เศรษฐกิจไม่ดี แต่คณะบริหารลงทุนฟุ่มเฟือยจริงๆ ผมเห็นไฟในข่าวแล้วไม่เห็นจะเหมาะกับ กทม และเมืองไทยตรงไหนเลย ลานผู้ว่า เป็นสถานที่เก่าแก่ น่าจดใจ มีเสน่ห์ แต่ดูดวงไฟพวกนี้สิ ...
ไอ้เรื่องทุจริตหรือเปล่ายังไม่ทราบครับ... แต่การที่ผู้ว่าฯทำมึนๆไม่ชี้แจง ไม่สนใจ มีแต่จะแย่ลงๆ ไหนจะพวกเสื้อแดง คนกลาง ร่าน คอยจะสร้างดราม่า ไหนจะพรรคเดียวกันคอยแทงอีก
เค้ายังไม่พูดเลยมามโนทำไมเหรอ ไม่มีเหมือนอดีตผู้นำบางคน แม้ว่าด่าพวกเจ้าว่าเป็นควาย แต่ยังไม่รู้ตัวอีก มีที่ไหน คนปกติที่ไหนจะเลือกเสาไฟฟ้า ให้เป็นผู้ว่าได้
สามสิบกว่าล้าน ตัดสินว่าโกงกิน ต้องไล่ออกจับติดคุก ชาติฉิบหายไปหกแสนล้าน เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ ตรรกะควายๆไอ้ฉิบหาย
เศรษฐกิจไม่ดี มาจากสาเหตุอะไร ที่ว่าไม่เหมาะไปดูแล้วยัง หรือว่า ฟังเขาเล่ามา???? สาวใต้ เลือดรักชาติ อุโมงค์ไฟ39ล้าน กทม. ดูเอาเอง Ekachai Uraisin ผมไปช่วงเปิดงานทางเข้าออกแยกเป็นหน้ากับหลัง เพิ่งรู้ว่าพอคนมามากๆเค้าเลยเปิดให้เข้าสองทาง
อันนี้มาจากการวิจารณ์ติและชมใน กระทู้พันทิพ http://pantip.com/topic/34623957 และอีกกระทู้ http://pantip.com/topic/34622133
ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งคิดได้แบบนี้ สักครึ่งประเทศ แม้จะเป็นคนที่รัก พรรคที่ชอบ เรากาบัตรเลือกตั้งเองมากับมือ ผิดก็ติเตียน ถูกก็ชม ไม่เอนเอียงอคติ บ้านเมืองคงไม่วุ่นวายขนาดนี้ครับ
มันยังไม่เข้าใจว่าเขาไล่รัฐบาลมาจากเลือกตั้งทำไม ท่านพี่น้องทั้งหลาย พยาควายขนานแท้ ต้องชมตัวเองว่าหน้าตาดี
งานนี้หม่อมพลาดแล้วล่ะ เรื่องสวยนะสวยอยู่แต่ดูยังไงไม่น่าถึง 39 ล้าน ประจวบเหมาะกับเรื่องคนตกท่อดันบอกว่าไม่มีระเบียบจ่ายเงินช่วยเหลือ แต่ดันมีเงินรางวัลคนถ่ายภาพประกวด หาเรื่องให้คนด่าข้ามปี
ผมมั่นใจว่าหม่อมไม่ได้โกง แต่หม่อมเลือกคนมาช่วยงานผิด โดยหม่อมเป็นพวกหูเบาไว้ใจคนง่าย และไม่ฉลาด อารมณ์ร้อน ไม่ละเอียด แต่อาศัยลูกขยันเข้าสู้ สมัยเสื้อแดงปี 53 ตอนนั้นหม่อมยังให้สัมภาษณ์เข้าข้างเสื้อแดง จนคนที่ทำงานด้วยออกมาบ่น และจากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนคนมาช่วยงานหลายคน นับจากนั้น ผลงานเลยเละอย่างที่เห็น
เงินรางวัลเป็นเงินส่วนตัวครับ สุขุมพันธุ์ ใจป้ำควักเงิน 2 แสน แจกรางวัลภาพถ่ายไฟลานคนเมือง ! http://hilight.kapook.com/view/131033 ส่วนเรื่องคนตกท่อ ถ้าฟ้อง กทม. น่าจะมีโอกาสได้ค่าเสียหายมากกว่าเงินช่วยเหลือครับ เลยไม่แน่ใจว่าถ้าได้รับเงินเยียวยาไปแล้วจะมีผลต่อการฟ้องหรือเปล่าครับ คดีที่เคยเกิดขึ้นครับ นางพัชรินทร์ พิณกุล ทนายความโจทก์ กล่าวว่า เดิมทีคดีนี้ผู้ปกครอง น.ส.วดี ขอให้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 27 ล้านบาท ซึ่งการยื่นฟ้องคดีแพ่งจะต้องวางค่าธรรมเนียมศาล แต่เมื่อผู้ปกครอง น.ส.วดี ไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมและได้ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตฟ้องคดีโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมแล้ว ก็จำเป็นต้องลดจำนวนเงินฟ้องลงมาเหลือตามความเหมาะสม และหลักฐานการ พิสูจน์ในชั้นศาล ฝ่ายโจทก์จึงลดจำนวนเงินค่าเสียหายเหลือเพียง 5 ล้านบาท http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1241681345
ถ้าควักเงินส่วนตัวไม่มีผลครับ เพราะถ้าฟ้องมันฟ้องหน่วยงาน ส่วนคดีที่ยกมานั้นคนละเรื่อง การฟ้องคดีแพ่งต้องมีการวางเงินให้ศาลตามสัดส่วนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง เมื่อไม่มีเงินวางก็ต้องดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจึงต้องลดทุนทรัพย์ที่ฟ้องลง
ไม่เห็นต้องดราม่ามากมาย ก็ปล่อยให้ฝ่ายตรวจสอบเขาทำงานไป ถ้าผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ รับรองไว้ก่อนได้เลยว่าจะเคารพวินิจฉัยของศาล