เพลงนี้ต้องรำวงเลยครับ ... กลองทอม มันส์อย่าบอกใคร ... กำลังนึกเพลงต่ออยู่นะครับ ... เพลงอะไรดีหว่า ...
แทบจะทุกประเทศ ต่างมี อนุสาวรีย์ และ ปฎิมากรรม ทำหน้าที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของประวัติศาสตร์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นความเป็นมา และซึมซาบกับ ราก ของตนเอง สืบทอดตำนานเล่าขาน ปัจจุบัน ก็ยังมี ปฎิมากรรม ที่ศิลปิน ได้สร้างสรรค์งานเหมือนที่อดีตศิลปิน รุ่นก่อนหน้า ได้เคยทำไว้ การสร้างสรรค์งานด้านปฎิมากรรม ยังคงนิยมกันอยู่ทั่วโลก ผลงานบางชิ้นถูกประดิษฐ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์จนเราแทบจะอ้าปากค้างเมื่อได้เห็น เบื่อๆ ไปเที่ยวกันไหม….. ไปเที่ยว-ดู ปฎิมากรรม ที่แฝงความคิดสร้างสรรค์ จากประเทศต่างๆ…. Hippo Sculptures, Taipei, Taiwan People Of The River, Singapore An Anonymous Passerby, Wroclaw, Poland Expansion , New York, USA The Knotted Gun, Turtle Bay, New York, USA Mustangs , Las Colinas, Texas, USA Les Voyageurs, Marseilles, France Nelson Mandela, South Africa Sinking Building Outside State Library, Melbourne, Australia Mihai Eminescu, Onesti, Romania
วันนี้ไปเที่ยวสองประเทศครับ เวลาที่เราสัมผัสความสูงเสียดฟ้า เมฆอยู่เพียงแค่เหนือหัวเอื้อมมือไปสัมผัสได้ ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ด้วยความรู้สึกแปลกไปจากชีวิตประจำวันที่เราคุ้นเคย แต่มีอีกสิ่ง ที่ให้ความรู้สึกฉงน สนเท่ห์ ไปไม่น้อยกว่า เป็นบรรยากาศของสะพานที่มักจะเชื่อมต่อ ระหว่าง ยอดเขาสองลูก เพื่อให้เราได้ข้ามไปอีกฝาก วันนี้ดูเหมือนว่า มีอยู่สองแห่งในโลก ที่สร้างความแปลกตา ตื่นใจ ให้กับผู้ที่ไปพบเห็นและสัมผัส แห่งแรก ที่เมืองจีน ใช้ กระจก ส่วนที่เยอรมัน ใช้การเรียงตัวของหิน ไปเมืองจีนก่อน... เป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้น จากยอดเขาสองลูก เดิมทีเป็นสะพานไม้ ต่อมา วิศวกรทีมหนึ่งได้เปลี่ยน มาใช้กระจกแทน กระจกถูกออกแบบมาให้รับแรงกระแทกและน้ำหนักได้สูงกว่าปกติ มากกว่า 25 เท่าของความแข็งแรงกระจก สะพานนี้ตั้งอยู่ที่ มณฑล Hunan สูงจากพื้นล่าง 180 ม(ประมาณตึก 60 ชั้น) มีความยาว 300 ม ทั้งความยาวและสูงทำลายสถิติโลก Longest Glass Bridge In China สำหรับอีกประเทศ เยอรมัน ใช้วิธีการที่ต่างออกไป โดยใช้การเรียงตัวของหิน ให้ความรู้สึกให้เราได้สัมผัสกับอารมณ์ แนวธรรมชาติมากกว่า ส่วนตัวแล้วชอบสะพานนี้มากกว่า บรรยากาศโดยรอบ มีมุมมองกว้าง เห็นได้ทั้ง Germany-Switzerland-Czech Republic สะพานเดิมแห่งนี้สร้างด้วยไม้ ปี 1824 ต่อมาปี 1854 ได้มีการปรับปรุงเป็น modern sandstone bridge. Bastei Bridge In Germany
ตอนแรกแม่มะนาวอยากไป ภูทับเบิก แต่จากรูปล่าสุดที่เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยว ล้มครืนไปเลย ทำไมกลายเป็นงั้น เฮ้อ.....
แล้วเขาค้อล่ะคะ ยังพอสวยไหม คือบรรยากาศรอบๆน่ะค่ะ อยากไปดูหมอก แต่ไม่อยากดูความไม่มีระเบียบใต้หมอก แล้วคุณปลายฯ ได้ขึ้นไป บนวัดที่ภูทับเบิกไหมคะ ดูจากรูปสวยมาก
เขาค้อยังพอรับได้ครับ ... เนื่องจากมีจุดให้ดูได้หลายแห่ง ... ทีพักน่าจะอยู่ตัวแล้ว( คือจุดดีๆ ดุหมอกสวยๆเนี่ย เป็นที่พักไปตั้งนานแล้วน่ะครับ บางส่วนก้อเป็นสถานที่ราชการ พอควบคุมได้) วัดที่ภูทับเบิก .. .เคยขึ้นไปจนถึงหมู่บ้านน่ะครับ ไปนอนที่สถานีอนามัย ... ได้บรรยากาศแบบหมู่บ้านชาวเขาไปอีกแบบน่ะครับ ... ภูทับเบิก เขาค้อ อช.ทุ่งแสลงหลวง อช.ภูหินร่องกล้า อยู่แถบๆนั้นทั้งหมดน่ะครับ .. แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน ... ที่ผมบอกไม่อยากไปภูทับเบิกอีกแล้ว เพราะเคยไปมาหลายครั้ง แล้วก้อเห็นวิวัฒนาการมาจนถึงจุดๆนึง . .ว่าไม่ไปแล้วดีก่า .. .ไม่ใช่ภูทับเบิกแล้วน่ะครับ ...
หลายครั้งที่ไม่เข้าใจ ผู้คนชอบดื่มด่ำกับธรรมชาติ แต่ไม่ค่อยเคารพธรรมชาติสักเท่าไร เก้าอี้ชุดน้อย จิบเครื่องดื่มที่ถูกใจ นั่งคุยกันไป ไม่ก็ทอดสายตาไปไกล พักอารมณ์ คนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้
เพิ่งกลับมาถึงบ้าน ห่างไป เกือบเดือน #งานหนักมาก คงจะเป็นจริงตามอารมณ์ที่คุณ stormtrooper รู้สึกได้ แต่อีกด้านของอารมณ์ ในคลิป นี้ พยายามสื่อถึงอีกด้านของชีวิต และคลิปนี้ (ผมเข้าใจเอาเอง) คงจะตั้งใจเผย ชีวิตด้านมืด มีข่าวดีมาฝากครับ สหรัฐฯเตรียมติดตาข่ายกันกระโดดสะพาน สะพานโกลเด้นเกทสัญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของนครานฟรานซิสโก กำลังจะมีระบบป้องกันคนกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย หลังจากคณะกรรมการสะพานโกลเด้นเกทมีมติอนุมัติงบประมาณ 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 2,400 ล้านบาท ให้แก่โครงการติดตั้งตาข่ายที่ทำจากสแตนเลสความหนา 5.32 นิ้ว โดยตาข่ายจะยื่นออกไปด้านล่างประมาณ 6 เมตร ตลอดความยาวสะพานสองด้าน สะพานโกลเด้นเกท เป็นจุดที่มีผู้ใช้เป็นสถานที่ฆ่าตัวตายมากที่สุดในสหรัฐ และเป็นอันดับสองของโลก นับจากสะพานเปิดใช้เมื่อปี 2480 มีผู้ใช้สะพานแห่งนี้ฆ่าตัวตายกว่า 1,600 คน ขณะปีที่แล้วมีผู้มาฆ่าตัวตายที่นี่ทั้งหมด 38 คน ขอส่งกำลังใจให้แก่ผู้คน พ้นไปจากด้านมืดของชีวิตด้วยครับ
หากใครไปเวียดนาม แล้ว บอกว่า ไม่รู้จัก “Son Doong” อาจเป็นเพราะ ไปเช้าเย็นกลับ (หรือเปล่า) งั้นไป เวียดนามกัน สักโพสท์ ครับ ชาวนาในเวียดนามได้พบถ้าแห่งหนึ่ง ในปี1991 (แต่ก็ไม่มีใครสนใจสำรวจ) อยู่ทางตอนใต้ของ Hanoi. ประมาณ สี่ร้อยกว่า กิโลเมตร ต่อมาได้ เรียกชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า “Son Doong” “Son Doong” มีความยาวประมาณ 140 กม ส่วนที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร กว้าง 80 เมตร พอที่เราจะเอาตึก40 ชั้น 20 ห้อง ใส่ลงไปได้อย่างพอดีเลยทีเดียว “Son Doong” เป็นถ้ำมหัศจรรย์ มีระบบนิเวศน์ เป็นของตัวเอง ภายในมีสัตว์ แม่น้ำ ทะเลสาป ดอกไม้ป่า etc…และนี้เป็นที่มาของชื่อ“Son Doong” ที่มีความหมายว่า “Mountain River Cave.” ภายใน “Son Doong” มีความเป็นธรรมชาติ และสวยงามตระการตา จับใจผู้ไปเยือนทุกคน ไปดูกัน….
อลังการธรรมชาติสร้างจริงๆนะครับ ... เห็นแล้วทำให้ผมนึกถึงถ้ำลำคลองงู เมืองกาญจน์ เลยน่ะครับ จะไปๆๆมาหลายครั้งยังไม่ได้ไปซักที ... เฮ้อ
เมื่อวันก่อน เพื่อนสมัยเรียนโทรมาหา เพื่อนเล่าให้ฟังว่า อพยพครอบครัวมาพักที่หัวหินเป็นเดือนแล้ว เพราะควันป่า จาก ประเทศอินโดนีเซีย ฟุ้งกระจาย หายใจลำบากและเข้าขีดอันตราย และกำลังเป็นปัญหาใหญ่ ที่จะกระทบต่อการท่องเทียวในภาคใต้ นักท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวไปภาคอื่น และคาดว่าควันป่าครั้งนี้ จะยาวไปถึงกลางเดือนหน้า วันนี้ถือโอกาสไปอินโดนีเซียสักวันครับ ไปดูภาพจาก Bromo ปะทุ เมื่อสองปีก่อน Mount Bromo ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออก ของเกาะชวา มีความสูงสองพันกว่าเมตร เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมากที่สุดแห่งหนึ่ง Bromo เป็นสำเนียงดั้งเดิมจากชาวชวา ที่มีรากมากจาก Brahma หรือใน ศาสนาฮินดู หมายถึงพระผู้สร้างโลก Mount Bromo อยู่ในเขต เรียกว่า "Sea of Sand" ทะเล(แห่ง)ทราย มีทางเข้าสะดวกไปที่หมู่บ้าน Cemoro Lawang แล้วเดินเท้าไปอีก 45 นาทีหรืออาจจะไปด้วยรถ Jeep ก็ได้ จะมีจุดพักชมวิวในระดับสูง ชื่อว่า Gunung Penanjakan การประทุของ Bromo จากฝีมือการถ่ายภาพชาวอินโดนีเซีย ที่ชื่อว่า Helminadia Jabur http://www.helminadia.net/p101763409/h5afa540a#h5ce8cb1a Mount Bromo In Indonesia หากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงเรา Bengawan Solo ก็เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชาวอินโดนีเซียเช่นกัน
ผมไปเที่ยว"นำ้ตกเจ็ดสาวน้อย"มามีรูปมาฝากคุณ"ปลายขอบฟ้า"ด้วย ผมถ่ายรูปไม่เก่งหรอกนะครับ พอดีมานั่งพักแล้วเห็นมุมนี้สวยดี เลยเก็บมาฝาก
เคยไปมา 2 - 3 ครั้งน่ะครับ ครั้งหลังสุด น่าจะ 4-5 ปีละ ... แต่ไม่เคยถ่ายภาพได้มุมมองแบบรูปนี้เลย ... เครเลยคับ
หนีออกจากบ้าน ไป Neeguru Land นะเอย ( ที่หายไป เพระาว่าเก็บตัว ไม่ได้ไปเก็บภาพที่ไหนเลยน่ะคับ ชีวิคอับเฉามากๆ)
สวัสดีครับ คุณ"ปลายขอบฟ้า" ช่วงปีใหม่ผมได้มีโอกาสไป"ม่อนแจ่ม"เลยเก็บภาพปลายขอบฟ้ามาฝาก ม้านั่งนี้คงบันทึกภาพความทรงจำของใครหลายคนที่เคยมานั่งแล้วมองไปที่"ปลายขอบฟ้า"
ขออภัยครับ ... ไม่ได้มาทักทายเลย ... ม่อนแจ่มสถานที่ฮิตติดอันดับของเชียงใหม่ ... บางครั้ง สิ่งที่สวยงามที่สุด ก้อคือ สิ่งที่มันเป็นของมันอยู่แล้ว ไม่ต้องไปแต่งแต้มปรุงแต่งอะไรให้มากมาย เหมือนภาพของคุณแสงธูปนะครับ .. รู้สึกสบายตาดี
ภาพบางภาพสื่อความหมายได้หลายอย่าง .... แล้วแต่คนมองนะครับ ... เมื่อกลางเดือนเพิ่งมีโอกาสได้ไปเพิ่มพลังงานชีวิต อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปซักพัก .. จะพยายามหาช่องว่างของเวลาเข้ามาบอกเล่ากันนะครับ .. .เผื่อใครสนใจจะไปเพิ่มพลังชีวิตกันบ้าง ... เสริฟ์ภาพประเดิม อันนี้เห็นว่าสวยดี เป็นของเพื่อนน่ะครับ ผมไม่ได้ไปเอง ดอยผาตั้ง เชียงราย..... อยากสัมผัสถึงภาพให้มากขึ้น ต้องลองไปสัมผัสสถานที่จริงกันนะครับ สัวสดีปีใหม่ นะครับ
ภาพๆเดียวกัน ... ตะวันดวงเดียวกัน ... สถานที่เดียวกัน ... ความรู้สึก อาจแตกต่างกัน ... คนละเรื่องราว ...
ภาพบนเหมือนเรามีความหวัง ภาพล่างช่างเหงาจับใจ "รักร้างที่บางประกง" พรเพชร พรเทวา Cr : suchin sv ยามสว่าง ผู้คนขวักไขว่มากมาย ยามค่ำมา มองหาใครไม่มี แม้แต่เงาในน้ำที่คอยมองเรา สุดท้ายแลหามิเห็น ทิ้งเราไปแล้วหนอแสงสุริยา แม้แต่แสงจันทรายังทอดมาไม่ถึงเรา
ไปมาเก๊ามาไม่ได้ตั้งกระทู้ เอารูปมาฝากไว้ที่นี่ละกันนะคะ มาเก๊าเป็น 1 ใน 4 เขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน โดยแนวคิดของเติ้ง เสี่ยว ผิง เดิมเคยอยู่ใต้ปกครองของโปรตุเกสดังจะเห็นตัวหนังสือโปรตุเกสอยู่ทั่วไป รูปรวมมิตรสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คและของกินของมาเก๊า เวลาน้อย พักนี้งานยุ่งเหมือนทุกท่าน ลงแต่รูปภาพ ต้องขออภัยด้วยจ้าาา
บอกตรงๆนะครับ ตัวกระผมเองไม่เคยไปต่างบ้าน ต่างเมืองเลย ... เอาแบบตรงๆกว่านั้น ... ผมไม่ชอบเครื่องบิน ... อาหารจีน ญี่ปุ่น ... แบบว่าน่ากินนะครับ แต่ สำหรับผมคงต้องขอน้ำจิ้มซีฟูดส์ รสจัดๆ ซักถ้วย จักเป็นพระคุณยิ่งเลยล่ะครับ
ใกล้ตรุษจีนไปอีกปี ... ขอลงภาพพระพุทธ สถานที่ต่างๆ ที่ได้ไปมา ซึ่ง ... บอกตามตรงอีกครั้ง ผมก้อจำไม่ได้เหมือนกันที่ไหนบ้าง แต่ทุกที่ อยู่ในจังหวัดอ่างทองน่ะครับ ... แบบว่า ชวนๆสายบุญ ขับรถไปไหว้พระเก้าวัดกัน .. ก้อนะ .. พออายุมากขึ้น วัดวาอารามก้อเริ่มสวยขึ้นทุกวันน่ะครับ เชิญชมเลยครับ ใครรู้วัดอะไรบ้างก้อบอกมาเตือนความจำเจ้าของบ้านได้นะครับ
ชีวิต คือ การเดินทาง แค่บางครั้งคราวขอไปสัมผัสสิ่งใหม่ๆนอกเส้นทางบ้าง ... หลังจากที่ผมห่างหายการเดินทางแบบกางเต๊นท์ นอนหนาว ดูดาว มาหลายปี .... มาปีนี้กะไว้ว่าจะออกไปสัมผัสแบบนั้นอีกครั้ง ก่อนที่สภาพร่างกายจะไม่เอื้ออำนวยตามตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้น ... สถานที่แรกตามความตั้งใจตั้งแต่ปีก่อน คือ ยอดโมโกจู อุทยานแม่วงศ์ แต่ .. จองไม่ทัน ขนาดถึงเวลาปั๊บ ส่งจองปุ๊บ .. ยังไม่ทัน .. เอาละหว่า ไปไหนดีล่ะเรา .. น้องๆร่วมทริปที่จะไปกับเราเสมอมา เลยเกิดอาการอารมย์ค้าง ... ก้อพอดีกับมีโปรแกรมเข้ามาช่วงปลายปี วันเด็กปีนี้ทางกลุ่มที่ไปแจกของเด็กเป็นประจำ ไปที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก .. .ก้อนะ เอา หาข้อมูลกัน ..... แล้วก้อไปจ๊ะเอ๋กับที่ๆไม่เคยไปมาก่อน .... ไม่ใช่สิ ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ ... คือ ม่อนคลุย กับ ดอยเปเปอร์ .... หาทางไปกัน กำหนดทริป 5 วัน 4 คืน เดินทางเช้าวันพุธ ที่ 11 ที่ผ่านมา ผู้ร่วมทาง 8 ท่าน รถโฟว์วิล 1 คัน ธรรมดา 1 คัน ... ไปเรื่อยๆ มาเรียง จุดหมายแรกที่จะหยุดพัก คือ อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ ซึ่งเคยไปมาแล้วครั้งนึง แต่ เป็นทางผ่าน และ เหมาะกับการกางเต๊นท์มาก เลยไปอีกครั้ง ปัญหา คือ ช่วงที่ไปมีมรสุมเข้าทางด้านตะวันตก เจอฝนพรำตลอด ทางช่วงตาก แม่สอด กำลังซ่อมแซม (ครั้งก่อนที่มาขุนพะวอครั้งแรก ก้อกำลังซ่อมแซม น่าจะซัก 2 ปีได้แล้ว) กว่าจะถึงขุนพะวอ มืดพอดี ประมาณ 5 โมงเย็น มืดแล้ว ถามเจ้าหน้าที่ กางเต๊นท์ไม่ได้เฉอะแฉะไปหมด จนท.ถามว่าเผื่อทางเลือกไปที่ไหนต่อหรือเปล่า เราบอกไม่มีครับ .. จนท.บอกบอกงั้นเดี๋ยวไปขอหัวหน้าหน่วยให้ พักบนที่ทำการเลย แค่ช่วยรักษาความสะอาดด้วยละกัน .. สวรรค์เลยครับ คืนแรก ท่าน หน.หน่วย แวะมาพัก บอกตามสบายเลยครับ .. ก้อขอขอบพระคุณทั้งเจ้าหน้าที่และท่านหัวหน้าหน่วยอุทยานขุนพะวอมา ณ.ที่นี้ นะครับ ... รัวๆไป กับ บรรยากาศขุนพะวอช่วงเช้านะครับ
สวยมากเลยครับ คุณ"ปลายขอบฟ้า" น่าจะเรียกว่าบรรยากาศดีมากกว่า อยากไปมากเลย (ต้องไปให้ได้) ผมมีคำถามขอถามคุณปลายขอบฟ้าหน่อยนะครับ - เส้นทางชันมากไหมครับถ้าเทียบกับ"ดอยอินทนนท์" - บริเวณกางเต๊นท์มีห้องน้ำส่วนรวมไหมครับ - มีเต๊นท์ให้เช่าไหมครับ "ขอบคุณครับ"
บรรยากาศโดยรวม คือ สงบและสวยงามครับ สถานที่กางเต๊นท์ดีมาก บ้านพักก้อมีนะครับ มีห้องน้ำรวมให้ครับ มีเต๊นท์ให้เช่าด้วยครับ ส่วนเส้นทาง ... อืม ผมว่าธรรมดานะครับ ไม่ชัน ขึ้นเขาเล็กน้อยน่ะครับ แต่ตอนนี้เส้นทางจาก ตาก ไปแม่สอด กำลังทำเกือบตลอดเส้น ขับต้องระวังกันหน่อย ถ้าไปเส้น อ.บ้านตาก ทางคดเคี้ยวพอประมาณ แต่สะดวกกว่า .. น่ะครับ
คืนแรกที่ขุนพะวอผ่านไปแบบสบายๆ อากาศกำลังดี ห้องน้ำห้องท่าอย่างดี และใครจะไปรู้ว่า หนทางต่อจากนี้ เราจะได้อาบน้ำกับห้องน้ำดีๆ สบายๆแบบนี้อีกครั้ง คือ ก่อนกลับบ้านในอีก 4 วัน ข้างหน้า ขุนพะวอเป็นแค่ทางพักชั่วคราวนะครับ .... จุดหมายของเราจริงๆเริ่มต้นขึ้นในวันที่สองของการเดินทางนี่แหละครับ ... เราลงจากขุนพะวอ มาพักกินข้าวสายๆกันที่ตัวอำเภอแม่สะเรียง ... แล้วก้อเดินทางต่อ หนทางอีกยาว ผ่าน อ.ท่าสองยาง ( สโลแกนอำเภอนี้หวานมาก .... ท่าสองยาว ทางสองเรา ฮิ้ว) ที่ๆเราจะไปตั้งต้น คือ ตำบลท่าสองยาง เราแวะตุนเสบียงเล็กน้อย ที่ทางเข้า ที่พักคืนสุดท้าย อช.แม่เมย มีตลาดย่อมๆให้จับจ่าย ขับผ่าน ตัวตำบลท่าสองยาง (อดีตเคยเป็นตัวอำเภอ ภายหลังย้ายตัวอำเภอไปอยู่ในที่ๆปัจจุบัน) เอ ... ชักงง หาทางเข้าไม่เจอ ขับกลับมาที่ตัวตำบลท่าสองยางใหม่ ถามตำรวจที่ด่าน บอกยังไม่ถึง ไปอีก เราเลยหาอะไรรองท้องกันก่อนที่ร้านข้างทางก่อนเข้าตัวอำเภอท่าสองยาง เหมือนจะชื่อร้าน เต้กาแฟสด .. ใครผ่านไป กรุณาแวะอุดหนุนกันนะครับ ขอบอกว่า อาหารอร่อย ไม่แพง และอัธยาศัยดีมากๆ (ทริปนี้เจอแต่คนมีน้ำใจฝุดๆจิงๆตั้งแต่เจ้าหน้าที่ อช.ขุนพะวอ แวะซื้อผักข้างทางริมแม่น้ำเมย ก้อสด ถูก แถมมีแถมอีกต่างหาก) ซื้อเสบียงอีกนิดหน่อย สอบถามเส้นทาง เพราะความไม่แน่ใจว่ารถขับสองล้อ จะขึ้นม่อนคลุยได้หรือเปล่า เจ้าของบอก ถ้ามาหน้าแล้ง ขึ้นได้ แต่นี่ฝนเพิ่งตก ไม่แน่ใจ ถ้าไม่ไหว ให้หารถเหมาเอาที่หมู่บ้านระหว่างทาง ( ทางขึ้นม่อนคลุย แยกจากทางหลัก ไปอีก 7.5 กม. ผ่านหมู่บ้าน 1 แห่ง ) เอ้าลุย .... ลงรูปเรียกน้ำย่อยก่อนครับ .. มีอะไรอีกเยอะเลยครับ กว่าจะถึงม่อนคลุย
ทางขึ้นม่อนคลุย ... 7.5 กม. จากเส้นทางปกติ ... หน้าแล้ง ทางแห้ง รถขับสองเข้าได้มั้งครับ ถ้าปรับถนนดีๆนะ ... แต่ วันนที่ผมไป เพิ่งผ่านฝนตกมาให้ดินเละๆมาซัก 2 วัน จากปากทาง ถึงหมู่บ้าน ประมาณ ครึ่งทาง มีทั้งเนินชัน ทางปูนสลับกับทางดินลูกรังเละๆ มีลื่นปัดให้ได้เสียว มีหล่มบ้าง ตั้งแต่ปากทางเข้า ผมก้อให้ คันขับสี่ล้อนำเลย เผื่อฉุกเฉิน จะได้ดึงได้ (คิดไว้ในใจ) แต่พอเวลาจริง .. ไม่รอกันไม่ได้น่ะครับ คือหาที่จอดรอกันไม่ได้น่ะครับ ก่อนถึงหมู่บ้าน รอที่นึง ก้อว่า ไปเลย ยังพอไหว(เหงื่อเริ่มซึมหลัง) พอถึงหมู่บ้าน(จำชื่อไม่ได้น่ะครับ เป็นภาษากระเหรี่ยง) ว่า เอาวะ ทางน่าจะดีขึ้น แต่พอพ้นหมู่บ้านหมดถนนปูนในหมู่บ้านเท่านั้น หยุดรถมองถนนตรงหน้า มันเป็นทางโค้ง ลูกรังผสมดิน เละๆ มีแอ่งน้ำ และขึ้นเนิน .. ซึ่งเพราะมันโค้งนี่แหละ เลยทำให้ไม่เห็นข้างหน้าว่า ถนนต่อไปเป็นยังงัย .. หันมาคุยกับคนในรถ สาวๆ อีก 3 คน เห็นสีหน้าก้อรู้ ท่าจะไม่ดี เลยตกลงว่าไม่เสี่ยง ถอยหาที่กลับรถ ขับกลับลงมาที่หมู่บ้าน ( ก่อนขึ้นผมเล็งรถไว้คันนึง ขับผ่านหมู่บ้าน เห็นคุณน้องท่านนึงกำลังล้างรถอยู่ข้างทาง TOYOTA ยกสูง ล้อพร้อมลุย สีน้ำเงิน ) กลับมาถามคุณน้องว่า น้องคับ พอจะมีเวลาไปส่งผมที่ม่อนคลุยบ้างไหม หรือ มีใครรับเหมารถไปส่งบ้าง น้องก้อ ลังเลอยู่แป๊บนึง (คงคิดว่า ตรูกำลังล้างรถ มรึงจะทำให้รถตรูเลอะอีกละ) ก้อบอกว่า ก้อได้ครับ แต่ผมไปส่งแล้วลงเลยนะครับ เพราะมีธุระต่อ ... เอาซีครับ ขอถ่ายของจากรถผมก่อน ... เอารถไปจอดไว้ลานกลางหมู่บ้าน หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้านเลย ไม่หายแน่นอน .. ย้ายสัมภาระกันล่ะครับ เลยตกลงว่า เอาของที่ต้องใช้พอ ถุงนอน เต๊นท์ ผ้าใบ ของส่วนตัวเล็กน้อย เสบียง และ ไม่ต้องขนอุปกรณ์อาบน้ำไป ค่อยลงมาอาบพุ่งนี้ ( ของส่วนใหญ่ของสมาชิกอยู่คันผม เพราะขามาเจอฝนตลอดทาง อีกคันไม่มีที่ไว้) .. ลุยเลยครับ เพราะอีกคันที่ขึ้นไป คงกำลังคิดว่าอีกคันหายไปไหน คงไม่รอด ผมก้อกลัวว่าจะลงมาตาม จะเสียทั้งเวลา และ หวาดเสียวเพิ่ม เพราะทางส่วนใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับให้รถสวนกันน่ะครับ ซึ่ง ตลอดระยะทางที่เหลือจนถึงยอดดอยม่อยคลุย ทำให้ผมคิดถูกครั้งนึงในชีวิต ที่ไม่ขับขึ้นมาเอง คงไม่รอด ... มีทั้งลื่น ลงหล่มน้ำ .. คือทางนี่หน้าฝน สำหรับรถโฟว์วิลล์ เท่านั้น คุยมาในรถ น้องที่มาส่งเค้าก้อไม่ได้มีอาชีพนี้นะครับ ... น้องเค้าเป็นครู ที่ รร.ในหมู่บ้านน่ะครับ กำลังล้างรถ เพื่อจะออกไปรับนักศึกษาจาก มหาลัยแห่งนึง มาจัดกิจกรรมวันเด็กที่ รร. ... เจอคนใจดีอีกละ ... ระยะทางประมาณ 3.5 กม. ลุ้นกันเป็นพักๆ ในที่สุดก้อมาถึงจนได้ครับ .... ดอยม่อนคลุย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก สูงจากระดับน้ำทะเล 1,099 เมตร ..... ภาพยามบ่ายๆก่อนเย็น .. ชุดแรกครับ
ชุดที่ สอง ม่อนคลุย ภาคบ่ายถึงเย็น ... ภาพที่ปรากฎ บรรยายได้แค่ส่วนนึงเท่านั้น ส่วนที่เหลือคงต้องให้ทุกๆท่านหาเวลาเดินทางไปสัมผัสด้วยตาตัวเองซักครั้ง ..... สองภาพหลัง เป็นอาหารการกินของเย็นวันนั้น .. .
สวัสดีครับ คุณปลายขอบฟ้า หลังจากได้ชมการท่องเที่ยวที่"ตาก"ของคุณปลายขอบฟ้าแล้วทำให้ผมกับลูกสาวอยากไปมาก(แต่คงต้องรอต้นปีหน้าเพราะปิดเทอมใหญ่นี้มีโครงการแล้วว่าจะไป"ตราด"กัน ลูกสาวอยากไปดูหาดทรายสีดำ) เราสองคนพ่อลูกเลยลองวางแผนการไปเที่ยว"ตาก"กัน (แต่คงไม่ไปม่อนคลุยเพราะไม่กล้าทั้งๆที่ดูจากภาพของคุณปลายขอบฟ้าแล้วต้องบอกว่าสวยมากๆจริงๆโดยเฉพาะรูปที่ถ่ายตรงป้าย"ม่อนคลุย"ดูแล้วเหมือนอยู่ในเทพนิยายเลย) เลยวางแผนกันว่า จะไป "อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ"กับ"น้ำตกทีลอซู" กัน ไม่ทราบว่าคุณปลายขอบฟ้า พอจะมีที่ไหนแนะนำเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ แบบที่เส้นทางไม่ค่อยโหดมากเพราะ ทีมผมเป็นประเภท"รถก็เก่าคนก็แก่" ขอบคุณครับ
ขุนพะวอ .. ทางสบายๆคับ ... ทีลอซู ถนนลอยฟ้า ทางใช้ได้เลยนะคับ ศึกษาเส้นทางหน่อยคับ .. .ถ้าแบบสบายๆแนะนำ มีอุทยานอีกหลายแห่งเลยนะคับ เส้นนั้น ... เที่ยวไม่ยาก อช.ตากสิน ,อช.ลานสาง,อช.น้ำตกพาเจริญ,ถ้าดูหมอกก้อ อช.แม่เมย ไปง่ายคับ แต่ขุนพะวอ กับทีลอซู แยกคนละทางนะคับ ต้องวางแผนการเที่ยวดีๆ ถ้าอยากขึ้นม่อนคลุยจิงๆ มีรถรับส่ง(เหมา) จาก อบต.ท่าสองยางนะคับ ติดต่อได้
อันนี้ ม่อนคลุย ยามเช้า ... ถ้ามาแบบได้สัมผัสความงามของจิง ต้องเดินคับ .. มีโปรแกรมเดินจากม่อนทูเล มาม่อนคลุย .. 2ัน 1 คืน หรือ จะเป็น 2 วัน 2 คืนก้อได้คับ แล้วแต่ ... สดชื่นเลยคับ
ขอต่อนะคับ ... วันนั้นบอกให้รถมารับเราตอนสามโมงเช้า เป็นรถชาวบ้านในหมู่บ้านน่ะครับ ไม่ใช่คันเดิมที่มาส่งหรอกครับ เพราะครูเค้าต้องไปเตรียมงานวันเด็กแล้ว (เสียดายไม่ได้แวะไปที่โรงเรียน) ขาลงไม่เสียวเท่าไหร่ น่าจะคนมารับขับชำนาญน่ะครับ ลงมาเปลี่ยนรถเราที่หมู่บ้าน ... แล้วก้อเดินทางต่อ แวะทานข้าวร้านเดิม เต้ กาแฟสด เลยถามว่าแถวนี้มีที่อาบน้ำใหม เค้าบอกนู่นเลย ที่ อบต.ท่าสองยาง กับที่ สภ.ท่าสองยาง ได้ทั้งสองที่ .. ใช่ครับ ไปขออาบน้ำที่ สถานีตำรวจ กับ อบต. ซึ่งติดกัน .. สบายเลยเรา ... แวะเตรียมเสบียงที่ตลาดตัวอำเภอท่าสองยาง พยายามติดต่อ ไถ่ถามผู้คนแถวๆนั้น ว่าจะไม่พลาดอีก จุดหมายหน้า ดอยเปเปอร์ รถเราขึ้นได้ไหม ... สรุปว่า .. รถขับสองล้อไม่แนะนำอย่างแรง .. ขับสี่ล้อ มีประสบการ์ขับขึ้นเขาพอควร ขับได้ .. แต่ คนขับรถอีกคันที่ขับสี่ล้อมาก้อไม่อยากขับขึ้นเขาแล้วน่ะครับ .. เอางัยดี เข้ามาถามที่หมู่บ้านก่อนขึ้นดอย จะหารถเหมาขึ้น .. ไม่มีครับ ทั้งหมู่บ้านไม่มีเลย เพราะวันนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมา เปิดทำถนนที่วัดทางที่เราจะไปนี่แหละครับ รถเลยขึ้นไปกันหมด ... แล้วเราจะทำงัยดีทีนี้ ... มีคนในหมู่บ้านบอกว่า ตอนนี้ถ้าอยากขึ้นจิงๆ ก้อพอมี .. คือ ตอนนี้มีรถหกล้อ ทุกทรายขึ้นไปทำถนนที่ผู้ว่าฯเปิดนี่แหละ ซึ่งตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายสามโมง รถเที่ยวสุดท้ายกำลังจะออก ให้แวะไปดู ... เราก้อไปครับ เอารถไปจอดที่วัด เดินไปถามพี่เค้า .. เค้าบอกถ้าไปได้ก้อไปเลย .. ขึ้นทรายจะเสร็จแล้ว เที่ยวสุดท้ายสำหรับวันนี้ ... ใช่คับเราไป .. ขอบรรยายรถหกล้อที่ว่านิดนึง(ลืมถ่ายรูปมา) เป็นรถหกล้อ แบบต่อเองน่ะครับ กระบะไม่มีลูกกรงข้าง เปิดโล่ง มีลูกกรงด้านหน้ากั้นกับคนขับนิดนึง ประตูคนขับก้อไม่ต้องใช้น่ะครับ มีแกลลอนผ่าครึ่งต่อสายน้ำเกลือมาหยดลงที่หม้อน้ำ เพื่อระบายความร้อน .. อืมนะ ... เราไปกันแปดคน ก้อให้สาวๆ 4 คน ไปกับรถขับสี่ล้อ พร้อมสัมภาระเท่าที่เอาไปได้ (น้องคนขับที่ไปด้วยบอกพี่คับ ผมก้ออยากไปหกล้อมากกว่า) ... ผู้ชาย 3 คน ไปกับหกล้อ ... ประสบการ์ณที่ไม่มีวันลืม นั่งบนทราย หลังหกล้อโล่งๆ ขึ้นเขาชันมากๆๆๆๆๆ ระยะทาง 15 กม. ... ตอนนั้นคิดไม่ออกว่า จะคุ้มไหม จะดีไหม เสี่ยงไปไหม .. แต่คิดอย่างเดียวว่า มาถึงนี่แล้ว .. นะ อีกนิดนึง 15 กม. เองน่า ไปดูภาพกันครับ จะคุ้มไหม กับหน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์ ...
คืนนั้นเราพักกันที่ดอยเปเปอร์ อากาศกำลังเย็นเลยล่ะครับ .. ไม่ต้องคิดเรื่องอาบน้ำ เพราะอุปกรณือยู่กับรถอีกคันที่จอดไว้ข้างล่าง ของที่ขนขึ้นมาส่วนใหญ่ คือ ที่นอน เต๊นท์ อาหารและอุปกรณ์ ... เช้า ถ่ายรูป หาอะไรรองท้อง คันของน้องกับสี่สาวก้อลงก่อนเลย ส่วนผมเด็กท้ายหกล้อ ต้องขอนั่งหลังรถอีกกลุ่มนึงที่เค้ามาพักที่นี่เหมือนกัน ไปที่จุดหกล้อเอาทรายไปลง ห่างจากที่ดอยเปเปอร์ประมาณ 5 กม. จุดที่ตั้ง เจดีย์ โฆ๊ะผะโด๊ะ หรอื พระมหาธาตุเจดีย์โลกะวิทู อ.อมก๋อย (ลืมบอกทางเส้นนี้ตัดไปทะลุอำเภออมก่อยได้นะครับ) ไปถึง ถามไถ่พระที่อยู่ที่นั่น (รูปเดียว) ว่าได้เลย รอรถมาส่งก้อลงไปกับเค้าได้เลย .. กว่าจะได้ลงมากับรถหกล้อ ถึงด้านล่างก้อ เที่ยงกว่า น่ะครับ ...
สวัสดีครับ คุณ"ปลายขอบฟ้า" ผมมีโอกาสไป"อุทยานแห่งชาติภูแลนคา"(ผาหัวนาค) ที่"ชัยภูมิ"มา ไม่ลืมที่จะหามุมสักมุมเก็บภาพ"ปลายขอบฟ้า"มาฝากแขวนไว้ในห้องนี้สักภาพ ปล ไม่อยากจะแก้ตัวเลยความจริงผมมีภาพที่มุมสวยกว่านี้อีกแต่ ไฟล์ใหญ่ เลยเอามาแปลงลดขนาดแต่เผลอไปลบทิ้งแทน ดีที่มีภาพสำรอง (ที่เหลือมีผมอยู่ในภาพทั้งหมดไม่กล้าเอามาลงกลัวเพื่อนๆฝันร้าย )