ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ถือว่า “เสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน” นั่นก็คือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคน รัฐธรรมนูญของบางประเทศ ห้ามรัฐบาลหรือรัฐสภาไม่ให้ออกกฎหมาย เพื่อจำกัดเสรีภาพนี้ แต่ไทยยินยอมให้จำกัดเสรีภาพได้บางส่วน แต่จะจำกัดเสรีภาพได้เฉพาะเพื่อความมั่นคงของรัฐ และปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และชื่อเสียงของบุคคลอื่น ไม่ใช่จำกัดได้โดยไม่มีขอบเขต และสิ่งที่สื่อมวลชนไทยเรียกร้องก็ไม่ใช่เสรีภาพที่ไร้ขอบเขต แต่เป็นเสรีภาพที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ต่อสังคมและประเทศชาติ ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ สื่อจะต้องไม่กลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองไม่ว่าค่ายใดๆ ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะรับฟังข้อเรียกร้องขององค์กรสื่อมวลชนหรือไม่? นายกรัฐมนตรีบอกว่า “ยังไม่พออีกหรือ?” ทั้งยังต่อว่าสื่อไม่สนใจข่าวดีๆ ทำนองว่าชอบเสนอแต่ข่าวความขัดแย้ง ถ้าข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนอง สื่อทั้งหลายก็ต้องทำใจรอคอยต่อไป จนกว่าจะมีประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ที่รับประกันเสรีภาพตามแบบอย่างนานาอารยประเทศ. http://www.thairath.co.th/content/615728 คำถามที่ผมอยากถามสมาชิกคือ ***สื่อไทย(และอาจรวมถึงสื่อในระบอบปชต.ที่สื่อกล่าวอ้าง) ถูกจำกัดเสรีภาพโดยนายทุน(ที่สื่อไม่เคยกล่าวถึง)หรือรัฐบาลมากกว่ากัน ***สื่อไทยมีความรับผิดชอบจริง ตามที่กล่าวอ้างหรือปล่าว
พวกสื่อชอบโลกสวยว่าให้คนอ่านใช้วิจารณญาณตัดสิน ส่วนตัวเองจะโกหกบิดเบือนยังไงก็ได้ไม่ต้องรับผิดชอบผลการกระทำของตน
ดูตัวอย่างสื่อของประเทศผู้ส่งออกประชาธิปไตย **************************************************** ตามหลักวิชาวารสารศาสตร์แล้ว สื่อควรวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ในสหรัฐกลับมีการเลือกเข้าข้างและสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน ............................................................................................................. นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของภาคธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยสื่อทั่วโลกต่างต่างมีภาคธุรกิจเป็นผู้สนับสนุน อย่างที่เราจะเห็นได้จากยอดโฆษณา หากรายงานข่าวที่เรียบง่าย และไม่พลิกแพลง ก็จะไม่มีโฆษณาและสื่อนั้นๆก็จำเป็นต้องปิดตัวลง อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/world/news/430659
ประโยคนี้เคยใช้มาแล้ว "ก่อนที่คุณจะมาเป็นนักข่าวเคยเป็นคนมาก่อนหรือไม่" จากภาพยนต์เรื่อง "Deep Impact"
“ท่านบอกว่าประชาธิปไตยคือเสรีภาพ แต่ข้าพเจ้าเรียกว่า บรรษัทจำกัด” กล่าวโดย “เจฟฟรีย์ ฟิชเชอร์” http://www.manager.co.th/Weekend/ViewNews.aspx?NewsID=9570000081389 ******************************************************* บารอน ฟิชเชอร์(เจฟฟรีย์ ฟิชเชอร์)แห่งแลมเบ็ธ หรืออาร์คบิช็อปแห่งแคนเทอร์เบอร์รี (ระหว่างปี ๑๙๔๕–๑๙๖๑) มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์โลกคือท่านเป็นผู้สวมมงกุฎในวันราชาภิเษกของสมเด็จราชินีนาถอิลิซาเบ็ธที่สองแห่งอังกฤษ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๑๙๕๓ https://medium.com/this-transient-life/เจฟฟรี-ฟิชเชอร์-7324093ddbaf#.xz18636vt
ตัวอย่างสื่อคุณภาพ คือว่า ข่าวมติชน กับ ข่าว ผู้จัดกวน เป็นข่าวเดียวกันด้วย 55555 บาร์เซโลนาพร้อมทุ่ม 2 พันล้าน ฉก ‘เจ้าคุณธงชัย’ จากเลสเตอร์ ข่าวจาก ผู้จัดกวน ลือสนั่น!! 'บาร์ซ่า' เอาบ้าง ทุ่ม 2 พันล.นิมนต์เจ้าคุณธงชัยเซ็นสัญญาเสริมชะตานักเตะฤดูกาลหน้า
แค่ไม่กล้าเสนอข่าวที่เป็นผลร้ายต่อนายทุน อันนี้ก็ถือว่าหมดอิสรภาพแล้วอะครับ เพียงแต่ไม่กล้าโวยแค่นั้นเอง
ซีรี่ส์เกาหลีเรื่องนี้แหละ ที่นายกควรแนะนำให้ ไอ้พวกสื่อมวลชนจอมปลอม ลอกข่าวกันทั้งหลายไปดู มันต้องเรื่องนี้ ดูแค่ตอนนี้ตอนเดียว ก็เหมือนด่าไอ้สื่อมวลชนจอมปลอมได้หลายตัวเลย ลองดูกันนะครับ ตอนที่ 17 นี่แฉเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่าง นายทุนชั่วช้า นักการเมืองจอมโกงและสื่อจอมปลอม ได้เจ็บแสบยิ่งนัก
อดีตผมเป็นแฟนหนังซีรี่ส์เกาหลีตัวยง หลังๆนี่ดูเป็นบางเรื่อง เพราะแนวเรื่องชักซ้ำๆ แต่เรื่องนี้ดูแล้ว จากหลายๆเรื่องที่ผมดู สิ่งที่ผมขอตั้งข้อสังเกตุบางอย่าง ***คนเกาหลี มักจะขอโทษเมื่อทำผิด บางทียอมรับว่าตัวเองผิดเสียเองแทนคนที่ตนรัก ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้กระทำ ***ระบบชนชั้น ระยะห่างกันระหว่างคนรวยกะคนจน ยังคงมีอยู่แน่นอน ***บ้านของประชาชนไม่ว่าในชนบท ในเมือง จะไม่มีเหล็กดัดมากมายเหมือนบ้านเรา(คือผมไม่เคยเห็นเลยอะครับ) บ้านคนรวยอาจจะมีรั้วกำแพงกั้น มีวงจรปิดดูว่าใครมา แต่ตัวบ้านก็ไม่มีเหล็กดัดเหมือนกัน ***ประตูในบ้านมักเป็นบานเลื่อน โดยไม่เห็นมีการลงกลอนประตู ***ถนนหนทางไม่ว่าในสลัมหรือทั่วไป ไม่ค่อยเห็นเศษขยะ หรือรกรุงรังเหมือนของเรา เรื่องไม่มีเหล็กดัดผมก็งงนะ ว่าบ้านเขาไม่มีโจรงัดแงะหรือไง
ตกลงพวกมันลืมหมดแล้วใช่ไหมว่า ทำไมจึงเกิดคสช. และคสช.คือเผด็จการ ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย.....ใครก็ได้ช่วยตอบมันแทนผมทีเหอะ มันน่าเบื่อจริงๆกับพวกแกล้งโง่เนี๊ยะ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ไร้นิติรัฐ ไร้นิติธรรม 13 พฤษภาคม 2559 เวลา 10:48 น. โดย...คุณบ๊งเบ๊ง antibodyposttoday@gmail.com.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/columnist/niewkai/431668
ผมชอบดูซีรีส์เกาหลีเป็นบางเรื่อง เพราะมันไม่บ้าๆบอๆ ตบตีกรี๊ดว้าย เหมือนบ้านเรา คนเลวก็มีมุมที่ดี คนดีก็มีมุมที่เลว แต่สุดท้าย ทุกคนมีเหตุมีผลในทุกๆการกระทำ ละครเกาหลีมันด่าตรงๆ ไม่ต้องเกรงใจใคร ละครเรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่า ถ้าคุณโดนสังคมลงโทษ คือเข้าตลาดไม่ได้ ไม่มีใครขายของให้คุณ มันหนักมาก เวลามีเรื่องอื้อฉาวส่วนใหญ่เลือกฆ่าตัวตายไปเลย เพราะสังคมเขาแอนตี้รุนแรงมาก ต่างกันลิบลับกับเมืองไทย ..... พอๆกับละครไทยนั่นแหละ คุณชายขา เดี๊ยนรับไม่ได้ที่จะยอมให้อีนังนั่นมันเข้าบ้านนะคะ ยอมไม่ด้ายยยยคร่าาาา
อันนี้ใช่เลยครับ ละครของเกาหลีจะเก็บรายละเอียดตรงนี้ได้ดีมาก แต่ถ้าดูหนังVCDเกาหลีแบบสองแผ่นจบ ผมไม่เคยประทับใจสักเรื่อง เลยไม่ดูอีกเลย คล้ายๆเขากระชับเรื่องให้สั้นๆไม่เป็น
สื่อช่วยเสนอข่าวทั้ง2ด้าน แต่เผด็จการอยากเสนอด้านเดียว อย่างนี้คือเสรีภาพสื่อหรืออย่างไร แยกไม่ออกเหรอ ระหว่าง พลเรือน กับในค่าย
ก็เขาเป็นเผด็จการไงครับ เขามาโดยวิธีโค่นพวกประชาธิปไตยแต่ปาก ลงจากเวทีไง แต่เขาก็ไม่ได้ใช้วิธี จับผู้ประท้วงมัดแล้วโยนขึ้นบนรถ จนทับกันตายเกือบร้อย ตามที่สมัยรบ.ประชาธิปไตยกระทำ *************************************************************** วันพุธ ที่ 22 มิถุนายน 2554 ...ทักษิณ!!!!... “กรือเซะ ๓๒ ศพ” “ ตากใบ ๗๘ ศพ” “ฆ่าตัดตอนยาเสพติด ๒๕๐๐ ศพ” ใคร??? สั่ง!!!! “ฆ่าประชาชน” Posted by ณ.เมืองลุง http://www.oknation.net/blog/kongplod/2011/06/22/entry-2 *********************************************************************** และตั้งแต่มีคสช. มีประชาชนคนไหนบ้าง ที่โดนคสช.ทำให้ตาย หรือน่าสงสัยว่าคสช.ทำให้ตายหรือหายไปเฉยๆ ถ้ามีกรุณาบอกให้ผมได้รู้หน่อยครับ
เมื่อเช้าฟังวิทยุคลื่น96.5 ผู้ดำเนินรายการพูดถึงการที่คสช.ควบคุมสื่อไทยในปัจจุบัน อ้างด้วยว่าสื่อต่างชาติกำลังจะย้ายไปปักหลักถ้าไม่ที่ฟิลิปปินส์ก็อินโดฯ พวกสื่อต่างชาติบอกเธอว่าหลายคนไม่ได้รับการต่อวีซ่า กฏเกณฑ์ของไทยว่าจะต่อวีซ่าได้หรือไม่ก็ไม่มีมาตรฐานใดๆ เธอบอกด้วยว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของชาติถ้าสื่อต่างชาติย้ายไปเพราะจะกระทบถึงความมั่นใจของนักลงทุน ผมชอบฟังคลื่นนี้เพราะอยากรู้ว่าสื่อลิเบอรัลโลกสวยแอบแดงเขาคิดกันยังไง เห็นพวกเขาและหล่อนจะต้องเประชด หน็บ และเสี้ยมคสช.ทุกครั้งที่มีโอกาส ที่รู้ๆคือตอนที่มีรายชื่อสื่อฯที่รับเบี้ยเลี้ยงจากเผาไทยและรัฐบาลยิ่งลักษณ์หลุดออกมาสู่สาธารณะ ผู้ดำเนินรายการนี้ไม่เห็นเคลื่อนไหวดำเนินการใดๆ แต่พอVoice TV ถูกจนท.ของรัฐไปควบคุมไม่ให้ออกข่าวบิดเบือน พวกเธอจะเป็นจะตายว่าสื่ิอฯไทยถูกคุกคาม ยิ่งเรื่องพวกสื่อตาน้ำข่าวมันจะย้ายฐาน ดูว่าพวกเธอจะห่วงใยเรื่องนี้มาก ถามหน่อยเถอะว่าทำไมมันถึงอยู่เมืองไทยถ้าไม่ใช่ค่าครองชีพค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคุณภาพชีวิตที่ใช้เงินแลกมา ผมก็เห็นพวกมันตระเวนเที่ยวแถวพัฒน์พงษ์กันเกลื่อนไป ให้มันย้ายไปเถอะ แผ่นดินไทยจะสูงขึ้นอีกด้วยซ้ำ
ในหนังสองเรื่องนี้จะมีสื่อเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ซึ่งในเรื่องเป็นสื่อที่ต้องการขายข่าว เพื่อยอดขายสิ่งพิมพ์ของตัวเอง จึงมีวิธีการสารพัด สารเพ ทั้งสร้างข่าว เล่าข่าวครึ่งหนึ่ง ใส่สีตีไข่ เขียนคำวิจารณ์ให้เกิดกระแส ฯลฯ จนบางครั้งเป็นต้นเหตุของความเสียหาย (และมักไม่รับผิดชอบ พร้อมกับอ้างว่าเพราะกรูคือสื่อ สื่อมันเสรีภาพ) ซึ่งสิ่งที่ทำทั้งหมดเพื่อยอดขายสิ่งพิมพ์ และเรทติ้ง และนำมาซึ่งผลกำไร ในความเป็นจริง ผมเคยถามคนที่เรียนอยู่อังกฤษว่า เคยอ่านข่าวที่อังกฤษ มั้ย เป็นยังไง เค้าบอก สื่ออังกฤษมันก็เสรี เสรีจนสามารถเอียงเข้าข้างใครก็ได้อย่างเสรี แม้แต่กลุ่มการเมือง การให้ข่าวก็เอนเอียง เสนอข่าวแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อของตน (แม้แต่พวกนายทุน หรือกลุ่มการเมืองที่เป็นสปอนเซอร์) แต่การเอนเอียงมันจะไม่โกหก แต่มักจะเป็นแค่การเล่าข่าวครึ่งเดียว เขียนแสดงทัศนะ ความคิดเห็นเอนเอียง เขียนพาดหัวข่าวที่เข้าใจไปได้อีกอย่าง แต่เนื้อข่าวอาจไม่ใช่ (ลักษณะแบบเดียวที่สื่อกลุ่มมติชน-ข่าวสด และวอยซ์ ชอบทำ มันจึงชอบประท้วงให้เมืองไทยมีสื่อเสรีแบบตะวันตกเสมอๆไง) สื่อเสรีเพื่อประชาชน สื่อที่เป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้าน ในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างที่สื่อเรียกร้องมันไม่มีหรอก (ผมถึงกับรำคาญพวกคนขายข่าวบางคน ชอบเอาข้อนี้มาอ้าง) สื่อทั้งหลายก็ต้องใช้ทุน ต้องแสวงหาผลกำไร บางครั้งก็ต้องยอมทำบางอย่างเพื่อเอาตัวรอด สำหรับผมเสรีภาพสื่อมันไม่สิ่งที่เลวร้าย แต่สิ่งที่เลวร้าย และทำให้มีปัญหาคือคนไทยที่ส่วนใหญ่เชื่อข่าวได้ง่าย (เห็นเด็กรุ่นใหม่ชอบว่าคนสมัยก่อนชอบเชื่อข่าวที่เล่ากันผ่านปากต่อปาก แต่ตัวเองดันเชื่อข่าวที่แชร์กันผ่านเฟสต่อเฟส แล้วมันต่างกันตรงไหน) เหมือนอย่างเสื้อแดงถึงได้เป็นเชื่อข่าวจากสื่อสำนักกลุ่มหนึ่งได้ง่าย ไม่มีการตรวจสอบข่าว และอ่านรายละเอียดข่าวด้วยซ้ำ
เผด็จการมักกลัวเสรีภาพของสื่อ ตอนคลื่นปชต.เกิดในยุโรปศ.19 นสพ.+นิตยสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการสู้กับรัฐ พอมาเหตุการณ์อาหรับสปริงใน 2011 เฟซบุ๊คกับทวิตเตอร์มีบทบาทสำคัญ
เผด็จการที่กดขี่ข่มเหงประชาชนจะกลัวสื่อฯแท้ที่มีจิตวิญญาณของสื่อฯเต็มเปี่ยม แต่สื่อฯมวลชนของไทยส่วนใหญ่มันไม่ใช่ หลายๆปีมาแล้วบริษัทที่ผมทำงานอยู่จัดงานGrand opening ที่โรงแรมโอเรียลเต็ล มีเลี้ยงอาหารและแจกของที่ระลึก เชิญสื่อหลักและสื่อธุรกิจไว้จำนวนหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดก็ประมาณห้าสิบคน และจัดคนดูแลรับรองสื่อฯเหล่านี้ไว้ด้วย พอถึงวันงานปรากฏว่าสื่อหลักๆมากันตามที่เชิญและมีพนักงานดูแลเรียบร้อย แต่ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมากันจำนวนไม่น้อย มาถึงก็วางนามบัตรสำนักข่าวสำนักพิมพ์อะไรที่ตั้งแต่ผมเกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อ แล้วถามหาของที่ระลึกและเดินรี่เข้าหาอาหาร บางคนดูบุคคลิกลักษณะเหมือนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พอมามากเข้าของที่ระลึกที่จัดไว้ให้ก็ไม่พอ อาหารก็เหลือน้อย สื่อสถุลก็เริ่มออกลาย ขู่ว่าให้ระวังว่าข่าวจะไม่สวย จากนั้นมาภาพลักษณ์สื่อมวลชนไทยก็แจ่มกระจ่างสำหรับผม ผมเฝ้ามองสื่อฯที่มีจิตวิญญาณทำหน้าที่ของเขาด้วยความชื่นชม แต่พอเห็นสื่อฯไทยที่ออกมาเรียกร้องเสรีภาพครั้งใด ใจมันจะหวนคิดถึงสื่อฯมาดมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มามั่วงานGrand openingของบริษัทฯทุกครั้งไป