เมื่ออเมริกาเสื่อม สงครามโลกก็เป็นศูนย์

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย por, 29 ต.ค. 2015

  1. por

    por อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,397

    ภาพนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างการเยือนอังกฤษ โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ประทับรถม้าพระที่นั่ง พร้อมกับ นายสี จิ้นผิง เข้าพระราชวังบักกิงแฮมเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ทำให้เห็นว่าดุลอำนาจของโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว

    สิ่งที่เหนือคำบรรยายถึงมิตรภาพ 2 ประเทศ คือ ภาพที่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นั่งทานเบียร์2 ต่อ 2 อย่างสบายใจเป็นการส่วนตัวในผับ Princess Risborough หลังจากผู้นำทั้งสองลงนามในข้อตกลงเศรษฐกิจการค้ามูลค่ามหาศาล

    การเยือนราชอาณาจักรอังกฤษอย่างเป็นทางการของนายสี จิ้น ผิง นอกเหนือจากการต้อนรับอันเอิกเกริก เขายังประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงหลายฉบับ รวมเป็นมูลค่าถึง 64,000 ล้านดอลลาร์ ข้อตกลงครั้งนี้ รวมถึงการลงทุนครั้งใหญ่หนแรกในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ชาติตะวันตกของจีน โดยเจเนอรัล นิวเคลียร์ คอร์เปอเรชันรัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภคของจีน จะเข้าถือหุ้น1 ใน 3 หรือราว 18,000 ล้านดอลลาร์ ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฮิงค์ลีย์ พอยต์ ในซัมเมอร์เซ็ต มูลค่า 37,800ล้านดอลลาร์ ที่เป็นของ อีดีเอฟ จากฝรั่งเศส

    ภาพซดเบียร์อย่างสบายอารมณ์ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ หลังจากลงนามร่วมพัฒนาโรงงานไฟฟ้า ซึ่งมีอีดีเอฟ ของฝรั่งเศส เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ย่อมเป็นสัญญาณบอกว่า อังกฤษกับฝรั่งเศสที่เคยเป็นลูกกระเดือกและคอหอยของสหรัฐอเมริกา ในการค้าสงครามทั่วโลก กำลังปลีกตัวออกห่าง จากอเมริกาซึ่งเป็นผลให้ความกังวลว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ลดลงไปมาก

    นักวิชาการทางด้านความมั่นคง ผู้สื่อข่าวสงครามตลอดถึงนักธุรกิจ นักลงทุนต่างเกิดความกังวลว่า เหตุการณ์ที่รัสเซีย ส่งกำลังทางอากาศเข้าไปปฏิบัติการทิ้งระเบิด เพื่อยับยั้งการขยายตัวของกลุ่มก่อการร้าย รวมทั้งกลุ่มเพื่อรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในประเทศซีเรีย จะทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังพันธมิตรโดยการนำของสหรัฐ กับฝ่ายรัสเซียที่มีอิหร่าน จีนสนับสนุน จะบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3

    แต่ความกังวลของชาวโลกเริ่มคลี่คลายลงเมื่อ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ ที่เคยเป็นพันธมิตรเพื่อต่อสู้ทำลายล้างไอเอส อย่างแข็งขัน เริ่มปลีกตัวออกห่างอเมริกา เมื่อพบความจริงว่า ไอเอส คือผู้ก่อการร้ายจัดตั้งของซีไอเอ

    นายจัสติน ทรูโด ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ผู้ซึ่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งทั่วไปของแคนาดา ประกาศเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2558 ว่า เตรียมถอนเครื่องบินรบ CF-18 ซึ่งกำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธ ไอเอส ในซีเรียและอิรัก กลับคืนสู่มาตุภูมิ ตามนโยบายที่ได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้ก่อนการเลือกตั้ง

    คำประกาศของนายจัสติน ทรูโด เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ย กับการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี บาร์ซาอัล อัสซาต ของซีเรีย เพื่อแสดงความขอบคุณรัสเซียที่ช่วยปฏิบัติการทางการทหารเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของ“ลัทธิผู้ก่อการร้าย”

    รัสเซียเริ่มเข้าปฏิบัติการทางอากาศเพื่อกวาดล้างผู้ก่อการร้ายในซีเรีย ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2558 ที่กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียกล่าวว่า ในสามอาทิตย์ที่ผ่านมารัสเซียได้โจมตีเป้าหมายแล้วกว่า 500 ครั้ง การโจมตีของรัสเซียทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 370 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือนมากกว่า 120 คน

    แต่ประธานาธิบดีอัสซาต ซึ่งเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเมื่อเดือน มี.ค.2554 ที่เริ่มต้นจากการลุกฮือขับไล่รัฐบาลอย่างสันติ เหตุการณ์รุนแรงที่บานปลายเป็นสงครามกลางเมือง ได้คร่าชีวิตผู้คนแล้วกว่า 250,000 คน และเป็นปัจจัยผลักดันหลักของวิกฤติผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่หลั่งไหลเข้ายุโรปขณะนี้ เขากล่าวว่าปฏิบัติการของรัสเซีย ได้ทำลายฐานที่มั่นผู้ก่อการร้ายไอเอส หลายแห่ง ทำให้รัฐบาลซีเรียสามารถยึดพื้นที่คืนได้เป็นวงกว้าง

    นายดิมิตรี เปสคอฟ โฆษกของประธานธิบดีวิลาดีมีร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียพร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อช่วยสร้างสันติภาพในซีเรีย ไม่ว่าการจับอาวุธสู้รบกับลัทธิก่อการร้ายหรือการช่วยเหลือกระบวนการทางการเมือง ขณะที่นายอัสซาต ได้ย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินการทางการเมืองเพิ่มเติม

    นายเปสคอฟ กล่าวด้วยว่า นายปูตินแจ้งแก่นายอัสซาด ว่า เขาได้โทรศัพท์ไปเจรจากับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิบ แอร์โดอาน ของตุรกี กษัตริย์ ซัลมาล แห่งซาอุดีอาระเบีย ประธานาธิบดี อับเดล อัลซีซี แห่งอียิปต์และ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ แห่งจอร์แดน

    ทางด้านสหรัฐอเมริกาซึ่งกำลังเพลี่ยงพล้ำทั้งในสนามรบและเวทีการทูต ในแนวรบตะวันตกที่ยูเครน และแนวรบตะวันออกกลางในซีเรีย อิรัก และเยเมน ที่พันธมิตรใกล้ชิตจากนาโต จากตะวันออกกลาง และจีนกำลังเอนเอียงไปทางรัสเซีย ได้แต่ประณามว่า การที่รัสเซียปูพรมแดงต้อนรับ
    นายอัสซาต เป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์

    สหรัฐฯซึ่งให้การสนับสนุนกลุ่มการเมืองทุนสามานย์ปล้นชาติในประเทศไทย มองดูภาพที่อังกฤษต้อนรับประธานาธิบดีจีนอย่างเอิกเกริก ด้วยความรู้สึกอิจฉาตาร้อนซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่กลุ่มทุนสามานย์เห็นภาพประธานาธิบดี บารัค โอบามา ปรี่เข้ามาจับมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากประเทศไทย

    สหรัฐอเมริกาได้ยินคำประกาศของ นายจัสติน ทรูโดและท่าทีพันธมิตรที่เอนเอียงไปทางรัสเซีย ด้วยความรู้สึกฉุนเฉียว เป็นความรู้สึกเดียวกับที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรรู้สึก เมื่อคราวที่ทหารตั้งด่านไว้ทั่วเมืองเพื่อป้องกันป้องปรามไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายลอบเข่นฆ่าประชาชน เมื่อคราวที่มวลมหาประชาชนหลายล้านคน ประท้วงขับไล่รัฐบาล

    สหรัฐอเมริกา มองว่าการที่รัสเซียกับซีเรีย ปรึกษาหารือกันถึงปฏิบัติการทางอากาศเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของลัทธิ ก่อการร้ายว่า เป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์ เหมือนกับที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ฉุนเฉียวรำคาญ ที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวเธอในภาคอีสาน และจังหวัดชายแดนอื่นๆ เพราะกลัวเธอจะหนีออกต่างประเทศเหมือนพี่ชาย โดยการพูดกับคนใกล้ชิดว่า “ทำเหมือนเราจะหนี ถ้าหนีไม่ทำอย่างนี้หรอก”

    เรื่องหนีไม่หนี คดีจำนำข้าวยังไม่มีใครพูด แต่การดิ้นพล่านของสมุนบริวาร ทั้งทนายที่พยายามประวิงเวลา ออกมาแก้ตัวแก้ต่างในสื่อในสังกัดพัลวัน ทำให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง อดป้องปรามป้องกันอย่างรอบคอบไม่ได้ เพราะเคยมีคนพูดว่า จะสู้คดีโกงชาติปล้นแผ่นดิน เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองบนแผ่นดินที่อาศัยเกิดจนตาย แต่พอใกล้ถึงวันที่ศาลพิจารณาคดีตัดสินชะตากรรม กลับใช้เล่ห์กลหนีไปต่างประเทศ และไม่มีทีท่าว่าจะได้กลับมาตายในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

    ส่วนคำพูดที่ว่า “ถ้าหนีไม่ทำอย่างนี้” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจำเลย ที่ถูกฟ้องในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง จะใช้วิธีไหนหนีได้ ถึงวันนี้ข้ออ้างไปร่วมนักกีฬาโอลิมปิก คงไม่ได้ จะขอไปกินข้าวต้มฮ่องกงไปส่งลูกเรียน หรือไปรักษาอาการป่วย คณะผู้รักษาความสงบแห่งชาติคงไม่ยอม

    หรืออีกทางหนึ่งที่นายใหญ่ ของฝ่ายสาธารณรัฐทุนสามานย์ปล้นชาติ เคยคิดว่าเป็นไปได้ คือหนีเข้าไปซุกหัวในสถานทูตประเทศที่เคยอุ้มชู บัดนี้เป็นไปไม่ได้เพราะประตูปิดตายไปแล้ว พร้อมกับความเสื่อมทรามตกต่ำของฝ่ายสาธารณรัฐและเจ้าลัทธิประชาธิปไตย

    สหรัฐอเมริกา ที่มีคติว่า “ความขัดแย้งคือโอกาส” เคยเข้าไปแทรกแซงปลุกปั่นสร้างกระแส ก่อสงครามกลางเมืองมาแล้วทั่วโลก ไม่ว่าเป็นในยูเครน อัฟกานิสถาน ตูนิเซีย ลิเบีย อิรัก ซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศยูเครนกับซีเรีย ร่ำๆ จะกลายเป็นสงครามโลกมาแล้วหลายครั้ง แต่ถึงวันนี้ที่อเมริกาตกต่ำเสื่อมทราม พันธมิตรต่างถอยตัวออกห่าง ดังนั้น อันตรายที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จึงลดดีกรีลงแทบเป็นศูนย์

    ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤติ ตลอดเวลาสิบปีที่ผ่านมา เพราะมีนักการเมืองทุนสามานย์ปล้นชาติ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากอเมริกา ทำให้การบริหารประเทศขาดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ศีลธรรมจรรยา โกงกินร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เหิมเกริมคิดเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์หลัก ตกต่ำเสื่อมทรามฝ่ายทุนสามานย์ปล้นชาติก็เสื่อมทรามลงไปพร้อมๆ กัน โอกาสที่ประเทศจะกลายเป็นสาธารณรัฐ จึงเป็นศูนย์เหมือนสงครามโลกครั้งที่ 3
     
    ชายน้ำ, num1755, Anduril และอีก 1 คน ถูกใจ.
  2. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    ประกาศขายน้ำมันสำรองแล้ว แนวโน้มมีวิกฤติแน่
     
  3. plunk

    plunk อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,509
    ควาย หัว เน่า
     
  4. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    จีนจะเป็น จ้าวโลก แทนในอนาคตแน่ๆ
    เพราะขนาดสื่อ ยังสร้างตึกสำนักงานเตรียมไว้แล้ว

    13841502121384150274l.jpg
     
    emujack และ Apichai ถูกใจ.
  5. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    ไอ้เหลี่ยมกับไอ้กันน่าจะมีธาติบางอย่างตรงกัน

    ไอ้เหลี่ยมกับประเทศไทย "ถ้าผมไม่มีความสุข ก็อย่าหวังว่าจะมีใครได้อยู่เป็นสุข"

    สิ่งที่ไอ้กันคิดกับโลกไม่น่าจะไกลจากที่ไอ้เหลี่ยมคิดกับประเทศไทย

    ผมคิดว่าเราจะได้เห็นไอ้กันเป็นหมาบ้าเร็วๆนี้

    ขณะที่ไอ้เหลี่ยมและสมุนเป็นหมาบ้ามานานแล้ว
     
    ปู่ยง likes this.
  6. hey guys

    hey guys อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,066
    ไม่ได้ซื้อเรือดำน้ำมารบกับใคร
    ซื้อมาไว้ให้อเมริกาเกรงใจบ้างก็ดี
    ไหนๆก็ไหนๆ ดัดจริตเอามันรุ่นนี้เลยอะ วายเจ-18 เรือดำน้ำติดขีปนาวุธเข้าตรวจตราน่านน้ำ....

    กองทัพเรือสหรัฐ เปิดเผยว่า จีนและสหรัฐตกลงมีการเจรจาทางทะเลร่วมกัน หลังความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ปะทุขึ้นหลังสหรัฐส่งลาสเซน เรือรบติดจรวดนำวิถีเข้าไปในเขต 12 ไมล์ของเกาะเทียม ที่ประเทศสร้างขึ้นในทะเลจีนใต้ ในขณะที่ทางจีนได้ออกมาตอบโต้ด้วยการส่งวายเจ-18 เรือดำน้ำติดขีปนาวุธเข้าตรวจตราน่านน้ำ คณะกรรมการพิจารณาความมั่นคงและเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ เปิดเผยรายงานว่า เรือดำน้ำดังกล่าวสามารถยิงขีปนาวุธได้ด้วยความเร็วเสียง และยากแก่การที่เรือรบลาสเซนของสหรัฐจะรับมือได้ กลายเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้ระหว่างจีนและสหรัฐต่อข้อพิพาทในทะเลจีนใต้มากยิ่งขึ้น ด้านสำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า พล.ร.อ.แฮร์รี ฮาร์ริส ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธภาคสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐมีกำหนดการเดินทางไปพบกับสมาชิกอาวุโสในกองทัพเรือของจีนในวันที่ 2 พ.ย.นี้.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/world/news/397077

    คิคิ
     
    ปู่ยง likes this.
  7. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    เอิ้กๆๆๆๆๆ เล่นไปได้ ปู่
     

Share This Page