เศรษฐกิจแย่ว่างงานอื้อ ทำคนเร่ร่อนเมืองกรุงพุ่ง มื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิอิสรชน และมูลนิธิผู้ช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะหรือคนเร่ร่อน ได้เปิดเผยผลการสำรวจคนเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าตัวเลขของผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเพิ่มขึ้น โดยในปี 2557 มีอยู่ทั้งหมด 3,249 คน เพิ่มจากปี 2556 ที่มีอยู่ 3,140 คน โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของคนเร่ร่อนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราการเพิ่มของประชากรที่ประมาณ 0.3% ในขณะนี้ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 3,360 คน เป็นเพศชาย 2,214 คน และเป็นเพศหญิง 1,246 คน คนเร่ร่อนเพศหญิงกลุ่มใหญ่ที่สุดจะเป็นผู้ให้บริการทางเพศ ในพื้นที่เขตพระนคร สำหรับพื้นที่ที่พบคนเร่ร่อนมากที่สุดก็คือ 1.เขตพระนคร ร้อยละ 17 2.เขตบางซื่อ ร้อยละ 9 และ 3.เขตจตุจักร ร้อยละ 7 นอกกลุ่มคนเร่ร่อนที่เป็นคนไทยแล้ว ยังพบพลเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ชาวกัมพูชาและเมียนมาอีกด้วย แต่ไม่มากนัก คาดว่าจำนวนคนเร่ร่อนจะเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 5-10 ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ฟื้นตัว ทำให้เกิดปัญหาว่างงานจนต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการปล่อยตัวนักโทษสู่สังคมมากขึ้น แต่ยังไม่มีการวางแผนการรองรับบุคคลดังกล่าวในการประกอบอาชีพ นายอรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม). กล่าวว่า กทม.ได้วางแนวทางดูแลมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้การช่วยเหลือบุคคลเร่ร่อนด้วยการจัดทำบ้านอิ่มใจ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานประปาแม้นศรี เขตพระนคร ให้เป็นที่พักพิงของคนเร่ร่อน ปัจจุบันมีคนเร่ร่อนเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 100 คน ได้ส่งเสริมการฝึกอาชีพแก่ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ และประสานผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงานเข้ามาคัดกรองเพื่อจ้างงานต่อไปด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดทีมแพทย์ตรวจคัดกรองโรค หากพบว่ามีอาการเจ็บป่วยก็ได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษา ทั้งนี้ได้ร่วมกับเอ็นจีโอในการเชิญชวนคนเร่ร่อนในพื้นที่ต่างๆ เข้ามาพักอาศัยที่บ้านอิ่มใจอย่างต่อเนื่อง http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447723730
เมื่อคืน อิรัก อัด ไต้หวัน 2-0 ไทยลุ้นรอบตัดเชือกกะอิรัก แม้อิรัก ชนะหมด (ไทยแพ้อิรัก) ไทยยังเข้ารอบ 2 เกือบ 100%
แบบนี้ผมว่า น่าจะเข้ารอบไปแล้วนะ ตอกหน้าไอ้อดีตนายกโง่คนนึงที่เคยด่าทีมชาติไทยแล้วโดนซิโก้สวนกลับแบบหน้าชาก็ต้องมุดหนีเลย ก็แค่ลุ้นว่าจะเป็นที่หนึ่งของกลุ่มหรือไม่
ครับ วันนั้นไอ้นายกฯหนีคุกบังอาจด่าทีมฟุตบอลทีมชาติทั้งที่มันเล่นบอลไม่เป็น เป็นแต่เอาเงินซื้อทีมฟุตบอล โดนซิโก้ด่ากลับจนไปไม่เป็น วันนี้ซิโก้ยังอยู่แต่เปลี่ยนจากศูนย์หน้าเป็นโค้ช ส่วนไอ้นายกฯปากเสีย กลายเป็นสัมภเวสี รอวันกลับอเวจี
พิสูจน์แล้ว! ค่าแรง 300 บาทป่วนทั้งตลาด คนตกงานพุ่ง-บริษัทปิด 1.3 แสนราย 4 เดือนค่าแรงขั้นต่ำ หลักฐานเริ่มฟ้อง ปิดบริษัทเพิ่ม-คนตกงานพุ่ง ธุรกิจบัณฑิตย์คาด SME ปิดตัวถึง 1.3 แสนราย คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยเผยหลังใช้นายจ้างเอาเปรียบสารพัด ยอมรับแรงงานถูกต้มหลอกให้เลือก สุดท้ายปล่อยนายจ้างเชือด ด้านทีดีอาร์ไอชี้สุดท้ายเหลือรายใหญ่คุมตลาด ขณะที่ตัวเลขว่างงานเพิ่มขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน ไปอ่านต่อ เองเน้อ.... http://hotnews-th.blogspot.com/2015/05/300-13_1.html
2553 มี 2,451 คน 2554 มี 2,561 คน http://www.krobkruakao.com/ข่าวสังคม/67472/ปัญหาคนเร่ร่อนที่อยากให้ผู้ว่าฯ-กทม-คนใหม่แก้ไข.html 2555 พบว่า มีจำนวนมากถึง 2,846 คน http://news.thaipbs.or.th/content/พม-เผยคนเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพฯมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2556 มี 3,140 คน 2557 มี 3,249 คน 2558 มี 3,360 คน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447723730 สรุปคือ 2553 -> 2554 เพิ่มขึ้น 110 คน 2554 -> 2555 เพิ่มขึ้น 285 คน (ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี) 2555 -> 2556 เพิ่มขึ้น 294 คน (ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี) 2556 -> 2557 เพิ่มขึ้น 109 คน 2557 -> 2558 เพิ่มขึ้น 111 คน
"สันดาน"มันก็ทิ้งตลอดครับ เคยรับผิดชอบที่ไหน บางครั้งคนที่มันพาดพิงถึงเอาจริง มันก็หลบไปมุดรูที่ไหนไม่รู้
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า แค่กๆๆๆ สำลักประชาธิปไตยครับ แอบดูมาตั้งแต่บอร์ดย้ายน้ำท่วมครับ เห็นกระทู้นี้แล้วมันอดไม่ได้ครับ
จขกท.ทิ้งกระทู้ไปแล้ว อย่าได้คิดว่าป่วนสำเร็จ ถ่ายทิ้งไว้แล้วหายหัว ที่จริงคือเอ็งขยันเอานายจ้างของเอ็งมาประจาน เชิญชวนให้ปวงชนเอาเท้าลูบหน้านายจ้างเอ็ง คนอย่างนี้ใครได้เป็นลูกน้องมีแต่ตายกับขายขี้หน้า
จริง ๆ ไม่อยากจะต่อความยาวอีกสำหรับกระทู้นี้ แต่คิดอีกทีเห็นว่าหากไม่อธิบายเพิ่มเติม หน้าตาดีอาจจะเข้าใจผิด เรื่องคนเร่ร่อนเขาพยายามชี้ให้เห็นแค่ประเด็นว่าเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนเร่ร่อนเพิ่ม แต่ลืมนึกไปว่าสิ่งนี้บ่งชี้อะไร หากมองที่ปลายเหตุก็เคลิ้มว่าเศรษฐกิจไม่ดีจริง ๆ แต่เมื่อสืบย้อนหลังแล้ว เมื่อปี 56 ความรุนแรงนี้เริ่มก่อตัว ตอนในปี 55 มีคนเร่ร่อน 2846 คน Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย "มูลนิอิสระชนเผยพบ เพศที่สาม -ชาวต่างชาติ-ลูกแรงงานต่างด้าว เป็นคนเร่ร่อนเพิ่ม" อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378386406/ จากปี 55- 57 มีเพิ่มขึ้น 403 คน (จำนวน 3249 คนในปี 57)
ปิดถุงเงิน เสนาบดีไพร่"ณัฐวุฒิ" 23.8 ล้านบาท แค่รถก็เฉียด 6 ล้าน ถือครองที่ดินเกือบ10ล้าน วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:00:00 น. จากการตรวจสอบ บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ รัฐมนตรีหนุ่มวัย 36 ปี อดีตแกนนำคนเสื้อแดงที่ยื่นต่อป.ป.ช.มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้ นอกจาก ทรัพย์สิน แล้ว เขาระบุว่า มีภริยา 1 คน คือนางสิริสกุล ใสยเกื้อ และบุตรอีก 2 คนนั่นคือ เด็กชาย นปก และ เด็กหญิงชาดอาภรณ์ ก่อนเป็นรัฐมนตรี ปี 2550 ณัฐวุฒิ เคยนั่งเป็นกรรมการ 2 บริษัท บริษัทแรกคือ บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด ตั้งอยู่บนอาคารอิมพีเรียล ลาดพร้าว ปี 2550อีกแห่งคือ บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน ตั้งอยู่ที่ 95/56 หมู่8 ซอยลาดพร้าว 7 ถนนนาคนิวาส รายได้ประจำของ แกนนำแดง มาจาก 3 แหล่งนั่นคือ เงินเดือน 864,720 บาท เงินประจำตำแหน่ง 498,000 บาทและเงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง ส.ส. อีก 1.3 ล้านบาท สรุปแล้วมีรายได้ ปีละ 2.7 ล้านบาท อีกด้านของบัญชีคือ รายจ่าย คือ ณัฐวุฒิและสิริสกุล ต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ 1.6 ล้านบาท/ปี เมื่อเปิดดูบัญชีทรัพย์สินของณัฐวุฒิและคู่สมรส มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ ณัฐวุฒิมีเงินฝาก 658,405 บาท คู่สมรส 2.9 ล้านบาท บุตร 2.2 ล้าน ทรัพย์สินชิ้นใหญ่ ๆ ของ"เต้น"คือ ที่ดินมูลค่า 8.5 ล้าน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.5 ล้าน ยานพาหนะ 4 คัน แพงสุดคือ 3 ล้าน ป้ายแดงคันใหม่ 2.2 ล้านบาท รวมแล้วมูลค่า เฉียด 6 ล้านบาท รถยนต์เกือบทั้งหมด ได้มาในช่วงปี 2553-2554 และที่ขาดไม่ได้คือ ปืนขนาด .380 ราคา 1 แสน ที่ซื้อมาในช่วง ก.พ.2552 บ้านของรัฐมนตรีไพร่ ที่หมู่บ้านเศรษฐศิริ ตำบลท่าทราย ราคา 1.5 ล้าน แต่ที่น่าสนใจ คือ การถือครองที่ดิน 6 แปลง แพงสุดคือ ที่ดิน ต.ท่าทราย เมืองนนทบุรี 274 ตารางวา มูลค่า 7.5 ล้าน อีก 5 แปลง อยู่ที่ ตำบล สิชล ตำบล ทุ่งใส อ.สิชล นครศรีธรรมราช 4 แปลง และที่ดินที่อ.ไชยา สุราษฎร์ธานี อีก 17 ไร่ มูลค่า 8 แสนบาท ถามว่า ณัฐวุฒิ มีหนี้สินหรือไม่ คำตอบคือ มีไม่น้อย เป็นเงินกู้แบงก์ 7 ล้าน ส่วน สิริสกุล มีเงินกู้ อีก 477,246 บาท รวมๆ แล้ว รัฐมนตรีณัฐวุฒิ และภริยา มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 16 ล้านบาท ถามว่า รวยหรือไม่รวย ต้องถามต่อว่า เทียบกับใคร ? http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331791192
ปริศนา!“ณัฐวุฒิ”รวยที่ดิน-ต่างหูคล้ายเพชรของเมีย? เขียนวันที่ วันอังคาร ที่ 24 ธันวาคม 2556 เวลา 20:00 น. เขียนโดย isranews หมวดหมู่ ข่าวเด่นสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | บัญชีทรัพย์สิน Send Print 6 แกะรอยละเอียดยิบทรัพย์สินครั้งล่าสุด“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ”ปมเงื่อนครองที่ดินเพิ่ม 1 แปลงไม่แจ้งมูลค่า ป.ป.ช.-ปริศนาอีกแล้ว“ต่างหู”คล้ายเพชรของเมียในงานวันเกิด ในการแจ้งบัญชีแสดงรายทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ครบ 1 ปี 27 ต.ค.56 (ยื่นต่อ ป.ป.ช. วันที่ 9 ธ.ค.56) แม้ทรัพย์สินโดยรวมของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากกรณีรับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ วันที่ 1 ม.ค. 55 เพียง 2 ล้านบาท แต่ทว่ามีทรัพย์สิน“ที่ดิน”ในจังหวัดนครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้น 1 แปลง และมิได้ระบุมูลค่าต่อ ป.ป.ช. ขณะเดียวกันแจ้งจำนวนที่ดินของ “บ้านอาศัย”ในหมู่บ้านเศรษฐสิริ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เนื้อที่ไม่ตรงกันอย่างน้อย 3 ครั้ง ทว่ากลับระบุ“มูลค่าที่ดิน”เท่าเดิม สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณี เข้ารับ รมช.เกษตรและสหกรณ์ (1 ม.ค. 55) นายณัฐวุฒิแจ้งว่าถือครองที่ดิน จำนวน 6 แปลง 1.โฉนดที่ดิน เลขที่ 220018 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มาวันที่ 28 มี.ค.2548 เนื้อที่ 0-0-274 ไร่ มูลค่า 7,500,000 บาท 2.น.ส.3 เลขที่ 5399 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครีศรีธรรมราช (ไม่ระบุวันได้มา) เนื้อที่ 1-3-0 ไร่ มูลค่า 100,000 บาท 3.โฉนดเลขที่ 38604 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครีศรีธรรมราช ได้มาวันที่ 9 ส.ค.2553 เนื้อที่ 2-2-24 ไร่ มูลค่า 204,800 บาท 4.โฉนดเลขที่ 38605 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครีศรีธรรมราช ได้มาวันที่ 9 ส.ค.2553 เนื้อที่ 8-2-17 ไร่ มูลค่า 680,000 บาท 5.น.ส.3 ข เลขที่ 389/14 ต.(สิชล) ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครีศรีธรรมราช ได้มาวันที่ 23 ก.ย.53 เนื้อ 0-1-8 ไร่ มูลค่า 4,200 บาท 6.น.ส.3ก. เลขที่ 1495 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้มาวันที่ 23 พ.ค.53 เนื้อที่ 17-2-90 ไร่ มูลค่า 800,000 บาท (ของคู่สมรส) และระบุว่า มีบ้านเลขที่ 337/72 หมู่บ้านเศรษฐสิริ ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ตั้งอยู่บนโฉนดเลขที่ 220018 ได้มาวันที่ 28 มี.ค.2548 (วันเดียวกับได้ที่ดิน) มูลค่า 1,500,000 บาท กรณีรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ วันที่ 27 ต.ค.55 (ยื่นป.ป.ช. 28 พ.ย.55) ระบุว่ามีที่ดิน 6 แปลงเท่าเดิม ทว่าที่ดินรายการแรกซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านระบุมีเนื้อที่เพียง 99 ตารางวา แต่มูลค่า 7,500,000 บาท เท่าเดิม และแจ้งมูลค่าบ้านเลขที่ 337/72 หมู่บ้านเศรษฐสิริ ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 1,500,000 บาทเท่าเดิม กรณีพ้นจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯครบ 1 ปี วันที่ 27 ต.ค.56 (ยื่นต่อ ป.ป.ช. วันที่ 9 ธ.ค.56) ระบุว่าถือครองที่ดิน 7 แปลง รวมเนื้อที่ 34-2-72 ไร่ (แปลงที่ 1-6 เนื้อที่คงเดิม แปลงที่ 6 เป็นของภรรยา) แปลงที่ 7 เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ โฉนดเลขที่ 41267 ต.ทุ่งสง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้มาวันที่ 11 เม.ย.56 เนื้อที่ 3-0-59.8 ไร่ มิได้ระบุมูลค่า (เป็นของนายณัฐวุฒิ) น่าสังเกตว่า การยื่นบัญชีฯครั้งนี้นายณัฐวุฒิระบุที่ดินแปลงแรกซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านในสนามบินน้ำ มีเนื้อที่ 274 ตารางวา มูลค่า 1,500,000 บาท เท่าเดิม และแจ้งมูลค่าบ้านเลขที่ 337/72 หมู่บ้านเศรษฐสิริ ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี 1,500,000 บาทเท่าเดิมอีกเช่นกัน ก่อนหน้านี้ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย 2 ส.ค. 2554 นายณัฐวุฒิ แจ้งถือครองที่ดิน 5 แปลง ในจำนวนนี้ที่ดิน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 1 แปลง เนื้อที่ 274 ตารางวา นางสิริสกุล ภรรยา 1 แปลง ในพื้นที่ ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 17-2-90 ไร่ รวม 6 แปลง อย่างไรก็ตาม ในการยื่นบัญชีฯ ล่าสุด27 ต.ค.56 นี้ นายณัฐวุฒิระบุมีหนี้สินเงินกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 2,685,030.42 บาท (จากหนี้สินทั้งหมด 3,874,861.7บาท) โดยระบุทำสัญญากู้ยืมวันที่ 11 เม.ย.2556 ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันเดียวกับการได้โฉนดที่ดินเลขที่ 41267 ต.ทุ่งสง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เนื้อที่ 3-0-59.8 ไร่ (ในกรณีนี้ถ้าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นแปลงเดียวแปลงที่ติดจำนอง ธอส. มีมูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาท ทรัพย์สินของนายณัฐวุฒิ อาจมีมูลค่ามากกว่าตามที่ระบุใน ป.ป.ช.?) เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2556 นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต โดยระบุว่ามีบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเศรษฐสิริ เลขที่ 337/47 ต.ท่าทราย สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี มีชื่อนางเพ็ญแข เจตน์ประสิทธิ์ อดีตภรรยานายสมหวัง อัสราษี เลขาฯนายณัฐวุฒิ อาจถือครองแทนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แต่นายณัฐวุฒิปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง อ่านประกอบ:เปิดธุรกิจอดีต“เมีย”หน้าห้อง“เต้น-ณัฐวุฒิ”เจ้าของบ้านปริศนา! ทั้งนี้ ในงานครบรอบวันเกิด 37 ปี ของนายณัฐวุฒิจัดที่เครีสอร์ท (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ถนนโยธินพัฒนา เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2555 มีภาพปรากฏเป็นข่าวว่านางสิริสกุล ใสยเกื้อ ใส่ต่างหูคล้ายเพชรออกงานวันเกิดสามีด้วย ในการยื่นบัญชีฯ 2 ครั้งต่อมา ต่างหูดังกล่าวกลับมิได้ปรากฎในรายการมีทรัพย์สินอื่นซึ่ง ป.ป.ช.กำหนดว่าทรัพย์สินอื่นที่มีมูลค่าเกิน 200,000 บาท ต้องแจ้งการครอบครองต่อ ป.ป.ช. (ต่างหูอาจมีมูลค่าไม่เกิน 2 แสนบาทหรือหยิบยืมใครมา?) อ่านประกอบ:3 รัฐมนตรีสอย“นางฟ้า”-ต่างหูคล้ายเพชรปริศนา!เมียณัฐวุฒิ? รายการทรัพย์สินของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และคู่สมรส รายการทรัพย์สิน รับ รมช.เกษตรและสหกรณ์ (1 ม.ค. 55) พ้นตำแหน่ง รมช.เกษตรฯครบ 1 ปี (27 ต.ค.56) ณัฐวุฒิ สิริสกุล บุตร 2 คน ณัฐวุฒิ สิริสกุล บุตร 2 คน เงินฝาก 658,405.9 2,906,642.75 2,294,370.19 1,184,811.95 5,657,727.97 127,930 เงินลงทุน - 173,100 - - 173,100 - เงินให้กู้ยืม - - - - - - ที่ดิน 8,526,800 800,000 - 8,526,800 800,000 - โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,500,000 - - 1,500,000 - - ยานพาหนะ 5,992,990.65 938,000 - 5,992,990.65 938,000 - สิทธิและสัมปทาน - - - - - - ทรัพย์สินอื่นๆ 100,000 - - 100,000 - - รวม 16,778,196.55 4,817,742.75 2,294,370.19 17,304,602.6 7,568,827.97 127,930 รวมทรัพย์สิน 23,890,309.49 25,011,360.73 หนี้สิน 7,149,110.46 477,246 - 3,874,861.7 2,859,074.42 - รวมหนี้สิน 7,626,356.46 6,733,936.13 รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินทั้งสิ้น 16,263,953.03 18,267,424.60 ที่มา:สำนักข่าวอิศรา รวบรวบจากบัญชีฯ สำนักงานป.ป.ช.
กรรม!!! พ่อเสื้อแดงเผาศาลากลาง กล่อมลูกรับโทษคุก15 ปี ทุกอย่างจะได้จบ 2015-10-03 17:07:46 tag : เผาศาลากลางมุกดาหาร เสื้อแดงเผาสาลากลาง 1 ชะตากรรมแท้ ๆ !!! พ่อคนเสื้อแดงที่โห่ฮาป่าบุกเผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหารเมื่อปี 53 กล่อมลูกชายให้ยอมก้มหน้ารับโทษจำคุก 15 ปี ตามคำสั่งศาล โดยไม่ต้องฎีกา ทุกอย่างจะได้จบกันเสียที วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก นายวิเศษ อุสุพันธ์ อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ นายวิชัย อุสุพันธ์ 1 ใน 3 ผู้ต้องหาคดีร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง เผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหารเมื่อปี 53 ว่า หลังศาลตัดสินจำคุกลูกชาย เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยพิพากษาลดโทษเหลือ 1ใน 4 เหลือจำคุกเพียง 15 ปี ตนได้พูดคุยเกลี้ยกล่อมลูกชายให้ยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่อยากให้ยื่นฎีกา หลังลูกชายรับโทษตามคำสั่งศาล ตนคงกลับไปขับรถสามล้อสกายแล็บหาเลี้ยงชีพตามลำพังไปก่อน จนกว่าลูกชายจะออกจากคุก เพราะตนเองอายุมากแล้ว จะไปทำอาชีพอื่นก็คงไม่ไหว โดยตนได้บอกกับลูกชายที่ถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหารว่าให้รับสภาพของการตัดสินของศาล ให้อยู่ในกฎระเบียบของเรือนจำ และประพฤติเป็นคนดีอย่าไปทำอะไรเหมือนเดิมอีก
ที่ดินที่นครศรี ทำสัญญาจะซื้อจะขายกันก่อนมี กปปส เจ้าของที่แปลงนี้คือ นายสมนึก เกตุชาติ ซึ่งเป็นพ่อของผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเขต 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช เลยมีเรื่องบิดเบือนนี้เกิดขึ้น
อย่าลืม ยังมีคนที่สมัครใจจะเร่ร่อนอีกด้วยนะครับ --------------------------------------------------------------------------- ย้อนตำนาน นักการเมือง "ขาใหญ่" ก่อน“ประชา” ใครบ้างถูกออกหมายจับ คดีทุจริต ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกระบุข้อมูลว่า มีที่พำนักอยู่ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดินทางเข้าออก ที่ฮ่องกง และประเทศเพื่อนบ้านของไทยหลายครั้ง ปัจจุบันยังคงใช้ช่องทางการสื่อสารในโลกออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิสเตอร์ ติดต่อสื่อสารกับคนในประเทศไทย อยู่เป็นระยะๆ ส่วน "นายวัฒนา อัศวเหม" และ“นายประชา มาลีนนท์ ยังไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจนว่าไปพำนักอาศัยอยู่ที่ใดกันแน่ http://www.isranews.org/investigative/investigate-news-person/item/22833-order-sp-484.html
ประชาธิปไตยจริง ๆ จัดเอง ยิงเอง เพื่อให้เลือกไม่ได้เอง กกต.พม่าอ้างความปลอดภัย-ยกเลิกจัดเลือกตั้ง 2 เขตในรัฐฉาน Thu, 2015-10-29 11:35 กกต.พม่า ประกาศยกเลิกการเลือกตั้งทั่วไปในพื้นที่ 2 อำเภอได้แก่เมืองสู้ และเกซี โดยอ้างเรื่องความปลอดภัย โดยจะมีผลทำให้ไม่มี ส.ส. จาก 2 เขตนี้ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งยกเลิกในพื้นที่บางส่วนของต้างยาน และโหปัง ขณะที่ล่าสุดกองทัพพม่ายิงปืนใหญ่เข้าใส่บ้านไฮ ซึ่งมีที่ตั้งของ กอง บก. กองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA-N ทำให้อาคารบ้านเรือนเสียหาย สภาพความเสียหายของบ้านเรือนใน พื้นที่บ้านไฮ อำเภอเกซี รัฐฉาน ที่ตั้งของ บก.กองทัพรัฐฉานเหนือ (SSPP/SSA) หลังจากเมื่อคืนวันที่ 28 ต.ค. ยิงกระสุนปืนใหญ่เข้ามาบริเวณหมู่บ้าน ขณะที่ กกต.พม่ามีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ยกเลิกจัดการเลือกตั้งในพื้นที่อำเภอเกซี และอำเภอเมืองสู้ และยกเลิกจัดเลือกตั้งบางส่วนในพื้นที่ออำเภอต้างยาน และอำเภอโหปัง (ที่มา: Sai Num Hkam)