http://pantip.com/topic/33054854 น้าสาว : ขอคืนเงินครึ่งหนึ่งค่ะ ห้องยังไม่เสร็จแบบนี้จะพักได้ยังไง เจ้าของรีสอร์ท : ผมไม่คืนเงิน เพราะผมมีห้องให้คุณ ถ้าผมไม่มีห้องให้คุณผมถึงจะคืนเงินให้คุณ และถ้าผมคืนเงินให้คุณผมจะขายห้องพักต่อให้ใครได้ น้าสาว : (คิดในใจ เออ... ก็จริงของมัน ถ้าคนมาเห็นสภาพห้องแบบนี้ใครมันจะโง่จ่ายเงินเข้าพักวะ!!! นี่ถ้าโอนเงินมาแค่ครึ่งหนึ่งนะข้าไปนานแล้วไม่นงไม่นอนมันแล้วสภาพแย่ๆแบบนี้) ห้องนี่ยังสร้างไม่เสร็จเรยนะค่ะ เจ้าของรีสอร์ท : เนี้ยเสร็จแล้ว ห้องอื่นเค้าก็เข้าพักกันได้ไม่เห็นมีปัญหา น้าสาว : อึ้ง... (คิดในใจ สภาพนี้เนี้ยนะเสร็จแล้ว และนี่ด่าว่าข้าเรื่องมากมีปัญหาอยู่กลุ่มเดียวอีก) เจ้าของรีสอร์ท : นี่ขนาดให้โอนมาเต็มจำนวนนะยังจะไม่พัก น้าสาว : (คิดในใจ ถ้าข้าไม่โอนมาเต็มจำนวนแล้วมาเห็นสภาพห้องพักเป็นแบบนี้ข้างก็คงไม่พักหลอกโว้ย...) เจ้าของรีสอร์ท : พูดประมาณว่า รีสอร์ทผมใครๆก็อยากพัก น้าสาว : (คิดในใจ ถ้าใครๆก็อยากเข้าพักทำไมไม่คืนเงินล่ะ ห๊าาาาา) แถมต้องมัดจำค่าห้องห้องละ 500 บาท เผื่อของเค้าเสียหายด้วยนะ สมควรต้องเก็บอ่ะของทุกอย่างก๊อกแก๊กมากอ่ะ คือพังง่ายมาก จับเบาๆก็เอียงจะล้มละ และด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา ครอบครัวเราจึง เออ...พักก็พักวะ เพราะแลดูเจ้าของรีสอร์ทเค้าจะเป็นใหญ่เป็นโต ถึงขนาดที่กล้าพูดจาไม่ง้อลูกค้าขนาดนี้ แสดงว่าเค้าคงมีดีพอตัว... (อยากรู้ว่าใหญ่รึเปล่าก็ไปสือกันเอาเองนะจ๊ะ) ---------------------------------------------------------------------------------------------------- นายเบาหวิว มณีแจ่ม นี่แสดงว่าลูกค้ามีเซ้นส์เหมือนกันนะ ความเห็นเพิ่มเติมจากขี้ข้าจ่า www.facebook.com/DramaAdd/posts/10153006640328291
ใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คิทตี้ ช่วยฟ้องเป็นขวัญตาหน่อย อย่ามัวแต่เก่งใช้โจรข่มขู่ลิขสิทธิ์ชาวบ้านร้านค้าเล็กๆเลย ต้องงี้เลย ตัวใหญ่ๆ
เหมือนกันทุกๆตัวเลย คนในพรรคเหี้ยๆแบบนี้ ถึงว่าพวกมันอยู่ร่วมกับไอ้หน้าเหลี่ยมได้ เพราะทั้งเคมีทั้งศีลธรรมนี่เท่ากันเลย คือเลวชนิดนรกส่งมาเกิดทุกตัว
บกพร่องโดยสุจริต... นายเบาหวิวยังชี้แจงประเด็นในโลกออนไลน์ตั้งข้อสงสัย คิตตี้ รีสอร์ท ที่นำมาจากแบรนด์ชื่อดังได้ขอลิขสิทธิ์จากซานริโอ (sanrio) อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ว่าประเด็นนี้ต้องแยกกัน รีสอร์ตแห่งนี้ชื่อคิตตี้รีสอร์ท ภูเรือ คำว่าลิขสิทธิ์ตามกฎหมายคือต้องนำผลิตภัณฑ์สินค้าจากแบรนด์ดังกล่าวไปจำหน่าย ถ้าไม่ดำเนินการตามข้อตกลงจะถือว่ามีความผิด อีกทั้งคิตตี้ยังไม่ได้จดลิขสิทธิ์การทำรีสอร์ต รวมทั้งตนก็ไม่ได้มีจุดประสงค์จะนำรีสอร์ตไปขายจึงไม่น่าจะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อย่างนั้น บริษัทยักษ์แห่งหนึ่งขอไม่เอ่ยนาม ที่ทำรีสอร์ต ฮัลโหล คิตตี้ ก็อาจจะเข้าข่ายที่มีการตั้งเป็นประเด็นเช่นเดียวกัน http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000000724
4 ปี ความสุขที่หายไป ? ความสุขของใครระหว่าง คนยิง m79 ระเบิด อาวุธสงคราม หรือ ประชาชนมือเปล่า มีเเต่ความสุขของคนโกงที่หายไป โกงทุกอย่างเช่น ป่าไม้ ทรัพยากรต่างๆ ความสุขที่หายไปของตำรวจบางนายที่ตอนนี้ต้องติดคุกติดตารางที่กำลังเป็นข่าว
มันโง่ หรือ มันเป็น"ศรีธนชัย"??? "ชื่อ" นี่ก็เป็นลิขสิทธิ์ เอาชื่อเค้าไปใช้โดยไม่ขออนุญาตก็ผิดกฏหมายครับ
vo...ice TV ออกมาช่วยดริฟท์ ?(เพราะเป็นสำนักข่าวเจ้าเดียวที่เล่นข่าวนี้ ผมยังไม่เห็นสำนักข่าวเจ้าอื่น) ยังไม่ฟ้องไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผิดนะครับแหม... เฮลโหลว คิตตี้ ชื่อเสียงไปทั่วโลก เอาคาแรกเตอร์ของเขามาหากินแต่ทำเสียๆ หายๆ แบบนี้ เขาจะยอมหรือ เรื่องนี้ต้องถึงซานริโอแน่ http://news.voicetv.co.th/business/151404.html ซานริโอ เจ้าของลิขสิทธิ์ ยังไม่ฟ้องคิตตี้ รีสอร์ท 5 มกราคม 2558 เวลา 19:38 น. กรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยกรณี "คิตตี้ รีสอร์ท" จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปแบบที่พักชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่พบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากบริษัท ซานริโอ้ ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ได้ยื่นฟ้องร้อง กลายเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับรีสอร์ทเปิดใหม่ที่ใช้ชื่อว่า "คิตตี้ รีสอร์ท" ตั้งอยู่ที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ซึ่งรูปแบบรีสอร์ทตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนคิตตี้และสีชมพู เป็นจุดขายดึงดูดสาวกคิตตี้ให้เข้าไปเที่ยวชม แต่กลับมีกระแสวิพากษ์วิจารย์ว่า รีสอร์ทแห่งนี้ ได้ขอลิขสิทธิ์จาก บริษัท ซานริโอ้ ประเทศญี่ปุ่นแล้วหรือไม่ นายเบาหวิว มณีแจ่ม เจ้าของคิตตี้ รีสอร์ท ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า รีสอร์ทของตนเองใช้ชื่อ คิตตี้รีสอร์ท ภูเรือ ซึ่งคิตตี้ ยังไม่ได้จดลิขสิทธิ์การทำรีสอร์ท หากจะผิดลิขสิทธิ์ คือต้องนำผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ดังกล่าวไปจำหน่าย ถ้าไม่ดำเนินการตามข้อตกลงจะถือว่ามีความผิด ซึ่งไม่ได้มีจุดประสงค์จะนำรีสอร์ทไปขาย จึงไม่น่าจะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า บริษัท ซานริโอ้ ภายใต้แบรนด์ Hello Kitty แบ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญา 2 ประเภท คือเครื่องหมายการค้า รูปการ์ตูนคิดตี้พร้อมระบุชื่อ Hello Kitty และลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนคิตตี้ ซึ่งกรณี "คิตตี้ รีสอร์ท" นั้น ผู้ประกอบการได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปแบบที่พักชั่วคราว ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์ จะต้องให้เจ้าของลิขสิทธิ์หรือบริษัท ซานริโอ้ เป็นผู้ออกมาเรียกร้องค่าเสียหายหรือฟ้องร้องกับทางรีสอร์ทเอง ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีการฟ้องร้องใดๆ แต่หากจะพิจารณาว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่นั้น ต้องดูว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในรีสอร์ท ถูกต้องตามลิขสิทธิ์แท้หรือไม่ สำหรับ ทรัพย์สินทางปัญญา ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ ลิขสิทธิ์ คืออะไรก็ตามที่เจ้าของทำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้ว ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของผลงานนั้น เช่น วรรณกรรม เพลง ภาพยนต์ ส่วนเครื่องหมายการค้า หรือแบรนด์สินค้า หากเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ยี่ห้อของสินค้านั้นๆ ในขณะที่สิทธิบัตร จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือสิทธิบัตรทางการค้า และสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ยื่นจดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท แต่ไม่เกิน 8 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตามกฏหมาย เจ้าของลิขสิทธิ์จะต้องเป็นผู้ยื่นฟ้องร้องกับผู้ละเมิดก่อนเท่านั้น เบื้องต้นจะต้องไกล่เกลี่ยและเรียกร้องค่าเสียหายตามสมควร ส่วนการละเมิดสิทธิบัตร จะมีโทษปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท แต่ไม่เกิน 4 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
เวลาจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อื่นๆ เจ้าของลิขสิทธิ์ฟ้องก่อนหรือว่าจับได้เลยกันนะ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000118857 ตำรวจแปดริ้ว สกัดจับรถบรรทุกสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ได้ของกลางอื้อ
แห๋ม ลิขสิทธิ์หลายอย่างเขาก็ยังไม่ฟ้อง แต่เห็นตำรวจไปไถเงินพ่อค้าจัง https://www.facebook.com/pages/เครือข่ายต่อต้านมิจฉาชีพจับลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน/143122682456807
สงสัยจะดับสนิท... ตบหน้าเห็นๆ! ทีวีอาซาฮีประจาน "คิตตี้รีสอร์ท" เจ้าของอ้างกำลังติดต่อเรื่องลิขสิทธิ์ http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9580000018285 จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้ในเว็บไซต์พันทิปได้วิพากษ์วิจารณ์กรณี "คิตตี้ รีสอร์ท" ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ของนายเบาหวิว มณีแจ่ม อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน "เฮลโล คิตตี้" ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดเรื่องดังกล่าวกลายเป็นสกู๊ปข่าวโด่งดังในสถานีโทรทัศน์อาซาฮีของญี่ปุ่น โดยทีมงานรายการลงพื้นที่รีสอร์ทในไทย กระทั่งมาเจอตุ๊กตาคิตตี้ที่เปลี่ยนไป เสียงสกู๊ปถึงกับตั้งคำถามว่า "นี่คือคิตตี้เหรอ?" อีกด้านหนึ่งได้ติดต่อเจ้าของรีสอร์ททางโทรศัพท์ ก็อ้างเช่นเดิมว่ากำลังติดต่อเรื่องสิขสิทธิ์ ทีมงานจึงติดต่อไปทางบริษัท ซาริโอ้ ที่ญี่ปุ่น ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า บริษัทไม่เคยให้สิขสิทธิ์ใดๆ ไปทั้งนั้น เพราะกำลังดำเนินการตามกฏหมาย
มีคนไปโดนอีก อย่าทำมันเลยรีสอร์ทมันไม่ใช้ทาง ทางของเบาหวิวมันต้องซ่องโจร http://pantip.com/topic/33119089 มหากาพย์คิตตี้รีสอร์ท episode2 กระทู้สนทนา บันทึกนักเดินทางโรงแรมรีสอร์ทเที่ยวไทยร้องทุกข์คุ้มครองผู้บริโภค เจอมากะตัวสดๆร้อนเลยคร๊าาา...เชื่อแล้วว่าคิตตี้รีสอร์ทใหญ่มากกกกก...ไม่มีไฟให้ลูกค้า ไล่ลูกค้าผู้หญิง2คนกับคนแก่เช็คเอ้าท์ตอนเย็น ไม่คืนเงิน...ตำรวจเชิญมาคุยที่สภอ. บอกเชิญลงบันทึกประจำวันได้เลย.....ตามมาจะเล่าให้ฟังค่ะ เจอepisode1 อ่านแล้วก็ว่าสยอง แต่ดันไม่เชื่อเพราะเป็นคนชอบคิตตี้ ที่สำคัญโอนเงินค่าที่พักเต็มจำนวนไปแล้วด้วยทั้งๆที่จะมาวันที่16 17ม.ค. แล้วก็ยังไม่มีคิตตี้สยองepisode1..เช็คอินตอนเย็นเคเบิ้ลไม่มีไม่เป็นไร ชอบคิตตี้ ไม่ชอบดูหนัง ตอนเช้าตื่นมาทานอาหารเช้า ถ่ายรูปเล่น ...ประมาณ11.00น.กลับเข้าที่พัก ไขกุญแจห้องเข้าไม่ได้ เลยเรียกคนงานแถวนั้นมาไข...เค้าบอกต้องใช้เทคนิค แล้วบอกว่าขอตัดไฟแป็บนึงจะทำงาน...เราก็ไม่เป็นไร แป็บนึง แต่แบตโทรศัพท์เรากับของพี่เราก็ใกล้หมด เลยไม่มีไฟชาร์ตแบต....นอนเล่นไปมาหลับๆตื่นๆจน16.30น. พี่สาวเลยไปสนง.เพื่อคุยกับผจก.เค้าบอกให้รอ.พี่สาวก็รอ แต่ทางผจก.กลับเดินมาทางที่พัก เราบอกให้บอกมาว่าอีกกี่นาทีจะต่อไฟให้ เพราะสาเหตุที่ตัดไฟ ทางรีสอร์ทเอาไฟไปใช้สร้าง ต่อเติม รีสอร์ทของตัวเองที่ตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จผจก.บอก30นาที ส่วนพี่สาวเรารออยู่ที่ทางสนง.นานมาก เลยเดินมาเจอผจก. จึงถามว่าทำไมไม่ไปคุยที่สนง.เธอบอกคุยกับที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีไฟ ไม่พอใจก็เชิญเช็คเอ้าท์ออก...พูดต่อหน้าแขกที่มาถ่ายรูปในสวนซะด้วย คงเห็นเราชอบคิตตี้ยังไงเราคงอยู่ อีกย่างตอนนั้นก็ใกล้เย็นแล้วพวกเราจะไปหาที่พักที่ไหน ลูกสาว2คนมากับแม่ที่แก่แล้ว แต่เรามีศักดิ์ศรี ในเมื่อกล้าเชิญแขกเช็คเอ้าท์ เราก็บอกok เช็คเอ้าท์ก็ได้ แต่ต้องหาที่พักให้เรา ผจก.บอกไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องหาที่พักให้ เราก็มาเก็บของแล้วโทรไปขอความช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยว จนได้ที่พัก เลยเดินเอาของมาไว้ที่รถแล้วบอกผจก.ให้แม่บ้านมาตรวจความเสียหาย เพราะก่อนเข้าพักมีค่าประกัน500บาท รอสักครู่ไม่มาจึงโทรไปตาม มาเช็คเสร็จคืนเงินค่าประกันให้500 แต่ไม่คืนค่าที่พักให้2500 ทั้งๆที่ตัวเองไล่แขก ไปขอคืนก็ไม่ให้คืน เลยไปสภอ.ภูเลยให้ตำรวจเป็นคนกลางเชิญมาคุย เพราะเราอยู่ที่นั่นคงไม่ปลอดภัย มีผู้ชายมายืนคุมเชิงแถวๆบ้าน 2-3คน...ทางตำรวจเชิญมาคุย ผจก.บอกไม่ว่างมารับแขกอยู่ จะลงบันทึกประจำวันก็ลงไปได้เลย เป็นไงคะ ใหญ่จริงๆมั๊ยคะรีสอร์ทนี้...หวังว่าคงไม่ทำให้ใครมาเขียนเป็น episode3 ต่อนะคะ *ขออนุญาตลบรูปออกนะคะ เพิ่งเล่นครั้งแรกค่ะ แก้ไขข้อความเมื่อ 18 มกราคม เวลา 20:24 น.
อัพเดท http://www.naewna.com/local/144835 'คิตตี้ รีสอร์ท'โต้ทีวียุ่นมั่วกุข่าว อ้าง'ลิขสิทธิ์'เป็นความลับสองฝ่าย วันจันทร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 09.37 น. 16 ก.พ.58 หลังจากที่แนวหน้าออนไลน์ เคยเสนอข่าว คิตตี้ รีสอร์ท ภูเรือ จ.เลย ถูกนักท่องเที่ยวแฉว่า เปิดให้บริการทั้งๆที่ยังไม่พรร้อมให้บริการ และล่าสุด โทรทัศน์ช่องอาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่น ทำสกู๊ปข่าว เรื่องลิขสิทธิ์ ที่ทางบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ ออกมาเปิดเผยว่า ไม่เคยให้ลิขสิทธิ์ใดๆ คิตตี้ รีสอร์ท นั้น ทั้งนี้ นายเบาหวิว มณีแจ่ม เจ้าของ คิตตี้ รีสอร์ท ภูเรือ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในประเด็นคิตตี้ รีสอร์ท ภูเรือ ยังไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ โดยนายเบาหวิว ได้ตอบเพียงสั้นว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ดูข่าว เช็คข่าวแต่อย่างใด และยังไม่ทราบว่ามีประเด็นอะไร ยังไม่เห็นข่าว ที่ผ่านมาทำมาหากินอยู่ท้องที่ ซึ่งขณะนี้ ทางคิตตี้ เองก็ยังไม่ว่าอะไร และยังไม่ให้สัมภาษณ์อะไรมาเลย และทางเรา และคิดตี้ก็ยังเก็บเรื่องเป็นความลับอยู่ และพร้อมที่จะตอบคำถามทุกคำถามจากสื่อ โดยให้ประสานงานมายังที่ทำงาน ที่คิตตี้ ที่ภูเรือได้ สำหรับ บรรยากาศ การท่องเที่ยว ในพื้นที่ อำเภอภูเรือ และ คิตตี้ รีสอร์ท ภูเรือ เป็นไปตามปกติ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวตามปกติ แต่น้อยกว่าช่วงเทศกาล ฤดูหนาว หรือก่อนปีใหม่และหลังปีใหม่ ที่ผ่านมา ที่มีคนมาท่องเที่ยวมาก
แถไม่หยุดจริงๆ สรุปว่าไม่คิดจะยอมรับผิดเลยซักนิด เฮ้ย เรื่องลิขสิทธิน่ะมันไม่ใช่เรื่องความลับเลยซักนิด ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่ามีการให้ลิขสิทธิรึเปล่า ขนาดการถ่ายทอดสดฟุตบอลยังต้องมีผู้ได้รับสิทธิถ่ายทอดสัญญาณเลย ที่จริง ถ้ายอมรับผิดแต่แรก เรื่องมันก็ไม่มาถึงขั้นนี้หรอก แต่ดันดื้อเอาแต่ได้ แล้วเป็นไง สุดท้ายก็หมดความน่าเชื่อถือในทุกๆด้าน ต่อไปจะทำธุรกิจหรือทำงานก็ไม่มีใครเชื่อถือ เพราะความโง่ของตัวเองแท้ๆ อีกอย่าง โลกยุคนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนที่สามารถปิดข่าวได้หรอกนะ