MGR Online - บก.ป.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จับกุมอดีต ส.จ.กาฬสินธุ์ และ ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ฉ้อโกงเงินค่าข้าวชาวนากว่า 4 ล้านบาท คาสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเตรียมหนีคดีไม่มาฟังคำสั่งศาลตามนัด วันนี้ (14 พ.ย.) กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รักษาการ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับ พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. พ.ต.ท.ประสงค์ พันธ์สวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์โจรกรรมสินค้าทางน้ำ สตช., เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.1, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สนามบินสุวรรณภูมิ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม.2, เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่าย ตม.ขาออก ด่าน ตม.ท.สุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายพิธีการเข้าเมือง ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ จับกุมนายวิทยากร หรือพิสิษฐ ทองเสน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/42 ซ.หมู่บ้านทางรถไฟฝั่งตะวันตก ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 207/2558 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2558 ข้อหาความผิดพระราชบัญญัติการค้าข้าวและฉ้อโกง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่อาคารผู้โดยสารชั้น 1 ขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2549 นายวิทยากร ผู้ต้องหารายนี้ พร้อมด้วย นายธเนศ ชูบ่อฝ้าย อายุ 49 ปี และ น.ส.กาญจน์ภิวรรณ กีรติเรืองเดช อายุ 51 ปี 2 ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ได้ร่วมกันทำการหลอกลวงสหกรณ์เกษตรเกษตร วิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด โดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัท วิทยากรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบกิจการส่งข้าวไปขายต่างประเทศ จากนั้นได้ทำทีเข้ามาติดต่อขอซื้อข้าวของเกษตรกรชาวนา ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ จำนวน 236 ตัน มูลค่า 4,257,900 บาท แต่เนื่องด้วย นายวิทยากร ผู้ต้องหารายนี้นั้นเคยเป็นถึงอดีต ส.จ. กาฬสินธุ์ และยังเคยเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. กาฬสินธุ์ จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อยอมส่งมอบข้าวสารจำนวนดังกล่าวให้ไป โดยมีการชำระเงินให้กับผู้เสียหายมาแล้วบางส่วน แต่ยังคงเหลือยอดค้างชำระอีกจำนวน 3,287,900 บาท เมื่อครบกำหนดผ่อนจ่ายเงินงวดที่เหลือ กลับไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้ จึงรวมตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดี กระทั่งเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล และศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความผิดจริง จึงได้พิพากษาสั่งจำคุกในฐานความผิดพระราชบัญญัติการค้าข้าว คนละ 2 ปี และความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงอีกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 5 ปี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพจึงทำให้ได้รับการลดหย่อนโทษให้คนละกึ่งหนึ่งคงเหลือต้องจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขอยื่นอุทธรณ์ แต่ศาลยังคงยืนยันคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น จึงทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมดตัดสินใจแยกย้ายกันหลบหนีไม่มารับฟังคำสั่งศาลตามนัดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่กองบังคับการปราบปรามได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้กระจายกำลังชุดสืบสวนออกสืบหาเบาะแสจนทราบว่านายวิทยากรจะออกเดินทางไปต่างประเทศด้วยเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 570 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปที่ท่าอากาศยานวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จึงเข้าจับกุมดังกล่าว สอบสวนนายวิทยากรให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาในการหลบหนีแต่อย่างใด เพียงเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่ สปป.ลาว เท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำตัวนายวิทยากรมส่งมอบให้ศาลดำเนินตามกฎหมายต่อไป http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000126615
ลูกน้องจะไม่หนีมั่งได้ไง เจ้านายยังขออนุญาติไปโชว์โง่เมืองนอกตลอด ดีนะว่า คสช เขารู้แกว งานนี้บอกได้อย่างเดียว "คุก"