เป็นไอเดียที่ เหมาะเหม็ง ? ในบทความวันนี้(๒๕ ตค.๕๙) ของป๋าเปลวแก ครับ... *** *** *** โถ...เวรแท้ๆ คนเพื่อไทยดรามาเรื่องยิ่งลักษณ์ ถูกคำสั่งทางปกครอง ให้ชดใช้ค่าเสียหาย ๓.๕ หมื่นล้าน กรณีจำนำข้าว ว่านั่นไม่เป็นธรรม คงหวังใช้ประเด็น "ปูถูกรังแก" เรียกแฟน ประมาณนั้น! วันก่อน เห็นมีละอ่อนโพสต์ fb บริจาค ๑ แสน "ตั้งกองทุน" นำร่อง และชักชวนประชาชนลงขัน คนละบาท-สองบาท ได้ครบ ๓.๕ หมื่นล้าน เอาไปจ่ายให้หลวงแทนยิ่งลักษณ์! "ขยะ" บริสุทธิ์จริงๆ พวกนี้คงจนตา-จนแต้ม ไม่รู้จะแถกยังไง ก็เลยคุ้ยให้มันส่งกลิ่น หวังเรียกแมลงวันหัวแดงมารายล้อมเหมือนตะก่อน สำหรับยิ่งลักษณ์เนี่ย...ผมก็สงสารนะ อยากลงขันช่วยเหมือนกัน แต่เกรงจะเอาเนื้อหนูไปปะเนื้อปูซะเปล่าๆ งั้น...เอางี้ดีกว่า จะบอกให้เอาบุญ เจ้เข้าใจคำว่า "กาละ-เทศะ" ใช่มั้ย ฉะนั้น ไม่ต้องดรามาเรียกแฟนให้เป็นที่หมั่นไส้-รำคาญสังคมหรอก อย่าไปหลงอดีตอยู่เลย ....... ทุกอย่างมันจบแล้ว ไม่มีแล้ว "สีเสื้อ" อย่างตะก่อนน่ะ! ภาวะเช่นนี้ เจ้สงบเสงี่ยมเจียมตัวมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นคุณกับเจ้มากเท่านั้น มันยังอีกนาน-แสนนานหรอก เรื่องคุก-ไม่คุก ในคดีอาญา จะมาก่อนเรื่อง ๓.๕ หมื่นล้าน ด้วยซ้ำ ดังนั้น เพื่อความน่ารัก สิ่งที่เจ้ควรทำ แทนการเล่นบทสาวเครือฟ้า ก็คือ เมื่อรับหนังสือจากคลังแล้ว ถ้าขี้เกียจเก็บเงินสดมากๆ ไว้ที่บ้าน อยากจ่าย ก็ไปจ่าย แต่ถ้าไม่อยากจ่าย ๓.๕ หมื่นล้าน ก็ให้ทนายไปยื่นคำร้องศาลปกครองให้ยกเลิกคำสั่งนี้ซะ! ก็แค่เนี้ย ...... ยังไม่มีอะไรเกิดอย่างที่สมุนในพรรคออกมาบิดลิ้น-บิดเรื่องให้คนหลงเข้าใจผิดตามไปว่า รัฐบาลใช้ม.๔๔ ยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีการยึดอะไรทั้งสิ้น! เมื่อไปยื่นคำร้องต่อศาล เรื่องเข้าสู่กระบวนการแล้ว อีกปีไหน-ชาติไหน ก็ยังบอกไม่ได้ว่า ยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ หรือไม่ต้อง ถ้าต้อง ....... จะชดใช้จำนวนเต็ม ๓.๕ หมื่นล้าน หรือน้อยกว่านี้ ใครก็ยังบอกไม่ได้ จนกว่าศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งอย่างใด-อย่างหนึ่งออกมาแล้วนั่นแหละ! ส่วน ม.๔๔ นั่นน่ะ ....... ไม่เกี่ยวกับการยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ หรือใครทั้งสิ้น เอาไปพูดจับแพะ-ชนแกะหวังให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่ารัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการ มันส่อเจตนาไม่สุจริตนะ ขอบอกให้ทราบประเด็นที่ถูกต้องไว้ตรงนี้เลย เรื่องยึดทรัพย์นั้น ......... ถ้าจะมีการยึด จะยึดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.๒๕๓๙ คือใช้กฎหมายตามปกติที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็ใช้ยึดไปหลายรายแล้ว ไม่ได้ใช้ ม.๔๔ ไปยึด อย่างที่แก๊งทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ พยายามป้ายสี! ม.๔๔ ที่นายกฯ ออกเป็นคำสั่งไปนั้น เป็นคำสั่งต่อเจ้าหน้าที่รัฐ คือเป็นการกำหนดหน้าที่ให้ชัดเจนลงไปว่า ต่อไปนี้ เมื่อมีการยึดทรัพย์ หน่วยงานไหน จะเป็นผู้ทำหน้าที่ ตอนนี้ ให้อำนาจ "กรมบังคับคดี" เป็นผู้ทำหน้าที่ ชัดเจนแล้ว! เข้าใจตรงกันแล้วนะ... ฉะนั้น จะแถอะไร ในเรื่องคดี ก็แถไป แต่ไม่ควรเอาข้อเท็จจริงไปบิดเบือนให้ชาวบ้านเข้าใจผิด และที่เอาไปพูดว่า รีบร้อนใช้คำสั่งทางปกครองเรียก ๓.๕ หมื่นล้าน ส่อเจตนากลั่นแกล้งนั้น ตรงนี้ก็ต้องรู้ การเรียกค่าเสียหาย มีอายุความแค่ ๒ ปี รัฐบาลก็จำเป็นต้องใช้คำสั่งทางปกครอง จะปล่อยให้หมดอายุความไม่ได้ เมื่อเรื่องเข้าสู่ระบบแล้ว จะได้ตัดสินเมื่อไหร่ ศาลปกครองจะรอฟังผลคดีอาญาด้วยหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาลอยู่แล้ว เหมือนคดีแพ่ง-อาญาทั่วไป ที่น่าลุ้นก็คือ ....... ระหว่างคุกกับยึดทรัพย์ หวยตัวไหนจะออกก่อน? คดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง เห็นขอเพิ่มพยานไปเรื่อย จากกำหนดเดิม ที่จะตัดสินราวๆ ต้นปี ๖๐ ก็คงยาวไปราวๆ มิถุนาโน่นแหละ! นั่นก็หมายถึงว่า คดีเรียกค่าเสียหาย ๓.๕ หมื่นล้าน อย่างน้อยก็ต้องยืดเป็นเงาตามไปถึงเดือนมิถุนาประมาณนั้น ประเด็น "ตั้งกองทุน" ระดมเงินลงขัน ๓.๕ หมื่นล้าน ช่วยยิ่งลักษณ์ ผมว่าไม่มีอะไรคลายเครียดได้ดีเท่าประเด็นนี้อีกแล้ว อันที่จริง ๓.๕ หมื่นล้าน สำหรับวงศ์วานว่านเครือยิ่งลักษณ์ กระจอกมาก ๓.๕ หมื่นล้าน เท่ากับ ๓.๕ หมื่นบาท! ผมจะแนะให้...ในเมื่อรัฐบาลเขาใจดี เอาแค่ ๓.๕ หมื่นล้าน เพื่อเป็นการตัดรำคาญ จบๆ กันไป เอางี้...... ตั้งเป็นกองผ้าป่า สมทบทุนไถ่ชีวิต ให้พี่ชาย-พี่สะใภ้ "ทักษิณ-พจมาน" รับไป ๑ กอง โดยบริจาค ๑ หมื่นล้าน ให้พี่สาว-พี่เขย "สมชาย-เยาวภา" รับไป ๑ กอง แต่รายนี้ เขาร่ำลือกันว่า เป็นผู้ฝักใฝ่ทางบุญ-ทางกุศล ทรัพย์ล้นเหลือหลาย ให้บริจาค ๒ หมื่นล้าน! เห็นมั้ย แค่ ๒ เจ้าภาพ ๒ กอง ก็ได้ ๓ หมื่นล้านแล้ว ที่เหลือ ยังขาดอีก ๕,๐๐๐ ล้าน ถือว่าสิวๆ ให้คณะหลานๆ "โอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง" รับเป็นเจ้าภาพ ๑ กอง จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท คณะพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพ ๑ กอง จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท อดีตคณะรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ๑ กอง จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท คณะ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ๑ กอง จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ส่วนยิ่งลักษณ์ ในฐานะ "ผู้รับหน้าเสื่อ" เอาไป ๑ กอง ไม่ต้องถึง ๑,๐๐๐ ล้านหรอก แค่ ๙๙๙,๙๐๐,๐๐๐ ล้านบาทก็พอ อีก ๑ แสน ......... ก็ที่ละอ่อนนั่น เขาบริจาคตั้งกองทุนไว้แล้วนั่นไง! อืมมมม.. วันนี้ ผมได้บุญจมหูเลย เพราะการชี้แนะให้ยิ่งลักษณ์กับญาติโก-โหติเกในภาวะยิ่งดิ้น-ยิ่งมัด, ยิ่งแถก-ยิ่งถลอก ครั้งนี้ ทางพระท่านว่า "เป็นบุญ-เป็นกุศล" อย่างหนึ่ง วันนี้ จบนะ. http://www.thaipost.net/?q=๓๕-หมื่นล้าน-จะเอาจากไหน *** *** *** ถ้าอ่านแล้ว เห็นว่าน่าสนใจ จะลองบอกบุญกันต่อๆไป ก็ได้น่ะครัช...
เป็นบทพิสูจน์ของคนเสื้อแดง สุดท้ายจะลงขันช่วยอีปูได้เท่าไหร่ ได้มาแล้ว 100,000 ขาดอีกไม่เท่าไหร่เอง ช่วยกันนะคนเสื้อแดง นายพลตัดแปะ,มือดีฯ,HOTBOY,คนกลาง ไม่บริจาคกันหรือยัง เขายังเปิดรับบริจาคอยู่นะ อย่ามัวมาทำหน้ามึนแถวนี้ไปลงขันก่อน ค่อยมาโม้ต่อ
โห ต้องใช้ชาวนาตั้งสามล้านห้าแสนคนเชียวนะครับ แต่ก็นั่นแหละ ดีกว่าจะไปเก็บจากโรงสีและพ่อค้าข้าว เดี๋ยวเจอเถ้าแก่แฉจนค่าเสียหายที่ต้องชดใช้กลายเป็นแสนล้าน
หมอวรงค์ คงอยากได้บุญ ให้คำแนะนำไว้ได้น่าฟังเหมือนกัน... *** *** *** http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000106736 *** *** ***
นายชำนาญ ชินบุตร กรรมการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ระบุว่า เบื้องต้นเห็นด้วยในหลักการ เพราะที่ผ่านมา รับทราบข่าวมาโดยตลอดและคิดอยู่ว่า ชาวนาทั้งประเทศที่เห็นด้วยจะมีการรวมตัวและให้การช่วยเหลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อย่างไรบ้าง ใครจะเป็นคนเริ่มต้นวางระบบให้ชัดเจน นายชำนาญ ระบุอีกว่า โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ชาวไร่ ชาวนา เห็นใจอดีตนายกยิ่งลักษณ์มาก และพร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่ ทุกวันนี้ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมาก ขายข้าวก็ไม่ได้ราคา นายชำนาญ ระบุต่ออีกว่า ทุกวันนี้ชาวนาเป็นหนี้ธนาคารแทบทุกคน ดอกเบี้ยหมักหมก รัฐบาลก็แก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ความต้องการของชาวนาในขณะนี้คือทำอย่างไรก็ได้ให้ชาวนาทั้งประเทศลืมตาอ้าปากได้บ้าง หากไม่อยากทำโครงการรับจำนำข้าวเหมือนที่อดีตนายกยิ่งลักษณ์ทำมา ก็ต้องมีมาตรการที่ช่วยเหลือชาวนาอย่างชัดเจนออกมา ส่วนนายวิเชียร พวงลำเจียก ที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย แสดงความเห็นในเรื่องเดียวกันว่า ถ้าเป็นไปได้ชาวนาก็อยากจะช่วยกันระดมเงินเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกยิ่งลักษณ์ให้ได้ถึง 3.5 หมื่นล้านบาท ทุกวันนี้ชาวนามีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมาก ไม่ได้ทำนามาถึง 3 ปี บางส่วนที่ทำนาได้ก็ต้องประสบกับปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และกำลังจะรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์
แค่เศษๆเงินที่พี่ชายกะพี่สาวหน้าซาลอเปา เอาไปจากภาษีคนไทย.....จ่ายคืนมาบ้างเหอะ เอามาช่วยน้องสาวซะหน่อย ชาวบ้านคนอื่นๆ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน
'ประยุทธ์' บอกคดี 'ยิ่งลักษณ์' ไม่มองที่ผิดหรือถูก แต่มองที่ความเสียหาย ชี้ยื่นอุทธรณ์ได้ http://news.voicetv.co.th/thailand/425286.html…
สื่อชอบบิดเบือนพาดหัว กับพวกไม่อ่านหนังสือมาเจอกันก็แบบนี้... ไม่ได้มองเพียงถูกหรือผิด แต่มองความเสียหายด้วย คือมองทั้ง 2 อย่าง ระบุไม่ได้บอกเพียงว่าถูกหรือผิดแต่มองที่ความเสียหายซึ่งเป็นจำนวนมาก
สื่ออื่นบอกอีกแบบ.. เรียกค่าเสียหาย กับ คดีความแยกกัน นายกรัฐมนตรี ระบุผู้ที่ถูกเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ ส่วนการตัดสินว่าถูกหรือผิดเป็นเรื่องที่ศาลจะตัดสิน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าวจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพวก ว่า จำเลยสามารถยื่นขออุทธรณ์ หรือสามารถขอชะลอคำสั่งทางปกครองกับศาลได้ ซึ่งตนมีหน้าที่เพียงนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีหน้าที่ตัดสินว่าถูกหรือผิด เพราะเป็นเรื่องของศาล ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าความผิดในคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้นจำนวนมาก รัฐบาลจึงต้องดำเนินการ และคดีนี้ตนไม่ได้เป็นคนริเริ่ม แต่เป็นคดีที่ค้างมาก่อน พร้อมยืนยันว่าได้ปรึกษากับทีมกฎหมายแล้วการนำ พ.ร.บ. ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาใช้ในคดีนี้ไม่ขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย http://www.now26.tv/view/91103/คดีรับจำนำข้าว-มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้.html พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. บอกว่ากรณีกระทรวงการคลัง ลงนามในคำสั่งทางปกครอง เพื่อให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว 35,000 ล้านบาทนั้น ยังมีสิทธิ์อุทธรณ์ตามขั้นตอน หรือจะขอทุเลาจากศาลได้ เพราะยังไม่ได้ระบุว่าใครผิดหรือถูก พร้อมยืนยันว่า คำสั่งทางปกครองดังกล่าว ไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ และว่านับจากนี้จะไม่มีการชี้แจงหรือตอบโต้เรื่องนี้อีก หากจะมีการชี้แจงก็จะเกิดในชั้นศาลเท่านั้น http://www.ch7.com/watch/199147/นายกรัฐมนตรียืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งเอาผิดโครงการรับ.html
เพื่อไทย เสื้อแดงรีบๆร้องเรียนเลยครับ อาจจะสาวได้อีกเยอะ... อนึ่ง สำหรับการประมูลข้าวในคลังนี้ ผู้ประกอบการส่งออกข้าวที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเคยแจ้งร้องเรียนมาว่า ประมูลซื้อข้าวขาว 5% จากโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/2557 ปริมาณ 220,000 ตัน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ อ.ต.ก. ในระดับราคาตันละ 10,900 บาท ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ชำระเงินและเข้าไปรับมอบข้าวตามสัญญาที่ชนะประมูล กลับพบว่าชนิดข้าวที่บรรจุอยู่ภายในคลังดังกล่าวไม่ตรงกับเสนอประมูลซื้อทั้งชนิดและปีการรับจำนำ แต่ภายหลังพบว่าข้าวมีลักษณะผิดปกติจากมาตรฐานข้าว 5% ที่ประมูลได้ เพราะเมื่อเทียบเท่าคุณภาพเป็นเพียงข้าว 35% และจากกระสอบที่บรรจุ ระบุว่า ข้าวนี้เป็นข้าวจากโครงการรับจำนำ โครงการปี 2554/2555 คนละปีการรับจำนำด้วย เมื่อประเมินแล้วราคาข้าวตามสภาพที่พบน่าจะมีราคาเพียงตันละ 5,000-6,000 บาท จึงได้ทำหนังสือแจ้งปัญหานี้ไปยัง อ.ต.ก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง http://www.matichon.co.th/news/335481
ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า..... เสื้อแดงทั้งหลาย รวมถึงคนในพรรคเพื่อไทย และคนที่เชียร์ปูกะแม้วในเวปนี้ รู้ว่าโครงการนี้ มีการโกงกันมโหฬาร แต่แกล้งมองไม่เห็น เรื่องแบบนี้ มันอยู่ที่จิตสำนึกครับ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ชาวนาลดพื้นที่การปลูกข้าวในประเทศลง http://www.thairath.co.th/content/198428 ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กำชับในเรื่องราคาอ้อย โดยขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมตามงานและเร่งทำโครงสร้างราคามา โดยจะมีการเร่งรัดให้มีการประชุมโซนนิง ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวนาปรังในช่วงนอกฤดูกาลมาปลูกอ้อย หรือพืชชนิดอื่นแทน หรือหากในช่วงน้ำท่วมก็ให้ทำประมง ก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นในทุกฤดูกาล โดยจะนำโมเดลนี้ไปทำในพื้นที่ภาคกลางก่อน http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9560000119104
ผมเห็นด้วยถ้า รบ.ไหนก็ตามที่พยายามช่วยชาวนา แต่ ***ชาวนาก็ต้องช่วยตัวเองด้วย มีเกษตรกรเยอะแยะที่ไฝ่รู้ หาทางพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเอง แล้วชีวิตเขาก็ดีขึ้น ไม่เชื่อคุณลองหาดูในยูทูป มีเยอะแยะ ***การช่วยต้องไม่แอบแฝงเอาชาวนาบังหน้า แต่เบื้องหลังคือการหาช่องโกง
หอมมะลิหลุดจำนำยุ้งฉางอื้อ! ธ.ก.ส.เตรียมเปิดประมูลกันยายน/อีกด้านทำข้าวถุงขาย โดย ฐานเศรษฐกิจ - 24 July 2559 1270 หอมมะลิหลุดจำนำยุ้งฉางอื้อ! ธ.ก.ส.เตรียมเปิดประมูลกันยายน/อีกด้านทำข้าวถุงขาย Advertisement ธ.ก.ส.เตรียมเปิดประมูลขายข้าวเปลือกหอมมะลิหลุดจำนำยุ้งฉาง2.8 แสนตันภายในกันยายนนี้ ก่อนรับข้าวฤดูรอบใหม่ ด้านชาวนาเผยบทเรียนปีที่แล้ว ราคาจูงใจแห่จำนำเพียบ ฟันส่วนต่างราคาตลาด 4 พันบาท/ตัน จงใจปล่อยหลุด ฝนมาเล็งป้องความเสี่ยง ทั้งแบ่งแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ป้อนกรมการข้าว ให้ราคาสูงถึงตันละ 2.3 หมื่นบาท แต่ถ้าตกมาตรฐานตัดขายให้เอกชนในโครงการประชารัฐรับซื้อชี้นำตลาดราคา 200บาทต่อตัน ผลการดำเนินงานโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/2559 แหล่งข่าวคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวทางการระบายข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉางของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรของรัฐบาลเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีเกิดผลขาดทุนจากการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ในปีการผลิต 2558/59 ที่ผ่านมา(เป้าหมายชะลอการขายข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียว จำนวน 2 ล้านตัน) เพื่อช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรและปัญหาราคาข้าวนาปีตกต่ำ โดยล่าสุดทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณืการเกษตร(ธ.ก.ส.)ได้เสนอแนวทางในการระบายข้าวหลุดจำนำยุ้งฉาง 3 แนวทาง ได้แก่ 1.นำข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉางของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรมาสีแปรสภาพเป็นข้าวสารจำหน่าย ประมาณ 1 แสนตันข้าวเปลือก มาสีแปรสภาพเป็นข้าวสาร บรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม จำหน่ายถุงละ 170 บาท โดยให้ ธ.ก.ส.ทุกสาขาเป็นผู้จัดจำหน่าย ทยอยขายจนกว่าจะหมด 2.ขายให้แก่ผู้เสนอราคาซื้อไม่ต่ำกว่าวงเงินสินเชื่อต่อตัน และ 3.ประมูลขายให้แก่ผู้ซื้อทั่วไป โดยใช้ราคาตลาดเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาขาย แหล่งข่าว นบข. กล่าวถึงสถานการณ์ราคาข้าวหอมมะลิในปีนี้ตกต่ำมาก ถือเป็นเรื่องที่แปลก ทาง ธ.ก.ส.เคยเสนอขายให้กับโรงสีกับผู้ส่งออก ก็ไม่มีใครซื้อ ทั้งที่ปกติทุกปีราคาข้าวหอมมะลิราคาจะพุ่งในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม แต่ปีนี้สถานการณ์ตรงกับข้าม ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเหลือประมาณ 9.5 ล้านตันข้าวสาร โดยในส่วนของข้าวสารหอมมะลิเกลี้ยงโกดังแล้ว 7 สอดคล้องกับนายทูลทองใจ ดวนใหญ่ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ข้าวเปลือกที่หลุดจำนำยุ้งฉางที่จะนำมาบรรจุถุงขาย จะคัดเฉพาะที่คุณภาพดี จากนั้นจึงนำมาสู่โรงสีเพื่อสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร และได้มีการจัดจ้างบริษัทผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว หรือเซเวเยอร์ให้เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพก่อนบรรจุถุงส่งมอบให้แก่ลูกค้าเป็นระยะๆ โดยคุณภาพจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด Advertisement สำหรับโครงการจำนำยุ้งฉางปี 2558-59 มีการรับข้าวในโครงการปริมาณ 5.4 แสนตัน มีเกษตรกร/สหกรณ์การเกษตรเข้าร่วม 7.43 หมื่นราย คิดเป็นเงิน 6.9 พันล้านบาท ปัจจุบันมีเกษตรกรมาไถ่ถอน และมีการรับชำระหนี้มา จำนวน 3.82 หมื่นราย มีปริมาณข้าว 2.61 แสนตัน (มี 1 แสนตัน นำไปผลิตเป็นข้าวบรรจุถุง) คิดเป็นเงิน 3.22 พันล้านบาท ปัจจุบันยังเหลือข้าวอยู่ในสต๊อกจำนวน 2.83 แสนตัน ซึ่งจะนำไปเปิดประมูลขายทั่วไปให้กับโรงสีและผู้ส่งออก(ดูตารางประกอบ) ด้านนายทองพันธ์ วิเศษชาติ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและกรรมการวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ตำบลผักไหม จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิหลังจากที่เก็บเกี่ยวแล้วประมาณต้นปี 2559 ก่อนเก็บเกี่ยวจะขับรถไปตระเวนถามราคาโรงสีก่อนว่าแต่ละแห่งจะให้ราคาเท่าไร แต่สอบถามไป 4-5 แห่ง ให้ราคาเพียง 8-9 พันบาทต่อตัน รับไม่ได้ บางคนขนข้าวเปลือกออกจากยุ้งฉางแล้วก็มีต้องไปเก็บไว้ เพราะเปรียบเทียบที่ ธ.ก.ส.ให้ราคาตันละ 1.3 หมื่นบาท ราคาต่างถึง 4 พันบาทก็ปล่อยให้หลุด “ปีนี้ฝนก็เริ่มตกอย่างต่อเนื่อง ผมได้วางแผนการผลิต ส่วนหนึ่งผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิให้กับกรมการข้าว ทางกรมจะรับซื้อตันละ 2.1-2.3 หมื่นบาทแต่ถ้าไม่ถึงมาตรฐาน จะจำหน่ายในโครงการเกษตรรูปแบบแปลงใหญ่ ซึ่งผู้ประกอบการจะรับซื้อโดยให้ราคาสูงกว่าตลาดตันละ 200 บาท เป็นปีแรก ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าราคาไม่จูงใจและตกตํ่าอย่างปีที่แล้ว หากมีโครงการให้จำนำยุ้งฉางจะเข้าร่วมโครงการอีก ซึ่งโครงการต่างๆ ชาวนาจะต้องทราบข่าวจำเป็นต้องพึ่งหลายแนวทาง เพื่อลดความเสี่ยง จะมาพึ่งโครงการใดโครงการหนึ่งอย่างเดียวไม่ได้” จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,176 วันที่ 21 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 Advertisement
ข้าวในโกดังมีตั้งเยอะแยะ อีโง่มันรับจำนำไว้ แล้วโรงสีเค้าจะยอมซื้อแพง ๆ รึ เรื่องมันเพิ่งจะผ่านไป เอ็งเป็นปลาทองรึ ถึงจำไม่ได้
แปะอย่างเดียว? นโยบายญี่ปุ่น? ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นประเทศบริโภคข้าวเป็นอาหารหลักที่สำคัญประเทศหนึ่ง มีเกษตรการทำนาอยู่จำนวนมาก ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรการต่างๆ หลายมาตรการเพื่อปกป้องช่วยเหลือชาวนาอย่างเต็มที่ ทั้งการกีดกันการนำเข้า การให้การอุดหนุนเรื่องราคา รวมทั้งจูงใจให้ชาวนาลดพื้นที่การทำนาโดยกำหนดมาตรการจูงใจ จ่ายเงินชดเชยให้ นโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นใน การจ่ายเงินชดเชยให้ชาวนาในการลดพื้นที่การทำนา เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2513 เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/609419 ใครทำลายอัตลักษณ์ข้าวไทย? ตำนานต้นกำเนิดข้าวหอมมะลิพันธุ์ก้องโลกของไทย ที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ต้องยุติลงถาวร เมื่อชาวนาในพื้นที่เมินเพาะปลูก เหตุให้ผลผลิตต่ำ ทำได้แค่ปีละครั้ง และหันไปปลูกข้าวนาปรังที่ให้ผลผลิตสูงกว่าแทน เพื่อส่งขายในโครงการรับจำนำข้าว http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000036851
ขยายความนโยบายลดพื้นที่ทำนาที่แดงและร่านชอบอ่านแต่พาดหัวแล้วมโน... ส่วนสื่อก็ขายข่าวอย่างเดียว พาดหัว... "ฉัตรชัย"เอาแน่จ้างชาวนาเลิกปลูกข้าว เนื้อหา “ฉัตรชัย”เอาแน่จ้างชาวนาเลิกปลูกข้าว ชงเข้า ครม.สัปดาห์หน้า เปลี่ยนปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม 5.7 แสนไร่ 25 จังหวัด ขอกรอบวงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท ไปทำอาชีพอื่น. เมื่อวันที่ 3 ส.ค. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงมาตรการปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ทำนาไม่เหมาะสม ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปี 2559/2560 ด้านการผลิต เป็นไปตามผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) ครั้งที่ 3/2559 ได้เสนอแนวทาง ปรับลดพื้นที่ปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3 และ N) จำนวน 5 โครงการ วงเงิน 4,911 ล้านบาท 5.7 แสนไร่ใน 25 จังหวัด เป็นวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) 10,686 ล้านบาท เป็นเงินชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ระยะเวลา 6 ปี ค่าดำเนินการปรับพื้นที่และจ่ายจูงใจให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนมาเข้าโครงการทดแทน โดยโครงการปรับเปลี่ยนข้าว ไปเลี้ยงกระบือ เกษตรกร 5,000 ราย 500 กลุ่ม พื้นที่ 25,500 ไร่ วงเงินกู้ 1,500 ล้านบาท เลี้ยงโคเนื้อ เกษตรกร 24,000 ราย 2.4 พันกลุ่ม พื้นที่ 1.2 แสนไร่ วงเงินกู้ 9,000 ล้านบาท เลี้ยงแพะ เกษตรกร 500 ราย พื้นที่ 2,500 ไร่ 50 กลุ่ม วงเงินกู้ 116 ล้านบาท และปลูกหญ้า เกษตรกร 500 ราย 50 กลุ่ม วงเงินกู้ 70 ล้านบาท ทำการเกษตรอื่น 8.4 หมื่นราย พื้นที่ 420,000 ไร่ เป้าหมายเกษตรกร 114,000 ราย รวมกลุ่ม 3,000 กลุ่ม รวมเนื้อที่ 570,000 ไร่ ทั้งนี้ในโครงการส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวไปเป็นเกษตรกรรมทางเลือกอื่น โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายปรับปรุงพื้นที่ ระบบน้ำ ปัจจัยการผลิต และอุดหนุนค่าใช้จ่ายระหว่างการปรับเปลี่ยนอาชีพเพื่อลดค่าใช้จ่ายและมีอาหารบริโภคในครัวเรือน เป้าหมาย เกษตรกร 84,000 ครัวเรือน ปรับเปลี่ยนพื้นที่ 420,000 ไร่ วงเงิน 2,610 ล้านบาท โดยรวมกรอบวงเงินทั้งหมดในการปรับเปลี่ยนอาชีพ 1.3 หมื่นล้านบาท ด้านนายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับโครงการส่งเสริมปลูกพืชอื่นที่เหมาะสม อาทิ อ้อย มันสำปะหลัง มีงบประมาณให้กับเกษตรกรที่สมัครใจปรับเปลี่ยนไร่ละ 10,144 บาท ครัวเรือนละ 5 ไร่ รวม 50,000 กว่าบาท ในการไถ่ปรับแปลงล้มคันนา ปรับแหล่งน้ำ และค่าปัจจัยการผลิต ซึ่งในพื้นที่เตรียมแปลงไว้แล้ว หากเข้าครม.แล้ว สามารถดำเนินการได้ มีนำร่องที่จ.ชัยภูมิและอุทัยธานี ปรับเปลี่ยนเลี้ยงโคเนื้อ ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และดำเนินการจัดหาตลาดรองรับผลผลิตทุกพื้นทีที่โครงการนี้. http://www.dailynews.co.th/regional/513419 http://www.thairath.co.th/content/680957
ถึงจุดนี้ คงต้องยอมรับแล้วว่า ประกันราคา มันดีกว่า จำนำ จริง ๆ เวลานี้ ราคาข้าวรับซื้อตกต่ำลงอย่างมาก พ่อค้าคนกลางที่เป็นผู้ส่งออกเวลานี้ นั่งกระดิกเท้ากดราคา หลังจากถูกคนอื่น(ก็พวกมันแหละ)ผูกขาดซื้อข้าวในประเทศ 3 ปี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เวลานี้ ข้าวที่รับจำนำไว้เหลือเพียบ พ่อค้าแค่นั่งรอให้ได้ราคาที่พอใจแล้วจึงซื้อไปส่งออก ชาวนายังไงก็เป็นรองแน่นอนเพราะไม่มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายกันในครัวเรื่อน ข้าวในโกดังรัฐบาลก็กองรอวันเน่า เสือมสภาพลงทุกวัน ตอนรัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้ระบบประกันราคา แล้วค่อย ๆ ระบายข้าวที่รับจำนำไว้ก่อนหน้านั่นออกไป ผมจำได้คร่าว ๆ ว่าตอนก่อนยิ่งลักษณ์จะเข้ามา ข้าวในโกดังรัฐบาลเหลือแค่ล้านกว่าตันซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ เมื่อสต็อคข้าวรัฐบาลเหลือน้อย ไม่นำออกมาประมูล พ่อค้าคนกลางต้องไปไล่ซื้อเอากับชาวนา แบบนี้ โอกาสราคาข้าวจะสูงขึ้นเป็นไปได้มากกว่า ถึงแม้จะไม่ถึงหมื่นห้า (ราคาโง่ ๆ ) แบบในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชาวนาเมื่อได้เงินประกันราคา มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครัว ก็ไม่ต้องรีบเอาข้าวออกมาขาย เก็บไว้แล้วทะยอยขาย แบบนี้ ซัพพลายข้าวในตลาดก็น้อยลง ราคาก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นได้ ระบบจำนำข้าวหมื่นห้า ตอนนี้มันส่งผลสร้างความชิบแบบไม่มีขีดจำกัดไปแล้ว ข้าวในโกดังรัฐบาลรอวันเสื่อม พ่อค้าคนกลางก็บีบราคาชาวนาไปเรื่อย ๆ ถึงตอนนี้ ไม่รู้ความเสียหายจะไปสิ้นสุดตรงไหน ซวยชิบหาย ประเทศไทย