หลายครั้งแล้วที่ทีมงานพวกนี้ ทำให้คุณและครอบครัว กลายเป็นตัวตลกห่วยๆของประเทศไทย แต่ถ้าคุณคิดจะทำเอง ผมแนะนำว่า อยู่เฉยๆน่าจะดีกว่า --------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองให้ประเทศที่คิดว่าเสรีประชาธิปไตย เจริญๆ น่ะ เจอสถานการณ์แบบพวกเสื้อแดงไทยเหมือนปี 53 ยิงเอ็ม 79 เอย ระเบิดเอย เผาที่นั่นที่นี่เอย คงสนุกดีไม่น้อย ลองดูมั้ย ?
คงโดนตั้งแต่ เตรียมตั้งค่ายแล้วละครับ ชุมนุมสงบ-สันติแบบไหนกัน ที่มีการตั้งค่าย สร้างสิ่งกีดขวาง ยังกะออกรบ ถ้าผมเป็นมาร์ค ผมคงไม่ยอมตั้งแต่ตอนนั้นแล้วละครับ
ต้องหาทีมงานดีๆ ฉลาดๆ อย่างสุดติ่งมัลลิการองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นถึงระดับหัวหน้าประธานชมรมนักรบไซเบอร์เหลือง ผลงานเก่าๆของเธอ รับประกันคุณภาพ มีแต่ฉลาดๆทั้งนั้น อย่างกรณีกระเป๋าที่สนามบิน โง่ได้ใจจริงๆ คนพรรคนี้
เอเจนซีส์ - เจย์ นิกซ์สัน (Jay Nixon) ผู้ว่าการรัฐมิสซูรีประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 24.00-05.00 น. ในเมืองเฟอร์กูสัน ที่เกิดเหตุ ไมเคิล บราว์น (Michael Brown) วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ถูกยิงดับคาที่ทั้งที่ยอมจำนนชูมือเปล่าเหนืออากาศในสภาพไร้อาวุธในวันที่ 9 สิงหาคมโดย ดาร์เร็น วิลสัน (Darren Wilson) วัย 28 ปี ตำรวจผิวขาวที่อ้างว่าไม่เคยมีประวัติลงโทษผู้ต้องหาเกินกว่าเหตุตลอดเวลา 4ปี สร้างความไม่พอใจในหมู่สังคมชาวแอฟริกันอเมริกันที่มองว่าเป็นเรื่องระหว่างสีผิว และลามไปสู่การประท้วงใหญ่และมีการปล้นสะดมเกิดขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีม SWAT ตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วงด้วยอาวุธหนักเช่น รถหุ้มเกราะ และปืน ร้อนถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ผู้นำผิวสีต้องออกแถลงการณ์ไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม และนำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉิน การประกาศภาวะฉุกเฉินมีขึ้นที่เฟอร์กูสัน 1 สัปดาห์หลังจากที่มีการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงชาวแอฟริกันอเมริกันและผู้ที่ไม่เห็นด้วยกว่าการทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้อำนาจยิงผู้ต้องหามือเปล่าและไร้อาวุธ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของตำรวจอเมริกันที่ยิงผู้ที่ถูกจับกุมทั้งที่มือเปล่า หรือมีอาวุธเพียงแค่มีดปอกผลไม้ โดยเฉพาะผู้ถูกจับกุมเป็นชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ เช่น แอฟริกันอเมริกัน ละตินอเมริกัน หรือแม้กระทั่งเอเชียนอเมริกัน และการประท้วงนำไปสู่การจลาจลใหญ่ที่มีการจุดไฟเผาและปล้นสะดมร้านค้าที่ทางตำรวจมิสซูรีและหน่วย SWAT ได้ขนอาวุธหนักที่คล้ายกับกองทัพขนาดย่อมๆ ปะทะกับผู้ประท้วงอเมริกัน ด้าน เจย์ นิกซ์สัน (Jay Nixon) ผู้ว่าการรัฐมิสซูรีอเมริกันผิวขาวชี้แจงว่าเหตุที่ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเพราถึงแม้ผู้ประท้วงจะประกาศก้องถึงการแสดงออกอย่างสันติ แต่เขาจะไม่ยอมให้ใครก็ตามใช้เหตุความไม่พอใจนำไปสู่การปล้นสะดมร้านค้าที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของเฟอร์กูสันต้องมัวหมอง “เป็นอันดับแรกเราต้องยังคงรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ นี่เป็นบททดสอบเพราะคนทั้งโลกกำลังจับจ้องมิสซูรีอยู่ มิสซูรีจะไม่อดทนยอมให้การก่อหวอดความรุนแรงของคนเพียงแค่หยิบมือมาทำลายความตั้งใจดีงามเพื่อแสดงเจตุจำนงของชนหมู่มาก” นิกซ์สันกล่าว นอกจากนี้ ผู้ว่าการรัฐมิสซูรียังแถลงเพิ่มเติมว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) กำลังเร่งมือสอบสวนคดียิงให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ด้านรอน จอห์นสัน (Ron Johnson) ผู้บังคับตำรวจทางหลวงเฟอร์กูสัน ที่ออกแถลงการ์ณร่วมกับนิกซ์สัน แถลงเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ FBI จำนวน 40 คนจะทำสอบถามแต่ละบ้านเพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุมาตกรรมครั้งนี้ คนทั้งคู่ออกแถลงการณ์ที่โบสถ์ในเฟอร์กูสันท่ามกลางเสียงโห่ไล่แสดงความไม่พอใจของชาวเมืองเป็นระยะๆ เหตุความรุนแรงปะทุล่าสุดในคืนวันศุกร์ (15) เมื่อผู้บัญชาการตำรวจเฟอร์กูสันโทมัส แจ็กสัน (Thomas Jackson) ได้เปิดเผยชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ลงมือปลิดชีพบราว์น และพร้อมกับเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานการทำความผิดของบราว์นวัย 18 ปีที่ได้ขโมยซิการ์ 1 กล่องมูลค่า 50 ดอลลาร์ และข่มขู่เจ้าของร้านก่อนที่เขาจะถูกยิงเสียชีวิต และเหตุที่ดาร์เร็น วิลสัน (Darren Wilson) วัย 28 ปี ตำรวจผิวขาวยิงวัยรุ่นผิวสีวัย 18 เสียชีวิต “ไม่ใช่เป็นเพราะทราบล่วงหน้าถึงเหตุอาชญากรรมทีบราว์นก่อไว้” และที่ทางตำรวจต้องทำร้ายบราว์นเพราะผู้ต้องหาได้ทำร้ายเจ้าหน้าทีในรถตำรวจ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รายงานว่า การให้ความเห็นของ แจ็กสัน ที่ดูเหมือนปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชายิ่งกระพือความโกรธให้กับฝูงชนในเฟอร์กูสัน ด้านสาธุคุณ อัล แชปตัน ผู้นำการเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและนักจัดรายการของ MSNBC เครือข่ายทีวีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ครอบครัวแจ็กสันจะนำการประท้วงอย่างสันติที่เฟอร์กูสันในวันอาทิตย์ (17) การกระทำเกินกว่าเหตุของตำรวจสหรัฐฯที่รุนแรงต่อผู้ถูกจับกุมพบได้สม่ำเสมอ และน้อยครั้งมากที่เจ้าหน้าที่จะถูกพิพากษาว่าผิดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯมีช่องทางกฎหมายคุ้มครองการปฎิบัติหน้าที่ และส่วนมากชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯจะถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังในการจับกุม หรือยิงจนเสียชีวิต ไม่เฉพาะแต่แอฟริกันอเมริกันเท่านั้น แม้แต่กระทั่งชาวอเมริกันเชือสายเอเชีย เช่น ในปี 2012 Xiaojie Li วัย 44 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ถูกตำรวจรัฐแมสซาสชูเซตใช้ที่ช็อตไฟฟ้ากับเธอ ถึงแม้ว่า Li จะเป็นเพียงผู้หญิงร่างเล็กเมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ2 นาย และยังไม่หยุดใช้อุปกรณ์ช็อตไฟฟ้าถึงแม้ว่า Li จะล้มตัวลงไปนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวดและร้องโหยหวนในสภาพน่าเวทนาในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ทั้ง 2 นายนั่งคร่อมอยู่เหนือตัวเธอใช้ที่ช็อตไฟฟ้าจ่อไปที่เธอไม่หยุด ในความผิดที่ Li ขอซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนจากร้านแอปเปิลสโตร์ประจำเมืองนิวทาว์นด้วยเงินสดจำนวน 4 เครื่องเพื่อนำไปฝากญาติที่อยู่เมืองจีน และเธอปฏิเสธที่จะออกจากร้านเมื่อพนักงานปฎิเสธการขาย ทั้งนี้ลูกสาววัย 12 ปีของ Li ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีได้อธิบายกับนักข่าวว่า มารดาของเธอไม่ทราบว่า พนักงานร้านได้แจ้งตำรวจให้พาตัว Li ออกจากร้านเพราะมารดาของเธอไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ในช่วงนั้นแอปเปิลสหรัฐฯมีนโยบายจำกัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟนแก่ลูกค้าแค่คนละ 2 เครื่อง และภายหลังได้ยกเลิกนโยบายนี้
เสียของ! โอ๊คโหนนศ. / ไพบูลย์ลั่นถ้าให้ไปก็ออก เชิญกลุ่มต้านบริหารชาติ http://www.thaipost.net/?q=เสียของโอ๊คโหนนศ-ไพบูลย์ลั่นถ้าให้ไปก็ออกเชิญกลุ่มต้านบริหารชาติ "โอ๊ค" เรียกร้องปล่อยนักศึกษา ทางด้านนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่าน Oak Panthongtae Shinawatra ตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ที่พูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อคืนวันศุกร์ ถึงพฤติกรรมของอดีตนักการเมืองบางคนล็อบบี้ต่างชาติให้กดดันประเทศไทยว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากตัว พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าคนอื่น เพราะปฏิวัติท่านก็สั่งการเอง ดำเนินการเอง และเมื่อปฏิวัติเสร็จ ก็เสนอตัวเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง "น้องนักศึกษาที่ถูกจับตัว ก็ถูกจับภายใต้ ม.44 ที่เป็นอำนาจเบ็ดเสร็จของท่านเอง เมื่อมีการใช้ปืน ใช้รถถัง และกำลังทหาร เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองบ้านเมือง ก็เท่ากับประเทศถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการ เมื่อนักศึกษาซึ่งถือว่าเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ถูกจับกุมตัวไป โดยที่มิได้ทำอะไรผิดกฎหมายของโลกเสรี ทุกประเทศทั่วโลก ก็ต้องแสดงความห่วงใย ประเทศเสรีประชาธิปไตยทั่วโลกที่เขาเจริญแล้ว เขาก็ต้องกดดัน ต้องบอยคอต เพื่อให้ระบอบเผด็จการนี้มันหมดไป และมันเป็นปกติวิสัยที่ประเทศเผด็จการ เขาก็โดนกดดันกันทั่วโลก คงไม่มีใครไปสั่งอเมริกา อังกฤษ ยุโรป ออสเตรเลีย หรือประเทศอื่นๆ ให้มากดดันใครได้หรอกครับ" นายพานทองแท้ระบุ นายพานทองแท้ระบุอีกว่า แทนที่จะเรียกคนไทย ไปปรับทัศนคติให้เข้าใจหัวอกเผด็จการ ท่านควรปรับทัศนคติตัวเอง ให้เข้าใจหัวอกคนที่เขารักประชาธิปไตย และปล่อยน้องๆ นักศึกษาให้ออกมาสู่อิสรภาพ เท่านี้ประเทศต่างๆ เขาก็คลายการกดดันแล้ว อย่าไปโทษคนอื่นเลย
วิธีปิดปากFbโอ๊ค ผมว่าไม่น่าจะยาก ในเมื่อมีการโพสต์Fbในนามของโอ๊ค แสดงว่าโอ๊คต้องมีความรู้ ความเข้าใจปัญหาต่างๆ พอสมควร ****ให้ทหารเชิญ(ส่งหมายเรียก)เจ้าตัว มาพูดคุย มาให้ความเห็น ให้คำแนะนำ โดยมีการบันทึกภาพตลอดรายการ แล้วออกอากาศ ให้คนได้รู้กันให้ทั่วประเทศ ว่าเจ้าตัว(โอ๊ค) มีกึ๋นขนาดไหน ****ถ้ายังโพสต์อีกก็เชิญมาอีก เอาออกอากาศอีก สาวกจะได้ชาบูกันเต็มที่ เจอสักครั้งสองครั้ง คงเข็ดไปอีกนาน