-*- เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิ “ธรรมกาย”...

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย Words of the Buddha, 11 Mar 2015

  1. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    10845966_650649315047353_8691136204790802920_n.png

    …กระทู้ล่าสุดที่ผมเข้ามาโพสไว้ประมาณเดื่อนสิงหาคม 2556 ตอนที่ กระทรวงศึกษาเอาองค์กรครูไปถวายให้กับสำนักธรรมกาย จัดอบรมให้แก่ครูทั่วประเทศ ถึงขั้นสั่งปิดโรงเรียน ซึ่งผมก็เป็นครูคนหนึ่งในนั้น ครั้งนั้นผมหนีการอบรม และทนการบีบคั้นไม่ไหว จนต้องไปเปลี่ยนบัตรประชาชนว่า “ไม่มีศาสนา” มาจนถึงทุกวันนี้

    หลังจากสิ้นสุดการอบรม การประชุมครูหลังการเหตุการณ์ครั้งนั้น ผู้บริหารพูดในที่ประชุมว่า “ผมไม่ได้เป็นคนบังคับครูไปอบรมนะ สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) เป็นผู้บังคับครูไป…” การชี้แจงของผู้บริหารทราบถึงความขับข้องใจของครูดี ซึ่งพอดูออกว่าก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ สพฐ.ทำแบบนั้น
    …ผู้ที่ศรัทธาต่อลัทธิธรรมกายหากเข้ามาอ่านกระทู้นี้ อาจมองว่าทำไมผมไม่เปิดใจกับ “ลัทธิธรรมกาย” ก็เพราะด้วยการที่ผมได้ติดตามศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธมานานมาก ทั้ง “กรณีธรรมกาย” ที่ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ได้เขียนไว้ ซึ่งก็ไม่ได้อ่านเที่ยวเดียว อ่านวนแล้ววนอีก และก็ได้อ่านภาคผนวก ซึ่งเป็นบทความที่ลัทธิธรรมกายได้เผยแพร่ออกไป มาช่วงหลังๆ ได้อ่านบทความโต้ตอบกับ “กรณีธรรมกาย” หรือโต้ตอบพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) แต่อ่านแล้วไม่มีน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นใครต่อใคร พูดง่ายๆ ว่า “เป็นมวยชกไม่สมศักดิ์ศรี ไม่ใช่คู่ชกที่เหมาะสม”
    …และเมื่อผมได้ติดตามพระสูตรที่เกี่ยวข้องในพระไตรปิฏก หลายๆ สูตร ก็เข้ากันไม่ได้กับการที่ลัทธิธรรมกายได้เผยแพร่ออกมา และได้เข้ามาถกเถียงในกระทู้ห้องศาสนานี้อยู่พักใหญ่ และในที่สุดผมก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ที่จะทำให้ผมเปิดใจรับได้…

    พบสาวลัทธิธรรมกาย

    …เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเช่นเดียวกัน ไม่เฉพาะเรื่องงานเรื่องเดียวที่ผมเผชิญหน้ากับลัทธิธรรมกาย ได้พบกับสาวผู้หนึ่งซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่เขาเรียนมัธยม กลับมาพบกันอีกครั้งจนคบหาเป็นแฟนกัน ผมมาตกใจตอนที่รู้ว่าทั้งเขาและครอบครัว แม่ พี่ๆ ของเขา ต่างก็เข้าลัทธิธรรมกาย เมื่อเขารู้ว่าผมรู้ปั๊บ เขาก็มีความรู้สึกกลัวว่าผมจะ “ยี้” เขา เรื่องศาสนาเราสองคนต่างเกรงใจและรู้กันดีว่า หากคุยกันต้องมีการแตกคอกันแน่ เพราะเขาเองรู้ดีว่าผมเป็นผู้ศึกษาพระไตรปิฎกคนหนึ่ง มีบางครั้งเราลายคุยกัน (Line คือโปรแกรมที่ใช้คุยกันในโทรศัพท์มือถือที่เล่นอินเทอร์เน็ตได้)

    …มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอส่งข้อมูลคำว่า “อายตนะนิพพาน” (อายตนะนิพพาน เป็นคำที่ลัทธิธรรมกายใช้อยู่ และเชื่อว่ามีดินแดนของนิพพาน) มีกล่าวอยู่ในพระไตรปิฏก โดยเธอบอกเล่ม และหน้ามาด้วย ผมก็รีบคว้า IPAD มาค้นหา ตามเล่มและหน้า ตามที่เธอบอก โดยใช้พระไตรปิฎกที่เป็น App บน IPAD มีทั้งชุด 45 เล่ม และชุด 91 เล่ม ปรากฎว่าในพระไตรปิฎกทั้งสองชุดมีแต่คำว่า “อายตนะ” ไม่มีคำว่า “อายตนะนิพพาน” แบบที่เธอบอกมา ผมก็ตอบออกไปว่า พระไตรปิฎกทั้งสองชุดไม่มีคำว่า “อายตนะนิพพาน” (ข้อมูลทั้งหลายเธอจะมีกลุ่ม Line ที่เป็นศิษย์ธรรมกายด้วยกัน)

    …เราเป็นพุทธด้วยกัน และเหมือนกับอยู่กันคนละลัทธิ อาจเป็นความอึดอัดใจที่เราต่างเก็บไว้ หรือเกรงใจกัน เวลาคุยกัน เธอจะมีคำแปลกๆ เช่น ภาคโปรด ภาคปราบ ที่น่าตกใจคือ ความเชื่อทั้งหลายที่ผมรู้มาว่าลัทธิธรรมกายเขาเชื่ออย่างไร ก็ได้รับคำยืนยันจากเธอว่าเป็นแบบนั้นจริง เช่น

    “พระพุทธเจ้าสมณโคดม เป็นพระพุทธเจ้าภาคโปรดสู้มารไม่ได้ ที่มีฤทธิ์น้อยกว่าพระพุทธเจ้าภาคปราบ”
    “ผู้เป็นคนลัทธิธรรมกายเท่านั้นจึงจะไปอยู่กับพระพุทธเจ้าภาคปราบ (จะเป็นใครท่านผู้อ่านเดาเอาเองครับ)”
    “พระไตรปิฎกของเถรวาทไม่สมบูรณ์”
    ฯลฯ

    พวกเราเป็นคนนอกลัทธิธรรมกายคงต้องอยู่กับพระพุทธเจ้าสมณโคดมต่อไป
    …เมื่อก่อนนี้ผมเข้ามาอ่านในกระทู้โจมตีลัทธิธรรมกาย นึกในใจว่า ทำไมใส่ร้ายลัทธิธรรมกายกันจัง ใส่ร้ายเกินเหตุ แต่พอได้รับการยืนยันจากเธอจริงๆ ว่าคนลัทธิธรรมกายเชื่อแบบนั้น ผมรู้สึกสลดใจทันที
    …สิ่งหนึ่งที่ยังดีใจที่เธอยังเปิดใจรับฟังพระสูตรจากในพระไตรปิฎกจากผมบ้าง แต่ผมรู้สึกว่าชาวธรรมกายศรัทธาต่อพระสมณโคดมไม่เหมือนกับชาวเถรวาทที่เชื่อว่านอกจากพระพุทธเจ้าของเราแล้วไม่มีใครเหนือกว่าอีก ไม่มีมีอีกแล้ว แต่ธรรมกายเชื่อว่า ยังมีพระพุทธเจ้าภาคปราบที่เหนือกว่าพระพุทธเจ้าภาคโปรดแบบพระพุทธเจ้าสมณโคดม

    …มีอยู่ครั้งหนึ่งผมถามเน้นตรงๆ ว่า
    “คนธรรมกายเชื่อว่า พระพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นพระพุทธเจ้าฤทธิ์น้อยใช่ไหม เธอยืนยันว่า ใช่”
    “คนธรรมกายเชื่อว่า หลวงพ่อสดกับหลวงพ่อธัมมชโยจะสลับกันมาบำเพ็ญบารมีใช่ไหม เธอตอบว่า ใช่”
    “คนธรรมกายเชื่อว่า หลวงพ่อธัมมชโยจะเป็นพระพุทธเจ้าภาคปราบคนต่อไปใช่ไหม เธอตอบว่า ใช่ ”
    ฯลฯ

    คำที่เธอให้เหตุผลว่าที่เข้าลัทธิธรรมกาย เพราะผู้คนในนั้นมีอัธยาศัยดี สถานที่สะอาดสะอ้าน สบายใจเมื่อไปอยู่…
    ผมก็ตอบดีๆ แบบเอื้ออาทรเพราะเป็นคนรักกันว่า

    “สายการบินที่มีสถานที่ต้อนรับผู้คนดี สะอาดสะอ้าน มีการจัดการดี มีการต้อนรับดี มีโครงการนั่นโครงการนี่เยอะแยะไปหมด ทำให้ลูกค้าของสายการบินสบายใจ เป็นคนอัธยาศัยดี น่าใช้บริการ แต่พอลูกค้าขึ้นเครื่องออกเดินทางเท่านั้นแหละ ทางหลุดพ้นเค้าไปทางเหนือกัน แต่ธรรมกายพาลงใต้”

    ชาวเถรวาทที่ศึกษาพระไตรปิฎก (ที่ไม่ด้นมั่วเอาตามใจตน แบบรู้ยิ่งกว่าพระศาสดา) และเข้าใจอย่างถูกต้อง ที่พอมองเห็นทิศทางการหลุดพ้นที่พระศาสดาได้ชี้ทางไว้ ก็คงเข้าใจดีว่า

    “ลัทธิธรรมกายพาไปทิศทางไหน?”

    http://pantip.com/topic/31958312

    https://thaidhammakaya.wordpress.com/2015/02/27/girlfreind/
     
    แดงประจำเดือน, -3-, maya และอีก 9 คน ถูกใจ
  2. ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

    ถึงจะบิ่นแต่ยังคม อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    842
    หาในอากู๋
    ธรรมกาย - pantip อ่านตาแฉะเลยท่านเอ๊ย
     
    architeer, padd, อาวุโสโอเค และอีก 3 คน ถูกใจ
  3. sugit

    sugit อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 Mar 2015
    คะแนนถูกใจ:
    1,111
    ชื่อเรื่องอะ ชวนเข้ามากมาย

    ผมเอง เคยไปนั่งสมาธิ กับ ทางกัลยาณมิตร ก็พอทราบ

    ว่า ธรรมกาย ก็มีดี การสอนธรรมะ เค้า น่าจะอยู่ในเกณฑ์ ดี ถึง ดีมากนะ

    อันนี้ ก็ต้องว่ากันตรง ๆ


    คือมันมีความสุข ที่ได้ไปนั่งให้ใจมันสงบนะ

    แล้วกัลยาณมิตร แต่ละคน ก็น่ารัก อันนี้ ก็สบายใจ ที่จะพูด


    แต่ผมมองว่า ธรรมะ จะเข้าถึงได้จริง สภาพจิตใจ

    มันต้องผ่านเรื่องลำบาก ความทุกข์ แล้วก็การปลงต่อ

    สภาวะการณ์ ที่ผ่านเข้ามาให้ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ


    แต่ผมเชื่ออย่างว่า สวรรค์ มันไม่ได้จับต้องได้ ขนาดนั้น

    หรือเป้าหมาย ไม่ได้มีแค่หนึ่งเดียว

    แต่เป้าหมายที่จะคลายทุกข์ โดยส่วนตัวผมนะ


    คิดว่า ทางใคร ทางมัน เลยล่ะ

    ผมเอง ถือคริสต์ แต่ก็ ศึกษาของพุทธมา พอสมควร

    (ไม่งั้น คงไม่รู้จักเหล่ากัลยาณมิตร)

    ผมว่า คนเราจะเข้าถึงทางซึ่งสลัดสิ้น กิเลส

    มันต้องสร้างจากความเข้าใจ การผ่านชีวิตของเรา

    มันไม่มีทางที่เป็นสูตรสำเร็จ หรือว่าใครที่จะชี้นำ ได้อย่าง

    ครบถ้วน ผมว่าพวกเราส่วนใหญ่ ล้วนต้องผ่านทุกข์สุข

    หลายครั้ง จนชั่วชีวิต เราล่ะ


    แต่หลายคน เลือกจะหาทางที่สะดวกสุด

    ทุกข์น้อยที่สุด ธรรมกาย จึงเป็นเหมือน ช่องทางลัดที่ว่า

    ซึ่งแท้จริง ผมมองว่า ทางดับทุกข์ของแต่ละคน มันเกือบจะไม่มีใคร

    เหมือนกันเลยนะ เพราะแต่ละคน มองความทุกข์ หนักเบาต่างกัน


    ดังนั้น ผมจึงไม่ค่อยเชื่อหากใครจะเสนอ ทางง่าย ๆ หรือ ทางสำเร็จ

    ร้อยเปอร์เซนต์ ของแบบนี้ ผมว่าถามใจตัวเอง น่าจะสำคัญกว่า อย่างอื่น
     
  4. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :rolleyes: เฟสก๊ะโดนบล๊อก... ซ่าอยู่นี่ล่ะฟ๊ะ...

    “พระพุทธเจ้าสมณโคดม เป็นพระพุทธเจ้าภาคโปรดสู้มารไม่ได้ ที่มีฤทธิ์น้อยกว่าพระพุทธเจ้าภาคปราบ”

    ... พระศาสดาตรัสไว้ว่า พระพุทธเจ้าไม่ใช่จะอุบัติขึ้นมาได้โดยง่ายๆ มนุษย์และเทวดาได้เกิดมาพบธรรมของท่านได้นั้น... ยากและยาวนานยิ่งนัก... เกิดมาในยุคพระธรรมยังอยู่อย่างตอนนี้... แต่ดันศรัทธาลัทธิอื่นก็อด ดันเป็นบ้าก็อด ดันไปเจอการเผยแผ่คำสอนแบบไอ้เหี้ยกนี่ก็อดอีก... ไม่ต้องนับไปเกิดในยุคที่พระธรรมคำสอนไม่มีแล้ว... แล้วจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดาอีกมั้ย? พระศาสดาเอาปลายเล็บเขี่ยเศษดินขึ้น แล้วตรัสว่ามนุษย์, เทวดาที่จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดาอีก เหลือเท่ากับเศษดินที่ปลายเล็บพระองค์นี่แหละ... เทียบกับผืนดินทั่วทั้งมหาปฐพี...

    ... พระศาสดาตรัสว่า พระพุทธเจ้ามีเป็น "สัมมาสัมพุทธะ" คือตรัสรู้แล้วสั่งสอนโปรดสัตว์... กับ "ปัจเจกพุทธเจ้า" คือตรัสรู้แล้วไม่สั่งสอนใคร ไปนิพพานแต่ผู้เดียว... แค่นั้น... ไม่มีภาคบ้าบอคอแตกแบบลัทธิพราหมณ์ฮินดู เจ้าปางโน่น ปางนี่...

    ... ที่สำคัญ... พระศาสดาตรัสไว้ชัดแจ้ง... จะสัมมาสัมพุทธะ หรือปัจเจกพุทธเจ้า... ล้วนตรัสรู้ใน "อริยสัจ" เหมือนกันทั้งสิ้น เปรียบดังรอยล้อเกวียนที่หมุนทับลงตามรอยเดิม... ไม่มีเป็นอื่น...

    :punch: แล้วไปปรามาสพระศาสดาว่าฤทธิ์น้อย ตรัสรู้ใหม่ๆยังเป็นเหมือนเด็กใหม่ ยังไม่ประสีประสา... ไอ้เห็บซอกตีนหมาเอ๊ย... พระศาสดามีคุณลักษณะมหาบุรุษครบถ้วน... เมิงมีข้อไหนบ้าง? พระศาดาตรัสพระองค์ออกเผยแผ่ธรรมของพระองค์... คำสอนพระองค์ "ไม่มีขัดแย้งกันเอง แม้แต่ประการเดียว... ล้วนมีความหมาย นัยยะไปในทางเดียวกันทั้งสิ้น... ตั้งแต่ทรงตรัสรู้ จนปรินิพพาน"... หากเป็นอย่างเมิงว่าคงแก้คำสอนกันบรรลัยตั้งแต่ครั้งพุทธกาลหมดแล้ว...
     
    Charlee, conservative, joonkung และอีก 5 คน ถูกใจ
  5. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    มาอ่านเฉยๆ นะจ๊ะ
     
  6. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :rolleyes: ...
     
  7. ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

    ถึงจะบิ่นแต่ยังคม อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    842
    ถ้าไม่ติดยึดก็ดี แต่สิ่งที่เราเห็นคือการซื้อบุญถ้าบุญซื้อได้เราชาวพุทธมีบุญกันทุกคนแน่ ตั้งแต่เล็กจนโตทำบุญกันทุกคนแน่ไม่มากก็น้อย
    จริงของท่านสำหรับคนคิดได้ แต่คนที่คิดไม่ได้หรือไม่อยากคิดก็ยังมีอีกมากอยู่
    อย่างท่านนับถือคริสต์ผมถามแบบไม่รู้จริง ๆ และผมก็คิดเองแบบไม่รู้มาขาน ว่าการสารภาพบาปมันเหมือนการให้ผู้สารภาพบาปปลดปล่อยสิ่งที่ตัวเองปกปิดไว้ในการทำสิ่งไม่ดีจะได้เกิดความสบายใจไม่ต้องมาทุกข์และทนต่อไป อย่างน้อยได้สารภาพต่อบาทหลวงและมีคนรับรู้แล้ว อันนี้ผมคิดเองนะ
    วัยเด็กผมก็เรียนในโรงเรียนคริสต์แต่นับถือพุทธ ก่อนกินข้าวสวดขอบคุณ ก่อนนอนสวด ผมก็ไม่ได้อะไรนะ
    ผมอยากให้คนหลงและงมงายอยู่ได้คิดบ้างไม่ใช่ไม่สนใจอะไรเลย เรามาทางที่ผิดโดยคิดว่ามันถูกกันเยอะ เราต่อสู้และเป็นปากเสียงให้กับพระสงฆ์ที่ไม่อยากต่อกรกับสิ่งพวกนี้เรายอมบาปเพื่อให้สิ่งที่ดี ๆ ไม่หายไป
     
  8. ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

    ถึงจะบิ่นแต่ยังคม อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    842
    เอ่อ หลวงพี่ครับบางครั้งผมแรงในเรื่องนี้ไปบ้างก็ขอให้หลวงพี่อภัยให้ผมด้วยนะครับ บางทีมันจี๊ดรับไม่ได้จริง ๆ ผมเชื่อว่ายังมีพระสงฆ์อีกหลายรูปนักที่อยากพูดอยากเสนอแต่มันติดที่วินัยสงฆ์
     
    กีรเต้ likes this.
  9. นักล้างป่าช้า

    นักล้างป่าช้า สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    26 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    45
    สาวธรรมกายมีแต่น่ารัก ทำสมาธิทุกวัน ถือศีล5ทุกวัน ก็อยู่ในนางฟ้าบนดิน ดีัๆนี่เอง เหมาะเป็นแม่ของลูก
    ไม่ใช่สาวพวกสลิ่มสาป พอจบกิจปิดเมือง ก็ไปหย่าผัวหย่าเมีย บางคนรุ่นปู่ยังเอาทำผัว พวกตัณหาไม่รู้จักพอ :tmi::tmi::tmi:
     
    Words of the Buddha likes this.
  10. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    10583950_748590655194898_4628983661266450490_n.jpg

    :rolleyes: ...
     
    -3-, emujack, phoebus และอีก 3 คน ถูกใจ
  11. ทองเค

    ทองเค อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    25 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    หลงทางอะไร หรือเปล่า
     
  12. ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

    ถึงจะบิ่นแต่ยังคม อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    842
    ตกลงจะให้ไปหาเมียแถวนั้นว่างั้นเถอะ
     
    -3-, phoebus, อู๋ คาลบี้ และอีก 2 คน ถูกใจ
  13. ทองเค

    ทองเค อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    25 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    จะให้อธิบายยังไงดีครับ...
    โดยหลักแล้ว สมัยพุทธกาล หรือก่อนนั้น ลัทธิ ต่างๆ หรือที่คำสอนใกล้เคียงกัน มีมากมายครับ
    ตามหลักของศาสนาพุทธ ลัทธิเหล่านั้น ไม่สมบูรณ์ ตามแนวทางของพุทธ
    อาจจะพร่อง หรือ ขาดอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งพระศาสดา ทรงศึกษา มาแล้ว
    ตั้งแต่ ทำสมาธิ อดข้าว อดน้ำ ทรมาณร่างกาย เพ่งสมาธิ ดู ดิน น้ำ ไฟ ลม ถวายทาน ต่างๆ

    ถามว่า ดี มั้ย ดีครับ ลัทธิ เหล่านั้น แต่ ก็ไม่ใช่พระพุทธศาสนา อยู่ดี เพราะมันผิดเพี้ยนไป จากหลักคำสอน


    ส่วนกรณี ธรรมกาย มีคำสอน ซึ่งผิดเพี้ยนไปจาก พระพุทธศาสนา แต่ใช้ร่มเงา ของพุทธศาสนา
    เผยแพร่ คำสอนที่ผิดเพี้ยนไป จากหลักของศาสนาเอง เหมือนเป็นอีก ศาสนา หรือ อีก ลัทธิหนึ่ง
    จึงมีเรื่อง มีราว ให้ออกมาโต้เถียง กันอยู่นี่ไงครับ
    ที่เป็นประเด็น หรือ ถกเถียงกัน มันอยู่ตรงจุดนี้
     
    phoebus, Mobonji, Redbuffalo010 และอีก 2 คน ถูกใจ
  14. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :makeup: ตามแต่ "ศรัทธา" เถิดขอรับ... บอกศรัทธาอย่างแต่ยังไปศึกษาโน่นนี่อยู่เลย บอกศึกษามานาน... แต่ยังแยกแค่ธรรมะพื้นฐานทั่วไปที่มันบิดเบือนยังไม่ได้เลย... ตามบายเถิดขอรับ... คิกๆๆๆ

    :giggle:
     
  15. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    โนพลอมแพลม เราไม่ใช่พวกใครแตะไม่ได้ หรือเป็นพระแล้วต้องวางตัวให้สูงกว่าชาวบ้าน เราก็ขอข้าวชาวบ้านมาเลี้ยงตัวเองเหมือนกัน
     
    phoebus, Familie, อู๋ คาลบี้ และอีก 2 คน ถูกใจ
  16. ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

    ถึงจะบิ่นแต่ยังคม อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    842
    เท่าที่ผมอ่านใน pantip จะมีสาวกของแต่ละสำนักมาห้ำหั่นกันในเรื่องของวิชาของตนเหนือกว่า ผมอ่านแล้วปวดกบาลตกลงว่าที่เป็นอยู่นี่คืออยากเหนือกว่ากันโอ้อวดบารมีแข่งกัน ทำไมสมัยก่อนพระสงฆ์ระดับครูเมื่อศึกษาอะไรค้นพบอะไรก็จะคุยกันสนทนาธรรมกันถึงเหตุและผลจากการปฏิบัติและแลกเปลี่ยนความรู้กัน มาสมัยนี้แข่งกันว่าข้าเก่งข้าแน่ไม่มีใครเหนือกว่าเพื่ออะไร หรือว่าจะวัดกันที่ใครมีเงินมากกว่ามีคนมนมาสำนักมากกว่า เพลียจริง ๆ แต่จะว่าไปก็ดีนะครับทำให้ฆราวาสอย่างเรา ๆ ได้ไปเปิดไปค้นคว้าพระไตรปิฏกกันมากขึ้น ศึกษาเรื่องของสงฆ์มากขึ้นเพื่อความกระจ่างและนำมาถ
     
  17. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    ในความคิดผม ศาสนาทุกศาสนาในโลกนี้ เป็นกุสโลบายของผู้ชาญฉลาดในขณะนั้นสร้างขึ้นมา
    จุดประสงค์หลักคือ
    "ให้มนุษย์ทุกคนได้อยู่กันอย่าง สงบ สันติ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน"
    แต่ที่มันวุ่นวายเพราะมีมนุษย์ผู้โง่เขลา ดันไปตีความกันเอง จนห่างไกลจากจุดประสงค์หลัก
    (ไม่ได้คิดจะลบหลู่ศาสนาใดๆนะครับ เพราะตามความคิดผม ทุกศาสนามีดีทั้งนั้น)
     
    nattapat, อู๋ คาลบี้, Domie และอีก 1 คน ถูกใจ.
  18. Garfield

    Garfield อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,407
    เป็นผมคงไม่คบตั้งแต่แรก จากที่เคยคุยกับสาวกธรรมกายก็รู้สึกว่าเหมือนคุยกับคนบ้า สมองไม่เหลือพอจะวิเคราะห์เหตุผลอะไรแล้ว
     
    phoebus, Words of the Buddha และ bookmarks ถูกใจ
  19. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    เหรอ แต่เอ็งเนี่ยว่าร้ายใส่ร้ายชาวบ้านแค่นี้ก็มุสาวาทาแล้ว
    โดยเฉพาะข้อความสุดท้ายแสดงถึงความสถุลของป่าช้าเท่านั้นที่คิดได้
    แค่ป่าช้าบอกว่ารักษาศีล 5 ทุกวันเนี่ย
    แค่นี้ก็ผิดศีลข้อ 4 แล้ว แถมตัวสำนักก็โดนไปแล้ว ข้อ1,2,4
     
  20. กระต่ายในจันทร์

    กระต่ายในจันทร์ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,710
    น่าจะเป็นคนนี้ที่ป่าช้ากล่าวถึง
    d0328a1.jpg
     
    kokkai, phoebus, Words of the Buddha และอีก 3 คน ถูกใจ
  21. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    ผมว่าเรื่อง ธรรมกาย นี่ ควรทำความเข้าใจให้ชัดนะครับว่า ปัญหามันคืออะไร

    ทุกวันไม่ว่าข่าวใน สื่อหลัก หรือ สื่อในโซเชียล ดูจะมุ่งประเด็นไปที่ ปาราชิก กับทุจริต เรื่องทุจริตนี่เป็นเรื่องของกฎหมายที่ต้องดำเนินการกันไปตามหลักฐาน ส่วนเรื่อง ปาราชิก นั้น ก็ดูเหมือนจะยังถกเถียงกันยังไม่จบ

    ถ้าถามว่า วันนี้ ธัมมชโย ปาราชิก หรือจะสึกเองเลยในวันนี้ แล้วเรื่องนี้จะจบไหม ผมว่ามันไม่จบหรอกครับ เพราะจะปาราชิก จะสึกออกไป มันไม่ใช่เหตุของปัญหา เพราะถ้า ธัมมชโย ปาราชิก หรือสึกออกไป แต่ยังไปนุ่งขาวห่มขาว เทศน์สังสอน พระสงฆ์องค์เจ้า ญาติโยมผู้มีศรัทธาทั้งหลายแหล่ แล้วเขาเหล่านั้นจะยังศรัทธาเหมือนเดิมไหม ผมคิดว่า เหมือนเดิมครับ คงไปนั่งพนมมือแต้ กันหน้าสลอนเหมือนเดิม ผมจึงมองว่า ปาราชิก หรือสึกออกไป ไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง

    เหตุที่บรรดาพระสงฆ์องค์เจ้า และบรรดาญาติโยมยังศรัทธาอยู่ทั้ง ๆ ที่ ปาราชิก หรือสึกออกไปแล้วก็เพราะ เขาเหล่านั้น ยึดถือตัวบุคคล มากกว่ายึดถือคำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นแหละ ซึ่ีงสังคมพุทธของไทยมีให้เห็นอยู่มากมายเกือบทั้งประเทศ ยกตัวอย่างในอดีตที่ผ่าน ๆ มา อย่างพระยันตระ พระพุทโธภาวนา หรือเณรคำ บุคคลเหล่านี้ ถ้าไม่โดนคดีจนต้องหนีไปต่างประเทศ หรือติดคุก เอาแค่ ปาราชิก แล้วออกมานุ่งขาวห่มขาว เทศน์สั่งสอนญาติโยม พระสงฆ์องค์เจ้า เหมือนเดิม ก็น่าจะมีผู้เลื่อมใสนับถือเหมือนตอนเป็นพระนั่นแหละ

    ขนาด ผี สาง เทวดา ยังนับถือได้ นับประสาอะไร กับผู้ทรงศีลที่นุ่งขาวห่มขาวที่มีเมตตาจะพาไปสวรรค์ละครับ แล้วถ้าต้องออกมา นุ่งขาวห่มขาว แต่ยังทำเหมือนเดิม มันจะยิ่งไม่ทุเรศกว่าเดิมหรือครับ โดยเฉพาะภาพพระสงฆ์ไปนั่งไหว้คนนุ่งขาวห่มขาว

    ปัญหาของธรรมกาย ตามที่ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ท่านบอกไว้ คือ

    การทำพระวินัยให้วิปริต และ การทำวิปริตต่อพระธรรมวินัย ฟังดูแล้วมันคล้าย ๆ กัน แต่มันไม่เหมือนกัน

    การทำพระวินัยให้วิปริต คือการเที่ยวไปตีความพระไตรปิฎกตามใจชอบ เหมือนกับพุทธ มหายานนั่นแหละ
    การทำวิปริตต่อพระธรรมวินัย คือการทำผิดวินัยหลายเรื่องหลายอย่างที่ ด่า ๆ กันนั่นแหละ

    ทั้งสองเรื่องนี้มันเกิดมานานแล้ว และรู้สึกว่าได้มีการทำความเข้าใจให้ถูกต้องแล้ว เรื่องมันจึง สงบ

    แต่ตอนนี้ โผล่มาอีกแล้วครับ มาพร้อมกับข้อหาเดิม ๆ แบ็ค เดิม ๆ คือ เถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนา และ มหาจุฬา ฯ

    สามองค์กรหลักทางพุทธศาสนาของไทย สนับสนุนธรรมกาย เพราะคงเชื่อในยุทธศาสตร์ของธรรมกายที่บอกว่า ศาสนาพุทธกำลังถูกรุกรานจากศาสนาอื่น เพราะฉะนั้นเราต้องเร่งเผยแพร่ศาสนาพุทธให้ขจรขจายไปทั่วโลก เลยช่วยกันใหญ่อย่างที่เห็น ๆ นั่นแหละ

    ผมไม่ติดใจหรอกครับที่ใครจะไปเผยแพร่ศาสนาอะไรยังไง แต่อยากขอร้องว่า ให้ออกไปจากคณะสงฆ์ไทยได้ไหม เพราะคณะสงฆ์ไทยเขายึดถือตามแนวทางของ เถรวาท ซึ่งยึดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด มั่นคง จนเขายอมรับกันแล้วว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาทั้งที่ ๆ ศาสนาพุทธไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่เป็นเพราะการยึดมั่นในคำสอนโดยไม่บิดเบี้ยวนั่นแหละ ส่วนคุณจะไปเผยแพร่อะไรยังไงก็ตามสะดวก จะไปเป็นมหายาน หรือตั้งใหม่เป็นมหายานบิน ก็แล้วแต่ แต่ไม่อยู่ในคณะสงฆ์ไทย
     
  22. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    ตอนไปปฏิบัติธรรม วันที่ 28 ก.พ. ถึง วันที่ 10 มี.ค. ก็มีแบบนี้ เราตอบไปว่า มาปฏิบัติธรรมให้รู้ตัวเอง ไม่ได้มาสนทนาธรรม ให้รู้เรื่องคนอื่น
     
  23. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    นี่แหละ คนที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

    ตัวอย่างที่ดีจริง ขอบคุณนะป่าช้า
    :rofl::rofl::rofl::rofl::rofl::rofl::rofl::rofl::rofl:
     
    Words of the Buddha และ redfrog53 ถูกใจ.
  24. hillton(ปาล์มาลี)

    hillton(ปาล์มาลี) อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    19 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,195
    ข้อมูลก่อนเผาเมือง สาวๆเสื้อแดง อาจจะถือศิลไม่ครบห้า และทำสมาธิสั้น เลยถูกจูงเดินบนชายหาด ก่อนจะไปทำเป็นแม่ลูกคางคก ด้วยลีลาใต้โคนต้นไม้
     
    Words of the Buddha likes this.
  25. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    เพื่อนแฟนเป็นสาวกรรมกายตัวเอ้! น้องชายไปบวช พ่อแม่ขายบ้านบริจาคหมด จากพ่อค้า ไม่มีอะไรเหลือเลย ตกลงเป็น กรรม หรือธรรม เห็นกงจักรแล้วยังป่าช้า!!!
     
    Words of the Buddha likes this.
  26. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    เสียดายที่แกไปหลงน้ำด่าง!!!


    10384826_343509099173184_8989191358641061918_n.jpg
     
    Words of the Buddha likes this.
  27. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    ในธรรมกาย มีฝ่ายผดุงครรภ์ด้วยมั้ย
     
    JSN, Words of the Buddha, อาวุโสโอเค และอีก 1 คน ถูกใจ.
  28. นอกคอก

    นอกคอก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    5,396
    จริงๆแล้วศาสนาพุทธน่าจะสอนให้คิดมากกว่าเชื่อ ศาสดาท่านน่าจะทราบล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการหลอกลวง บิดเบือนในทุกวงการ จึงมี กาลามสูตร 10 ไว้ให้คนใช้ความคิดก่อนเชื่อ ถ้าจะเอากันจริงๆการทำบุญที่ใจไม่บริสุทธ์ หวังสิ่งตอบแทน จะไม่ได้บุญด้วยซ้ำ แต้คงไม่มีพระวัดไหนจะบอกแบบนั้น
     
  29. อาวุโสโอเค

    อาวุโสโอเค อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,527
    สำหรับผมที่ผ่านมา ธรรมกายเหมือนกับเอาคนบ้ามาหลอกคนโง่ สองอย่างผสมกันแล้วมันช่างลงตัวจริงๆ

    ไอ้บ้าก็เดินเพ่นพ่านในวัด ทำตัวแสนดี พอออกนอกวัดแม่มโคตรแสบ ไม่งั้นสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคงไม่เป็นคดีหรอก :giggle:
     
  30. padd

    padd อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    14 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,139

    คือถ้าทางใครทางมันจริง ก็คงจะแบบ พุทธ คริสต์ อิสลาม หรือกระทั่งนิกายต่างๆในแต่ละศาสนา
    แต่สิ่งที่ธรรมกายทำอยู่ มันไม่ใช่อย่างนั้น หลักใหญ่ใจความคือ "หลอกลวง" โดยมีผลประโยชน์ทรัพย์สินเงินทองเป็นเป้าหมายหลัก
    ฉะนั้น อะไรที่คนเห็นว่าเป็นความดีงามทั้งหลายทั้งปวงก็คือการบริหารจัดการด้านธุรกิจนั่นเองค่ะ
    อย่างเช่นที่คุณจขกท.เล่า

    "คำที่เธอให้เหตุผลว่าที่เข้าลัทธิธรรมกาย เพราะผู้คนในนั้นมีอัธยาศัยดี สถานที่สะอาดสะอ้าน สบายใจเมื่อไปอยู่…
    ผมก็ตอบดีๆ แบบเอื้ออาทรเพราะเป็นคนรักกันว่า

    “สายการบินที่มีสถานที่ต้อนรับผู้คนดี สะอาดสะอ้าน มีการจัดการดี มีการต้อนรับดี มีโครงการนั่นโครงการนี่เยอะแยะไปหมด ทำให้ลูกค้าของสายการบินสบายใจ เป็นคนอัธยาศัยดี น่าใช้บริการ แต่พอลูกค้าขึ้นเครื่องออกเดินทางเท่านั้นแหละ ทางหลุดพ้นเค้าไปทางเหนือกัน แต่ธรรมกายพาลงใต้”
     
  31. Apichai

    Apichai อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,042
    เห็น ตื่นเช้า มา ก็ด่าชาวบ้าน ก่อน
     
    padd likes this.
  32. Charlee

    Charlee อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    28 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    334
    มีแสนล้านก็ปิดอบายภูมิไม่ได้ ทำบุญด้วยสติให้ผลที่สุด
    สติมาปัญญาเกิด นั้นละทางรู้
     
  33. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :rolleyes: ถ้ากระพ๊มจีบสาวแล้วรู้ว่าเป็นสาวกธรรมกลาย... ถ้าแค่หลงคงให้สติแล้วดูอาการ... ถ้าเพ้อไปแล้ว... คงถีบหัวส่ง...

    :cry: แต่มันคงไม่สนใจเราร๊อก... เพราะไม่มีสมบัติให้มันเอาไปผลาญทำบุญ...

    :rofl:
     
    มิติใหม่ และ Apichai ถูกใจ.
  34. sugit

    sugit อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 Mar 2015
    คะแนนถูกใจ:
    1,111
    คือ ขอโทษ เพื่อน ๆ ด้วยนะครับ

    ที่ผมโพสต์ แล้วไม่เคลียร์

    คือ สิ่งที่ผมตั้งใจสื่อคือ ผมเอง ชื่นชม กัลยาณมิตร นะครับ

    ที่มาด้วยใจที่เป็นบุญ จริง ๆ แต่


    ผมไม่ได้ศรัทธา ธรรมกาย แต่อย่างใด นะครับ

    ผมเองไม่เคยบริจาค ให้ธรรมกาย แม้แต่ บาทเดียว

    แล้วผม ก็ไม่เชื่อด้วยว่า การบริจาค เงินมาก ๆ จะทำให้ขึ้นสวรรค์

    ผมถึงบอกว่า ธรรมกาย คล้ายสร้างทางลัด ให้คนเข้าใจว่า

    การทำบุญกับพระ ที่ เจริญแล้ว (ตามความเข้าใจ ของกัลยาณมิตร นะครับ)

    จะได้บุญสูงที่สุด


    ผมเอง ออกจะกึ่ง ๆ คนที่ไม่ได้ยึดที่ คำสอนของศาสนา เป็นหลัก

    แต่ยึดที่เหตุผล ในการนำมาใช้ กับชีวิต ประจำวัน


    แล้วที่ผม พยายามสื่อ อีกอย่างคือ คนเรา มักจะหา สิ่งยึดเหนี่ยว

    เพราะโลกเรามีทุกข์ ร้อยแปด

    และคนที่ กลัวว่า จะไม่เข้าถึงธรรม จริง ๆ มันมีนะครับ

    คนประเภทนี้ คือคนที่ มีทุกข์อยู่ในจิตใจ มาก่อน แล้วหวังพึ่ง

    การเข้าถึงธรรมเพื่อดับทุกข์


    ธรรมกาย อาศัยจุดนี้ ล่ะครับ ทำให้ ตัวเอง เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว

    และการสอน ของเค้าไม่ธรรมดาจริง ๆ ผมเอง

    เป็นคนไม่เชื่อคนง่าย ผมยังยอมรับว่า พระธัมมชโย เป็นคนมีอิทธิพล

    ทางใจต่อผู้ฟัง อย่างสูง เรียกว่า ฉลาด และ เข้าถึงใจคนฟัง อย่างที่สุด


    ผมอยากบอกเพื่อน ๆ ว่า กัลยาณมิตร ไม่โง่นะครับ

    แต่เพราะความกลัว หรือ ความทุกข์ดั้งเดิม ทำให้ ต้องการที่พึ่ง

    แล้วที่พึ่ง ก็ดูเหมือน จะเป็นทางสว่างเสียด้วย (ในความคิดเค้านะ ไม่ใช่สำหรับผม)


    ผมถึง บอกว่า คนเรา ไม่ควรหาทางลัด ให้กับ การเข้าใจธรรม และ การดับทุกข์

    แต่ควรพิจารณา จากเหตุผล ความเข้าใจของตัวเอง และ สภาวะแวดล้อม

    เพราะเรา ใจเรา เป็นสิ่งเดียว ที่จะทำให้ทุกข์ ในใจเรา หมดลง หรือ ลดลง ได้จริง ๆ น่ะครับ
     
    temp, อู๋ คาลบี้, maya และอีก 2 คน ถูกใจ
  35. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :rolleyes: "ทุกข์" ของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธะคืออะไรขอรับ? ที่ว่าคนเราทุกข์ไม่เหมือนกัน พระศาสดาตรัสว่าทุกสิ่งล้วนเป็นทุกข์... กัลยาณมิตร หรือกาลกิณีที่แสนทุกข์ทั้งหลายที่เชื่อว่านั่นปลดปล่อยได้ รู้พื้นฐานของ "พุทธ" แค่นี้หรือยัง???
     
    phoebus และ chackrapbong ถูกใจ.
  36. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    เชื่อว่า ถึงคราวลงจากดาวสวรรค์ อาจต้องจำนำค้อน แหวนพลอยเพชร ละ แต่ที่แตก คนเห็นแล้วว่าแค่เรซิน จะมีคนรับแลกเปลี่ยนหรือป่าววว คนที่โดนรังแก ถูกกลั่นแกล้ง ก้ออาจออกมาทวงสิทธิ์กัน คงมันส์ละ งานนี้ปลดได้ มีคนสาธุแยอะเลย!
     
  37. padd

    padd อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    14 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,139
    เข้าใจที่สื่อค่ะ แต่คนส่วนมากถึงจะฉลาดแค่ไหนก็ยังหลงไปกับความสวยงามและสะดวกสะบาย จนลืมที่จะทำความเข้าใจถึงหลักความจริง
    ซึ่งธรรมกายก็เพียงแค่ใช้หลักจิตวิทยาบวกกับการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ นำเอาคำสอนในศาสนาพุทธมาตีความให้เป็นประโยชน์กับตัวเองเพื่อหลอกต้มทรัพย์สินจากชาวบ้านเท่านั้นเอง
     
  38. padd

    padd อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    14 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,139
    ค้อนนี่เห็นภาพแล้วน่ากลัวมากค่ะ เหมือนมีตะปูมาแทงทะลุฝ่ามือ ไม่ทราบว่าเค้าเห็นดีเห็นงามกันได้อย่างไร คนที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวก็คงเป็นอย่างนี้นี่เอง
     
    อู๋ คาลบี้ และ Redbuffalo010 ถูกใจ.
  39. chackrapbong

    chackrapbong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,297
    ขอตอบตามความเข้าใจนะครับ

    ทุกข์ นอกจากจะหมายถึงความไม่สบายกายและใจแล้ว ความหมายทีลึกลงไปอีกชั้นหนึ่งคือ
    ทุกข์คือ สภาพที่ไม่สามารถคงทนอยู่ในสภาพเดิม, ทนอยู่ไม่ได้
    การทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ แปรปรวนไป จึงเป็นทุกข์ สภาพธรรมที่ไม่เที่ยงเกิดขึ้นและดับไป สภาพธรรมนั้นเป็นทุกข์
    สมหวังแล้วผิดหวัง พบเจอแล้วเพลัดพราก มีลาภแล้วเสื่อมลาภ ..ฯลฯ ตามธรรมดาของทุกข์ที่ตัองแปรปรวนไป
    ไม่ยกเว้นให้ใครแม้แต่คนเดียว

    เวลาที่ฟังเรื่องอะไรมาแล้วไม่ไตร่ตรอง พูดตามไปโดยไม่รู้ความจริง
    คำพูดนั้นก็ทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ได้เหมือนกัน
     
    แสงธูป และ ทองเค ถูกใจ.
  40. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    ภิกษุทั้งหลาย ! ความจริงอันประเสริฐมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ความจริงอันประเสริฐ คือทุกข์,ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์, ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์, และความจริงอันประเสริฐ คือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.

    ภิกษุทั้งหลาย ! ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? คำตอบคือ ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นถือมั่นห้าอย่าง. ห้าอย่างนั้นอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นถือมั่น ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ. ภิกษุทั้งหลาย ! อันนี้เรากล่าวว่า ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์.

    ภิกษุทั้งหลาย ! ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์เป็นอย่างไรเล่า ? คือตัณหาอันใดนี้ ที่เป็นเครื่องนำให้มีการเกิดอีก อันประกอบด้วยความกำหนัด เพราะอำนาจความเพลินมักทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้นๆ ได้แก่ ตัณหาในกาม,ตัณหาในความมีความเป็น, ตัณหาในความไม่มีไม่เป็น. ภิกษุทั้งหลาย ! อันนี้เรากล่าวว่า ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์.

    ภิกษุทั้งหลาย ! ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? คือความดับสนิทเพราะความจางคลายดับไป โดยไม่เหลือของตัณหานั้น ความสละลงเสีย ความสลัดทิ้งไป ความปล่อยวาง ความไม่อาลัยถึงซึ่งตัณหานั้นเอง อันใด. ภิกษุทั้งหลาย ! อันนี้เรากล่าวว่าความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.

    ภิกษุทั้งหลาย ! ความจริงอันประเสริฐคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? คือหนทางอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปด นั่นเอง, ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ ความเห็นชอบ, ความดำริชอบ, การพูดจาชอบ, การงานชอบ, การเลี้ยงชีพชอบ, ความเพียรชอบ, ความระลึกชอบ, ความตั้งใจมั่นชอบ. ภิกษุทั้งหลาย ! อันนี้เรากล่าวว่า ความจริงอันประเสริฐคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.

    ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แลคือความจริงอันประเสริฐสี่อย่าง.

    ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้นในกรณีนี้ พวกเธอพึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามเป็นจริงว่า “นี้เป็นทุกข์, นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, นี้เป็นความดับไม่เหลือของทุกข์, นี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์,” ดังนี้เถิด

    :inlove: ถูกต้องแล้วขอรับ...

    ... ธรรมะเบื้องต้น... รูปเกิดก็ดับไป สุข, ทุกข์เกิดก็ดับไป ความจำได้หมายรู้ใดๆเกิดก็ดับไป ความปรุงแต่งใดๆเกิดก็ดับไป... พระศาสดาตรัสสั้นย่อกว่านั้นอีกก็คือ... "สิ่งใดๆ (ขันธ์5) ล้วนประชุมลงใน "ความทุกข์" ...

    ... นั่นก็คือ "เสื่อม" นั่นเองขอรับ เมื่อมีการเกิดปรากฏ ย่อมตั้งอยู่ เมื่อตั้งอยู่แล้วจึงเริ่มเสื่อม เสื่อมไปเรื่อยๆ แล้วจึงดับไป...
     
  41. annykun

    annykun อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,591
    ผมไม่มีศาสนานะ แต่ผมมองว่า คนที่นับถือธรรมกาย อาจไม่ได้ถูกหลอกซะทีเดียว คือเค้าเชื่อแบบนั้นจริงๆ เหมือนพวกริร่านที่คงไม่มีใครไปหลอกพวกมันได้ แต่มันกระสันอยากให้เป็นแบบนั้นเอง ผมวิเคราะห์พวกธรรมกายว่า

    - เป็นพวกนับถือพุทธ แต่ไม่ชอบวิถีทางของเถรวาท โน้มเอียงไปทางมหายานมากว่า มีเทพฯ มีสวรรค์ ชอบแนว พุทธผสมพราหมห์ผสมผี ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของสังคมไทยอยู่แล้ว มีกิเลส อยากให้ศาสนายิ่งใหญ่ มีศาสนฐานใหญ่ๆโตๆ แล้วมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้น
    - ชอบความมีระเบียบ สะอาดสะอ้าน สะดวกสบาย
    - ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อหลุดพ้นอะไร ไม่สนนิพพาน แต่อยากอยู่อย่างเป็นสุขในโลกโลกียะนี่ล่ะ
    - อาจเชื่ออย่างจริงจังว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่สมบูรณ์ เพราะเปรียบเทียบว่าการปฎิบัติตามคำสอนเดิม ไม่อาจตอบสนองความสุขในโลกโลกียะปัจจุบันได้ แล้วไอ้หลวงพ่อนะจ๊ะ มันตอบสนองความคิด ความเชื่อแบบนี้ได้
    - บางคนมีแนวคิดว่า วิถีทางเดิมๆ มันฟืนธรรมชาติ ยากทำไม่ได้จึงมีพระทำผิดมากมาย แต่แนวธรรมกาย มีการใช้ประโยชน์จากกิเลส ควบคุมกิเลสมาสร้างความสุขได้ ภาคปราบมาร อะไรของมันนี่ล่ะ หมายถึงควบคุมมารมาทำประโยชน์ให้เรา ดังนั้นแนวทางของพระพุทธเจ้าจึงไม่สมบูรณ์ วิถีทางของธรรมกายตอบโจทย์กว่า ทำง่ายกว่า ควบคุมพระ(และสาวก)ให้อยู่ในร่องในรอยได้มากกว่า แถมยกตนข่มว่าธรรมกายไม่เคยมีพระที่ออกไปทำความเสื่อมเสียเหมือนเถรวาท(แต่จากข่าวที่เห็น เพียบแต่เนียนกว่าเท่านั้นเอง)
    - บางคนแมร่งจิตหลอน จิ้นเห็นดวงแก้ว ก็หลงคิดว่าตัวเองบรรลุแล้ว ฟินอยู่คนเดียว ขนาดหลวงพ่อสดท่านยังฉุกคิดเลยว่า ท่านหลงไปเองรึเปล่าว? หากมันใช่ทำไมมันไม่ก้าวหน้าไปกว่านั้น........
    - บางคนก็รู้สึกเป็นสุขจริง มาธรรมกาย มีเพื่อน พูดเพราะๆหวานๆ พูดคุยธุรกิจกัน หลอกขายตรงกันได้ง่าย จิ้นเอาเองว่าชีวิตตนเองดีขึ้น เพราะธรรมกาย ว่าแล้วก็ทำบุญรัวๆ
    - บางคนก็เชื่อเรื่อง ทำบุญมากๆแล้วขึ้นสวรรค์ อยู่แล้ว มาเจอกระบวนการทำให้เกิดความสุขหลอกๆ ของธรรมกาย ยิ่งเชื่อหนัก บ้างก็ใช้ระบบสารภาพบาปของคริสต์มาใช้ แต่บิดเป็นบุญ ทำบุญมากๆพร้อมสำนึกบาป กรรมจะหายไปได้ มีโอกาสขึ้นสวรรค์
    - นอกนั้นคือพวกมีเป้าประสงค์ หาแนวร่วมทางการเมือง ฟอกเงิน ขายตรง หลอกแดกตัง ฯลฯ
     
  42. ทองเค

    ทองเค อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    25 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    การทำบุญ หลักจริงๆ ในพระพุทธศาสนา ไม่ได้ขึ้นสวรรค์ หรอกครับ
    เป็นแค่หลักปฏิบัติ เพื่อขัดเกลา จิตใจ ส่วนหนึ่ง ก็เพื่อบำรงพระสงฆ์ ให้มุ่งหน้า ทำวัตร ปฎิบัติอย่างเดียว
    จะได้ไม่ต้องมายุ่ง ทางโลก เช่นทำนาปลูกข้าว เป็นต้น เพื่อให้มีเวลา ศึกษาพระธรรม เพื่อจะได้นำมาสั่งสอน
    ผู้ทำบุญ ให้ทาน ในการที่ให้พระสงฆ์ยังชีพ


    พระศาสดาสอน ว่า ส่วนสุด ทั้งสองข้าง ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าจะมี หรือ ไม่มี
    พระศาสดา แสดงธรรมโดยท่ามกลาง
    ธรรมดาของจิต ย่อมมีกิเลส เกิดขึ้นเสมอ เพียงแต่ให้พึงระวัง ในจิตใจ มีสติ เพราะมีเกิดแล้ว ย่อมดับไป
    ให้รู้สาเหตุ ว่า เกิดมาจากใหน กิเลส ย่อมไม่เกิดขึ้น เมื่อเหตุนั้นดับแล้ว


    จะเห็นว่า โดยธรรมเนื้อแท้ ไม่ได้ไปยุ่ง กับ นรก สวรรค์เลย จะมีหรือไม่มี ก็ไม่รู้
    ไม่ได้ไปยุ่ง กับอดีต หรือ อนาคต แต่ให้อยู่ในปัจจุบัน
    การทำสมาธิ ที่ดีที่สุด คือการอยู่กับปัจจุบัน กำหนดรู้ลม หายใจเข้าออกนั่นเอง


    พึงพิจารณา สังขาร ร่างกายตนเอง ซึ่งนับวันมีแต่เหี่ยวชรา
    รสหวาน รสเปรี้ยว ของอาหาร
    ความอบอุ่น ของกายสัมผัส
    ท่านจะเสพได้อย่างไร เมื่อตายไปแล้ว
     
  43. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :rolleyes: นี่แหละขอรับ... ที่แม้ความจริงมีหลักฐานของเรื่องนี้มี... มันก็ยังบ้างมงายกัน... มี จม.เหตุบอกอยู่ขัดๆ ผู้ค้นคิดวิชา สุดท้ายยังตัน ยังต้องไปพึ่งพระเถระผู้ใหญ่มาแก้ปัญหาให้ แล้วถึงรู้ว่ามันผิด มันหลง... แต่ตั้งแต่ยัยฃีปัดระเบิด จนไอ้เห็บซอกตีนหมายังเอามาทำ... เพื่ออันใด? กระพ๊มไม่เชื่อร๊อก ว่ามันไม่รู้เรื่อง จม.เหตุอันนี้...
     
  44. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    ยิ่งทำบุญด้วยเงินที่มาจากสิ่งผิดกฎหมายด้วย ยิ่งไม่ได้บุญ ถึงได้ก็ได้แค่เท่าขี้เล็บ
     
    นอกคอก และ Words of the Buddha ถูกใจ.
  45. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    แกนนำฝ่ายประชาธิปไตยตัวจริงยังหย่าเมียเลย แหม :D
     
    phoebus, JSN, มิติใหม่ และอีก 1 คน ถูกใจ.
  46. -3-

    -3- อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    17 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    890
    ลองโพสรูปแนะนำซักสิบ-ยี่สิบคนสิครับ :p
     
  47. แดงประจำเดือน

    แดงประจำเดือน อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    898
    หลวงพ่อธรรมะไชโยท่านพูดถูกแล้วค่ะ ท่านเป็นต้นธาตุต้นธรรม ท่านตรัสไว้ไม่ใช่การอวดอุตริมนุษยธรรมแต่อย่างใด พระสมณะโคดมท่านต้องการบรรพลุนิพพานเร็วเกินไปทำให้ยังมีมารร้ายหลงเหลืออยุ่ให้เห็นอยุ่ในปัจจุบันมาก หลวงพ่อธรรมะไชโยท่านจึงต้องลงมาสอนให้คนปราบมาร ก่อนที่อีกหน่อยท่านจะกลายเป็นพระธาตุ
     
    Words of the Buddha likes this.
  48. แดงประจำเดือน

    แดงประจำเดือน อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    898
    นี่คือวิธีการฝึกปฎิบัติให้ได้ไปสู่การเป็นนางฟ้าบนสรวงสวรรค์

    10996344_1606637412883324_4704022406863101_n.jpg


    ดิชั้นไม่เข้าใจไอ้พวกแมงสาปทั้งหลาย ทางสวรรค์กว่างใหญ่ไม่เดิน กลับด่าพระสงฆ์เพราะอยากลงนรก ทั้งที่คำสอนของหลวงพ่อท่าน สอนให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ขึ้นสุ่สวรรค์ชั้น7
     
    Words of the Buddha likes this.
  49. Words of the Buddha

    Words of the Buddha อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,860
    :* จุ๊บๆๆ นะป้านะ...

    14001_975487809132000_6773351594245959973_n.jpg
     
  50. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    ถ้าอยากขึ้นสวรรค์ชั้น 7 ไปธรรมโกยไม่ถึงหรอก ต้อง 4ss เท่านั้นเจ๊
     
    JSN, kokkai และ Words of the Buddha ถูกใจ

Share This Page