ศาลซาอุฯ ตัดสิน “ประหารชีวิต” พลเมืองฐานเลิกนับถืออิสลาม * 24 กุมภาพันธ์ 2558 18:06 น. (แก้ไขล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2558 22:17 น.) รอยเตอร์ - ศาลอิสลามในซาอุดีอาระเบียตัดสินประหารชีวิตชายคนหนึ่งฐานละทิ้งความเชื่อในศาสนาอิสลามของตน หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษ ซาอุดี กาเซตต์ รายงานวันนี้ (24 ก.พ.) ชายคนดังกล่าวซึ่งอยู่ในช่วงวัย 20 ปีได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะฉีกทำลายคัมภีร์อัลกุรอาน คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม และตีหนังสือเล่มดังกล่าวด้วยรองเท้าข้างหนึ่ง หนังสือพิมพ์เจ้านี้รายงาน ซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรแถบอาหรับรายสำคัญของสหรัฐฯ และเป็นถิ่นกำเนิดของศาสนาอิสลาม เจริญรอยตามแนวทางของศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่สายวะฮะบีอันเคร่งครัดและให้เหล่านักวิชาการศาสนาเป็นผู้ควบคุมระบบยุติธรรม ภายใต้การตีความกฎหมายชารีอะห์แบบวะฮะบี ผู้เลิกศรัทธาจะมีโทษประหารชีวิต เช่นเดียวกับการกระทำความผิดทางศาสนาอย่างอื่นอย่างการใช้เวทมนตร์คาถา ขณะที่การดูหมิ่นและวิพากษ์วิจารณ์นักวิชาการศาสนาอิสลามอาวุโสมีโทษจำคุกและลงโทษทางร่างกาย การประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบียมักเป็นการตัดคอในที่สาธารณะ บรรดากลุ่มสิทธินานาชาติระบุว่า ระบบยุติธรรมของซาอุดีอาระเบียขาดความโปร่งใสและกระบวนการที่เหมาะสม โดยจำเลยมักไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานต่างๆ อย่างเช่นตัวแทนทางกฎหมาย และการตัดสินคดีอาจเป็นไปโดยมีกฎเกณฑ์ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ใช้มาตรการต่างๆเพื่อปฏิรูประบบกฎหมายของตน แต่ในขณะเดียวกันก็ปกป้องมันด้วย เมื่อปีที่แล้ว ศาลในเมืองเจดดาห์ตัดสินให้ ราอิฟ บาดาวี นักเสรีนิยมชาวซาอุรับโทษโบย 1,000 ทีและจำคุก 10 ปีฐานเผยแพร่คำวิพากษ์วิจารณ์ชนชั้นปกครองทางศาสนาและการเมืองของราชอาณาจักรแห่งนี้ และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปในศาสนาอิสลาม การโบย 50 ทีแรกมีขึ้นในเดือนมกราคม แต่การโบยที่เหลือไม่ได้เกิดขึ้น บรรดาเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อคดีนี้อย่างเปิดเผย แต่คนวงในระบุว่าการโบยที่เหลือดูเหมือนว่าจะถูกยกเลิกไปแล้วอย่างเงียบๆ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000022601 หรืออเมริกาคิดว่า แบบนี้ก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว
แม้เปลือกนอกจะเป็นระบอบกษัตริย์/ศาสนา แต่ถ้าพิจารณาลึก ๆ แล้วการปกครองของซาอุมีแก่นเป็นประชาดริฟปะไตครัฟ โอบาม่าไม่ได้บอก
ไอ้หิวแม่งไร้ว้อก ที่มีอักษร ผาสุก อะไรนั่น อาจไม่ค่อยว่างเพราะญาติป่วยใกล้ตายเลยไม่มีเวลาไปเรียกร้องแถวซาอุ แต่ถ้าเป็นเมืองไทยรับรองมันว่างไปเสือกได้ตลอดศก ยาด-เยิด ไม่สนใจปล่อยให้ตายห่านได้เลย
ในตะวันออกกลาง อิหร่าน เป็น ชาติที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดแล้ว แต่ อเมริกัน บอก เป็น แกนกลางของความชั่วร้าย
เมื่อไหร่ที่ซาอุฯขับไล่บริษัทต่างชาติ(โดยเฉพาะบ.เมกา) ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกะน้ำมัน เมื่อนั้นทุกอย่างที่เลวร้ายจะลงบนหัวซาอุฯ ไม่เป็นประชาธิปไตย สนับสนุนพวกก่อการร้าย เหยียบย่ำสิทธิสัตรี ละเมิดสิทธิมนุษย์ชน ฯลฯ และซาอุฯจะต้องโดนตอบโต้อย่างรุนแรง
ประชุมสิทธิ์สตรี http://www.huffingtonpost.co.uk/2013/06/28/saudi-arabian-womens-conference-picture_n_3515062.html
ระหว่างเผยแพร่ระบอบประชาธิปไตยกับเงิน เมกาขอเลือกเอาเงินก่อนนะครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อมูลจากบริษัทข้อมูลด้านความมั่นคงและกลาโหม "ไอเอชเอส" ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียแซงหน้าอินเดียขึ้นเป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่สุดของโลกในปี 2557 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายอาวุธทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน จาก 56,800 ล้านดอลลาร์ เป็น 64,400 ล้านดอลลาร์ ในส่วนของการส่งออก สหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่สุดของโลก ส่งออกอาวุธคิดเป็นหนึ่งในสามของทั้งหมดเมื่อปีก่อน และยังคงได้รับประโยชน์จากความต้องการที่แข็งแกร่งในตะวันออกกลาง http://www.now26.tv/view/37840/ซาอุฯนำเข้าอาวุธมากสุดในโลก.html
เป็นข้อตกลงลับ หรือเปล่าครับ จะจ่ายเป็นค่า...ก็น่าเกลียด ตกลงอุดหนุน อาวุธดีกว่า แต่มีอีกคำถามหนึ่ง แล้วจะเอาไปรบกับใครครับ ซื้อเยอะขนาดนั้น หรือเอาไปยิงผู้หญิงในประเทศ