ประชานิยมแจกเงิน ทำให้เศษฐกิจดี เป็นภาพลวงตาไม่ยั่งยืน และฟองสบู่แตก สภาพตอนนี้ไม่มีประชานิยม แต่สร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เศษฐกิจจะสะท้อสภาพจริง เงินไม่สะพัดเท่าประชานิยม ฝืดเคืองกว่า แต่ประเทศไปรอดแน่นอนในอนาคต เห็นช่วงนี้มีแต่คนบ่นเรื่องเศษฐกิจ ว่าไม่ดีเหมือนสมัยจำนำข้าว แต่ผมแย้งว่าระยะยาวดีกว่าแน่นอน อดทนกันหน่อย โปรดชี้แนะ
ถ้ามองใกล้ตัว คือ การไม่เป็นหนี้บัตรเครดิตครับ ใช้จ่ายเฉพาะเงินเดือนหรือรายรับที่เรามี หากจะกู้เงิน ซื้อบ้าน รถ ก็วางแผนการใช้เงินของตัวเองในแต่ละเดือนให้ดี
มันก็เหมือนตอน หลังปี 40 ธารินทร์ ให้ คนไทย กินยาขม 1-2 ปี เศรษฐกิจก็ฟื้น เหลือเงินมาให้ ทักษิณผลาญ อวดตัวว่าเป็นเทพเศรษฐกิจ
รู้สึกว่าจะมีเรื่องเศรษฐกิจสีเทาที่ช่วยให้เงินสะพัด พอทางการเอาผิดเรื่องธุรกิจสีเทา ผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติด การพนัน ฯลฯ ก็ฉุดระบบเศรษฐกิจโดยรวมให้มีปัญหาไปด้วย แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ต้องจัดการ เพื่อแลกกับสังคมบ้านเราที่ดีกว่า
เงินส่วนนี้หายไปเยอะครับ แต่มองระยะยาวได้ประโยชน์กับประเทศแน่นอน เพียงแต่ คนไทยจะอดทนได้ไหม ช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นอะไรที่ยาก ทรมาน เหมือนคนป่วยรอเวลาที่จะหาย การทำตามคำแนะนำของหมอถึงข้อห้ามต่างๆก็ยากในความรู้สึก แต่ถ้าหายเมื่อไหร่ก็จะรู้สึกขอบคุณหมอที่ช่วยชีวิต
ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง เศรษฐกิจของบ้านเราจะพึ่งพาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมายไม่ได้ ขนาดยาเสพติดยังเป็นต้นธารของอาชญากรรมหลายๆ อย่างเลย ฆ่า ข่มขืน ปล้น ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ฯลฯ
เศรษฐกิจไม่ดีต้องมีเหตุ เจ๊งจำนำข้าว8แสนล้านอย่างไงก็ต้องกระทบเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้งเราเสียหาย4แสนล้านเรายังกระทบ แต่สถานการณ์ตอนนี้มีปัจจัยภายนอกด้วยคือการตกต่ำเศรษฐกิจของยุโรป และการล้มสะลายของกรีก การชะลอตัวของการเจริญเติบโตของจีน การตกต่ำของค่าเงินรัสเชีย ง่ายๆคือประเทศอื่นมีปัญหาใหญ่ๆและมีเงินใช้น้อย บางประเทศมีใช้เฉพาะภายในประเทศ บางประเทศแม้แต่ภายในประเทศยังมีใช้น้อย ดังนั้นจะสรุปอย่างหัวกระทู้ว่าประชานิยมเงินดี ไม่ประชานิยมเน้นพื้นฐานเพื่อความมั่นคงดีแต่เงินไม่สะพัด ก็ไม่ถูกเสียที่เดียว แล้วถ้ายิ่งจะสรุปว่าเศรษฐกิจรัฐบาลก่อนดีกว่ารัฐบาลนี้(มองในเชิงเงินสะพัดกว่า)ยิ่งไม่ถูก เพราะเรามองชั้นเดียวและมองแค่ใกล้ตัวแต่ไม่มองภาพใหญ่ รัฐบาลเก่งหรือเศรษฐกิจดี ต้องหมายถึงทั้งประเทศ GDP โต รัฐบาลสามารถผลักดัก ตัวเลขรายรับให้สูงได้ และกดรายจ่ายและหนี้ลงได้ อย่างรัฐบาลนายอภิสิทธฺ์ ที่สามารถฝ่าวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ไปได้ด้วยตัวเลขการเจริญเติบโตที่สูง แถบเงินทุนสำรองของประเทศยังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงแสนล้านดอลล่า http://www.thaiembassy.sg/press_med...ชชาชีวะ-นายกรัฐมนตรี-แถลงผลงานต่าง-ๆ-ของรัฐบา
สิ่งที่สำคัญรัฐบาลต้องสร้างวินัยทางการเงินให้ประชาชน ไม่เห็นแก่ลาภเฉพาะหน้า เหมือนเซลเงินกู้โทรมาเสนอให้เราใช้เงินอนาคต ถ้าหลวมตัวตามนั้นโดนทั้งต้นทั้งดอก กว่าจะใช้คืนครบโดนไปกว่า 100 %หลายเท่าตัวนัก
หนี้อย่างเป็นทางการมันแปดสิบกว่าเปอร์เซ็นแล้ว แล้วนอกระบบอีกเท่าไหร่ นั่นเท่ากับว่าหามา100ใช้หนี้80 เหลือกิน20 เขาจะเอาเงินที่ไหนไปจับจ่าย! ตอนนี้แบงค์ก็หนาวเพราะหนี้เสียพุ่ง.. ไม่อยากคิดว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้นช่วงปลายปี คงมีกระอักอีกเยอะ ผมว่าลุงตู่ต้องหา มืออาชีพทางเศรษฐกิจมาช่วยแล้วล่ะ
ในกรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ก็จะได้รับคำชมว่า Put the right man on the right job. สำหรับนายกรณ์ก็จะได้รับคำเรียกว่า The key man. ผมไม่เห็นใครคิดเหมือนคุณ ทั้งในและนอกประเทศ
ดูอีโง่เป็นตัวอย่าง ครม.ตัวเอง ทำโครงการผลาญเงินจำนำข้าวไปเท่าไหร่ ทำรถยนต์คันแรกผลาญเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อเนื่องไปอีกหลายปี มันรู้เรื่องที่ไหน วันนี้ รัฐบาล ยังตามแก้ไขปัญหาที่มันทิ้งไว้ไม่จบ
กระทรวงวัฒนธรรม ควรจะทำงาน ในมิติของการเปลี่ยนแปลง หรือ สร้างวัฒนธรรมใหม่ ให้สอดคล้องกับการพัฒนา หรือ การปฎิรูปประเทศ ถ้าไม่ทำอะไร ถึงจะเปลี่ยนแปลง โครงสร้าง แต่ คนไม่เปลี่ยน ประเทศก็จะย่ำกับที่ กับปัญหาเดิม ๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วประทับใจ คุณภาพ ของ เด็ก และ เยาวชนญี่ปุ่น เพราะ ครอบครัว และ สังคม ยังหล่อหลอมอย่าง เข็มข้น ดูรายการ TV ถึงไม่เข้าใจภาษา แต่ ก็เห็นได้ชัด มีการอบรมเด็กและเยาวชน ให้มีจิตสาธารณะ สอนแม้กระทั่ง วิธีสะพายเป้ในที่สาธารณะ เพื่อไม่ให้ไปรบกวน คนอื่น