อย่าลืมคณะทัวร์ ไปไหน เพื่ออะไร มีคัย ตัยจ่าย กท.ทำไรต่อ ตม. ตื่นแล้วยัง ยังไม่น่าจบ Happy Ending ง่ายๆนะ
สมยศมีวันนี้เพราะเดินตามดมตรูด มนตรี พงษ์พานิช (นักการเมืองสุดฉาวที่ลือกระฉ่อนว่าเสียชีวิตเพราะเป็นโรคที่มั่วทางเพศ ) เป็นเวลากว่า10ปี จัดว่าสปีชีเดียวกะไอแจ๊ด O_o
คิดแง่บวกก็คงโดนเล่นงานทั้งคณะนั่นแหละ เสาไฟฟ้าไม่ได้ซวยคนเดียวแต่พาพวกเดียวกันซวยไปด้วย ถ้าไม่ปล่อยเสียของก่อนน่ะนะ
คาเธ่ย์ หมี ข่าวเศร้า แจ๊ดเตรียมตัวกลับไทยแย้ววว ด่วน! ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น คุมตัว "คำรณวิทย์" มาสนามบิน นาริตะ - กลับถึงไทยบ่าย 3 วันนี้ #FM91 goo.gl/n9Xjho เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง เอางี้... กลับมาบ่ายนี้ ก็ช่วยพามันไปอาบน้ำ กินข้าว พักผ่อนเถอะ อย่าสอบเลย // รู้สึกเหนื่อยล้า "พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน "เผย100.5 14.30 ไปสนามบินสุวรรณภูมิรอสอบพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เรื่องนำปืนออกจากไทย ขอคุยให้สัมภาษณ์สื่อจะดีกว่า ถ้าปล่อยตัว ก้อสามารถขึ้นเครื่องเองพร้อมคนไปรับ ใช่ไหม?? หากคุมตัวส่งขึ้นเครื่องแบบนี้ เขาเรียกว่า เนรเทศ หรือป่าวววว!!!!
ผบ.ตร.แสดงความยินดีกับ“บิ๊กแจ๊ส”หลังอัยการญี่ปุ่นสั่งไม่ฟ้อง http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=763354 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกจับกุมข้อหาพกพาอาวุธปืนที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ยังไม่มีการประสานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทราบเพียงตามข่าวลือว่าทางอัยการญี่ปุ่นน่าจะสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมองที่เจตนา ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และครอบครัว ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งและอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจ เป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศที่จะต้องดูแลและให้ความช่วยเหลือคนไทยทุกคนที่เกิดปัญหาในต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องกลับมาดำเนินคดีหรือพิจารณาบทลงโทษในเมืองไทยตามกฎหมายการบินนานาชาติที่ระบุเรื่องการห้ามนำอาวุธขึ้นเครื่องหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินโดยถูกต้องสามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในกระบวนการตามขั้นตอนหรือวิธีการที่สายการบินกำหนด ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ต้องรอดูอีกครั้งเพราะไม่ทราบระเบียบและกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น โดยเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ เขาถามไทย ตอบญี่ปุ่น แล้วน่าดีใจตรงไหน นั้นผิดระดับ Hijack เลยละนั้น ต่อไปพกปืนปากกา ก้อไม่ผิดนะ แล้วปืนแบบนั้นขอซื้อหามาทำหัวเข็มขัด ใส่ได้มั้ยยยย???
คนของบ้านเราไปทำผิดในต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีอะไรเลย แต่เจ้าหน้าที่ทางการไทยก็ต้องช่วยออกมาจนได้เนอะ อีกใจนึงก็ควรให้บทเรียนเขาบ้าง ถ้าต่างประเทศมีภัยธรรมชาติ ภัยสงคราม เหตุจราจล แล้วมีคนไทยตกอยู่ในอันตราย พอช่วยออกมาได้แล้ว อันนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่ายินดีที่รอดชีวิตกลับไทยมาได้
เสมา ขุนศึกรักสถาบัน กรณีของบิ๊กแจ๊ด จะเป็นเผือกร้อนที่โยนกลับมาหรือไม่ หลังจากที่อัยการของทางญี่ปุ่นสั่งไม่ฟ้อง และกำลังถูกส่งตัวกลับไทยถึงบ่ายๆวันนี้. สำหรับข่าวที่ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่าจะมีการเชิญตัวสอบถามข้อเท็จจริงถึงการพกพาปืนขึ้นเครื่องบิน ผมว่าจะมีปัญหานะ หากจะมีเพียงการสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เพียงเท่านั้น เพราะการถามแค่นั้น มันสามารถอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์จากการท่าได้ว่าไม่พบว่ามีการนำอาวุธออกจากไทย และเนื่องจากเครื่อง CTX ตรวจสอบได้เพียงแค่ระเบิดไม่ใช่อาวุธปืน ถ้ายกข้ออ้างอิงนี้ก็จบ แต่อย่าลืมว่า ความผิดทีี่มันสำเร็จแล้ว อยู่ที่ปืนนั้นมันเถื่อนนะครับ ถ้าบิ๊กแจ๊ดพกปืนเถื่อนไม่ผิด ประชาชนที่มีปืนเถื่อนในครอบครองก็ถือว่าไม่ผิดเช่นกัน และงานนี้ผบตร รวมไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องเจอปัญหาที่หนักพอสมควร กรณีไม่ถอดยศทักษิณนั่นก็เรื่องหนึ่ง ซึ่งมันก็แถไปถึง ผบตร คนที่จะมาใหม่ อันนั้นพอฟังได้แม้ว่าจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้่าที่มีปืนเถื่อนไว้ในครอบครองแล้วไม่ผิด ซึ่งขนาดว่าผลการตรวจสอบนั้นมาจากเจ้าหน้าที่ของทางญี่ปุ่น อันนี้ไม่สวยแน่ มันจะกลายเป็นว่า ผู้มีอำนาจเสียอย่าง อะไรที่ผิดกูก็ทำให้มันไม่ผิดก็ได้ แต่ประชาชนทำไม่ได้ สิ่งที่ประชาชนพูดกันมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าเรื่องคุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้น มันจะชัดๆหรือไม่ก็งานนี้ กฏหมายไทยจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ? ตำรวจจะใช้อำนาจในการหักดิบหรือไม่ ? จับตาประเด็นปืนเถื่อน มิใช่แค่กรณีข้อเท็จจริงถึงการพกพาปืนขึ้นเครื่องบินเท่านั้น ต่อไป พกปืนจิ้ว ไม่มีทะเบียนได้ ไม่ผิด กฏหมายไม่เอาผิด!*****/
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง โอ้ว... ! พี่แจ๊ดผู้สูงศักดิ์ ครอบครองอาวุธปืนไม่มีเลขทะเบียนพร้อมกระสุน ไม่ถือเป็นความผิด >>>> @smstv3 โฆษก ตร. คาดคำรณวิทย์ถึงไทยบ่าย 3 ยังไม่อายัดตัวเพราะไม่พบความผิดในไทย
ว่ากันแบบไทยๆ บิ๊กแจ๊ดกลับบ้านแล้วยังไงๆก็ปลอดคดีในเมืองไทย รีบไปตกเบิกย้อนหลังแม่ชีแดงให้ชุ่มฉ่ำหัวใจได้เลย ด้วยบุญกุศลแต่หนหลัง ทะเบียนปืนจิ๋วจะปรากฎขึ้นมาให้ใช้เป็นหลักฐาน และการท่าฯคงช่วยออกมารับรองว่าตอนพกปืนขึ้นเครื่องบินขาไปญี่ปุ่นมีการขออนุญาตถูกต้องแล้ว แต่การที่ประเทศถูกICAOแบนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบินถือเป็นวิบากกรรมของไทยเอง แจ๊ดและการท่าฯไม่เกี่ยว
ถ้าตำรวจไทยทำอย่างที่ท่านว่าจริงก็ต้องเปลี่ยนชื่อหน่วยงานจาก"สตช."เป็น"สธช."ครับ คือเปลี่ยนชื่อเป็น"สำนักงานศรีธนญชัยแห่งชาติ"
ลองดูชาวบ้าน(อื่นๆ) เขาวิจารณ์กันครับ http://www.japantoday.com/category/...inst-thai-ex-police-chief-over-gun-possession
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง ลงจากเครื่องถึงไทยแล้ว เมื่อเวลา 15.12 น. นวยโนคุมตัวพาไปห้องวีไอพี ตม.แระ แต่เอ๊ะ. !! จะพกปืนกลับมาด้วยมั้ยเนี่ย บิ๊กแจ๊ดพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางถึงไทยแล้ว ทักทายนักข่าว ที่สุวรรณภูมิ http://t.co/4oaZTNUED7 คาเธ่ย์ หมี แจ๊ด เดินทางถึงไทยแล้ว 15.45 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว เลี่ยงนักข่าว ยกมือไหว้ คาเธ่ย์ หมี 15.45 น. โชคดีนะ ที่ได้กลับมา
1 comment ShermanJUL. 14, 2015 - 07:11AM JST This guy must be tough. Or a confession would have been beaten out of him by now. One of the 1% who are not convicted after arrest, unless his Ambassador intervened.
โดนขังไป20วัน โดนสั่งห้ามเข้าประเทศอีกต่างหาก อย่าบอกว่าไม่มีความผิดนะ อายหมามันบ้าง เค้าไม่ขังไว้ให้รกประเทศ เชิญเมรึงไปทำตัวรกโลกที่ประเทศอื่น ศักดิ์ศรีเมรึงหมดแล้ว จะสำนึกมั๊ย
ญี่ปุ่นอัปเปหิ “คำรณวิทย์” สาหัสยิ่งกว่าติดคุก http://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9580000079326 ญี่ปุ่นอัปเปหิ “คำรณวิทย์” สาหัสยิ่งกว่าติดคุก ญี่ปุ่นอัปเปหิ “คำรณวิทย์” สาหัสยิ่งกว่าติดคุก สื่อมวลชนญี่ปุ่นเปิดเผยสาเหตุที่อัยการญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ฟ้องร้อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เนื่องจากเห็นว่าไม่มีเจตนาในการกระทำผิด ขณะที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเห็นว่าการขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศนั้น รุนแรงยิ่งกว่าโทษจำคุก สำนักข่าวเกียวโต รายงานว่า อัยการจังหวัดชิบะตัดสินใจไม่ฟ้องร้องพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีเจตนาพกปืนเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์เองก็ยอมรับผิดในทุกข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่าปืนที่ถูกตรวจพบที่สนามบินนาริตะนั้นเป็นของตนเอง ซึ่งได้รับมาจากเพื่อนชาวอเมริกัน และลืมว่าได้นำปืนใส่ไว้ในกระเป๋าพกพา หลังจากนี้ อดีตนายตำรวจใหญ่ของไทยจะถูกส่งตัวให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น และส่งตัวกลับประเทศไทย และจะถูกขึ้นบัญชีดำว่าเคยกระทำความผิดอาญาในญี่ปุ่น ห้ามเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นอย่างน้อย 1-5 ปี ทั้งนี้ถึงแม้ว่าอัยการญี่ปุ่นจะไม่ได้สั่งฟ้องพล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “เป็นผู้บริสุทธิ์” หรือ “ไม่มีความผิดตามกฎหมาย” หากแต่การไม่ฟ้องร้องนั้นเป็นเพราะอัยการเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีเจตนาทำผิดและได้รับสารภาพแล้ว จึงเห็นว่าการส่งตัวกลับประเทศจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และช่วยลดความยุ่งยากรวมทั้งภาระงานของศาลด้วย ญี่ปุ่นอัปเปหิ “คำรณวิทย์” สาหัสยิ่งกว่าติดคุก พอล แมคคาทนีย์ ถูกจับกุมที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 มกราคม ปี 1980 “ห้ามเข้าญี่ปุ่น” สาหัสยิ่งกว่าติดคุก ถึงแม้การตัดสินใจของอัยการจะไม่อาจจะก้าวล่วงได้ หากแต่เมื่อสอบถามความคิดเห็นจากชาวญี่ปุ่นที่เคยใช้ชีวิตในประเทศไทยนานหลายปี ระบุว่า การขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นโทษที่สาหัสยิ่งกว่าการจำคุก “ในสังคมญี่ปุ่นจะแบ่งคนในและคนนอกอย่างชัดเจน คนนอกที่หมายรวมถึงคนต่างชาติที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นจะมีโอกาสก้าวหน้าน้อยมากในสังคมญี่ปุ่น หากแต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่า คือ การที่ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งคนนอก ซึ่งหมายถึงว่าบุคคลนั้นไม่มีตัวตนสำหรับชาวญี่ปุ่น” ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ กรณีเซอร์พอล แมคคาทนีย์ นักดนตรีชื่อดังที่ถูกจับกุมในข้อหาพกพากัญชาเข้าประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 มกราคม ปี 1980 ซึ่งทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในคุกของญี่ปุ่นนานถึง 9 วันจึงได้รับการปล่อยตัว อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่ร้ายแรงยิ่งกว่า คือ พอล แมคคาทนีย์ ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นนานเกือบ 10 ปี ทำให้เขาสูญเสียโอกาสในการเปิดการแสดงคอนเสิร์ต ถึงแม้จะมีแฟนคลับจำนวนมากในแดนอาทิตย์อุทัยก็ตาม ตัวอย่างอีกกรณีหนึ่ง คือ นางจูลี แฮมป์ อดีตผู้บริหารของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปฯ ที่ถูกจับกุมในข้อหาต้องสงสัยว่านำเข้ายาระงับปวดต้องห้ามจากอเมริกา ซึ่งเธอได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ได้ถูกตั้งข้อหา หากแต่เธอไม่เพียงต้องสูญเสียตำแหน่งผู้บริหารของของโตโยต้า แต่เธอจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งระดับสูงของบริษัทญี่ปุ่นได้อีก เนื่องจากมีประวัติด่างพร้อย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีเจตนากระทำผิดก็ตาม ชาวญี่ปุ่นคิดว่าการลงโทษทางสังคมรุนแรงกว่าโทษทางกฎหมาย เช่น บริษัทที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้า หรือบุคคลงที่มีประวัติด่างพร้อยแทบจะไม่มีโอกาสออกหน้าออกตาในสังคมของญี่ปุ่นได้อีกเลย บริษัทที่มีปัญหาแทบจะต้องปิดกิจการ ส่วนบุคคลที่ถูกกีดกันออกจากสังคมหลายคนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย ในกรณีของพล.ต.ท.คำรณวิทย์นั้น ชาวญี่ปุ่นเห็นว่าเป็น “คนนอก” อยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงกับประเทศญี่ปุ่น การส่งตัวกลับประเทศพร้อมห้ามเข้าญี่ปุ่นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ส่วนประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไร จะให้โอกาสอดีตนายตำรวจผู้นี้อีกหรือไม่ก็คงเป็นเรื่องของคนไทยต้องตัดสินใจกันเอง.
เพราะไม่พบความผิดในไทย เพราะไม่พบความผิดใน จว. เพราะไม่พบความผิดใน รร. เพราะไม่พบความผิดในบ้าน เพราะไม่พบความผิด จึงไม่ผิด
ปืนจิ๋วไม่ใช่ของบิ๊กแจ๊ดนะคร้าบบบ....จบป่ะ 27 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (อดีต ผบช.น.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่ถูกจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธปืนที่ประเทศญี่ปุ่น นานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ได้เดินมาส่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ขึ้นรถเดินทางกลับไปทันที โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ด้าน พล.ต.ท.อำนวยเปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เข้าให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดทั้งหมด ถือว่าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ทั้งนี้เบื้องต้นจากการสอบปากคำ พบว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์มีอาวุธปืนในการครอบครองทั้งหมด 3 กระบอก แต่กระบอกที่ถูกจับกุมที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นพบว่าไม่ได้เป็นของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่ปืนกระบอกดังกล่าวจะมีทะเบียนถูกต้องหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามจะมีการนัดพล.ต.ท.ตำรณวิทย์เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมแน่นอน แต่ยังไม่ได้ระบุวันและเวลาเนื่องจากต้องรอข้อมูลจากประเทศญี่ปุ่นเสียก่อน ทั้งนี้ได้เรียกสอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 17 ปาก แนวหน้า อยากมี ปถ. ที่ไม่ใช่ของตัวเองซักกระบอกไหมครับ...
ลิงยังรู้จักยอมรับผิดเลย Democrat in ASEAN แม้แต่ลิงอุรังอุตังยังสำนึกผิด ณ ประเทศอินโดนีเซีย มนุษย์ที่ไม่สำนึกผิด ไม่ชอบเป็นคนดี ควรดูเป็นเยี่ยงอย่าง .........................................................................................................
เป็นไปได้นะครับที่ ปืนที่ว่าอาจไม่ใช่ของ แจ๊สซี่ ลองอ่านนี่ดูครับ เห็นว่า ข่าวจากวงใน ชาติชาย ผาสุข .......แจ้ส....... ร้านเซ็กส์ช็อป ย่านชินจูกุ โตเกียว "แจ้ส"อดีตบิ๊กกากีของไทยทำสีหน้าปั้นยากขณะส่งภาษาอังกฤษกับพนักงานขายเพื่อบอกวัตถุประสงค์ของเขา อย่างอายๆ เขาพยายามบำรุงรักษาร่างกายมานานแล้วกับทุกสรรพยา ทุกสรรพวิธี ไม่ว่าอากร้าของฝรั่ง หรือถั่งเช่าของจีน กายภาพบำบัด หรือแม้แต่การฝังเข็มที่เขาถนัด เขาแปลกใจที่ทำไมกับคนอื่น ยาและวิธีการรักษาเหล่านั้นได้ผล ดูอย่างพี่แม้ว ฝังเข็มแค่ครั้งสองครั้งกับถั่งเช่าชุดสองชุด ก้อกลับมาอยู่ในสภาพใช้ได้มั่งไม่ได้มั่งอย่างน่าพอใจ แต่กับเขาซึ่งเป็นหมอเองแท้ๆกลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง "ลินลี่"คู่ขาของเขาเริ่มแสดงอาการเบื่อหน่ายในตัวเขาชัดเจนขึ้นทุกวัน เธอเคยร้องขอหา"ตัวช่วย"จากเขา ซึ่งรับปากเธออย่างจำนน เขา จะออกปากใช้ลูกน้องหรือใครๆก้อไม่ได้ หมอฝังเข็มผู้โด่งดัง รักษาหายมาแล้วพันๆราย แต่รักษาตัวเองไม่หายอย่างนั้นหรือ ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงที่สั่งสมมาแล้วหลายสิบปี ต้องพังยับลงแน่นอน เขาตัดสินใจจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และจะจัดหามาด้วยตัวเอง เขาศึกษาจนรู้แจ้ง แล้วตัดสินใจไปญี่ปุ่น.... Could you give me something special? แจ้สบอกพนักงานขาย "สมศรี" พนักงานขายคนไทยที่ทำงานอยู่ร้านนี้ เห็นหน้า"แจ้ส" ก้อจำได้ในทันใด ใบหน้านี้แหละที่ให้ลูกน้องยิงระเบิดควันจนสามีเธอต้องตาบอดจนหมดทางรักษา (เมื่อครั้งที่เธอกับสามีเข้าร่วมชุมนุมกับกปปส.เมื่อหลายปีก่อน) จนทำให้เธอต้องระหกระเหินทิ้งครอบครัวมาหาเงินถึงต่างแดน ใบหน้าที่เธอจะไม่มีวันลืมชั่วชีวิต Give me specification you desire sir! เธอถามเขาแล้วโค้งคำนับในสไตล์คนญี่ปุ่น I don't know but my couple must scream when I use it. เพราะความอาย เขาตอบไปโดยลืมที่อุตส่าห์ศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี "สมศรี"จึงหยิบอุปกรณ์ต่างๆมาให้เลือก เขาหลับหูหลับตาชี้ไปสี่ห้าชิ้น การซื้อขายจึงเสร็จสิ้น เขาร้องขอให้ทำการห่อหุ้มให้แน่นหนาเพราะต้องเอาขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย สมศรีจึงขอนำ"ตัวช่วย"เหล่านั้นไปห่อหุ้มในห้องข้างหลังร้าน ด้วยความแค้นฝังอก สมศรีจึงแอบเอาปืนพกสั้นที่ยากุซ่าทำหล่นไว้ในตรอกหลังร้านที่เธอพบเมื่อหลายวันก่อนใส่ไปแทน เพราะเชื่อว่า"มัน"จะต้องถูกจับ และแน่นอนมันคงไม่แกะดูก่อนเดินทางหรอก และเครดิตระดับมัน คงไม่ซัดทอดมายังเธอเป็นแน่ เธอฮัมเพลง"พี่มีแต่ให้"ของเอกชัย ศรีวิชัย ขณะทำการห่อหุ้มพัสดุ สมองครุ่นคิด "มัน"จะทำหน้าและให้การอย่างไรตอนถูกจับ เธอกล่าว"ฮาริกะโตะ" พร้อมยิ้มหวานที่สุดในชีวิต เมื่อส่งของชิ้นนั้นให้"แจ้ส" แล้วโค้งคำนับอย่างสวยงาม ......ไฮ่........ .................................................................................................. มันเป็นนิยายนะครับ