ใครๆ บอกว่า ศก.พอเพียง ขวางทุนนิยม นั่นเพราะมองด้วยสายตาละโมบโลภมากประสาทุน เศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแต่เกิดขี้นไม่เคยชัดขวางทุนิยม แล้วจะได้รู้กัน อย่ารู้ช้าล่ะ
MEDIA[=youtube]aOG9EHWHwgM[/MEDIA] ยังมีใครยังอยากได้อยากลงทุนกับ อาคารพาณิชย์อีกหรีือ อาหารรถเข็นข้างถนน เศรษฐกิจรากหญ้าล่ะ เอาประชานิยมทันสมัยกันเฮอะ
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นความดีงาม สมบูรณ์พร้อมอยู่ในตัวเอง ยากที่ผู้ใคจะคัดค้าน และไม่เคยคัดค้านหรือเป็นสิ่งขัดขวางผู้ใด กระนั้น ก็ยังมีคนคิดทำลาย หรือแสดงความรังเกียจทั้งที่หาข้อผิดพลาดไม่ได้ หาข้อโต้แย้งกับความจริงไม่ได้ เหมือนข้อเท็จจริงมี่ว่า พระอาทิตย์ขี้นทางทิศตะวันออก ก็จะมีคนพวกนึง.....พวกนั้นนะแหละ รู้กันนะ กระแนะกระแหนแถไป ก็ว่ายังไงพระอาทิตย์ก้จะต้องตกไป หรือ ทิศตะวันออกเป็นคำกล่าวเรียก สำคัญยังไง จะเรียก ทิศฟ้าสีทองผ่องอำไพ มีไรปล่าว หรือถ้าจะกล่าวถึง พุทธดำรัส อันยากหาคำโต้แย้งได้ ก็พวกนั้นเดิมๆนะแหละ รู้กัน กระแนะกระแหนแถไป หาว่านั่นไม่ใช่พุทธดำรัส อะแหนะ เช่นนั้น เพราะความไม่สำนึกโดยแท้ ฟังแค่คำพูด"เศรษกิจพอเพียง" ตะลีตะเหลือก กลัวจะยากจน ประสาคน โมหะ โลภะ เอ่อ บอกแล้วอย่ารู้ช้า สักวันเฮอะ อาจจะสายไป
มีใครบ้างไม่เดยคิดอยากได้ใคร่มี มีใครบ้างไม่เคยคิดอยากมี อยากได้ อยากเป็น ในสิ่งที่สะดวกสบาย ทันสมัย แบบทุนนิยม ต่อให้ยังไม่มี ไม่ได้ ไม่เป็น ก็ฝันเอา ฝันอยู่ทุกวันทุกคืน ฝันไปเถอะสำหรับคนหลายๆคนมากมาย จนกว่า วันนึงตื่นขึ้นมาจะได้รู้สึก ว่าแม้ความมั่นคงในอาชีพการงาน ความสงบสุข กำลังถูกสั่นคลอน ถูกรุกรานจนไม่แน่ว่าจะรักษาไว้ได้ อุตสาหกรรม พาณิชย์ หลายแขนงถูกทดแทนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนฯ การผลิตหลายประเภทล้มหายไป อาคารพาณิชย์ไม่เป็นที่ต้องการ ไปจนถีงแรงงานหาเช้ากินค่ำ พ่อค้าข้างถนน เริ่มถูกขับไล่พ้นๆไป การสื่อสาร คมนาคม เกษตรกร ถูกยึดครอง รุกไล่ยึดทรัพยากร แรงงาน สังคมก่อนหน้านี้ไม่นานมาเนี่ย คนชนบทเสียที่ดินยังเข้ามาขายแรงงานในเมือง เดี๋ยวนี้แรงงานในเมืองก็เริ่มไม่มั่นคง ทางเลือกชักมีน้อย นี่ไง ไปเป็นยามสิ ใส่เครื่องแบบโก้เชียว แค่เดินไปเดินมาก็ได้ตังค์ สบายคนไทยชอบ เมืองนอกอย่าอเมริกาก็นี่ไง เป็นทหารอย่าเลิกน่ะ เลิกเมื่อไรตกงาน ขี้เหล้า แหมพวกเรียนจบมา มาครฐานการศีกษาสูงมาก เค้าสอนให้รู้จักคิดกล้าแสดงออก อย่าท่องจำ ชิ เหมาะมาก จบแล้วไปขับรถบรรทุก รถแทร็กเตอร์ปะ ต้องการเยอะ แหม่สุขจริงนะ กินโดนัท เบอเกอร์ทุกวัน กลับบ้านกินอาหารเว็ฟ พอจะเหลือเงินดูบอลล์ดูคอนเสิร์ท เพียงพอเนาะ ท่านทั้งหลายท่านไม่มั่นคงแล้ว เพราะท่านไม่มีอิสระในสัมมาชีพ ท่านอยู่ใต้ข้อกำหนดผูกขาดของทุน หรือว่า ท่านยังฝันอยู่ว่าสักวันท่านจะขึ้นเป็นระดับเจ้าของทุน ทำได้ ก็ยินดีด้วย บอกแล้วว่าไม่คัดค้านขัดขวางกัน โอกาสไม่เท่ากัน ประเทศไหนๆก็ต้องการทุนสักหยิบมือนึง เหมือนๆกัน อย่าคิดช้าละกัน อ่อ นักกีฬา ศิลปิน นึกว่าตัวเองอิสระ ก็เช่นเดียวกัน พุทโธ่ กระทั่งนักบวชยังไม่พ้นทุนคุกคาม อะนะ
เศรษฐกิจพอเพียงตำเป็นสำหรับท่านมั้ย เริ่มจากตรงนี้ก่อน............... คือ มั่นคง.................เริ่มจากตรงนี้ก่อน............... เครดิตจาก เผยแพร่เมื่อ 26 มี.ค. 2013 บันทึกรายการครอบครัวเดียวกัน Big Family ตอน ค้นหาความมั่นคงของชีวิต ตอน 1 (23 มี.ค. 56) ไม่บ่อยครั้งนักที่ใครจะมาตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วพิจารณาอย่างจริงจังว่าความมั่นคงในชีวิตของแต่ละคนคืออะไร ทั้งที่ทุกวันนี้เราต่างทำงาน หาเงินด้วยเหตุผลที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองและครอบครัวด้วยกันทั้งนั้น วันนี้รายการครอบครัวเดียวกันเดินทางมาที่พันพรรณ สวนเกษตรอินทรีย์ และ ศูนย์เรียนรู้การทำบ้านดิน ที่พำนักของลูกผู้ชายที่ชื่อ โจน จันใด เพื่อมาค้นหาความหมายที่แท้จริงของความมั่นคงของชีวิต ในมุมมองของผู้เจนจัดด้านการใช้ชีวิต พร้อมด้วยแขกรับเชิญอีก 1 ท่าน กระบวนกรผู้เชี่ยวชาญทางด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว คุณครูณา อังคณา มาศรังสรรค์ ****โจน จันใด เป็นคนธรรมดาๆทั่วไป เคยจากบ้านไปเรียนหนังสือ ทำงาน กระทั่งเป็นยาม จนถึงวันที่หยุดฝัน......................****
ขอแทรกคั่นจังหวะนิด ว่าเถียงความจริงไม่ได้จงเงียบๆไว้เฮอะจะดูฉลาดกว่า กระแนะกระแหนแถไปเถือกๆ พวกเดิมๆ ก็รู้กันพวกนั้นแระ ยังแถแบบเดิมๆจะให้ศก.พอเพียงไปปลูกผักเราะบ้านเราะรั้ว แถมยังกระแนะกระแหนบอกต้องให้ผู้มีอำนาจน่าจะไปปลูกผักกินเป็นตัวอย่าง เอาวะเฮ้ย ดูนี่ ศก.พอเพียงระดับชาติ พี่งพาตนเอง อิสระจากผูกขาด และเข้าถึงเทคโนฯระดับสูง ดูจิ ว่าจะแถไงอีกเฮ่ย * ขอโทษครับ หลุดนิดหน่อยเองงง กระทู้นี้เดิมตั้งใจไม่ระรานใคร* เป็นประวัติการณ์.. ทัพฟ้า-ราชนาวีไทยทำได้สำเร็จ เชื่อม อีริอาย กริพเพน กับเรือหลวงนเรศวร Cr:ผู้จัดการ นับเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในการพัฒนา การบูรณาการระบบเรดาห์ของอากาศยานกับเรือเข้าด้วยกัน หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วกองทัพเรือ ประสบความสำเร็จในการใช้ระบบเรดาร์ของสวีเดน ที่ติดตั้งบนเรือหลวงนเรศวร ซึ่งเป็นเรือที่ต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีน บูรณาการเข้ากับระบบ ยิงจรวดอีเอสเอสเอ็ม (Evolved SeaSparrow Missile) ระบบจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานประสิทธิภาพสูง ที่ผลิตจากสหรัฐ ยิงทำลายเป้าหมายซึ่งเป็นโดรน ยิงขึ้นจากเรือลำเลียงพลยกพลขึ้นบกสหรัฐลำหนึ่ง ได้อย่างแม่นยำ นั่นคือเหตุการณ์ที่กลายเป็นไฮไล้ต์สำคัญสำหรับฝ่ายไทย ระหว่างการฝึก CARAT 2015 ไทย-สหรัฐ ที่บริเวณฐานทัพเรือสัตหีบ และ กลายเป็นเหตุการณ์ที่สื่อกลาโหมหลายแห่งรายงานไปทั่วโลก""""""""""""""""""""""" 30/08/2556 22.15 น. ThaiArmedForce.com - กองทัพเรือไทยประสบความสำเร็จในการยิง ESSM Royal Thai Navy successfully fired its new ESSM. กองทัพเรือไทยประสบความสำเร็จในการยิงจรวดพื้นสู่อากาศต่อสู้อากาศยานแบบ RIM-162 Evolved Sea Sparrow Missile หรือ ESSM จากแท่นยิงอาวุธปล่อยทางดิ่งแบบ Mk.41 VLS บนเรือหลวงนเรศวร เข้าหาเป้าหมายที่เป็นอากาศยานเป้าของกองทัพเรือสหรัฐ ในการฝึก CARAT 2015 ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐในช่วงสายของวันที่ 30 ส.ค. 2558 โดยทำการยิงจำนวน 1 นัด และผลการยิงนั้น จรวดถูกเป้าหมายและสามารถทำลายเป้าหมายได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ กองทัพเรือไทยได้ทำการปรับปรุงเรือชุดเรือหลวงนเรศวรหลังจากใช้งานในราชการมานานเกือบ 20 ปีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเรือออกไป โดยก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้เลือกระบบอำนวยการรบแบบ 9LV เรดาร์ตรวจการ Sea Giraffe AMB 3D ระบบควบคุมการยิง CEROS 200 ระบบ Electro Optic แบบ EOS 500 ของ Saab ระบบเป้าลวงของ Terma แบบ SKWS รวมถึงติดตั้งระบบเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีเพื่อติดต่อสื่อสารกับกองเรือและกองทัพอากาศอีกด้วย กองทัพเรือไทยประสบความสำเร็จในการยิงจรวดพื้นสู่อากาศต่อสู้อากาศยานแบบ RIM-162 Evolved Sea Sparrow Missile หรือ ESSM จากแท่นยิงอาวุธปล่อยทางดิ่งแบบ Mk.41 VLS บนเรือหลวงนเรศวร เข้าหาเป้าหมายที่เป็นอากาศยานเป้าของกองทัพเรือสหรัฐ ในการฝึก CARAT 2015 ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐในช่วงสายของวันที่ 30 ส.ค. 2558 โดยทำการยิงจำนวน 1 นัด และผลการยิงนั้น จรวดถูกเป้าหมายและสามารถทำลายเป้าหมายได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ กองทัพเรือไทยได้ทำการปรับปรุงเรือชุดเรือหลวงนเรศวรหลังจากใช้งานในราชการมานานเกือบ 20 ปีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเรือออกไป โดยก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้เลือกระบบอำนวยการรบแบบ 9LV เรดาร์ตรวจการ Sea Giraffe AMB 3D ระบบควบคุมการยิง CEROS 200 ระบบ Electro Optic แบบ EOS 500 ของ Saab ระบบเป้าลวงของ Terma แบบ SKWS รวมถึงติดตั้งระบบเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีเพื่อติดต่อสื่อสารกับกองเรือและกองทัพอากาศอีกด้วย 03/07/2556 19.15 น. ThaiArmedForce.com - BAE Systems ได้รับสัญญาเพื่อผลิตท่อยิงจรวด ESSM ส่งมอบให้กับกองทัพเรือไทย Jane's รายงานว่าบริษัท BAE Systems ประกาศว่าได้รับสัญญาในการผลิตท่อยิงจรวดแบบ Mk.25 Mod 0 Quad Pack Canisters จากกองทัพเรือไทยเพื่อนำไปใช้งานกับจรวดพื้นสู่อากาศแบบ RIM-162 Evolved SeaSparrow Missile หรือ ESSM Mk.25 Mod 0 Quad Pack Canisters เป็นท่อยิงที่จะถูกติดตั้งกับระบบท่อยิงทางดิ่งแบบ Mk.41 Vertical Launching System ซึ่งจะถูกติดตั้งบนเรือชุดเรือหลวงนเรศวรภายใต้โครงการปรับปรุงเรือชุดนี้ ทั้งนี้ ระบบอาวุธและระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่กองทัพเรือไทยจัดหาจากสหรัฐมีมูลค่า 40,327,024 เหรียญสหรัฐหรือราว 1,200 ล้านบาทสำหรับเรือทั้งสองลำ ตัวอย่างของระบบอาวุธและระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในสหรัฐเช่น ระบบเฝ้าฟังทางอิเล็กทรอนิกส์ (ESM) แบบ ES-3601 ของ ITT Exelis ระบบท่อยิงทางดิ่งแบบ Mk.41 ของ Lockheed Martin จรวดพื้นสู่อากาศ RIM-162 RSSM ของ Raytheon เป็นต้น โดยระบบอื่น ๆ นั้นเป็นการจัดหาจากประเทศในยุโรป เช่นสวีเดน อิตาลี เดนมาร์ค เป็นต้น กองทัพเรือได้บูรณาการ ระบบ และเทคโนฯจากหลายประเทศให้เข้ากับยุทโธปกรณ์ทีมีอยู่เดิม เพื่อมิให้ถูกผูกขาดติดอยู่เพียงประเทศใดประเทศหนึ่ง ผมเห็นจากข้อมูลและวิด๊โอมาครั้งหนึ่งทำนองว่าระบบนี้ประกอบด้วย เรือไทยต่อจากจีน เครื่องเยอรมัน ระบบเราดาร์สวีเด็น แต่ผมไม่ได้ก็ปเก็บไว้ ท่าใดมีก็สงเคราะห์ด้วยก็ขอบคุณอย่างมาก ...............
เจ้าแห่งอ่าวไทย งามสง่าน่าเกรงขาม เรือหลวงนเรศวร ที่ต่อจากนครเซี่ยงไฮ้ของจีน ยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน RIM-162 หรือ Evolved SeaSparrow Missile จากท่อยิง MK-25 ระบบที่ผลิตในสหรัฐ และ ด้วยระบบเรดาร์ควบคุม ผลิตในสวีเดน เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีอาวุธต่างครอบครัวอย่างลงตัว กลายเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากเว็บไซต์ข่าวกลาโหมหลายแห่งทั่วโลกสัปดาห์นี้ รวมทั้งในประเทศเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 2nd Class Will Gaskill. ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เหตุการณ์ที่กองทัพเรือไทยยิงจรวด ESSM จากเรือหลวงนเรศวรสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากเว็บไซต์ข่าวกลาโหมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของโลกในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ต้องถือว่ามีความเป็นพิเศษยิ่ง ไม่เพียงแต่เป็นครั้งแรกที่ไทยทดลองยิงจรวดต่อสู้อากาศยานจากพื้นสู่ากาศที่มีประสิทธิภาพสูง แบบเดียวกับที่ใช้ในกองทัพเรือสหรัฐฯ เท่านั้น หากยังเป็นการยิงจรวดที่ผลิตในสหรัฐฯ จากเรือรบลำหนึ่งที่ต่อจากจีนคอมมิวนิสต์ และยังข้ามสายพันธุ์ไปใช้ระบบเรดาร์ควบคุมการยิงที่ผลิตจากประเทศสวีเดนอีกด้วย การยิงจรวดซีสแปโรว์รุ่นพัฒนา หรือ Evolved SeaSparrow Missile จำนวน 1 ลูก วันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ยิงจากเรือหลวงนเรศวร อันเป็นส่วนหนึ่งของการฝีกร่วมกะรัต (CARAT) ซึ่งเป็นครั้งที่ 21 ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จรวด ESSM สามารถทำลายเป้าบินอย่างแม่นยำได้ผล ซึ่งเป้าหมายที่ใช้เป็นโดรนเป้าบินแบบ BQM-74E ยิงขึ้นจากเรือเยอรมันทาวน์ (USS Germantown, LSD 42) ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเข้าร่วมการฝึก จรวด ESSM ของบริษัทเรธีออน (Raytheon) ยิงจากระบบท่อยิงแบบ MK 25 ที่ผลิตโดยบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน (Lockheed Martin) สองบริษัทอุตสาหกรรมกลาโหมชั้นนำในสหรัฐฯ ภายใต้การกำกับของกระทรวงกลาโหม และใช้ระบบเรดาร์ควบคุมการยิงแบบซีรอส 200 (CEROS 200) กับระบบสนับสนุน ที่กลุ่มซาบ (Saab Group) แห่งสวีเดน ติดตั้งบนเรือหลวงนเรศวร “วันที่ 30 ส.ค.58 เรือหลวงนเรศวร ได้ทำการทดสอบยิงอาวุธ ESSM ที่ท่อ 4 (จากแท่น VLS ช่องด้านบนซ้ายมือสุด) ผลการยิง ESSM เป้าหมาย Drone ที่ปล่อยมาจากเยอรมันทาวน์ เป้าหมายถูกทำลายเรียบร้อยที่ระยะยิงประมาณ 9 ไมล์ทะเล (16.66 กม.)” สำนักข่าวเทคโนโลยีด้านการทัพเรือ และการทัพอากาศ รวมทั้งข่าวกลาโหมนับสิบแห่งรายงาน อ้างกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
ความคิดเพื่อความมั่นคง อิสระ เกิดขึ้นเอง จากที่นั่น ที่โน่น มากขึ้น มากขึ้นเรื่อย ในทุกระดับชั้นตั้งแค่คนหาเช้ากินค่ำ จนถึงผู้มีการศีกษาปริญญาตรี ปริญญาโท ทั้งผู้เคยบริหารธุรกิจของตัวเอง ลองผิดลองถูก ลองใหม่ก็เดินตามเส้นทางทุนไปบ้าง สำเรํจบ้างไม่สำเร็จบ้าง จากใครทำได้แค่ไหนแค่นั้น เป้าหมายต่างกัน กลายเป็น ร่วมกัน ดึงดูดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ จากที่โน่นที่นี่ เพื่อว่าจะได้แนวทางเหมือนกันเพื่อให้เป็นทางรอดกันส่วนมากด้วยกัน
ไม่ว่าจะมีอาวุทที่ผิวน้ำและอาวุธในอากาศดีแค่ไหน แต่อาวุธที่อันตรายที่สุดในท้องทะเลก็ยังเป็นเรือดำน้ำอยู่ดี และอาวุธชนิดเดียวที่จะใช้ปราบเรือดำน้ำได้ ก็มีแต่เรือดำน้ำเท่านั้นครับ
จีนซื้อ'โบอิ้ง'300ลำเฉียด$4หมื่นล. ย้ำความสำคัญจีนก่อน'สี'ถก'โอบามา' ระธานาธิบดีสี จิ้นผิง(ขวา) พูดคุยกับนายเรย์ คอนเนอร์(ซ้าย) ซีอีโอของโบอิ้ง ระหว่างการเดินทางเยือนโรงงานประกอบเครื่องบินของโบอิ้งในเมืองเอเวอร์เร็ตต์ มลรัฐวอชิงตันเมื่อวันพุธ(23ก.ย.) ขณที่การสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งรวดเดียว 300 ลำ มูลค่าเฉียด 40,000 ล้านดอลลาร์ของจีน ย้ำเตือนคณะบริหารของโอบามาว่า แดนมังกรมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อธุรกิจและเศรษฐกิจสหรัฐฯ อเมริกา แทบจะแหกดมตูดจีน
เอเจนซีส์ - “สี จิ้นผิง” รับประกันกับซีอีโอของไมโครซอฟท์, จีเอ็ม และบริษัทระดับหัวกะทิเมืองลุงแซมกว่าสิบแห่งว่า ธุรกิจอเมริกันจะมีอนาคตสดใสในเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของจีน ขณะที่ปักกิ่งกำลังมุ่งมั่นปฏิรูปเพื่อทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม พร้อมกันนี้จีนยังประกาศสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งรวดเดียว 300 ลำ มูลค่าเฉียด 40,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อย้ำเตือนคณะบริหารของโอบามาว่า แดนมังกรมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อธุรกิจและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันพุธ (23 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันที่สองของการเยือนอเมริกาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โดยที่เขายังคงอยู่ในเมืองซีแอตเติล ผู้นำจีนไปเยี่ยมชมโรงงานประกอบเครื่องบินขนาดใหญ่ของโบอิ้ง พร้อมกับมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ บริษัทของแดนมังกรสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ๆ จากโบอิ้งรวมแล้ว 300 ลำ เป็นมูลค่า 38,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติยอดขายใหม่ในวงการการผลิตเครื่องบิน ตอนช่วงเช้าวันดังกล่าว สียังเข้าประชุมโต๊ะกลมแบบปิดลับกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทจีนและอเมริกัน 30 คน เพื่อรับฟังและคลี่คลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนต่างชาติ ผู้นำจีนยืนยันกับประธานบริษัทชั้นนำ 15 แห่งของอเมริกัน อาทิ เฟซบุ๊ก, อเมซอน, แอปเปิล, ดิสนีย์, ไมโครซอฟท์ และเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ว่า พื้นฐานในระยะยาวของเศรษฐกิจจีนมีความมั่นคง พร้อมกับชี้ว่า ปีที่ผ่านมา จีนเป็นศูนย์กลางการลงทุนโดยตรงของต่างชาติใหญ่ที่สุด โดยรองรับเงินลงทุนถึง 128,500 ล้านดอลลาร์ และยืนยันว่า ประชากรที่เพิ่มขึ้นของจีนจะต้องการสินค้าและบริการต่างๆ มากขึ้น ไล่ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงการท่องเที่ยว สีให้สัญญาว่า จะเปิดตลาดรับผู้เล่นจากภายนอก รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปิดกว้างและอิงกับกฎหมาย
ผมเชื่อว่าดัชนีของความสุขนั้น...เป็นคนละเรื่องกับจำนวนเงิน เชื่อเหมือนที่รองนายกฯสมคิดท่านเชื่อ ความสำเร็จของประเทศไทย ไม่เกี่ยวกับตัวเลขจีดีพี. กิเลน ประลองเชิง เมื่อเรียนหนังสือ ก็อยากเรียนรร.เตรียมอุดมฯเพื่อศึกษาต่อจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ฯ ทั้งที่หาตัวเองยังไม่เจอ หรือไม่ก็ตะเกียกตะกายแข่งขันตามๆกระแสไป เสียเวลา เงินทองไปเยอะ ตื่นมาตอนเช้าก็ยังรู้สึกว่า นี่เป็นชีวิตที่เราต้องการจริงหรือ แปลว่า ยังค้นหาตัวตนเองไม่เจอ ลองอ่านที่คุณ กิเลน ประลองเชิงเขียนครับ ปกรณัม ทับเที่ยง จุดประเด็นคิดเรื่อง “มหาวิทยาลัยบนคันนา ชาวนาอัจฉริยะ 1 ไร่ 1 แสน” (สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ เม.ย.2558) ด้วยตัวละคร หนอนสองตัว แก้วกับนวลเจอกันที่ภูเขาหนอน ที่มีหนอนมากมายไต่ขึ้นไปบนตัวของกันและกัน ทั้งเหยียบทั้งทึ้งกันเพื่อจะแย่งกันขึ้นไปให้ถึงบนยอดสุด ซึ่งเมื่อไปถึงก็ต้องคอยยึดที่ยืนให้มั่น แก้วกับนวลคิดว่าบนยอดภูเขาคงจะต้องมีคำตอบของชีวิตที่กำลังค้นหา แก้วเลือกตามกระแสที่จะไปให้ถึงยอด นวลขึ้นไปยังไม่ถึงครึ่งทาง ความรู้สึกขัดแย้ง ตัดสินใจจากภูเขาหนอน ค้นหาที่ทางของตัวเอง เข้าดักแด้ และวันหนึ่งนวลก็เปลี่ยนไป กลายเป็นผีเสื้อสีเหลือง มีอิสระที่จะโบยบินไปยังที่ต่างๆ ฟ้า สุภรพร ขันธเวช หันหลัง 20 ปีกับชีวิตสาวโรงงานประตูน้ำ–พระอินทร์ ไปทำนาที่บ้านอำเภอศรีเมืองใหม่ อุบลราชธานี เจอพี่ชายสู้ต้นทุนปุ๋ยเคมีไม่ไหว หันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพ ปีนั้นเพลี้ยไฟระบาด แปลงใช้สารเคมีเสียหายมาก แต่ของพี่ชายเสียหายนิดหน่อย คนในหมู่บ้านเป็นเบาหวาน แพทย์แนะนำให้กินข้าวหอมนิล ฟ้าใช้วิชา 1 แสน 1 ไร่ ปลูกข้าวหอมนิล ไม่ใช้สารเคมีสีดำสนิท แสดงธาตุอาหารสมบูรณ์ ชาวบ้านเคยซื้อแถวโรงพยาบาล หันมาซื้อที่บ้านฟ้า หงวนจู-ปุณณรัสมิ์ ฮมภาราช ลาออกจากเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ทดลองมหาวิทยาลัย...หลังผ่านการเรียนรู้ องค์ความรู้เกษตรสรรพสิ่ง 1 ไร่ 1 แสน จากโครงการตามรอยพ่อ 9 กล้า 9 ไร่ 9 แสน เธอไปงานตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียง ที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี เข้าอบรมหลักสูตร 3 วัน 2 คืน แล้วก็ศรัทธา สมัครหลักสูตรลงมือทำจริง 5 เดือน เอาลูกปลาลงเลี้ยง เธอสร้างอาหารทางอ้อมจากสรรพสิ่งแห้ง สรรพสิ่งน้ำ สรรพสิ่งก้อน ใส่ในนาข้าวและคูน้ำ เกิดเป็นแพลงก์ตอน เป็นเทา เป็นสาหร่าย กลายเป็นห่วงโซ่อาหาร เธอไม่ได้อาหาร แต่ปลากลับโต สมควร สิมาจารย์ ทิ้งงานลูกจ้างบริษัท กลับมาทำนา เขามีที่นา 25 ไร่ เลือกทำ 3-4 ไร่ ใช้วิชา 1 ไร่ 1 แสน เลิกใช้ปุ๋ยเคมี เรียนรู้ว่าวัชพืชทุกชนิดมีประโยชน์ คันนาปลูกพืชผัก เลี้ยงเป็ดไก่ สมควรมีบทเรียน...น่าสนใจ อยากให้ปลาโต ติดไฟล่อแมลงมาให้ปลากิน เลยกลายเป็นล่อผีเสื้อกลางคืนมาวางไข่ที่ต้นข้าว กลายเป็นหนอนกอทำลายแปลงข้าว เกือบแก้ไม่ทัน อีกบทเรียน...สร้างแพลงก์ตอน ให้มันเกิดมาก แต่มันมากเกินไป แพลงก์ตอนเริ่มไปอุดตันระบบหายใจของปลา ปลาลอยหัวขึ้นมาหายใจ อาจารย์เสถียร ทองสวัสดิ์ บอกให้รีบไปเอาปลานิลมาปล่อย ให้ลงไปกินลดแพลงก์ตอน สมควรบอกว่า ชีวิตในแปลงนา 1 แสน 1 ไร่ กับสมัยเป็นมนุษย์เงินเดือน เหมือนคนละขั้ว...ทำงานบริษัทตื่นก็ต้องรีบฝ่าจราจรไปทำงานให้ทัน เย็นก็ซื้อข้าวถุงกินในห้อง ดูโทรทัศน์แล้วก็นอน เช้าก็เริ่มต้นใหม่ วงจรชีวิตมีอยู่แค่นั้น เหมือนติดอยู่ในกับดัก มาทำนาเหมือนคนละโลก พืชผักเราปลูกด้วยมือตัวเอง ปุ๋ยที่เราใส่ เรารู้ว่าใส่อะไรลงไป พืชบางอย่างเราไม่รู้สรรพคุณทางยา แต่พอเรากิน ก็กินด้วยความภูมิใจ ย้อนกลับไปนึกถึงหนอนสองตัว วันก่อนสมควรใช้ชีวิตเป็นแก้ว ปีนขึ้นจากกองหนอนด้วยกัน ตั้งใจจะไปให้ถึงยอดภูเขาหนอน แต่วันนี้สมควรกลับมาเป็น “นวล” ค้นพบชีวิตใหม่ ชีวิตที่อิสระเสรี เหมือนผีเสื้อสีเหลือง โบยบินไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ ชีวิตที่มีความสุขลงตัวอย่างนี้ เห็นจะไม่ต้องมีคำถาม พวกเขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยบนคันนา...เป็นชาวนาอัจฉริยะ หาเงินได้ 1 ไร่ 1 แสน หรือเปล่า ร่ำรวยแล้วหรือยัง ผมเชื่อว่าดัชนีของความสุขนั้น...เป็นคนละเรื่องกับจำนวนเงิน เชื่อเหมือนที่รองนายกฯสมคิดท่านเชื่อ ความสำเร็จของประเทศไทย ไม่เกี่ยวกับตัวเลขจีดีพี. กิเลน ประลองเชิง เรื่องทำนองนี้เคยเห็นว่ามีบ่นๆกันในเฟสฯ
วันนี้ สุเทพ ไปแบบพอเพียงไม่ใช่นักการเมือง 'สุเทพ'นำกปปส.บุก'เกาะพะลวย'ลุยพัฒนาชุมชนแบบศก.พอเพียง Cr:แนวหน้า นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ท่านเจ้าคุณอาจารย์โพธิ์ กล่าวว่า คนกว่า 200 ครอบครัว บนเกาะพะลวย มีความสามัคคีกลมเกลียวกันร่วมมือกัน ดำเนินกิจการของส่าวนรวมในรูปแบบของสหกรณ์ เป็นสหกรณ์ของคนทั้งเกาะ เป็นชุมนมสหกรณ์ โอกาสที่จะสร่งความสำเร็จในการพัฒนาที่ยั่งยืนสามารถที่จะทำได้ จากนั้นตนจึงได้ปรึกษากับบรรดาชาวเกาพะลวยว่า หากจะพัฒนาให้เกาะพะลวยเป็นแบบเกาะสมุย หรือตัวจังหวัด คงเป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถพัฒนาให้ทุกคนที่อยู่ที่เกาะมีชีวิตที่มีความสุขแบบยั่งยืนได้ มีการนำเอาปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ก็สามารถอยู่ได้ หลังจากที่ นายสุเทพ กล่าวกับบรรดาชาวบ้านชาวเกาะพะลวยแล้ว ก็ได้มีการแบ่งกลุ่มหารือ จำนวน 4 กลุ่ม อาทิ 1.กลุ่มอาชีพเกษตรประมง 2.กลุ่มพัฒนาอาชีพเพื่อรองรับการท่องเที่ยว 3.กลุ่มพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ และ 4.กลุ่มพลังงาน โดยแต่ละกลุ่มจะมีตัวแทนของ กปปส.และตัวแทนจากเจ้าหน้าที่รัฐ หารือถึงข้อสรุปว่าจะเริ่มดำเนินการในเรื่องสิ่งใดที่สามารถดำเนินการได้ก่อน สำหรับเกาะพะลวย ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นี้ เป็นเกาะที่เป็นต้นแบบเกาะพลังงานสะอาดแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพของพืชพันธุ์ และสัตว์ป่าอย่างสมบูรณ์ เป็นเกาะที่สามารถพัฒนาและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งหากมีการพัฒนาที่ดีจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยว ที่มาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองได้อีกแห่งหนึ่งหากมีความพร้อม และยังจะเป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนชาวเกาะพะลวยได้ด้วย
ทุนนิยมพอเพียง อ่อไม่ใช่ทฤษฎิเศรษฐศาสตร์ใดๆครับ เด๋วจะว่าผมพูดมั่วๆ แค่จะบอกว่า อุตสาหกรรมของทุนนิยมส่วนหนึ่ง หันมาให้ความสนใจบริหารธุรกิจตรมแนวทางเศรษกิฐพอเพียง เมื่อเศรษฐกิจพอเพียงนำเสนอออกมา คนจำพวกนึง พวกนั้นเกิดความตื่นกลัว คัดค้าน หรือบิดเบือน อ้างว่าเป็นพวกกินผักข้างรั้ว ทำประเทศล้าหลัง อุตสาหกรรมพอเพียง อาจารย์ยักษ์ได้รับคำถามเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกับภาคอุตสาหกรรมหลายครั้ง คำถามส่วนใหญ่สะท้อนความคิด ความเชื่อ เจตนาที่ดีของผู้ถามที่พยายามจะนำกรอบคิดของตะวันตกมาทำความเข้าใจและอธิบายปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งกล่าวได้ว่าอาจถูกต้องเพียงครึ่งเดียว และเมื่อผู้ถามได้รู้สึกหรือคิดเอาเองว่าเศรษฐกิจพอเพียงก็เหมือนกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทฤษฎีนั้น ทฤษฎีนี้ ที่ตนเองรู้จัก ก็รู้สึกสบายใจ โล่งใจ อ๋อ...เข้าใจแล้ว ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น เช่นนี้นี่เอง เหตุการณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นความคิด ความเชื่อว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” ยังถูกจำกัดอยู่ในกรอบคิดของทุนนิยมเสรี ผู้มีปัญญาแม้จะเห็นทางหรือสนใจในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่อาจนำตนเองให้หลุดพ้นจากกรอบคิด หลักการที่ถูกบ่มเพาะมาได้ แต่อาจารย์ยักษ์ว่าอย่างน้อยก็ยังเป็นแนวโน้มที่ดีกว่าเมื่อก่อน ที่ล้วนมองว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของเกษตรกรกับการดำเนินชีวิต เป็นเรื่องของการหาอาหารใส่ปาก ใส่ท้อง เพื่อให้พออยู่ พอกิน พอใช้ เพื่อผลักดันให้เป็นเรื่องไกลตัวไม่สามารถปฏิบัติได้ในภาคอุตสาหกรรม หรือไม่เช่นนั้นก็ทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ พื้นๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างข้อจำกัดให้กับตนเองทั้งสิ้น หากมองย้อนกลับไปในอดีตจะเห็นถึง พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในการพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อปี พ.ศ.2540 ซึ่งครั้งนั้นประเทศชาติต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่รุนแรง ผลกระทบจากเศรษฐกิจตาโตก่อความเดือดร้อนแสนสาหัสให้แก่พสกนิกรของพระองค์ นั่นก็มาจากเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมล่มสลาย แต่แล้วเมื่อพระองค์ทรงพระราชทานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง กลับถูกจำกัดการตีความและนำไปใช้กับภาคเกษตร กับชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ เท่านั้น บอกว่าไม่เหมาะสมกับภาคอุตสาหกรรม เพราะหาตัวชี้วัดไม่ได้ ไม่เป็นทฤษฎีเพราะไม่มีหลักการทางวิชาการตะวันตกรองรับ ทั้งเชื่ออย่างปักใจ หรือบางท่านก็แสร้งทำเป็นหลงลืมว่า...ก็เพราะหลักการทางวิชาการตามปรัชญาตะวันตก ที่กำหนดกฎเกณฑ์ถูกต้องเหมาะสมตามที่ร่ำเรียนมานั้นมิใช่หรือที่ส่งผลเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่เผชิญอยู่ ด้วยเหตุที่ต้องการชี้ให้เห็นในจุดนี้ ผนวกกับได้มีโอกาสพบ คุณวริสร รักษ์พันธุ์ เจ้าของชุมพรคาบาน่า เมื่อหลายปีก่อน อาจารย์ยักษ์จึงได้ชี้แนะแนวทาง และให้หลักคิดบางประการแก่คุณวริสร เพื่อการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงกับอุตสาหกรรมบริการ จนวันนี้ชุมพรคาบาน่า กลายเป็นต้นแบบอุตสาหกรรมพอเพียงด้านการบริการ นอกจากนั้นในเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงเอง ยังมีอุตสาหกรรมการผลิต คือ อุตสาหกรรมน้ำตาลเคเอสแอล ซึ่งเพียรพยายามที่จะสร้างกระบวนการผลิตอ้อยอินทรีย์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำตาล ผลิตพลังงานและปุ๋ยอินทรีย์อย่างเป็นระบบ โดยไม่มีของเสียทิ้งลงสู่ธรรมชาติเลย อีกทั้งยังมีอุตสาหกรรมผลิตกระดาษรีไซเคิล ริเวอร์โปรกรุ๊ป ผลิตภัณฑ์จากกระดาษรีไซเคิลเพื่อทำกระดาษทิชชูรีไซเคิลไม่ฟอกสี โรงงานอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นตัวอย่างของภาคอุตสาหกรรมที่น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงสู่ภาคปฏิบัติซึ่งมีทั้งที่เพิ่งเริ่มต้น กำลังค้นหาแนวทางที่เหมาะสม และที่ทดลองนำร่องจนเข้าใจตนเอง เกิดการระเบิดจากข้างใน จนสามารถชี้นำทางคนอื่นได้แล้วอย่าง ชุมพรคาบาน่า หรือ ริเวอร์แคว กรุ๊ป เศรษฐกิจพอเพียงกับอุตสาหกรรมจึงมิใช่เรื่องทำยาก ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ หากแต่เป็นเรื่องใหม่ เป็นเรื่องต้องศึกษาตีความจากหลักปรัชญาเดียวกันกับภาคเกษตร คือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่เมื่อเป็นปัญญาชนก็ต้องรู้จักจำแนก ต้องถอดอคติ โมหคติ ออกวาง เปิดใจให้กว้าง ทำความเข้าใจว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เรื่องของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เรื่องของการใช้วัตถุดิบในชุมชน การรับผิดชอบต่อสังคม การทำงานด้วยหลักสิทธิมนุษยชน การลดการปลดปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือทุกเรื่องรวมกันเท่านั้น ที่สำคัญไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะใช้ตัวชี้วัดที่กำหนดจากฐานคิด ปรัชญา และความเชื่อทางตะวันตกเพียงอย่างเดียวแล้วนำมาชี้วัดผลสำเร็จได้ เพราะหากทำเช่นนั้น ก็จะเป็นการทำตัวเหมือน “ตาบอดคลำช้าง” แล้วนำไปขยายผลว่าช้างนั้นมีหน้าตาเช่นนั้น เช่นนี้ ทั้งที่จริงหาได้เห็นช้างทั้งตัวก็หาไม่ อาจารย์ยักษ์จึงอยากชวนให้มาดูการทำงานของภาคอุตสาหกรรมบริการและภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความสลับซับซ้อนลึกซึ้งในตอนต่อไป "อาจารย์ยักษ์ มหา’ ลัยคอกหมู" http://www.komchadluek.net/detail/20101016/76324/อุตสาหกรรมพอเพียง.html
ทั้งที่ความจริง เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้คัดค้าน ต่อต้าน เศรษฐกิจระบบใด ทั้งอุตสาหกรรมและเทคโนฯ สร้างทุนนิยมให้พอเพียงได้อย่างไร มีหลายท่านถามว่า การใช้นโยบายเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาและบริหารประเทศจะทำให้ประเทศไทยต้องอยู่โดดเดี่ยวจากประชาคมโลก ที่ใช้ระบบการค้าเสรีตามวิถีของทุนนิยมหรือไม่ ก่อนอื่นต้องขอเรียนว่า การนำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ไม่ได้หมายความว่า เราต้องยกเลิก นโยบายการค้าเสรี หรือระบบเศรษฐกิจในแบบทุนนิยมแต่ประการใด เศรษฐกิจพอเพียง มิได้ปฏิเสธการค้า มิได้ปฏิเสธทุนในฐานะที่เป็นปัจจัยหลักในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน เราสามารถดำเนินนโยบาย เศรษฐกิจพอเพียงท่ามกลางกระแสของทุนนิยมได้อย่างไม่แปลกแยก โดยไม่จำเป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่งระหว่างสองแนวทางนี้ การศึกษาถึงพัฒนาการกว่าจะมาเป็นระบบเศรษฐกิจในแบบทุนนิยมที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จะทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้นว่า กระแสทุนนิยมมิได้เกิดขึ้น มาอย่างบังเอิญโดยมิได้ตั้งใจ แต่เป็นการพัฒนาผ่านช่วงเวลาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ยุคเกษตรกรรม ยุคอุตสาหกรรม จนกระทั่งมาถึงในยุค สารสนเทศ อีกทั้งยังได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพ อย่างน้อยก็ในฐานะที่เป็นเศรษฐกิจกระแสหลักของสังคมโลก ในขณะที่เศรษฐกิจในระบบ อื่นๆ ได้ถูกกลืนหายไปกับกาลเวลา ทรัพยากรในทางเศรษฐกิจนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นสามหมวดหลัก ได้แก่ ทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) ในฐานะที่เป็นแรงงานใน ระบบเศรษฐกิจ ทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Resource) ซึ่งประกอบด้วย ทุน เทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ และทรัพยากร ธรรมชาติ (Natural Resource) อันได้แก่ พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ เช่น ที่ดิน เป็นต้น เศรษฐกิจในยุคเกษตรกรรม ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเช่น ที่ดิน แหล่งน้ำ ไม่ด้อยไปกว่าทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากร ที่มนุษย์สร้างขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจในยุคอุตสาหกรรม ที่ดินจะมีความสำคัญลดน้อยลง เพราะทำหน้าที่เป็นเพียงที่ตั้งโรงงานหรือสถานที่ให้บริการ ทรัพยากรที่สำคัญจึงมีเพียงทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น เครื่องจักร เทคโนโลยี และการจัดการ จนทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเช่น ที่ดิน และพลังงาน นั้น สามารถผนวกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทุน หรือสามารถใช้เงินซื้อทรัพยากรเหล่านี้มาใช้ได้ และ หากอธิบายในลักษณะเดียวกันนี้กับทรัพยากรมนุษย์ ก็จะพบว่า แรงงานซึ่งเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่มีความสำคัญในทางเศรษฐกิจ ก็สามารถซื้อได้ ด้วยเงินเช่นกัน ทำให้ทรัพยากรที่สำคัญในทางเศรษฐกิจจริงๆ มีเพียงปัจจัยเดียวคือ ทุน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ระบบเศรษฐกิจที่ผ่านมาได้พัฒนา จนมีทุนเป็นปัจจัยเด่นและสำคัญเพียงปัจจัยเดียว ซึ่งสิ่งนี้คือ รากฐานความคิดที่สำคัญของระบบทุนนิยม (Capitalism) ปัญหาของการไม่ให้ความสำคัญกับทรัพยากรอื่นๆ อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน ก่อให้เกิดผลเสียมาก มาย กล่าวคือ เมื่อต้องการผลิตก็สามารถซื้อหาทรัพยากรเหล่านี้มาใช้ในกระบวนการผลิตได้ทุกเวลา โดยมิได้คำนึงว่าทรัพยากรธรรมชาติและ พลังงานเหล่านี้มีอยู่อย่างจำกัด ก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรและพลังงานเกินขีดความสามารถที่จะนำทรัพยากรเหล่านั้นมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ พร้อมๆ กันกับสร้างมลภาวะและความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศ ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาของโลกปัจจุบัน ปัญหาในเรื่องทรัพยากรมนุษย์อีกประการหนึ่ง คือ การละเลยความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ที่ประกอบด้วยแรงงานและแรงสมองในองค์รวม ทำให้ทุนนิยมในระบบเศรษฐกิจยุคสารสนเทศซึ่งพัฒนากลายมาเป็นเศรษฐกิจกระแสหลักนั้น ได้พยายามแปลงแรงสมองให้ออกมาเป็นทรัพย์สิน ทางปัญญาและเทคโนโลยีในรูปของลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรที่สามารถจับต้องและถ่ายโอนได้ โดยนับรวมเข้าเป็นทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้นและ สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน ทำให้ยิ่งไปเน้นความสำคัญของทุนให้กลายเป็นปัจจัยหลักมากขึ้นไปอีก ผลของการละเลยความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ในองค์รวม ทำให้สามารถทดแทนทรัพยากรแรงงานด้วยเครื่องจักร และทดแทนทรัพยากร แรงสมองด้วยเอกสารสิทธิ์ทางปัญญา ที่ซื้อหาได้ด้วยเงิน ผนวกกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานอย่างไม่จำกัดเสมือนกับเป็นทรัพยากรที่ มนุษย์สร้างขึ้นได้เองและซื้อหาได้เมื่อต้องการ จึงเป็นบ่อเกิดของเศรษฐกิจที่เน้นวัตถุเป็นหลัก หรือเศรษฐกิจที่อยู่บนพื้นฐานวัตถุนิยม (Materialism) และกลายเป็นว่า ในสังคมปัจจุบันนี้ เงินมีความสำคัญกว่าทรัพยากรอื่นใดทั้งปวง การให้ความสำคัญกับทุนในเศรษฐกิจกระแสหลัก ยังก่อให้เกิดผลต่อเนื่องอีกสองประการ ประการแรก คือความสามารถในการซื้อหา ทรัพยากรจากภายนอก โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นก่อน หากพบว่าต้นทุนของทรัพยากรภายนอกนั้นต่ำกว่า จึงเป็นที่มาของการย้ายฐานการผลิตจากสถานที่หรือประเทศที่มีต้นทุนทรัพยากรสูงไปสู่สถานที่หรือประเทศที่มีต้นทุนทรัพยากรต่ำ หรือ การนำเข้าของแรงงานราคาถูกจากประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ และประการที่สอง คือเป้าหมายในการผลิตจะต้องสร้างผลผลิตสูงสุดเพื่อจำหน่าย ให้ได้กำไรสูงสุดแทนที่จะเป็นการผลิตเพื่อการบริโภคเอง ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการสะสมทุนที่จะใช้เป็นทรัพยากรการผลิตในครั้งต่อไป จึงเป็นที่มา ของแนวคิดการแสวงหากำไรสูงสุด (Maximize Profit) ขององค์กรธุรกิจในโลกปัจจุบัน ขณะที่แนวคิดในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ให้หลักไว้ว่า การกระทำของมนุษย์ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆ จะต้องเป็นไปในทางที่ไม่ เบียดเบียนตน คือ ไม่ทำให้เสียสุขภาวะของตัวเอง และไม่เบียดเบียนผู้อื่น ตลอดจนไม่ทำให้เสียคุณภาพของระบบนิเวศหรือธรรมชาติแวดล้อม เศรษฐกิจพอเพียงจึงเน้นให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรธรรมชาติไม่ด้อยไปกว่าทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งรวม ถึงทุนที่เป็นปัจจัยหลักในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง จึงมิได้ปฏิเสธความสำคัญของทุน แต่เป็นการเสนอให้พิจารณาความสำคัญของทรัพยากร ต่างๆ อย่างมีเหตุมีผล อย่างมีความสมดุล และประการสำคัญ คือ ต้องมีความระมัดระวังที่จะไม่ดำเนินกิจกรรมไปในทางที่ก่อให้เกิดการ เบียดเบียนผู้อื่น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตนเองในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมหรือในระบบเศรษฐกิจก็จะได้รับผลกระทบเสียหายตามไป ด้วย ตัวอย่างหนึ่งของการพิจารณาให้ความสำคัญกับทุนเป็นเรื่องรอง ได้แก่ การดำเนินกิจกรรมในทางเศรษฐกิจที่เริ่มต้นด้วยการแสวงหาทรัพยากร จากภายในซึ่งสามารถหาได้จากในกลุ่มหรือภายในท้องถิ่นก่อนที่จะพิจารณาใช้ทรัพยากรจากภายนอกซึ่งไม่สามารถหาได้จากในกลุ่มหรือภายใน ท้องถิ่น ซึ่งเป็นไปตามหลักของการพึ่งตนเอง รวมถึงไม่สร้างภาระจากการ พึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอกมากเกินไปจนขาดภูมิคุ้มกันที่อาจก่อให้ เกิดการเบียดเบียนตนเองและนำไปสู่ความทุกข์ยากในภายหลัง ที่มา : http://se-faq.blogspot.com/2006/10/blog-post_24.html
กระะทู้นี้ตั้งมายาวพอสควร ผมไม่มีความสามารถจะบรรยายได้ครบถ้วนกระบวนความ มีสิ่งหนึ่งคือความซาบซึ้งจงรักภักดี ศรัทธาในพระมหากรุณาธิคุณ แด่ในหลวง อันทรงคุณวิเศษหนึ่งเดียวไม่มีประมุขผู้ใดเสมอเหมือน กระทู้นี้จึงเปิดและปิดลง ด้วยความรู้สึกนี้
