สวีเดน เป็นประเทศที่ผมว่า OK นะ ไม่กร่าง ไม่ค่อยชอบเสรือกเรื่องชาวบ้าน เป็นขี้ข้าอเมริกา แบบหลายประเทศในยุโรป เป็นประเทศในแสกนดิแดเวียร์ ที่มีนโยบายหลายๆอย่างที่ผมชื่นชม เป็นการส่วนตัว ข้อเสียของสวีเดนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่ผมนึกออกคือ......... โลกสวยมากๆๆๆๆ !!!!
ตามหลักสากล ศัตรูย่อมไม่คุกคามทำร้ายคนในการช่วยเหลือทางการแพทย์ ใครทำถือว่าเลวเกินมนุษย์ เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ? (บ้านเราก็เคยมี แต่ไม่ใช่ศาสนิกหัวรุนแรง)
เรา(หมายถึงไทย) มาถึงจุดนี้ได้เพราะส่งเด็กไปเรียนศาสนาที่ซาอุ เมื่อก่อนตอนเด็กๆผมก็จำได้ว่ามุสลิมไทยไม่เคร่ง ตอนเด็กเคยนั่งรถไฟไปนราธิวาส(สัก25ปีแล้วมั่ง) ผู้คนก็ดูกลมกลืนกันดี ในกรุงเทพตอนผมเด็กๆ ก็ไม่เคยเห็นคนคลุมผมคลุมตัวมิดชิดนะ ต้องถามกลับไปยังชาวมุสลิมสายกลาง ว่ายังจะปล่อยให้เหตุการดำเนินไปจนสุดทางมั๊ย?
ใช่ครับ คนต่างศาสนิกในบ้านเรา เมื่อก่อนก็อยู่กันดี จนกระทั่งการนำเข้าลัทธิสุดโต่งจากประเทศแถบตะวันออกกลาง พอดีผมไปนึกถึงพวกคลั่งการเมืองบุกโรงพยาบาล กับพวกคลั่งแค้นคู่อริของวัยรุ่นน่ะ ลืมไปว่ามีศาสนิกหัวรุนแรงด้วย
การเพิ่มจำนวนประชากรมุสลิมในยุโรปสร้างความกังวลให้เจ้าของประเทศเป็นอันมาก ที่สวีเดนก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง ไม่ต้องรอให้เป็น majority หรอกครับ แค่แพร่ขยายประชากรได้ระดับหนึ่งพวกกระหายเลือดพวกนี้จะเริ่มสร้างปัญหาทันที พวกยุโรปโลกสวยก็จะอ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าประนามเพราะสร้างวาทะกรรมหรูเรื่องสิทธิมนุษยชนไว้มาก อีกประการหนึ่งยุโรปเองในอดีตขนเอามุสลิมมาทำงานที่ตนไม่อยากทำเช่นเหมืองแร่ เหมืองปิดแล้วแต่พวกนี้ยังอยู่ ยุโรปโลกสวยต้องจำใจให้สัญชาติซึ่งยิ่งอำนวยให้พวกนี้แพร่พันธุ์เร็ว ส่วนใหญ่ขี้เกียจ ตั้งหน้าแต่แพร่พันธุ์และเอาประโยชน์จากรัฐสวัสดิการ ภาษีของประเทศจำนวนไม่น้อยถูกใช้ในการดูแลพวกนี้ ผมมีเพื่อนเบลเยี่ยมหลายคน คนเบลเยี่ยมปัจจุบันต่างวิตกเรื่องจำนวนประชากรว่ามุสลิมอาจเป็น majority ในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้นก็เกินจะคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายกเทศมนตรีของเมือง Rotterdam, Netherland คนปัจจุบันก็เป็นมุสลิมเชื้อสายมอรอคโค
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในภาคพื้นยุโรป นอกจากสวิสเซอร์แลนด์แล้วก็มีสวีเดนนี่แหละที่ทัพนาซีไม่กล้าบุก ส่วนเดนมาร์ค นอร์เวย์ ฟินแลนด์ อันนี้ทัพนาซีไม่ต้องบุก เพราะหนุ่มสาวในประเทศพวกนี้สมัครเข้ากองทัพนาซีกันเลยทีเดียว ในยุโรปเหนือพวกสวีเดนจะถือตัวว่าเป็นเชื้อสายพวกไวกิ้งมากกว่าชาติอื่น
ข่าวจากคนไทนในสวีเดน ขนาดคนซีเรียเหมือนกันแค่ต่างศาสนายังรังแกกันเลย ฝากถึงรัฐไทยด้วย พวกนี้ไม่ต้องเอาใจมาก มันได้คืบจะเอาเป็นวา
ผมชอบมุสลิมอยู่คนหนึ่งละ แกชื่อ Aboutaleb นายกเทศมนตรีของกรุง Rotterdam ตั้งแต่ปี 2009 แกเป็นคน Dutch เชื้อสาย Morroccan เป็นลูกอิหม่าม ครอบครัวย้ายถิ่นฐานจากมอรอคโคไปอยู่เนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี1976 แกมีปัญหากับคนมุสลิมที่มาอยู่เนเธอแลนด์แล้วไม่ยอมปรับตัวแถมยังสร้างปัญหาวุ่นวายด้วย แกออกทีวีบอกมุสลิมเหล่านั้นว่า "Pack your bags and f..ck off". อยากให้มุสลิมมีคนอย่างนี้แยะๆจังเลย
ถ้าเป็นในประเทศไทยคงมีพวกมุสลิมไร้สมองและคลั่งวัฒนธรรมอาหรับออกมาปกป้องแทน ส่วนมุสลิมที่เป็นแนวกลางๆก็คงได้แต่เงียบไม่กล้าออกความเห็นอะไรเพราะกลัวความถ่อยของคนกลุ่มแรก
ถ้าเป็นเรื่องพีธีทางศาสนาพวกสายกลางต้องทำตามพวกสายเคร่งอยู่เเล้วครับเเต่ถ้าเป็นการดำรงชีวิตหรือความสายสัมพันธ์ระหว่าง มุสลิม กับคนไม่ใช้มุสลิม จะเป็นไปในลักษณะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมากกว่า พวกสายกลางก็ไม่เห็นชอบกับพวกเคร่งครัดในการเรียกร้องในบางประเด็น เพราะดูเหมือนว่ามุสลิมไประรานวัดพุทธทำให้พวกสายกลางมองหน้าคนพุทธไม่ติดจริงๆ คนมุสลิมไปเรียนโรงเรียนพุทธก็ไม่น้อยเเละไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย จนกระทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 นั้นเเหละ
อย่าว่าแต่สวีเดนเลย ทุกวันนี้ไทยใต้ก็แทบจะเป็นอิรักเหมือนกัน นักการเมืองภาคใต้พยายามเอาเรื่องศาสนามาสร้างขุมกำลัง และฐานเสียงปรากฏช่วงหลังคุมไม่อยู่ เหมือนจะจุดไฟเผาห้องเพื่อนที่ไม่ชอบขี้หน้า แต่ลืมนึกไปว่า อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน
ครับ คาดว่ามันเริ่มคุกรุ่นตั้งแต่ยกเลิกศอ.บต. และเหตุการณ์ปล้นปืนนะครับ ดังนั้น ไม่มีหลักฐานไม่ต้องตอแหลครับ อ้อ กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียว แต่ภาคใต้เกิดการทำลายมากกว่านะครับ
ผมหมายถึงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต่าง ๆ มันมีมานานแล้วครับ เพียงแต่มันเริ่มลุกลามเป็นไฟลามทุ่งมาไม่กี่ปีนี้ เหมือนสมัยก่อนที่ พรรคคอมมิวนิสต์มีแนวร่วมไม่เท่าไรโดยส่วนมากก็เป็นผู้อยู่ในชนบท แต่พอรัฐใช้มาตรการ การปราบปรามที่รุนแรงทำให้ นักเรียนนักศึกษาหันมาเข้าร่วมกับพรรคมากขึ้น
ถูกต้องเลยครับ ตัวอย่างเห็นๆเช่นการทำลายตึกสูงๆ กว่าจะสร้างเสร็จ ใช้เวลาแรมเดือนแรมปี ระเบิดตูมเดียว เรียบ เหมือนกรณีโจรใต้เลย เขาอุตส่าห์สร้างสันติภาพได้จนเหตุการณ์เกือบจะเรียกได้ว่าสงบสุข ผมยังเคยไปเที่ยวแบบไม่ต้องระแวงอะไรเลย ตั้งหลายครั้ง แต่แค่ตัวเห้ ปกครองประเทศไม่เท่าไหร่ มันทำลายความสงบนั้น จนหมดเกลี้ยง
การปราบปรามที่รุนแรงอย่างกรือเซะและตากใบไงครับที่ทำให้แนวร่วมขยายตัว และมันลุกลามมานานแล้ว กลุ่มพูโลนี่แหละที่วางระเบิดกทม.มาแล้ว เป็นการปราบปรามที่รุนแรงและไม่เข้าหามวลชน เรื่องถึงได้ลุกลามมาถึงตอนนี้ไง
สมัยเป็นนักเรียนมีเพื่อนมุสลิม พ่อแม่เป็นผู้ดูแลสุเหร่า(ไม่ทราบชื่อเรียกตำแหน่ง) ไปบ้านเขาก็ไม่เห็นแม่คลุมผ้ารวมทั้งเพื่อน ปัจจุบันเพื่อนคลุมมิดชิด แล้วเคร่งทุกอย่าง เคยถามเขาว่าเมื่อก่อนทำไมไม่คลุม เพื่อนตอบว่าเพราะแต่ก่อนไม่ได้ศึกษาศาสนาให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่กล้าถามไปมากกว่านั้น
http://www.ces.in.th/main/?p=2006 แนวนโยบายที่อังกฤษใช้กับIRA มาปรับใช้กับไทยได้นะฮะ เพราะมีเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวเหมือนกัน ถึงจุดหนึ่ง ผมว่าทำประชามติก็ไม่ใช้เรื่องเสียหาย ประเทศใหญ่ๆอย่างอังกฤษยังทำเลย ดีกว่ามาฆ่ากันตายไม่จบสิ้น แต่ต้องเยียวยาก่อน หลังจากนั้นให้ทุกฝ่ายยอมรับผลประชามติ ถ้าจะทำประชามติจริงผมอยากให้มุสลิมที่อพยพจากภาคใต้ต้องไปพร้อมกับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช้พอลงประชามติแล้ว คนรีบย้ายมาฝั่งไทยหมด
มาจากอาหรับนั่นแหละ ซาอุเป็นประเทศเคร่งมาก ส่งออกความแตกแยกไปทั่วโลก มีเงินจากการขายน้ำมันมหาศาล จะตั้งสุเหรากี่ที่ก็ได้ จะเอาคนไปเรียนกี่คนก็ได้
ก็เพราะมุสลิมไทยไปเจอไอ้พวกคลั่งที่ไปเรียนศาสนาจากตะวันออกกลางกลับมาล้างสมองนั่นแหละครับ ถ้าเป็นฮิญาบผมก็เฉยๆนะ แต่เดี๋ยวนี้เล่นใส่นิกอบเห็นแต่ลูกตากันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผู้ชายเดี๋ยวนี้สามจังหวัดชายแดนก็เริ่มมีแต่งตัวแนวๆอาหรับกันแล้ว
อย่าไปเปรียบเทียบกับการสร้างกรุงโรมเลย มันออกแนว ระเบิดนิวเคลียร์ลงฮิโรชิมา มากกว่า ตูมเดียวพินาศทั้งเมือง
มีทหารเสียชีวิตอีกแล้ว http://www.posttoday.com/local/south/380452 ผมว่าไม้อ่อนอย่างเดียวไม่ดีแน่ ไอ้พวกนักสิทธิฯ มันไม่ได้ไปเสี่ยงด้วย มันเลยโลกสวยอยู่
ยูโปรเริ่มหายโลกสวย ทำตัวตามสบายเหมืนอยู่บ้านเลยนะฮะ คือมึงไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธการขอลี้ภัยนะ ประเทศยูมีหน้าที่จ่ายเงินดูแลผู้อพยพ กาเฟร เสรีภาพมากๆ อยู่กับใครเขายากจริงๆ
คือกูไปจับโจรฆ่าคน นี้เจ้าหน้าที่ต้องเคาะประตู้บ้านขออนุญาติเข้าไปจับโจรมั๊ย เรื่องเหี้ยๆก็เข้าข้างกันจัง แตะไม่ได้เลยพวกมุสลิม
พออพยพไปอยู่กันเยอะๆเข้าก็ประกาศใช้ Shariah หรือกฏหมายมุสลิมในบ้านคนอื่น เจ้าของบ้านต้องทำตามด้วยนะไม่งั้นโดน