "ขอเลื่อน" เข้าให้ปากคำอีก ยังพอได้อีกครั้ง ถ้าครั้งที่ ๓ ต้นเดือนสิงหาขอเลื่อนอีก ตานี้แหละ ถูกใบแดง คือดีเอสไอ "ขอหมายจับ" จากศาลแน่ ผมว่า...มันก็ดีเหมือนกัน ประหยัดค่าน้ำมันรถ คือแทนที่ไปแล้ว จะจับแค่สมีโยคนเดียว "จับทั้งโขยง" ทั้งตัวใหญ่-ตัวรอง-ตัวเล็ก พร้อมๆ กันทีเดียว ๕-๖ ตัวพระ-ตัวนางไปเลย! ๘ พระแล้วใช่มั้ย........ แถมอีก "๓ แพะฉุยเฉ่ง" ก็แล้วกัน! ฉุยเฉ่งแรก... "นายวินัย ละอองสุวรรณ" หรืออดีต "พระยันตระ" ผู้โด่งดังทางดี แล้วก็ดับทางชั่ว มั่วสีกาเป็นพระปั๊มลูก แต่ไม่ยอมรับ ถูกตั้งอธิกรณ์ เป็นปาราชิก ด้วยผิดในข้อเสพเมถุน มหาเถรสมาคมให้สึก แต่ยันตระดื้อแพ่ง เปลี่ยนจาก "โล้น-เหลือง" ไปเป็น "โล้น-เขียว" นุ่งห่มเหมือนพระ เปลี่ยนสีจีวรจากเหลืองเป็นเขียว แล้วหนีไปขอ "ลี้ภัยการกาม" อยู่สหรัฐฯ ดำรงวิถีกึ่งพระ-กึ่งแพะอยู่ที่นั่น จนคดีหมดอายุความ ก็เป็น "นายวินัย ละอองสุวรรณ" ชายไทยในคราบหัวมีขน-ห่มเขียว กลับมาเมืองไทย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว! ตอนนี้ก็ยังอยู่ มีข่าวว่า "แพะเขียว" วางแผนกลับจากอเมริกาถาวร มาอยู่เมืองไทย จะไปฟื้นฟูสำนักเดิมที่กาญจนบุรีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมืองไทย ท่าจะถึงคราว....."ลัทธิบ้าใบ้" เฟื่อง ส่วน "พระพุทธศาสนา" ฟุบ ไปฟูในถิ่นคน "มีใจฝึกแล้วประเสริฐ" ในซีกตะวันตกเสียก็ไม่รู้? ยันตระ "ลัทธิเขียว" มา.... สมีโย "ลัทธิจานบินแดง" กำลังจะไป สงฆ์ไทย "ใต้มหาเถรฯ" กำลังเละเทะ ทุกอย่าง "ในเมืองไทย" กำลังจะเปลี่ยนไป เพราะ "คนไทย" ต่างถือธุระไม่ใช่ บางชนบำเพ็ญตนเป็นพลเมืองห่วงใย "ใช้ตีนราน้ำ" ปากพร่ำประชาธิปไตย ใครจะล้มสถาบัน-เอาบ้านเมืองไปขาย...ความฉิบหายที่หมักหมมกันมาจากไหนๆ...ใครเป็นคนทำ...เก๊กหน้าด้าน ข้าไม่รู้..ข้าไม่เกี่ยว กันแทบทั้งนั้น คน "ล้มบ้าน-ผลาญเมือง" กลายเป็นคนดี-คนดัง ในชั่วโมงนี้ คนล้างขี้-คนกอบบ้าน-กู้เมือง กลายเป็นคนอัปรีย์ ลักษณะสังคมเช่นนี้ เหมือน "นรกแตก" ลำพัง "พระมาลัย" องค์เดียว ถึงรอด-ปลอดภัย แต่ถึงอย่างไร ดูแล้ว ก็คงต้อง เทศน์จนเหนื่อย! ไม่เพียง "ลัทธิเขียว" ของยันตระ อาทิตย์ที่แล้ว เห็นข่าวในด้าน "ความเป็นไป" ทางลัทธิและศาสนากันแล้วใช่ไหม? ที่จังหวัดระนอง มีอดีตพระ ที่เคยอวดอุตริ ว่าเหงื่อและเลือดไหลออกมาเป็นพระธาตุ นอนก็จะฝัน มีเทวดาเอาดอกไม้มาโปรยกลายเป็นธนบัตร ถูกชาวบ้านขับไล่พ้นวัด ไปโผล่ที่โน่น-ที่นี่ ล่าสุด โผล่ที่จังหวัดระนอง บอก...เขาไม่ใช่พระ เป็นศาสดาแห่งศาสนาใหม่ชื่อ "พุทธะธรรมชาติศาสนา" ปรากฏว่ายังมีคนบ้าไปเป็นสาวก แต่งกายเสื้อกางเกงสีเหลืองบ้าง สีเปลือกมังคุดบ้าง ในทรงเสื้อคลุมแบบแขก ยาวกรอมเท้า โพกผ้า ดูแล้ว ถ้าไม่เฟื่องจริง...ยากทำ ชื่อ "นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ" ในบัตรประชาชน ช่องศาสนาระบุ "พุทธะธรรมชาติ" คิดชื่อได้เฟี้ยวขนาดนี้ กูก็ยอมมึงละ..... แต่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าหน้าที่เขาซักไซ้แล้ว อดีตพระศุภกิจ จากอำเภอชะอวด นครศรีฯ ที่โม้เหงื่อเป็นเม็ดพระธาตุนั่นแหละ บอก "ไม่ใช่พระ" แต่เรียกตัวเอง "พระอาจารย์ชา" เป็นศาสดาเจ้าใหม่ สงสัยจะแข่งกะสมีโย สมีโย ขายค้อน โป้ง...รวย แต่เจ้า "โคตรเฟื่อง" แน่กว่า ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเคาะ แค่นอนฝัน เทวดาก็มาโปรยเงินแล้ว! ดูเหมือน "ทางการ" ยังหันรี-หันขวาง ไม่รู้จะจัดการอย่างไร แต่ขอบอกไว้อย่าง หอยวางไข่...ยังได้ประโยชน์ แต่ถ้าปล่อยให้...วางไข่ อนาคต...จะเหนื่อย เหมือนลัทธิจานบิน! เอ้า...มาถึง "แพะฉุยเฉ่ง" ตัวสุดท้าย อดีตพระ "เณรคำ" ถูกจับซะแล้ว! ดีเอสไอแถลง ประสานกับทางสหรัฐฯ จับเมื่อเช้าวาน (๒๒ ก.ค.) ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย เขาจะให้หรือเปล่าไม่รู้นะ มีคดีรออยู่แล้ว ๖ คดี ประกอบด้วย...... คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีการลงข้อความเป็นเท็จในเว็บไซต์ คดีหลอกลวงประชาชน คดีฉ้อโกงประชาชน คดี พ.ร.บ.ฟอกเงิน คดีกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน ๑๕ ปี และพรากผู้เยาว์! เรื่องเณรคำนี่ ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์ กับสหรัฐฯ ที่เปิดเป็นแหล่งซ่องสุมให้พวกโจรจากไทย โดยเฉพาะโจรจ้อง "ล้มประเทศ-ล้มสถาบัน" แก๊งทักษิณ จู่ๆ "จับเณรคำ" ให้ไทย ชนิดไม่มีปี่-ไม่มีขลุ่ย ก็เกิดคำถามขึ้นว่า.... สหรัฐฯ "เปลี่ยนนิสัย-สันดาน" เหมือนแอร์โดกัน เปลี่ยนทำดีกับรัสเซีย หรือการจับนี้ มีข้อตกลง-แลกเปลี่ยน "อะไรบางอย่าง" จากไทยเป็นทางลับ? ต่อให้อม "เทพีสันติภาพ" มาพูด ก็ไม่เชื่อ...... ที่สหรัฐฯ จะจับเณรคำให้ไทย โดยไม่หวังผลตอบแทน หรือไม่คิดจะได้ประโยชน์อะไรจากไทยแลกเปลี่ยน? ถ้ากลับตัว "ดีกับไทย" แบบอินทรีสำนึกบาปจริงๆ ต้องจับแก๊งก่อการร้ายใต้ดิน "จักรภพ-จารุพงศ์-สุนัย-ดารณี" ที่สหรัฐฯ ให้ใช้เป็นฐานบ่อนทำลายสถาบันไทย เอาตัวมาให้ขึ้นศาลในไทยให้หมดทุกตัว! เอาล่ะ...เมื่อขึ้นต้นด้วยพระ คั่นด้วยแพะ ก็ขอลงนะ... ด้วยพระอีกที พลันดีเอสไอแถลง "สมเด็จช่วง" เจอ ๒ ข้อหา ก็มีแถลงสวนทันควัน..... ๑.เราไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของดีเอสไอ ๒.เราเชื่อมั่นในความตั้งมั่นแห่งศีลที่บริสุทธิ์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ๓.องค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ยังคงยืนยันที่จะเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ต่อไป ลงนาม พระ.... "เมธีธรรมาจารย์" โล้น-ประสาร นั่นเอง! @@@ อ่านแล้วโดนมั๊ย หรือคิดเห็นเช่นไร เชิญได้ครับ ...
